บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  57.65K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) แค้นที่เริ่มเปลี่ยน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ท้องฟ้าครึ้มลมพัดโบกเย็นสบายร่วมด้วยสายฝนโปรยปรายเม็ดบางๆ

ทำให้สภาพอากาศในตอนนี้ดูชุ่มชื้นและเย็นฉ่ำอีกตามเคย...

 


เวลาบ่ายโมงตรงของวันใหม่..ร่างกายที่ยังคงเปลือยเปล่าอยู่ภายใต้การปกปิด

ด้วยผ้าห่มผืนหนาเริ่มขยับตัวบิดกายด้วยความเมื่อยล้าเล็กน้อย

สายตาคมกริบค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆด้วยความงัวเงีย ตรีทิพย์เบิกตากว้างในเวลาต่อมา

เมื่ออ้อมกอดของเธอตอนนี้ว่างเปล่าร่างสูงโผลุกขึ้นมือข้างหนึ่งจับผ้าไว้แนบอก

พร้อมกับหันมองอีกฝั่งอย่างรนรานผมสวยสะบัดตามมากระทบใบหน้าใสอย่างรวดเร็ว

 

 


“ คุณพราวอยู่ที่ห้องข้างล่างค่ะ ไม่ได้หนีไปไหน.. ”

 


นางแบบสาวเหลือบมองตามเสียงที่ดังขึ้นทันทีเมื่อเธอหันมา..ใบตองพูดขึ้นเรียบๆ

พร้อมก้มหยิบเสื้อผ้ากระจัดกระจายของตรีทิพย์ที่อยู่กับพื้น

นำมาใส่ตะกร้าในมือและเดินออกจากห้องไป

 


ใบหน้าสวยนิ่งคิดสักครู่ถึงคำประชดจากเด็กสาวรู้สึกเป็นห่วงเพชรเกล้าขึ้นมาทันที

เช่นนั้นเธอจึงรีบลุกลงจากเตียงมุ่งตรงไปยังห้องน้ำเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบ

 

 

 

 


สายตาเหม่อมองไปยังแผ่นกระจกที่มีหยดน้ำฝนตกกระทบลงมาเป็นสาย

ช่างไม่แพ้กับคราบน้ำตาบนใบหน้าของสาวน้อยในตอนนี้..

 


เพชรเกล้านั่งพับเพียบอยู่กับพื้นบริเวณริมหน้าต่างที่ยังคงปิดสนิท

เอนศีรษะพิงกับหัวเตียงนิดหน่อยไร้จุดมุ่งหมายและว่างเปล่า

อยากอยู่เงียบๆคนเดียวแบบนี้ตลอดไป

ในหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความเคว้งคว้างอ่อนแอไปทุกสิ่งอย่าง

 

 


ประตูบานย่อมค่อยๆแง้มเปิดเข้ามาแผ่วเบา ตรีทิพย์กวาดสายตามองไปรอบๆ

จนมาหยุดยังแผ่นหลังที่นั่งอยู่บริเวณริมเตียง ร่างสูงจึงก้าวขาเข้าห้องเบาๆ

และยืนตั้งหลักอยู่สักครู่สร้างความแปลกใจให้กับตัวเองที่อยู่ดีๆ

เธอก็ตื่นเต้นขึ้นมาเสียอย่างนั้นริมฝีปากสวยผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อย

ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้.....ใบหน้าก้มมองเรือนร่างบาง

ที่ดูแล้วช่างเงียบเหงาเศร้าซึมเป็นที่สุด ตรีทิพย์กลิ้งสายตานึกคิด

เริ่มขัดแย้งและสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง..อยากถาม อยากชวนคุย

แต่ไม่รู้ว่าควรทำตัวเช่นไรดีจึงจะไม่เสียฟอร์มและทำให้อีกคนล่วงรู้ได้

ว่าเธอกำลังเป็นห่วงมากขนาดไหน

 

 


“ ใครอนุญาตให้ลงมา..! ”


ร่างสูงทำทีเสียงแข็งเพื่อจะบังคับจิตใจตัวเองว่าเธอปกติ

ความโกรธความเกลียดของเธอยังคงมีอยู่เต็มร้อยไม่ได้ลดลงเลยสักนิด

และไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นที่เห็นเพชรเกล้าเป็นแบบนี้

 


สายเหล่ไปถึงปลายเสียงนิดหน่อยร่างบางจึงถอนหายใจออกมาเบาๆเธอรู้สึกเบื่อหน่ายเต็มที

 

ตรีทิพย์ใจแป้วเมื่อไม่มีเสียงใดตอบกลับมา เพชรเกล้าเป็นแบบนี้เสมอ

ที่มักจะนิ่งเงียบเรียบเฉยจนทำให้เธอวิตกกังวลใจก็หลายครั้ง

แต่ในครั้งนี้เธอกับรู้สึกกลัว..กลัวว่าสาวน้อยจะเฉยชาแบบนี้กับเธอตลอดไป..

 


“ ลุกขึ้น! ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอมีหน้าที่ทำอาหารให้กับฉัน! ”

 


ใบหน้าเรียวเซื่องซึมเช่นเดิมค่อยๆขยับร่างและดันตัวเองลุกขึ้นเบาๆ

 


“ อย่าทำสำออย!! ”

 

ร่างสูงเห็นท่วงท่าอันเชื่องช้าแล้วทำให้รู้สึกขัดๆ

เธอจึงเอื้อมดึงแขนข้างหนึ่งของสาวน้อยจนร่างบางถลาตามแรงมาอย่างรวดเร็ว

 


“ โอ๊ะ..!~ ”

 


เสียงนิ่มหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเบาๆมือที่แปะพลาสเตอร์ไว้

คว้าจับเรียวแขนของตรีทิพย์กดจิกเนื้อผิวลงแน่นหนึบ

เมื่อร่างของเธอเคลื่อนไหวเร็วเกินไปจึงทำให้รอยจ้ำช้ำตามร่างกายมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที

เพชรเกล้ากัดฟันยับยั้งอาการเจ็บแปลบบริเวณจุดอันบอบบางเบื้องล่าง

หน้านิ่วคิ้วขมวดเหยเกไปหมด ร่างสูงตกใจเป็นอย่างมาก

เธอรีบประคองสาวน้อยไว้ก้มมองด้วยความเป็นห่วง

 


“ เจ็บเหรอคะ ”

 


ตรีทิพย์ก้มมองเอ่ยถามจึงเห็นดวงตาคู่น้อยเอ่อคลอแดงกร่ำ..น้ำตา...โอ๊ยไม่ไหวแล้ว!!!

พยายามที่จะร้ายโต้ตอบเหมือนที่เคยทำมาแต่ตอนนี้จิตใจของเธอ

ไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับอาการนุ่มนิ่มอันบอบบางของเพชรเกล้าได้

 


ร่างบางรู้สึกละอายใจเสียจริงเอือมระอากับร่างกายของตัวเองเต็มที

ยิ่งพอได้ฟังคำถามจากตรีทิพย์แล้วเธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างไรบอกไม่ถูก

สาวน้อยพลางขยับก้าวขาเพื่อจะเดินแต่สองเท้ากับสั่นๆขึ้นมาเสียดื้อๆ

นางแบบสาวเห็นอากัปกิริยาแล้วดูเพชรเกล้าจะอิดโรยและอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก

เธอจึงช้อนร่างบางขึ้นอุ้มและพาไปลงนอนบนเตียงอย่างเบามือ

 


เพชรเกล้าตกใจนิดหน่อยแต่เธอไม่มีแรงที่จะขัดขืน

จึงปล่อยเลยตามเลยและเมื่อเนื้อตัวแตะลงกับพื้นฟูกหนา

ร่างบางจึงพลิกตัวเองหันหลังให้กับตรีทิพย์ทันที..ซุปเปอร์โมเดลที่ตอนนี้เศร้าลง

เพราะแม้แต่หน้าสาวน้อยก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมองพูดด้วยสักคำก็ยังไม่ได้ยิน

 

 


ตรีทิพย์ตัดสินใจเดินออกมาจากห้อง…

หัวใจของเธอเต้นระรัวเร็วไม่เป็นจังหวะ..ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยนะ?!

 

ระหว่างนั้นเองสายตาของนางแบบสาวก็ได้เหลือบไปเห็น

มาลัยแม่บ้านที่กำลังยืนจับไม้กวาดทำความสะอาดอย่างขะมักเขม้นเธอจึงเอ่ยเรียกเสียงเรียบ

 

“ มาลัย ”

 


แม่บ้านวัยกลางคนหันมองพร้อมกับรีบปรี่เข้ามา

 

“ ขา..คุณเต้ ”


“ เข้าไปในเมืองนะและซื้อเสื้อผ้ามาให้สักห้าหกชุด ”

ตรีทิพย์เอ่ยบอกพร้อมส่งธนบัตรใบเทาให้กับมาลัย

 

“ เอาเป็นกางเกงขายาวนะเรียบๆ ”

“ ค่ะ เอ่อ..แล้วคุณเต้อยากทานอะไรมั้ยคะ มาลัยจะได้เตรียมให้ก่อน ”

“ ไม่ล่ะ.. ”

“ ค่ะๆ ”

 

แม่บ้านมาลัยจึงได้แยกตัวออกไปทำตามคำสั่งอย่างว่องไว

อีกทั้งยังดีใจที่เห็นเจ้านายอารมณ์ดีขึ้นแล้ว

 


ตรีทิพย์ตรงเข้ามานั่งลงยังโซฟาตัวหนึ่งนึกคิดไปถึงเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา

ความแค้นมีอิทธิพลต่อเธอเสมอไม่ว่าเธอจะตัดสินใจทำอะไรที่ตามใจตัวเอง

สิ่งที่มืดดำเหล่านี้ก็มักจะวิ่งเข้ามาขัดขวางอยู่ร่ำไป

เธอไม่อยากโทษว่านี่เป็นเพราะปริฉัตรพี่สาวที่คอยย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลา

ถึงเรื่องราวในอดีตของครอบครัวเพราะเธอเองก็มีความโกรธและเสียใจเช่นกัน

ที่แม่ของตัวเองต้องจากไป..แล้ว...ความแค้นล่ะ? เธอมีความแค้นอยู่ในใจบ้างหรือเปล่า??

ปิ่นรักล่ะ? เธอเกลียดผู้หญิงคนนี้จริงๆหรือไม่แล้วทำไมในบางครั้ง

เธอถึงได้รู้สึกอิ่มใจเมื่อได้อยู่ใกล้เพราะคล้ายไออุ่นของมารดา..

หรือเป็นเพราะเพชรเกล้าที่ทำให้เธอมองในสิ่งที่ข้ามความแค้นไป...

 


ริมฝีปากสวยถอนหายใจออกมาเบาๆหันมองไปยังห้องเดิมที่ได้เดินออกมา

เธอเริ่มคิดถึงสาวน้อยที่อยู่ภายในห้องนั้นอีกแล้ว แต่ก็ถอดใจไม่เข้าไปกวน

เพราะอยากให้เพชรเกล้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่…..

 

 

 

 

เสียงอ๊อดๆแอ๊ดๆดังแล่นเข้าหูพร้อมกับแสงสว่างจากด้านนอก

ส่องกระทบกับดวงตาที่กำลังหลับไหล..เพชรเกล้าค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

มองเห็นบานหน้าต่างที่เคยใส่กรแน่นหนาถูกเปิดออกจนลมชื้นๆจากด้านนอก

โลดแล่นเข้ามาสัมผัสผิว ร่างบางพยุงตัวเองลุกขึ้นเบาๆ

หยีตาเล็กน้อยเนื่องจาเกร็งเนื้อตัวไม่อยากให้เจ็บแปลบๆ

 

 

“ คุณพราวตื่นแล้วเหรอคะ ”

 


ใบหน้าใสปลายจมูกแดงนิดๆหันมองตามเสียงไปพบกับใบตองเด็กสาว

ที่กำลังถือถาดบรรจุถ้วยข้าวต้มหอมฟุ้งเข้ามาวางกับโต๊ะตัวหนึ่ง

 


“ ทานข้าวดีกว่านะคะ ”

“ ขอบใจนะ ” เพชรเกล้าเอ่ยบอกท่ามกลางรูปหน้าที่ยังคงเซื่องซึม


“ มาค่ะเดี๋ยวหนูช่วยนะคะ ”

 


เด็กสาวเดินเข้ามาจับเรียวแขนพร้อมกับช่วยประคองเพชรเกล้ามานั่งบริเวณริมเตียง

 

 

สาวน้อยฝืนตักข้าวเข้าปากอย่างเรียบเฉยทั้งที่แทบจะกลืนไม่ลง

แต่เธอจำเป็นที่จะต้องกินเข้าไปเพราะร่างกายเริ่มอ่อนแรงเต็มที

เหลือบมองไปยังแก้วใบจิ๋วที่บรรจุเม็ดยาถูกวางอยู่ใกล้ๆก็ยิ่งทำให้เศร้าหัวใจ

นานแค่ไหนเธอจำไม่ได้เช่นกันว่าครั้งสุดท้ายที่ต้องพึ่งยานั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่

เพราะตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตมาแม่ของเธอดูแลเป็นอย่างดีไม่เคยยอมให้พิษไข้

ที่เกิดขึ้นจากสิ่งใดก็ตามเข้ามาพัวพันอยู่ในร่างกายของเธอเด็ดขาด

แม้กระทั่งอาศัยยังฝรั่งเศสป่วยหนักสักครั้งก็ยังไม่มี

เพราะถูกย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาจากความห่วงใย

เพชรเกล้าน้ำตาเอ่อคลอยิ่งคิดก็รู้สึกทรมานจิตใจเหลือเกิน..

 


ใบตองยืนมองก็อดเศร้าตามไม่ได้อีกทั้งยังผิดหวังอย่างแรง

ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพชรเกล้าได้สำเร็จแต่เธอก็ไม่อยากถามอะไรทั้งนั้น

เพราะคิดว่าเจ้าตัวคงจะไม่อยากพูดถึง

 

 

 

 

และเมื่อเพชรเกล้าทานยาจนเสร็จเรียบร้อยเธอก็อยากที่จะพักผ่อนต่อ

แต่ระหว่างนั้นมาลัยแม่บ้านได้เดินเข้ามาแจ้งจุดประสงค์ของเจ้านายคนสวยของเธอเสียก่อน

 


“ ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณพราวเชิญข้างบนเลยค่ะ ” มาลัยยิ้มบอก

 

เพชรเกล้าหันมองด้วยความสงสัย

 

“ คุณเต้สั่งให้จัดห้องใหม่ให้กับคุณพราวน่ะค่ะ ”

 

 

ร่างบางจึงเข้าใจ..งั้นสินะห้องนี้ถึงได้เปิดสว่างโล่งโจ้ง

เป็นเพราะเจ้าของบ้านจะย้ายให้เธอไปอยู่ในอีกที่นี่เอง

สาวน้อยถอนหายใจออกมาเพราะเธอไม่อยากได้ยินชื่อนี้เอาเสียเลย...

 

 

 

 

 

3 วันผ่านไป..

 

บรรยากาศดีในเวลาเที่ยงวันห้องนอนเรี่ยมเชี่ยม

ความสว่างเปล่งประกายจากแสงไฟอ่อนๆสาดส่องไปทั่วทุกด้าน

เนื่องจากท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึ้มอีกตามเคย..

 


เพชรเกล้าในชุดกางเกงขายาวและเสื้อยืดแขนยาวเช่นกัน

เดินเชื่องช้าออกมาจากมุมส่วนตัวของห้องน้ำ มือข้างหนึ่งถือหลอดยาแก้ฟกช้ำ

ที่เด็กสาวใบตองได้นำมาให้หลังจากที่ทำการแต้มทาตามจุดต่างๆ

ของร่างกายที่ค่อยๆทุเลาลงตามเวลาจนเสร็จเรียบร้อย

 


ร่างบางนำพาตัวเองมาลงนั่งยังเก้าอี้ตัวยาวขนาดเล็กน่ารัก

หันมองไปรอบๆของห้องขนาดกลางที่ดูอบอุ่นและสดชื่นกว่าที่เดิมที่เธอเคยอยู่

 

 


" ขลุก!..ขลุก!! "

 


เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก

ใบหน้าเรียวจึงหันมองด้วยความสงสัย..ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกไปดู

มือเรียวเอื้อมบิดวัตถุปลดล็อคและเปิดประตูออกเบาๆ

เพชรเกล้าชะโงกหน้าออกไปด้านนอกเพียงนิดหันซ้ายมองขวา

จนไปพบกับร่างคุ้นตานั่งเอนไปเอนมาอยู่บริเวณหัวบันได

ดูเหมือนจะสะดุดล้มพับอยู่ตรงนั้น

 

 


ตรีทิพย์ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เพชรเกล้าเลยแม้แต่น้อย

นับจากที่ให้เจ้าหล่อนย้ายขึ้นมาอยู่ด้านบน เพราะอีกคนนั้นคอยแต่หลบหน้าหลบตา

ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้อธิบายอะไรเลย จึงทำให้นางแบบสาวกระสับกระส่าย

และรนรานจนแทบบ้าที่ไม่ได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหญิงร่างน้อย

ความคิดถึงนั้นมีก็มากเธอจึงต้องพึ่งแอลกอฮอล์

เพื่อช่วยบรรเทาอาการฟุ้งซ่านที่มีอยู่ในใจให้เบาบางลงบ้าง


แต่ก็ไม่อาจได้ผลในเมื่อจิตใจของเธอจดจ่ออยู่ที่สาวน้อยเท่านั้น

จึงไม่สามารถมีเครื่องช่วยชีวิตสิ่งไหนจะหล่อเลี้ยงร่างกายของเธอให้หายร้อนรนได้

 

 


เพชรเกล้ายืนคิดสักครู่หากปล่อยไว้อย่างนี้ตรีทิพย์อาจตกลงบันไดไปก็เป็นได้

ร่างบางจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาช้าๆแอบวิตกเล็กๆเพราะกลัวอีกคนนั้นจะรู้เรื่องเสียก่อน

ร่างบางก้มมองอย่างกล้าๆเกร็งๆเห็นใบหน้าสวยหลับตาลง

ดูจะมึนเมานิดหน่อย..นี่ยังกลางวันอยู่แท้ๆแต่ตรีทิพย์กับดื่มเหล้าเสียแล้ว

 


สาวน้อยถอนหายใจเบาๆพลางหันมองไปรอบๆ

เพื่อจะหามาลัยหรือใบตองก็ได้ให้มาช่วยประคองร่างเจ้านายของเขาเข้าห้อง

 


“ พราว... ”

 

ใบหน้าเรียวหันมองเมื่อได้ยินเสียงจึงเห็นว่าตรีทิพย์รู้สึกตัวแล้ว

เช่นนั้นสาวน้อยจึงหันเดินหนีทันที

 


“ พราว!! พราวเดี๋ยวก่อน!!! ”

 

ร่างสูงรีบลุกขึ้นวิ่งตามอย่างรวดเร็วเอื้อมจับเรียวแขนนิ่ม

มืออีกข้างคว้าเนื้อตัวพร้อมกับประคองให้อีกคนหันมาหา

ตรีทิพย์ดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นหน้าเพชรเกล้าเธอดึงสาวน้อยเข้ามากอดทันที

ใบหน้าสวยหลับตาลงซึมซับไออุ่นที่แสนโหยหา

ความหอมอ่อนๆจากเรือนกายช่างทำให้เธอสร่างเมาได้จนน่าแปลกใจ

 


“ พราวเป็นห่วงพี่ใช่มั้ย ” เสียงหวานพึมพำออกมาเบาๆ


ใบหน้าเรียวน้ำตาซึมพร้อมทั้งบิดเรือนร่างของเธอภายใต้วงแขนที่กระชับหนักแน่น

 

“ พี่ขอโทษ.. ”

 


เมื่อสัมผัสได้ถึงการขืนตัวจากสาวน้อยตรีทิพย์จึงรีบพูดความรู้สึกในตอนนี้ของเธอออกไป

เพชรเกล้าเม้มริมฝีปากเก็บกดความรู้สึกเธอเจ็บลึกเข้ามาที่หัวใจ

ไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งสิ้นจากปากของคนใจร้ายอย่างตรีทิพย์

 

“ พี่ขอโทษนะคะ.. ”


ซุปตาร์สาวหัวใจหดหู่เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจากร่างในอ้อมกอด

เธอรู้ดีว่าเพชรเกล้าเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

แบบนี้แล้วก็ช่างทำให้เธอรู้สึกผิดมากมายจริงๆ

 


“ พี่ขอโทษที่พี่ทำแบบนั้น.. ”

“ ปล่อยค่ะ... ”


เสียงเล็กท้วงขึ้นเบาๆด้วยวาจาตามบุคลิกของเธอพร้อมดีดดิ้นเรือนร่างทันที

ไม่ต้องการได้ยินคำพูดที่ทำให้จิตใจต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้

ร่างสูงปล่อยอ้อมกอดย้ายมาจับสองต้นแขนของสาวน้อย

จ้องมองเรียวหน้าที่แสนคิดถึงด้วยความร้อนรนใจ

 

“ มองพี่สิพราว..แล้วฟังพี่ ”


สายตาอ้อนวอนพร่ำบอกเสียงสั่นต่อสาวน้อยที่ก้มหน้าผลักร่างเธอให้ออกห่าง


“ พี่...คือว่า.. ”

“ ปล่อยนะออกไป!!! ”

 


นางแบบสาวรำคาญจิตใจกล้าๆกลัวๆของเธอเสียจริง

อยากพูดความรู้สึกเป็นประโยคครั้งสำคัญที่สุดแต่ริมฝีปากกับแข็งกระด้าง

เอื้อนเอ่ยออกไปไม่ได้เสียทีก่อนจะถูกเสียงของสาวน้อยเอ่ยขึ้น

เป็นการห้ามปรามในสิ่งที่เธอกำลังจะพูดพร้อมสะบัดเนื้อตัวจนหลุดออกจากการจับกุม

 


“ อย่ามายุ่งกับฉัน! ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!! ” ร่างบางเอ่ยบอกเสียงแข็งพร้อมหันจะเดินหนี

 

“ พราว! ” ตรีทิพย์รีบดึงมือไว้


“ อย่ามาโดนตัวฉัน!! ฉันเกลียดคุณ! เกลียดทุกอย่างที่เป็นคุณ!
เกลียดทุกอย่างที่คุณแสดงออกมา..ฉัน..!! ” เสียงนิ่มต่อว่าจนแหบแห้ง

 

“ ไม่..พราว พราวอย่าพูดแบบนี้ ”

 

เพชรเกล้าน้ำตาไหลพรากเอ่ยบอกด้วยความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจ

ก่อนจะถูกตรีทิพย์ดึงตัวเข้ามากอดอีกครั้งโดยนางแบบสาวที่ในตอนนี้นั้น

อ่อนแอลงอย่างฉับพลันสวมกอดเพชรเกล้าด้วยกลัวว่าจะหนีห่างหาย

ดวงตาเอ่อคลอเพราะหยาดน้ำใส..เศร้าสลดกับคำพูดที่ได้รับฟัง

 


“ พราวแค่โกรธพี่ไม่ได้เกลียดพี่ ”

“ พี่เสียใจ..พี่ขอโทษ ” ใบหน้าสวยซุกลงกับหัวไหล่มนพร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ ปล่อย ออกไป..ออกไป!!! ”

 


เพชรเกล้าถูกบีบรัดด้วยอ้อมกอดของตรีทิพย์เสียจนแนบแน่น

พยายามดันตัวเองออกห่างแต่ไม่เป็นผลสำเร็จกลิ่นกายความใกล้ชิด

เช่นคืนวันนั้นวนกลับมาให้ได้รับรู้จึงทำให้สาวน้อยหวนคิดไปถึง

ความรู้สึกละอายใจกับสภาพร่ายกายของตัวเองอีกครั้ง

เนื้อตัวต้องทนรองรับกับความใกล้ชิดจนร่างแทบจะสลาย

ยิ่งคิดก็แสนจะอับอายเหลือทน

 


“ ให้โอกาสพี่นะคะ พี่สัญญาว่าจะไม่ใจร้ายกับพราวอีกแล้ว ” ตรีทิพย์อ้อนวอนเสียงสั่นเครือ

 


ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันยับยั้งไม่ให้สะอื้นไปมากกว่านี้

สองมือผลักดันร่างสูงออกห่างอีกครั้งแต่อีกคนนั้นไม่ยอมปล่อยเธอ

ร่างบางจึงทุบตีแผ่นหลังนางแบบหุ่นดีเต็มแรงด้วยความโกรธในทุกๆสิ่งที่สะสมมา

 

เสียงดังอึกอักสร้างความเจ็บให้กับตรีทิพย์อยู่มากพอสมควร

แต่เธอเลือกที่จะอดทนและกอดสาวน้อยเอาไว้แบบนี้

ปิดเปลือกตาสงบนิ่งปล่อยให้เพชรเกล้าได้ระบายความอดกลั้นทั้งหมด

ลงกับตัวเธออย่างไม่ท้วงติงใดๆ

 


ร่างบางทุบตีจนกำมือของเธอเริ่มเจ็บเอาเสียเอง

บวกกับแรงที่ลดลงไปมากสองแขนจึงหยุดทุกอย่างลงด้วยความเหนื่อยล้า

 


“ พราวจะไม่พูดกับพี่เต้อีกถ้าพี่ไม่ยอมปล่อยตัวพราว... ”


ตรีทิพย์ลืมตาขึ้นช้าๆ
.
.
.
.
ก่อนจะค่อยๆถอยออกมาจากร่างของสาวน้อย

เมื่อเพชรเกล้าพูดแบบนี้เธอจึงจำใจที่จะต้องทำตามความต้องการ

 


ตรีทิพย์หน้าเศร้าดวงตาอ้อนวอนต่อเรียวหน้าแดงกร่ำ

ที่เกิดจากการเสียน้ำตามิหนำซ้ำเจ้าหญิงแสนสวยยังไม่คิดที่จะ

สบตามองเธอเลยแม้แต่น้อย..ร่างบางหันเดินออกไปทันที

 

“ พราว.. ”

 

“ พราว... ”

 


ตรีทิพย์รีบเดินตามไปไม่ห่างเอ่ยเรียกอ้อนวอนต่างๆนาๆ

แต่อีกคนไม่มีทีท่าว่าจะให้อภัย..เพชรเกล้าเปิดประตูห้องพร้อมก้าวขาเดินเข้าไปด้านในทันที

และเมื่อบานประตูกำลังจะถูกปิดลงตามแรงดึงสองมือของนางแบบสาว

จึงเอื้อมเข้ามาผลักดันเอาไว้เสียก่อน..ตรีทิพย์ยังไม่ทันหายคิดถึง

แต่ตอนนี้เพชรเกล้ากำลังจะหนีเธอไปอีกแล้ว..

 


“ พราวอย่าหลบหน้าพี่อีกเลยนะ ”

 

ร่างบางดันประตูเพื่อจะปิด

 


“ พี่ขอร้องนะคะ.. ” ตรีทิพย์เอ่ยบอกหน้าเศร้าเสียงสลด


เพชรเกล้าหันหน้าหนีดันบานประตูเพื่อจะปิดไม่สบตาคนใจร้ายเช่นเดิม

 

“ นะ..นะคะเจ้าหญิง.. ”

 


เพชรเกล้าไม่ตอบอะไรทั้งสิ้นเธอออกแรงดันประตูจนมือของนางแบบร่างสูง

รั้งเอาไว้ไม่อยู่เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวจึงสามารถปิดลงได้สำเร็จ

 


“ พราว!! ”

 

ตรีทิพย์ร้องเรียกผ่านประตูที่พึ่งปิดลงไปก้มหน้าแสนเศร้า

ค่อยๆทรุดตัวลงกับพื้นเอนศีรษะพิงกับบานประตูไม้เงาด้วยความเหงาที่ไม่มีสาวน้อยอยู่ชิดใกล้

 

 

 


เวลาผ่านไปอีกหนึ่งวัน.....

 

 

ตรีทิพย์ในชุดลำลองเสื้อยืดแขนสั้นพอดีตัวและกางเกงผ้านิ่มขายาว

ร่วมด้วยรองเท้าแตะธรรมดาๆคู่เรี่ยมเชี่ยมสองมือล้วงกระเป๋า

เดินวนไปวนมาอย่างเหม่อลอยอยู่เพียงบริเวณสวนหย่อมรอบบ้าน

ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองสู่ด้านบนเป็นระยะๆ

ที่จะเห็นกับหน้าต่างห้องนอนที่เพชรเกล้าอาศัยอยู่

ด้วยความหวังที่อาจจะได้เห็นหน้าสาวน้อยบ้าง

 

 

 

“ แหม..เสียงอ่อนเสียงหวานเหลือเกินนะพอพูดถึงเขาน่ะ ”

 

“ อย่างว่าล่ะนะหัวใจกำลังเป็นสีชมพู... ”

 

 

ใบหน้าสวยหันมองถึงต้นเสียงที่ได้ยินเธอจึงเดินเลยไปอีกนิด

จึงพบกับใบตองมองเห็นเด็กสาวยืนคุยโทรศัพท์เสียงดังแจ้วๆ

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องรักๆสดใสๆของวัยมัธยมช่างแก่แดดเสียจริงเด็กน้อย

 

 

“ แม่เรียกหรือว่ามีสายเข้ากันแน่ มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนเลยนะ
ไว้เจอกันที่โรงเรียนแล้วกันงอนแร้ว..ชึ่ย! ”

 

ใบตองที่กำลังยืนสนทนาผ่านเครื่องมือสื่อสารของเธอ

กับเพื่อนร่วมชั้นเรียนตัดบทก่อนจะกดวางสายอย่างอารมณ์เสียในมุมเด็กๆ

ทำให้ตรีทิพย์ที่ยืนมองอยู่แอบยิ้มเล็กๆ

 


“ รักจังๆๆ..หลงเขาก็บอกมาเถอะ!! ”

 

ริมฝีปากสวยค่อยๆหุบยิ้มลงหยุดคิดนิ่งสงัด

อยู่ดีๆใบหน้าของเธอก็ร้อนฉ่าขึ้นมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ใบตองเอ่ยขึ้นในประโยคหลัง

นางแบบสาวค่อยๆยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมที่อกซ้าย

สัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นระรัวคล้ายกำลังตื่นตนกอย่างหนักหน่วง

ตรีทิพย์สูดลมเข้าปอดลึกๆพยายามตั้งสติให้สงบไว้

 

“ หลงเหรอ..? ”

 

 

 


“ อ้าว คุณเต้ ”


เด็กสาวหันมาเจอกับเจ้านายของเธอ ร่างสูงรีบนำมือลงตั้งท่าไม่ส่อแววในอาการเมื่อครู่

 


“ เชอะ! ”

 

ใบตองนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่พอใจตรีทิพย์อยู่เกี่ยวกับเรื่องของเพชรเกล้า

เธอจึงสะบัดหน้าหันทำงอนใส่ไปตามประสาพร้อมกับเดินสวนทางออกไป

 


“ เดี๋ยว ” ตรีทิพย์พูดขึ้น

 


เด็กน้อยหยุดเดินหันมาทำหน้ามุ่ย

 


“ เมื่อกี๊เธอพูดโทรศัพท์กับใคร ”

“ นี่คุณเต้แอบฟังเหรอคะ ” เด็กน้อยเลิกคิ้วสงสัย

 

“ ฉันก็แค่ได้ยินโดยบังเอิญ ” ร่างสูงชักสีหน้านิ่งในมาดเจ้านายพร้อมยืนกอดอก

 

“ กับเพื่อนค่ะ ”

“ คุยกันเรื่องอะไร ”

 

" เพื่อนหนูกำลังมีความรัก.. ” ใบตองลอยหน้าลอยตานิดๆ

 


“ ไม่ได้อกหักช้ำรักจากคนไม่มีหัวใจ
จากคนนิสัยแย่ปากร้ายเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจไม่น่าคบไม่... "

" นี่พอๆ "

 

ตรีทิพย์ยิ่งฟังก็คล้ายโดนต่อว่าเสียเองเธอจึงรีบขัดขึ้น

และไม่อยากถือสาอะไรมากนักกับเด็กใบคนนี้

 


" ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องพวกนี้ "

" แล้วคุณเต้อยากรู้อะไรล่ะคะ " ใบตองเอียงคอถาม

 

 


" เธอบอกว่าเพื่อนเธอ...หลงแฟน "

“ ใช่ค่ะ หนูมองว่าเป็นแบบนั้น ” เด็กน้อยตอบกลับรวดเร็ว

 

 


“ เพื่อนเธอเขาเป็นยังไงทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ ” ตรีทิพย์ถามต่อสีหน้าสงสัย

 

“ ก็ประมาณว่า อะไรๆก็คนๆนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไร
ก็เห็นดีชื่นชอบคอยชมไปเสียทุกอย่าง ขนาดแฟนยิ้มมันยังมองตาเยิ้ม
แฟนเดินมันก็เก็บไปฝัน เข้าขั้นพร่ำเพ้อยังไงก็ไม่รู้..
หนูก็เลยคิดว่าเพื่อนหนูมันต้องหลงแฟนมันแน่ๆ ”


ใบตองจับปลายคางพลางนึกคิดไปด้วยในขณะที่กำลังพูด

 

“ ว่าแต่ คุณเต้ถามทำไมเหรอคะ? ”


ตรีทิพย์ยืนนิ่งเมื่อได้ฟังดูแล้วพฤติกรรมแบบนี้มันคล้ายกับเธอหรือเปล่านะ?

 

“ คุณเต้ไปหลงใครมาเหรอ ”

ใบตองจ้องถาม ร่างสูงค่อยๆหันหน้ามามีอาการเหม่อลอย

 

“ หรือว่าหลงคุณพราว!! ”

เด็กน้อยทำหน้าตาตื่นพูดขึ้นเสียงดังพร้อมกับชี้นิ้วคาดคั้นยิ้มกว้างจนสุดปาก

 

นางแบบสาวสะดุ้งเล็กๆสายตาลอกแลกพยายามปิดบังความรนราน

และรีบเดินออกไปจากตรงนี้ทันที!!!

 

 

 

 

 

“ เด็กบ้า! พูดจาเกินวัย..คนอย่างตรีทิพย์น่ะเหรอจะหลวมตัวไปหลงใคร..โอ๊ะ!!!!...?? ”

 

ร่างสูงเดินเร็วๆออกมาจากเด็กน้อยใบตองพึมพำอยู่กับตัวเองเบาๆ

จนมาถึงประตูทางเข้าของบ้านหลังใหญ่ ริมฝีปากจึงหลุดอุทานออกมาเล็กๆ

เมื่อเนื้อตัวของเธอได้ชนเข้ากับเรือนร่างนุ่มนิ่มของใครบางคน

กลิ่นหอมจากแป้งฝุ่นที่ลอยมาตามลมวิ่งสัมผัสเข้ากับปลายจมูก

จนเธอต้องรีบคว้าตัวคนตรงหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เจ้าหล่อนนั้นเซไปชนกับอะไรอีกที

 

“ พราว.. ”

 

ตรีทิพย์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ร่างในอ้อมแขนนั้นเป็นเพชรเกล้า

 


สาวน้อยจ้องมองคนตรงหน้าเพียงครู่ก่อนจะรีบบิดร่างออกจากอ้อมกอดทันที

 

 

“ เอ่อ! พราวจะไปไหนเหรอคะ ”

 

เมื่อเห็นเพชรเกล้าจะเดินเลี่ยงไปร่างสูงจึงรีบขวางทางเอาไว้เสียก่อน

สายตาส่งมองเรียวหน้าใสไม่ว่างเว้นด้วยความคิดถึงที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน

 


“ อยากเดินเล่นค่ะ ”


ร่างบางพูดออกมาเบาๆโดยไม่หันไปสบตาคนจ้องมอง

พร้อมกับเดินต่อแต่ตรีทิพย์กับขวางทางเช่นเดิม

 


“ ให้พี่เดินเป็นเพื่อนนะ ”


“ พราวอยากเดินคนเดียว ” เพชรเกล้าเดินเลี่ยงออกไปทันที

 

 

ตรีทิพย์หันตามเอื้อมจับมือนิ่มไว้

 

 

“ พี่ต้องทำยังไงคะพราวถึงจะหายโกรธ ”

 


“ อยู่ห่างๆพราวค่ะ ไม่มาให้เห็นได้เลยก็จะดีมาก ”


ร่างบางก้าวขาจะเดินต่อเอ่ยบอกเรียบนิ่ง

 


“ แล้วพี่จะทำแบบนั้นได้ยังไง ”


“ พราวคิดอยู่แล้วล่ะค่ะว่าพี่เต้ไม่มีทางทำได้
เพราะพี่ไม่เคยปฏิบัติตามความต้องการของใครอยู่แล้ว ”

 

“ พี่คิดถึงพราว มันคือเหตุผลที่พี่ทำไม่ได้ ”


ตรีทิพย์สายตาอ้อนวอนมองแผ่นหลังร่างน้อยด้วยความคิดถึง

 


เพชรเกล้าใจเต้นแรงไม่คิดว่าตรีทิพย์จะพูดแบบนี้กับเธอ..สาวน้อยควบคุมสติ

ไม่ให้หลงไปกับคารมของอีกคนดึงมือของตัวเองออกจากการจับต้อง

สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆหันกลับมา

 

 

" พี่ไม่มีสิทธิ์มาคิดถึงพราว "


ร่างบางไม่เคยสบตาหรือมองหน้าตรีทิพย์เลยสักครั้ง

เหมือนเช่นตอนนี้เอ่ยบอกเรียบเฉยและจะเดินตรงเข้าไปยังด้านใน

 


ตรีทิพย์ดวงตาคลอหยาดน้ำใสเล็กๆเม้มริมฝีปากนิดหน่อยด้วยความอัดอั้น

ที่อยู่ๆก็ปวดร้าวขึ้นมากลางใจขยับขวางทางสาวน้อย

พร้อมเข้าสวมกอดเรือนร่างบอบบางก่อนจะหันมองเรียวหน้าใสในระยะประชิด

คำพูดแบบนี้เธอไม่เคยได้รับ ความห่างเหินจากใครคนหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน

เพชรเกล้ากำลังทำให้โซนประสาทของเธอร้อนรนขึ้นทุกทีๆ

 

 


" ทำไมพี่จะไม่มีสิทธิ์ในเมื่อพราวเป็นของพี่ พี่มีสิทธิ์ที่จะคิดถึงมากเท่าไหร่ก็ได้ "


สายตาคมกริบจ้องมองแสดงความเป็นเจ้าของด้วยความหวงแหน


" ไม่! ฉันไม่ใช่ของคุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้!! "

 

เพชรเกล้าดีดดิ้นเนื้อตัวทันทีเพราะเธอไม่อยากหวนคิดถึงเรื่องราวในครั้งนั้นอีก


" พราวเป็นของพี่คนเดียว..ยกโทษให้พี่เถอะนะคะ "


เสียงหวานพร่ำบอกไม่ลดละอย่างใจเย็นเพื่อย้ำเตือนในสิทธิของเธอ


" พราวเกลียดพี่เต้! เกลียดคำพูดเกลียดร่างกายของพี่ที่สุด!!! "

 

เพชรเกล้าผลักดันตรีทิพย์จ้าละหวั่นด้วยความโมโห



" แต่ร่างกายของพี่ก็ทำให้พราวมีความสุขที่สุด...อย่าลืมสิ.. " เสียงหวานพูดออกมาเบาๆ


" อย่าพูดแบบนี้นะหยุดพูด!..หยุดพูด!! "

 


เพชรเกล้าน้ำตาหยดนิดหน่อยสองแขนทุบตีไปที่หัวไหล่ของตรีทิพย์

เอ่ยบอกเสียงนิ่มด้วยกิริยาที่อยากจะเอาชนะคล้ายเด็กเล็กๆ

ใบหน้าร้อนฉ่าใจของเธอเต้นตุบๆรู้สึกเขินและอายอย่างไรบอกไม่ถูก

ดีดดิ้นเรือนร่างหมายจะออกจากการรัดกุมของอ้อมแขน

ที่เต็มไปด้วยไออุ่นดั่งเช่นในคืนวันนั้น..จนกระทั่งสามารถนำพาตัวเองหลุดพ้นออกมาได้

 


" ไม่พูดแล้วค่ะ ไม่พูดแล้ว..ไม่พูดก็ได้นะ "


ตรีทิพย์เอื้อมมือกอบกุมสองผิวแก้มรีบบอกอย่างใจเย็น

เธออยากเอาใจสาวน้อยให้มากที่สุด

 


สายตาของเพชรเกล้ายังคงแข็งขันเส้นผมหนายุ่งเหยิง

ปัดเข้ามาปิดดวงหน้าจนเล็กจิ้มลิ้มน่ารักไปในตัว

ตรีทิพย์เห็นแล้วเธอจึงยิ่งเสน่หาสาวน้อยมากขึ้นทุกที

นางแบบสาวค่อยๆดันตัวร่างน้อยเข้ามากอดอีกครั้งอย่างแนบแน่น

โดยที่เจ้าตัวยังคงขัดขืนเช่นเดิม

 

 

" พี่ขอโทษนะคะ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำนิสัยแย่ๆเหมือนที่ผ่านมาอีก "

เสียงหวานพร่ำบอกอู้อี้ด้วยความโหยหา

 

" ปล่อยนะปล่อย.. "

 


ร่างนุ่มนิ่มขยับยุ๊กยิ๊กอยู่ภายในอ้อมแขนร้องบอก

พร้อมกับหันหลีกหลบปลายจมูกที่แอบเข้ามาสูดกลิ่นแก้มขาวของเธอนิดๆ

ตรีทิพย์เอื้อมจับมือนิ่มที่เวียนเข้ามาทุบตีหัวไหล่ของเธอ

มองเห็นพลาสเตอร์แผ่นเก่ายังคงติดอยู่ที่เดิม..

 


“ ล้างแผลบ้างหรือเปล่าคะ..ยังไม่หายดีเหรอ ”

เสียงหวานเอ่ยถามบางเบาด้วยความเป็นห่วง

 

“ ไม่! ปล่อยนะอย่ามายุ่ง! ”

 

เพชรเกล้ากำลังผลักดันคนตรงหน้าออกแต่ยังคงถูกมือข้างหนึ่งกอดรอบเอวอยู่

 

“ เดี๋ยวพี่เต้เปลี่ยนพลาสเตอร์ให้ใหม่นะคะ ”

“ ไม่! ”

 

เพชรเกล้าตอบเสียงแข็งดึงมือตัวเองออกอย่างไม่สนใจ

พร้อมดีดดิ้นเรือนร่างด้วยความอึดอัด จนตรีทิพย์ต้องยอมปล่อยสาวน้อยในอ้อมกอด

ออกก่อนที่เจ้าหล่อนนั้นจะอารมณ์เสียในแบบน่ารักๆไปมากกว่านี้..เห็นเช่นนี้แล้ว

ซุปตาร์สาวก็ยิ่งอยากให้เพชรเกล้ายกโทษให้เธอในเร็ววัน

เธอจะได้กอดรัดฟัดหอมเสียให้หายคิดถึง..

 

 

ร่างบางวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันทีที่ร่างสูงปล่อยตัวเธอ

ตรีทิพย์ได้แต่ยืนมองตามตาละห้อยเมื่อไหร่กัน

ที่สาวน้อยจะยอมให้อภัยในความตั้งใจของเธอในครั้งนั้น

 

 

 

ระหว่างนั้นเองวันลพ..ก็ได้เดินออกมาจากประตูทางเข้าออกภายในบ้าน

ใบหน้าชายหนุ่มยังหันมองตามแผ่นหลังเพชรเกล้าที่วิ่งผ่านเขาไปเมื่อสักครู่

 

 

“ คงต้องใช้ความพยายามหน่อยนะคุณนางแบบ
ท่าทางคุณพราวจะโกรธยากหายยาก ”

วันลพหันกลับมากล่าวด้วยรอยยิ้ม

 


ตรีทิพย์ถอนหายใจพลางหันมองไปรอบๆใบหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ

 


“ คุณพราวดูไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ เมื่อกี๊ตอนคุยกันยังอารมณ์ดีอยู่เลย ”

 


“ พราวรู้จักลพแล้วเหรอ? ”

ซุปเปอร์โมเดลสาวหันมองวันลพเพื่อนชายชักสีหน้าสงสัย


“ อ๋อ พอดีลพแวะมาเอาเอกสารที่ห้องทำงานคุณอรน่ะ
บังเอิญมาเจอกับคุณพราวตรงบันไดลพก็เลยแนะนำตัวไป ”

ชายหนุ่มยิ้มแย้มเอ่ยบอก ตรีทิพย์พยักหน้าเบาๆ

 


“ ลพมีวิธีง้อสาวนำเสนอบ้างมั้ย ”

“ ฮ่าฮ่า ลพจะไปแนะนำอะไรได้ แฟนสักคนก็ยังไม่มี ”

 


ตรีทิพย์ทำหน้านิ่งพร้อมเบือนหนีเพื่อนชายโบราณของเธอ..จึงไปพบกับ!

นายเชิดคนงานคนเดิมกำลังยืนส่งสายตามาทางนี้อย่างเอาจริงเอาจังในการเพ่งมอง

นางแบบสาวจ้องมองกลับไปด้วยความสงสัยในมาดเคร่งขรึมของเธอ

เนื่องจากชายคนดังกล่าวช่างมีท่าทางที่ไม่เข้าตาเธอเอาเสียเลย

วันลพเห็นตรีทิพย์กำลังสนใจอยู่กับบางสิ่งบางอย่างเขาจึงหันมองตาม

 

 


ฝ่ายนายเชิดหนุ่มร่างสูงใหญ่เมื่อเห็นทั้งคู่ที่ยืนอยู่ในบริเวณบ้านหลังโต

จ้องมาทางเขา ใบหน้าหนวดเคราจึงตัดสินใจก้มลงพร้อมกับก้าวขาเดินต่อ

ไปยังเป้าหมายของเขาที่คราแรกได้ผ่านมาจึงหยุดมองอยู่เงียบๆ

 

 


“ เต้ไม่ไว้ใจนายคนนี้นะ... ”

นางแบบสาวเอ่ยขึ้นขณะยังคงมองตามแผ่นหลังกำยำ

 

“ ลพก็เหมือนกัน หากคุณอรไม่รับเอาไว้พิจารณา
คงไม่ได้มาเดินคอยสอดรู้สอดเห็นอยู่แบบนี้หรอก! ”

 


วันลพกล่าวเสียงแข็งจึงทำให้นางแบบสาวต้องหันมอง

ไปเจอกับสายตาของวันลพที่ดูจะไม่ปลื้มนายคนนี้เช่นเดียวกับเธอ

 


“ คอยดูไว้ด้วยนะลพ ”


ชายหนุ่มละสายตากลับมาที่เพื่อนสาวก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

 

 

“ อยู่ห่างๆมันนะเต้ พยายามอย่าไปพูดคุยอะไรกับมัน...ลพเป็นห่วง ”

 

 

ตรีทิพย์พยักหน้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

ที่เธอเป็นเดือดเป็นร้อน นั่นก็เพราะไม่ต้องการให้คนแปลกหน้า

มาเข้าใกล้สาวน้อยของเธออีกก็เท่านั้น..เหลือเพียงวันลพที่ยังคงหันมองตามอยู่ที่เดิม.........

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา