บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  57.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

45) คิดถึง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          สีขาวสะอาดตาของบ้านหลังใหญ่ทำให้บรรยากาศดูสดชื่น
และไม่เงียบเหงา..ตรีทิพย์จูงมือเพชรเกล้าทั้งสองเดินคู่กลับเข้ามาในบ้านด้วยกัน
หลังจากได้ไปชื่นชมฟาร์มมุกของที่นี่กันอย่างใกล้ชิดเสียงทีวี
จากห้องพักผ่อนอิริยาบถดังแจ่วๆออกมาถึงด้านนอก
จนคู่รักต้องแวะเวียนเดินเข้าไปชมสักครู่
 
จึงพบกับอินเกษม ปิ่นรักและทอปัดหมู่คณะเดิม
ที่พึ่งได้ไปทำบุญที่วัดด้วยกันเมื่อเช้าวันนี้ทุกคนกำลังจับจ้อง
ไปยังจอทีวีดิจิตอลขนาดกว้างด้วยความสนใจ...สองใบหน้าจึงเหลือบมองตาม
 
ตรีทิพย์ยืนมองและฟังสักครู่จึงรู้ถึงรายละเอียด
ว่าผู้บรรยายข่าวสายบันเทิงกำลังรายงานถึงประเด็นของเธอและเพชรเกล้า
อย่างชัดถ้อยชัดคำและน่าดึงดูดจากผู้คนที่ให้ความสนใจ
เนื่องจากน้ำเสียงรวมทั้งกิริยาท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว
 
เพชรเกล้ามองสองภาพถ่ายที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์
ซึ่งผู้บรรยายก็กำลังแนะนำและอธิบายถึงที่มาของสองรูปนี้อยู่
 
ซ้ายมือเป็นภาพของคุณเจมี่ที่ถ่ายร่วมกับตรีทิพย์เมื่อคืน
และโพสลงอินสตาแกรมของหล่อน ส่วนภาพด้านขวาคือภาพถ่ายของเพชรเกล้า
ซึ่งเป็นกรณีที่มีทีมงานคนหนึ่งมาขอถ่ายรูปด้วย
ภาพของเธอจึงปรากฏอยู่ในเฟสบุ๊คส่วนตัวของทีมงานคนนี้
 
[i]‘ ค่ะ จากสองภาพนี้นะคะ ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ล่าสุดค่ะคุณผู้ชมกับมีอะไรบางอย่างให้เราต้องค้นหากัน โดยภาพถ่ายที่มีคุณพราวปรากฏอยู่เนี่ยซ้ายสุดของภาพทางด้านขวามือของคุณพราวจะเห็นเป็นแขนตั้งแต่ข้อศอกลงมาและเห็นหน้าปัดนาฬิกานะคะแล่บออกมานิดนึง นิดเดียวจริงๆค่ะคุณผู้ชม ’[/i]
 
ผู้ประกาศข่าวสายบันเทิงยิ้มพูดทำเล่นเสียงให้ดูตื่นเต้น
 
“ พวกเขาเก่งกันจังเลยนะคะ ”
เพชรเกล้าเพ่งมองดูรูปภาพของเธอตามที่ผู้บรรยายบอก
จนเธอเองก็พึ่งจะสังเกตเห็นแขนตรีทิพย์ก็ตอนนี้
 
“ อะไรที่น่าสนใจเขาก็จะใส่ใจกับมันแบบนี้ล่ะค่ะ เล็กๆน้อยๆก็เป็นประเด็นแล้วล่ะ ”
 
ร่างบางพยักหน้ามองหน้าจอทีวี
 
[i]‘ การนี้เองค่ะชาวเน็ตจึงตั้งคำถามกันว่า เอ๊ะ ใช่คุณเต้หรือเปล่าที่ยืนอยู่ข้างๆเพราะเห็นว่าในรูปถ่ายที่คุณเต้ถ่ายคู่กับคุณเจมี่คุณเต้ใส่นาฬิกาเรือนนี้อยู่ด้วย และที่แล่บๆออกมานิดเดียวเนี่ยเหมือนจะเป็นนาฬิกาของคุณเต้เลย ’[/i]
 
ตรีทิพย์ยกนาฬิกาเรือนโปรดขึ้น..ยิ้มมอง...
 
[i]‘ ในไอจีของคุณเจมี่ก็ได้แฮชแท็กภูเก็ตไว้ด้วยนะคะแต่ทางฝั่งเฟสบุ๊คเนี่ยไม่ได้บ่งบอกถึงสถานที่อะไรแต่บรรยากาศรอบๆดูเหมือนชายหาดริมทะเล เอ๊ะ! หรือจะเป็นทะเลที่ภูเก็ต! ’[/i]
หญิงสาวนักประกาศข่าวบันเทิงทำกิริยาโลดโผนให้ดูขำขันและน่าค้นหา
[i]‘ ก็ต้องรอฟังจากปากของสองสาวกันต่อไปนะคะว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไร ’[/i]
 
 
เพชรเกล้าเลี่ยงตัวออกมาจากห้องเมื่อตรีทิพย์กำลังสนทนา
อยู่กับทุกคนในที่นั้น สาวน้อยเลี้ยวเข้ามาหาเปียโนตัวเดิมของบ้านหลังนี้
ทิ้งน้ำหนักนั่งลงบนเก้าอี้และวางปลายนิ้วลงกับตัวโน๊ต...แต่ยังไม่ทัน
ที่เธอจะเริ่มกดเพื่อบรรเลงเพลงเพราะๆ
กับมีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามากอดเนื้อตัวอย่างรวดเร็ว!
 
ใบหน้าเรียวหันมองเพราะไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากตรีทิพย์เท่านั้น
 
ร่างสูงไล่จุมพิตสลับจูบหอมอยู่กับสาวน้อยแก้มขาว
แกล้งซุกไซ้ซอกคอเบาๆให้เจ้าหล่อนขัดขืนเล่นแสนเพลิดเพลิน
 
“ พี่เต้..! ” เพชรเกล้าเบี่ยงหน้าหนี
“ ทำไมอ่ะ..ทำไมต้องดุด้วยอ่ะ ” ใบหน้าสวยทำน้อยใจ
 
“ นี่มันกลางบ้านนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ”
 
ตรีทิพย์อมยิ้มที่สาวน้อยไม่ยอมสบตาเธอ
ร่างบางรู้สึกว่าอีกคนเงียบไปและดูเหมือนว่าจะกำลังมองเธออยู่
เพชรเกล้าพรวดขึ้นยืนจึงถูกซุปตาร์สาวสวมกอดทันที
 
“ วันนี้น้องพราวไม่มองหน้าพี่เต้เลยนะคะ ”
 
ร่างสูงผละอ้อมกอดออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าคนรักที่ยังไม่ยอมสบตากัน
 
“ รู้มั้ย ว่าพราวทำให้พี่คิดถึงทั้งที่เรายังยืนกอดกันอยู่แบบนี้ ”
สองมือของตรีทิพย์เอื้อมประคองรูปหน้าแสนสวยให้เงยขึ้นสบตา
 
" ไม่รักพี่เต้แล้วเหรอ "
" รักสิคะ.. " เสียงนิ่มตอบเบาๆ แววตาจิ้มลิ้ม
" พี่ก็รักพราวค่ะ "
 
ริมฝีปากสวยยิ้มบอกก่อนจะเลื่อนขึ้น
ไปจุมพิตกับผิวหน้าผากผุดผ่อง.....ตรีทิพย์เลื่อนจมูกลงมาข้างแก้ม
คลอเคลียทำสวีทกันสองต่อสองอย่างอย่างมีความสุข
 
เพชรเกล้ายิ้มเขินแถมคล้อยตามไปกับปลายจมูกที่แสนซุกซน
ร่างสูงจูบเบาๆเข้ากับสันดั้งโด่งๆและหยุดมองตา
 
" ทีเมื่อคืนไม่เห็นเขินเลย..ออกจะคึก... "
ตรีทิพย์เม้มริมฝีปากกรุ้มกริ่ม
เสียงหวานที่แหบพร่านิดๆทำเอาคนฟังหน้าแดงฉาด
 
" พี่เต้..! ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะไม่พูดอ่ะ..~!.. ฮือฮือฮือ...~~!! "
 
สาวน้อยเหยียบสองเท้าไปมาอยู่กับที่
แสดงกิริยาฟึดฟัดเล็กๆ..จนคล้ายงอแงไปหน่อย
อีกทั้งยังทุบเรือนร่างตรงหน้าด้วยสองกำมือของเธอ
 
" โอ๋…~ ไม่พูดๆ "
 
ตรีทิพย์โอบกอดทำเอาใจพร้อมหัวเราะเบาๆ
พลางเหลียวมองใบหน้าเรียวอีกครั้งยื่นจมูกเข้าหอมสองสามหน
สาวน้อยเขย่งปลายเท้าและคล้องสองแขนของเธอเพื่อกอดรัดไว้รอบไหล่
ของนางแบบสาว..คู่รักจึงยืนแสดงความอบอุ่นซึ่งกันและกันอยู่นาน
 
“ เต้... ”
 
เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆสองสาวผละออกจากกันเล็กน้อย
พร้อมกับหันมองถึงผู้มาใหม่ที่น้ำเสียงนิ่งๆและแข็งกระด้างอย่างไรชอบกล
 
คู่รักได้พบกับปริฉัตรอีกครั้งและแปลกใจกับดวงตา
ที่แดงกร่ำเพราะมีน้ำตาเอ่อคลอแต่ยังปกติ
ตรงที่ว่าเธอจ้องมองเพชรเกล้าด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
 
“ พี่ต้อม..มานานแล้วเหรอคะ ”
ตรีทิพย์ทักทายพี่สาวอย่างไม่คาดคิดว่าจะมา
เพราะเธอลืมนึกถึงปริฉัตรไปเสียสนิท
 
“ พี่น่าจะเป็นฝ่ายถามเต้มากกว่า ว่ามานานหรือยัง ”
ปริฉัตรพูดพร้อมเดินเข้ามาหา
เนื่องจากเธอรู้แล้วว่าตรีทิพย์มาถึงที่นี่ตั้งแต่นานแล้ว
นางแบบสาวไม่ได้ตอบอะไร ปริฉัตรมองเรียวแขนน้องสาว
ที่มีสองมือของเพชรเกล้ายืนเกาะเกี่ยวอยู่
พลางหันมองไปทางห้องหนึ่งที่เสียงทีวีแว่วดังออกมา
จึงทำให้เธอเบ้ปากนิดๆ
 
“ พี่มีเรื่องจะพูดด้วย ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั้ย ”
คนไม่คิดจะมีรอยยิ้มให้กับใครบอกกล่าวต่อน้องสาวเธอ
 
“ ได้สิคะ คุยที่ไหนดีล่ะ ” ตรีทิพย์ทำตัวปกติ
 
“ บนห้อง.. ”
แววตาเล่ห์ร้ายของปริฉัตรส่งมาหาเพชรเกล้า
สาวน้อยกระชับสองมือที่กำลังกอดเกี่ยวคนรักด้วยความหวงแหน
 
“ ค่ะ ”
ร่างสูงยิ้มบางๆตอบรับไม่คิดอะไรทั้งนั้นนอกจาก
จะให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีและยุติธรรมกับทุกๆคน
เพราะอย่างไรปริฉัตรก็คือพี่สาวของเธอ
 
“ เดี๋ยวพี่มานะคะ ”
ใบหน้าสวยหันมองสาวน้อยเคียงข้างยิ้มบอกและเดินออกไป
ร่างบางรั้งแขนไว้
 
“ อย่าไปนานนะคะ ”
เพชรเกล้าแสดงแววตาอ้อนออเซาะ
ให้คนที่ยิ้มมองต้องยื่นริมฝีปากเข้ามาจุมพิตข้างแก้ม
 
“ จ้ะ.. ”
 
ปริฉัตรกัดกรามแน่นรีบจ้ำอ้าวเข้าไปเกี่ยวแขนตรีทิพย์
และพาเดินขึ้นบันไดไปด้านบนทันที เพชรเกล้าหายใจแรง
มองดูการกระทำที่เกินหน้าเกินตาจนสุดสายตาเธอ
 
เป็นเวลาเดียวกันกับที่ทุกคนในห้องเมื่อครู่เดินออกมาด้านนอกพร้อมๆกัน…
 
“ พราว..ทำอะไรอยู่ลูก ”
ปิ่นรักยิ้มถามลูกสาวเธอก่อนใคร
“ เปล่าหรอกค่ะ ”
“ อ่ะแล้ว..เต้ไปไหนล่ะคะ พี่ว่าจะถามเรื่องการสัมภาษน์ซะหน่อยว่าจะเอายังไงจะตั้งโต๊ะแถลงหรือจะยังไงดีเพราะอาปิ่นบอกว่าให้แล้วแต่คนก่อเรื่อง ”
ทอปัดยิ้มทำพูดซ้ำเติมน้องสาวเพราะคิดว่าอยู่แถวๆนี้ อินเกษมหัวเราะเบาๆ
“ พี่เต้คุยอยู่กับคุณต้อมน่ะค่ะ ” เพชรเกล้าเอ่ยบอก
อินเกษมเมื่อได้ยินถึงชื่อลูกสาวคนโตจึงเดินเข้ามาหาเพชรเกล้า
“ นี่ยัยต้อมกลับมาแล้วเหรอ ” ชายร่างสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ คงไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะเขารู้ว่าเต้จะมาวันนี้ ” ทอปัดตอบแทน
 
ทุกคนหันหน้ามองกัน ปิ่นรักโอบเอวลูกสาวส่งยิ้มให้
ตามประสาแม่ลูก ส่วนตัวเธอเองนั้นรู้ถึงกิตติศัพท์ของปริฉัตรเป็นอย่างดี
อีกทั้งก็ยังได้ฟังเรื่องราวจากทอปัดถึงแรงหวงน้องสาวของหล่อนมาบ้างแล้ว
 
“ งั้น..เราทุกคนไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าเนอะ แล้วไว้มาทานมื้อค่ำกัน ”
อินเกษมยังไม่อยากให้ปริฉัตรมาทำเสียมารยาทใส่แขกของเขาตอนนี้
ทุกคนจึงพากันตกลง..ปิ่นรักแอบเห็นแววตา
ของลูกสาวสุดที่รักที่ดูเป็นกังวลอยู่เงียบๆ
 
 
ท้องฟ้าเริ่มครึ้มเข้าสู่บรรยากาศของความเย็นชื้นเพราะลม
ที่พัดแรงๆและละอองเม็ดฝนโปรยปรายเล็กน้อย..เพชรเกล้าเดินไปเดินมา
อยู่ในห้องนอนมองดูด้านนอกผ่านบานหน้าต่างกระจกที่ไม่ได้ปิดผ้าม่าน
เห็นใบไม้โบกสะบัดไปตามแรงลมรอบๆตัวเธอดูเงียบเชียบ
ส่งให้หัวใจรู้สึกเหงาๆอย่างไรบอกไม่ถูก
 
เกือบจะยี่สิบนาทีแล้วที่ตรีทิพย์ถูกปริฉัตรลากไป
สาวน้อยยืนคิดอยู่สักพัก
และตัดสินใจเปิดประตูออกไปด้านนอกเพื่อจะไปตามคนรัก..
 
ร่างบางเดินตรงมายังห้องนอนของปริฉัตร
พร้อมเอื้อมมือเปิดประตูเข้าไปทันทีด้วยลืมเรื่องมารยาท.....!!
เพชรเกล้ายืนมองตาค้างเมื่อภาพตรงหน้าคือสองพี่น้องที่กำลังยืนกอดกันกลม!
ตรีทิพย์และปริฉัตรหันมองถึงผู้มาใหม่
" พราว " นางแบบสาวยิ้มเรียกคนรัก
 
ร่างเล็กกำมือหลวมๆรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อยแต่ปล่อยให้ผ่านตาไป
เพราะตอนนี้เธอต้องการให้ตรีทิพย์ออกไปกับเธอ
 
" เสร็จธุระหรือยังคะ " ใบหน้าเรียวส่งยิ้ม
 
“ เสร็จแล้วจ้ะ ”
ร่างสูงเอ่ยบอกพร้อมปลีกตัวออกจากอ้อมแขนของพี่สาวทันที
เพื่อจะย้ายมาหาสาวน้อยของเธอ
 
“ ถ้าอย่างนั้นเรากลับห้องกันเถอะค่ะ ”
เพชรเกล้าเดินเข้ามาเกี่ยวแขนแนบชิดเคียงข้าง
“ จ้ะ ”
ตรีทิพย์วางฝ่ามือลงบนผิวเนื้อนิ่มๆที่เกี่ยวแขนเธออยู่ยิ้มตอบรับ
ทั้งคู่จึงเดินออกไปจากห้องทันที ปริฉัตรยืนมองกัดฟันปากสั่นพอๆกับร่างกาย
และหัวใจของเธอ..ขนาดเธอดูเงียบเชียบและไม่โวยวายแบบนี้
ยังจะไม่มีใครคิดสงสัยหรือแปลกใจบ้างเลยหรือไง
ไม่มีใครสนใจเธอเลยอย่างนั้นเหรอ?!
 
“ วางใจไปเถอะ! อีกไม่นาน..ฉันจะทำให้เธอไม่มีบทบาทกับชีวิตของน้องสาวฉันอีกต่อไป..! ”
 
 
 
ภายในห้องนอนรับรองของเพชรเกล้า...
 
ตรีทิพย์ถูกผลักให้ทรุดตัวลงบนโซฟาปลายเตียง
จากนั้นเพชรเกล้าจึงทิ้งตัวนั่งลงใกล้ชิด ( มาก )
พร้อมกับเอนกายเข้าไปกอดซุกตัวแนบไออุ่นอย่างนุ่มนวล
ร่างสูงยิ้มหวานกอดตอบเรือนร่างที่อ่อนช้อยซบอกเธอราวกับแมวเหมียว
 
“ พราว.. ”
ริมฝีปากสวยคลอเคลียผิวหน้าผาก
 
“ คิดถึงค่ะ ”
สาวน้อยเอ่ยขึ้นทำเอาคนฟังพอใจเป็นอย่างมาก
ตรีทิพย์หัวเราะชอบใจ
 
“ พี่เต้ไปนานจัง ”
ร่างบางกระชับอ้อมกอดทำเสียงซึมค่อยๆเงยหน้าขึ้น
ตรีทิพย์ยิ้มกรุ้มกริ่มโน้มจมูกเข้าไปชื่นใจแก้มขาวเต็มปอด
“ ห๊อมหอม ”
 
เพชรเกล้ายิ้มตาหยี
ร่างสูงเอื้อมบีบแก้มขาวยิ้มมองตามด้วยความลุ่มหลง
 
“ พี่เต้.. ”
เสียงนิ่มเอ่ยเรียกในขณะที่อีกคน
กำลังคลอเคลียใบหน้าอยู่ใกล้สันดั้งของเธอ..~
“ จ๋า... ”
“ พี่เต้จะกลับกรุงเทพพร้อมพราวใช่มั้ยคะ ”
 
ใบหน้าสวยเงยขึ้นและแกล้งทำเป็นคิดๆ
“ อืม..? ”
 
“ ฮือ..ต้องกลับกับพราวนะ.. ”
ร่างบางรีบซบหัวไหล่ปลายจมูกโดนเนื้อคอนิ่มๆ
ตรีทิพย์หัวเราะในลำคอ
“ พี่ก็ต้องกลับกับพราวสิคะ ก็เรามาด้วยกันนิ ”
“ สัญญาแล้วนะคะ ”
 
เพชรเกล้ายิ้มกว้างพอใจ ร่างสูงก้มมองฝ่ามือนุ่มข้างซ้าย
ที่วางอยู่บนตักของเธอก่อนจะหยิบขึ้นชม
เครื่องประดับระยิบระยับที่คู่กับสร้อยข้อมือมุกแท้
 
“ สวยมั้ย พราวชอบมั้ยคะสิบกะรัต ”
ตรีทิพย์ขยับนิ้วโป้งลูบๆวงแหวนยิ้มถามด้วยความภูมิใจ
 
“ พี่เต้ใช้เงินเก่งนะคะ ซื้อแต่ของแพงๆ ”
เสียงนิ่มตอบกลับ
“ ชอบหรือเปล่าคะ ” เสียงหวานย้ำคำถามเดิม
“ ชอบค่ะ อะไรที่พี่เต้ให้พราวก็ชอบหมดนั่นแหละ ”
“ ถ้าเราได้ใช้ชีวิตด้วยกันเมื่อไหร่ พี่จะให้พราวเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เลย ดีมั้ย ”
ใบหน้าสวยหันชื่นใจหน้าผากหอมๆ
“ ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวพราวทำหาย ”
ตรีทิพย์ฟังแล้วหัวเราะเริงร่าอย่างมีความสุข
 
“ อืม..แล้ว ตอนนี้เราจะทำอะไรกันดี พราวอยากไปไหนมั้ยคะ ”
 
เพชรเกล้าส่ายหน้า
“ ไปไม่ได้หรอกค่ะ ฝนเหมือนจะตก ”
“ งั้นเราไปนอนกันดีกว่าเนอะ ”
ตรีทิพย์หันมองด้านนอกสักครู่เห็นบรรยากาศดูเย็นฉ่ำ
และหันมาช้อนตัวร่างเล็กขึ้นอุ้มเดินอ้อมไปที่เตียง.....
วางสาวน้อยนั่งลงอย่างเบามือ..
 
“ พราวปวดๆหัวยังไงก็ไม่รู้ ”
ร่างสูงขมวดคิ้ว
และยื่นมือไปวางบนหน้าผากของสาวน้อยเพื่อวัดอุณหภูมิ
“ ตัวอุ่นๆ? ”
“ ฮือ.. ”
 
เพชรเกล้าส่งเสียงพร้อมสอดสองแขน
เข้ากอดเอวแนบใบหน้าอยู่กับหน้าท้องคนรัก
 
“ พราวต้องไม่สบายแน่ๆเลย ต้องทานยาแล้วล่ะ ”
ตรีทิพย์โอบกอดเนื้อตัวพลางวางมือ
ลงบนศีรษะสาวน้อยเริ่มเป็นห่วง
 
“ ไม่.. ”
“ เดี๋ยวพี่ไปหยิบยามาให้นะคะ ”
ซุปตาร์สาวจะเลี่ยงตัวออกไป
“ ไม่เอา...เดี๋ยวพี่เต้ไปนานอีก.. ”
ร่างบางกระชับสองแขนแน่น
“ แป๊บเดียวค่ะ ”
“ ไม่เอา... ” เสียงนิ่มงุ๊งงิ๊ง
“ ฮืม..เดี๋ยวป่วยแล้วคุณแม่ดุนะ ”
นางแบบสาวลูบเส้นผมเบาๆ
“ ฮือ.. ”
สาวน้อยสะบัดสะบิ้งเนื้อตัวนิดหน่อย
“ เดี๋ยวนี้ดื้อนะ ” ริมฝีปากสวยยิ้มพูด
“ เบื่อเหรอ ” ใบหน้าเรียวเงยขึ้นทำตาละห้อย
 
“ เบื่อที่ไหนหมันเขี้ยวจะตายอยู่แล้ว..!! ”
ตรีทิพย์กัดฟันพร้อมกับดันร่างสาวน้อยลงนอนด้วยร่างของเธอ
จมูกโด่งยื่นลงไปหอมซ้ายหอมขวาเจ้าหล่อนน่ารัก
 
“ หืม..ตัวร้อนแล้วเนี่ย หอมด้วย ”
" พี่เต้.. "
สาวน้อยส่งเสียง ตรีทิพย์สบตาคนเรียก
" อยากถามค่ะ "
" ถามสิคะ อยากรู้อะไร... "
ร่างสูงก้มลงจุมพิตตรงนั้นตรงนี้เบาๆ
" คุยอะไรกับเขาเหรอ "
" ฮืม..~ "
เสียงลมหายใจสั่นๆลั่นออกมาจากส่วนของซอกคอ
เพราะตรีทิพย์กำลังงุ่นง่านอยู่ตรงนั้น
 
" คุยเรื่องทั่วไปค่ะ "
นางแบบซุปตาร์เริ่มเลื้อยแนบกายอยู่บนเรือนร่างที่น่ารุมเร้า
 
" ทั่วไปแบบไหน? "
เสียงนิ่มยังคงตั้งคำถามพร้อมๆ
กับร่างสะดุ้งเกร็งคอที่เริ่มโดนขบ!
 
" ก็.. อืม..~ "
สมองของตรีทิพย์ชักจะไม่สั่งการ
เพราะมั่วแต่สนใจอยู่กับกิจกรรมตรงหน้า..ริมฝีปากสวยบดเบียด
เนื้อขาวนิ่มนุ่มจนเจ้าของเริ่มเสียการทรงตัวเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นกาย
 
" เป็นยังไง..ดีมั้ย~ ฮืม...พราว..~~ "
เสียงแหบเป็นห่วงๆพึมพำออกมา
 
" นี่..เรายังคุยเรื่องเดียวกันอยู่ใช่มั้ย? "
สาวน้อยเม้มรูปปากผ่อนลมหายใจ
 
" อืม..~ "
มีการตอบกลับเล็กๆน้อยๆจากตรีทิพย์
สองมือเริ่มสอดเข้าใต้เสื้อคนรักอีกทั้งยังดึงให้ขึ้นไปตามแรงมือ
 
" แล้วทำไมต้องกอดกันด้วย "
สิ้นจากคำถามของสาวน้อยเสื้อตัวสวยของเธอ
ก็ถูกถอดพรึบออกมาจากตัวทันที
ร่างสูงคว้ากอบกุมสองเต้าที่ยังมีบรากำบัง
" อย่าไปสนใจเลย.. "
ตรีทิพย์เงยหน้าขึ้นเอ่ยบอกก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว………
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา