I'm Freak__ผมเหรอ...ตัวประหลาด!! (Yaoi)
เขียนโดย pimmizzii
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.29 น.
แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เด็กน้อย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันนี้วันเสาร์ครับ เป็นวันที่คิงนัดผมไปทำบุญ ผมรีบตื่นเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัว
“เดี๋ยวๆไอ้โซ มึงจะรีบไปไหนแต่เช้าว้ะ เฮ้ยๆอย่าวิ่งลงบันได ”
เสียงพี่เบียร์ตะโกนถามก่อนจะเดินมานอนที่โซฟา ไม่ใช่ว่าพี่เบียร์ตื่นเช้าหรอกครับ เพิ่งกลับบ้านมากกว่า
“โซมีนัด”
ผมพูดจบพี่เบียร์ก็กระเด้งตัวลุกจากโซฟามามองหน้าผมอย่างตกใจ
“ห้ะ!อะไรนะ มึงมีนัด ใคร! ที่ไหน! ชื่ออะไร! บอกกูมาให้หมดนะ”
พี่เบียร์ถามผมรัวเป็นชุด ทำอย่างกับผมเป็นสาวน้อยอ่อนต่อโลกไปได้
“ไม่บอก”
ผมพูดจบก็วิ่งหนีพี่เบียร์ออกมา 5555 แกล้งพี่ชายตัวเองนี่สนุกชะมัด
08:55 นาที ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ
“เฮ้ยไอ้โซ มึงกลับมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อน”
พี่เบียร์วิ่งตามผมออกมา ตื้อจัง ผมวิ่งออกมาหน้าบ้าน
“อ๊ะ…”
ผมชนกับอะไรบางอย่างเพราะวิ่งไม่ดูทางข้างหน้า
“วิ่งหนีอะไร”
เสียงคิงดังอยู่บนหัวผม ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นปลายจมูกของคิงอยู่ตรงหน้า ผมรีบดันตัวออกอย่างตกใจ แต่ก็ดันออกมาไม่ได้เพราะคิงใช้แขนรวบเอวผมอยู่ ไม่น่าล่ะ เมื่อกี้ทำไมผมถึงไม่ล้ม
“เฮ้ยๆๆ เอามือออกจากเอวน้องกูนะไอ้เชี่ยคิง เดี๋ยวโดนๆ”
เสียงพี่เบียร์ดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้คิงปล่อยเอวผมออกมา
“หวัดดีพี่”
คิงยกมือไหว้พี่เบียร์ พี่เบียร์ก็พยักหน้ารับ
“เออหวัดดี มาทำไรหน้าบ้านกู”
พี่เบียร์ถามพลางมองหน้าคิงดุๆ
“มารับไอ้โซ”
คิงตอบกลับไป
“รู้จักน้องชายกูด้วย?”
พี่เบียร์ขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย
“อืม ก็เพิ่งรู้จักกัน”
คิงพูดพลางมองหน้าผมไปด้วย
“นี่เหรอคนที่มึงบอกมีนัดด้วย ไอ้คิงเนี่ยนะ”
พี่เบียร์หันมาถามผม ผมพยักหน้ารับ
“จะพาน้องกูไปไหน”
พี่เบียร์หันมาถามคิงบ้าง
“ไปเดท”
ห้ะ! ทั้งผมและพี่เบียร์เบิกตากว้างอย่างตกใจกับคำตอบของคิง
ผมยืนเงียบๆอยู่ข้างๆคิง ไม่อยากพูดหรือตอบอะไร
“เดี๋ยวกูถีบให้เลยหนิ กวนตีนกูนัก”
พี่เบียร์พูดพลางจะยกเท้าขึ้นมาถีบคิงจริงๆ คิงแกล้งวิ่งมาหลบข้างหลังผม แล้วดันตัวผมขึ้นมาบังไว้ ผมมองอย่าง งงๆ
“ไอ้โซดูพี่มึงดิ จะถีบกู55555”
คิงพูดพลางล้อๆพี่เบียร์จากข้างหลังผม ผมกับคิงอยู่ใกล้กันมากจนหลังของผมชนกับหน้าอกของคิงหลายครั้ง มือของคิงจับไหล่ผมไว้ก่อนที่จะ…
“มึงมานี่เลยโซ ไอ้คิงเดี๋ยวมึงโดน”
พี่เบียร์พูดแล้วดึงผมออกมาจากคิง
“โอเคๆ ผมล้อเล่น ผมจะพาคิงไปทำธุระจริงๆ”
คิงเดินตามมาดึงตัวผมให้ไปยืนข้างๆ
“มึงแน่ใจนะ”
พี่เบียร์มองคิงด้วยสายตาจริงจัง ไม่มีการล้อเล่นแบบเมื้อกี้
“จริงดิพี่ ผมจะโกหกพี่ทำไม ใช่ไหมไอ้โซ?”
อยู่ดีๆคิงก็หันมาถามผม
“โซไปทำธุระจริงๆพี่เบียร์ เสร็จแล้วโซจะรีบกลับเลย”
ผมตอบกลับไป พี่เบียร์มองผมแล้วถอนหายใจ
“เออ ก็ได้ กูให้ไปก็ได้ แต่มึงต้องรับโทรศัพท์กูทุกครั้งที่กูโทรไป แล้วก็ห้ามกลับเกิน6โมงเย็น เข้าใจไหม!” พี่เบียร์สั่งออกมารัวๆเป็นชุด ส่วนเรื่องโทรศัพท์ พี่เบียร์พาผมไปซื้อตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ
“โอเค งั้นโซไปก่อนนะ โซซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้วางไว้ในครัว ไปกินด้วยนะ”
ผมพูดยิ้มๆ พี่เบียร์พยักหน้ารับ
“ส่วนมึง ดูแลน้องกูดีๆด้วย ถ้าน้องกูเป็นอะไรขึ้นมา มึงโดนแน่!”
คิงพยักหน้าเข้าใจ แล้วเดินพาผมออกมา
“อ่าว ทำไมวันนี้ขี่มอเตอร์ไซด์มาล่ะ”
ผมถามเมื่อเห็นคิงเดินขึ้นไปคร่อมมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ข้างๆรั้วบ้าน พร้อมกับยื่นหมวกกันน็อคมาให้ผม
“กูกับมึงจะได้นั่งกันแค่ 2 คนไง จะได้ไม่ต้องมีใครมานั่งด้วย”
คิงพูดจบก็หันมามองผมยิ้มๆ ผมรีบหันหน้าหนีทันที รอยยิ้มของคิงมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนว่าทำไม
“จะยืนเอ๋ออีกนานไหม ขึ้นรถดิ”
แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ปากหมา เห้อออ
คิงขี่รถพาผมมาที่วัดๆหนึ่ง ที่ห่างจากบ้านผมประมาณ20นาที คิงขับรถเข้าไปจอดข้างในวัด ภายในวัดสวยมากครับ บรรยากาศร่มรื่น และเงียบสงบมากๆ
คิงพาผมซื้อดอกไม้ ธูป เทียน แล้วเดินเข้าไปในโบสถ์ เราสองคนเดินไปจุดธูปกับเทียนแล้วนั่งไหว้พระกันจนเสร็จ คิงชวนผมถวายสังฆทานและกรวดน้ำ คิงเดินนำผมออกมาจากโบสถ์แล้วนำหน้าที่กรวดไปเทที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างโบสถ์ ต้นไม้ต้นนี้สูงมากครับ แล้วก็ดูเหมือนจะอายุมากแล้วด้วย ทั้งผ้าสามสี ทั้งธูปเทียน และรูปปั้นช้าง ม้า นางรำ วางอยู่เต็มใต้ต้นไม้ต้นนี้ไปหมด คิงค่อยๆเทน้ำลงจนหมด
“มึงรอกูอยู่ตรงนี้ละกัน เดี๋ยวกูเอาที่รองกรวดน้ำไปคืนก่อน”
ผมพยักหน้ารับ แล้วคิงก็เดินเข้าโบสถ์ไป
-เปาะ ปัก-
เสียงกิ่งไม้หล่นลงมาจากต้นไม้ใหญ่ กิ่งไม้ที่หล่นลงมาเกือบจะโดนผมแล้ว อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมเดินออกมาจากตรงนั้น เพื่อหลบถ้ามีกิ่งไม้ตกลงมาอีก ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรครับ คิดแค่ว่ากิ่งไม้คงแก่แล้วหักลงมาเฉยๆ
-พรึบๆ เปาะ ปัก-
คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงกิ่งไม้หักแล้วหล่นลงมาครับ แต่เป็นเสียงเหมือนกิ่งไม้โดนเขย่าแรงๆจากบนต้นไม้ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบนต้นไม้ และสิ่งที่ผมเห็นก็คือ เด็กครับ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ อายุประมาณ4-5ขวบ นั่งอยู่บนกิ่งไม้ที่หักลงมาเมื่อกี้ เด็กคนนั้นนั่งขย่มตัวเองอยู่บนต้นไม้เหมือนกำลังเล่นสนุกอยู่บนนั้น เด็กที่ไหนจะขึ้นไปนั่งเล่นบนต้นไม้สูงขนาดนั้นล่ะครับ ถ้าไม่ใช่…
เด็กผู้ชายที่นั่งอยู่บนต้นไม้ใส่แค่กางเกงสีขาวเก่าๆ กางเกงของเขาขาดวิ่นเหมือนใส่มานานมากแล้ว เนื้อตัวของเด็กซีดขาวและไม่ใส่เสื้อ เขานั่งยิ้มหัวเราะอยู่บนต้นไม้ แลบลิ้นปลิ้นตาไปมา ลิ้นที่แลบออกมายาวมากครับ ยาวเกินกว่าลิ้นปกติของคนเรา และที่ผมสงสัยมากที่สุดก็คือ จุดวงกลม ‘สีเขียว’กลางหน้าผากของเด็ก เขาตายเพราะอุบัติเหตุหรือว่าตายเพราะยังไม่ถึงเวลา?
-พรึบๆ เปาะ ปัก-
เด็กที่นั่งอยู่บนต้นไม้นั่งขย่มตัวแรงๆจนกิ่งไม้ที่นั่งอยู่ตกลงมาอีกครั้ง แล้วก็นั่งหัวเราะเหมือนชอบใจ
“น้องต้องการอะไร? ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น”
ผมมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาก็ตะโกนถามวิญญาณเด็กที่นั่งอยู่บนต้นไม้ เด็กคนนั้นเลิกขย่มตัวแล้วมองลงมาที่ผมแทน ตาของเด็กเป็นสีดำสนิท
ผมไม่ชอบวิญญาณเด็กเลยให้ตายสิ!
เด็กคนนั้นไม่ตอบผมครับ แต่เริ่มเบะปากร้องไห้แทน!!
“ฮือๆ จะหาแม่ ฮือๆ แม่จ๋า แม่ ฮือๆ”
ซวยละ ผมทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเด็กคนนั้นร้องไห้
“แล้วแม่น้องไปไหน?”
“แม่ทิ้งหนูไปแล้ว อึก แม่เอาหนูมาทิ้งไว้ที่นี่ ฮือๆ”
เด็กคนนั้นก้มหน้าร้องไห้ เอามาทิ้งไว้ที่นี่งั้นเหรอ? หรือว่าแม่ของเด็กคนนี้ทำแท้ง?
“หนู ฮึกๆ อยากเกิดเป็นลูกแม่ อยากอยู่กับแม่ อยากให้แม่..อึก..รักหนู หนูรักแม่ แต่แม่ฆ่าหนู ทำแม่ต้องฆ่าหนูด้วย ฮือๆ”
ผมฟังจบก็น้ำตาคลอเพราะความสงสาร เด็กคนนี้ทำผิดอะไรเหรอครับ? เด็กคนนี้เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขายังบริสุทธิ์ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่แม่ของเด็กกลับฆ่าเขาอย่างเลือดเย็น เพราะอะไรผมไม่รู้หรอกครับ แต่ถ้าแม่ของเด็กคนนี้คิดจะมีอะไรกับแฟน ทำไมถึงไม่ป้องกันล่ะครับ ถ้ายังไม่พร้อมหรือยังไม่อยากมีลูก และพ่อของเด็กที่ตัดความรับผิดชอบโดยการไห้ฝ่ายหญิงไปทำแท้ง ผมไม่เข้าใจว่าคิดจะมีอะไรกันได้ แต่คิดที่จะป้องกันไม่ได้ เพราะอะไรกัน?
“น้องอยากได้อะไรไหม เดี๋ยวพี่ทำบุญไปให้”
ผมถาม เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาหาผมอย่างดีใจ
“หนูหิว หนูหิวมากเลย หนูอยากกินนม อยากมีเสื้อผ้าใส่ หนูหนาว”
เด็กคนนั้นพูดออกมาอย่างตื่นเต้น นี่พ่อกับแม่ของเด็กไม่คิดจะทำบุญให้เด็กบ้างเลยเหรอ?
“เดี๋ยวพี่ทำบุญไปให้นะ”
ผมพูดจบเด็กคนนั้นก็พยักหน้าเร็วๆ แล้วยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆหายไป
“ไปกันเถอะ”
เสียงคิงดังมาจากข้างหลัง ผมหันหน้ากลับไป
“คิง พาเราไปซื้อนมกับเสื้อผ้าเด็กหน่อย”
ผมพูดจบคิงก็มองหน้าผมงงๆ
“อะไรนะ มึงจะซื้ออะไรนะ?”
คิงถามซ้ำ
“นมกับเสื้อผ้าเด็กไง ไปกันเถอะ”
ผมพูดจบก็ดึงคิงออกมาจากตรงนั้น คิงพาผมมาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง
“ตอนที่กูไม่อยู่มึงไปเจออะไรอีกแล้วหะ”
คิงถามพลางเดินเข็นรถเข็นตามหลังผมมา
“วิญญาณเด็กน่ะ น่าสงสารมากเลย เราเลยอยากซื้อของทำบุญไปให้”
คิงมองผมพลางกุมขมับ
“มึงนี่นะ”
ผมไม่พูดอะไรแต่ยิ้มส่งกลับไปแทน
“จะซื้อของไม่ใช่รึไง ไปสิ”
คิงดันให้ผมหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว เป็นอะไรของเขา?
ผมเดินเลือกซื้อของกับคิงจนเสร็จ
“มึงหิวยัง?”
คิงหันมาถามผมที่ถือของพะรุงพะรัง เลยทำให้เดินได้ช้ากว่าคิง
“แล้วนี่มึงจะซื้ออะไรมาเยอะแยะหะ เอามานี่ดิ้”
คิงพูดจบก็หยิบถุงออกจากมือผมเอาไปถือ
“คิงอยากกินอะไรล่ะ เรากินอะไรก็ได้”
ผมตอบกลับไป
“ไอ้อะไรก็ได้ของมึงนี่ทำให้กูอยากเตะมึงสักป้าบ”
คิงพูดพลางส่ายหัวอย่างเซ็งๆ
“ซูชิละกัน”
คิงพูดจบก็เดินนำไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ผมแพ้ปลาดิบ!!
“เอ่อคิง..เราแพ้ปลาดิบอ่ะ”
คิงหันมามองผมแล้วแยกขี้ยวใส่
“แล้วบอกกินอะไรก็ได้ หึ!”
ผมยิ้มๆให้คิง
“งั้นข้าวราดแกงแล้วกัน”
คิงพูดจบก็เดินนำออกไป
คิงพาผมมาที่ร้านข้าวแกงหน้ามหาลัย คิงพาผมมานั่งด้านในร้าน ผมมากินร้านนี้กับเพื่อนๆบ่อยครับ แต่ไม่เคยเห็นคิงเลย
“คิงชอบกินร้านนี้เหรอ?”
ผมถามพลางรินน้ำให้คิง
“อืม มากินบ่อย อร่อยดี”
คิงตอบกลับมา
“อ่าว อาคิง อาโซ มาล่วยกังได้ยังไง ขาประจำอั๊วทั้งคู่เลย 5555 อ่าวๆสั่งอาไรดี”
ผมหันไปมองอาเปะเจ้าของร้านยิ้มๆ ผมบอกแล้วผมมากินร้านนี้บ่อย 555
“ผมเอาผัดเผ็ดหมูแดดเดียว ไข่ดาวไม่สุกเหมือนเดิมครับเปะ มึงเอาไร?”
คิงสั่งของตัวเองเสร็จก็หันมาถามผม
“ผมเอากะเพรารวมมิตรทะเลไม่เผ็ดครับ”
อาเปะจดเสร็จก็เดินยิ้มๆออกไป
“กินอะไรเป็นเด็กๆเลยนะมึงอ่ะ”
คิงพูดขำๆ
“เรากินเผ็ดไม่ได้น่ะ”
ผมตอบ
“ถ้ากินแล้วจะเป็นยังไง เคยลองกินไหม”
คิงถามผมพร้อมกับทำสีหน้าเจ้าเล่ จะแกล้งผมล่ะสิ
“เราจะสะอึก สะอึกไม่หยุดจนกว่าจะหายเผ็ด”
คิงมองหน้าผมเหมือนกำลังลังเล
“อ่าวๆ มาเลี้ยวๆ”
ก่อนที่คิงจะได้พูดอะไรอาเปะก็เอาข้าวมาเสริฟ
“โห สีผัดเผ็ดนายโคตรน่ากลัวเลยอ่ะ”
ผมพูดพลางกลืนน้ำลายลงคอ สีแดงขนาดนั้นต้องเผ็ดมากแน่ๆ ถ้าผมกินเข้าไปนี่ไม่ต้องคิดเลยครับ
“ลองกินดูไหมล่ะ”
ผมส่ายหน้ารัวๆเลยครับ ไม่มีทางงง
ผมกับคิงกินข้าวกันเสร็จก็จ่ายตังออกมาจากร้าน
“คิง พาเราไปเอาของทำบุญที่วัดเดิมหน่อย”
คิงพยักหน้ารับ แล้วส่งหมวกกันน็อคมาให้ผม
ผมยืนอยู่นิ่งๆยังไม่ขึ้นรถ
“เอ้า ขึ้นรถสิ ยืนรอใครมาตัดริบบิ้นห้ะ”
คิงหันว่ากวนใส่ผม ก็อยากขึ้นนะแต่ว่า..
“นายช่วยขี่รถให้มันช้าๆหน่อยไม่ได้เหรอ นายขี่เร็วแบบนี้เมื่อกี้เราเกือบตกอ่ะ”
ปกติผมไม่ใช่คนเรื่องมากหรอกครับ ใครจะขี่เร็วขี่ช้าผมนั่งได้หมด แต่คิงขี่รถเร็วเกินไป
เร็วมากๆ จนผมหาที่เกาะแทบไม่ทัน
“เออๆก็ได้ ขึ้นรถได้ยัง”
ผมสวมหมวกกันน็อคกก่อนจะก้าวขึ้นรถ
“ถ้ากลัวตกก็จับเอวกูไว้สิ อย่าโง่!”
คิงเปิดหมวกกันน็อคแล้วหันมาพูดก่อนที่จะ…
“อ๊ะ…!”
คิงจับมือผมทั้งสองข้างให้ไปจับเอวของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะปิดหมวกกันน็อคแล้วสตาร์ทรถออกไป
คุณว่าวันนี้อากาศมันร้อนๆไหมครับ? เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนมากเลยแหละ
คิงขับรถพาผมมาที่วัดเดิมที่ตอนเช้าเรามาทำบุญกัน
“จอดข้างๆต้นไม้ต้นนั้นก็ได้”
ผมชี้ไปทางต้นไม้ใหญ่ๆข้างโบสถ์ คิงจอดรถเสร็จผมก็หยิบถุงของที่ซื้อมาถือไว้
“เราเอาของไปให้เขาก่อนนะ นายจะไปกับเราไหม”
ผมหันไปถามคิง
“ไป”
คิงตอบพลางหยิบถุงที่ผมถืออยู่ไปถือเอง แล้วเดินไป ผมมองตามยิ้มๆ
ผมกับคิงเดินหยุดอยู่ต้นไม้ใหญ่ ผมมองไปที่กิ่งไม้กิ่งเดิมที่ผมเห็นเด็กผู้ชายคนนั้น
“น้องครับ พี่เอาของมาให้แล้วนะ มารับไปด้วยนะ”
ผมพูดจบก็หยิบทั้งนมกล่องรสต่างๆ เสื้อผ้าเด็ก ของเล่น ที่ผมซื้อมาว่างไว้ใต้ต้นไม้
-พรึบๆ-
เด็กผู้ชายคนนั้นนั่งขย่มตัวอยู่บนกิ่งไม้อย่างดีใจ นั่งตบมืออยู่บนนั้นแล้วยิ้มมาให้ผม
“ระวังด้วย”
คิงพูดจบก็ดึงผมออกมา เพราะเห็นกิ่งไม้ด้านบนมันโยกไปมา
“พี่เอามาให้ รับไปด้วยนะ แล้วก็พี่ขอให้ไปเกิดใหม่เร็วๆนะครับ”
ผมพูดจบเด็กคนนั้นก็หยุดขย่มตัวแล้วก็ใช้ทั้งสองมือและสองขาคลานลงมาจากบนต้นไม้ ผมต้องใช้คำว่าคลานนั่นแหละครับ เพราะเขาค่อยๆคลานลงมาจากกิ่งที่เขานั่งอยู่ลงมาเรื่อยๆ เหมือนเด็กที่กำลังหัดคลานใหม่ๆ ถึงผมจะเห็นวิญญาณบ่อย แต่ถ้าคลานลงมาหากันแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ ผมค่อยๆก้าวถอยหลังออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ คิงที่ยืนอยู่ข้างหลังผมเดินเข้ามาหาแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้แล้วก้มลงมากระซิบข้างหูผมว่า…
“ไม่ต้องกลัว กูอยู่นี่ อยู่ข้างๆมึง”
เสียงเข้มของคิงทำให้ผมใจชื้นขึ้นมา อย่างน้อยผมก็ยังมีคิงอยู่เป็นเพื่อน
เด็กคนนั้นค่อยๆคลานมาหยุดอยู่ที่ของเล่นครับ เขานั่งมองของเล่นก่อนที่จะหัวเราะชอบใจ เขาส่งยิ้มมาให้ผม ผมมองแล้วสงสารเขามาก เขายังไม่ได้เกิดมาเล่นของเล่นเลย ยังไม่ได้เล่นของเล่นที่เขาอยากเล่น เขายังไม่ได้เกิดมากินนมแม่ ยังไม่ได้เกิดมาได้ความรัก ความอบอุ่น หรือการเลี้ยงดูจากคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วยซ้ำ
แล้วเขาทำอะไรผิด? ทำไมเขาถึงถูกทิ้ง? ทำไมพวกเขาถึงใจร้ายขนาดนี้?
ผมยิ้มกลับไปด้วยความเอ็นดู ผมอยากให้เขาไปเกิดใหม่ในครอบครัวดีๆ ครอบครัวที่พร้อมจะดูแลเขาได้
“พี่ไปก่อนนะ”
ผมพูดจบก็โบกมือลาเด็กตัวน้อยที่นั่งเล่นของเล่นอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ เขาหันมาโบกมือให้ผมแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“ไปกันเถอะ”
ผมหันไปบอกคิง คิงพยักหน้าแล้วเดินตามผมมา
-ครืดๆ-
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมสั่นจนผมต้องหยิบขึ้นมาดู
-พี่เบียร์-
“ฮัลโหล พี่เบียร์”
ผมกดรับทันที
“กลับบ้านได้ยัง จะ 5 โมงเย็นแล้ว”
เสียงดุๆของพี่เบียร์ทำให้ผมยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู 16:55 นาที
“กำลังจะกลับแล้ว พี่เบียร์กินข้าวยัง”
ผมตอบกลับไป
“ยัง รอน้องชายกลับมาทำกับข้าวให้กิน แต่มึงไม่ต้องรีบหรอก เพราะตอนนี้ -กู-หิว-มากกกก”
ผมขำกับการประชดกวนๆของพี่เบียร์ ตกลงที่โทรมาเพราะเป็นห่วงหรือว่าหิวกันแน่ 5555
“โอเคๆ โซจะกลับเดี๋ยวนี้แหละ แค่นี้นะ”
ผมพูดจบก็วางสายจากพี่เบียร์ไป
“กลับกันเถอะ”
ผมหับไปบอกคิง คิงสตาร์ทรถทันที
คิงพาผมมาส่งถึงบ้านตอน 5โมงครึ่งพอดิบพอดี
“ขอบใจที่วันนี้ไปทำบุญเป็นเพื่อนกู”
คิงรับหมวกกันน็อคจากผมไป ผมพยักหน้ายิ้มรับ
“ไม่เป็นไร ขี่รถกลับดีๆนะ เราเข้าบ้านแล้ว”
ผมพูดจบก็โบกมือลาให้คิง ก่อนจะหันหลังเข้าบ้าน
“เดี๋ยวก่อน ขอเบอร์มึงหน่อยสิ”
นี่ผมหูฝาดไปรึเปล่า คิงขอเบอร์ผมงั้นเหรอ?
“ให้มันน้อยๆหน่อยไอ้คิง ชักจะเยอะไปล้ะ”
เสียงพี่เบียร์ดังมาจากประตูบ้าน แล้วเดินมาหาพวกผม
“ผมไม่เอาไปโทรจีบมันหรอก ผมขอไว้เผื่อมีธุระ”
คิงตอบพี่เบียร์ แต่ทำไมผมรู้สึกไม่พอใจล่ะ
“โซขอตัวก่อนนะ จะไปทำกับข้าว!”
ผมพูดเสียงไม่พอใจนิดหน่อยก่อนจะเดินออกมา ไม่ห่งไม่ให้มันแล้วเบอร์เนี่ย!
“ต้องงี้ดิน้องกู 55555”
เสียงพี่เบียร์หัวเราะตามหลังผมมา ผมไม่สนใจแล้วเดินเข้าบ้าน
“อะไรของมัน เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย”
คิงทำหน้างงๆเมื่อเห็นว่าโซดาดูหงุดหงิด ตอนนี้เหลือแค่เบียร์กับคิงสองคนที่อยู่หน้าบ้าน
“มึงกำลังคิดจะทำอะไร!”
เสียงดุๆของเบียร์หันมาถามคิง ทั้งน้ำเสียงและหน้าตาของเบียร์ดูจริงจังมากกว่าเมื่อกี้นี้มาก
“ขอเบอร์ไอ้โซไง”
คิงตอบตามที่ตัวเองคิด
“อย่ายุ่งกับไอ้โซ กูขอเตือน”
เบียร์มองหน้าคิงด้วยสายตาจริงจัง
“ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรไอ้โซ เราแค่มีเรื่องที่ต้องคุยกันเท่านั้น”
คิงก็ตอบเบียร์จริงจังไม่ต่างกัน
“พี่เบียร์ ไข่ในตู้เย็นหมดแล้ว ไปซื้อให้หน่อย”
เสียงของโซดาตะโกนมาจากในบ้าน
“เออๆ เดี๋ยวกูไปซื้อให้”
เบียร์ตะโกนตอบกลับไป
“อย่าให้กูรู้ว่ามึงทำให้ไอ้โซเสียใจ”
เบียร์พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้คิงมองตามไปอย่างไม่เข้าใจ
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะเดินผ่านต้นไม้วันละกี่ต้น แต่ถ้าได้ยินเสียงอะไรดังอยู่บนต้นไม้ อย่าเงยหน้าขึ้นไปมองนะครับ เพราะ “คุณอาจจะเห็นใครนั่งอยู่บนต้นไม้ก็ได้”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ