Call us The L.o.u.d.

9.8

เขียนโดย พาวจาพัจส์

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.44 น.

  14 chapter 0
  5 วิจารณ์
  16.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 22.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) 'scrisoare'

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            ตึกอาคารสูงตั้งตระหงานด้านหน้านั้นที่เป็นประตูหลักเพื่อเข้าไปในอาคารเรียนเรา

เรียกอาคารนี้ว่า  'อีเกิล' หรือ  'อาคาร 1' ด้านหลังของอาคาร 1 เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ที่มีเสา

แท่นศิลาสูงตระหงานกลางลานกว้าง  ถัดไปด้านตะวันออกของแท่นศิลาคือศูนย์อาหารขนาดใหญ่

เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย  ไม่ว่าจะเป็นร้านอาคาร  ร้านขายของชำ  ในบรรดาร้านเหล่านั้น  ได้มี

ป้ายโฆษณาที่วางอยู่ตรงหน้าร้านโดยปกติแล้ว  มันไม่ค่อยสดุดสายตาของใครนัก  จนกระทั่งมี

เด็กหนุ่มคนหนึ่งมานั่งหลบอยู่เป็นชั่วโมงๆจนเจ้าของร้านต้องออกมาบอกเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าร้าน

ว่ามานั่งทำอะไรตรงนี้ตั้ง  2 ชั่วโมง  จนคนอื่นในร้านอาหารต่างก็กังวล  เด็กหนุ่มหลังถูกไล่ไป

แต่เขาบอกเดี๋ยวเขาก็ไปพร้อมขอโทษแต่เขาก็ไม่ยอมไป  เจ้าของร้านก็ปล่อยเขาไปแล้วบอก

ว่าหากอีก 1 ชั่วโมง  ยังอยู่อีกเดี๋ยวจะเรียกประธานของเหล่าปีศาจมาจัดการกับเด็กหนุ่ม  แต่

เด็กบอกว่าเขาจะอยู่ไม่นาน ท่าทางของเขาเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่เด็กหนุ่มหยิบอะไร

บางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตน

 

                    "ตอนนี้กี่โมงแล้วนะ" เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลาแล้วทำท่าลุกลี้ลุกลนแล้ว

ยืนขึ้นมาหลบหลังป้ายพร้อมสอดส่องสายตาไปรอบๆ เขามองมายังถนน  ในช่วงเวลานั้นเหล่า

นักเรียนต่างเดินออกมาจากหัวมุมของถนนต่างเดินมาในทางเดียวกันพวกเขาทุกคนสวมผ้าคลุม

หรูหราต่างจจากเด็กหนุ่มที่มีเพียงชุดเครื่องแบบปกติที่ไม่มีผ้าคลุม  เด็กหนุ่มรีบสอดส่ายสายตา

เหมือนกำลังมองหาใครบ้างคนในกลุ่มนักเรียนเหล่านั้นทันใดนั้นเองหมู่นักเรียนเหล่านั้นได้มี

นักเรียนคนหนึ่งที่สะดุดตาเขาเป็นพิเศษ  หญิงสาวรุ่นราวตราวเดียวกับเด็กหนุ่ม หญิงสาวคนนั้น

เป็นมนุษย์เธอมีชื่อว่า  ทาโกะ อาเรเชีย เธอมักจะสวมหมวกปลาหมึกเล็กๆน่ารักอยู่บนหัวเสมอๆ

                     

                       "นายนั้นอีกแล้วเหรอ"  เธอเป็นคนสุภาพและน่ารักจึงเป็นที่หมายปองของ

ปีศาจและมนุษย์ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่เป็นที่หมายปองของหลายๆคนทั่งดีและร้าย  คงไม่แปลก

หากจะมีคนคอยอารักษ์ขาเธอให้ปลอดภัย ทั้งพวกแฟนคลับและภัยอันตรายทั้งปวง เด็กหนุ่มที่

เห็นอารักษ์ขาก็ได้แต่ทำหน้าเซ็ง แล้วกัดฟันของตัวเอง เด็กหนุ่มถอนหายใจหนักก่อนที่จะกลับมา

มองหน้าของ  ทาโกะ เหมือนเดิม

                       

                        "ฉันต้องหาวิธีเข้าหาเธอให้ได้โดยที่นายนั้นไม่อยู่" เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋ากาง

เกงของตนกำลังหยิบบางอย่างออกมา

                        "มันจะเป็นวันนี้ มันจะเป็นวันนี้" เด็กหนุ่มหลับตาแล้วพูดพึมพำ

                        "ไม่...มันจะไม่เป็นวันนี้"

                        "หา?" เสียงที่ไม่คุ้นเคยมาจากด้านหลัง

                        "ทาโกะ จัง! มีโรคจิตแอบมองเธออยู่ตรงนี้" 

                        "เฮ้ย! แก!! มันคือ... ไม่ใช่! ฉันแค่...ยืนชมวิวเฉยๆ" เด็กหนุ่มตกใจมาก

และตอบอย่างตะกุตะกะ ตอนนี้เขาร้อนลนมากเด็กหนุ่มหันไปมองที่  ทาโกะ เขาพยายามจะพูด

                        "รีบไปกันเถอะครับท่าน ทาโกะ" อารักษ์ขาที่อยู่ข้างๆบอกเธอ

                        "อืม" อารักษ์ขาของเธอคำนับให้ทีหนึ่งแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปจากศูนย์อาหาร

                         "ไม่! เดี๋ยวสิ ฉันไม่ได้... ฉันก็แค่... " เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือก

                         "มิน่าล่ะที่มานั่งอยู่ตั้งนานก็มาแอบมองท่าน ทาโกะนี่เอง" พวกนักเรียน

พูดซุบซิบกันที่รอบๆตัวเขา เด็กหนุ่มไม่รู้จะแก้สถานการณ์ได้อย่างไรเขาไม่รรู้ว่าควรจะเดินหนีไป

ไหมหรือจะพูดดีไหมเพราะผู้คนแถวนั้นก็มองเขาเป็นพวกโรคจิตไปสะแล้ว

 

                         "งั้นก่อนที่แกจะหนีไปไหนฉันจะต้องสั่งสอนคนโรคจิตอย่างแกก่อน" พ่อ

หนุ่มที่พูดอยู่นั้นไม่ใช่นักเรียนธรรมดาเพราะเขาใส่ผ้าคลุมพร้อมติดเข็มกลัดตรงปกคอเสื้อ แล้วกำ

หมัดและหักนิ้วดังเป็นเสียงกรุบกรับพร้อมจะใช้กำลัง  เด็กหนุ่มกำมือแน่นมือไม้สั่นหน้าของเขา

เต็มไปด้วยความโกรธตรงปากของเขาจากที่ฟันธรรมดาไร้ผิดสงค์ เริ่มเผยเขี้ยวอันแหลมคมจาก

ฟันของเขา  ตาของเขาแดงก้ำหมานตาขนาดเล็กลงแล้วเริ่มเปลื่ยนเป็นสายตาของสัตว์ป่า

 

                          "ฉันไม่ใช่พวกโรคจิตนะ!!"

                          "ใช่แกเป็นไอ้โรคจิต"  เขาหันไปมองผู้คนรอบๆ "ทุกคนก็คิดแบบนั้น

ใช่ไหมทุกคน"  พวกนักเรียนรที่ยืนดูอยู่รอบๆ ต่างพูดเอ่อเอ้อตามเขา

                           "หือ"  เด็กหนุ่มทำสีหน้าตกใจทันที

                           "นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายมาแอบมองคุณ ทาโกะ ฉันสังเกตแกมานานแล้ว

และแกกล้าปฏิเสธไหม! ไอ้ปีศาจโรคจิต" นักเรียนรอบๆ เริ่มซุบซิบ

                           "ใช่จริงๆเหรอหมอนั้นโรคจิตจริงดิ" 

                           "ใช่โรคจิตจริงด้วย"  เด็กหนุ่มพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ในหัวเขาคิดแต่

เรื่องที่อธิบายให้เข้าใจแต่  ปากของเขาสั่นแล้วกลับมาพูดตะกุตะกะอีกครั้ง

                            "ไม่... ฉันก็แค่"  น้ำตาของเขาซึมออกมาจากตา

                            "หึ! แค่มองผู้หญิงที่ตัวเองชอบ มันผิดถึงกับต้องถูกกล่าวหาประจานว่า

เป็น โรคจิตไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งนั้นแหละ"  พ่อหนุ่มผ้าคลุมหันไปมองต้นเสียงพูดออกมา

                            "แกเป็นใคร โรคจิตอีกคนรึไง..."  เขาเงียบไป เตะ  เตะ

                            "ที่เจ้าบอกว่า 'ฉันสังแกเกตมานานแล้ว' นั้นก็แปลว่าเจ้าเป็นโรคจิต

วิปลาสที่หนักสะยิ่งกว่าเด็กหนุ่มนั้นสะอีก แบบที่ชอบมนุษย์เพศเดียวกับตน ข้าคิดแล้วข้าขนลุกไป

หมดแล้ว"  ถึงแม้ตอนนี้จะมีแค่เส้นผม ประโยคถ้ายเปรยออกมาเบาๆ

                              "ไอ้นั้นมันตัวอะไร"  สิ่งมีชีวิตที่น่าสะอิดสะเอียนโผ่ลเข้ามาอยู่ตรงกลาง

เหล่านักเรียน พร้อมส่งเสียงหัวเราะที่น่าขนลุก

                              "แกช่างเป็นปีศาจที่น่ารังเกียจน่ากลัวจริงๆ" พ่อหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะไม่

ค่อยกลัว  สิ่งมีชีวิตตนนั้นเท่าไรนัก

                              "ฉันจะสั่งสอนแกด้วยล่ะกัน ในนามของสภานักเรียนที่แกบังอาจ ทำผิด

กฎระเบียบไม่สวมเครื่องแบบโรงเรียน!"  เขาทำท่าทางวางก้างแล้วพูดเสียงดังกระหึม

                               "ก็พวกเขาไม่แจกให้ง่ะ (เครื่องแบบ)"  ทั้งสองเริ่มโต้เถียงกัน

                               "พูดจาดูถูกของสภานักเรียน ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง"

                               "ระวังคำนั้นกลับเข้าหาตัวนะ"

                               "กล่าวหาว่าฉันเป็นโรคจิตวิปลาส"

                               "มันเป็นเรื่องจริงนะ ปกติแล้วก็จะมีแต่ ผู้ชายที่แอบมองผู้หญิง

เหมือนในการตูน มังงะ  แต่ผู้ชายแอบมองผู้ชายนี่มันทำให้ข้านึกถึงยุคเก่าแก่ของอาเล็-" มันยัง

ไม่ทันพูดจบ พ่อหนุ่มที่เป็นคนของสภานักเรียนยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาแล้วแบมืออกก่อนที่เขาจะ

กำหมัดแน่นแล้วเปล่งเสียงดัง

                               

                               "กาเชีย" เด็กหนุ่ที่ฟังบทสนทนาของทั้งสองก็ทรุดลงไปที่พื้นในท่า

คุกเข่าอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มใช้้แขนทั้งสองข้างยันพื้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเขาทรุดลงไปนอนราบ

กับพื้น

                               "แรงโน้มถ่วง?" เด็กหนุ่มรู้จักเวทมนต์นี้ดีแต่เขาไม่สามารถ

ต้านทานได้หรือแม้เพียงจะพยายามขยับตัวหนีก็ตาม

                              "ฉันจะให้พวกแกนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นสัก 10 นาที แต่มันคงเป็น

10 นาที ที่ทรมานสำหรับพวกแกหลังจากนั้นก็จะกลับมาเป็นปกติ แล้วจำบทลงโทษนี้ด้วยล่ะว่า

มันเป็นแค่สถานเบา"

                                 "นี่ข้า คุยดีๆด้วยแล้วเจ้าดันใช้กำลังคงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น

กับผู้กระทำต่อผู้ถูกกระทำ" เจ้าสิ่งมีชีวิตนั้้นยืนขึ้นพูดจาเยาะเยยอย่างสบายๆ ไร้ความทรมาน

เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าสิ่งมีชีวิตยกแขนขึ้นมาชี้หน้าพ่อหนุ่มผ้าคลุม

                                    "นี่แกเป็น-" เขาไม่ทันพพูดจบตัวเขาก็ล่มขมำนาบไปกลับพื้น

อย่างรวดเร็วและรุนแรง  นักเรียนต่างตกใจและประหลาดใจที่มีปีศาจสามารถ ล่มคนของสภานัก

เรียน

                                    "นี่สิแรงโน้มถ่วงของจริง" คนของสภานักเรียนนอนแน่นิ่งไป

                                    "ไม่เป็นไรนะเจ้าหนู" เด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

ได้แต่อุทานในใจว่า 'สุดยอด' เจ้าสิ่งมีชีวิตยืนมีมาให้เด็กหนุ่ม สีหน้าของเจ้าสิ่งมีชีวิตเคร่งครึมขึ้น

ทันที

                                    "ขอไม่จับได้ไหมครับ?"  เพราะในมือของสิ่งมีชีวิตที่ยื่นมานั้นมี

แต่กล้ามเนื้อและกรดูกแล้วมีน้ำหนองในมือย้อยลงมา

                                    "ข้าเข้าใจ"

                                    "ขอบคุณครับที่ช่วย"  ระหว่างนั้นมีเสียงตะโกนแทรรกของเหล่า

นักเรียน

                                     "ไอ้พวกปีศาจ พวกแกกล้าทำร้ายมนุษย์เรอะ!"  แล้วพวก

นักเรียนซึ่งมีแต่มนุษย์ต่างร้องตะโกนเสียงด่าว่าร้ายทั้งสองไม่หยุดหย่อน

                                     "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ที่เจ้าไม่บาดเจ็บ" เจ้าสิ่งมีชีวิตไม่สนสิ่งรอบ

ข้างเด็กหนุ่มยืนขึ้นแต่เสียงของเหล่านักเรียนไม่หยุดหย่อน

                                     "งั้นข้าว่าพวกเราเดินออกมาจากที่นี่ดีกว่า" ทั้งสองเดินออกไป

จากเหล่านักเรียนที่ยืนหลุมประจารอยู่ หากมองจากมุมที่ห่างออกไปมีเงาของคนที่แอบอยู่หลังตึก

กำลังจ้องมองทั้งสองอยู่ห่างๆใต้เงามืดของตึก  เด็กหนุ่มหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง

มันคือจดหมาย

 

บทส่งท้าย

         

                   เด็กหนุ่มหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงมันคือ  'จดหมาย'

                              "คราวหน้าต้องทำให้ได้...ถึงจะไม่ใช่วันี้ก็ถาม"

                              "หือ? .....หึๆ" เจ้าสิ่งมีชีวิตยิ้มให้ มันทำให้เด็กรู้ขนลุกอย่าง

บอกไม่ถูกเลยก่อนที่เขาจะเก็บ 'จดหมาย' เข้ากระเป๋ากางเกงดังเดิม

 

 

 

 

 

 

 

                              

 

 

 

                              

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา