เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
6.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
44 ตอน
0 วิจารณ์
44.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
42) กลับมาได้ไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ 3 เดือนผ่านไป..... ทุกดูอย่างเร็วไปเสียหมด เพาภิรมย์ใช้ชีวิตตามปกติควบคุมสมาธิของตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านได้ดีเยี่ยมหากแต่ว่าไม่ได้มีความสุขเหมือนดังแต่ก่อนชีวิตของเธอเข้าสู่วิกฤต working woman อีกครั้งตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้เวลาผ่านพ้นไปวันๆจนตอนนี้ยอดขายผลกำไรจากธุรกิจของเธอพุ่งขึ้นสูงสุดทะลุแล้วทะลุอีกของการตั้งเป้าในแต่ละปีของบริษัท.....ทางด้านกันต์ได้รับการรายงานเป็นประจำทุกวันจากชมรวีว่าในแต่ละวันคนรักของเธอเป็นอย่างไรบ้าง อาหารแต่ละมื้อคือเมนูอะไรไม่เว้นแม้กระทั่งตอนเพาภิรมย์ร้องไห้ชมรวีก็ได้ถ่ายรูปส่งให้ดูอีกด้วย
ภายในห้องทำงานส่วนตัวของเพาภิรมย์ใบหน้าสวยกำลังก้มหน้าก้มตาขะมักเขม้นอยู่กับเอกสารรวมไปถึงหน้าจอโน๊ตบุ๊คยี่ห้อหรูก็มีตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษขึ้นโชว์อยู่ปะปนกันไป
“ ก๊อกๆ ”
“ เชิญค่ะ... ”
“ มีแขกมาขอพบคุณเพาค่ะ ” เลขาหน้าห้องของเพาภิรมย์เดินเข้ามาแจ้งข่าวสาร
“ ใคร..วันนี้ฉันไม่มีนัดนิ.. ” เพาภิรมย์ทำสีหน้าคุ่นคิดก่อนจะเปรยตาถัดมามองคนที่พึ่งก้าวขาเดินเข้ามาใหม่
“ พรรณ..! ” ริมฝีปากสวยยิ้มเรียกออกไปเมื่อเห็นว่าเป็นพิมพรรณ
“ ไงจ๊ะคุณเพื่อนขยันจังเลยนะ ” พิมพรรณเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ ดีก่อนจะเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ เป็นไง..สบายดีมั้ย ” เพื่อนสาวถามขึ้นอีกครั้งในขณะที่เพาภิรมย์เอาแต่ชะเง้อมองอยู่กับประตูด้วยมีความหวังว่าอาจจะเปิดต้อนรับใครอีกคน
“ ฮัลโหล.. ” พิมพรรณโบกมือผ่านดวงตาของเพื่อนสาวเพื่อเรียกความสนใจกลับมาหาเธอ
“ มองหาใคร ฉันมาคนเดียว ”
พิมพรรณอมยิ้มพูดแต่เพาภิรมย์กับมีใบหน้าหมองเศร้าในทันที
“ กันต์เป็นยังไงบ้าง ” เสียงหวานถามออกไปด้วยความเซื่องซึม
“ ซึ้งมาก! ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าแท้ๆถามถึงความเป็นอยู่ของฉันบ้างเซ่ ” พิมพรรณทำจริตเสียอารมณ์
“ ฉันก็ต้องถามถึงที่รักของฉันซิ จะไปถามถึงเธอทำไม ”
“ หืม..ย่ะ กันต์สบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่ตอนนี้ยุ่งๆเพราะเค้ากำลังจะแต่งงาน ”
“ อะไรนะ!!! ” ร่างสูงลุกขึ้นพรวดต้องการฟังอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอแค่หูฝาดไป
“ ฉันบอกว่า ตอนนี้กันต์ยุ่งๆเพราะว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน ” พิมพรรณลุกขึ้นยืนตาม
ใบหน้าสวยอ้าปากค้างเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงกับเก้าอี้โต๊ะทำงานตัวเดิมอย่างหมดเรี่ยวแรง
" ฮือฮือ..ฮือฮือ ฮือฮือฮือ " ใบหน้าสวยฟุบลงกับโต๊ะทำงานพร้อมกับร้องไห้ออกมา
" หึ่ย!! นี่ร้องเหมือนเด็กเลยอ่ะ " พิมพรรณขมวดคิ้วเอ่ยบอกเมื่อเห็นเช่นนั้น
" เค้าหมดรักฉันแล้วจริงๆ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ฮือฮือ "
" นี่ๆ เบาๆซิ เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก " พิมพรรณกระซิบกระซาบ
" ฉันรักกันต์ นี่เค้าไม่แคร์ความรู้สึกของฉันบ้างเลยหรือไงเค้าถึงจะแต่งงาน แต่งงานกับคนอื่น... " เพาภิรมย์เงยหน้าขึ้นพูดทั้งน้ำตา
“ เอาน่า พักเรื่องนี้ไปก่อนเถอะ วันนี้ที่ฉันมาเนี่ยก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะชวนเธอไปด้วยกัน ” พิมพรรณพูดขึ้น
“ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับฉันนะ เวลาแบบนี้เธอยังจะมาชวนฉันไปไหนอีก ” เพาภิรมย์ดวงตาแดงกร่ำ
“ ก็คืนพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงที่มหาลัยของเราไง ฉันเคยบอกเธอไว้แล้วนี่ ”
“ ฉันลืมไปหมดแล้ว ” เพาภิรมย์เอื้อมเกลี่ยหยดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองเอ่ยบอกอย่างไม่ได้สนใจ
“ ก็งานเลี้ยงประจำคณะของเราไง เธอเองก็ไปทุกปีไม่ใช่เหรอ ”
“ อืม..คราวนี้ฉันคงไม่ไปหรอก ”
“ อ้าว ทำไมล่ะ ”
“ ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะไปไหนทั้งนั้น เธอไปคนเดียวเถอะ ” เพาภิรมย์บอกอย่างเหนื่อยหน่าย
“ โธ่..ไปเถอะนะ ไปเป็นเพื่อนฉัน ฉันเคยไปร่วมงานแค่ครั้งเดียวเอง ” พิมพรรณคะยั้นคะยอ ใบหน้าสวยหันมองเพื่อนสาวที่เซ้าซี้เธอไม่หยุด
“ นะๆ ไปเถอะ เธอจะได้ไม่เหงาอยู่คนเดียวไง ”
“ ก็ได้...แต่ฉันขอนั่งเงียบๆนะ คงไม่ไปสังสรรค์กับพวกเธอ ” ถึงแม้จะอยู่ในโหมดที่อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงจะกระดิกตัวทำอะไรแต่อยู่ดีๆเพาภิรมย์ก็ยอมตอบตกลงที่จะไปกับพิมพรรณตามที่เพื่อนสาวขอร้องอย่างว่าง่าย
และแล้ววันงานก็มาถึง..... ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังประดับแสงไฟระยิบระยับสว่างไสวสวยงามทันตาเปิดต้อนรับศิษย์เก่ารุ่น.....ที่เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของสมาคมประจำคณะที่จัดทำขึ้นเป็นประจำของทุกปีผู้คนในงานประมาณร้อยกว่าชีวิตกำลังยืนร่วมพูดคุยกันอย่างถูกคอถามไถ่ถึงเรื่องราวต่างๆนาๆ
ในขณะที่งานกำลังดำเนินไปอย่างครึกครื้นถัดมาทางด้านหนึ่งในมุมเงียบๆ ภายใต้ต้นไม้ใหญ่สถานที่แห่งความทรงจำเมื่อหลายปีก่อน เพาภิรมย์นั่งเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าหมู่ดาวกระพริบระยิบตาล้อมรอบจันทราที่สาดส่องแสงลงมาสู่ผืนโลก ใบหน้าสวยปล่อยหยดน้ำตาล่วงหล่นลงไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือคิดผิดที่กลับมาที่นี่ให้ตอกย้ำกับความรู้สึกของตัวเองความทุกข์และความสุขของเธอมันคงจะต้องปะปนอยู่กับสถานที่แห่งนี้ตลอดไปสินะ
“ ตัวเล็กของคุณเพา..กลับมาหาคุณเพาเถอะนะคะ.. ” ใบหน้าสวยยิ้มบางๆพูดออกมาเบาๆก่อนจะก้มลงปลดปล่อยความทุกข์ระทมใจให้หลั่งไหลออกมาด้วยความปวดร้าว
“ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ”
เสียงเล็กเอ่ยถามบางเบา เพาภิรมย์หยุดสะอื้นลืมตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะค่อยๆหันไปหา ปรากฏเรือนร่างบางยืนยิ้มส่งมาเหมือนเช่นวันวาน ใบหน้าสวยตกตะลึงอึ้งไม่น้อยหัวใจเต้นแรงทันที
“ อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เรื่องของเด็ก... ” เพาภิรมย์น้ำตาไหลพรากยิ้มพูดสั่นสะอื้น ร่างบางเดินเข้าไปหาพร้อมกับนั่งลงข้างๆโดยมีสายตาของผู้ที่คิดดึงเธอเหลือเกินจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
“ คุณต่างหากที่เด็ก.....ผู้ใหญ่ที่ไหนเค้าร้องไห้กัน.. ” สาวน้อยเอื้อมเกลี่ยหยดน้ำตายิ้มบอกอย่างอ่อนโยน
“ ฮือฮือ..กันต์... ” ร่างสูงโผเข้ากอดคนรักของเธอทันที สาวน้อยโอบกอดตอบแนบแน่น
“ กันต์กลับมาหาพี่แล้ว ”
“ กันต์จะไม่ทิ้งให้พี่อยู่คนเดียวอีกแล้วใช่มั้ย..ใช่มั้ยคะ ” เพาภิรมย์พร่ำถาม
“ ใช่ค่ะ ” ร่างบางยิ้มบอกอย่างมีความสุข
“ พี่คิดถึงกันต์ คิดถึงกันต์ที่สุด พี่สัญญานะคะว่าพี่จะไม่ทำให้กันต์ต้องรู้สึกไม่ดีอีก ” เพาภิรมย์ถอยออกมาประคองดวงหน้าเรียวยิ้มบอกครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับพรมจูบไปทั่วใบหน้า
“ ตัวเล็กคิดถึงคุณเพาบ้างหรือเปล่า ”
“ คิดถึงซิคะ ตัวเล็กคิดถึงคุณเพาทุกวัน... ” ใบหน้าเรียวน้ำตาคลอจับสองมือที่อยู่ข้างแก้มพร้อมกับหันไปจุมพิตลงเบาๆ
“ พรรณบอกว่ากันต์จะแต่งงาน ไม่จริงใช่มั้ยคะ ” สีหน้าของเพาภิรมย์ยังคงเป็นกังวล
“ จริงค่ะ ”
หัวใจของเพาภิรมย์แทบหยุดเต้น เมื่อได้ฟังเช่นนั้น
“ แล้ว..แล้วพี่ล่ะ ” ร่างสูงลุกขึ้นยืน
“ คุณเพาก็อยู่กับกันต์ไงคะ ” สาวน้อยยืนขึ้นตาม
“ หมายความว่ายังไง อยู่ยังไง! ” ใบหน้าสวยเริ่มออกอาการหึงหวงถึงอย่างไรเธอก็จะไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างที่คิดเด็ดขาด
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
ภายในห้องทำงานส่วนตัวของเพาภิรมย์ใบหน้าสวยกำลังก้มหน้าก้มตาขะมักเขม้นอยู่กับเอกสารรวมไปถึงหน้าจอโน๊ตบุ๊คยี่ห้อหรูก็มีตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษขึ้นโชว์อยู่ปะปนกันไป
“ ก๊อกๆ ”
“ เชิญค่ะ... ”
“ มีแขกมาขอพบคุณเพาค่ะ ” เลขาหน้าห้องของเพาภิรมย์เดินเข้ามาแจ้งข่าวสาร
“ ใคร..วันนี้ฉันไม่มีนัดนิ.. ” เพาภิรมย์ทำสีหน้าคุ่นคิดก่อนจะเปรยตาถัดมามองคนที่พึ่งก้าวขาเดินเข้ามาใหม่
“ พรรณ..! ” ริมฝีปากสวยยิ้มเรียกออกไปเมื่อเห็นว่าเป็นพิมพรรณ
“ ไงจ๊ะคุณเพื่อนขยันจังเลยนะ ” พิมพรรณเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ ดีก่อนจะเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ เป็นไง..สบายดีมั้ย ” เพื่อนสาวถามขึ้นอีกครั้งในขณะที่เพาภิรมย์เอาแต่ชะเง้อมองอยู่กับประตูด้วยมีความหวังว่าอาจจะเปิดต้อนรับใครอีกคน
“ ฮัลโหล.. ” พิมพรรณโบกมือผ่านดวงตาของเพื่อนสาวเพื่อเรียกความสนใจกลับมาหาเธอ
“ มองหาใคร ฉันมาคนเดียว ”
พิมพรรณอมยิ้มพูดแต่เพาภิรมย์กับมีใบหน้าหมองเศร้าในทันที
“ กันต์เป็นยังไงบ้าง ” เสียงหวานถามออกไปด้วยความเซื่องซึม
“ ซึ้งมาก! ฉันนั่งอยู่ตรงหน้าแท้ๆถามถึงความเป็นอยู่ของฉันบ้างเซ่ ” พิมพรรณทำจริตเสียอารมณ์
“ ฉันก็ต้องถามถึงที่รักของฉันซิ จะไปถามถึงเธอทำไม ”
“ หืม..ย่ะ กันต์สบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่ตอนนี้ยุ่งๆเพราะเค้ากำลังจะแต่งงาน ”
“ อะไรนะ!!! ” ร่างสูงลุกขึ้นพรวดต้องการฟังอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอแค่หูฝาดไป
“ ฉันบอกว่า ตอนนี้กันต์ยุ่งๆเพราะว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน ” พิมพรรณลุกขึ้นยืนตาม
ใบหน้าสวยอ้าปากค้างเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงกับเก้าอี้โต๊ะทำงานตัวเดิมอย่างหมดเรี่ยวแรง
" ฮือฮือ..ฮือฮือ ฮือฮือฮือ " ใบหน้าสวยฟุบลงกับโต๊ะทำงานพร้อมกับร้องไห้ออกมา
" หึ่ย!! นี่ร้องเหมือนเด็กเลยอ่ะ " พิมพรรณขมวดคิ้วเอ่ยบอกเมื่อเห็นเช่นนั้น
" เค้าหมดรักฉันแล้วจริงๆ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ฮือฮือ "
" นี่ๆ เบาๆซิ เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก " พิมพรรณกระซิบกระซาบ
" ฉันรักกันต์ นี่เค้าไม่แคร์ความรู้สึกของฉันบ้างเลยหรือไงเค้าถึงจะแต่งงาน แต่งงานกับคนอื่น... " เพาภิรมย์เงยหน้าขึ้นพูดทั้งน้ำตา
“ เอาน่า พักเรื่องนี้ไปก่อนเถอะ วันนี้ที่ฉันมาเนี่ยก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะชวนเธอไปด้วยกัน ” พิมพรรณพูดขึ้น
“ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับฉันนะ เวลาแบบนี้เธอยังจะมาชวนฉันไปไหนอีก ” เพาภิรมย์ดวงตาแดงกร่ำ
“ ก็คืนพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงที่มหาลัยของเราไง ฉันเคยบอกเธอไว้แล้วนี่ ”
“ ฉันลืมไปหมดแล้ว ” เพาภิรมย์เอื้อมเกลี่ยหยดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองเอ่ยบอกอย่างไม่ได้สนใจ
“ ก็งานเลี้ยงประจำคณะของเราไง เธอเองก็ไปทุกปีไม่ใช่เหรอ ”
“ อืม..คราวนี้ฉันคงไม่ไปหรอก ”
“ อ้าว ทำไมล่ะ ”
“ ฉันไม่มีกระจิตกระใจจะไปไหนทั้งนั้น เธอไปคนเดียวเถอะ ” เพาภิรมย์บอกอย่างเหนื่อยหน่าย
“ โธ่..ไปเถอะนะ ไปเป็นเพื่อนฉัน ฉันเคยไปร่วมงานแค่ครั้งเดียวเอง ” พิมพรรณคะยั้นคะยอ ใบหน้าสวยหันมองเพื่อนสาวที่เซ้าซี้เธอไม่หยุด
“ นะๆ ไปเถอะ เธอจะได้ไม่เหงาอยู่คนเดียวไง ”
“ ก็ได้...แต่ฉันขอนั่งเงียบๆนะ คงไม่ไปสังสรรค์กับพวกเธอ ” ถึงแม้จะอยู่ในโหมดที่อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงจะกระดิกตัวทำอะไรแต่อยู่ดีๆเพาภิรมย์ก็ยอมตอบตกลงที่จะไปกับพิมพรรณตามที่เพื่อนสาวขอร้องอย่างว่าง่าย
และแล้ววันงานก็มาถึง..... ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังประดับแสงไฟระยิบระยับสว่างไสวสวยงามทันตาเปิดต้อนรับศิษย์เก่ารุ่น.....ที่เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของสมาคมประจำคณะที่จัดทำขึ้นเป็นประจำของทุกปีผู้คนในงานประมาณร้อยกว่าชีวิตกำลังยืนร่วมพูดคุยกันอย่างถูกคอถามไถ่ถึงเรื่องราวต่างๆนาๆ
ในขณะที่งานกำลังดำเนินไปอย่างครึกครื้นถัดมาทางด้านหนึ่งในมุมเงียบๆ ภายใต้ต้นไม้ใหญ่สถานที่แห่งความทรงจำเมื่อหลายปีก่อน เพาภิรมย์นั่งเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าหมู่ดาวกระพริบระยิบตาล้อมรอบจันทราที่สาดส่องแสงลงมาสู่ผืนโลก ใบหน้าสวยปล่อยหยดน้ำตาล่วงหล่นลงไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือคิดผิดที่กลับมาที่นี่ให้ตอกย้ำกับความรู้สึกของตัวเองความทุกข์และความสุขของเธอมันคงจะต้องปะปนอยู่กับสถานที่แห่งนี้ตลอดไปสินะ
“ ตัวเล็กของคุณเพา..กลับมาหาคุณเพาเถอะนะคะ.. ” ใบหน้าสวยยิ้มบางๆพูดออกมาเบาๆก่อนจะก้มลงปลดปล่อยความทุกข์ระทมใจให้หลั่งไหลออกมาด้วยความปวดร้าว
“ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ”
เสียงเล็กเอ่ยถามบางเบา เพาภิรมย์หยุดสะอื้นลืมตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะค่อยๆหันไปหา ปรากฏเรือนร่างบางยืนยิ้มส่งมาเหมือนเช่นวันวาน ใบหน้าสวยตกตะลึงอึ้งไม่น้อยหัวใจเต้นแรงทันที
“ อย่ามายุ่ง ไม่ใช่เรื่องของเด็ก... ” เพาภิรมย์น้ำตาไหลพรากยิ้มพูดสั่นสะอื้น ร่างบางเดินเข้าไปหาพร้อมกับนั่งลงข้างๆโดยมีสายตาของผู้ที่คิดดึงเธอเหลือเกินจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
“ คุณต่างหากที่เด็ก.....ผู้ใหญ่ที่ไหนเค้าร้องไห้กัน.. ” สาวน้อยเอื้อมเกลี่ยหยดน้ำตายิ้มบอกอย่างอ่อนโยน
“ ฮือฮือ..กันต์... ” ร่างสูงโผเข้ากอดคนรักของเธอทันที สาวน้อยโอบกอดตอบแนบแน่น
“ กันต์กลับมาหาพี่แล้ว ”
“ กันต์จะไม่ทิ้งให้พี่อยู่คนเดียวอีกแล้วใช่มั้ย..ใช่มั้ยคะ ” เพาภิรมย์พร่ำถาม
“ ใช่ค่ะ ” ร่างบางยิ้มบอกอย่างมีความสุข
“ พี่คิดถึงกันต์ คิดถึงกันต์ที่สุด พี่สัญญานะคะว่าพี่จะไม่ทำให้กันต์ต้องรู้สึกไม่ดีอีก ” เพาภิรมย์ถอยออกมาประคองดวงหน้าเรียวยิ้มบอกครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับพรมจูบไปทั่วใบหน้า
“ ตัวเล็กคิดถึงคุณเพาบ้างหรือเปล่า ”
“ คิดถึงซิคะ ตัวเล็กคิดถึงคุณเพาทุกวัน... ” ใบหน้าเรียวน้ำตาคลอจับสองมือที่อยู่ข้างแก้มพร้อมกับหันไปจุมพิตลงเบาๆ
“ พรรณบอกว่ากันต์จะแต่งงาน ไม่จริงใช่มั้ยคะ ” สีหน้าของเพาภิรมย์ยังคงเป็นกังวล
“ จริงค่ะ ”
หัวใจของเพาภิรมย์แทบหยุดเต้น เมื่อได้ฟังเช่นนั้น
“ แล้ว..แล้วพี่ล่ะ ” ร่างสูงลุกขึ้นยืน
“ คุณเพาก็อยู่กับกันต์ไงคะ ” สาวน้อยยืนขึ้นตาม
“ หมายความว่ายังไง อยู่ยังไง! ” ใบหน้าสวยเริ่มออกอาการหึงหวงถึงอย่างไรเธอก็จะไม่มีวันยอมให้เป็นอย่างที่คิดเด็ดขาด
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ