ELIXIR EP.1 เปิดศึก 3 พิภพ
-
3) หมาจนตรอก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความการตัดสินใจครั้งใหญ่มาถึงแล้ว จะเลือกสิ่งใดระหว่าง...เสี่ยงตายเพื่อลูก หรือจะอยู่รอดแล้วกลับไปอย่างหมาขี้แพ้ เคราส์ยืนกัดฟันครุ่นคิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจ ฉัน...ฉันมาที่นี่ด้วยความหวังของทุกคน..อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว เอลิน่า...ลูกพ่อ..พ่อจะต้อง..!
“ท่านเทพี...ข้า...ข้า..!! " เคราส์ตะโกนเรียกเทพี "มีอะไรอีก? ถ้าจะคืนก็เอาไปเทลงที่เหวซะสิ" "กรอด*ไม่ใช่!!.... ข้าน่ะ..ข้าน่ะ!!ข้าจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกข้าตายอย่างเด็ดขาด!!”
ในที่สุด เคราส์ได้ยืนกรานตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำเพื่อลูก เขารวบรวมความกล้าและพลังทั้งหมดที่มีวิ่งมุ่งหน้ากลับออกไปที่ปากถ้ำ คราวนี้เคราส์เอาขวดอิลิเซอร์ขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อใช้เป็นแสงส่องนำทางแทนตะเกียง เคราส์รู้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้นางเทพีแก้วแห่งสวรรค์กำลังไล่ตามหลังเขามาติดๆ เคราส์เห็นท่าไม่ค่อยจะดี จะต้องโดนจับได้แน่ๆ เพราะเธอเหาะเหินได้รวดเร็วมากๆ จึงแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ด้วยการโกยก้อนหินดินทรายที่อยู่บนพื้นถ้ำขึ้นมาจนเต็มกำมือข้างขวา พร้อมกับหยุดตะโกนเรียกเทพีแห่งแก้วสวรรค์ “แฮ่กๆ...ท่านเทพี นี่ของฝาก!!!” แล้วจัดการสาดเศษหินทรายเหล่านั้นใส่เข้าไปเต็มๆที่ดวงตาของเทพีพร้อมทั้งกระตุกผ้าแพรที่เธอใส่อยู่จนหลุดเปลือยทั้งตัวเป็นการแถม
”กรี้ดดดดด เจ้าเศษเดนมนุษย์!! แก!!...แกมัน...!!!!!” เทพีร้องกรี้ดลั่นพร้อมกับหยุดชะงักไปด้วยความอายและความเจ็บแสบที่ดวงตา เคราส์ถือโอกาสนั้นวิ่งหนีออกมาจนพ้นปากถ้ำ และรีบหยิบเข็มทิศในย่ามขึ้นมาดูทันทีเพื่อหาทางวิ่งหนีกลับไปหมู่บ้าน แต่ความโชคร้ายก็บังเกิดเมื่อเข็มทิศอันนั้นเกิดปั่นป่วนไปหมดอาจจะด้วยความที่อยู่ใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เคราส์จึงไม่มีทางเลือกต้องหาทิศทางจากดาวเหนือบนฟ้าแทน เมื่อพบทิศทางแล้วก็วิ่งหนีกลับไปทางด้านตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน เคราส์รู้ตัวดีว่าหากจะวิ่งไปให้ถึงหมู่บ้านในวันนี้เลย ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ จึงได้คิดแผนบ้าบิ่นขึ้นมา เขาจำลำธารอันเชี่ยวกราดสายหนึ่งที่เขาเคยผ่านมาก่อนจะมาถึงถ้ำนี้ได้ มันเป็นลำธารสายเดียวกับที่ไหลผ่านและไปสิ้นสุดที่บึงในหมู่บ้านของเขา ดังนั้นสิ่งที่เคราส์ตัดสินใจได้ขณะนี้คือการวิ่งไปที่ลำธารให้เร็วที่สุดเพื่อจะกระโดดหนีลงไปกับกระแสน้ำ เคราส์วิ่งไปพร้อมหันเหลียวหลังไปมองด้วยว่าเทพีแก้วสวรรค์ยังตามมาหรือเปล่า ปรากฏว่าเธอตามมาจริงๆ ตอนนี้เธอลอยตามหลังเขามาห่างกันแค่ไม่ถึง 300 เมตร เคราส์จึงต้องรีบเร่งฝีมือขึ้นไปอีก แต่ด้วยความมืดมิดของป่าในยามค่ำคืน แสงจากอิลิเซอร์ในมือเขาไม่อาจส่องสว่างพอที่จะเห็นทางอันกว้างใหญ่ในป่าได้ ทำให้เคราส์วิ่งหนีได้ไม่เร็วเท่าที่ควร ตัวเขาเองเริ่มที่จะรนลานเพราะเวลานี้เทพีแห่งแก้วสวรรค์ เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ตัวเขาแล้ว เขาตัดสินใจซ่อนตัวเองหลังต้นไม้ใหญ่เพื่อจะหยุดพักแล้วใช้สมาธิฟังเสียงสายน้ำไหล ”ได้ยินแล้ว..ข้างหน้า!” เสียงกระแสน้ำนั้นน่าจะอยู่ถัดไปทางด้านหน้าเขาไม่ไกลนัก จึงได้เริ่มที่จะวิ่งต่อไปอีกสักระยะหนึ่งจนสามารถได้ยินเสียงกระแสน้ำในลำธารได้อย่างชัดเจน แต่นั่นก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว บัดนี้นางเทพีแห่งแก้วสวรรค์ได้หาตัวเขาเจอและได้มาโผล่ปรากฎตัวดักทางหนีตรงหน้าเขาอีกครั้ง เคราส์ถึงกับหน้าถอดสี แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ย่อท้อที่จะไปต่อ เขาม้วนตัวกลิ้งลงกับพื้นผ่านใต้เท้าของนางเทพีไป แล้วลุกขึ้นมาวิ่งต่อด้วยกำลังขาทั้งหมดที่ยังเหลือมุ่งไปยังลำธารข้างหน้า ในจิตใจเขายังหวังที่จะรอดกลับไปเจอหน้าลูกเมียที่บ้าน แต่ด้วยพลังอันเหนือธรรมชาติของเทพีแก้วแห่งสวรรค์ พละกำลังจากใจของมนุษย์ธรรมดาจึงมิอาจสู้หนีพ้นจากเงื้อมมือของเธอไปได้ เธอได้เสกรากไม้เถาวัลย์และใบไม้จากพื้นป่าให้รวมกันกลายเป็นงูยักษ์มาชูคอขู่ขวางทางไปลำธารตรงหน้าเขาไว้ ตอนนี้ทั้งด้านหน้าก็มีอสรพิษ ด้านหลังของเขาก็มีเทพีที่จ้องจะเอาอิลิเซอร์คืน เขาได้ถูกล้อมไว้หมดแล้ว “ ไม่มีทางหนีหรอกมนุษย์ ผืนป่าแห่งนี้เป็นที่อาศัยของข้า จงเลือกซะ...จะส่งมันคืนมา หรือจะให้ข้าจุมพิตแล้วส่งวิญญาณเจ้าไปรายงานตัวแก่ท่านยมบาล ” นางเทพียื่นข้อเสนอทางรอดให้แก่เคราส์อีกครั้ง เคราส์ยืนนิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เกิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา ”ท่านเทพี!!” เคราส์ตะโกนเรียกนางเทพีพร้อมกับหยิบขวดElixirขึ้นมาจากย่าม ทำทีว่าจะยื่นมันคืนให้นาง แต่ทว่า “..ข้าขอปฏิเสธ!” พูดจบ เคราส์ก็ได้เปิดจุกขวด “เจ้าจะทำอะไรน่ะ!?” เคราส์ยกน้ำElixirขึ้นมาจิบเพียงหนึ่งจิบ แล้วนำ Elixir ที่เหลือใส่กลับลงไปในถุงย่ามตามเดิม จับมัดปากถุงจนแน่น แล้วจัดการโยนถุงย่ามนั้นข้ามหัวอสรพิษยักษ์ไปตกลงที่ลำธารอย่างแม่นยำ แต่ในตอนที่โยนถุงไป เคราส์เพิ่งสังเกตเห็นบาดแผลลึกที่มือขวาของเขาซึ่งน่าจะเกิดจากการโดนเศษหินบาดตอนที่หกล้มในถ้ำ อย่างไรก็แล้วแต่ถุงย่ามที่มีขวด Elixir อยู่ก็ได้ไหลไปตามกระแสน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทพีแก้วแห่งสวรรค์เห็นดังนั้นก็กริ้วโกรธด่าทอเคราส์เป็นการใหญ่ “ไอ้...ไอ้มนุษย์สกปรก!! แก เหตุใดถึงทำกับสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ของผู้สืบทอดเยี่ยงนี้ !!” เคราส์เวลานี้รู้สึกได้ถึงพลังอันมหาศาลกำลังไหลเวียนอยู่ทั่วร่างของเขาหลังจากที่จิบ Elixir เข้าไปเพียงแค่จิบเดียว อาการอ่อนล้ารวมถึงบาดแผลเล็กใหญ่ตามตัวของเขาได้หายไปเกือบหมด ดวงตาสีฟ้าของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวมรกต เขายืนกำหมัดแน่นและหันหน้ามาจ้องตากับเทพีแห่งแก้วสวรรค์ตรงๆ เขาไม่มีความกลัวในแววตาอีกแล้ว เขาตัดสินใจหันกลับมาสู้อย่างหมาจนตรอก เขาต้องการที่จะรอดไปจากที่นี่เพื่อไปกลับเจอลูกชายของเขา ขณะเดียวกันก็ได้เตรียมใจไว้ หากเขาตายหรือพ่ายแพ้ตรงนี้ ก็จะขอภาวนาให้ Elixir เดินทางตามกระแสน้ำไปถึงที่หมู่บ้านโดยหวังให้ใครสักคนในหมู่บ้านไปพบเจอกับมันและส่งคืนไปให้ครอบครัวเขา เมื่อเตรียมใจพร้อมสู้แล้ว เขาได้วิ่งกระโดดเข้าประเคนหมัดใส่เทพีแห่งแก้วสวรรค์ทันที เทพีใช้มือขวารับพลังหมัดซ้ายของเคราส์ที่รุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัวไว้ได้ “หื้ม หึหึ นี่น่ะเหรอ พลังของสองผู้นำ เล่นทำเอามือข้าชาเลยนะ” จังหวะนั้นเอง เคราส์เห็นช่องโหว่ที่ลำตัวของเทพีแก้วแห่งสวรรค์ เลยจัดการจับคอแล้วตีเข่าขวาเข้าใส่ท้องน้อยของเธอ “อั้กก!!” เทพีผู้ทรงพลังโดนเข่าเข้าไปเต็มๆท้องน้อย ถึงกับร่วงลงมากุมท้องอยู่ที่พื้นด้วยอาการจุก เคราส์เห็นว่าเป็นโอกาสจึงกะวิ่งเข้าไปซ้ำให้แน่นิ่ง แต่ทันใดนั้นเอง “โอ้ยย! อึก!!” อสรพิษที่เคยขวางลำธารไว้ มันได้มาพันรัดรอบตัวของเคราส์ไว้แน่น จนได้ยินเสียงกระดูกลั่นดัง *กร๊อบ! “อ้ากกกก อ่อก! แฮ่กๆ ....อ๊ากกก-!!” เคราส์ร้องลั่นด้วยความทรมานจากการถูกอสรพิษยักษ์โอบรัดจนกระดูกแทบจะหักเป็นเสี่ยงๆ และท้ายที่สุดเขาก็แน่นิ่งสลบไป เทพีแก้วแห่งสวรรค์เงยหน้าขึ้นมองเคราส์ที่แน่นิ่งไปด้วยความสะใจ “ฮ่าๆๆๆ หึๆ จงจำไว้...นี่คือบทลงโทษของผู้ฝ่าฝืน ” เทพีครึ่งมารลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินตรงเข้าไปหาเคราส์ที่ถูกงูยักษ์โอบไว้ เธอใช้มือขวาอันเล็กเรียวของเธอจับใบหน้าของเคราส์ให้เงยขึ้น “...ใบหน้าของเจ้าก็หล่อเหลางดงามไม่เบานี่ เสียดายจริงๆที่เราไม่อาจเสพสมร่วมกันได้...เอาล่ะ ไปหายมบาลได้แล้ว ” เทพีแห่งแก้วสวรรค์ได้ใช้ริมฝีมือปากของเธอประกบจูบลงบนปากของเคราส์ ทันทีที่จูบเสร็จ เคราส์ก็สะดุ้งลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเสียงร้องอันโหยหวน “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก-!!!” ร่างกายของเคราส์กำลังค่อยๆซูบผอมลงจนตาลึกโบ๋ พื้นธรณีกำลังบิดเบี้ยวเป็นช่องว่างและค่อยๆสูบวิญญาณของเขาให้จมลงไป เหลือไว้แต่กายหยาบ แล้วเทพีแก้วแห่งสวรรค์พร้อมด้วยบริวารอสรพิษก็ได้ลอยหายไปในความมืดมิด ทิ้งไว้ให้ร่างไร้วิญญาณของเคราส์นอนแห้งเหี่ยวเดียวดายอยู่กลางผืนป่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ