Element Garden

7.0

เขียนโดย ไอยุ

วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.38 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  7,738 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559 19.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) Destiny Story : Chapter 04 : Symphony of Heaven

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     สมัยที่ฉันเป็นเด็ก พ่อแม่ของฉันได้พาฉันไปดูการแสดงดนตรีบ่อยครั้ง ตอนที่ฉันอายุเจ็ดขวบฉันก็เข้าไปเรียนเปียโนในสถานบันแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ทั้งที่ฉันไม่มีพื้นฐานทางด้านดนตรีมาก่อนเลยเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงฉันก็สามารถเล่นเปียโนได้ ทำเอาครูผู้สอนต้องอึ้งไปตามกัน มันเหมือนกับพรสวรรค์ที่ติดตัวฉันมา

     ฉันคิดว่ามันแค่เป็นเรื่องปกติที่หูของเราสามารถแยกเสียงโด เร มี ฟา ซอล ลา ทีได้ ตอนนั้นฉันนั่งเขียนโน้ตของเพลงใหม่ที่รุ่นพี่กำลังนั่งเล่นอยู่ คุณครูที่เขาเข้ามาเห็นก็ต่างตกตะลึง และลองเอาไปเทียบกับเพลงที่รุ่นพี่แต่งมันก็ตรงกันทุกประการ นั่นคือ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้องของฉัน

     เริ่มแรกฉันได้ขึ้นไปแสดงเปียโนที่ห้องโถงงานเลี้ยงเล็กๆ จนถึงงานเลี้ยงของประธานาธิบดี ตลอดสิบเอ็ดปี ฉันได้ร่ำเรียนดนตรีีตลอดมา ทั้งการขับร้องทั้งการบรรเลง อายุเพียงแค่แปดขวบก็สามารถขับร้องโอเปร่าได้ และตอนอายุสิบสองปี ฉันก็ได้ขึ้นเวที ซิมโฟนี ออร์เคสตรา ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับองค์ราชินีซึ่งอายุน้อยที่สุดในวง

     ฉันได้รับสมณานามว่า "ธิดาแห่งการบรรเลง"

     ปัจจุบันฉันอายุสิบแปดปี ฉันได้สร้างอัลบั้มเป็นของตัวเองขึ้นมา นั่นคือ "Eternal Love" ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกและด้วยเพลงนั้นฉันก็สามารถกอบโกยรางวัลหลายสาขามาไว้ และสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่วัยเยาว์

     ปีคริสต์ศักราช 2017

     ฉันเรียนอยู่ที่ High School Music ในลอนดอน ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านดนตรี โรงเรียนของเรามีนักเรียนที่มีความสามารถและผลงานดังๆมากมาย มีหอพักภายในตัว มีทั้งหมดสองอาคาร หนึ่งอาคารชายและหนึ่งอาคารหญิง แต่ละอาคารจะมีทั้งหมด สิบสองชั้น ชั้นละห้าห้องนอน หนึ่งห้องนอน นอนได้หนึ่งคน ซึ่งประชากรในโรงเรียนเรามีแค่หนึ่งร้อยยี่สิบคนเท่านั้นเองค่ะ ยิ่งแบ่งเป็นหกชั้นเรียนอีก เฉลี่ยแล้ว ชั้นเรียนละ ยี่สิบคนเองค่ะ แบ่งไปอีกชั้นเรียนละห้าห้อง ห้องหนึ่งก็แค่สี่คนเองค่ะ น้อยมาก และเข้ายากมาก

      ซึ่งภายในตัวหอพักแต่ละห้องจะมีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบทุกอย่าง เหมือนกับโรงแรมห้าดาว หอพักชั้นล่างจะมีห้องดนตรีอยู่สามารถใช้ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง มีระบบห้องเก็บเสียงอย่างดี ถึงจะเล่นดังแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนคนอื่น

     อาคารเรียนจะแบ่งไปอีกหลายอาคาร จะมีอาคารที่จะใช้ปรับพื้นฐานทางดนตรีสำหรับเด็กชั้นหนึ่งซึ่งจะใช้ตลอดทั้งปี เด็กชั้นหนึ่งก็จะวนอยู่แถวนั้นแหละค่ะ และจะมีอาคารประวัติศาสตร์ทางดนตรีต่างๆ ห้องประชุม ห้องโถงที่มีเวทีเพื่อซ้อมออกแสดงจริง สตูดิโอสำหรับสร้างผลงานส่งอาจารย์ตอนปีสอง แค่ปีสองก็ต้องทำเพลงแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าเป็นเพลงแบบง่ายๆ แค่นำเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดมาบรรเลงผสานเสียงกัน แล้วก็ส่ง แต่ละปีอาจารย์เขาจะกำหนดเครื่องดนตรีมาให้ห้าชนิดแล้วเราไปคิดการบรรเลงเอาเอง ทำแบบนี้ตั้งแต่ปีสองยันปีหก ปีหกซึ่งเป็นปีของฉันจะพิเศษกว่าปีไหนๆเพราะว่า ให้สร้างอัลบั้มขึ้นมาเอง และขับร้องประกอบกับดนตรีซึ่งเครื่องดนตรีีเราก็สามารถเลือกเองได้ตามใจชอบว่าจะใช้กี่ชนิด สามารถส่งตอนไหนก็ได้ ตลอดเวลาทั้งปี

     ซึ่งฉันจะชอบส่งงานวันเปิดเรียนวันแรกเลย งานปีหกของฉัน "Eternal Love" แค่ส่งอาจารย์ได้ไม่กี่วันก็ดังไปทั่วแล้ว ค่ายใหญ่ก็เรียกตัวฉันไปหลายต่อหลายค่าย ซึ่งฉันยังตัดสินใจไม่ได้ แต่ก็มีเวลาตัดสินใจไปจนจบการศึกษา

     ผ่านมาเทอมหนึ่งแล้วก็อยู่ในช่วงก่อนสอบสอบปลายภาคสามวัน ซึ่งเนื้อหาข้อสอบของปีหกอย่างมหาหิน ทั้งหมดแบ่งเป็นสองพาร์ท แบ่งเป็น ช่วงเช้ากับช่วงบ่าย ช่วงเช้าใช้เวลาสามชั่วโมงตั้งแต่ 8.30-11.30 น. หนึ่งร้อยข้อ ซึ่งเนื้อหาจะเป็นพื้นฐานของปีหนึ่งยันปีหกทั้งหมด ซึ่งเราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าจะมาเนื้อหาไหนอาจารย์จะประกาศสามวันก่อนสอบ แน่นอนเฉพาะแค่ภาคเช้าเท่านั้นแหละ ใครเสร็จก่อนออกมาอ่านหนังสือสำหรับพาร์ทหลังต่อ และช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่หินที่สุด ตั้งแต่ 12.30-17.00 น. เห็นนานเวลาแค่นี้ยังน้อยนะคะ ข้อสอบสองร้อยข้อที่เป็นปรนัย และอัตนัยอีกหนึ่งข้อ ซึ่งแน่นอนว่าพาร์ทหลังนี้ไม่ธรรมดาๆ เพราะปีที่ผ่านมาออกมายิ่งกว่าคนจะจบปริญญาเอกอีก

     จากปากรุ่นพี่บอกกันมาว่าข้อสอบช่วงเช้าเป็นอะไรที่ง่ายและง่ายมาก แต่พาร์ทหลัง ในตำราไม่มีเราต้องไปศึกษาข้อมูลจากข้างนอก เอาง่ายๆคือใครปฏิบัติภาคสนามบ่อยจะได้เปรียบซึ่งในโรงเรียนคนที่ได้ขึ้นเวทีจริงๆและบ่อยๆมีแค่สิบคนเท่านั้นจากร้อยคนทั้งปีหนึ่งยันปีหก ซึ่งฉันเป็นหนึ่งในนั้นและมีประสบการณ์มากที่สุด

     พักเที่ยง ฉันเพิ่งจะเลิกเรียนคาบประวัติศาสตร์ทางดนตรีมา ซึ่งจะเรียนเกี่ยวกับความเป็นมาทางดนตรีีตั้งแต่สมัยอดีต จนถึงปัจจุบัน และวิวัฒนาการของดนตรี และอนาคตของดนตรีในภายภาคหน้า

     อ๊ะ! ลืมแนะนำตัวสนิทเลย ฉันมีชื่อว่า อลิซ ค่ะ เป็นหัวหน้าห้องของปีหกห้องหนึ่ง ห้องของฉันมีผู้ชายสองคนคือ จอห์น กับ เอริค กับผู้หญิงอีกสองคนคือ เอวา กับ ฉัน พวกเราสี่คนมักไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด และวันนี้พวกเราสี่คนก็มาติวหนังสือด้วยกันค่ะ

     เอวา : "นี่ๆ อลิซเนื้อหาของพาร์ทเช้ามีวิชาอะไรบ้างนะที่อาจารย์บอก"

     อลิซ : "เอ... พื้นฐานของดนตรี ภาษาทางดนตรี ดนตรีและสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ทางดนตรีี คณิตศาสตร์ทางดนตรีี ประวัติศาสตร์ดนตรี คอมพิวเตอร์กราฟิก เท่านี้แหละ"

     พื้นฐานของดนตรีพวกเราจะเรียนกันตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งจะเป็นเครื่องดนตรีประเทศต่างๆจนถึงชนเผ่า ภาษาทางดนตรีจะได้เรียนตั้งแต่ปีสองขึ้นไป ซึ่งจะเป็นเกี่ยวกับการอ่านโน้ต การถอดทำนอง และมีภาษาอังกฤษควบเข้ามาด้วย ดนตรีและสิ่งแวดล้อมจะเป็นเกี่ยวกับธรรมชาติที่ก่อกำเนิดเสียงต่างๆ ทำไมเครื่องดนตรีจึงมีเสียงที่แตกต่างกัน ดนตรีในอวกาศจากการระเบิดของดาวเคราะห์เอย อะไรประมาณนี้ วิทยาศาสตร์ทางดนตรีจะต่างกับดนตรีและสิ่งแวดล้อมนิดหน่อยเพราะจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับระบบร่างกายที่ก่อให้เกิดเสียง การทำเสียงกัก ต่างๆที่จะทำให้เพลงเพราะยิ่งขึ้น คณิตศาสตร์ทางดนตรีจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเครื่องดนตรีประเภทต่างๆและการสร้างเครื่องดนตรีว่าควรมีขนาดใดเหมาะกับคนแบบไหน ทำไมเครื่องดนตรีชนิดเดียวกันแต่ขนาดต่างกันจึงให้เสียงที่ไม่เหมือนกัน วิชานี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวโยงกับดนตรีกับสิ่งแวดล้อมแต่จะละเอียดกว่า ประวัติศาสตร์ทางดนตรีจะมีเนื้อหาดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ยุคโลกเพิ่งเกิดยันอนาคตกันเลยทีเดียว คอมพิวเตอร์กราฟิกก็การวาดรูปการตัดต่อการถ่ายภาพเพื่อสร้างภาพประกอบ เอาง่ายๆ คือ เนื้อหาที่เราเรียนอยู่ต่างจากปกติอยู่นิดนึง ของเราเนื้อจะครอบจักรวาลมาก 

     เอริค : "จะว่าไปห้องเราพรุ่งนี้สอบพละแล้วสินะ ถ้าจำไม่ผิดเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายให้พลิ้วไหวตอนเต้นสินะ สบายๆอยู่แล้ว"

     จอห์น : "ไม่ใช่แค่นั้น เราสองคนต้องไปสอบยกน้ำหนักกับยูโด ของ ผู้หญิงก็ยิมนาสติกกับยูโด เหมือนกัน"

     เอวา : "เทอมที่แล้วก็บัลเล่ต์มาเทอมนี้ก็ยิมนาสติก โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยมหรือมหาลัยกันแน่เนี่ย แถมศิลปการต่อสู้ไว้เพื่อป้องกันตัวด้วย"

     อลิซ : "พวกนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงหรอก ที่น่าเป็นห่วงจริงๆ พาร์ทสองต่างหากเรายังไม่รู้เลยว่าจะออกเนื้อหาอะไร เราต้องหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับดนตรีให้มากที่สุด"

     เอริค : "นั่นแหละ ตัวปัญหาล่ะ"

     ทุกคนถอนหายใจ "เฮ้อ..." มาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

     เอวา : "หลังจากเรียนวิชานี้จบเราไปหาอะไรกินที่คาเฟ่น้องแมวกันไหม เขาเพิ่งเปิดล่ะลูกแมวน่ารักๆเพียบเลย"

     อลิซ : "ก็ดีนะ จะได้พักผ่อนสมองด้วย ไปไหมทั้งสองคน"

     เอริค : "ได้อยู่แล้ว"

     จอห์น : "แน่นอน"

     หลังจากนั้นเราก็ไปเรียนคณิตศาสตร์ทางดนตรีกันภายในห้องมีนักเรียนสี่คนกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง อาจารย์สอนไปเราก็พลางจดไปๆพอเลิกเรียนเราก็มีเวลาเพราะหลังจากนี้คือว่างกับว่างพวกเราสี่คนเอาโน้ตบุ๊กกันไปเครื่องหนึ่ง ไปที่ร้านคาเฟ่น้องแมวที่เพิ่งเปิดใหม่ มีคนเยอะอยู่แต่ไม่มีนักเรียนมาทีเพราะว่าหลายชั้นเรียนยังไม่เลิก มันมีมุมนั่งพื้นกับโต๊ะญี่ปุ่นอีกหนึ่งตัวแล้วก็หมอนไว้สำหรับนอนเล่นกับน้องแมวเราไปยึดไว้ 

     อลิซ : "ทุกคนคิดว่าเขาจะให้โน้ตเพลงมาแล้วเราต้องบอกชื่อเพลงนั้นไหม"

     เอวา : "ฉันว่าข้อสอบคงไม่โหดขนาดนั้นมั้ง"

     เอริค : "ฉันได้ยินจากรุ่นพี่บอกมาว่า ปีของเขาพาร์ทสองอัตนัยให้เขียนประวัติความเป็นมาของ โอเปร่า กับ ซิมโฟนี ออร์เคสตรา ด้วยล่ะ"

     อลิซ & เอวา & จอห์น : "หา!"

     เอริค : "เขาให้กระดาษเส้นเปล่าๆมาสองแผ่นเขียนยิ่งละเอียดยิ่งได้คะแนนมาก"

     จอห์น : "โหดจังแฮะ"

     เอริค : "รุ่นพี่ที่ผ่านมาก็สอบผ่านพาร์ทหลายคนนะ ได้ข่าวมาว่าใครที่ผ่านพาร์ทสองของปีหกเทอมนี้ได้ ทางโรงเรียนจะพาไปต่างประเทศด้วยนะ"

     เอวา : "จริงเหรอ"

     อลิซ : "งั้นมาหาข้อมูลทางดนตรีให้ละเอียดยิบกันเลยดีกว่า"

     ตลอดสามวันก่อนสอบเราหาข้อมูลทางดนตรีีแบบละเอียดลึกถึงรากถึงโคนกันมีเพิ่มเติมมาด้วยว่าสมุนไพรใดบ้างช่วยบำรุงเสียงต่างๆบลาๆ

     มาถึงวันสอบจริง พวกเราสี่คนนั่งห้องสอบคนละห้อง พาร์ทเช้าเป็นของพื้นฐานที่พวกเราสามารถผ่านไปได้อย่างสบายๆ และในระหว่างักนั้นเราก็อ่านทบทวนส่วนที่ว่ายากที่สุดกันสอบพาร์ทบ่ายมาถึงแล้ว ข้อสอบออกมาปรนัยตรงกับที่เราหามาเกือบทั้งหมดโชคดีจริงๆ ฉันนั่งยิ้มอยู่ จนกระทั่งอัตนัย...

"เพลง Moonlight Sonata ปรากฏใน Detective Conan ตอนที่เท่าใด อธิบาย"

     ทุกคนในปีหกต่างก็ตะลึงในคำถามของข้อสอบ แล้วคิดในใจอย่างพร้องเพรียงกันว่า

"แบบนี้ก็ได้เหรอ"

     เอาเป็นว่าปีนี้ไม่มีใครทำข้อเขียนได้เลยสักคน มันเจ็บปวดยิ่งนัก

     ตอนหนึ่งทุ่มพวกเราสี่คนคุยโทรศัพท์กัน

     อลิซ : "เอริค ไหนนายบอกว่าพวกรุ่นพี่สอบผ่านกันเยอะไง"

     เอริค : "ก็ฉันไม่ได้บอกนี่ว่าอัตนัยจะผ่านน่ะแค่บอกว่าพาร์ทสองเฉยๆ คือรวมๆกันนั่นแหละ"

     จอห์น : "ทุกคนผลสอบออกแล้วนะ"

     เมื่อพวกเราได้ยินเช่นนั้นเราก็รีบเปิดโน้ตบุ๊กเข้าเว็บไซต์ของโรงเรียน เพื่อเปิดดูผล คะแนนสอบของฉันปรนัยได้เต็มแต่ปรนัยได้ศูนย์ไปกินอีกสามคนก็เหมือนกัน ได้เอริค จอห์น กับ เอวา ก็ได้เต็ม เว้นแต่ข้อเขียน

     จอห์น : "มหาโหดสุดๆเลยล่ะ" 

     หลังจากนั้นทุกคนก็เข้านอน จนถึงวันเข้าค่ายไปต่างประเทศ ประเทศที่เราจะไปกันคือประเทศญี่ปุ่น เพื่อไปศึกษาวัฒนธรรมทางดนตรีเช้าวันนั้นเราก็ขึ้นรถสี่คนสรุปแล้วคนที่ผ่านก็แค่ห้องเราห้องเดียว พอถึงสนามบินเราก็เดินกันไปขึ้นเครื่องนักเรียนสี่คนสามารถผ่านพาร์ทสองมาได้ ฉันนั่งบนเครื่องบินแล้วเครื่องออก ฉันหูอื้อเลยบีบจมูกแล้วหายใจให้ลมออกทางหูแล้วฉันก็หลับไป

     มีบางอย่างคล้ายๆกับเส้นด้ายสีน้ำเงินกับสี่แดงกำลังลอยขึ้นมา มันอยู่ไกลกว่าฉันมากจนมองไม่เห็นก่อนที่หัวของมันจะชนกันกลายเป็นแสงสว่างจนมองไม่เห็น ก่อนที่จะเห็นหมอกสีเขียวกระจายไปโดยรอบ มันอาจจะเป็น... ต้นกำเนิดของเอกภพ

     อลิซ : "!"

     พอฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่เหนือฟ้าของประเทศญี่ปุ่นแล้ว นี่ฉันนอนหลับไปนานเท่าไรกันนะ... พอลงเครื่องฉันก็เดินไปกับเพื่อนๆอีกสามคน ไปซื้อของกินกันในสนามบิน แต่จะว่าไป ความฝันเมื่อตะกี้... หมายความว่ายังไงกันนะ?

********************

END

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา