เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
6.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
44 ตอน
0 วิจารณ์
44.41K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) คือเธอใช่ไหม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เช้าวันใหม่เจ้าหลวงรังสิมันต์ เพ็ญพิศุทธิ์ กันต์พร้อมพิมพรรณก็ได้นั่งพูดคุยถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อเจ้าหลวงเดินทางไปถึงบริเวณโรงทอผ้าไหม้แต่กับไม่มีไฟไหม้เกิดขึ้นที่นั่นเห็นเพียงแต่กองหญ้าที่ถูกจุดขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้นเพื่อให้รถบรรทุกที่กำลังแอบลักลอบขนไม้จากป่าเชียงรัฐได้เคลื่อนหลบหนีได้สะดวกนั่นเองจึงเกิดเหตุให้ต้องสกัดกั้นกันอยู่นานในที่สุดพวกแอบลักลอบทั้งหลายก็ได้ถูกคุมตัวดำเนินการทางกฎหมาย
“ โชคดีที่เมื่อคืนนี้เจ้าย่าไปค้างที่วัด ไม่อย่างนั้นคงตกใจแย่ ” พิมพรรณถอนหายใจพูดออกมา
“ รู้หรือยังคะ ว่าพวกนั้นเป็นคนของใคร ” เพ็ญพิศุทธิ์ถามขึ้น
“ ยัง พวกมันปิดปากเงียบ คงต้องรอให้ทางตำรวจตรวจสอบให้แน่ชัด ” เจ้าหลวงรังสิมันต์ตอบ
“ กันต์..แล้วเมื่อคืนนี้ ” ผู้เป็นพ่อหันถาม
“ กันต์ว่า...คงจะเป็นพวกเดียวกัน แต่ใจร้อนแล้วก็ประมาทจนเกินไปเลยมากันไม่กี่คน ” ใบหน้าเรียวหันบอกเรียบๆ
“ น่าแปลก? พวกมันเข้ามาที่นี่ทำไม คงจะไม่ใช่มืออาชีพถึงได้พรวดพราดเข้ามาแบบนั้น ” เจ้าหลวงรังสิมันต์บอกกล่าว ร่างบางคุ่นคิดถึงเมธาวีก็ทำให้ยิ่งสงสัยว่าอยู่ดีๆมาที่นี่ได้ยังไง
“ น้าพรรณ คุณเพาไปไหนล่ะคะ ” กันต์หันกระซิบพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆระหว่างนั้นเองหญิงรับใช้จากเรือนเจ้าย่าบัวเงินก็เดินเข้ามาหาด้วยกิริยานอบน้อม
“ เจ้าคะ เจ้าย่าเชิญที่เรือนค่ะ ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นกันต์จึงรีบไปที่เรือนของเจ้าย่าบัวเงินทันที
เรือนเจ้าย่าบัวเงิน.....ร่างบางเดินมาถึงจุดหมายสายตาจับจ้องมองไปยังศาลาไม้สักสีทองหลังใหญ่ยกใต้ถุนสูงกลางลานกว้างหน้าเรือนที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สวยงามนานาชนิด ริมฝีปากฉีกยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนรักอย่างเพาภิรมย์กำลังนั่งแกะสลักผักผลไม้อยู่กับเจ้าย่าบัวเงินผู้เป็นคนสอนดวงหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดูมีความสุขเพลิดเพลินน่าดูสองเท้าจึงรีบก้าวเดินเข้าไปหา
“ วันนี้ดอกไม้ที่นี่สวยจังเลยนะคะ ” กันต์พูดออกไปขณะมองไปยังเพาภิรมย์ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับการแกะสลักไม่ยักจะสนใจเสียงของเธอที่ดังขึ้นสร้างความแปลกใจให้ไม่น้อย
“ อ้าว..กันต์ มาแล้วเหรอ มาหาย่าสิลูก ” เจ้าย่าบัวเงินที่มักจะไปถือศีลบำเพ็ญเพียรอยู่ที่วัดเสมอครั้นกลับมาคราวนี้จึงคิดถึงหลานรักที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันนานเกือบเดือน ร่างบางเข้าหาอ้อมกอดที่อ้ารอรับอยู่นั้นรับสัมผัสอันแสนอบอุ่นด้วยความรักที่มีต่อย่าหลาน
“ แกะสลักกันอยู่เหรอคะ ” ใบหน้าเรียวยิ้มถามออกไป
“ จ้ะ ย่าก็นั่งทำไปเพลินๆ นี่พอดีเจอหนูเพาเมื่อตอนเช้าเลยชวนมาทำด้วยกัน ” เจ้าย่าบัวเงินบอกสีหน้ายิ้มแย้ม
“ ลูกศิษย์ฝีมือดีมั้ยคะ ” หลานรักตั้งคำถามยังคงมองเพาภิรมย์ที่ดูจะไม่สนใจเธอเลย
“ ดีมากเลยล่ะ ฝีมือประณีตไม่ใช่เล่นบอกนิดบอกหน่อยก็ทำได้เลย ”
“ .....แล้วเจ้าย่ามีเรื่องอะไรหรือป่าวคะ ถึงได้ให้คนไปเรียกกันต์มา ”
“ มีลูก..กันต์เข้าไปนั่งกับพี่เค้าก่อนนะจ๊ะ แล้วเดี๋ยวย่าจะบอกอีกที ” เจ้าย่าบัวเงินกล่าวก่อนจะกลับขึ้นไปยังเรือน ร่างบางจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆคนรักยิ้มมองชิ้นผักที่กำลังถูกจิ้มมุมนั้นมุมนี้เพื่อให้เกิดรวดรายสวยงามอย่างใจเย็น
“ กันต์ตื่นมาก็ไม่เจอคุณเพาแล้ว หนีมาแกะสลักอยู่ที่นี่นี่เอง ” ใบหน้าเรียวหันพูดต่อคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่อีกคนกับเงียบเฉยไม่ตอบอะไรกลับมา
“ คุณเพาเป็นอะไรหรือป่าวคะ ” กันต์ถามออกไป เพาภิรมย์นิ่งเฉยยังคงแกะสลักผักในมือไปเรื่อยๆ
“ ทำไมเงียบล่ะคะ โกรธอะไรกันต์เหรอ ”
“ ......... ”
“ คุณเพา...ทำไมไม่คุยกับกันต์ล่ะ ”
“ คุณเพา... ” เสียงเล็กเริ่มอ่อยลงเมื่ออีกคนดูจะไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยเอาแต่จดจ่ออยู่กับของในมือ.....กันต์จึงแย่งผักแกะสลักนั่นมา ใบหน้าสวยหันมองนิ่งๆก่อนที่จะกลั้นยิ้มไว้เมื่อเห็นสาวน้อยของเธอนำผักที่แย่งไปนั้นเข้าปากเคี้ยวกินเพื่อตัดปัญหา
“ อร่อย ” จมูกโด่งยื่นเข้ามาหอมแก้มดวงหน้าที่หันมองเธอพร้อมกับยิ้มหวานๆ
“ ไม่ต้องมายิ้ม ไม่มีใครเค้าอยากยิ้มด้วยหรอก..เด็กดื้อ! ” เพาภิรมย์พูดออกมาก่อนจะหันไปหยิบผักชิ้นใหม่ขึ้นมาแกะสลักอีกครั้ง
“ ทำไมอ่ะ!! กันต์ทำอะไรผิด ” เสียงเล็กร้อนรนเมื่อเพาภิรมย์พูดเช่นนั้น
“ ไม่รู้ตัวเลยซินะ ห้ามไม่ฟัง พูดก็ไม่เชื่อ! ”
“ เรื่องเมื่อคืนเหรอคะ ”
“ ก็ใช่น่ะซิ!! ”
“ แต่กันต์ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ ”
“ เข้าใจคำว่าเป็นห่วงมั้ย! ”
“ กันต์รู้ค่ะ..แต่กันต์ไม่เคยกลัวสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ”
“ ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะนึกถึงคนที่เค้ารักเราบ้าง!!! ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังจะเสียใจมากขนาดไหน!! รู้บ้างมั้ย! ” ร่างสูงปล่อยของในมือพร้อมกับหันมาต่อว่า ดวงตาคู่เสน่ห์กระพริบปริบๆไม่เคยเห็นเพาภิรมย์เสียงดังโดยมีเหตุผลแบบนี้กับเธอมาก่อน
“ พี่เสียใจ ที่พี่พยายามห้ามกันต์แต่กันต์ไม่เคยฟัง พี่จับมือกันต์เพื่อไม่ให้กันต์ไปแต่กันต์กับสะบัดมือพี่ทิ้ง.....กันต์รักพี่บ้างหรือป่าว ” ใบหน้าสวยจ้องถามด้วยความน้อยใจ
“ กันต์ขอโทษ... ” เสียงเล็กพูดออกมาบางเบาน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ เพาภิรมย์เห็นเช่นนั้นจึงไม่พูดอะไรต่อ
บรรยากาศเริ่มเงียบเชียบทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรต่ออีก เพาภิรมย์สงบสติอารมณ์ของตัวเองให้ใจเย็นลงก่อนจะหันมาหาสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิดๆใช้มีดแกะสลักจิ้มผลมะเขือเทศเล่นอยู่เงียบๆ.....เป็นแบบนี้เธอก็ใจอ่อนน่ะซิ ใบหน้าสวยตัดสินใจหันไปทางอื่นเพื่อจะได้ไม่แพ้ทางจิตใจอันอ่อนโยนของตัวเอง
เวลาผ่านไปสักพัก.....
“ อึ่ย!! ” เสียงเล็กร้องออกมาเบาๆเพราะไม่อยากให้อีกคนนั้นได้ยินเมื่อปลายนิ้วของเธอโดนคมมีดที่ใช้แกะสลักบาดจนเลือดไหลออกมานิดหน่อย แต่ถึงแม้เสียงที่คิดว่าเบาแล้วนั้นก็ยังทำให้ร่างสูงหันมามองทันที
“ เป็นอะไร ” ริมฝีปากสวยถามออกมา
“ ป่าว... ” กันต์ตอบเรียบๆพร้อมกับเอามือหลบ
" ไหนเอามือมาดูซิ เป็นอะไร "
" ไม่ได้เป็น "
ใบหน้าสวยคิ้วขมวดเมื่ออีกคนช่างดื้อรั้นสมกับเป็นสาวน้อยของเธอเสียจริงๆ เพาภิรมย์ขยับเข้ามาเอืัอมจับมือที่เจ้าของยื้อซ่อนไว้ด้านหลัง
" กันต์...! " เพาภิรมย์จ้องมองดวงหน้าที่อยู่ใกล้เพียงนิดส่งเสียงแข็งๆใส่นิดหน่อย
สาวน้อยยังคงซ่อนมือของตัวเองไว้เช่นนั้น ร่างสูงจึงออกแรงดึงมากขึ้นจนความเบียดเสียดไปกระทบที่แผลเข้า
" โอ้ย!! " ใบหน้าเรียวหลับตาปี๋เพราะเจ็บจี๊ด เพาภิรมย์ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นอาการเช่นนั้นก่อนจะค่อยๆนำมือที่เจ้าของหวงนักหวงหนามาดูเพื่อคลายข้อสงสัย
" มีดบาด! "
" อือ " กันต์ตอบสั้นๆ
" จะรอให้มันไหลออกมาจนหมดตัวหรือไง " เพาภิรมย์เพ่งสายตาดุ
" แผลแค่แมวข่วน " ร่างบางตอบอย่างไม่พอใจเพราะวันนี้เพาภิรมย์ดูจะดุเธอมากเสียจริง
" งั้นก็ปล่อยไว้แบบนี้แหละ เก่งนัก " บอกเสร็จใบหน้าสวยก็หันไปสนใจกับการแกะสลักเช่นเดิม ดวงตาคู่เสน่ห์เศร้าลงเมื่ออีกคนไม่สนใจเธอริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อยับยั้งหยดน้ำตาที่อยากจะล่วงลงมา
ร่างบางหยิบทิชชูมาปิดเลือดที่ไหลออกมาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นเดินออกจากตรงนั้นได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดเมื่อเงยหน้ามาเจอกับเพาภิรมย์ที่วิ่งอ้อมมาอีกทางหนึ่งเพื่อมาขวางสาวน้อยของเธอไว้ กันต์ลดสายตาลงยืนเงียบๆ
“ จะไปไหน... ” ริมฝีปากสวยถามขึ้น
“ ไปให้พ้นหน้าคุณเพา ” เสียงเล็กตอบกลับบางเบา
“ ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ”
“ คุณเพาเห็นกันต์แล้วหงุดหงิด กันต์เลยจะไปให้พ้นๆ ”
“ พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ” เพาภิรมย์ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปกอดร่างบางไว้หลวมๆ
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
“ โชคดีที่เมื่อคืนนี้เจ้าย่าไปค้างที่วัด ไม่อย่างนั้นคงตกใจแย่ ” พิมพรรณถอนหายใจพูดออกมา
“ รู้หรือยังคะ ว่าพวกนั้นเป็นคนของใคร ” เพ็ญพิศุทธิ์ถามขึ้น
“ ยัง พวกมันปิดปากเงียบ คงต้องรอให้ทางตำรวจตรวจสอบให้แน่ชัด ” เจ้าหลวงรังสิมันต์ตอบ
“ กันต์..แล้วเมื่อคืนนี้ ” ผู้เป็นพ่อหันถาม
“ กันต์ว่า...คงจะเป็นพวกเดียวกัน แต่ใจร้อนแล้วก็ประมาทจนเกินไปเลยมากันไม่กี่คน ” ใบหน้าเรียวหันบอกเรียบๆ
“ น่าแปลก? พวกมันเข้ามาที่นี่ทำไม คงจะไม่ใช่มืออาชีพถึงได้พรวดพราดเข้ามาแบบนั้น ” เจ้าหลวงรังสิมันต์บอกกล่าว ร่างบางคุ่นคิดถึงเมธาวีก็ทำให้ยิ่งสงสัยว่าอยู่ดีๆมาที่นี่ได้ยังไง
“ น้าพรรณ คุณเพาไปไหนล่ะคะ ” กันต์หันกระซิบพิมพรรณที่นั่งอยู่ข้างๆระหว่างนั้นเองหญิงรับใช้จากเรือนเจ้าย่าบัวเงินก็เดินเข้ามาหาด้วยกิริยานอบน้อม
“ เจ้าคะ เจ้าย่าเชิญที่เรือนค่ะ ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นกันต์จึงรีบไปที่เรือนของเจ้าย่าบัวเงินทันที
เรือนเจ้าย่าบัวเงิน.....ร่างบางเดินมาถึงจุดหมายสายตาจับจ้องมองไปยังศาลาไม้สักสีทองหลังใหญ่ยกใต้ถุนสูงกลางลานกว้างหน้าเรือนที่ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้สวยงามนานาชนิด ริมฝีปากฉีกยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนรักอย่างเพาภิรมย์กำลังนั่งแกะสลักผักผลไม้อยู่กับเจ้าย่าบัวเงินผู้เป็นคนสอนดวงหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดูมีความสุขเพลิดเพลินน่าดูสองเท้าจึงรีบก้าวเดินเข้าไปหา
“ วันนี้ดอกไม้ที่นี่สวยจังเลยนะคะ ” กันต์พูดออกไปขณะมองไปยังเพาภิรมย์ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับการแกะสลักไม่ยักจะสนใจเสียงของเธอที่ดังขึ้นสร้างความแปลกใจให้ไม่น้อย
“ อ้าว..กันต์ มาแล้วเหรอ มาหาย่าสิลูก ” เจ้าย่าบัวเงินที่มักจะไปถือศีลบำเพ็ญเพียรอยู่ที่วัดเสมอครั้นกลับมาคราวนี้จึงคิดถึงหลานรักที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันนานเกือบเดือน ร่างบางเข้าหาอ้อมกอดที่อ้ารอรับอยู่นั้นรับสัมผัสอันแสนอบอุ่นด้วยความรักที่มีต่อย่าหลาน
“ แกะสลักกันอยู่เหรอคะ ” ใบหน้าเรียวยิ้มถามออกไป
“ จ้ะ ย่าก็นั่งทำไปเพลินๆ นี่พอดีเจอหนูเพาเมื่อตอนเช้าเลยชวนมาทำด้วยกัน ” เจ้าย่าบัวเงินบอกสีหน้ายิ้มแย้ม
“ ลูกศิษย์ฝีมือดีมั้ยคะ ” หลานรักตั้งคำถามยังคงมองเพาภิรมย์ที่ดูจะไม่สนใจเธอเลย
“ ดีมากเลยล่ะ ฝีมือประณีตไม่ใช่เล่นบอกนิดบอกหน่อยก็ทำได้เลย ”
“ .....แล้วเจ้าย่ามีเรื่องอะไรหรือป่าวคะ ถึงได้ให้คนไปเรียกกันต์มา ”
“ มีลูก..กันต์เข้าไปนั่งกับพี่เค้าก่อนนะจ๊ะ แล้วเดี๋ยวย่าจะบอกอีกที ” เจ้าย่าบัวเงินกล่าวก่อนจะกลับขึ้นไปยังเรือน ร่างบางจึงเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆคนรักยิ้มมองชิ้นผักที่กำลังถูกจิ้มมุมนั้นมุมนี้เพื่อให้เกิดรวดรายสวยงามอย่างใจเย็น
“ กันต์ตื่นมาก็ไม่เจอคุณเพาแล้ว หนีมาแกะสลักอยู่ที่นี่นี่เอง ” ใบหน้าเรียวหันพูดต่อคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่อีกคนกับเงียบเฉยไม่ตอบอะไรกลับมา
“ คุณเพาเป็นอะไรหรือป่าวคะ ” กันต์ถามออกไป เพาภิรมย์นิ่งเฉยยังคงแกะสลักผักในมือไปเรื่อยๆ
“ ทำไมเงียบล่ะคะ โกรธอะไรกันต์เหรอ ”
“ ......... ”
“ คุณเพา...ทำไมไม่คุยกับกันต์ล่ะ ”
“ คุณเพา... ” เสียงเล็กเริ่มอ่อยลงเมื่ออีกคนดูจะไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยเอาแต่จดจ่ออยู่กับของในมือ.....กันต์จึงแย่งผักแกะสลักนั่นมา ใบหน้าสวยหันมองนิ่งๆก่อนที่จะกลั้นยิ้มไว้เมื่อเห็นสาวน้อยของเธอนำผักที่แย่งไปนั้นเข้าปากเคี้ยวกินเพื่อตัดปัญหา
“ อร่อย ” จมูกโด่งยื่นเข้ามาหอมแก้มดวงหน้าที่หันมองเธอพร้อมกับยิ้มหวานๆ
“ ไม่ต้องมายิ้ม ไม่มีใครเค้าอยากยิ้มด้วยหรอก..เด็กดื้อ! ” เพาภิรมย์พูดออกมาก่อนจะหันไปหยิบผักชิ้นใหม่ขึ้นมาแกะสลักอีกครั้ง
“ ทำไมอ่ะ!! กันต์ทำอะไรผิด ” เสียงเล็กร้อนรนเมื่อเพาภิรมย์พูดเช่นนั้น
“ ไม่รู้ตัวเลยซินะ ห้ามไม่ฟัง พูดก็ไม่เชื่อ! ”
“ เรื่องเมื่อคืนเหรอคะ ”
“ ก็ใช่น่ะซิ!! ”
“ แต่กันต์ก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ ”
“ เข้าใจคำว่าเป็นห่วงมั้ย! ”
“ กันต์รู้ค่ะ..แต่กันต์ไม่เคยกลัวสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ”
“ ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ควรจะนึกถึงคนที่เค้ารักเราบ้าง!!! ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังจะเสียใจมากขนาดไหน!! รู้บ้างมั้ย! ” ร่างสูงปล่อยของในมือพร้อมกับหันมาต่อว่า ดวงตาคู่เสน่ห์กระพริบปริบๆไม่เคยเห็นเพาภิรมย์เสียงดังโดยมีเหตุผลแบบนี้กับเธอมาก่อน
“ พี่เสียใจ ที่พี่พยายามห้ามกันต์แต่กันต์ไม่เคยฟัง พี่จับมือกันต์เพื่อไม่ให้กันต์ไปแต่กันต์กับสะบัดมือพี่ทิ้ง.....กันต์รักพี่บ้างหรือป่าว ” ใบหน้าสวยจ้องถามด้วยความน้อยใจ
“ กันต์ขอโทษ... ” เสียงเล็กพูดออกมาบางเบาน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ เพาภิรมย์เห็นเช่นนั้นจึงไม่พูดอะไรต่อ
บรรยากาศเริ่มเงียบเชียบทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรต่ออีก เพาภิรมย์สงบสติอารมณ์ของตัวเองให้ใจเย็นลงก่อนจะหันมาหาสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิดๆใช้มีดแกะสลักจิ้มผลมะเขือเทศเล่นอยู่เงียบๆ.....เป็นแบบนี้เธอก็ใจอ่อนน่ะซิ ใบหน้าสวยตัดสินใจหันไปทางอื่นเพื่อจะได้ไม่แพ้ทางจิตใจอันอ่อนโยนของตัวเอง
เวลาผ่านไปสักพัก.....
“ อึ่ย!! ” เสียงเล็กร้องออกมาเบาๆเพราะไม่อยากให้อีกคนนั้นได้ยินเมื่อปลายนิ้วของเธอโดนคมมีดที่ใช้แกะสลักบาดจนเลือดไหลออกมานิดหน่อย แต่ถึงแม้เสียงที่คิดว่าเบาแล้วนั้นก็ยังทำให้ร่างสูงหันมามองทันที
“ เป็นอะไร ” ริมฝีปากสวยถามออกมา
“ ป่าว... ” กันต์ตอบเรียบๆพร้อมกับเอามือหลบ
" ไหนเอามือมาดูซิ เป็นอะไร "
" ไม่ได้เป็น "
ใบหน้าสวยคิ้วขมวดเมื่ออีกคนช่างดื้อรั้นสมกับเป็นสาวน้อยของเธอเสียจริงๆ เพาภิรมย์ขยับเข้ามาเอืัอมจับมือที่เจ้าของยื้อซ่อนไว้ด้านหลัง
" กันต์...! " เพาภิรมย์จ้องมองดวงหน้าที่อยู่ใกล้เพียงนิดส่งเสียงแข็งๆใส่นิดหน่อย
สาวน้อยยังคงซ่อนมือของตัวเองไว้เช่นนั้น ร่างสูงจึงออกแรงดึงมากขึ้นจนความเบียดเสียดไปกระทบที่แผลเข้า
" โอ้ย!! " ใบหน้าเรียวหลับตาปี๋เพราะเจ็บจี๊ด เพาภิรมย์ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นอาการเช่นนั้นก่อนจะค่อยๆนำมือที่เจ้าของหวงนักหวงหนามาดูเพื่อคลายข้อสงสัย
" มีดบาด! "
" อือ " กันต์ตอบสั้นๆ
" จะรอให้มันไหลออกมาจนหมดตัวหรือไง " เพาภิรมย์เพ่งสายตาดุ
" แผลแค่แมวข่วน " ร่างบางตอบอย่างไม่พอใจเพราะวันนี้เพาภิรมย์ดูจะดุเธอมากเสียจริง
" งั้นก็ปล่อยไว้แบบนี้แหละ เก่งนัก " บอกเสร็จใบหน้าสวยก็หันไปสนใจกับการแกะสลักเช่นเดิม ดวงตาคู่เสน่ห์เศร้าลงเมื่ออีกคนไม่สนใจเธอริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อยับยั้งหยดน้ำตาที่อยากจะล่วงลงมา
ร่างบางหยิบทิชชูมาปิดเลือดที่ไหลออกมาก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นเดินออกจากตรงนั้นได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดเมื่อเงยหน้ามาเจอกับเพาภิรมย์ที่วิ่งอ้อมมาอีกทางหนึ่งเพื่อมาขวางสาวน้อยของเธอไว้ กันต์ลดสายตาลงยืนเงียบๆ
“ จะไปไหน... ” ริมฝีปากสวยถามขึ้น
“ ไปให้พ้นหน้าคุณเพา ” เสียงเล็กตอบกลับบางเบา
“ ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ”
“ คุณเพาเห็นกันต์แล้วหงุดหงิด กันต์เลยจะไปให้พ้นๆ ”
“ พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย ” เพาภิรมย์ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปกอดร่างบางไว้หลวมๆ
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ