I'm Freak__ผมเหรอ...ตัวประหลาด!! (Yaoi)

7.3

เขียนโดย pimmizzii

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.29 น.

  10 chapter
  1 วิจารณ์
  11.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ชั้น2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ผมรีบวิ่งลงไปที่หน้าลานเกียร์ เด็กวิศวะบางคนหันมามองผม บางคนก็หันไปซุบซิบกัน ผมยืนมองไปรอบๆเพื่อหาตัวคิง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา หรือว่ากลับไปแล้ว ผมมาสายนี่นา 16:15 นาที สายไป 15 นาที คิงคงไม่มานั่งรอผมหรอก
 
“มาหาใครเหรอครับ?”
 
ผมหันไปตามเสียงเรียกข้างหลัง
 
“เอ่อ…คือ คุณพอจะรู้จักคิงหรือเปล่าครับ?”
 
ผมถามกลับไป คนต้องหน้าผมทำหน้างงๆนิดหน่อยก่อนตอบว่า
 
“ถ้าไอ้คิงที่เป็นเดือนคณะ ผมพอจะรู้จักครับ”
 
คนตรงหน้าผมส่งยิ้มกลับมาให้
 
“ทำอะไรอยู่ ไอ้เรย์..”
 
เสียงของคิงเรียกคนตรงหน้าผมว่า ‘เรย์’ คงเป็นเพื่อนกันสินะ
 
“ผู้ชายคนนี้เขามาตามหามึง เด็กมึงรึเปล่า?”
 
ผมเบิกตาโตด้วยความตกใจกับคำพูดของเรย์
 
“ไม่ใช่นะ เราไม่ได้เป็นอะไรกับคิง ”
 
ผมรีบพูดทันที คิงหันมามองหน้าผมนิดๆก่อนกลับไปคุยกับเรย์ต่อ
 
“มึงไปนั่งรอที่โต๊ะก่อน เดี๋ยวกูตามไป”
 
เรย์พยักหน้าแล้วเดินออกไป
 
“มึงมาสาย”
 
คิงพูดเสียงตำหนิ
 
“เราล้างห้องน้ำอยู่”
 
ผมตอบกลับไป คิงยิ้มขำๆ
 
“กูบอกแล้วว่าไม่ต้องเข้า สมน้ำหน้า”
 
ปากหมาเหมือนเดิม ให้ตายสิ
 
“เราขอโทษที่มาสาย ว่าแต่นัดเรามามีอะไรเหรอ ไหนบอกไม่อยากเจอเราแล้วไง”
 
คิงไม่ตอบอะไรแต่ดึงผมให้เดินตามไป
 
“จะพาเราไปไหน ปล่อยเราก่อนเราเดินไม่ทัน เดินช้าๆก็ได้”
 
ผมพยายามดึงแขนผมกลับมาแต่คิงก็ไม่ยอมปล่อย
 
“มาแล้วเว้ยย เด็กไอ้คิง 555”
 
คิงพาผมมาหยุดอยู่ที่โต๊ะเพื่อนๆของเขา เพราะผมเห็นเรย์นั่งอยู่ในกลุ่มด้วย
 
“นั่งลง”
 
คิงดึงผมให้นั่งลงแล้วนั่งข้างๆผม
 
“พาเรามาทำไม”
 
ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ผมนั่งมองเพื่อนๆของคิงทั้ง 3 คน คนที่ชื่อเรย์ผมรู้จักแล้ว แต่อีก 2 คน ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
 
“นี่ไอ้เม้าส์ ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นชื่อไอ้โอม คนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี้ชื่อไอ้เรย์ เพื่อนๆกูเอง”
 
คิงแนะนำเพื่อนๆของเขาทีละคน
 
“หวัดดี เราชื่อโซดา เรียกเราว่า โซ เฉยๆก็ได้”
 
ผมแนะนำตัวเองบ้าง
 
“โซเป็นเด็กไอ้คิงเหรอ คบกันอยู่ใช่ป่ะ”
 
เม้าส์ถามผม ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา
 
“เปล่าๆๆ เราไม่ได้เป็นอะไรกับคิง”
 
ผมรีบแก้คำพูดของเม้าส์ทันที รู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆ ที่เม้าส์พูดว่าผมเป็นเด็กของคิง
 
“อ่าว แล้วมึงพาเขามาทำไมวะ”
 
คนที่ชื่อโอมปิดหนังสือแล้วหันมาถามคิง
 
“คนที่กูเล่าให้พวกมึงฟังเมื่อเช้าไง”
 
พอคิงพูดจบทุกคนก็อ้าปากค้างทำตาโตกันใหญ่
 
“นี่อย่าบอกนะว่า…”
 
เรย์หันมาหาผมแล้วทำปากพะงาบๆ
 
“เออนั่นแหละ”
 
คิงตอบกลับไป
 
“นี่โซเห็นผีตามไอ้คิงจริงๆเหรอ”
 
เม้าส์หันมาถามผมอย่างตื่นเต้น ผมไม่พูดอะไรแต่พยักหน้าแทน
 
“เอาแล้วไงมึง ไปทำสาวไหนเขาเสียใจแล้วเขาทำของใส่รึเปล่าว้ะ”
 
ผมรีบหันไปมองหน้าคิงทันที อย่าบอกนะว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
 
“มึงจะบ้าเหรอ”
 
คิงหันไปด่าเม้าส์
 
“คนที่ตามคิงนี่เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอ่ะ”
 
เรย์หันมาถามผม
 
“ผู้ชาย”
 
ผมตอบกลับไป เพื่อนๆของคิงหันมามองหน้าคิงแทบจะพร้อมกัน
 
“หน้าตาเป็นยังไงอ่ะ บอกได้ป่ะ”
 
ผมนั่งนึกหน้าของวิญญาณที่ตามคิงแล้วอธิบาย
 
“ตัวสูงๆแล้วก็ผิวขาว ตาตี่ๆเหมือนมีเชื้อสายจีนอ่ะ แล้วก็ตัดผมสั้นไถข้างซ้าย ”
 
ผมอธิบายตามที่ผมเห็นเพื่อนๆของคิงนั่งเงียบกริบ
 
“ไอ้ไม้!”
 
คิงพูดเสียงเบา ผมหันไปมองหน้าคิง
 
“มึงอย่าเพิ่งด่วนสรุปสิว้ะ”
 
คนที่ชื่อโอมพูดขึ้นเสียงนิ่ง
 
“แต่กูแน่ใจว่าเป็นมัน”
 
-ปึก-
 
อยู่ดีๆขวดน้ำบนโต๊ะก็ล้มลง ผมหันไปมองขวดน้ำอย่าง งงๆ มันจะล้มได้ยังไงในเมื่อลมไม่ได้พัดแรงขนาดนั้น และน้ำก็อยู่เต็มขวด
 
“ใช่คนนี้ไหม”
 
คิงพูดจบก็ยื่นโทรศัพท์ให้ดูรูปผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาเขาเหมือนวิญญาณที่ตามคิงเป๊ะๆ
 
“ใช่ๆ คนนี้แหละ”
 
ผมตอบกลับไป คิงหันหน้าไปมองเพื่อนๆ
 
“มันตามกูจริงๆด้วย”
 
คิงพูดเสียงเบา
 
“แล้วมันจะมาตามมึงทำไม ทำไมไม่ไปตามยายฮานิว้ะ”
 
เรย์พูดเสียงหงุดหงิด แล้วใครคือ ‘ฮานิ’
 
“อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลย มันอาจไม่มีอะไรก็ได้”
 
โอมพูดเสียงเครียด
 
“เอ่อ…คือว่า มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า พูดอะไรกันเราไม่เข้าใจ”
 
ผมพูดออกไปท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด
 
“มึงคุยกับมันได้ไหม วิญญาณที่ตามกูน่ะ กูอยากคุยกับมัน”
 
จะบ้าเหรอ คนบ้าอะไรอยากคุยกับวิญญาณ!!
 
“นายจะบ้าเหรอ เราพยายามช่วยนายไม่ให้วิญญาณนั้นเข้าใกล้ แต่นายกลับอยากคุยกับเขาเนี่ยนะ นายรู้ไหมว่าวิญญาณนั้นหน้ากลัวแค่ไหน เขาตามไปทำร้ายเราทั้งๆที่เราไม่ได้รู้จักเขา เพราะแค่เราแค่เตือนนายให้ระวังตัว”
 
ผมไม่เข้าใจคิงเลยจริงๆ ทำไมถึงอยากคุยกับวิญญาณดวงนั้น
 
“มันทำร้ายมึงด้วยเหรอ!!”
 
คิงถามเสียงเข้ม เดี๋ยวนะ!นี่ผมเผลอพูดอะไรออกไปรึเปล่า
 
“ไม่มีอะไรหรอก เราไม่ได้เป็นอะไร”
 
ผมก้มหน้างุดเพราะสายตาที่คิงมองมาทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ
 
“กู-ถาม-ว่า- มันทำร้ายมึงด้วยเหรอ?”
 
เสียงเข้มกดต่ำลงเรื่อยๆ ทำไมต้องทำเสียงหน้ากลัวแบบนี้ด้วย
 
“อืม แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเรามากหรอก แค่มาขู่ให้กลัว”
 
ผมพูดจบทั้งกลุ่มก็เงียบ เงียบมาก
 
“กูอยากคุยกับมัน /ไอ้คิง / ไม่ได้นะ”
 
คิงพูดจบเพื่อนๆของคิงรีบห้ามทันที
 
“กูอยากคุยกับมันให้รู้เรื่อง คนรอบข้างกูจะได้ไม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้อีก ไอ้เม้าส์ที่มึงเข้าโรงบาลเพราะรถชนทั้งๆที่มึงก็เป็นนักแข่งรถ ไอ้โอมที่มึงตกบันไดจนต้องเข้าเฝือกทั้งๆที่มึงเดินอยู่คนเดียว ส่วนมึงไอ้เรย์ที่มึงเกือบรถล้มเมื่อเช้าเพราะมีเงาสีดำวิ่งตัดหน้ารถ พวกมึงคิดว่ามันบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกูจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้แต่กูเริ่มทนเห็นพวกมึงต้องมาเจ็บตัวไม่ไหวแล้ว มันทำให้กูรู้สึกผิด ผิดที่เป็นพวกมึงที่ต้องมาเจ็บตัว ไม่ใช่ตัวกูเอง”
 
คิงพูดจบก็ก้มหน้าลง ผมนั่งฟังความในใจของคิงแล้วรู้สึกสงสาร เขาทำอะไรผิดวิญญาณดวงนั้นถึงตามทำร้ายเขาและคนรอบๆข้างของเขาแบบนี้
 
“พวกกูไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของมึงเลยนะ มึงอย่าคิดมากสิ พวกกูอาจจะประมาทหรือไม่ระวังเองก็ได้ มึงจะมาโทษตัวเองทำไม”
 
โอมพูดพลางเอื้อมมือมาตบไหล่คิงเบาๆ
 
“ใช่ ไอ้โอมพูดถูก พวกกูไม่เคยคิดว่ามันเป็นความผิดของมึงเลยนะ ถ้าคนที่ผิดควรจะเป็นยายฮานินั่นมากกว่า”
 
เรย์พูดหันมาพูดกับคิง
 
“แต่กูอยากคุยกับมัน อยากคุยให้มันรู้เรื่อง กูไม่อยากค้างคาใจ”
 
คิงดื้อชะมัด แต่ถ้าผมให้คิงคุยกับวิญญาณดวงนั้นล่ะ มันจะเป็นยังไง
 
“นายอยากคุยกับเขาจริงๆใช่ไหม”
 
ผมหันไปถามคิงที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คิงพยักหน้าตอบกลับมา
 
“แต่นายต้องสัญญากับเราก่อนว่า นายจะไม่ยึดติดหรือโทษตัวเอง และถ้าคุยแล้วนายต้องทำบุญไปให้เขาด้วยนะ”
 
ผมพูดจบคิงก็พยักหน้ารับ เพื่อนๆของคิงนั่งมองหน้าผมอย่างเป็นกังวล
 
ผมหันมองไปรอบๆลานเกียร์ คนเริ่มน้อยลงแล้ว บรรยากาศก็เริ่มเย็นมากแล้วเหมือนกัน
 
“งั้นนายต้องถอดสร้อยพระออก แล้วตั้งสมาธิดีๆ ถ้าเราถามหรือพูดอะไรนายต้องตอบนะ”
 
คิงถอดสร้อยพระออกแล้วมองมาที่ผม ผมมองไปรอบๆเพื่อหาวิญญาณผู้ชายคนนั้นแล้วสายตาของผมก็มาหยุดอยู่ที่ข้างหลังของโอมและเม้าส์ เขายืนอยู่ข้างหลังนิ่งๆเหมือนยืนรออยู่ก่อนแล้วเขาค่อยๆเดินเข้ามานั่งข้างๆเรย์ที่นั่งอยู่คนเดียวแล้วมองผมนิ่งๆ
 
“เขามาแล้ว”
 
ผมพูดขึ้น ทุกคนหันไปมองรอบๆตัวเองเหมือนหาตัวของ ‘ไม้’
 
“ตอนนี้มันอยู่ตรงไหนอ่ะ”
 
เม้าส์มาถามผมแต่สายตาก็ยังมองไปรอบๆตัว
 
“นั่งอยู่ข้างๆเรย์”
 
ผมตอบ แล้วเป็นเรย์ที่รีบหันไปยังที่นั่งข้างๆตัวเองทันที
 
“ข้างๆเราเนี่ยนะ”
 
เรย์ชี้นิ้วไปที่นั่งข้างตัวเอง ผมพยักหน้ารับ
 
“เชี่ยยยย”
 
เรย์พูดจบก็ขยับตัวออกมา
 
“หึๆ”
 
ไม้หัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนเป็นเรื่องตลก ผมได้แต่มองเขานิ่งๆผมเริ่มขยับเข้าใกล้คิงมากขึ้นเรื่อยๆเพราะถ้าเกิดไม้คิดจะทำอะไรคิงขึ้นมา ผมจะได้หยิบสร้อยพระขึ้นมาใส่ให้คิงได้ทัน
 
“ถามให้หน่อยว่ามันต้องการอะไร”
 
คิงนั่งมองไปที่นั่งข้างๆของเรย์ตลอดแทบไม่ละสายตา ตรงกับสายตาที่ไม้มองมาที่คิงพอดี
 
“ชีวิตมึงไง”
 
เสียงของไม้ตอบกลับมา ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะเขาจ้องคิงราวกับจะฆ่าคนที่อยู่ตรงหน้าให้ได้
 
“เขาต้องการชีวิตนาย”
 
ผมตอบออกไปตามตรง ถ้าผมไม่พูดคิงก็จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ไม้ต้องการ
 
“มึงกำลังเข้าใจพวกกูผิด”
 
คิงตอบกลับออกมา ผมหันไปมองคิง นี่เขาไม่กลัวเลยเหรอ?
 
ไม้ไม่ตอบอะไรแต่มองหน้าคิงนิ่งๆ สายตาอาฆาตแค้นยังคงอยู่
 
“เขาไม่ตอบอะไร เขานั่งมองหน้าคิงอยู่”
 
คิงถอนหายใจออกมาแล้วหันมามองหน้าผม
 
“บอกมันทีว่ากูขอโทษ ขอโทษที่ช่วยมันไว้ไม่ทัน”
 
ผมมองหน้าคิงอึ้งๆ คิงเคยช่วยชีวิตไม้งั้นเหรอ ไม่น่าล่ะไม้ถึงทำอะไรคิงไม่ได้ เพราะคิงคือคนที่ช่วยชีวิตไม้นี่เอง วิญญาณต่อให้อาฆาตแค้นมากแค่ไหนแต่ก็ทำอะไรต่อผู้มีพระคุณไม่ได้หรอกครับ
 
ไม้มองหน้าคิงตาแดงกล่ำด้วยความโกรธ เขากำมือแน่นจนมือสั่น ผมเริ่มเห็นท่าไม่ดีเลยรีบหันไปบอกให้คิงใส่สร้อยพระ
 
“คิงใส่สร้อยพระเร็ว ใส่เดี๋ยวนี้!!”
 
คิงหยิบสร้อยพระขึ้นมาใส่ แล้ววิญญาณไม้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็หายไป
 
“เกิดอะไรขึ้น?”
 
เม้าส์ถามผมที่อยู่ดีๆบอกให้คิงใส่สร้อยพระ
 
“ไม้ดูเหมือนไม่พอใจที่คิงพูดเมื่อกี้”
 
ผมตอบเม้าส์
 
“พรุ่งนี้มึงว่างไหม?”
 
คิงหันมาถามผม พรุ่งวันเสาร์ ผมก็ต้องว่างสิ วันหยุดนี่
 
“ว่าง”
 
“ไปทำบุญเป็นเพื่อนกูหน่อย”
 
ห้ะ! คิงชวนผมไปทำบุญ ผมหันไปมองเพื่อนๆของคิงที่ตอนนี้นั่งอ้าปากค้างกันเป็นแถว
 
“มึงไม่สบายเหรอคิง”
 
เม้าส์ถามอย่างอึ้งๆ
 
“คนอย่างมึงจะเข้าวัด OMG!”
 
เรย์ก็พูดเหมือนไม่เชื่อ
 
“นี่มึงใช่คิงเพื่อนกูจริงๆใช่ไหม”
 
โอมก็มองมาที่คิงเหมือนแปลกใจ
 
“กูเข้าวัดแล้วผิดตรงไหนว้ะ ไอ้พวกเชี่ย!”
 
คิงหันไปว้ากเพื่อนๆอย่างขำๆ
 
“เราไปด้วยก็ได้”
 
ผมหับไปบอกคิง
 
“โอเค พรุ่งนี้9โมงเช้า กูจะไปรอหน้าบ้านมึงละกัน”
 
ผมพยักหน้ารับ
 
“เฮ้ยๆๆๆ มึงรู้จักบ้านโซด้วยเหรอว้ะ ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกันไง คบกันก็บอกๆ”
 
เม้าส์พูดแซวๆผมกับคิง ผมก้มหน้าลงจนคางแทบจะติดอก ทำไมต้องเขินด้วย ไม่เข้าใจ?
 
“ไร้สาระ กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกัน”
 
คิงพูดจบผมก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผมต้องรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของคิงด้วย ก็พูดถูกของเขาแล้วนี่ ผมกับคิงไม่ได้เป็นอะไรกัน เพื่อนก็ไม่ใช่ คนรู้จักก็ไม่เชิง
 
“งั้นเรากลับก่อนนะ เรามีธุระต่อ”
 
ผมลุกขึ้นทันทีที่พูดจบ เพราะยิ่งเห็นหน้าคิงผมยิ่งหงุดหงิด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม
 
ผมเดินออกมาโดยที่ไม่ฟังเสียงตามมาข้างหลัง อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ผมเดินออกมาหน้าตึกวิศวะ ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ 17:45 นาที เย็นมากแล้ว ผมไม่อยากกลับบ้านคนเดียวมืดๆสักเท่าไหร่ ผมเดินมาเรื่อยๆจนได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
 
“หึๆหึๆ”
 
เสียงหัวเราะที่ผมได้ยินในห้องน้ำ มันดังมาจากชั้น2ของตึก
 
“มาอยู่กับฉันสิ มาอยู่ด้วยกัน”
 
เสียงเบาๆที่ลอยมาตามลมทำให้ผมหันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นมีใคร ผมเลยตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมองบนตึก
 
ผู้หญิงที่ผมเจอในห้องน้ำเธอยืนแอบอยู่ข้างกำแพง เธอชะโงกหน้ามาแค่ครึ่งหน้าแล้วยืนกวักมือเรียกผมอยู่ตรงนั้น เธอยิ้มจนปากของเธอฉีกถึงหู เธอเอียงคอมองผมเหมือนเดิม
 
“มาอยู่ด้วยกันสิ มาเป็นเพื่อนกัน หึๆ”
 
เธอกวักมือเรียกผมอยู่อย่างนั้น จนผมต้องหันหน้าหนี
 
-กรี๊ดดดดด-
 
ผมได้ยินเสียงกรี๊ดจนแสบแก้วหูเลยตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด และสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มาตึกวิศวะตอนเย็นๆอีกเลย
 
 
 
 
 
 
 
ถ้าคุณต้องอยู่ที่โรงเรียนหรือมหาลัยตอนเย็น อย่ามองไปที่ตึกเก่าๆมืดๆนะครับ “เพราะอาจจะมีคนยืนกวักมือเรียกคุณอยู่ก็ได้ ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา