Element Garden
7.0
เขียนโดย ไอยุ
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.38 น.
5 บท
0 วิจารณ์
7,669 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559 19.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Destiny Story : Chapter 05 : Darkness
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมชื่อ ฟง ผมมาที่ประเทศไทยเพื่อแข่งขันกังฟูระดับโลก ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ผมมาที่ประเทศนี้ก่อนการแข่งขันสามเดือนเพื่อมาท่องเที่ยวและฝึกซ้อมก่อนการแข่งขัน วันนั้นผมไปเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อมาถ่ายรูปกับรูปปั้นฮ่ายเหล็งอ๋อง พญามังกรทะเล ในระหว่างที่ผมกำลังจะถ่ายรูปอยู่นั้น...
??? : "ขอโทษนะครับ"
เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นมาจากข้างหลังเนื่องจากเป็นภาษาไทยผมจึงไม่มั่นใจว่าเขาเรียกผมรึเปล่าผมจึงหันไปดูสรุปแล้วเขาเรียกผมจริงๆ
เด็กผู้ชายที่ใส่ชุดเหมือนราชวงศ์จีนแต่ว่าเครื่องประดับมันมีมากกว่า ดูมีอำนาจเหมือนเทพเจ้า
??? : "ฮุ่ยซิง"
ฟง : "ดาวหาง?"
ผมมองไปที่นาฬิกาตลับที่แขวนอยู่ที่อกของเขา ภาพที่สะท้อนอยู่บนผิวสีทองบนห้าปัดนาฬิกาเต็มไปด้วยเพลิงไหม้ ผมหันไปมองบนท้องฟ้าพบกับดาวตกมากมายกำลังพุ่งลงมาที่พื้นแผ่นดิน
??? : "ยามาโตะ ทาเครุ..."
เด็กผู้ชายเอ่ยชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมาสายตาของเขามองไปบนท้องฟ้าท่เต็มไปด้วยดาวตกมากมาย ก่อนที่เขาจะหันมายิ้มแล้วภาพทุกอย่างก็ดับไป...
ผมตื่นขึ้นมาหน้าน้ำพุฮ่ายเหล็งอ๋อง เหมือนกับว่าผมเผลอหลับไป แต่ว่าไม่ใช่ๆ ผมจำไม่เห็นได้เลยว่าผมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้ เมื่อตะกี้มันอะไรกัน ความรู้สึกเหมือนกับร่างกายโดนกดดันภายใต้แรงมหาศาล
ผมไปขึ้นรถไปนอนที่หัวหินในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค่ำคืนดวงดาวเต็มท้องฟ้าผมไปเดินในตลาดโต้รุ่ง ของขายเยอะแยะมากมาย ส่วนราคาก็ใช้ได้ไม่ถูกไม่แพง ผมซื้อเสื้อกางเกงและรองเท้าตัวใหม่ที่ตลาดและนั่งรถกลับหอพัก
หอพักที่ประดับไปด้วยไม้หอมในกระถาง ตึกสี่ชั้น ผมพักอยู่ที่ชั้นสี่ ระหว่างที่ผมกำลังจะเข้าหอพักก็พบกับรถบัสขับมาจอดอยู่ตรงข้ามหอพักพร้อมกับพวกเด็กๆลงมาจากรถ คงจะมาเข้าค่ายแถวนี้ ผมอยู่ชั้นล่างหากาแฟกินก่อนขึ้นห้อง เห็นพวกเด็กที่ลงจากรถบัสมายืนมุงกันข้างนอกพูดคุยกันสนุกสนานก่อนที่จะมีผู้ใหญ่คนหนึ่งมาคุยกับเจ้าของหอพักแล้วนำกุญแจห้องไปให้พวกเด็กๆ
เด็ก 1 : "พรุ่งนี้กลับบ้านแล้ว ไม่อยากกลับเลย"
เด็ก 2 : "อยากให้มันนานกว่านี้เหมือนกันนะ"
เพราะผมอยู่ใกล้ๆทำให้ผมได้ยินเสียงการสนทนาว่ามีเนื้อหาอะไร
เด็ก 3 : "โครงการชั่งหัวมันที่ไปวันนี้ก็สนุกดีนะ"
เด็ก 4 : "เสียดายที่ได้ไปแปปเดียวเนอะ"
พวกเด็กๆต่างก็พูดถึงเรื่องที่ไปเข้าค่ายในวันนี้มาอย่างสนุกสนานก่อนที่พวกเขาจะได้กุญแจแล้วขึ้นหอพักไป ผมหันไปสังเกตุเห็นเด็กคนหนึ่ง...
เด็กผู้ชายคนนั้น เหมือนกับคนที่ผมเห็นเมื่อตอนอยู่ภูเก็ตมาก ถึงแม้จะไม่ใส่ชุดเดียวกันแต่ผมก็จำหน้าเข้าได้ ผมรีบดื่มกาแฟแล้วรีบเดินไปหา แต่ว่า พวกเขาขึ้นห้องไปหมดแล้ว คงไม่มีอะไรมั้ง...
ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำแล้วเปิดทีวีดูไม่นานผมก็ปิดไฟปิดทีวีนอน
สามโมงผมตื่นขึ้นมาไม่โดยไม่รู้ตัว ผมเดินลงไปจากหอพักเพื่อไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อแถวๆนั้น ระหว่างผมเดินกลับหอพักก็เห็นเงาดำๆอยู่ในป่า ตอนแรกผมก็นึกว่าตาฝาดไปเอง แต่ว่าผมคิดผิด มันใกล้เข้ามาหาผมเรื่อยๆ
ผมรีบกลับขึ้นห้องพักไป แล้วมองผ่านทางหน้าต่าง เงาดำพวกนั้นเหมือนจะไม่สามารถเข้ามาในหอพักนี้ได้
ทำไมกันนะ?
แล้วผมก็เข้านอนต่อ โดยทำเป็นว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันรุ่งขึ้นผมตื่นเช้ามาผมอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะขึ้นรถไปกรุงเทพ ผมหยิบกุญแจออกจากห้องแล้วเดินบันไดลงชั้นล่าง เพราะลิฟต์มีคนใช้ เห็นพวกเด็กๆที่มาเข้าค่ายแต่งตัวพร้อมกลับวิ่งไปที่ห้องเพื่อนๆ เพื่อปลุกคนที่ยังนอนอยู่
ผมไปขึ้นรถหน้าหอพักระหว่างนั้นพวกเด็กผู้หญิงก็ลงมาข้างล่างกันแล้ว ผมขึ้นรถไปแล้วก็มองผ่านหน้าต่างเห็นพวกเด็กๆกำลังจะขึ้นรถกัน มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งหันมามองผม เด็กคนนั้นคือเด็กผู้ชายที่ผมเห็นในตอนนั้น...
เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่รถที่ผมนั่งมีเสียงเครื่องยนต์ดังรบกวน แต่ผมก็เหมือนได้ยินเสียงของเด็กคนนั้นดังก้องอยู่ในหัว
??? : "คุณ...อยู่ที่นี่"
เขาขึ้นรถไปแล้วรถของผมก็ออกจากหอพักแล้วเดินทางไปยังกรุงเทพ เสียงที่ดังก้องอยู่ในหูของผม ทำไม ผมถึงได้ยินเสียงนั้น...
********************
END
??? : "ขอโทษนะครับ"
เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นมาจากข้างหลังเนื่องจากเป็นภาษาไทยผมจึงไม่มั่นใจว่าเขาเรียกผมรึเปล่าผมจึงหันไปดูสรุปแล้วเขาเรียกผมจริงๆ
เด็กผู้ชายที่ใส่ชุดเหมือนราชวงศ์จีนแต่ว่าเครื่องประดับมันมีมากกว่า ดูมีอำนาจเหมือนเทพเจ้า
??? : "ฮุ่ยซิง"
ฟง : "ดาวหาง?"
ผมมองไปที่นาฬิกาตลับที่แขวนอยู่ที่อกของเขา ภาพที่สะท้อนอยู่บนผิวสีทองบนห้าปัดนาฬิกาเต็มไปด้วยเพลิงไหม้ ผมหันไปมองบนท้องฟ้าพบกับดาวตกมากมายกำลังพุ่งลงมาที่พื้นแผ่นดิน
??? : "ยามาโตะ ทาเครุ..."
เด็กผู้ชายเอ่ยชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมาสายตาของเขามองไปบนท้องฟ้าท่เต็มไปด้วยดาวตกมากมาย ก่อนที่เขาจะหันมายิ้มแล้วภาพทุกอย่างก็ดับไป...
ผมตื่นขึ้นมาหน้าน้ำพุฮ่ายเหล็งอ๋อง เหมือนกับว่าผมเผลอหลับไป แต่ว่าไม่ใช่ๆ ผมจำไม่เห็นได้เลยว่าผมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้ เมื่อตะกี้มันอะไรกัน ความรู้สึกเหมือนกับร่างกายโดนกดดันภายใต้แรงมหาศาล
ผมไปขึ้นรถไปนอนที่หัวหินในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค่ำคืนดวงดาวเต็มท้องฟ้าผมไปเดินในตลาดโต้รุ่ง ของขายเยอะแยะมากมาย ส่วนราคาก็ใช้ได้ไม่ถูกไม่แพง ผมซื้อเสื้อกางเกงและรองเท้าตัวใหม่ที่ตลาดและนั่งรถกลับหอพัก
หอพักที่ประดับไปด้วยไม้หอมในกระถาง ตึกสี่ชั้น ผมพักอยู่ที่ชั้นสี่ ระหว่างที่ผมกำลังจะเข้าหอพักก็พบกับรถบัสขับมาจอดอยู่ตรงข้ามหอพักพร้อมกับพวกเด็กๆลงมาจากรถ คงจะมาเข้าค่ายแถวนี้ ผมอยู่ชั้นล่างหากาแฟกินก่อนขึ้นห้อง เห็นพวกเด็กที่ลงจากรถบัสมายืนมุงกันข้างนอกพูดคุยกันสนุกสนานก่อนที่จะมีผู้ใหญ่คนหนึ่งมาคุยกับเจ้าของหอพักแล้วนำกุญแจห้องไปให้พวกเด็กๆ
เด็ก 1 : "พรุ่งนี้กลับบ้านแล้ว ไม่อยากกลับเลย"
เด็ก 2 : "อยากให้มันนานกว่านี้เหมือนกันนะ"
เพราะผมอยู่ใกล้ๆทำให้ผมได้ยินเสียงการสนทนาว่ามีเนื้อหาอะไร
เด็ก 3 : "โครงการชั่งหัวมันที่ไปวันนี้ก็สนุกดีนะ"
เด็ก 4 : "เสียดายที่ได้ไปแปปเดียวเนอะ"
พวกเด็กๆต่างก็พูดถึงเรื่องที่ไปเข้าค่ายในวันนี้มาอย่างสนุกสนานก่อนที่พวกเขาจะได้กุญแจแล้วขึ้นหอพักไป ผมหันไปสังเกตุเห็นเด็กคนหนึ่ง...
เด็กผู้ชายคนนั้น เหมือนกับคนที่ผมเห็นเมื่อตอนอยู่ภูเก็ตมาก ถึงแม้จะไม่ใส่ชุดเดียวกันแต่ผมก็จำหน้าเข้าได้ ผมรีบดื่มกาแฟแล้วรีบเดินไปหา แต่ว่า พวกเขาขึ้นห้องไปหมดแล้ว คงไม่มีอะไรมั้ง...
ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำแล้วเปิดทีวีดูไม่นานผมก็ปิดไฟปิดทีวีนอน
สามโมงผมตื่นขึ้นมาไม่โดยไม่รู้ตัว ผมเดินลงไปจากหอพักเพื่อไปซื้อของจากร้านสะดวกซื้อแถวๆนั้น ระหว่างผมเดินกลับหอพักก็เห็นเงาดำๆอยู่ในป่า ตอนแรกผมก็นึกว่าตาฝาดไปเอง แต่ว่าผมคิดผิด มันใกล้เข้ามาหาผมเรื่อยๆ
ผมรีบกลับขึ้นห้องพักไป แล้วมองผ่านทางหน้าต่าง เงาดำพวกนั้นเหมือนจะไม่สามารถเข้ามาในหอพักนี้ได้
ทำไมกันนะ?
แล้วผมก็เข้านอนต่อ โดยทำเป็นว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันรุ่งขึ้นผมตื่นเช้ามาผมอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะขึ้นรถไปกรุงเทพ ผมหยิบกุญแจออกจากห้องแล้วเดินบันไดลงชั้นล่าง เพราะลิฟต์มีคนใช้ เห็นพวกเด็กๆที่มาเข้าค่ายแต่งตัวพร้อมกลับวิ่งไปที่ห้องเพื่อนๆ เพื่อปลุกคนที่ยังนอนอยู่
ผมไปขึ้นรถหน้าหอพักระหว่างนั้นพวกเด็กผู้หญิงก็ลงมาข้างล่างกันแล้ว ผมขึ้นรถไปแล้วก็มองผ่านหน้าต่างเห็นพวกเด็กๆกำลังจะขึ้นรถกัน มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งหันมามองผม เด็กคนนั้นคือเด็กผู้ชายที่ผมเห็นในตอนนั้น...
เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่รถที่ผมนั่งมีเสียงเครื่องยนต์ดังรบกวน แต่ผมก็เหมือนได้ยินเสียงของเด็กคนนั้นดังก้องอยู่ในหัว
??? : "คุณ...อยู่ที่นี่"
เขาขึ้นรถไปแล้วรถของผมก็ออกจากหอพักแล้วเดินทางไปยังกรุงเทพ เสียงที่ดังก้องอยู่ในหูของผม ทำไม ผมถึงได้ยินเสียงนั้น...
********************
END
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ