บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  57.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ไออุ่นจากเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ห้องนอนสว่างไสวอากาศในค่ำคืนนี้เย็นสบายไม่เคยเปลี่ยน..ถัดมายังริมหน้าต่าง

กระจกขอบไม้สองบานที่ถูกเปิดออกให้ลมหนาวพัดโชยเข้ามากระทบกับเรือนร่างบาง

ที่ได้ยืนมองบรรยากาศในตอนกลางคืนของวันนี้ด้วยรอยยิ้ม

 

 

เพชรเกล้าสดชื่นขึ้นมากเมื่อสภาพจิตใจถูกฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติ

สาวน้อยในชุดนอนเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงขายาวเช่นเคย

เหม่อมองไปรอบๆของไร่สตรอว์เบอร์รีอันกว้างใหญ่

จนสายตาเลยไปหยุดอยู่ตรงพื้นที่เปลี่ยวผู้คนจุดที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเธอ

เมื่อนึกย้อนไปถึงวินาทีในตอนนั้นก็ช่างทำให้เสียขวัญขึ้นมา..

โชคดีของเธอเหลือเกินที่ไม่ถูกวันลพทำอะไรจนเกินเลย

ไม่เช่นนั้นเธอคงเจ็บปวดไปตลอดชีวิต

 


“ ฮื่อ!! ”

 

เสียงนิ่มร้องออกมาเบาๆเมื่อจู่ๆร่างของเธอก็ถูกจับให้หันกลับมา

พร้อมกับจมูกโด่งๆพุ่งเข้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างรวดเร็ว

จนใบหน้าหันชนกับหัวไหล่ของตัวเองแทบจะปวดต้นคอกันเลยทีเดียว

 


“ ฮ้า..ชื่นใจจัง ”


“ พี่เต้..! ตกใจหมดเลยค่ะทำอะไรเนี่ย ”


ร่างบางเอ่ยบอกเพราะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตรีทิพย์ที่ชอบทำให้เธอเสียขวัญเล็กๆ

 

“ ไม่รู้จักเหรอค่ะแบบนี้เนี่ยเขาเรียกว่าหอมมม..รู้มั้ยจ๊ะเบบี๋.. ”


สองมือของนางแบบสาวเอื้อมบีบแก้มใสพูดเสียงอ่อนเสียงหวานด้วยความหมันเขี้ยว

 

 

ใบหน้าเรียวผุดแดงขึ้นอย่างกับผลสตรอว์เบอร์รี

รีบหันหนีคนตรงหน้ากลับไปชมธรรมชาติเช่นเดิม

 


“ ทำไมมายืนตากลมอยู่แบบนี้ เดี๋ยวไม่สบายนะ ”

 


" ยังกลัวอยู่เหรอคะ "

เสียงหวานถามขึ้นพร้อมสอดแขนเข้ากอดเรือนร่างแนบแน่นไออุ่น

 

สาวน้อยพยักหน้าเบาๆแต่ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจเหลือเกินที่มีตรีทิพย์อยู่ใกล้ๆแบบนี้

 


" พี่เต้ต้องมีไฟไว้ตรงนั้นด้วยนะคะ มันมืดมากเลย "

เพชรเกล้าพูดขึ้นเสียงนุ่มนวล

 

" ค่ะ พี่ก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน "

 

ตรีทิพย์ตอบกลับในขณะที่เธอเองนั้นกำลังคลอเคลียสาวน้อยในอ้อมกอดอยู่อีกตามเคย

 

 

ในขณะที่เพชรเกล้ากำลังยืนคิดอะไรไปเพลินๆ

นางแบบสาวจึงใช้โอกาสนี้ส่งริมฝีปากจุมพิตลงกับหัวไหล่มนเบาๆ

แอบชำเลืองสายตามองดูเจ้าของเรือนร่างที่ยังคงไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เพราะมัวแต่สนใจกับบรรยากาศตรงหน้า ปลายจมูกโด่งค่อยๆซุกไซร้

เข้าหาซอกคอขาวผ่องสูดดมความหอมที่ตราตรึงใจจากร่างกายที่เธอลุ่มหลง

 


ใบหน้าเรียวเอนเอียงไปตามแรงดันของริมฝีปากที่หลงระเริงใจไปเสียจนลืมตัว

เพชรเกล้าจึงเริ่มรู้สึกถึงอณูความร้อนของลมหายใจที่พ่นใส่เนื้อผิวเธอจนขนลุกซู่..

สาวน้อยทักท้วงทันที!!


" พี่เต้! "

 

ตรีทิพย์เงยหน้าขึ้นมอง..ดวงตาหวานฉ่ำอมยิ้มกรุ้มกริ่ม

ส่อแววของท่าทางที่แสนจะอารมณ์ดีเหลือเกิน

 

 

" อย่ามายิ้มนะ!! "

 

เสียงนิ่มเอ่ยบอกด้วยความไม่พอใจปนเขินอายไปตามระเบียบ

แต่ก็กลายเป็นกิริยาที่น่ารักไปสำหรับคนมองอย่างตรีทิพย์

ร่างบางบิดตัวเล็กน้อยเพื่อออกจากอ้อมกอดของผู้โรมรัดหันเดินออกไปทันที

 


เห็นใบหน้าที่เอาแต่ยิ้มหวานอย่างมีความสุขแล้วนั้น

ทำให้สาวน้อยเริ่มคิดไปถึงเรื่องราวบางอย่างที่เคยจดจำไว้

มันจึงทำให้เธอไม่กล้าที่จะเปิดใจต่อความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้

 

ร่างสูงคลี่ยิ้มมองตามแผ่นหลังก่อนจะหันไปปิดหน้าต่างเสียให้เรียบร้อย

หลังจากที่ปล่อยให้อากาศภายนอกโปรยปลิวเข้ามาเสียนาน

พร้อมกับรีบเดินเร็วๆเข้าไปกอดสาวน้อยจากด้านหลัง..

 


" พี่ไม่ยิ้มก็ได้ ให้พราวยิ้มคนเดียว "

“ พราวไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องยิ้มค่ะ ”

“ ก็ยิ้มให้พี่ไงคะ พี่อยากมอง ”


ร่างสูงเอ่ยบอกพลางยื่นริมฝีปากเข้ามาจุมพิตแก้มใสเบาๆ

 

“ หนาวมั้ยคะ.. ”


“ พราวอยากนอนแล้วค่ะ พี่เต้กลับห้องเถอะ ” เสียงเล็กพูดขึ้น

 

“ ขอนอนด้วยไม่ได้เหรอ..พี่ยังไม่หายคิดถึงเลยนะ ”

“ พราวก็อยู่ที่นี่ตลอดจะคิดถึงอะไรนักหนา ”

สาวน้อยแกะมือตรีทิพย์ออกพร้อมทั้งเดินออกห่าง

“ แต่พี่พึ่งได้อยู่ใกล้พราวเองนะ พี่ก็ต้องคิดถึงสิคะ ”

 

ตรีทิพย์เดินเข้าไปดึงมือสาวน้อยเบาๆพร้อมกับจับร่างให้หันมาหา

สองแขนสอดเข้าสะเอวบางยืนกอดเรือนร่างเอาไว้หลวมๆ

 


“ รักพราวนะคะ.. ”

 

“ ไม่จริง..! ” ร่างบางถอยออกห่างพูดออกมาเสียงแข็ง


“ จริงสิคะ ทำไมถึงไม่เชื่อพี่ล่ะ ” ริมฝีปากสวยรีบบอก

 

เพชรเกล้าย้อนนึกไปถึงเรื่องราวในวันนั้นมันจึงยิ่งทำให้เธอเริ่มเคืองใจขึ้นมา


“ พี่เต้ออกไปเลย พราวไม่อยากคุยด้วยแล้ว! ”


“ คุยกันก่อนนะคะ ”


ตรีทิพย์เอ่ยบอกพลางเอื้อมจะจับมือสาวน้อยแต่เจ้าหล่อนกับสะบัดหนีห่าง


“ พราว.. ”


ริมฝีปากสวยส่งเสียงใจเย็นอีกทั้งยังแปลกใจ

ที่อยู่ๆเพชรเกล้าก็แสดงกิริยาหงุดหงิดขึ้นมา

 

“ ไม่! ”


เพชรเกล้าหลีกหลบเนื้อตัวไม่ยอมให้คนตรงหน้าได้สัมผัสต้องกายเธอ

 

ซุปตาร์สาวกัดฟันอมยิ้มนิดๆก่อนจะพุ่งเข้ากอดร่างบางอย่างรวดเร็ว!!!

พร้อมกับดันให้สาวน้อยถอยไปพิงยังผนังด้านหลัง

 

“ ไม่ใช่มั้ย..ฮึ!~..ฟอด!..ฟอด!! หืม..ดื้อนัก..ฟอด!!! ”


สาวสวยจัดการหอมซ้ายหอมขวาหอมแล้วหอมอีก

กับพวงแก้มขาวด้วยความหมันเขี้ยว

 


“ ฮือ..ฮื่อ! ฮื่อ! ”

 

เพชรเกล้าทุบตีสองไหล่ของตรีทิพย์ด้วยความโมโห

เพราะเหมือนโดนกลั่นแกล้งจากอีกคนจึงทำให้นางแบบสาวหัวเราะชอบใจเบาๆ

 

“ ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะคะ ว่าพี่เต้รักน้องพราว ”


" จะให้พราวเชื่อได้ยังไงเพราะที่ผ่านมาพี่เต้คอยแต่หาเรื่อง
คอยพูดจาทำร้ายจิตใจพราวมาโดยตลอดแล้วอยู่ๆจะมาบอกว่ารัก
จะหลอกแก้แค้นอะไรอีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ "

ร่างบางเอ่ยบอกสีหน้าเป็นกังวลสับสนเรื่องราว


ซุปเปอร์โมเดลร่างสูงฉีกยิ้มออกมาค่อยๆยื่นริมฝีปากเข้าไปหา

หน้าผากผุดผ่องและกดจุมพิตลงอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยุดมองดวงหน้าแสนสวย

 

" ต่อไปนี้จะไม่มีคำว่าแค้นระหว่างเรา พี่ขอโทษนะคะที่เคยทำให้พราวต้องเสียใจ "


มือข้างหนึ่งของตรีทิพย์เอื้อมประคองผิวแก้มใสด้วยความอ่อนโยน

 

" พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำแบบนั้นอีก พราวเชื่อใจพี่นะคะ "


ร่างบางลดสายตาลงแอบเขินนิดๆเวลาที่ตรีทิพย์เสียงหวานกับเธอแบบนี้


" แล้วพราวล่ะ รู้สึกยังไงกับพี่บ้างคะ "


“ ถามทำไมคะไม่ได้ต้องการไม่ใช่เหรอ ”


เพชรเกล้าชักสีหน้างอนไม่หายแต่ไม่ได้แสดงออกมากนัก

พลางจะเบี่ยงออกจากอ้อมกอดแต่อีกคนกับรั้งกายเธอไว้

 

“ รู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่ต้องการ ”

“ พราวเคยถาม แล้วพี่เต้ก็ตอบแล้วด้วย ”


“ ถามตอนไหน ”


ใบหน้าสวยก้มมองจ้องหน้าสาวน้อยแก้มใสที่คอยหลบหลีก


“ ก็ตอน... ”


ภาพวินาทีที่นอนเปลือยท่ามกลางสายตาของตรีทิพย์โลดแล่นเข้ามาในความคิดของเธอ

สาวน้อยจึงไม่อาจพูดอะไรต่อได้เนื่องจากใบหน้านั้นเริ่มร้อนฉ่าและอาจเปลี่ยนสีเข้มอีกตามเคย

 

" ตอนไหน... "


ร่างสูงโน้มใบหน้าเข้าใกล้เอ่ยถามน้ำเสียงกระเส่าเล็กน้อย


เพชรเกล้าปล่อยลมหายใจสั่นพร่าด้วยความตื่นเต้นและเขินอายเป็นอย่างมาก

 

รูปหน้าที่อยู่จนเกือบแนบชิดกัดฟันแน่นอดใจไว้แทบไม่อยู่

ต่อเรือนร่างในวงแขนแสนหมันเขี้ยวในความอ่อนนุ่ม

ของสาวน้อยที่เบี่ยงริมฝีปากหนีไปอีกด้านจนน่ารุกตามหากไม่ยับยั้งชั่งใจ

 

แต่ด้วยความโหยหาซุปตาร์ร่างสูงจึงกดจุมพิตลง

บริเวณใกล้กลีบปากหนึ่งครั้งสาวน้อยเกร็งตัวนิดหน่อย

เพราะเธอกำลังตื่นเต้นจนอยากจะวิ่งหนีคนตรงหน้าเสียให้รู้แล้วรู้รอด

 


" ก็เพราะว่าตอนนั้นพี่หลอกตัวเอง แล้วก็หลอกพราว..เพราะว่าพี่กำลังจะ.. "


" อย่าพูดนะคะ! "

เพชรเกล้าหน้าแดงกร่ำรีบเอื้อมมือปิดริมฝีปากสวยเพื่อไม่ให้เอื้อนเอ่ยอะไรต่อ


" เชื่อหรือยังคะ ว่าพี่รักพราวมากขนาดไหน "

ตรีทิพย์ยิ้มหวานถามทันทีหลังจากที่มือนิ่มเปิดออก


" ไม่รู้ค่ะ "

 

เสียงนิ่มตอบกลับหันหน้าหนีทำไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะสะดุ้งขึ้นคว้ามือซน

ที่เคลื่อนลงต่ำไปใกล้กับสะโพกของเธอและยังกดนิ้วเน้นๆ

คล้ายบีบเนื้อเล่นเบาๆจนใบหน้าเรียวต้องหันมองผู้กระทำอีกหน..

จึงเห็นนางแบบสาวกัดริมฝีปาก..รูปหน้าเซ็กซี่ดูช่างยั่วยวนเสียจริงๆ

 


" ออกไปได้แล้วค่ะ ดึกมากแล้ว "


สาวน้อยพูดขึ้นและส่งสายตาดุนิดหน่อยใส่คนที่กำลังหยอกเย้าตัวเธอ


" ขอนอนด้วยน๊า.. " ร่างสูงชักสีหน้าออดอ้อน


" ไม่ได้ค่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ "


ตรีทิพย์ส่งสายตาอ้อนวอนไม่เลิก

 

" เดี๋ยวนี้ค่ะ "

 


เมื่อเพชรเกล้าไม่ยอมคล้อยตาม นางแบบสาวจึงต้องยอมคลายวงแขน

ออกจากรอบกายนุ่มนิ่มเพราะไม่อยากขัดใจสาวน้อยของเธอ

 

ร่างบางหันเดินไปที่เตียงด้วยใจที่แสนจะตุ้มๆต่อมๆ

แต่ต้องทำเคร่งขรึมเพื่อป้องกันไม่ให้ตรีทิพย์กล้าฉวยโอกาส

ทำอะไรกับเธอเนื่องจากอยู่กันสองต่อสองท่ามกลางบรรยากาศที่ช่างเป็นใจ

ร่างสูงเดินตามไปไม่ห่างจนทำให้เพชรเกล้าสะดุ้งระแวงหันมองด้วยความตื่นเต้น

 

“ พี่เต้..ออกไปสิคะ ”

 

สาวน้อยพูดขึ้นเสียงนิ่มถอยหลังจนมาชนกับขอบเตียง

จ้องมองตรีทิพย์ใจเต้นระรัว ฝ่ายนางแบบสาวเมื่อเห็นเช่นนั้น

จึงรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้ามีอาการไม่เป็นตัวของตัวเอง

ใบหน้าที่เริ่มแดงกร่ำมาพร้อมกับดวงตาที่หายแข็งขัน

ผิดแปลกไปจากเมื่อสักครู่เพราะว่าตอนนี้ แววตาใสช่างคล้ายลูกกวางตัวเล็กๆ

ที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับสิงโตเจ้าป่าว่าจะไว้ชีวิตเธอหรือไม่

 

ร่างสูงค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปหาเจ้าหญิงร่างน้อยอย่างไม่รีบร้อน

อมยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยความหมันเขี้ยว จ้องมองสาวสวยที่หายใจแรง

จนคล้ายคนมีโรคหอบประจำตัว มองเห็นร่างบางที่หนีปัญหาด้วยการหลับตาลงแน่น

ซุปเปอร์โมเดลตรีทิพย์จึงหลุดหัวเราะเบาๆก่อนจะยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มใสหนึ่งครั้ง

 

เพชรเกล้าปรือตาขึ้นมองไปพบกับรอยยิ้มแสนหวาน

ตรงหน้าที่เห็นแล้วก็ช่างชุ่มฉ่ำหัวใจ

 

“ ขอนอนด้วยนะคะ ”

 

ร่างบางแอบถอนหายใจเบาๆโล่งอก

ที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้เหลือบมองคนตัวสูงหน้าสวย

 

“ พี่นอนข้างเตียงก็ได้ถ้าพราวไม่ไว้ใจ ”

 

ตรีทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหยิบหมอนที่อยู่บนฟูกมาหนึ่งใบ

พร้อมกับวางลงยังพื้นข้างเตียงและทิ้งตัวนอนลงทันที

 

“ แต่พื้นมันแข็งนะคะ ”


“ หรือน้องพราวจะให้พี่นอนบนเตียงด้วยดีมั้ยคะ ”


ร่างสูงแกล้งเสนอแนะจึงทำให้สาวน้อยนิ่งไป..ก็เพราะเธอยังกลัวอยู่

 

“ แล้ว...ผ้าห่มไม่มีนะ ไม่หนาวเหรอ ”

เพชรเกล้าอ้ำๆอึ้งๆพูดเพราะเธอไม่อยากให้อีกคนรับรู้ว่าแอบเป็นห่วงเล็กๆ

 

“ งั้นพราวก็มาให้พี่กอดดีกว่ามา ”


ตรีทิพย์โผลุกขึ้นทำท่าจะเข้ามาคว้าตัว..

ร่างบางจึงกระโดดขึ้นเตียงทันทีทำเอาคนด้านล่างมองตามด้วยรอยยิ้ม

 

 

 


ตกดึกสงัดยามค่ำคืนอากาศเริ่มเย็นลงมากขึ้นเรื่อยๆ

จนขนาดผ้าห่มผืนหนายังแทบจะระงับความเย็นเอาไว้ไม่อยู่..

เพชรเกล้าสะดุ้งขึ้นจากอาการหลับๆตื่นๆสายตามองเห็น

ไอความหนาวผุดขึ้นเป็นฝ้าตามแผ่นกระจกจนไหลหยดเป็นสาย

พลางคิดไปถึงคนที่นอนอยู่ข้างเตียงจึงทำให้ตกใจขึ้นมา

ไม่รู้ว่ายังอยู่ที่เดิมหรือหนีกลับไปซุกผ้าห่มที่ห้องนอนของตัวเองแล้ว

 


ร่างบางค่อยๆพลิกร่างกลับมาอีกด้านก่อนจะค่อยๆกระเถิบไปชะเง้อมอง

หญิงร่างสูงที่บอกว่าอยากนอนด้วย..มองเห็นตรีทิพย์นอนขดอยู่ข้างเตียงเช่นเดิม

สองมือกอดตัวเองแน่นท่าทางคงจะหนาวเอามากๆ

 

เพชรเกล้ารีบลุกขึ้นพร้อมกับดึงผ้าห่มออกจากร่างกาย

ก่อนจะค่อยๆย้ายลงไปคลุมร่างของตรีทิพย์อย่างเบามือ..หยุดมองดวงหน้ายามนอนสักครู่

ปลายจมูกโด่งแดงนิดๆริมฝีปากเผยออกเล็กน้อยดูช่างน่ารักไปอีกแบบ

ยามที่ไม่ออกฤทธิ์แบบนี้ สาวน้อยอมยิ้มออกมาเบาๆ

พลางจะหันกลับไปนอนต่อแต่แขนของเธอกับถูกดึงไว้จนสะดุ้งด้วยความตกใจ

 


ใบหน้าเรียวหันมองจึงเห็นตรีทิพย์ยิ้มงัวเงียมองอยู่เช่นกัน

 

“ ไม่หนาวเหรอคะ ”

“ พราวอุ่นมานานแล้วค่ะ ให้พี่เต้อุ่นบ้าง ”


เสียงเล็กเอ่ยบอกและจะหันไปนอนลง

แต่ตรีทิพย์ยังไม่ยอมปล่อยมือแถมรั้งให้เธอลงมาหา

 

ร่างบางขืนตัวเล็กน้อยแต่นางแบบสาวพยักหน้ายิ้มบางๆ

คล้ายอยากให้ลงมาหาจริงๆจังๆ เพชรเกล้าจึงยอมลงมานั่งลงใกล้ๆ

 

“ นอนกับพี่เต้นะคะ พี่ไม่ทำอะไรพราวหรอก..เราจะได้อุ่นด้วยกันไง ”


ริมฝีปากสวยยิ้มบอกสาวน้อยลดสายตาลงเริ่มเขินขึ้นมาขึ้นมาในใจ

เมื่อไม่มีเสียงท้วงติงใดๆร่างสูงจึงประคองให้เพชรเกล้านอนลง

หนุนแขนข้างหนึ่งของเธอก่อนจะนำผ้าห่มเข้ามาคลุมกายทั้งสอง

พร้อมกับเอื้อมกอดเพชรเกล้าไว้ แนบไออุ่นให้ได้สัมผัสกันอย่างมีความสุข

 


“ ฝันดีนะคะ ”

 

ตรีทิพย์ส่งจมูกเข้าไปหอมแก้มนิ่มพร้อมกับบอกราตรีสวัสดิ์คนในอ้อมกอดเบาๆ

ร่างบางอมยิ้มแสนเขินและรู้สึกชุ่มชื้นหัวใจอย่างไรบอกไม่ถูก

หากตรีทิพย์เป็นแบบนี้เสมอต้นเสมอปลาย

เธอคงจะมีความสุขตลอดไป..ค่ำคืนนี้จึงกลายเป็นสีชมพูอีกครั้ง...

 

 

 

 


เช้าตรู่ของวันใหม่.....


ใบหน้าสวยหันมองไปรอบๆทั่วพื้นที่ๆกว้างขวาง

ของบริเวณที่เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายกันเมื่อคืนนี้

ต้นไม้ใหญ่ทำให้ดูร่มรื่นและใช้เป็นสถานที่นั่งพักของคนงานในไร่

ได้อย่างลงตัวแต่ยามค่ำคืนก็ควรจะมีแสงสว่างจากไฟฟ้า

ช่วยสอดส่องมองทางจึงจะเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆขึ้นอีก

 

ตรีทิพย์หันเดินกลับออกมาสองมือล้วงกระเป๋า

ละสายตาตรวจตรงนั้นตรงนี้อย่างจริงจัง ในเมื่อเธออยู่ที่นี่

ก็ควรเป็นหูเป็นตาแทนอาหญิงของตัวเองด้วย

จะได้ไม่เกิดข้อครหาและถูกต่อว่าลับหลังเอาได้

 


นางแบบสาวเดินผ่านผืนไร่สตรอว์เบอร์รีมาเรื่อยๆ

สีสันแดงสดจากผลไม้ผลจิ๋วทำให้เธออดนึกชมอรทุมา

ผู้เป็นอาไม่ได้ที่สามารถบริหารสร้างผืนดินทั้งหมดทั้งมวลนี้

ให้เจริญงอกงามได้มากมายจนกลายเป็นอาณาจักรที่สวยและงดงามที่สุด

 


ตรีทิพย์คลี่ยิ้มบางๆให้กับคนงานไร่ที่มักจะหันมองมา

เพราะยังคงสนอกสนใจซุปตาร์คนสวยอย่างเธอกันไม่เลิก..

 


บรรยากาศของไร่ในยามเช้าแสนจะสดใส

ท่ามกลางอากาศที่เย็นฉ่ำเหมือนเคยทำให้นางแบบสาว

คิดไปถึงสาวน้อยน่ารักของเธอขึ้นมา อากาศหนาวแบบนี้

จึงรู้สึกอยากกอดเจ้าหญิงร่างน้อยเสียจริงคงจะอบอุ่นเหมือนเมื่อคืนไม่ใช่น้อย

 


“ คุณเต้ครับ ”

 


ตรีทิพย์หันมองตามเสียงที่กล่าวเรียกเธอ..จึงเห็นวัตถุสีขาวๆ

นั่นก็คือผ้าพันแผลถูกพันอยู่รอบหน้าผากของชายหนุ่มหน้าเข้มชัดเด่นมาแต่ไกล

 


“ ผมติดต่อบริษัทที่จะมาติดตั้งไฟเพิ่มเติมแล้วนะครับ เขาจะมาตอนบ่ายโมง ”

นายเชิดฉีกยิ้มเดินเข้ามาหาพร้อมยืนสงบเสงี่ยมเอ่ยพูดขึ้น


“ นี่พี่ต้าสั่งนายหรือไง ”

ตรีทิพย์ถามกลับเพราะเธอบอกให้ทอปัดจัดการเรื่องทั้งหมด

แต่ไม่คิดว่าจะมาใช้นายเชิดอีกที

 

“ เปล่าหรอกครับผมอาสาเอง ผมอยากช่วยน่ะครับ ”

 

นางแบบสาวพยักหน้าเบาๆเป็นการรับรู้..ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เธอ

ไม่เคยคิดที่จะชอบหน้าอย่างนายเชิดเพราะมั่นใจว่าชายคนนี้

ไม่น่าไว้วางใจแท้ที่จริงแล้วจะมีจิตใจที่ดีแบบนี้

 

 

“ แผลที่หัวเป็นยังไงบ้างล่ะ ” ตรีทิพย์ถามขึ้น

“ อ๋อ ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ” นายเชิดยิ้มตอบ

“ แล้วคุณพราวเป็นยังไงบ้างครับ ”


“ พราวไม่เป็นอะไร.....ขอบใจนายมากนะที่ช่วยเธอไว้ ”

 

ใบหน้าสวยยิ้มบางๆเอ่ยบอกหากเป็นเมื่อก่อน

เธอคงจะไม่พอใจเป็นอย่างมากหากผู้ชายคนนี้

กล่าวถึงสาวน้อยของเธอ ร่างสูงหันเดินออกไปพลางๆ

โดยที่มีนายเชิดเดินเยื้องๆอยู่ด้านข้างเธอด้วย

ชายหนุ่มยิ้มตื่นเต้นและดีใจเป็นที่สุดที่ได้พูดคุยกับตรีทิพย์

 


“ ต้องขอบคุณคุณเต้มากกว่าครับที่ตามมาช่วยคุณพราวไว้ได้ทัน
เพราะผมเองก็ดันเสียท่าเสียก่อน ผมดีใจนะครับที่คุณพราวปลอดภัย ”

 

 

ตรีทิพย์หันมองนายเชิดที่กล่าวออกมาด้วยความจริงใจ

รอยยิ้มและบุคลิกที่ปรากฏดูช่างไม่เหมาะกับหนวดเครา

บนใบหน้าของชายหนุ่มเอาเสียเลยคิดๆดูแล้ว

ก็ช่างเป็นเรื่องตลกที่เธอนั้นมองคนแต่ภายนอก

 

 

 

“ ฉันขอโทษด้วยที่เคยมองนายผิดไป ”

ริมฝีปากสวยตัดสินใจพูดออกมาในความผิดพลาดของเธอ

 

“ ไม่เป็นไรเลยครับ ผมพึ่งมาอยู่ใหม่หน้าตาก็อย่างกับพวกโจรป่า
ไม่แปลกหรอกครับที่คุณเต้จะมองไปในแบบไหน ”

“ ความจริง..ผมก็เคยคิดเคืองใจคุณเต้มาแล้ว
แต่พอมานั่งคิดๆดูอีกทีตัวผมเองดูจะบังอาจเกินไป
หากจะคิดแบบนี้กับเจ้านายน่าอายจริงๆครับ ” นายเชิดยิ้มแหยเอ่ยบอก


“ นายนี่ต่างกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยนะ
โกนหนวดโกนเคราซะ ยิ้มของนายจะได้ดูไม่ขัดกับใบหน้า ”

ร่างสูงหยุดยืนพลางหัวเราะนิดๆก่อนจะพูดขึ้น

 

ชายร่างสูงยกมือขึ้นลูบเส้นขนดำคลับสากๆ

บนรูปหน้าด้วยรอยยิ้มเก้อเขินในมุมบุรุษเชยๆ

 

“ ครับ ผมจะโกนให้เกลี้ยงเลยครับ ”

 

ตรีทิพย์ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มออกมา

ก่อนจะเดินออกไป..เมื่อเห็นบุคลิกเช่นนี้ของนายเชิดแล้ว

ก็ช่างทำให้เธอหวนคิดไปถึงวันลพอดีตเพื่อนรัก

ที่ได้แปรเปลี่ยนไปเสียแล้วหรือนายเชิดคนนี้จะกลายมาเป็นตัวแทน...ที่ดีกว่ากันนะ………

 

 


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา