สุภาพบุรุษหน้าหนวด
เขียนโดย ลูกหมูจ๋า
วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.43 น.
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2560 17.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ด้วยความว่า หมาไม่สบาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
แล้ววันหยุดพักผ่อน 1 วัน ก็มาถึงแล้วแต่รอบนี้ก็ถือว่าได้กำไรเพราะยังมีวันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก1วัน ถึงวันนี้นายไทจะได้หยุดงานจากบริษัทแต่นายไทก็พร้อมที่จะรับใช้งานในวัดอยู่เสมอ วันนี้เป็นวันที่จะมีการทำความสะอาดโบสถ์ทั้งภายในและบริเวณพื้นที่ภายนอกก็เริ่มช่วยกันทำทั้ง พระ+เณร+เด็กวัด ในยามเช้าเพราะพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่จะต้องตักบาตรทำบุญภายในวัด ฟังเทศน์ธรรมมะ และเวียนเทียนบริเวณรอบอุโบสถในยามเย็น-ค่ำ
จนเสร็จภายในครึ่งวันเช้าจนพระเณรต่างก็ไปฉันท์เพล และพักเหนื่อยพักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนนายไทก็กำลังเดินจะไปนอนพักที่กุฎิแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่าจะเดินไปดูเจ้ากล้ามปูหมาน้อยที่หลังเมรุซะหน่อย แต่เมื่อเดินไปถึงก็ต้องตกใจเมื่อในกรงไม่มีเจ้ากล้ามปูแล้วนายไทจึงรีบออกเรียกเดินหาไปทั่วๆ บริเวณ
"กล้ามปู....กล้ามปู.....กล้ามปู" นายไทร้องเรียกจนเดินไปถึงบริเวณห้องน้ำสำหรับชาวบ้านญาติโยมที่มาวัด
"โยมพี่ไทๆ" น้องเณรชัยได้ยินเสียงนายไท ก็รีบออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่งมาเรียกนายไท
"อ้าว ทำอะไรอยู่น่ะน้องเณร" นายไทกล่าวพร้อมเดินเข้าไปหาแล้วชะโงกมองดูในห้องน้ำ จึงได้เจอตัวเจ้ากล้ามปูนั่งอิงแนบข้างอ่างน้ำที่สำหรับไว้ชำระกิจในห้องน้ำ
"โยมพี่ เณรเปิดกรงเอาเจ้ากล้ามปูออกมาเดินเล่นแต่มันมีน้ำมูกไหลเหมือนคนเลยแล้วมันก็รีบวิ่งหนีเข้ามาอยู่ตรงนี้แหละครับมันไม่ยอมออกมามันคงร้อนเลยไปหาที่เย็นๆ ล่ะมั๊งโยมพี่" น้องเณรชัยน่าเศร้า นายไทเลยเข้าไปดูอาการและอุ้มเจ้ากล้ามปูไปที่กุฏิหลวงตา
"หลวงตาครับเจ้ากล้ามปูมันเป็นอะไรไม่รู้ ดูเหมือนมันซึมๆ หืดหอบเหมือนหายใจไม่ออก มีน้ำมูกซะด้วย แต่แปลกตรงที่มันวิ่งเข้าไปอยู่ในห้องน้ำนั่งอยู่ข้างอ่างน้ำอยู่แบบนั้น" นายไทพูดพลางลูบหัวเจ้ากล้ามปูเบาๆ
"มันอ้วกด้วยครับหลวงตา ที่เป็นกองที่กรงมันแหละครับ" น้องเณรชัยกล่าวสมทบ สีหน้าหลวงตาจั่นก็ครุ่นคิดอยู่เหมือนกันหลวงตาเอื้อมหยิบขนมปังกรอบลองยื่นให้เจ้ากล้ามปูกินแต่มันก็ไม่กินเอาแต่ซึมน้ำมูกไหลหายใจฟืดฟาด ๆ
"หลวงตาว่าอาการเจ้ากล้ามปูไม่ค่อยดีแล้วล่ะเจ้าไทเหมือนดอกไม้ที่จะค่อยๆเฉาลง......."
"มันจะตายหรอครับหลวงตา ฮือ" น้องเณรชัยรีบโพล่งขึ้น หลวงตาก็ได้แต่หลับตาลง
"เอางี้เดี๋ยวผมจะลองพามันไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดแถวนี้แล้วกันนะครับหลวงตา" นายไทเอ่ยขึ้น
"ไปโรงพยาบาลสัตว์รักษาหมาราคามันคงแพงอยู่นะเจ้าไท... เดี๋ยวหลวงตาไปดูปัจจัยก่อนนะคงพอมีบ้างหลวงตาจะหยิบมาให้"
"ของเณรก็มี " น้องเณรชัยรีบพูดด้วยความเป็นห่วงอยากช่วยเจ้ากล้ามปูพร้อมหยิบแบ้งค์20ให้นายไท 2 ใบ
"ไม่ต้องหรอกครับหลวงตา มันคงไม่แพงมากขนาดที่ผมไม่มีพอจ่ายหรอกครับเดี๋ยวผมจัดการเอง เก็บปัจจัยไว้เถอะน้องเณร" พูดจบ นายไทก็รีบไปแต่งตัวแล้วพาเจ้ากล้ามปูไป ร.พ สัตว์ที่ใกล้ที่สุดในย่านนี้
ณ. Animal Hospital
"น้องหมาเป็นอะไรมาคะ" เจ้าหน้ารีบเข้ารับน้องหมาทันทีที่นายไทก้าวเข้าไป
"อาการเขาคล้ายๆ หวัดน่ะครับ ซึม ไม่กินข้าว มีน้ำมูก อาเจียน หายใจฟืดฟาดๆ แต่ชอบไปนั่งพิงอ่างน้ำในห้องน้ำไม่ยอมออกเลยผมเลยไม่แน่ใจเขาเป็นหวัดหรืออะไรครับ ช่วยทีนะครับ
"เดี๋ยวคุณนั่งรอตรงนี้สักครู่นะคะ จะพาน้องเข้าไปตรวจด้านในก่อนเรียบร้อยแล้วจะมาเรียกเชิญด้านในนะคะ" ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้พาเจ้ากล้ามปูเข้าไปตรวจนายไทก็นั่งรอคอยชะเง้อมองอยู่อย่างนั้น แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"พี่ไทคะ" เสียงเรียกจากเกว นายไทรีบหันมองตามเสียงเรียก
"สวัสดีค่ะพี่ไท............ พี่ไทเลี้ยงสัตว์ด้วยหรอคะ" เกวเอ่ยถาม
"อ๋อ.......อืม เจ้าลูกหมาที่วัดน่ะ ของน้องเณรมันไม่สบายเหมือนจะหนักอยู่" ไทตอบ
"อื้อ.... เจ้าลูกหมาที่เข้าไปตรวจเมื่อกี๊น่ะหรอคะ แล้วพี่ไทไปวัดมาหรอคะวันนี้" เกวถาม
"ใช่ตัวเมื่อกี๊แหละ วันนี้พี่ไม่ได้ไปวัดหรอกแต่วัดน่ะเป็นบ้านพี่หลับนอนที่วัดกับหลวงตา จะเรียกว่าพี่เป็นเด็กวัดก็ได้นะ" นายตอบ
"ไม่หรอกค่ะ...." เกวกล่าวพลางยิ้มเบาๆ กับสิ่งที่เธอไม่เคยรู้และไม่คาดคิดว่านายไทจะเป็นเด็กวัด
"แล้วเกวล่ะพาตัวอะไรมาหาหมอล่ะ" นายไทถามกลับ
"เปล่าหรอกค่ะ วัดเป็นบ้านของพี่ฉะนั้น คลินิกรักษาสัตว์ที่นี่ก็เป็นบ้านของเกวเหมือนกันค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่เป็นหมอรักษาสัตว์เจ้าของคลินิกนี้ล่ะค่ะ" เกวตอบพร้อมแนะนำเจ้าของคลินิก ส่วนนายไทได้ฟังก็ยิ้มพยักหน้ารับเบาๆ
ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ก็ออกมาเรียกนายไทเข้าห้องหมอพร้อมยื่นคืนเจ้ากล้ามปูให้
"เชิญนั่งค่ะ" เจ้าหน้าที่เชิญนั่งพร้อมเลื่อนเก้าอี้ให้
"ผมสรุปนะ คือตอนนี้เจ้าน้องตัวนี้มันเป็นปอดบวมเพราะตอนนี้ไข้สูงมากแต่หมอก็ฉีดยาลดไข้ให้และให้ออกซิเจนเพื่อเพิ่มระดับของออกซิเจนในเลือดแล้ว สาเหตุมาจากพวก เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย พยาธิ ตอนนี้หมอก็จะให้ยาปฏิชีวนะไปให้เจ้าน้องตัวนี้กินนะแล้วหมอจะนัดตรวจอีกครั้ง แล้วกลับไปก็รักษาความสะอาดที่นอนของมัน ให้ความอบอุ่น เฉพาะที่คอ หน้าอก และหลัง ปูรองพื้นที่นอนด้วยผ้า อย่าให้นอนในที่เย็นหรืออับชื้นหรือโดนฝนสาดนะ อืม ..เรียบร้อยครับ" หมอผู้เป็นพ่อของเกวชี้แจงอาการและการรักษาของเจ้ากล้ามปู
"เดี๋ยวเชิญรับยา ชำระเงินด้านหน้าได้เลยนะคะ" เจ้าหน้าที่กล่าว นายไทได้ยินคำชี้แจงกับหมอรักษาสัตว์แบบนั้นก็ใจสบายขึ้นมาทันทีให้พอมีรอยยิ้มเกิดขึ้นบ้าง นายไทพูดกับเจ้ากล้ามปูพลางรูปหัวมันเบา ๆ
"ปลอดภัยไม่เป็นอะไรแล้วนะ เจ้ากล้ามปู"
ขณะนั้นที่เจ้าหน้าที่กำลังคิดเงิน จัดยา เกวผู้เป็นลูกสาวเจ้าของ Animal Hospital ก็แอบไปกระซิบเบาๆ ข้างหูเจ้าหน้าที่ ว่าให้ส่วนลดในฐานะสมาชิกคลินิกด้วยพร้อมแนะนำว่านายไทคือเพื่อนสนิทที่บริษัท หลังจากชำระเงินรับยาเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนกลับออกไป นายไทก็หันมากล่าวบอกลาเกว
"พี่ไปก่อนนะเกว ไว้เจอกันวันอังคารที่บริษัทนะ"
"แล้วเจอกันค่ะพี่ไท" เกวบอกลากลับเช่นกัน
ณ. วัด หลวงตาจั่นกับน้องเณรชัยกำลังนั่งรอเจ้ากล้ามปูกลับวัด หลวงตานั่งรอพลางก็อ่านหนังสือศึกษาธรรมะ มีก็แต่น้องเณรที่ผุดลุกผุดนั่งชะเง้อมองตามประสาเด็ก เอี๋ยด!...... เสียงมอเอร์ไซนายไทจอดแล้ว
"โยมพี่ไทมาแล้ว กล้ามปูๆ" น้องเณรรีบวิ่งเข้าหาโยมพี่ไทแล้วคว้าอุ้มเจ้ากล้ามปูเข้าอ้อมกอดทันที
"เป็นไงบ้างล่ะเจ้าไท ตกลงมันเป็นอะไร ค่ารักษาค่ายาแพงมั๊ย"
"เป็นปอดบวมครับหลวงตา ค่ารักษาค่ายาก็ไม่ได้แพงมากหรอกครับหลวงตาเจอเพื่อนเป็นลูกเจ้าของคลินิกเลยได้ส่วนลดมาเขาถือว่าช่วยเจ้ากล้ามปูด้วยแหละครับ" นายไทตอบพลางยิ้มพร้อมสายตาที่มองไปที่เจ้ากล้ามปูด้วยความอาทร
น้องเณรชัยพอได้อุ้มเจ้ากล้ามปูก็ดีใจสุดขีดกำลังจะวิ่งพาเจ้ากล้ามปูไปที่กรงหลังเมรุ แต่นายไทก็รีบกล่างทักท้วง
"น้องเณรไม่ต้องพากล้ามปูไปที่นั่นไม่อย่างนั้นมันก็ไม่หายเผลอ ๆ จะเป็นซ้ำอีก วันนี้หมอบอกว่า ให้รักษาความสะอาดที่นอนของมัน ให้ความอบอุ่น คอ หน้าอก และหลัง ปูรองพื้นที่นอนด้วยผ้า แล้วอย่าให้มันไปนอนในที่เย็นอีกหรือจะโดนฝนสาดก็ไม่ได้นะช่วงนี้ เดี๋ยวพี่จะไปเอากรงมันย้ายมาอยู่ที่หลังกุฏิก่อนเพราะก็ร่มมีหลังคากันฝนสาดได้อยู่แล้วจะมาจัดทำเปลี่ยนผ้าปูที่นอนในกรงซะใหม่ให้สะอาดไว้ก่อน" นายไทหล่าวบอกน้องเณร น้องเณรพยักหน้ารับ
นายไทได้ไปย้ายกรงของเจ้ากล้ามปูมาไว้ที่หลังกุฏิพร้อมจัดที่นอนให้ใหม่ ให้อาหารให้ยา สักพักน้องเณรกับนายไทก็ย่องมาดูในยามค่ำว่ามันจะหลับรึยัง พอได้เห็นว่ามันหลับแล้วน้องเณรชัยก็รีบเปิดกรงหยิบผ้าห่ม ห่มให้มันทันทีพลางก็ยิ้ม นายไทก็มองน้องเณรและเจ้ากล้ามปูอย่างสุขใจ แว๊บหนึ่งก็ต้องขอบคุณเกวด้วยถ้าไม่มีส่วนลดให้ คงจ่ายแพงพอตัวเลยทีเดียว.........................................................
ตกลงว่าเกวก็ได้สนิทขึ้นกับนายไทด้วยความสัมพันธ์เพื่อน ด้วยน้ำใจ แล้วสิ่นะ
*****โปรดติดตามต่อไป นักเขียนมือใหม่ ขอบคุณมากค่ะ*****
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ