บัลลังก์ฉิมพลี
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
24) ผีเสื้อสองตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความร่างบางย่อตัวลงเอื้อมหยิบดอกไม้สีขาวที่จุดกลาง
กระจายสีสันเป็นเหลืองสดงดงาม เพชรเกล้ายืนขึ้น
พร้อมกับเดินไปหยุดอยู่ที่ผิวไม้ขวางกั้นนั่นคือระเบียงกว้าง
ของบ้านหลังใหญ่ที่รายล้อมอยู่รอบๆเคหา มีเก้าอี้ไม้ตัวยาวตั้งวางอยู่เป็นระยะๆ
ตามจุดโดยรอบเพื่อใช้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ใบหน้าเรียวเหม่อมอง
ดอกลีลาวดีที่ถืออยู่ในมือก่อนจะเงยขึ้นมองตรงไปยังท้องฟ้าในยามเช้าของวันนี้
เริ่มต้นในวันแรกของเดือนใหม่ที่เต็มไปด้วยความคิดถึง
สาวน้อยเริ่มเหงาขึ้นมาในใจที่ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับมารดาของเธอ
จนถึงวันนี้อันเป็นวันสำคัญที่เธอควรจะได้รับคำอวยพรจากปากของแม่ปิ่นรัก
เป็นประจำในทุกๆปี เพชรเกล้าถอนหายใจออกมาเบาๆไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
อีกทั้งก็ยังไม่แน่ใจว่าตรีทิพย์จะเลิกโกรธเกลียดแม่ของเธอแล้วจริงๆหรือไม่
จึงไม่อยากเรียกร้องขออะไรเพราะกลัวจะต้องผิดหวังอีกตามเคย
ในระหว่างที่เพชรเกล้ากำลังคุ่นคิดไปต่างๆนาๆ
กับมีอ้อมแขนที่ยื่นเข้ามากอดจากด้านหลังอย่างนุ่มนวล
จนทำให้ร่างกายที่เย็นชื้นในตอนแรกอบอุ่นขึ้นมาทันที
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยปล่อยดอกไม้ในมือล่วงหล่นลง
หันมองเพียงนิดจึงเห็นรูปหน้าแสนสวยของนางแบบสาว
กำลังคลอเคลียอยู่ใกล้ๆพร้อมทั้งจุมพิตลงกับบริเวณหัวไหล่ของเธอ
ความรู้สึกไม่พอใจแปลกๆที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้พบตรีทิพย์นอนอยู่ด้วย
เพชรเกล้าจึงหันสนใจกับบรรยากาศของภูเขาที่เห็นอยู่ไกลริบสีหน้าเรียบเฉย
ตรีทิพย์หันมองสาวน้อยที่ยืนเงียบเฉยเห็นเรียวหน้าซึม
เหม่อมองไปยังจุดอื่นไม่ยอมสนใจเธอ ริมฝีปากสวยอมยิ้มบางเบา
นำพาเรือนร่างในอ้อมกอดเดินถอยเข้ามาหาเก้าอี้นั่งเล่นตัวยาว
ที่อยู่ไม่ไกลนักโดยที่อีกคนนั้นเกร็งตัวตกใจนิดหน่อยยกมือเกาะลำแขนของเธอเล็กน้อย
ร่างสูงทิ้งกายนั่งบนเก้าอี้ไม้สักเงาสวยพร้อมทั้งจับให้ร่างบาง
นั่งลงกับตักของเธอโดยที่สาวน้อยนั้นนั่งหันข้างมาหา
“ เป็นอะไรไปคะ ทำไมเงียบจัง ”
ตรีทิพย์ถามขึ้นด้วยรอยยิ้มสองมือโรมรัดรอบเอว
“ พราวบอกแล้วว่าอย่าทำอะไรตามใจชอบแบบนี้ แต่พี่เต้ก็ไม่เคยฟัง ”
เสียงเล็กเอ่ยบอกเบาๆ
“ แต่เราดีกันแล้วนะคะ พี่แค่กอดแค่หอมเอง ”
ร่างสูงส่งเสียงโอดโอย
“ ใครดีใครคะพราวยังไม่หายโกรธ พี่เต้ต้องอยู่ห่างๆ ”
เพชรเกล้าบอกเสร็จจึงทำท่าจะลุกขึ้น
“ โธ่พราว..ทำไมล่ะคะพี่สำนึกผิดแล้วนะ ”
ตรีทิพย์กระชับอ้อมกอดซบศีรษะลงกับไหล่ร่างเล็กเพื่อไม่ให้หนีไปไหน
“ พราวไม่เชื่อง่ายๆหรอกค่ะ พี่เต้น่ะหลายใจวันนี้ดีเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ร้ายเหมือนเดิม ”
ตรีทิพย์เงยมองหน้าเศร้าเห็นสาวน้อยที่ลดสายตาลงซึมไปเช่นกัน
ไม่แปลกที่เพชรเกล้าจะคิดเช่นนี้ก็ในเมื่อที่ผ่านมาเธอเป็นแบบนั้นจริงๆ
ร่างบางเหล่มองคนด้านข้างเป็นระยะๆเมื่อเห็นว่านางแบบสาวเริ่มขยับเข้ามาใกล้
ร่างสูงค่อยๆเข้าซบอกเจ้าหญิงตัวเล็กด้วยความทะนุทะถนอม
เพชรเกล้าแนบชิดไออุ่น ปลายคางชนเข้ากับเส้นผมหนากลิ่นหอมอ่อนๆ
โลดแล่นเข้ามาให้ได้สูดสัมผัสเสียจนกระตุ้นให้หัวใจของเธอ
เต้นระรัวขึ้นมาเริ่มสัมผัสได้ถึงความจริงใจว่าอีกคนนั้นรู้สึกผิดต่อเธอจริงๆ
โดยที่ไม่ต้องมีคำพูดใดๆเอ่ยขึ้น ความนุ่มนวลและอ่อนโยนแบบนี้
อาจเป็นเรื่องดีสำหรับตัวของตรีทิพย์เสียแล้วสิ
ตรีทิพย์ผละอ้อมกอดออกนิดหน่อย มือข้างหนึ่งเอื้อมจับปลายคาง
เพื่อให้สาวน้อยเงยหน้ามองเธอ ริมฝีปากสวยอมยิ้มเล็กน้อยชอบใจในกิริยาเคอะเขิน
เพชรเกล้าหน้าแดงนิดหน่อยตอนนี้เธอใกล้ชิดกับตรีทิพย์มากเหลือเกิน
รอบเอวถูกโอบกอดแนบแน่นแต่เธอกับไม่ห้ามปรามในการกระทำ
สบตาดวงหน้าระดับซุปตาร์แสนสวยและโฉบเฉี่ยวในความเซ็กซี่จนต้องใช้หลบหลีกเช่นเคย
“ หลับตาหน่อยสิคะ ” ตรีทิพย์ยิ้มบอก
“ หลับทำไมคะ ”
“ หลับตานะคะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ”
เสียงหวานย้ำบอกอีกครั้ง..เพชรเกล้าจึงค่อยๆหลับตาลงอย่างกล้าๆเกร็งๆ
ตรีทิพย์ปล่อยมือออกจากปลายคางเล็กเพื่อเอื้อมล้วงกระเป๋ากางเกง
และหยิบสิ่งของที่อยู่ด้านในออกมาเงยหน้ามองเห็นดวงตาที่กำลังปิดสนิท
แอบตื่นเต้นและกังวลใจอยู่บ้างเล็กน้อยจึงค่อยๆขยับริมฝีปาก
ขึ้นไปประทับลงกับหน้าผากมนอย่างนุ่มนวล
“ ชู่ว์...~ หลับตาก่อนเร็ว.. ”
ร่างสูงส่งเสียงเบาๆเมื่อสาวน้อยมีอาการเกร็งตัวและจะถอยห่าง
แถมปรือตาขึ้นนิดหน่อย..ใบหน้าเรียวจึงต้องปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง
เพราะเธอเองก็อยากรู้เช่นกันว่าตรีทิพย์จะทำอะไร
ตรีทิพย์ลดสายตาลงต่ำพร้อมกับจับข้อมือนิ่มยกขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะนำสิ่งของที่เธอเตรียมมานั้นสวมใส่ให้อย่างเบามือ
เพชรเกล้าไม่รับรู้ว่าวัตถุที่แตะต้องกายนั้นคืออะไร
มีเพียงเสียงกระดิ่งที่ดังออกมาให้ได้ยินเบาๆ สองมือของเธอถูกดึงให้กอดโอบเกี่ยว
รอบคอของตรีทิพย์พลางจะลืมตาขึ้นแต่กับมีความนิ่มนุ่มๆ
สัมผัสลงกับดวงตาจนต้องปิดลงต่อไป
ความอุ่นร้อนจากเรียวปากคาดเคลื่อนอยู่กับเปลือกตาของสาวน้อย
อย่างไม่เร่งรีบจนทำให้เจ้าหล่อนเคลิบเคลิ้มไปกับแรงขยับเขยื้อน
เพราะช่างรู้สึกดีอย่างไรบอกไม่ถูก นางแบบสาวพรมจูบเบาๆ
เพื่อไม่ให้อีกคนนั้นตื่นกลัวไปเสียก่อนจนเธอเริ่มจะอดใจเอาไว้ไม่อยู่เสียเอง
จึงต้องยอมถดถอยออกมาหยุดมองใบหน้าเอิบอิ่มด้วยรอยยิ้ม
ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้น..มาเจอกับดวงหน้าซุปตาร์แสนสวย
ฉีกยิ้มหวานๆส่งมาให้จนทำให้เธอได้สติขึ้นมา
สายตาลดลงมองเห็นสองมือกำลังโอบกอดตรีทิพย์เสียแนบแน่น
เพชรเกล้าจึงรีบชักแขนออกอย่างรวดเร็วและทำท่าจะลุกขึ้นยืน
แต่ถูกอีกคนรั้งกายไว้..เสียงที่ข้อมือดังกริ๊งๆจนทำให้เธอต้องหันมอง
และนึกขึ้นได้ถึงบางสิ่งที่ร่างสูงได้สวมใส่ไว้ให้
สาวน้อยยกแขนซ้ายขึ้นมองในระดับหน้าอกด้วยความสนใจ
จึงเห็นว่าเป็นสร้อยข้อมือมุกเงาสวยงามมากจริงๆ
ใบหน้าเรียวเผยรอยยิ้มออกมาทีละน้อยเสียงกรุ๊งกริ๊งที่ได้ยินนั้น
มาจากกระดิ่งเล็กๆที่ห้อยลงจากสองปีกของเจ้าผีเสื้อตัวจิ๋ว
สั่นกระทบกันเบาๆดูช่างน่ารักเสียจริง
“ พี่เต้..นี่... ”
“ สร้อยข้อมือนี้คุณแม่ให้พี่ไว้ เมื่อตอนที่พี่ต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ
แต่ตอนนั้นพี่ยังใส่ไม่ได้เพราะว่าข้อมือเล็ก จนคุณแม่เสียพี่ก็ไม่เคยได้ใส่ ”
ตรีทิพย์มีรอยยิ้มบางๆ
“ พี่เต้คงหวงมากเลยใช่มั้ยคะ ”
เพชรเกล้าสีหน้าตกใจนิดหน่อยและทำท่าจะถอดสร้อยออก
ตรีทิพย์รีบคว้ามือเล็กเพื่อห้ามปราม..ใบหน้าเรียวหันมองด้วยความสงสัย
“ สุขสันต์วันเกิดนะคะ ”
ริมฝีปากบางเผยค้างด้วยความเซอร์ไพรส์ที่เกิดขึ้น
เพราะยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถามถึงสิ่งใดกับต้องนิ่งสงัดเสียก่อน
เนื่องจากเสียงหวานๆได้กล่าวถ้อยคำที่ทำให้เธอแอบเขินจนหน้าแดงขึ้นอย่างอัตโนมัติ
“ รุ..รู้ด้วยเหรอคะ ”
เพชรเกล้าถามขึ้นเธอรู้สึกไม่คาดคิดเป็นอย่างมาก
ตรีทิพย์ยิ้มหวานเอื้อมมือประคองแก้มขาวพร้อมขยับนิ้วโป้งลูบไปมา
“ รู้สิค่ะ ”
“ แต่มันควรจะอยู่กับพี่เต้ไม่ใช่เหรอคะ ”
ถึงแม้จะโปรดปราณแต่เพชรเกล้าก็ยังลังเลใจที่จะรับไว้
“ พี่ให้พราวนะคะ..พราวจะได้เชื่อใจว่าพี่หยุดทุกอย่างแล้วจริงๆ ”
ตรีทิพย์เสียงหวานยืนยันความรู้สึกเพราะหากเธอยังไม่เลิกแค้นเคือง
ไม่มีทางที่ของรักที่แม่เธอให้ไว้จะไปอยู่ในมือของเพชรเกล้าอย่างแน่นอน
ร่างบางก้มหน้าลงพร้อมกับมีรอยยิ้มออกมาให้เห็นด้วยความเขิน
ที่แล่นเข้ามาไม่เป็นที่เป็นทางไม่เลือกเวลาเอาเสียเลย..มองสิ่งของอีกครั้ง
ด้วยความชื่นชอบและตื่นเต้นเหมือนได้ของเล่นในวันเด็กยังไงอย่างงั้น
พลางเขย่าข้อมือเบาๆเพื่อให้เสียงกระดิ่งดังขึ้นด้วยความชอบใจ
นางแบบสาวกระชับอ้อมกอดแนบแน่นเริ่มหมันเขี้ยวเจ้าหญิงร่างเล็กขึ้นมาเสียแล้ว
“ ให้โอกาสพี่นะคะ พี่รักพราวจริงๆ ”
ตรีทิพย์ยิ้มบอกจ้องมองรอคำตอบจากสาวน้อยใจจดใจจ่ออีกครั้ง
เพชรเกล้าหัวใจเต้นแรงหน้าตาแดงกร่ำเป็นสตรอว์เบอร์รีสีสด
จิตใจของเธออ่อนลงยวบเพียงเวลาชั่วครู่ลังเลใจที่จะแข็งขันต่อไป
เมื่ออีกคนนั่นเอาแต่อ้อนวอนด้วยอ้อมกอดที่กระชับหนักแน่น
จนแทบขาดอากาศหายใจไปเสียดื้อเรียวหน้าเล็กค่อยๆหันมาหา
คนเฝ้ารอฟังคำที่จะออกจากปากของเธอก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ
“ ก็ได้ค่ะ.. ”
“ !!!!! ”
เสียงดีใจดังขึ้นให้ได้รับรู้กันแค่เพียงสองคน
ตรีทิพย์ดันตัวสาวน้อยเข้ามากอดให้แนบชิดกับเธอด้วยความดีใจ
พร้อมทั้งหันหอมแก้มใสเน้นๆด้วยความออกนอกหน้า
ที่ต่อจากนี้จะได้กอดรัดฟัดจูบเจ้าหล่อนแบบนี้เสียให้หนำใจเธอ
เพชรเกล้ายิ้มหวานที่ปนเขินอายพวงแก้มของเธอ
ไม่สามารถหลบหลีกไปในทิศทางไหนได้เนื่องจากถูกอีกคน
ล็อคตัวเอาไว้เสียแน่นเพื่อให้รับอรรถรสที่แสนจะคิดถึงอย่างไม่อาจเลี่ยงหนี
“ ดีใจที่สุดเลย ”
เสียงหวานพร่ำบอกพร้อมทั้งประทับรอยจูบย้ำไปย้ำมาอยู่อย่างนั้น
“ ห้ามลืมสัญญานะคะ ”
ร่างบางขืนตัวผละออกมาเตือนบอกเสียงนิ่ม
“ ค่ะ ไม่ลืมอยู่แล้ว ”
สาวน้อยถูกดึงเข้ามากอดอีกครั้งสองมืออ้อมไปยังด้านหลังของนางแบบสาว
ยิ้มหวานสนใจอยู่กับสิ่งเดิมเสียงดังกรุ๊งๆกริ๊งๆออกมาจากสร้อยข้อมือมุกแท้
เนื่องจากเธอนั้นกำลังเขี่ยเล่นไปมาจึงทำให้ตรีทิพย์ฉีกยิ้มไม่มีหุบด้วยมีความสุขในมุมมองแบบนี้
“ ผีเสื้อตัวนั้นเป็นของพราวนะ...ส่วนตัวนี้เนี่ย..... ”
ร่างบางหยุดนิ่งในสิ่งที่กำลังสนใจเมื่อตรีทิพย์ได้ดึงให้สติของเธอกลับมา
ด้วยฝ่ามือซุกซนที่ได้คลาดเคลื่อนลูบไล้อยู่ตรงบริเวณแทททูแสนสวย
ผ่านเนื้อผ้าตัวหนาจนทำให้ใจเต้นระรัวขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น
“ เป็นของพี่… ”
ริมฝีปากสวยหันกระซิบข้างหูเพชรเกล้าเบาๆ
ความจริงแล้วสร้อยข้อมือของเธอเป็นเพียงเส้นมุกเท่านั้น
แต่เจ้าผีเสื้อตัวจิ๋วนี้เธอได้สั่งทำขึ้นมาใหม่เพื่อมอบให้กับสาวน้อยโดยเฉพาะ
ร่างบางพ่นลมหายใจออกปากเรียวหน้าของเธอร้อนฉ่า
อย่างกับโดนแผดเผาหัวใจเต้นแรงไม่สามารถยับยั้งให้เชื่อฟังกัน
ตรีทิพย์เอื้อมมือซ้ายประคองรูปหน้าที่หลบอยู่กับไหล่ขวาของเธอ
เพื่อให้หันมาหาอย่างไม่เร่งรีบ เพชรเกล้าเกร็งตัวเล็กน้อย..
สายตาคมกริบกวาดมองไปทั่วดวงหน้าใสและมาหยุดสนใจ
อยู่กับกลีบปากอมชมพูที่เคยลิ้มรสมาหลายครั้งคราว
ริมฝีปากสวยจึงค่อยๆขยับเข้าไปหา..แตะจุมพิตสัมผัสลงเบาๆ
ลมหายใจอุ่นๆได้โลดแล่นผสมผสานกันมืออีกข้างของตรีทิพย์
กระชับอ้อมกอดให้รัดแน่นมากยิ่งขึ้น
ด้วยความหมันเขี้ยวรอยจูบจึงเริ่มขยับเขยื้อนหมายจะบุกรุก
เพื่อลิ้มรสชาติที่ลึกซึ้งมากกว่านี้แต่ถูกสาวน้อยเบี่ยงหน้าหนีเสียก่อน
ร่างสูงจึงผ่อนลมหายใจเบาๆเพื่อระงับอารมณ์ให้เป็นปกติด้วยความเสียดาย
" ครั้งหน้าไม่ปล่อยให้หลบแบบนี้แล้วนะ "
ตรีทิพย์เอ่ยเสียงสั่นพร่านำพาให้อีกคนขนรุกเกลียว
ใบหน้าสวยเม้มริมฝีปากแน่นจ้องมองสาวน้อยแล้ว
ก็ยิ่งทำให้เธอหมันเขี้ยวแต่ต้องบังคับจิตใจเอาไว้ให้อยู่หมัด
เพราะเธอไม่อยากขัดใจต่อเพชรเกล้า
" พี่มีอีกอย่างนะคะ ที่จะให้พราว "
ตรีทิพย์พูดขึ้นเพื่อให้เรื่องอื่นช่วยยับยั้งชั่งใจเธออีกแรง
" อะ..อะไรคะ " ริมฝีปากบางสั่นเทาเล็กน้อย
ตรีทิพย์ประคองตัวเพชรเกล้าถอยออกจากอ้อมกอด
ก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ภายในกระเป๋ากางเกงเช่นเดิมออกมาส่งให้กับเจ้าของ
" โทรศัพท์ของพราวนี่คะ..! "
ใบหน้าเรียวคลี่ยิ้มดีอกดีใจรีบรับมาถือไว้ทันที
“ พี่ชาร์ตแบตให้แล้วแต่ยังไม่ได้เปิดเครื่อง ”
เพชรเกล้าได้ยินเช่นนั้นเธอจึงยิ้มหวานด้วยความดีใจ..และกดเปิดมือถือทันที
เมื่อหน้าจอเข้าสู่โหมดโฮมจึงปรากฏให้เห็นแมสเสจ
จากชินกรเยอะพอสมควรแต่ก็น้อยกว่ามิสคอลของมารดาเธอเป็นอย่างมาก
ที่ขึ้นโชว์จนน่าใจหายรวมทั้งเบอร์ที่บ้านเบอร์จากบริษัท
และอื่นๆอีกมากมายคาดว่าแม่ปิ่นรักคงจะเป็นห่วงมากๆที่เธอขาดการติดต่อไป
" พราวโทรหาคุณแม่เลยนะคะ "
" โทรสิคะ "
ตรีทิพย์เผยรอยยิ้มให้เห็นก่อนจะพูดออกมา
สาวน้อยจึงรีบกดโทรออกหามารดาของเธอทันที
[i]' พราว! นี่ลูกอยู่ที่ไหน..เป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงหายไปแบบนี้
รู้มั้ยว่าแม่เป็นห่วง แม่โทรหาลูกทุกวัน แต่ก็ปิดเครื่องตลอด
แม่กังวลใจคิดไปต่างๆนาๆกลัวพราวจะเป็นอะไรไป ' [/i]
ใช้เวลาในการต่อสายไม่นานนักก็ได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับถ้อยคำที่แสนจะเป็นห่วงเป็นใยพูดออกมา
จนทำให้เพชรเกล้าน้ำตาซึมด้วยรอยยิ้มของความดีใจ
" คุณแม่... "
[i]' ชินกรก็ติดต่อไม่ได้มีแต่ส่งแมสเสจมาให้เท่านั้น
แม่เป็นห่วงพราวมากนะ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้แม่ไม่มีทางให้พราวไปเด็ดขาด
หากวันนี้ลูกยังไม่ติดต่อกลับมาเนี่ย แม่ก็จะไปหาลูกที่แม่อ่องสอนแล้วนะ '[/i]
เสียงของปิ่นรักดังออกมานอกเครื่องมือสื่อสารจนทำให้ตรีทิพย์ได้ยินไปด้วย
" พราวคิดถึงคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ.. "
เสียงเล็กพูดขึ้นน้ำตาหยด ท่ามกลางใบหน้าที่แสดงออกมา
ว่ามีความสุขที่ได้ยินเสียงแม่เธอ
ทางด้านปิ่นรักเมื่อได้ยินเช่นนี้เธอจึงถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกดี
ยิ้มได้เต็มปากเสียทีหลังจากที่เคร่งเครียดมาหลายวัน เพราะเป็นห่วงลูกสาว
บวกกับภาระการงานที่ดันมามีปัญหาเอาตอนนี้จึงทำให้พัวพันกันไปหมด
[i]‘ แม่ก็คิดถึงลูกมากที่สุดเลยจ้ะ ดีใจเหลือเกินที่ลูกไม่ได้เป็นอะไร
อย่าขาดการติดต่อกับแม่อีกนะจ๊ะ แม่เป็นห่วง ’[/i]
“ พราวขอโทษนะคะ ที่ไม่... ”
[i]‘ ไม่เป็นไรจ้ะลูก..แม่เข้าใจ
พราวสบายดีก็ดีแล้วจ้ะแม่หายห่วงไปเยอะเลย ’[/i]
ตรีทิพย์เม้มริมฝีปากเล็กน้อยรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเห็นเพชรเกล้ามีแววตาที่แสนจะคิดถึงแม่ของตัวเอง
ที่ผ่านมาสาวน้อยคงจะทรมานเป็นอย่างมาก กับการที่ต้องทนฟัง
คำต่อว่าจากเธอสารพัดเรื่องยิ่งคิดก็ยิ่งสำนึกผิด สองมือจึงโอบกอดชิดแน่น
พิงศีรษะกับเนื้อนวลแนบไออุ่นนั่งฟังแม่ลูกสนทนาถึงกันละกันอยู่อย่างเงียบๆ
“ ขอบคุณนะคะคุณแม่
คำพูดของคุณแม่ทั้งหมดทำให้พราวมีความสุขที่สุดเลยค่ะ ”
ใบหน้าเรียวสดใสยิ้มหวานพอประมาณที่สื่อให้รับรู้ถึงความรัก
ระหว่างแม่กับลูกเมื่อเธอได้ฟังคำอวยพรในวันเกิด
จากปากของผู้เป็นแม่ที่กล่าวบอกผ่านโทรศัพท์ในมือเพียงเท่านี้
เธอก็ไม่ต้องการสิ่งใดแล้วเหล่สายตามองร่างสูงนิดๆที่ดูซึมไปแปลกๆ
ทอปัดแอบยืนมองอยู่มุมหนึ่งดีใจไปกับเพชรเกล้าด้วย
เห็นสาวน้อยยิ้มได้เธอก็เบาใจขึ้นมาก พลางจ้องมองไปยังน้องสาวซุปตาร์
จึงทำให้อดยิ้มเยาะไม่ได้จริงๆ..ไม่คิดว่าจะมีวันนี้
วันที่เห็นตรีทิพย์สงบนิ่งสิ้นฤทธิ์อยู่กับไออุ่นของเพชรเกล้า.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ