บัลลังก์ฉิมพลี
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
36) ดีกันแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าตรู่วันต่อมา...ร่างสูงสวมใส่กางเกงยีนส์ทรงสวย
ก้าวขาเดินออกจากบ้านอย่างเร่งรีบผมเพ่ายาวสยาย
และทัดไว้กับใบหูด้านหนึ่งยุ่งชุลมุนกับสองมือ
ที่กำลังพับแขนเสื้อขึ้นด้วยความว่องไวอีกทั้งยังต้องหนีบรองเท้าติดนิ้วมาด้วย
ตรีทิพย์รีบปรี่ไปขึ้นรถของเธออย่างไม่รีรอโยนสิ่งที่ถือมา
ลงไว้บริเวณจุดวางเท้าของผู้นั่งและไปสะดุดกับถุงใบเดิม
ที่วางอยู่บนเบาะซึ่งเป็นเพื่อนนั่งกลับมากับเธอตลอดทางเมื่อวานนี้..
ใบหน้าสวยย้อนคิดไปถึงสิ่งที่ใบตองบอกและเริ่มนึกออก
จนจำได้ว่านี่คือถุงที่เพชรเกล้าถือออกมาจากร้านขายตุ๊กตาในตอนนั้น
ความรีบที่มีอยู่จึงชะลอลงสักครู่..มือเรียวเลื่อนเข้าไปหยิบถุงกระดาษ
สีน้ำตาลขึ้นมาดูก่อนจะค่อยๆล้วงเข้าไปเจอกับ
กล่องทรงยาวใบหนึ่งตรีทิพย์จึงค่อยๆดึงออกมา
ใบหน้าสวยขมวดคิ้วสงสัยเริ่มอยากรู้เพราะในตอนนั้น
เธอจะขอดูแต่สาวน้อยก็หวงเสียเหลือเกิน..กล่องใบเดิมจึงถูกเปิดออกเบาๆ
สายตาของตรีทิพย์จ้องมองดูอยู่สักครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นประกาย
ระยิบระยับด้วยความน่ารักที่เห็นอยู่ตรงหน้า
พร้อมกับหยิบออกมาดูใกล้ๆ
“ นี่มันเรานิ? ”
ริมฝีปากสวยยิ้มพูดหรี่แววตาพึงคิด..เกิดปลื้มใจขึ้นมา
เมื่อรู้เพชรเกล้าซื้อตุ๊กตาที่จำลองตัวเธอมาเก็บไว้
“ ฮืม..รักเจ้าหญิงจังเลย.. ”
เสียงหวานเอ่ยพูดด้วยความคิดถึง
ก่อนจะพิงหน้าผากลงกับตุ๊กตาที่ถือ
[i]‘ พราว@#$!&พิ?เต??นาคะ??.. ’[/i]
“ ฮึ?? ”
ใบหน้าสวยลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินอะไรแว่วๆหันซ้ายมองขวา
เพราะเธอได้ยินเสียงเพชรเกล้าก่อนจะหันกลับมาที่เจ้าตุ๊กตาตัวเธอ
นางแบบสาวเอื้อมหยิบวัสดุที่ใช้บรรจุ
เพื่อจะอ่านฉลากข้างกล่อง..จนเธอเห็นว่าข้อความที่บอกเอาไว้ว่า
ตุ๊กตาตัวนี้สามารถอัดเสียงได้ ตรีทิพย์เบิกตาโตนิดๆ
เธอรีบพลิกซ้ายพลิกขวาเพื่อหาจุดเปิดเสียงให้กับตุ๊กตาตัวนี้อีกครั้ง
“ เปิดตรงไหนเนี่ย?! ”
“ ติดสิติด! ”
“ หึ่ยยย..เปิดไงเนี๊ย!! ”
ร่างสูงร้อนรนเขย่าเจ้าตุ๊กตาตัวสวยที่เหมือนเธอทุกลักษณะ
“ เอาเสียงพราวออกมา!!! ”
มือของตรีทิพย์จับอยู่บริเวณสะเอวของตัวตุ๊กตาเธอเขย่าไปมา
จนนิ้วเลื่อนไปถูกปุ่มเปิดที่ซ่อนอยู่ตรงริมสะโพก
จึงทำให้เสียงเพราะๆที่คุ้นหูแว่วออกมาให้ได้ยินอีกครั้ง
[i]‘ พราวรักพี่เต้นะคะ.. ’[/i]
ใบหน้าสวยนิ่งค้างไปชั่วขณะเมื่อได้ฟังเสียงของเพชรเกล้า
ที่ได้อัดไว้ในตุ๊กตาตัวนี้ริมฝีปากสวย
ค่อยๆเผยรอยยิ้มของความชอบใจพร้อมกับกดเปิดฟังอีก
หลายๆครั้งซ้ำไปซ้ำมาจนความสุขมีท่วมทั่วอยู่บนใบหน้า..
ตรีทิพย์เม้มปากหมันเขี้ยวเจ้าของเสียงนี้เสียจริง
เช่นนั้นเธอจึงวางตุ๊กตาสุดน่ารักลงไว้บนตัก
ก่อนจะรีบสตาร์ทรถพร้อมกับขับออกไปทันที..
แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมาตรีทิพย์ก็ได้กลับมายังบ้านของทอปัด
อย่างอารมณ์ไม่ดีและสีหน้าที่บึ้งตึงอีกครั้ง เพราะเธอไม่เจอกับเพชรเกล้า
ที่บ้านและเมื่อถามจากหญิงรับใช้ก็ทำให้รู้ว่า
สาวน้อยของเธอพึ่งจะออกไปกับชินกรก่อนหน้าที่เธอจะมาถึงแค่แป๊บเดียว
“ ทำหน้าแบบนี้น้องพราวไม่ยอมดีด้วยใช่ป่ะ ”
ทอปัดวางถุงปุ๋ยลงกับพื้นก่อนจะถามออกไป
เมื่อเห็นตรีทิพย์ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างรถ
ร่างสูงพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังฟุ้งซ่านของตัวเองอยู่เงียบๆ
หันเดินเข้าไปยังในบ้านไม่ตอบคำถามอะไรทั้งสิ้นจนพี่สาวหันมองตาม
ด้วยความแปลกใจและสงสัยแต่ก็ไม่อยากถาม..
เวลาล่วงเลยไปจวบจนถึงวันที่ตรีทิพย์ต้องทำหน้าที่
การเป็นซุปตาร์ของเธอ..นางแบบร่างสูงนั่งนิ่งๆอยู่บนโซฟาตัวหนึ่ง
ลมหายใจสูดเข้าและปล่อยออกอย่างมีสมาธิสายตามองตรงไม่วอกแวก
" โอเคมั้ย? "
เสียงถามดังขึ้นเบาๆ ใบหน้าสวยค่อยๆหันมอง
และเมื่อเห็นทอปัดเธอจึงลุกขึ้นยืน..
ก่อนจะดึงเอาร่างพี่สาวเข้ามากอดทันที!!
" โอ๊ย!! หายใจไม่ออก! "
ไม่นานเลยตรีทิพย์จึงได้ดันทอปัดออกห่างชักสีหน้าไม่ได้ดั่งใจ
" แก้ขัดไม่ได้! ตัวก็ไม่หอม! "
" เอ้าไอ้นี่! คนพึ่งตื่นใครใช้ให้ลากฉันเข้าไปกอดล่ะยะ! "
ตรีทิพย์ถอนหายใจหงุดหงิด..พี่สาวเธอยังไม่ได้อาบน้ำ
ตัวจึงไม่หอมแต่สาวน้อยของเธอตื่นมาแล้ว
หอมเลยอันไหนมันน่าแปลกกว่ากันนะ?
" เตรียมตัวล่ะอีกครึ่งชั่วโมงต้องไปกันแล้ว "
ทอปัดเอ่ยบอกถึงเรื่องงานก่อนจะเดินออกไป
" คิดถึงพราว!!!! "
เสียงหวานตะโกนตามหลังระบายอารมณ์
" สมน้ำหน้า!! "
ยังไม่วายที่พี่สาวจะซ้ำเติมลอยออกมาจากห้องน้ำ
ให้คนรนรานแทบจะดิ้นพล่าน
งานเปิดตัวสินค้ารูปแบบใหม่ไลฟ์สไตล์ทันสมัย
ของแบรนด์ดังระดับต้นๆผู้คนหลายอายุต่างพบปะพูดคุย
สังสรรค์กันไปตามเรื่อง..ปิ่นรักเดินคู่มากับเพชรเกล้า
และเมื่อสองแม่ลูกก้าวขาเหยียบพื้นพรมของงาน
บรรดาช่างภาพในทุกๆสำนักต่างก็ปรี่เข้าประชิด
เพื่อเก็บภาพกันอย่างสนอกสนใจ
ร่างบางในชุดเปิดไหล่สีฟ้าอ่อนเข้ารูปความยาว
อยู่ในระดับเลยเข่ากำลังดีผมสวยแสกกลางเกล้ารวบหางม้า
แบบต่ำรูปหน้าสวยหวานลิปสติกชมพูบางเบา
ดึงดูดความสนใจต่อผู้คนในแวดวงนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
“ สวัสดีค่ะคุณปิ่น อ่ะ! หนูพราวมาด้วย ”
“ สวัสดีค่ะ ”
เจ้าของงานในครั้งนี้คือคุณปราณีที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
หลายอย่างหลักๆคือนาฬิกาข้อมือที่เน้นเจียระไนหรูโก้
และยี่ห้ออื่นๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ..หญิงรุ่นใหญ่
หน้าตาละม้ายออกไปทางชาติเชื้อชาวจีนแวะเวียนเข้ามาทักทาย
เพชรเกล้าจึงยกมือทำความเคารพ
“ ป้าคิดว่าคุณปิ่นจะหวงลูกสาวไม่ยอมพามาด้วยเสียอีก ”
ใบหน้าเรียวฉีกยิ้มหวานๆ
“ ธนา.. ”
คุณปราณีส่งยิ้มตาระยิบระยับก่อนจะหันไปเรียกลูกชายของเธอ
ชายหนุ่มหน้าตี๋เดินเข้ามาหา..
“ สวัสดีอาปิ่นสิลูก ” ปราณีบอกลูกชาย
“ สวัสดีครับคุณอา ”
“ สวัสดีจ้ะธนา โตเป็นหนุ่มแล้วเนอะ ”
ปิ่นรักยิ้มทักทายชายหนุ่มเหลือบมองหญิงหน้าตาดี
“ แล้ว..? ”
“ อ๋อ นี่พราวจ้ะ ลูกสาวอา ”
หนุ่มหน้าตี๋พยักหน้าเบาๆจ้องมองสายตาเจ้าชู้
“ ถ้าป้าจำไม่ผิดเนี่ยธนากับหนูพราวน่าจะอายุไล่เลี่ยกันนะจ๊ะ ”
ปราณียิ้มพูดอย่างนั้นอย่างนี้
“ สวัสดีครับคุณพราว ” ชายหนุ่มทักทาย
“ สวัสดีค่ะ ”
ร่างบางทักทายตอบเบาๆก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
ปล่อยให้หนุ่มน้อยชะเง้อมองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความสนใจ
“ อ่ะ เชิญไปนั่งกันดีกว่านะคะเดี๋ยวโชว์
ก็จะเริ่มแล้ว เชิญที่โซฟาด้านหน้าเลยค่ะ ”
คุณปราณีเชื้อเชิญดูแลและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อาจจะด้วยอยากเป็นทองแผ่นเดียวกันกับปิ่นรักก็ว่าได้..
เพชรเกล้านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับแม่ของเธอ
ในระหว่างที่ปิ่นรักกำลังสนทนากับหมู่ผู้คนที่รู้จัก
เธอจึงหันมองบรรยากาศของงานในค่ำคืนนี้ไปเรื่อยๆแก้เบื่อ
แสงไฟสีสวยตระการตาแคทวอร์คเงางามดำขลับดูโดดเด่น
เหมาะสมที่นาฬิกาเรือนหรูจะเฉิดฉายอยู่กับบุคคลที่จะนำเสนอ
จนทำให้สาวน้อยอดนึกไปถึงนางแบบคนดีของเธอ
ไม่ได้เลยจริงๆ..จะรู้บ้างไหมนะว่ามีคนคอยคิดถึงอยู่ทุกวัน..
“ วันนี้ฟินาเล่ดูอารมณ์ไม่ดีเลย ดูแลดีๆด้วยล่ะ ”
เพชรเกล้าหันมองถึงทีมงานที่กำลังวุ่นวายกัน
เพื่อจะเตรียมพรีเซ้นทุกๆสิ่งอย่างของค่ำคืนนี้
“ เป็นยังไงบ้างครับคุณพราวงานคืนนี้ ”
ชายหนุ่มหน้าตี๋คนเดิมที่หาจังหวะอยู่นานเดินเข้ามานั่งลง
กับโซฟาอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆกันกับเพชรเกล้า
“ ค่ะ ก็ดีค่ะ ” เสียงนิ่มตอบราบเรียบ
“ คุณพราวสนใจเรือนไหนเนี่ยบอกผมได้นะครับ ”
ธนาชายหนุ่มส่งสายตาเจ้าชู้
“ ขอบคุณค่ะ ”
เพชรเกล้าส่งยิ้มบางๆแอบถอนหายใจเบาๆ
เธอเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสนุกกับงานคืนนี้เสียแล้ว
ไม่นานนักแฟชั่นโชว์ก็เริ่มขึ้นนางแบบมากหน้าหลายตา
ไทยและฝรั่งที่ใบหน้าแนบนิ่งพอกันเดินอวดโฉมพรีเซ้น
เจ้านาฬิกาหลายรูปแบบให้เหล่าเซเลบคนดังที่มาร่วมงานกัน
ในค่ำคืนนี้ได้เชยชมกันอย่างครึกครื้น..ธนามักเอ่ยชวน
เพชรเกล้าพูดคุยอยู่เสมอและยังคอยบอกคุณสมบัติจุดที่น่าสนใจ
ต่างๆของนาฬิกาแต่ละเรือนให้เพชรเกล้าได้รู้
ซึ่งร่างบางก็รับฟังพยักหน้าสนใจเล็กๆน้อยๆจวบจนกระทั่ง…
ในตอนสุดท้ายและท้ายสุดฟินาเล่ก็ได้ออกมาโชว์ปิดจ๊อบ
บนแคทวอร์คที่สง่างาม..ตรีทิพย์เผยโฉมโพสท่า
รอจังหวะสตาร์ทก่อนจะเจิดจรัสอยู่ท่ามกลางแสงสีเสียง
ด้วยชุดสีทองยาวเหยียดหน้าผมพร้อมศัพท์ข้อมือพรีเซ้น
นาฬิกาเรือนหรูได้ดีเยี่ยมมาดมั่นสง่างาม
สมคาแรคเตอร์อันดับหนึ่งไม่แปรเปลี่ยน
เพชรเกล้าใจเต้นระรัวจ้องมองตาค้างแน่นอน
ว่าสวยและสวยมากแต่เธอไม่คิดว่าจะเจอตรีทิพย์ที่นี่
อีกอย่างเธอไม่ได้เจอนางแบบสาวร่วมสองอาทิตย์เต็ม
จนตอนนี้ร่างกายมันช่างสั่นหวั่นไหวไปหมด
ดวงตาใสแจ๋วเริ่มเหล่ซ้ายเหล่ขวาเพราะซุปเปอร์โมเดลร่างสูง
เริ่มตรงมาเกือบจะสุดทางแล้ว..ตรีทิพย์จะเห็นเธอไหมนะ?
ตรีทิพย์เดินตรงตามคิวงานที่วางไว้เรื่อย
มาจนหยุดยืนโพสยังด้านหน้าหันมองโดยรอบพอประมาณ
ตามจริตจะก้านของนางแบบมืออาชีพ
สายตาสบมองกล้องเล็กน้อยจนเลื่อนลงมาเห็น
สาวน้อยร่างบางกำลังจ้องมองเธออยู่!
ใบหน้าสวยสะดุดสนใจกับเพชรเกล้าทันทีหัวใจของเธอ
ครื้นเครงเป็นอย่างมาก..คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจู่ๆ
จะได้เจอตัวได้ง่ายดายขนาดนี้..
เพชรเกล้ารีบหลบสายตาจนกระทั่งนางแบบสาว
เดินกลับไปยังจุดเริ่มต้น..ทุกคนปรบมือให้
กับสิ่งสวยงามที่พึ่งจบไป ร่างบางชักสีหน้าน้อยใจอยู่เงียบๆ
ที่เห็นตรีทิพย์ไม่มองเธอแล้ว อีกทั้งยังยืนอี๋อ๋อ
อยู่กับนางแบบคนอื่นจนน่าหมันไส้..แต่ก็พึ่งนึกได้
ว่าอีกคนนั้นแค่เล่นๆไม่ได้จริงจังอะไรกับเธอเสียหน่อย
จึงไม่แปลกที่เขาจะแค่เฉยๆเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่ตรงนี้
เพชรเกล้าหันมองปิ่นรักเห็นแม่เธอกำลังพูดคุย
ถึงเรื่องนาฬิกาเรือนนั้นเรือนนี้จึงไม่อยากขัดจังหวะอะไร ร่างบางลุกขึ้นยืน..
" คุณพราวจะไปไหนเหรอครับ " ธนารีบยืนตาม
" ฉันจะไปห้องน้ำค่ะ ขอตัวนะคะ "
ริมฝีปากบางยิ้มบอกพร้อมกับเดินออกไปทันที
หนุ่มหน้าตี๋หันมองตามฉีกยิ้มเล็กน้อยด้วยความสนใจ
เสียงสะอื้นเบาๆของเพชรเกล้านำพาให้บรรยากาศโดยรอบ
ดูเงียบเหงา ร่างบางหลบออกมายืนยังจุดพักผ่อนของโรงแรม
ระดับดาวการันตีสาวน้อยกอดอกซึมเศร้าเธอรู้เสียดายกับทุกๆสิ่ง
ของตัวเองทั้งเวลาและความรักที่ดูเหมือนจะสวยงาม
แต่กับพังลงอย่างเฉียบพลันจนแทบจะตั้งหลักไม่ทัน
เรียวนิ้วจิกลงกับต้นแขนเนื้อตัวเธอช่างน่าอายนัก
ที่กลายเป็นเครื่องล้อเล่นของใครบางคน..
ใบหน้าเรียวก้มลงบีบน้ำตาที่เอ่อคลอให้ออกมาจนหมด
ก่อนจะเอื้อมเช็ดออกปัดเป่าความขี้แยของตัวเอง
ที่แก้ไม่หายเสียทีจนน่าเหนื่อยใจ
“ งอแงคิดถึงพี่เต้เหรอคะ.. ”
ร่างบางสะดุ้งหันมองเมื่อมีอ้อมแขนเข้ามาปกคลุม
อีกทั้งไอร้อนอุ่นๆจากริมฝีปากยังแวะเข้ามาจุมพิตที่ซอกคอของเธออีกด้วย
เพชรเกล้าชักสีหน้าไม่พอใจทันที
พร้อมกับสะบัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของตรีทิพย์
“ เดี๋ยวสิพราวคุยกันก่อน ”
ร่างสูงรีบคว้าแขนสาวน้อยที่จะเดินหนี
“ ไม่คุย! ” ริมฝีปากบางเสียงแข็งตอบ
“ ต้องคุยสิ..ฟังพี่ก่อนนะ ” ใบหน้าสวยส่งสายตาอ้อนวอน
“ ไม่!! ”
“ พราว ”
“ ปล่อย! ”
“ คุยกันก่อน ”
“ ก็บอกว่าไม่ไงเล่า!! ปล่อย! ”
" มานี่ "
ซุปตาร์ร่างสูงที่เมื่อภารกิจของเธอเสร็จสิ้นแล้ว
ก็รีบเปลี่ยนเสื้อและแว่บออกมาจากงานทันที
เพื่อจะมาตามหาสาวน้อยของเธอเพราะเห็นว่าเดินออกไปข้างนอก
และที่สำคัญไอ้หนุ่มหน้าตี๋นั่น ก็แสนจะทำให้
เธอไม่ชอบหน้าขึ้นมาอีกคน..ตรีทิพย์ดึงมือนิ่มให้เดินตามเธอมา
ด้วยความยากลำบากเพราะเจ้าหล่อนช่างฤทธิ์เยอะเสียจริง
จนกระทั่งลากถูกันมาหยุดอยู่ที่มุมลับตาคน
บริเวณเลียบข้างบันไดปูนทางขึ้นสู่ประตูใหญ่ของโรงแรม
“ ปล่อยนะ! ”
“ ฟังพี่ก่อน ”
“ ไม่! ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!! ไม่ฟังๆๆ..! ”
“ พราว!! ” ตรีทิพย์ทำสายตาดุ
“ ฟังพี่บ้างสิ! พี่ไม่ยอมให้พราวเป็นแบบนี้หรอกนะ! ยังไงเราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง! ”
“ พราวไม่อยากฟัง! ไม่อยากเห็นหน้าพี่เต้!! ”
สาวน้อยทำท่าจะเดินหนี
“ อย่าดื้อ!! ถ้ายังไม่ยอมฟังกันอย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะ!!! ”
ร่างสูงขวางทางจับสองต้นแขนเธอจำเป็นต้องใช้ไม้แข็ง
เพชรเกล้าสบตาคนตัวสูงสักครู่ก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา
ด้วยความเสียใจที่เธอมีอยู่มิหนำซ้ำ ตรีทิพย์ยังจะเสียงดังใส่เธอแบบนี้อีก..
ใบหน้าเรียวก้มลงหลั่งน้ำตาสะอึกสะอื้นไปทั้งร่างกาย
ตรีทิพย์ผ่อนลมหายใจค่อยๆเดินเข้าไปกอดร่างน้อย
ที่แสนจะคิดถึงอย่างแนบแน่นแต่เจ้าหล่อน
กับร้องไห้หนักกว่าเดิมคล้ายเก็บกดมานานวัน
“ พราวไม่อยากให้พี่เต้กอด ”
เสียงสะอื้นเอ่ยบอกแต่กับทำให้ตรีทิพย์คลี่ยิ้ม
และกระชับอ้อมกอดให้อบอุ่นยิ่งขึ้น
“ ไหนบอกพี่เต้สิคะว่าพราวเป็นอะไรทำไมถึงหนีกลับมาแบบนี้ล่ะ ”
เพชรเกล้าเบี่ยงหน้าออกไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
ร่างสูงผละออกจากอ้อมกอดเล็กน้อยพลางเกลี่ยหยดน้ำตา
ให้กับเจ้าหญิงขี้แยของเธอแต่เจ้าของกับหันหนี
สะบัดสะบิ้งยังไม่พอใจอยู่เช่นเดิม
“ พราวเข้าใจผิดนะคะ ” เสียงหวานพูดขึ้น
“ ที่บอกว่าแค่เล่นๆกับพราวน่ะเหรอ..ที่ว่าเข้าใจผิด! ”
“ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ”
“ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! ไม่อยากฟัง! ”
ซุปตาร์สาวกลืนน้ำลายลงคอสบตาสาวน้อยตรงหน้า.. [i]ไม่ให้พูดอีกและ โอเค๊[/i]
เช่นนั้นร่างบางจึงถูกดึงตัวให้เข้าประชิดพร้อมกับสองมือ
ที่ออเซาะประคองสองแก้ม ตรีทิพย์ส่งจุมพิต
เข้าครอบงำยังกลีบปากบางทันทีแรงโน้มถ่วงจากการดันดูด
นำพาให้สาวน้อยสั่นเกร็งไปทั้งตัว
“ รู้มั้ย!..ว่าพี่กำลังทน! ทนจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว..! ”
นางแบบสาวพูดประชิดริมฝีปากด้วยแววตา
และน้ำเสียงที่ช่างกระเส่าจนน่าเคอะเขิน
ก่อนจะประกบจูบลงไปอีกครั้งอย่างโหยหา
ตรีทิพย์เลื่อนมือข้างหนึ่งลูบไล้เข้าไปในบริเวณท้ายทอย
สองสาวหลับตาลงซึมซับกับความขาดหายที่ผ่านมา
เสียงลมหายใจจากความหอบเหนื่อยมีด้วยกันทั้งคู่
โดยเฉพาะร่างสูงที่เหงื่อแตกไหลหยดเป็นเม็ดๆ
จนเวลาผ่านไปสักครู่ซุปเปอร์โมเดลตรีทิพย์จึงค่อยๆ
ปล่อยริมฝีปากที่กำลังบดเบียดให้ได้เป็นอิสระ
เพชรเกล้าพ่นลมหายใจออกจากปากก้มหน้าเล็กน้อย
และคว้าหาที่จับประคับครองตัวเองที่มีเซนิดหน่อย..
ดวงตาของเธอชาๆอย่างกับว่าเลือดหล่อเลี้ยงร่างกายไม่ทันก็ว่าได้
ตรีทิพย์รีบกอดเรือนร่างบางเอาไว้อีกครั้ง..เหตุนี้
จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอไม่ได้ก็ในเมื่อสาวน้อย
อยากทำตัวให้เธออดรนทนไม่ไหวเอง..
“ ที่พราวได้ยินพี่พูดว่า แค่เล่นๆ ใช่พี่พูดแบบนั้น
แต่ทุกคำที่พี่พูดเนี่ยคือ พี่พูดว่าพี่แค่เล่นๆกับความแค้น
ส่วนกับพราวพี่จริงจัง พี่พูดแบบนี้ต่างหากแต่พราวไม่ได้อยู่ฟัง ”
ร่างสูงเริ่มอธิบายทันที
ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมองยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่
“ ถ้าพราวไม่เชื่อจะโทรถามอาอรก็ได้ เพราะอาอรก็ยืนอยู่ตรงนั้น
และอาก็เป็นคนบอกกับพี่เองว่าเพราะแบบนี้พราวถึงได้โกรธและหนีกลับมา ”
เพชรเกล้ายืนคิด..
“ พี่พูดเรื่องจริงนะคะ พี่สัญญากับพราวแล้วไงว่าจะลืมทุกอย่าง
จะไม่มีการแก้แค้นใครอีก ” มือข้างหนึ่งของตรีทิพย์ประคองแก้มขาว
“ จริงเหรอ.. ” สาวน้อยพูดขึ้นเบาๆหน้าตายังบึ้งๆตึงๆอยู่
“ จริงสิคะพี่จะโกหกพราวทำไม ” ใบหน้าสวยคลี่ยิ้ม
“ ก็พราวคิดว่าพี่เต้เชื่อว่าพราวผลักพี่ของพี่ตกบันได ”
เพชรเกล้าชักสีหน้าน้อยใจ
“ เปล่าซะหน่อย พี่ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ”
“ ก็แล้ววันนั้นพี่หายไปไหนล่ะคะ บอกว่าจะพาพราวออกไปข้างนอก
แต่ก็หายไปเลยหายไปทั้งวันเลย! ” เสียงนิ่มตำหนิใส่
“ ก็พี่งอน ”
ตรีทิพย์อมยิ้มนิดหน่อยก่อนจะทำสีหน้าที่ว่างอนให้เห็น
“ งอน? ”
“ ใช่..พี่งอน พี่งอนเองแล้วก็หายเองด้วย ”
ร่างสูงพูดอย่างนั้นอย่างนี้พร้อมกับยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มนิ่มๆ
“ งอนพราวเหรอ? ” เพชรเกล้ายังงงๆอยู่
“ ใช่ ”
“ แต่พราวยังไม่ได้ทำอะไรเลย ” ใบหน้าเรียวสงสัยยกใหญ่
“ ก็พราวชอบเก็บอะไรไว้คนเดียว เก็บความรู้สึกไม่คิดที่จะปฏิเสธ
ยอมทุกอย่างปล่อยให้คนอื่นเขากลั่นแกล้ง ” ตรีทิพย์ปล่อยอ้อมกอดและยืนกอดอก
“ คนอื่นนี่หมายถึงพี่ต้อมของพี่เต้น่ะเหรอคะ? ”
“ ใช่ค่ะ ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ ”
เพชรเกล้ายืนดึงมือตัวเองไปมาสบตาอีกคนอย่างกับลูกกวางตัวน้อย
“ พราวควรจะบอกพี่บ้างว่าที่ตัวเองเจ็บตัวเป็นเพราะใคร
แล้วที่พี่ต้อมเขากล่าวหาก็ควรจะปฏิเสธกับพี่ ”
“ ก็พราวไม่อยากให้พี่ทะเลาะกับเขานี่คะ ถ้าพราวบอกพี่เต้ก็ต้องไปหาเรื่องเขา
เถียงกันไปเถียงกันมาน่าเบื่อจะตาย ” สาวน้อยอธิบายเสียงนิ่ม
“ แต่พี่อยากให้พราวฟ้อง! อะไรก็ได้อ่ะ!..ฟ้องพี่อ่ะ!!
แบบ..พี่เต้ พี่ต้อมแกล้งพราวพี่ต้อมว่าพราวอะไรอย่างเนี๊ย!
ฟ้องพี่อ่ะพี่อยากให้พราวอ้อน..! ”
เพชรเกล้ากระพริบตาปริบๆถึงอาการเป็นเดือดเป็นร้อน
และดูเป็นปัญหาใหญ่ของตรีทิพย์
ก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา..บ้าจริง! เธอรู้สึกเขินจัง..
“ ค่ะ.....คราวหน้าพราวจะฟ้องแล้วกัน ”
ใบหน้าสวยหันมองอมยิ้มกรุ้มกริ่มเอื้อมเกี่ยวเอวบางเข้ามาใกล้
“ แสดงว่า...พราวหายโกรธพี่แล้วใช่มั้ย ”
เพชรเกล้าพยักหน้านิดๆแต่ยังคงทำหน้านิ่งๆ
“ ฮืม~..พี่คิดถึงพราวม๊ากมาก ”
ตรีทิพย์ทำเสียงอ่อนเสียงหวานยื่นริมฝีปากจุมพิตผิวพรรณ
“ ไม่ต้องทำเป็นปากหวานเลยค่ะ เมื่อกี๊ยังเห็นอี๋อ๋อกับฝรั่งอยู่เลย ”
ร่างบางทำหน้าไม่พอใจ
“ ก็ทำให้หึงไง ”
คนตัวสูงทำยักคิ้ว เพชรเกล้าส่งสายตาค้อนใส่เบาๆ
ก่อนจะเหลือบมองเมื่อใบหน้าสวยโน้มลงมาหา..
จมูกโด่งๆเริ่มดันให้ศีรษะของเธอเอียงเอนไปทีละน้อย
“ ตริ๊ง! ”
เสียงโทรศัพท์ของเพชรเกล้าดังขึ้น
สาวน้อยจึงต้องก้มลงหยิบเครื่องมือสื่อสารของเธอในกระเป๋าที่ถืออยู่
ท่ามกลางความนัวเนียที่กำลังเกิดขึ้นเรื่อยๆ
“ ฮัลโหลค่ะ ค่ะคุณแม่ ”
ร่างบางกดรับสายพร้อมกับหันหน้าไปอีกทาง
เพราะริมฝีปากสวยเริ่มจะวนเวียนมาอีกด้าน
“ พราวออกมาเดินเล่นค่ะ ค่ะได้ค่ะเดี๋ยวเจอกันนี่รถเลยนะคะ ”
และเมื่อสายตัดไปเป็นที่เรียบร้อยสาวน้อยจึงเริ่มเกร็งมือ
จับไปที่สะเอวคอดของคนตรงหน้าเพราะตรีทิพย์กำลังดูดดุนเนื้อคอของเธอ
“ พี่เต้.. ”
เสียงนิ่มเอ่ยเรียกบางเบาเพื่อเป็นการดึงสติของอีกคน
แต่ไม่ได้รับการตอบกลับอะไรมีเพียงเสียงลมหายใจ
ที่กระเส่าหอบสั่นของตรีทิพย์เท่านั้น
“ พอก่อนเถอะค่ะ ”
ร่างสูงถูกดันออกเล็กน้อยแต่ใบหน้านางแบบคนสวย
ยังคงซุกไซ้อยู่กับซอกคอหอมละมุน
“ พอนะคะ..นะ ”
เพชรเกล้าดันตรีทิพย์ออกห่างอีกครั้ง
แต่กับถูกริมฝีปากสวยพุ่งเข้าประกบจุมพิตอย่างรวดเร็ว
เรียวลิ้นรีบสอดแทรกเข้าโพลงหวานหอมอย่างเร่งรีบ..
มือข้างหนึ่งของตรีทิพย์ลูบไล้ตั้งแต่หน้าท้องผ่านเสื้อตัวสวย
ขึ้นมาจนสัมผัสกับเต้านิ่มนุ่มมือพร้อมกับกดน้ำหนักปลายนิ้วลงนิดๆ
ใบหน้าเรียวเบี่ยงหลบริมฝีปากสวยและถอยห่างออกมา
“ ฮืม..ทำไมอ่ะ.. ”
ซุปตาร์ตรีทิพย์ตาเยิ้มไวมาก ร่างบางจ้องมองรีบดันสองมือ
ที่พยายามจะเอื้อมกอดตัวเธออีกหนให้นิ่งๆไว้ก่อน
“ เดี๋ยวคนเห็น ”
“ ไม่เห็นหรอก.. ”
ด้วยความที่แขนยาวนางแบบสาว
จึงสามารถรวบตัวเพชรเกล้าเข้ามากอดได้อีกครั้ง
“ ไม่เอาพราวต้องกลับแล้ว ” เสียงนิ่มเอ่ยบอก
“ อะไรอ่ะ พึ่งเจอกันแค่แป๊บเดียวเอง ”
ตรีทิพย์เริ่มร้อนรน
“ เอาไว้เราค่อยเจอกันใหม่นะคะ ”
ร่างบางแกะมือตรีทิพย์ออกและเดินไป..
“ ไม่เอาอ่ะ! ไม่ยอมนะพี่ไม่ชอบแบบนี้เลยด้วย..! ”
ร่างสูงหันสวมกอดสาวน้อยจากด้านหลัง
“ พราว... ”
เพชรเกล้าหันมองนิดๆยิ้มหน่อยๆแอบเขิน
“ ไม่อยากให้ไปเลยอ่ะ ”
ร่างสูงส่งสายตาหวานใบหน้าเรียวหลบแววตามองลงต่ำอมยิ้ม
“ พรุ่งนี้พี่ทำงานครึ่งวัน...พราวไปหาพี่ที่คอนโดนะ.. ”
เพชรเกล้าหันหน้ากลับเม้มริมฝีปากใจเต้นแรง
“ น้า..~ ”
ตรีทิพย์เสียงอ่อนออเซาะทำคลอเคลียผิวคอออดอ้อน
“ ขอคิดดูก่อนนะคะ ” เสียงนิ่มเอ่ยบางเบา
นางแบบสาวค่อยๆหมุนตัวสาวน้อยให้หันมาหา
พร้อมกับโน้มจมูกเข้าไปหอมแก้มนิ่มหนึ่งฟอด
“ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่รถนะคะ ”
ร่างบางอมยิ้มเขินแก้มแดงพยักหน้าเบาๆ.....ทั้งคู่จึงจูงมือเดินไปด้วยกัน.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ