I'm Freak__ผมเหรอ...ตัวประหลาด!! (Yaoi)

7.3

เขียนโดย pimmizzii

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.29 น.

  10 chapter
  1 วิจารณ์
  11.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) เสียงของใคร !!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เข้าค่าย!!!!”

 

เสียงพวกผมตะโกนกันออกมาอย่างพร้อมเพียง

 

“โอ๊ยย นี่กูคิดถูกหรือผิดว้ะเนี่ย ที่ลงเรียนเซคชั่นเดียวกับพวกมึงเนี่ย”

 

ไอ้หวานโวยวายอยู่ข้างๆผมครับ

 

“นั่นดิ เข้าค่ายเซคนี้จนเกียรติบัตรเต็มฝาบ้านกูแล้วเนี่ย”

 

ไอ้แป้งพูดพลางกุมขมับ

 

เข้าค่ายน่ะไม่เครียดหรอกครับ แต่ตั้งแต่เรียนวิชานี่มาอ่ะ พวกผมเข้าค่ายจนไม่มีที่เก็บเกียรติบัตรแล้วครับ

 

“รอบนี้แค่ 2 วัน คราวที่แล้ว 5 คราวนู้นอีก 3 ตั้งแต่เรียนวิชานี้ แม่เจ้า!!”

 

ไอ้หวานนั่งนับนิ้วค่ายทั้งหมดที่เราเคยเข้ามา

 

“แล้วครั้งนี้ไม่ได้ไปแค่คณะเรานะ ไปรวมกัน 3 คณะ”

 

ไอ้น้ำแข็งหันมาบอกพวกผม

 

“รวมทั้งปี1 และ ปี2 เลย”

 

ผมพูดขึ้นบ้าง ไอ้พวกนั้นถอนหายใจยาวเลยครับ

 

“เห็นเขาว่าจะให้ปี 2ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กปี 1”

 

ไอ้น้ำแข็งพูดพร้อมส่งสมุดเลคเชอร์มาให้พวกผมลอก

 

“รอบนี้ไปจิตอาสาที่ต่างจังหวัดด้วย”

 

หลังจากฟังไอ้หวานกับไอ้แป้งบ่นเสร็จ พวกผมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พวกผมเข้าค่ายวันพฤหัส – ศุกร์ ครับ

 

“พี่เบียร์ วันพฤหัส – ศุกร์ โซไปเข้าค่ายนะ”

 

ผมหันไปบอกพี่เบียร์ที่นั่งทำงานอยู่หน้าโต๊ะคอม

 

“ไปที่ไหน กี่โมง ไปยังไง”

 

มาเป็นชุดเลย

 

“ไปต่างจังหวัด รถออกตี 5 ไปกับรถคณะ”

 

ผมไล่ตอบทีละคำถาม พี่เบียร์พยักหน้ารับ

 

“เดี๋ยวกูไปส่ง มาปลุกกูด้วย เตรียมของไปให้ครบ”

 

พี่เบียร์ร่ายยาวก่อนจะนั่งทำงานต่อ

 

.

 

.

 

.

 

เวลาผ่านไปไว้เหมือนสามบรรทัด วันนี้เป็นวันไปค่ายครับ ผมตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อมาโทรปลุกพวกเพื่อนๆผม เพราะไอ้พวกนี้มันไม่ตื่นกันง่ายๆ ผมลากกระเป๋าลงมาชั้นล่างแล้วเดินไปเคาะประตูห้องพี่เบียร์

 

“พี่เบียร์ ตื่นได้แล้ว โซจะไปแล้ว พี่เบียร์ๆ”

 

ผมยืนเคาะประตูอยู่นานจนพี่เบียร์เปิดประตูออกมา สภาพนี่ดูไม่ได้เลยครับ หัวยุ่งๆหน้ายับๆ ใส่แค่กางเกงบอคเซอร์แล้วยืนเกาพุงอยู่ตรงหน้าผม

 

“ไปล้างหน้าไปพี่เบียร์”

 

ผมบอกแล้วดันพี่เบียร์เข้าไปในห้อง ไม่เข้าใจจริงๆว่าใครเลือกให้เป็นเดือนคณะ ซกมกขนาดนี้

 

04:30 นาที

 

“พี่เบียร์ เสร็จยังเนี่ย”

 

ผมเดินเข้าไปตามพี่เบียร์ในห้อง

 

“เออๆเสร็จแล้ว รีบอะไรนักหนาว้ะ”

 

พี่เบียร์เดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินลากกระเป๋าผมไป

 

“พี่เบียร์ไปส่งที่หน้าคณะโซก็ได้”

 

ผมหันไปคาดเบลท์ พี่เบียร์พยักหน้าแล้วขับออกออกจากบ้าน

 

“ใครมาจอดรถหน้าบ้านว้ะ”

 

พี่เบียร์ก้มหน้าลงไปมองชัดๆ เพราะมันมืดมากๆ

 

“คิง!!”

 

ผมเรียกชื่อคนที่นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ ผมจำได้แต่หายไปไหนมาตั้งหลายวัน

 

“มายืนทำอะไรหน้าบ้านกู กูนึกว่าผีไอ้สัดคิง ตกใจหมด”

 

พี่เบียร์จอดรถแล้วลดกระจกลงไปคุยกับคิง

 

“มารับไอ้โซ”

 

มารับผม? มารับทำไม?

 

“จะมารับน้องกูทำไม มึงบ้าป่ะ”

 

พี่เบียร์หันมามองผมงงๆ ผมก็งง

 

“ก็เราไปค่ายด้วยกัน”

 

ห้ะ!อะไรนะ ใครไปค่ายกับใคร

 

“ค่ายอะไรของมึง ถ้าละเมอก็ไปนอนต่อไป”

 

พี่เบียร์โบกมือไล่คิงแต่คิงเดินมาที่รถ

 

“ค่ายอาจารย์ลดาไง”

 

คิงเรียนวิชานี้ด้วยเหรอ!!

 

“เวร! กูลืมไปได้ไงว้ะ”

 

พี่เบียร์สบถออกมาเบาๆ

 

“เดี๋ยวกูไปส่งน้องกูเอง”

 

พี่เบียร์พูดจบก็ขับรถออกมาเลยครับ ทิ้งให้คิงยืนอยู่หน้าบ้านผม

 

“เฮ้ยพี่เบียร์ ทิ้งคิงไว้หน้าบ้านอย่างนั้นได้ไงอ่ะ”

 

ผมหันไปบ่นใส่พี่เบียร์

 

“กูพอใจ มีไรป่ะ”

 

พี่เบียร์ยักคิ้วกวนๆแล้วขับรถมาส่งผมที่มหาลัย

 

“ทำไมพี่เบียร์ดูไม่ชอบคิงเลยอ่ะ โซเห็นทะเลาะกันตลอดเลย”

 

ผมถามพร้อมกับยกกระเป๋าลงจากหลังรถ

 

“กูไม่ชอบขี้หน้ามัน มันหล่อกว่ากู”

 

อะไรว้ะ เหตุผลติ๊งต๊องชะมัด

 

“ไอ้โซๆ ทางนี้ๆ”

 

ไอ้แป้งกวักมือเรียกผมอยู่หน้าคณะ ข้างๆมีไอ้น้ำแข็งกับไอ้หวานที่ยืนทำหน้าเหมือนยังไม่ตื่น

 

“หวัดดีครับพี่เบียร์!!”

 

ทั้งสามคนพอเห็นพี่เบียร์เดินตามหลังผมมา รีบตาลีตาเหลือกยกมือไหว้กันใหญ่

 

“เออหวัดดี”

 

พี่เบียร์รับไหว้

 

“มีคณะอะไรไปบ้าง”

 

พี่เบียร์หันมาถามพวกผม

 

“คณะวิทย์ คณะวิศวะ คณะจัดการครับ”

 

ไอ้น้ำแข็งเป็นคนตอบ ผมเพิ่งรู้เหมือนกันครับว่ามีคณะวิศวะกับจัดการไปด้วย

 

“ฝากดูแลน้องกูด้วย”

 

พี่เบียร์พูดเสียงโหดบอกเพื่อนๆผม

 

“พี่เบียร์ โซไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ”

 

ผมหันไปว่าพี่เบียร์ พี่เบียร์ยักไหล่กวนๆ

 

“อ่าวเฮียยยย หวัดดีคร้าบบ”

 

เม้าส์ที่เดินมาจากทางไหนไม่รู้ เดินเข้ามาสวัดดีพี่เบียร์

 

“คำว่าเฮียของมึงไม่ต้องยาวขนาดนั้นก็ได้ ไอ้เม้าส์”

 

นี่ผมลืมไปได้ยังไงว่าพี่เบียร์อยู่คณะวิศวะ ต้องรู้จักพวกของคิงอยู่แล้ว

 

“เฮียมาทำไรอ่ะ เขาเข้าค่ายแค่ปี1กับปี2หนิ”

 

โอมหันมาถาม

 

“มาส่งน้อง”

 

พี่เบียร์ชี้นิ้วมาที่ผม

 

“อ่าวโซหนิ โซเป็นน้องเฮียเหรอ ไม่เห็นรู้เลย”

 

เม้าส์มองมาทางผม

 

“พวกมึงรู้จักน้องกูด้วย?”

 

พี่เบียร์ถามงงๆ ซวยแล้ว ถ้าพี่เบียร์รู้ว่าผมคุยกับวิญญาณผมโดนพี่เบียร์ว่าแน่ๆ

 

“ก็โซมาช่วยไอ้คิง…อุ๊บ!”

 

ก่อนที่เม้าส์จะได้พูดอะไร โอมก็ยื่นมือมาปิดปากเอาเม้าส์เอาไว้ เห้อออ ค่อยยังชั่ว

 

“ไม่ต้องพูดมาก”

 

โอมว่าเม้าส์

 

“อะไรของพวกมึง แล้วนี่ไอ้เรย์ไปไหน”

 

พี่เบียร์พูดพลางชะเง้อมองเรย์ จริงด้วยผมยังไม่เห็นเรย์เลย

 

“มันยืนรออยู่ตรงนู้นน ทำไมเหรออ”

 

เม้าส์ชี้ไปที่เรย์ที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียว แล้วมองพี่เบียร์ด้วยสายตาเจ้าเล่

 

“กูไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูโทร.หา พวกมึงมานี่เลย พูดมากนัก”

 

พี่เบียร์พูดจบก็ลากเม้าส์กับโอมออกไป พวกผมมองตามอย่าง งงๆ

 

“เชี่ยยย กว่าจะไป กูนี่ยืนเกร็งจนเยี่ยวเหนียวเลย”

 

ไอ้หวานพูดพลางยกมือขึ้นมาพัดๆ

 

“พวกมึงก็เวอร์”

 

ผมหันไปว่าขำๆ

 

“อ่าวๆ นักศึกษาทุกคน มารวมตัวกันตรงนี้ค่ะ แยกเป็นคณะด้วยนะ”

 

เสียงอาจารย์ลดาเรียกให้พวกผมไปจัดแถว คณะผมมีปี2 5คน ปี1 6คน

 

คณะอื่นก็ไม่ต่างกับครับ แต่คณะวิศวะนี่จะเยอะหน่อย

 

“เดี๋ยวอาจารย์จะให้จับบัดดี้ ปี1จะเป็นคนจับ ไปหาพี่บัดดี้ให้เจอนะ จะได้ช่วยดูแลกันได้ มาๆจับๆ”

 

อาจารย์ลดาพูดจบน้องปี1ก็ลุกขึ้นไปจับบัดดี้ทีละคน

 

พอจับเสร็จอาจารย์ก็จัดให้ขึ้นรถ มีรถบัส 2 คัน พวกผมนั่งรถคันที่1 รวมกับวิศวะ เพราะเด็กวิศวะมากันเยอะมากก

 

ไอ้หวานนั่งกับไอ้แป้ง ส่วนไอ้น้ำแข็งโดนบัดดี้ลากไปนั่งด้วยแล้วครับ 555 ผมเลยต้องนั่งคนเดียว

 

“กูนั่งด้วยดิ”

 

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า คิงยืนมองผมอยู่

 

“อืม นั่งสิ”

 

ผมพูดจบคิงก็แทรกตัวขึ้นมานั่งข้างๆผม ต่างคนต่างเงียบ ผมนั่งเงียบแล้วหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ ทั้งๆที่คิงนั่งอยู่ข้างๆผม แต่ทำไมเหมือนไม่ได้นั่งด้วยกันเลย

 

“กินป่ะ”

 

คิงยื่นขนมปังกับนมมาให้ผม

 

“ไม่เป็นไร กินเถอะ”

 

ผมตอบกลับไปแล้วนั่งมองไปนอกหน้าต่าง เห็นคิงมองผมในเงาสะท้อนของกระจกรถ ผมหลับตาแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น

 

ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ตื่นขึ้นมาอีกทีหัวผมก็หนุนไหล่คิงอยู่ ผมค่อยๆขยับตัวออกมาให้เบาที่สุดเพราะคิงยังหลับอยู่

 

“อ่าว ตื่นแล้วเหรอ”

 

คิงยกมือขยี้ตาแล้วนั่งบิดตัวไปมา

 

“เรามานอนหนุนไหล่นายได้ไง”

 

คงเมื่อยน่าดู เพราะเห็นคิงนั่งนวดไหล่ไปด้วย

 

“เมื่อกี้กูเห็นแสงมันแยงตามึง เลยดึงมึงมานอนกับกู”

 

ผมเม้มปากแน่นเมื่อฟังจบ

 

“ขอบใจมาก”

 

ผมทำตัวไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง มันแปลกๆ

 

“พี่ครับ พี่ใช่บัดดี้ของผมรึเปล่า”

 

ถ้าผมจำไม่ผิด น้องคนนี้เป็นน้องในคณะผม ชื่อไดมอล เขาดังมากๆในคณะผม

 

“ไหนใบบอกชื่ออ่ะ”

 

ไดมอลส่งใบบอกชื่อมาให้ผม เป็นชื่อผมจริงๆด้วย

 

“อืม ชื่อพี่เอง”

 

ผมตอบกลับไป

 

“จริงเหรอ ผมได้พี่เป็นบัดดี้จริงๆเหรอ”

 

ไดมอลดูตื่นเต้นมากเลยครับ อะไรจะขนาดนั้น

 

“ทำไมต้องดีใจขนาดนั้น”

 

ผมถามขำๆ

 

“ก็พี่น่ารักหนิ”

 

ไดมอลพูดจบก็ยิ้มเขินๆ ผมมองไดมอลแล้วยิ้มๆ

 

“อะแฮ่ม!!”

 

คิงที่นั่งเงียบอยู่นานอยู่ดีๆกระแอมขึ้นมา

 

“อ่า ขอโทษครับ งั้นผมไปก่อนนะ เอาไว้เจอกันนะครับบัดดี้ของผม”

 

ไดมอลพูดจบก็วิ่งยิ้มออกไป

 

“มึงจะยิ้มอะไรนักหนา”

 

เสียงของคิงหันมาว่าผมเหมือนไม่พอใจ

 

“โทษที”

 

ผมเอ่ยขอโทษก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่างเหมือนเดิม

 

10:00

 

รถบัสมาจอดอยู่ที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พวกผมลงจากรถแล้วไปยืนร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆ

 

“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อชัย เป็นผู้ใหญ่บ้านของที่นี่ ยินดีต้อนรับนักศึกษาทุกคนนะครับ และก็ขอขอบคุณที่มาช่วยพัฒนาหมู่บ้านของเรา ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะครับ”

 

ลุงชัยแนะนำตัวเสร็จ อาจารย์ลดาก็พาพวกผมมาที่พัก มันเป็นพื้นที่โล่งๆครับ โล่งมากๆ เหมือนสนามหญ้ามากกว่า

 

“เอาล่ะ นักศึกษา เนื่องจากเรามาเข้าค่ายจิตอาสา เพราะฉะนั้นเราใช้ชีวิตอย่างพอเพียง อาจารย์วานให้คุณชัยหาเต้นท์มาให้แล้วและวันนี้นักศึกษาต้องกางเต้นท์นอนเอง เข้าใจไหม!”

 

พออาจารย์ลดาพูดจบทุกคนก็ต่างร้องสียงโอดโอยกันใหญ่

 

“นี่ๆเงียบๆนะ อาจารย์ให้นอนเต้นท์ และเพื่อความเสมอภาค อาจารย์จัดรายชื่อไว้ให้แล้ว”

 

คราวนี้ทุกคนเริ่มโวยวายแล้วครับ

 

“งั้นพวกเราก็ไม่ได้นอนด้วยกันอ่ะดิ”

 

ไอ้หวานหันมาถามผม

 

“คงงั้นแหละ มึงก็เอาเต้นท์มากางใกล้ๆกูดิ”

 

ผมตอบกลับไป

 

“เอาล่ะ แยกชายหญิงด้วยนะ รายชื่อมีดังนี้…”

 

อาจารย์ลดาไล่อ่านรายชื่อที่ละเต้นท์ๆ พวกผมโดนแยกกันทุกคน แต่ที่ผมสังเกตได้ก็คือในเต้นท์นั้นจะมีบัดดี้อยู่ด้วยกัน ไม่คู่ใดก็คู่หนึ่ง

 

“เต้นท์ต่อไป นาย ศศิวัตน์ สุวรรณกรณ์ , นายคณาธิป ธนากุล , นายกลวัชร ปานทิพ…”

 

ผมหันมองไปรอบๆเพื่อหาคู่ของตัวเอง ไดมอลกำลังเดินเข้ามาหาผมแล้วส่งยิ้มมาให้อย่างดีใจ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าคิงไม่เดินตามหลังไดมอลมา อย่าบอกนะว่าผมต้องอยู่เต้นท์เดียวกับคิง!!

 

“เสียใจเหรอ ที่ต้องอยู่เต้นท์เดียวกับกู”

 

คิงก้มลงมากระซิบถามผม ผมส่ายหัวปฎิเสธ

 

“ดีใจจัง ผมได้อยู่เต้นเดียวกับพี่โซด้วย ผมชื่อไดมอลนะ”

 

ผมไม่ตอบอะไรแต่หันไปยิ้มๆกับไดมอล

 

“แล้วพี่ชื่ออะไรเหรอครับ”

 

ไดมอลหันไปถามคิงที่ยืนอยู่ข้างๆผม

 

“คิง!”

 

คิงตอบเหมือนไม่ใส่ใจ ไดมอลพยักหน้ายิ้มๆ

 

“โห แยกกับแบบโคตรแยกอ่ะ มึงได้นอนกับใครบ้าง”

 

ไอ้แป้งเดินเข้ามาหาผมแล้วบ่นอย่างเซ็งๆ

 

“โอ้โห! นี่มึงได้นอนกับเดือนทั้งสองคณะเลยนะเว้ย”

 

ผมหันไปมองไอ้แป้งอย่าง งงๆ

 

“ก็คิงเดือนคณะวิศวะกับไดมอลเดือนคณะเราปีนี้ไง”

 

คุณพระ!ไม่น่าล่ะ ผู้หญิงคณะอื่นถึงมองผมด้วยสายตาอิจฉาปนหมั่นไส้

 

“มึงรู้จักคิงด้วยเหรอ?”

 

ทำไมผมไม่รู้อ่ะ

 

“หนุ่มสุดฮอตของมหาลัย มีใครไม่รู้จักบ้างว้ะ”

 

ผมไง! แต่เดี๋ยวนะ มันยังเคยว่าคิงว่าปากหมาอยู่เลย

 

“ไปเอาเต้นท์มากางกันได้แล้ว”

 

ไอ้น้ำแข็งเดินมาบอกพวกผมก่อนจะเดินไปกางเต้นท์ของตัวเอง

 

“เดี๋ยวกูไปเอาเต้นท์เอง มึงไปหาที่กางเต้นท์เถอะ”

 

คิงพูดจบก็เดินไปเอาเต้นท์

 

“ไปกันเถอะพี่โซ”

 

ไดมอลหันมาพูดกับผมแล้วเดินนำไป

 

ผมเลือกที่ใกล้ๆกับเต้นท์ไอ้น้ำแข็งห่างกันประมาณ3เต้นท์ ส่วนไอ้แป้งกับไอ้หวานอยู่ห่างกับเต้นท์ผมคนละทิศละทางกันเลยครับ

 

“นายกางเป็นไหม เรากางไม่เป็นอ่ะ”

 

ผมสารภาพออกไปตามตรง หลังจากที่คิงไปเอาเต้นท์มาแล้ว

 

“เป็น”

 

สั้นๆคำเดียว แล้วคิงก็จัดการกางเต้นท์โดยที่มีผมกับไดมอลคอยช่วยยืนส่งนู่นนี่ให้จนเสร็จ ผมเปิดเต้นท์เอาของเข้าไปวาง

 

“ผมขอนอนตรงกลางได้ไหม ผมกลัวอ่ะ”

 

ไดมอลพูดพลางเอาของมาวางตรงกลางเต้นท์ คิงหันมามองหน้าผมเป็นเชิงขอคำตอบ

 

“ได้สิ”

 

ผมตอบกลับไป ผมนอนตรงไหนก็ได้ คิงไม่พูดอะไรแต่เอาของเข้ามาวางแล้วเดินออกไป

 

“ไปกินข้าวกันเถอะ”

 

ไอ้น้ำแข็งเดินมาหาผม

 

“ไปกินข้าวกันเถอะมอล”

 

ผมหันไปบอกไดมอลที่นั่งจัดของอยู่ในเต้นท์ ไดมอลรีบออกมาแล้วเดินตามพวกผมมา

 

“ได้ข่าวว่าได้นอนกับเดือนทั้งสองคณะเหรอ เพื่อนกูนี่ฮอตไม่เบา”

 

ไอ้หวานแซวผม แล้วหันไปแย่งไส้กรอกในจานไอ้แป้ง ตีกันไปตีกันมา 5555

 

“แล้วมึงล่ะ นอนไหน”

 

ผมถามไอ้หวาน

 

“ใกล้ที่พักอาจารย์อ่ะ บัดดี้กูแม่งโคตรเรื่องมาก”

 

ไอ้หวานพูดจบก็ทำหน้าเซ็งๆ

 

“แล้วมึงอ่ะ”

 

ผมหันไปถามไอ้แป้ง

 

“ก็ใกล้ๆเต้นท์ไอ้หวานแหละ”

 

ผมพยักหน้าแล้วยิ้มเจ้าเล่ไปให้ไอ้แป้ง

 

หลังจากที่พวกผมกินข้าวเสร็จอาจารย์ลดาก็เรียกให้ไปรวมตัว เพื่อจับฉลากแยกหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ ผมกับไอ้น้ำแข็งได้ทาสีอาคาร ไอ้หวานกับไอ้แป้งได้ขัดห้องน้ำ ไอ้หวานโวยวายอย่างไม่ต้องสงสัย5555

 

16:45 นาที

 

ตอนนี้พวกผมกำลังขนของที่จะแจกเด็กๆในหมู่บ้านลงจากรถบัส

 

“ขอบใจทุกคนมากไปพักผ่อนกันได้แล้ว”

 

อาจารย์ลดาพูดจบพวกผมก็เดินออกมา

 

-วูบ-

 

อยู่ดีๆลมก็พัดผ่านผมไปอย่างแรงและเร็ว ความรู้สึกเหมือนมีคนวิ่งผ่านไปแบบเร็วๆ ผมหันหลังกลับไปมองก็ไม่เห็นอะไร หรือว่าผมคิดมากไปเอง

 

“ไปอาบน้ำกันเถอะว่ะ เหนียวตัวมากเลย”

 

ไอ้แป้งเดินมาชวนผมกับไอ้น้ำแข็งไปอาบน้ำ ผมเตรียมของอาบน้ำแล้วเดินตามไอ้แป้งไป

 

พวกผมอาบน้ำเสร็จก็มานั่งเล่นนั่งคุยกับที่เต้นท์ผม เพราะตอนนี้ทั้งคิงทั้งไดมอลหายไปทั้งคู่

 

-วี้ ว่อๆ-

 

เสียงจากโทรโข่งทำให้พวกผมหันไปดู อาจารย์ลดายืนอยู่ตรงกลางพอดี

 

“อาจารย์มีข่าวดีมาบอก วันนี้อาจารย์ให้เป็นวันฟรีนะ ใครอยากไปเดินเล่นในหมู่บ้านหรือไปหาอะไรทานในหมู่บ้านได้เลย แต่ต้องกลับมาเช็คชื่อก่อน3ทุ่ม เข้าใจไหมคะ”

 

อาจารย์ลดาพูดจบทุกคนก็เสียงดังดีใจกันใหญ่

 

“ไปไหนกันดีวะ”

 

ไอ้แป้งหันมาถามพวกผมอย่างตื่นเต้น ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ มันเบื่อ เพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย

 

“ไปเดินเล่นในตัวเมืองกันไหม”

 

ไอ้น้ำแข็งออกความคิด ดีเหมือนกันเพราะที่นี่สวยมาก ต้นไม้เยอะด้วยและที่สำคัญบรรยากาศเงียบสงบสุดๆ

 

พวกผมเดินเข้าไปในตัวเมืองไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ครับ ไอ้แป้งกับไอ้หวานดูตื่นเต้นมาก ซื้อนู่นซื้อนี่เต็มไม้เต็มมือไปหมด

 

“เฮ้ยมึง มีดูลายมือฟรีด้วย ดูกันป่ะ”

 

ไอ้แป้งวิ่งไปแล้วครับ นั่งลงแล้วยื่นมือไปให้ป้าดูเลยครับ

 

“พ่อหนุ่มกำลังมีความรัก แบบรักข้างเดียวด้วยนะ ไปแอบรักสาวที่ไหนล่ะ”

 

ป้าพูดยิ้มๆ ผมมองอย่างอึ้งๆ แม่นจริงว่ะ!!

 

ไอ้แป้งไม่ตอบอะไรแต่บอกขอบคุณป้าแล้วเดินออกมา แก้มนี่แดงเป็นตูดลิงเลย ผมหันไปมองไอ้หวานที่ทำหน้าเหมือนหงุดหงิดนิด น่าสนใจ 55555

 

“มึงไม่ดูเหรอ?”

 

ผมหันไปถามไอ้น้ำแข็ง มันไม่พูดอะไรก่อนจะเดินไปนั่งลงแล้วยื่นมือให้ป้าดูลายมือ

 

“พ่อหนุ่มกำลังจะมีคนดีๆเข้ามาในชีวิต เขาจะเข้ามาช่วยเราได้ในหลายๆเรื่อง รักษาเขาเอาไว้ดีๆล่ะ”

 

ใคร! ประเด็นร้อน ข่าวล่ามาแรง ไอ้น้ำแข็งกำลังจะมีสาว 555555

 

“ตามึงละ ไปเลย”

 

ผมยิ้มๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งแล้วยื่นมือให้ป้าดูลายมือ

 

“อืม ของพ่อหนุ่มนี่ยากนะ เส้นพันกันไปหมด พ่อหนุ่มต้องเป็นคนชอบทำบุญมากแน่ๆเลย เพราะเส้นชีวิตดีมากๆ แต่เรื่องบางเรื่องถ้าไม่จำเป็นจริงๆ พ่อหนุ่มอย่าเข้าไปยุ่งเลย คนรอบตัวดีมากๆนะ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ตอนนี้พ่อหนุ่มมีใครอยู่ในใจแล้ว เขาเป็นคนดีนะ เขาจะช่วยทุกอย่างเลยและเขาจะรักพ่อหนุ่มมากๆ”

 

พอป้าพูดจบผมก็เอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินออกมา

 

“มีใครในใจไม่เห็นบอกพวกกูเลย”

 

ไอ้แป้งโวยวายครับ ยังๆ คดีมันยังไม่เคลียร์แล้วจะมาหาเรื่องผม

 

“แล้วมึงอ่ะ แอบรักใคร?”

 

ผมแกล้งถาม ไอ้แป้งเงียบเลยครับ 55555

 

หลังจากเดินเล่นเสร็จพวกผมก็กลับมาที่พักก่อนจะไปเช็คชื่อแล้วแยกย้ายไปที่เต้นท์ของตัวเอง

 

“พี่โซหายไปไหนมา ผมตามหาตั้งนาน”

 

ไดมอลชะโงกหน้าออกมาถามจากในเต้นท์

 

“พี่ไปเดินเล่นมา แล้วคิงไปไหนล่ะ”

 

ผมถามหาคิงที่ไม่เห็นตั้งแต่บ่ายแล้ว หายไปไหนของเขา?

 

“เมื่อกี้ผมเห็นเดินมาหยิบของไปอาบน้ำอ่ะ”

 

ผมพยักหน้าแล้วมุดตัวเข้าไปในเต้นท์

 

“ทำอะไรอยู่?”

 

ผมถามไดมอลที่กำลังก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์

 

“เล่นเกมครับพี่ มันไม่มีสัญญาณเลยไม่รู้จะทำอะไร มาเล่นด้วยกันไหม”

 

ไดมอลพูดจบก็ส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมนั่งเล่นเกมส์กับไดมอลจนผ่านไปหลายด่าน พอแพ้ก็ขำกันไม่หยุดเพราะต่างคนต่างหาวิธีโกง 55555

 

“หัวเราะอะไรกันเสียงดังไปถึงข้างนอกเลย?”

 

คิงมุดตัวเข้ามาในเต้นท์ก่อนจะเช็ดผมตัวเองลวกๆ

 

“เล่นกมส์กันนิดหน่อย”

 

ผมตอบ

 

“ไม่ง่วงรึไง จะ4ทุ่มแล้ว”

 

คิงหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วหันมาบอกพวกผม

 

“ง่วงแล้วครับ วันนี้เพลียๆด้วย ผมขอนอนก่อนนะ ฝันดีครับพี่โซ พี่คิง”

 

ไดมอลพูดจบก็ล้มตัวลงนอน

 

ผมนั่งมองยิ้มๆแล้วหยิบหนังสือสวดมนต์ขึ้นมาอ่านก่อนนอน

 

“กูนอนแล้วนะ”

 

คิงพูดก็ล้มตัวลงนอนอีกคน ไฟข้างนอกเต้นท์เริ่มปิดกันแล้ว เหลือแค่แสงจากโทรศัพท์ผมที่ส่องอยู่ ผมสวดมนต์เสร็จก็หันหน้าไปหาคิงที่นอนหลับอยู่

 

“ฝันดีนะคิง”

 

ผมพูดเสียงเบาแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะปิดโทรศัพท์เพื่อจะนอน

 

23:25 นาที

 

 

 

(เพื่ออรรถรส ควรเปิดเพลงฟังคลอๆไปด้วยนะคะ ฟังให้จบนะ)

 

 

 

 

 

ผมนอนไม่หลับ ทำยังไงก็นอนไม่หลับ เพราะเสียงที่ผมได้ยินทำให้ผมนอนไม่หลับ

 

คุณเคยฟังเพลงกล่อมเด็กไหมครับ? นั่นแหละคือเสียงที่ผมได้ยินอยู่ตอนนี้

 

“นกเขากาเหว่าลายเอย.... ไข่ให้...แม่กาฟักแม่กาก็หลงรัก เอย... นึดว่าลูกในอุ...ทร...คาบข้าวเอามาเผื่อเอย... คาบเหยื่อมาป้อน.”

 

เสียงเพลงกล่อมเด็กดังมาตามสายลมและผมได้ยินชัดมาก ชัดเหมือนมีคนมาร้องให้ฟังใกล้ๆ ผมเอามืออุดหูตัวเองเอาไว้ เพราะเริ่มกลัวมากๆ

 

-ครืดๆ แควกๆ-

 

เสียงนี้ก็เหมือนกันครับ เสียงเหมือนมีคนมาเดินลากเท้าวนอยู่รอบๆเต้นท์แล้วเอาเล็บมาขูดที่ผ้าเต้นท์ มันขูดอยู่บนหัวผม เพลงกล่อมเด็กก็ยังดังขึ้นเรื่อยๆ ตัวผมเริ่มสั่นเพราะความกลัว ผมตัดสินใจเปิดไฟโทรศัพท์แล้วส่องดูรอบๆ รอยมือคนจริงๆด้วย เหมือนมีใครเอามือมาลูบผ้าเต้นท์แล้วกดลงมา ผมเห็นเป็นรอยนิ้วห้านิ้วเลยครับ มันลูบวนๆอยู่บนหัวผมแล้วลากไปรอบๆเต้นท์ ผมหันไปมองไดมอลกับคิงที่กำลังหลับสนิท พวกเขาไม่ได้ยินพวกนี้เลยเหรอ?

 

“ปีกหางยังอ่อนเอย... พึ่งจะสอนบิน...เจ้าพาลูกเที่ยวหากิน เอย... ที่ปากน้ำแม่คงคา...อืม..”

 

เสียงเพลงกล่อมเด็กก็ยังอยู่ เป็นเสียงของผู้หญิงครับ เสียงเหมือนคนแก่กำลังร้องเพลงกล่อมลูกหลานให้นอน ผมหลับตาปี๋ กลัวจนตัวสั่น น้ำตาผมเริ่มไหลเหงื่อแตกพลัก ใครก็ได้ผมที ผมกลัว กลัวมากจริงๆ

 

“โซ ไอ้โซ!”

 

เสียง? เสียงของคิง! ผมเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นนั่งอยู่ข้างๆตัวผม เขย่าตัวผมไปด้วย

 

“คิง อึก…คิง…ฮือๆๆ เรากลัว”

 

ผมลุกขึ้นไปกอดคิงแน่น ผมซุกหน้าไว้กับหน้าอกของคิงอย่างกลัวๆ ผมรู้ว่าตัวผมสั่น สั่นมากๆ

 

“ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัว กูอยู่นี่ ชู่วๆ”

 

คิงกอดผมพร้อมกับลูบหลังปลอบไปด้วย

 

“มันน่ากลัว…อึก…มากๆเลย…ฮือๆ..”

 

ผมร้องไห้สะอื้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกลัวขนาดนี้

 

“ไม่เป็นไรกูอยู่นี่แล้ว นอนเถอะ”

 

คิงพูดจบก็ดันตัวผมนอนลง

 

“เดี๋ยว!นอนเป็นเพื่อนเราหน่อย”

 

ผมตัดสินใจพูดออกไป คิงหันมามองผมอย่าง งงๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วค่อยๆดันตัวไดมอลที่นอนหลับไม่รู้เรื่องให้ไปนอนที่ตัวเองแทน ก่อนจะขยับตัวมานอนใกล้ๆผม

 

“ถ้ามึงกลัว…กอดกูไว้ก็ได้”

 

คิงขยับตัวผมให้เข้ามานอนบนแขนแล้วดึงตัวผมเขาไปกอด ผมซุกหน้าลงกับหน้าอกของคิงแล้วนอนลง

 

คิงทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ทำให้ผมหายกลัว ผมรู้สึกว่าคิงทำให้ผมอบอุ่นใจได้

 

“ฝันดี”

 

คิงพูดจบก็หลับตาลงแล้วเอาคางเกยบนหัวผมเอาไว้ ผมยิ้มออกมานิดๆ

 

“ฝันดีเหมือนกันนะ”

 

ผมตอบกลับไป ถึงแม้ว่าเสียงเพลงกล่อมเด็กยังดังอยู่ ถึงแม้จะมีเสียงคนเดินอยู่รอบๆเต้นท์ ผมก็ไม่กลัวแล้วครับ แล้วเสียงน่ากลัวๆพวกนั้นก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับตาผมที่ปิดสนิท ฝันดีครับทุกคน!

 

 

 

 

 

 

 

ถ้าคุณต้องไปเข้าค่ายที่ไหน ระวังไว้ให้ดีๆนะครับ เพราะ “อาจจะมีคนมาเดินรอบๆหรือมีเสียงเพลงกล่อมเด็กกล่อมคุณก่อนนอนก็ได้”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา