เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ

6.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.

  44 ตอน
  0 วิจารณ์
  44.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) กาลครั้งนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ค่ำคืนแห่งราตรีคืนนี้ดูครื้นเครงด้วยเหล่าบรรดาสาวๆมากหน้าหลายตาที่กำลังดื่มสังสรรค์อยู่ในผับ..บ้างก็ลุกขึ้นเต้นควบคู่ไปตามจังหวะของเสียงเพลงแสงไฟหลากสีตระการตาส่องว๊อบแว๊บวิ๊บวั๊บสนุกสนานกันไป.....เพาภิรมย์และพิมพรรณนั่งดื่มเบาๆร่วมกับเพื่อนฝูงที่กลับมาเจอกันอีกครั้งมีแอบเหล่มองสิ่งสวยๆงามๆที่คอยทยอยกันเข้ามาท่องเที่ยวหาความสำราญแต่ก็ไม่มีใครจะเพอร์เฟคเท่ากับเจ้ากันต์ฎรัศมิ์ของเธอเลย ^^

 

“ เพา..เธอจำน้องปริม ดาวคณะนิเทศศาสตร์รุ่นน้องของเราได้มั้ย วันนี้เค้าก็มาด้วยนะ...โน้นไง เห็นมั้ยน้องเค้ามองมาทางเธอด้วยแหละ ” เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น เพาภิรมย์หันมองเห็นสาวหน้าตาสวยที่เธอเองก็จำได้เป็นอย่างดีเพราะผู้หญิงคนนี้โดดเด่นไม่เบาในช่วงสมัยเรียนแถมยังเกือบจะสนิทสนมกับเธออีกต่างหาก…หล่อนมีชื่อจริงว่ารสริน

 

“ มองได้ แต่สายตาน่ะไม่ต้องเยิ้มมากก็ได้นะจ๊ะ... ” พิมพรรณที่นั่งร่วมสังสรรค์อยู่ข้างๆกระซิบบอกแต่เพาภิรมย์ก็ยังคงส่งยิ้มหวานๆให้กับรสรินที่ยืนมองอยู่มุมหนึ่ง

“ ฉันจะฟ้อง! รับรองหูขาดสองข้างแน่ ”

พิมพรรณบอกอีกครั้ง ใบหน้าสวยหันมองขวับ

“ โธ่ นิดๆหน่อยๆ ไม่หิ้วกลับบ้านหรอกน่า ” เพาภิรมย์ยิ้มบอกพลางยกแก้วแอลกอฮอร์ขึ้นดื่มก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างชิวชิว

“ ก็ลองดูซิ ฉันจะได้อาสานั่งซับเลือดให้ ” พิมพรรณแกล้งพูดประชดใส่ เพาภิรมย์จึงค้อนสายตาใส่เพื่อนสาวนิดๆ

 


“ พี่เพาใช่มั้ยคะ... ”

เพาภิรมย์หันมองเมื่อเสียงหวานของใครบางคนเอ่ยถาม.....เป็นรสรินนั่นเอง

“ อ๋อ..ค่ะ ” เพาภิรมย์ตอบ

“ จำปริมได้มั้ยคะ ” รสรินแนะนำชื่อเล่นของตัวเอง

“ จำได้ซิคะ ”

“ ดีใจจังที่ได้เจอพี่เพาอีกครั้ง...เอ่อ ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ ”

“ ได้ซิคะ เชิญค่ะ/น้องเค้ามาหาฉันเองนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย ” เพาภิรมย์ถอยห่างนิดหน่อยเพื่อแบ่งพื้นที่ให้รสรินนั่งก่อนจะหันพูดกับพิมพรรณเบาๆ กระนั้นรสรินจึงก้าวขาเข้ามานั่งตามที่ตั้งใจ

 

“ ……… ” ร่างสูงเงียบทึ่งใจเล็กๆมองรสรินที่กำลังหว่านเสน่ห์ใส่เธอ

“ เอ่อ..โอ๊ะโห... ” พิมพรรณส่งเสียงออกมาเบาๆเมื่อเห็นรสรินทิ้งร่างนั่งลงบนตักของเพาภิรมย์

 

 

เมื่อเวลาผ่านไปสักพักความครื้นเครงก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ.....ถัดมายังเพาภิรมย์ที่ยังมีหญิงสาวอย่างรสรินนั่งอยู่บนตักเช่นเดิม พิมพรรณเองนั้นรู้ดีว่าเพื่อนของเธอไม่ได้คิดเลยเถิดอยู่แล้วจึงไม่ได้ห้ามอะไรอีกต่อไป

 


“ นี่ๆ ไม่เบานะ แอบเหล่สาวน้อยด้วย ” เพาภิรมย์หันกระซิบกับพิมพรรณเพราะเห็นเพื่อนของเธอมองตามหลังสาวสวยน่ารักคนหนึ่งที่พึ่งเดินผ่านไป

“ เหล่สาวน้อยที่ไหน ฉันมองคุณแม่ที่เดินมากับเค้าต่างหาก ” เพื่อนสาวตอบยังคงมองอยู่เช่นเดิม

“ รู้ได้ยังไงว่าเค้าเป็นแม่ลูกกัน เพื่อนกันมากกว่ามั้ง ” เพาภิรมย์พิจารณาถึงคนที่พิมพรรณพูดถึง

“ ฉันว่าแม่นะ ดูเหมือนจะอายุเยอะแล้ว ”

“ ใครที่ไหนจะพาแม่มาผับด้วย ”

“ ก็แม่... ” พิมพรรณหันมาหาแต่คำพูดกับหยุดไป

“ แม่อะไร ” เพาภิรมย์ถามต่อ

“ มะ..แม่...แม่มาแล้ว.. ”


เพาภิรมย์นิ่วหน้าสงสัยเห็นท่าทางแปลกๆของพิมพรรณที่พูดกับเธอแต่สายตากับมองไปทางอื่นบวกกับทุกคนที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานก็เหม่อมองกันเป็นตาเดียวใบหน้าสวยจึงหันมองตาม.....พล่าง!!!
เพาภิรมย์กระพริบตาปริบๆเมื่อหันไปเจอสาวน้อยของเธอที่กำลังเดินเข้ามา ร่างบางในชุดเดรสเกาะอกสีม่วงเข้มมัดผมรวบตึงรองเท้าส้นสูงช่วยชูให้ร่างสูงโปร่งสง่าดูดีจนเป็นที่จับตามองของใครหลายคนเลยทีเดียว

เพาภิรมย์รีบเคลื่อนย้ายให้รสรินออกจากตักของเธอก่อนที่อีกคนจะเห็นชัดกว่านี้ แต่ดูเหมือนจะช้าจนเกินไปเพราะกันต์ได้เห็นทุกอย่างหมดแล้ว


“ ไหนบอกว่าไปพบลูกค้าไง! ”

“ ไม่รู้! ”

สองเพื่อนซี้กระซิบกระซาบกันยกใหญ่

“ ไม่มีอะไรหรอก นิ่งไว้ก่อน ” พิมพรรณแนะนำ

 

กันต์พร้อมหญิงสาวคนหนึ่งที่มาด้วยกันเดินเข้ามานั่งยังโต๊ะที่ถูกจองไว้แล้วโดยตรงข้ามกับโต๊ะของเพาภิรมย์พอดี เครื่องดื่มถูกนำมาเสริฟบริการอย่างไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง มือเรียวเอื้อมหยิบแก้วแอลกอฮอร์ขึ้นจิบพอประมาณและวางลงพลางตวัดขาซ้ายขึ้นไขว่ห้างรักษาบุคลิกได้ดีเยี่ยมก่อนจะเหลือบตามองเป้าหมายที่กำลังมองมาเช่นกัน

 

“ พี่เพา รังเกลียดปริมเหรอคะ ” รสรินขยับตัวหันมาหาพูดออกมาทำกิริยาน้อยใจที่เพาภิรมย์ดันเธอออกจากตัก

“ เอ่อ..ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คือพี่คิดว่ามันไม่เหมาะน่ะ ” ( แต่เมื่อกี๊นี้ก็ปล่อยให้เค้านั่งอยู่นานเลยนะ คุณเพา!!! ^^ )

“ ไม่เหมาะตรงไหนล่ะคะ ที่นี่ผับนะไม่มีใครเค้าสนใจเราหรอก ” รสรินเอื้อมคล้องคอเพาภิรมย์บอกเสียงอ่อนเสียงหวาน


ใบหน้าสวยเบิกตาโตก่อนจะค่อยๆหันมองไปยังสาวน้อยของเธอ.....เจอกับดวงตาแนบนิ่ง! เพาภิรมย์กลืนน้ำลายเอือกพร้อมกับรีบดึงแขนของรสรินออกทันที ทำให้หญิงพราวเสน่ห์แต่งตัวจัดจ้านนิ่วหน้าสงสัยในกิริยาของคนตรงหน้า

 

“ ฉันไม่เกี่ยวนะ ” พิมพรรณกระซิบบอกเบาๆพลางหัวเราะเยาะเพื่อนสาว

“ ผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ ” เพาภิรมย์มองหญิงสาวหน้าสวยที่เดินมาพร้อมกับกันต์ซึ่งเธอจับตามองตั้งแต่เข้ามาเพราะเห็นกิริยาที่ทั้งคู่คุยกันอย่างสนิทสนม

“ เจนจิรา หลานสาวเจ้าของผับนี้นั่นแหละ รู้จักกับกันต์ ” พิมพรรณยิ้มบอก ผู้ถามจึงพยักหน้าเข้าใจ

 


“ พี่เพาคะ เราไปเต้นกันดีกว่านะ ” รสรินยืนขึ้นพร้อมกับดึงมือของเพาภิรมย์แต่เจ้าของรีบยื้อไว้

“ อึ่ย! อย่าดีกว่าจ้ะ พี่ไม่อยากให้แฟนเข้าใจผิด ”

“ แฟน!! พี่เพามีแฟนแล้วเหรอคะ? ”


“ ใช่แล้วค่ะ..นั่งสวยสง่าอยู่นั่นไง ” พิมพรรณช่วยเสริม

รสรินหันมองตามที่พิมพรรณแนะนำไปทางฝั่งตรงข้าม.....ผู้หญิงคนนี้นี่เอง น่าเสียดายจริงๆเพราะเธอกะว่าจะไปนั่งสนทนาตีสนิทสนมด้วยเสียหน่อย...


“ แต่แฟนพี่เพาเค้าไม่เห็นจะว่าอะไรเลยนิคะ มาเถอะน่า ไม่เป็นไรหรอก ” รสรินยังคงชักชวนไม่เลิก เพาภิรมย์ส่ายหน้าปฏิเสธพลางเหล่มองสาวน้อยของเธอเป็นระยะๆ

“ เอ่อ..คือ ”

ริมฝีปากสวยกำลังจะปฏิเสธต่อถึงยังไงเธอก็จะไม่ยอมเด็ดขาดแต่ระหว่างนั้นสายตากับเหลือบเห็นสาวๆสองสามคนกำลังรุมล้อมตัวกันต์มีอ้อมไปด้านหลังโซฟาและก้มลงมาโอบกอดรอบคอสาวน้อยของเธอไว้แถมคุยกระซิบกระหนุงกระหนิงกันอย่างเข้าขา ร่างสูงกัดฟันแน่นก่อนจะตอบปากรับคำเชิญชวนของรสริน

 

“ ก็ได้ค่ะ ”

รสรินยิ้มร่าดึงเพาภิรมย์ออกไปกลางผู้คนที่กำลังสนุกครึกครื้น.....เธอจับมือของอีกคนทั้งสองข้างมาไว้ที่เอวเช่นเดียวกับตัวเธอเองที่เอื้อมมือคล้องคอร่างสูงไว้พร้อมกับเคลื่อนกายเต้นไปตามจังหวะของเสียงเพลงแต่ใบหน้าสวยนั้นก็ไม่ได้สนใจรสรินเท่าไหร่นักเอาแต่จ้องมองผสานสายตากับสาวน้อยของเธออยู่นั่นเอง

 

“ พอกัน ” พิมพรรณอมยิ้มพูดพลางส่ายหัวเบาๆกับการประชดกันไปประชดกันมาของทั้งคู่

 

 

เวลาผ่านไประยะหนึ่งเพาภิรมย์ตัดสินใจกลับมานั่งยังโต๊ะของเธอโดยมีพิมพรรณตามมานั่งด้วยหลังจากไปร่วมสนุกด้วยกันมา.....


“ อ้าว เหนื่อยแล้วววเหรอออ ” เพื่อนสาวถามด้วยอาการที่เริ่มมึนเมา

“ ไมได้เหนื่อยแต่อารมณ์ไม่ดี ”

พิมพรรณมองตามดวงตาของเพาภิรมย์ที่จับจ้องไปยังฝั่งตรงข้ามเห็นสาวเล็กสาวใหญ่กำลังเอาอกเอาใจเจ้ากันต์ฎรัศมิ์กันน่าดู.....บ้างก็ป้อนขนมให้ บ้างก็กอดรัดพิงซบกันยกใหญ่เช่นนี้นี่เล่าอีกคนถึงอารมณ์เสีย
ร่างบางนั่งพิงหลังโซฟาชิวชิวส่งยิ้มนิดๆให้กับสาวสวยที่มาเต้นยั่วเธอตรงหน้า.....แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเธออยู่แล้วแค่อยากทำให้อีกคนหึงก็แค่นั้น

 

“ ทำอย่างนี้ได้ยังไง ต่อหน้าต่อตาเลยนะ ” เพาภิรมย์หน้าบูดบึ้ง

“ ก็คายยทำก่อนล่ะ แม่เสือสาววว ” พิมพรรณไม่เข้าข้างทำให้เพื่อนของเธอทำตาค้อนใส่ขวับเริ่มอยากเอาชนะให้ได้


“ ปริม!! ” ร่างสูงร้องเรียกรสริน หญิงสาวจึงเดินมาหา

“ ว่าไงคะ..พี่เพา ”

“ เหนื่อยมั้ยคะ ” เพาภิรมย์ดึงร่างของรสรินมานั่งลงบนตักของเธอ ทำให้บุคคลฝ่ายตรงข้ามเพ่งมองด้วยความไม่พอใจ

 

“ น่านนน..เอากันเข้าปายย ” พิมพรรณบ่นพึมพำ


“ ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ถ้าได้รางวัลจากพี่เพา ” รสรินยิ้มหวาน

“ อืม น้องปริมอยากได้อะไรล่ะคะ ” ใบหน้าสวยส่งเสียงหวานถามกลับพลางเหล่มองสาวน้อยที่กำลังมองมา


รสรินเอียงแก้มให้กับผู้ถาม ใบหน้าสวยอมยิ้มดวงตาหันมองสาวน้อยของเธอก่อนจะเคลื่อนจมูกเข้าไปใกล้แก้มของรสรินช้าๆ.....ร่างบางลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋ามุ่งหน้าเดินไปหา เพาภิรมย์หยุดยิ้มมองเพราะเธอไม่คิดจะทำจริงอยู่แล้ว มือเรียวเอื้อมจับปลายคางของคนรักก่อนจะก้มจุมพิตลงเบาๆเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของโดยไม่ได้สนใจร่างที่นั่งองอยู่บนตักเลยแม้แต่น้อย

 

“ คืนนี้...นอนนอกห้องนะคะที่รัก ” ใบหน้าเรียวขยับเข้าไปกระซิบที่ข้างหู

“ อะ..เอ่อ..คือ..เดี๋ยวๆ กะ.. ” ดวงตากระพริบปริบๆเรียวปากอ้าอยากจะพูดแต่ก็ติดขัดไปหมดหันมองตามหลังสาวน้อยที่เดินออกไปแล้ว


“ ฮิฮิ บทสรุปของเธอ ควรเป็นแบบ...แบบนี้แหละ ดีที่สูดด...อู้ย!! ” พิมพรรณหัวเราะเยาะตอนนี้เรียกง่ายๆว่าเมาแอ๋ เพาภิรมย์จึงหยิกเข้าที่ต้นแขนด้วยความหมันไส้

 

 

เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง เพาภิรมย์ไม่สนุกอีกตั้งแต่สาวน้อยของเธอกลับไป พิมพรรณนั้นก็เมาพูดไม่รู้เรื่องกว่าจะลากกลับมาได้เล่นเอาเธอเหงื่อตกไปเหมือนกัน


“ อ้าว..คุณเพา เอ่อ..มาค่ะ เดี๋ยวดิฉันช่วย ” สายคำหญิงรับใช้รีบเข้ามาช่วยประคองร่างของพิมพรรณที่เซไปเซมา

“ ฝากด้วยนะสายคำ ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก ” เพาภิรมย์สะบัดแขนของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า สายคำพยักหน้าพร้อมกับรีบพาร่างมึนเมาขึ้นไปด้านบนด้วยเกรงว่าเพ็ญพิศุทธิ์จะบังเอิญมาเห็นเข้าอย่างทุลักทุเล

 

เพาภิรมย์รีบขึ้นมายังชั้นบนและเข้าไปในห้องนอนทันที พบแสงไฟสลัวๆที่โต๊ะริมเตียงเพียงดวงเดียวส่องแสงให้เห็นเรือนร่างที่ไม่แน่ใจว่าหลับแล้วหรือยัง.....ร่างสูงจึงก้าวขาเดินเข้าไปหาเบาๆ ใบหน้าสวยก้มมองเรียวหน้าใสหลับตาพริ้มคงจะเข้าสู่นิทราไปแล้ว เช่นนั้นเพาภิรมย์จึงปลีกตัวเข้าห้องน้ำไป

เวลาดำเนินเดินเรื่องไปเรื่อยๆ เพาภิรมย์ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำรู้สึกสบายตัวมากขึ้นพลางขยับศรีษะเพื่อสบัดความเมื้อยล้าดวงตาจึงเหลือบเห็นสาวน้อยของเธอที่กำลังยืนทานยาอยู่.....ร่างบางที่พึ่งหลับตาลงหลังจากเพาภิรมย์มาถึงเพื่อรอดูให้แน่ใจว่าคนรักของเธอกลับมาถึงอย่างปลอดภัย แต่ด้วยที่รู้สึกปวดๆขมับจึงลุกขึ้นมากินยา เสียหน่อย


" กันต์เป็นอะไร ทำไมถึงกินยาล่ะคะ " ร่างสูงรีบเดินเร็วๆไปหา.....เพราะมันน่าเป็นห่วงไม่เบาที่สาวน้อยของเธอถึงขนาดยอมกินยา

" ปวดหัวค่ะ " เสียงเล็กตอบกลับบางเบาก่อนจะหันเดินไปยังเตียง เพาภิรมย์คว้าแขนดึงไว้ขณะที่สาวน้อยกำลังจะล้มตัวลงนอน

" ไม่สบายหรือป่าว " ใบหน้าสวยเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนแววตาเป็นห่วงพร้อมกับเอื้อมมือวัดอุณหภูมิบนหน้าผากอีกด้วย กันต์ส่ายหัวแทนคำพูดก่อนจะดึงผ้ามาห่มกายและหลับตาลง เพาภิรมย์จึงเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วล้มตัวลงโอบกอดไว้แต่ใบหน้ายังคงก้มลงมองอีกคนอยู่อย่างนั้น

 

“ หลับแล้วเหรอ ” เสียงกระซิบถามเบาๆ.....เงียบแฮะ

“ กันต์... ”


“ ตัวเล็กโกรธคุณเพาใช่มั้ย ”

เงียบเชียบดีจริงๆ.....

“ กันต์ๆๆๆ ” ร่างบางถูกเขย่าตัวกวนใจจนต้องลืมตาขึ้นหันมอง สายตาไม่เล่นด้วยทำให้เพาภิรมย์ต้องยิ้มสู้ไปก่อน

“ ก็..ตัวเองไม่คุยกับเค้านี่ ” เพาภิรมย์เสียงอ่อยลงสองนิ้วชี้จิ้มเข้าหากันทำหน้าเศร้าๆ


“ ไปนอนที่อื่น ”

“ ห่ะ! ”

“ ไม่ได้ยินเหรอ บอกว่าให้ไปนอนที่อื่น ”

“ โห่..แล้วเค้าจะไปนอนที่ไหนอ่ะ ” ร่างสูงขยับพิงซบไหล่ของคนนอนเสียงออดอ้อน


“ ไม่รู้! ไปนอนกับน้าพรรณก็ได้ ” กันต์พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง

“ น้าพรรณเมาแอ๋ขนาดนั้นเรียกยังไงก็ไม่ตื่นหรอก ”

ใบหน้าเรียวถอนหายใจออกมาก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงมุ่งหน้าไปเปิดประตูที่สามารถทะลุเข้าไปยังห้องทำงานของเธอได้


“ เชิญค่ะ ” กันต์ยืนกอดอกพิงผนังรออีกฝ่ายที่กำลังเดินหน้าหงอยตรงมา

“ ฮืออกันต์อ่ะ ไม่มีตัวเล็กนอนด้วยแล้วคุณเพาจะนอนหลับเหรอ ” เพาภิรมย์เดินเข้ามากอดสาวน้อยของเธอยังคงอ้อนอีกคนให้ยอมใจอ่อน

“ เข้าไปข้างในได้แล้วค่ะ ”

“ ฮืมม..ไม่เอาอ่ะ ” ใบหน้าสวยส่ายหัวกอดอีกคนไม่ยอมปล่อย

“ ถ้าไม่เข้าไปกันต์จะเข้าไปนอนเอง แล้วคุณเพาก็เชิญนอนในห้องนี้ตามสบายเลยค่ะ ”

ร่างบางทำท่าจะเดินเข้าไปยังห้องทำงาน แต่เพาภิรมย์รั้งเอาไว้และจำต้องยอมเข้าไปในห้องนั้นแทน.....

 

 

เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืนร่างบางยังคงนอนไม่หลับด้วยเป็นห่วงว่าอีกคนที่ไล่ให้ไปในห้องทำงานนั้นจะนอนได้หรือป่าวอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ.....กันต์ถอนหายใจอย่างรำคาญตัวเองตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้และหยิบผ้าห่มผืนใหญ่เพื่อที่จะนำไปให้คนที่อยู่ในห้องทำงานของเธอ


มือเรียวเอื้อมเปิดประตูเข้าไปเบาๆท่ามกลางความมืดมีแสงสว่างจากคืนเดือนหงายเท่านั้นที่สาดส่องเข้ามาค่อยๆก้าวขาเข้าไปช้าๆจนเดินมาหยุดอยู่กลางห้องกวาดสายตามองหาเพาภิรมย์แต่ไร้วี่แววหันมองที่โซฟาก็ถูกปรับระดับให้เป็นเตียงนอนเรียบร้อยแล้วนี่.....แต่คนนอนหายไปไหนนะ


“ หรือว่าไปนอนกับน้าพรรณแล้ว? ” สาวน้อยพูดพึมพำกับตัวเอง


“ อุ๊ย!!! ” กันต์ร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆร่างของเธอก็ถูกดึงลงมาที่โซฟา ใบหน้าเรียวหันมองไปเจอกับรอยยิ้มหวานๆของผู้ที่กำลังตามหา

 

“ มีผ้าห่มมาด้วยเป็นห่วงเค้าใช่มั้ย ” ริมฝีปากสวยยิ้มบอกพร้อมกับจุมพิตที่หัวไหล่เบาๆ

“ ก็แค่กลัวว่าคนแถวนี้จะหนาวตาย เลยเอามาให้แค่นั้น ”

 


เพาภิรมย์อมยิ้มกับคำพูดของคนปากแข็งก่อนจะใช้จมูกสูดดมซอกคอนิดๆ ร่างบางรั้งกายหนีจมูกซุกซนแต่ไม่ค่อยสำเร็จนักจึงเริ่มขยับตัวหมายจะลุกออกไปเพราะเหมือนกำลังจะเสียเปรียบอะไรบางอย่างเนื้อตัวถูกโอบรัดด้วยฝีมือของคนข้างหลังพลางส่งเสียงฮึดฮัดแบบรำคาญใจใส่...!

 


“ อยู่เฉยๆ..เดี๋ยวพาไปกินหนม ”

************************


ลบเนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา