เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ

6.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.

  44 ตอน
  0 วิจารณ์
  44.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

43) เพราะเราคู่กัน ( ตอนจบ )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เวลาเช้าตรู่..... ร่างบางเดินงัวเงียลงจากบันไดมาอย่างไม่เร่งรีบ
มือข้างหนึ่งจับนวดคลึงที่ขมับขวาสองเท้าก้าวเบาๆมุ่งหน้าตรงมาที่โซฟานั่งเล่น
ทิ้งร่างนั่งลงอย่างอ่อนแรง ใบหน้าเรียวเงยพิงพื้นนุ่มนิ่มหลับตาลงคล้ายคนอ่อนเพลีย

 

“ ฮัลโหล..คุณหลานรัก ตื่นเช้าจังเลยนะคะ ” พิมพรรณส่งเสียงมาแต่ใกล้พร้อมกับเดินเข้ามานั่งข้างๆ


“ เป็นไงจ๊ะ เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย ” น้าสาวแกล้งถามหยอกเย้า


“ ไม่ต้องเลยน้าพรรณ ขอความร่วมมือก็ช่วยอะไรไม่ได้ซะอย่าง ” กันต์เอ่ยตอบกลับไปเบาๆยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิม

“ โธ่..ก็สองรุมหนึ่งน้าจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ได้ละจ๊ะ ”

“ แต่เอ..? กันต์ก็โอเคนะไม่บุบสลายตรงไหนด้วย แสดงว่าคุณเพาดูแลดีน่าดูเลยใช่มั้ย ” พิมพรรณสอดส่องมองเรือนร่างหลานสาวยิ้มพูดทำจริตเคอะเขิน


“ อืม..ดี แต่กันต์ยังไม่ได้นอนเลย... ” ร่างบางพึมพำออกมาเบาๆภายใต้ดวงตาที่ยังคงปิดอยู่

“ ห่ะ ” น้าสาวกระพริบตาปริบๆพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออมยิ้มนิดๆ


“ ห่างกันเดือนนึงยังแทบจะสลบแล้วนี่สามเดือนเล่นถึงเช้าเลยเหรอเนี่ย ไม่ธรรมดาแฮะ ” พิมพรรณแอบพูดกับตัวเองเบาๆพลางยิ้มเขินแทน


“ แล้วเพาภิรมย์ไปไหนแล้วล่ะเนี่ย หรือว่ายังไม่ตื่น ”

“ อืม..คุณเพาไปทำงานแล้ว ” กันต์ขยับตัวตอบเหมือนคนที่กำลังจะเคลิ้มหลับเต็มที

“ แล้วลงมาข้างล่างทำไมล่ะ ไปนอนไป ”

“ กันต์ปวดๆตัวอ่ะ นอนไม่หลับ ”

“ มาๆ เดี๋ยวน้านวดให้นอนลงตรงนี้แหละ ”

พิมพรรณจึงทำหน้าที่เป็นหมอนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้กับหลานสาวของเธอพลางนึกคิดไปถึงเพื่อนสาวรายนั้นก็ต้องไม่ได้หลับไม่ได้นอนเช่นเดียวกันแต่ทำไม๊ยังมีเรี่ยวแรงหลงเหลือไปทำงานแต่เช้าตรู่นี่ไม่รู้ว่ามีอะไรเข้าสิงเพาภิรมย์หรือเปล่าถึงได้สูบกลืนร่างกายสาวน้อยไปจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขนาดนี้...

 


เมื่อเวลาผ่านไปสองอาทิตย์ วิจิตตราก็ได้เดินทางกลับมาเมืองไทยและมุ่งหน้าไปที่เชียงรัฐอีกครั้งเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งของเพาภิรมย์และกันต์ ทั้งสองไม่ต้องการให้มีพิธีรีตองอะไรจนเอิกเกริกงานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและราบเรียบซึ่งทุกคนก็พอใจกับการตัดสินใจของทั้งคู่มีเพียงวงเครือญาติและผู้คนที่สนิทสนมกันเท่านั้นที่ถูกเชิญมาร่วมแสดงความยินดีกันในครั้งนี้ยามค่ำคืนมีปาร์ตี้สังสรรค์เต้นรำให้ได้ครื้นเครงกันอย่างมีความสุขจวบจนถึงฤกษ์เวลาเข้าหอ...เจ้าหลวงรังสิมันต์ เพ็ญพิศุทธิ์ เจ้าย่าบัวเงิน วิจิตตราจึงพร้อมเพียงกันมาส่งตัวคู่รักทั้งสองพร้อมกับร่วมอวยพรให้กับคู่รักอีกด้วย...

 

ภายในห้องนอนของสองสาวที่พึ่งถูกส่งตัวเข้าหอมามาดๆ ร่างบางยืนมองดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างเพลินตา เพาภิรมย์เดินออกจาห้องน้ำหลังจากที่เธอพึ่งเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อยหันมองหาร่างสาวน้อยจนมาพบที่ริมประตูทางออกของระเบียงกว้างด้านนอก.....ใบหน้าสวยฉีกยิ้มออกมาก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหาสองมือสอดเข้ากอดสะเอวคอดพร้อมกับกดจุมพิตลงบนหัวไหล่แผ่วเบา

 

“ ทำไมตัวเล็กต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วด้วย ” เสียงหวานกระซิบถามคลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอขาว

“ งานเสร็จเรียบร้อยแล้วนิคะก็ต้องเปลี่ยนซิ คุณเพายังเปลี่ยนเลย ” ใบหน้าเรียวหันมองเพียงนิดอมยิ้มพูดออกมา

“ พี่ชอบจัง..วันนี้กันต์ส๊วยสวย ” เพาภิรมย์เสียงอ่อนเสียงหวาน

“ ไม่ต้องมาทำเป็นเอาใจเลย ” ร่างบางหันมาหาเอื้อมมือบีบสองพวงแก้มอย่างหมันเขี้ยว

“ ก็คุณเพารักตัวเล็กนิคะ ”

“ รัก..รัก..รัก...รักๆๆ ” ริมฝีปากสวยพูดสลับกับจุมพิตที่กลีบปากบางแสนหยอกเย้าทั้งสองยืนหยอกล้อคลอเคลียกันอย่างมีความสุขภายใต้ดวงเดือนที่ส่องแสงสว่างลงมา

 

 


เช้าวันต่อมากันต์พร้อมเพาภิรมย์ก็ได้เดินทางไปทำบุญที่วัดทั้งสองได้ตักบาตร กรวดน้ำ ทำทานรวมทั้งปล่อยนกปล่อยปลา ร่างบางเดินไปทางริมน้ำสถานที่ให้อาหารปลามือเรียวกอบกุมเม็ดอาหารพร้อมกับโปรยลงไปให้กับบรรดาฝูงปลาทั้งหลาย เพาภิรมย์จ้องมองใบหน้าคนรักที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แววตาบ่งบอกถึงความสุขที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิตจนสมบูรณ์แบบ


“ มองหาอะไรคะ? ” เสียงหวานถามขึ้นเมื่อเห็นสาวน้อยของเธอสอดส่องสายตาลงไปในน้ำคล้ายอย่างกับหาอะไรอยู่

“ หาปลาที่ปล่อยไปเมื่อกี๊นี้ค่ะ ” กันต์ตอบขณะมองหาอยู่เช่นเดิม เพาภิรมย์อมยิ้มกับคำพูดของอีกคน

“ กันต์ไม่น่าปล่อยไปเลยอ่ะ น่าจะพามันไปเลี้ยงเองจะได้ไม่ต้องแย่งอาหารกับใครเค้าอยู่ไหนก็ไม่รู้ ”

ร่างสูงก้าวขาเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มเบาๆใบหน้าเรียวสะดุ้งหันมอง

 

“ อยู่นี่ไงพาไปเลี้ยงด้วยนะ ”

“ คุณเพาที่นี่วัดนะคะ ทำอะไรเนี่ย ” เสียงเล็กกระซิบบอก

“ ที่นี่ริมน้ำต่างหาก วัดอยู่ด้านในนู้น ”

“ บาปนะรู้มั้ย ”

“ พี่ขอรับบาปคนเดียวถ้ามันทำให้กันต์มีความสุข ”

“ รู้ได้ยังไงว่ากันต์มีความสุข ” ร่างบางทำทีหันโปรยอาหารปลาต่อ


“ กันต์ยิ้ม... ”


ใบหน้าเรียวหันมองเพราะเธอยิ้มจริงๆ ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพาภิรมย์ดึงสาวน้อยเข้ามากอดเบาๆก่อนจะผละออกมาสบดวงตาคู่เสน่ห์


“ อยากไปเที่ยวที่ไหนมั้ยคะ หรือว่าจะกลับเลย ”

“ เอ่อ..กันต์อยากไปอีกที่นึงค่ะ ”

“ ที่ไหนคะ... ”

 


กันต์ไม่ได้ตอบคำถามอะไรเพียงแต่บอกให้เพาภิรมย์ขับรถมุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านนั้น รถเบนซ์สีขาวคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดในลานที่ทางโรงพยาบาลกำหนดไว้สองสาวเดินลงจากรถ ใบหน้าสวยหันมองไปรอบๆ ต้นไม้เขียวขจีขึ้นเขียวชอุ่มจึงทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นรื่นตาไม่น้อยสายลมพัดเข้าออกสะดวกทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้ดูร่มรื่นจุดประสงค์คงจะมีความต้องการให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาจิตใจของผู้ป่วยที่นี่

เพาภิรมย์มองดูไปจนทั่วพื้นที่เห็นผู้ป่วยหลายคนยืนอยู่ตามจุดต่างๆที่พวกเขาพอใจที่จะอยู่ ณ จุดๆนั้นหลายคนเดินพูดคนเดียว บางคนยืนถกเถียงอยู่กับต้นไม้ บางคนก็นำผ้ามาพันมั่วๆไว้บนศรีษะบางคนถือไม้วิ่งไล่ตีบุรุษพยาบาลแล้วก็ยังมีบางคนที่นั่งนิ่งๆไร้ชีวิตชีวา...ใช่แล้วโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยทางด้านวิกลจริตหรือภาษาสามัญทั่วไปที่เรียกกันว่า โรงพยาบาลบ้า

 


“ กันต์...เรามาหาใครเหรอคะ.. ” เพาภิรมย์หันถามสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ คนที่เรารู้จักค่ะ กันต์ก็พึ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเค้าอยู่ที่ไหน ”

“ คนที่เรารู้จัก? ใครเหรอคะ..เค้าเป็นหมอที่นี่เหรอ ” ร่างสูงนิ่วหน้าสงสัย

 

“ สวัสดีค่ะเจ้า ” ในขณะที่กันต์ยังไม่ได้ตอบคำถามของเพาภิรมย์ พยาบาลสาวท่านหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทายเสียก่อน

“ สวัสดีค่ะ กันต์มาก่อนเวลารบกวนหน่อยนะคะ ” ร่างบางยิ้มตอบราบเรียบต่อเจ้าหน้าที่ที่เธอได้ให้พิมพรรณโทรแจ้งรายละเอียดถึงการมาในครั้งนี้

“ ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ ยินดีเป็นอย่างมาก ”

“ แล้ว...ตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนเหรอคะ ” กันต์เอ่ยถามออกไปจึงทำให้เพาภิรมย์เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

“ อ๋อค่ะ..เชิญทางนี้เลยค่ะ ”


พยาบาลสาวยิ้มบอกก่อนจะเดินนำไป ร่างบางหันไปจับมือคนรักก่อนจะก้าวขาเดินตามเจ้าหน้าที่ไปทันที

 

 

เจ้าหน้าที่สาวเดินนำเข้ามาถึงในสวนดอกไม้สีสวยหลากหลายชนิด
ปรากฏเรือนร่างของผู้ป่วยอีกคนหนึ่งนั่งเหม่อมองจ้องดอกไม้เหี่ยวเฉาที่ถืออยู่ในมือ
ใบหน้ามีรอยแผลเป็นจางๆนิดหน่อยริมฝีปากฉีกยิ้มดูมีความสุขอยู่กับสิ่งของที่เหม่อมองนั้น

 

“ พลอยขวัญ... ” เพาภิรมย์พูดออกมาเบาๆไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอพลอยขวัญอีกครั้งในสภาพเช่นนี้

ด้านกันต์ก็ตกใจไม่น้อยเพราะเธอเองก็พึ่งจะเจอพลอยขวัญอีกครั้งเช่นเดียวกัน


************************


ลบเนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา