เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
6.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
44 ตอน
0 วิจารณ์
43.75K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) เธอคือสิ่งสำคัญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เริ่มต้นอีกครั้งของวันใหม่..... กันต์พร้อมพิมพรรณกำลังเดินอยู่ริมฝั่งทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับธุรกิจเหมืองเพชรสายน้ำเงียบนิ่งสงบติดกับภูเขาและป่ารกทึบจนทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ดูน่ากลัวและไม่มีใครที่จะอยากก้าวขาลงไปสัมผัสกับสายน้ำที่ไม่มีสีสันสดใสเลยแม่แต่น้อย
“ กันต์ว่าจะให้คนงานตัดหญ้าแห้งๆริมฝั่งพวกนี้ให้หมด จะได้ดูสะอาดตามากขึ้น ” ใบหน้าเรียวหันพูดกับพิมพรรณน้าสาว
“ อืม..ก็ดีนะจะได้ดูไม่น่ากลัวด้วย ” พิมพรรณกล่าวตอบพร้อมกับหันมองไปรอบๆ
“ ถ้าตัดหญ้าพวกนี้ออกไป ก็คงสว่างมากขึ้น จะได้ดูไม่เหมือนเดินอยู่ในบ้านผีสิง ” สองน้าหลานหัวเราะพูดคุยปรึกษากันอย่างสนุกสนาน
“ แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควรนะ เพราะหญ้าพวกนี้หนาใช่เล่น ” พิมพรรณกล่าว
“ เออ! แล้วนี่คุณเพาของกันต์จะตามมาที่นี่มั้ย ”
“ มาค่ะ เห็นบอกว่าถ้าคุยกับคุณแม่เสร็จเมื่อไหร่ แล้วจะรีบตามมา ” กันต์ยิ้มบอก
“ งั้นเดี๋ยวเราเดินเล่นแถวๆนี้ก็แล้วกันเนอะ วังเวงดีนะ ว่าแมะ ” น้าสาวพูดปนหัวเราะพร้อมกับมองไปรอบๆแถมท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเสียจริง
“ ลองเรียกเข้าพบส่วนตัวแบบนี้นะ สงสัยโดนเรียกตักเตือน ฮิฮิ ”
พิมพรรณทำท่ากระซิบกระซาบ กันต์จึงอมยิ้มตามพลางนึกคิดถึงเพาภิรมย์แล้วมือเรียวจึงกอบกุมยกขึ้นมองชมแหวนวงจองตัวที่ยังคงอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายไม่เคยถอดให้ห่างตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ ว้าวๆ มีแอบดูแหวนด้วย แค่นี้ก็คิดถึงกันแล้วเหรอจ๊ะ ” เสียงพิมพรรณเอ่ยแซวเล่นพร้อมกับปรี่เข้ามาหา
“ ก็แค่ดูเฉยๆเองค่ะ ว่ามีคราบอะไรสกปรกหรือป่าวจะได้ทำความสะอาด ” กันต์ยิ้มตอบแก้ตัวไป
“ แหมๆ ดูอย่างนั้นจะไปมองเห็นทุกซอกทุกมุมได้ยังไงล่ะจ๊ะ ถอดออกมาดูดีๆซิ ไม่เป็นไรหรอก ”
พิมพรรณยิ้มบอกกันต์จึงถอดแหวนออกพลิกดูไปมาสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่ขณะนั้นเองแหวนที่ถืออยู่ในมือนั้นก็ถูกดึงไปทันทีด้วยฝีมือของคนที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่
“ พลอยขวัญ!!! ” พิมพรรณเอ่ยเรียกเสียงดังเมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้นโดยมีลางสังหรณ์ว่าคงจะไม่ประสงค์ดีเป็นแน่ กันต์เองก็ตกใจไม่น้อยยังคงมองแหวนที่อยู่ในมือของอีกคนไม่คาดสายตา
“ ประคบประหงมเหลือเกินนะ กับอีแค่แหวนเพชรเม็ดโต ” พลอยขวัญยิ้มบอกแววตาริษยา
" ฉันว่าเธอไม่ควรจะถือวิสาสะหยิบของ ของคนอื่นไปง่ายๆแบบนี้นะ! " พิมพรรณบอกน้ำเสียงไม่พอใจ
" คนอื่นที่ไหน...คนกันเองทั้งนั้น " พลอยขวัญยิ้มอย่างอารมณ์ดี สายตาจับจ้องร่างบางที่ยืนมองเธอเรียบนิ่ง
" ว่าไงจ๊ะที่รัก คิดถึงพี่พลอยบ้างหรือป่าวคะ " ร่างเพรียวส่งสายตากรุ้มกริ่มพร้อมกับพูดออกมาเบาๆ พิมพรรณเบ้ปากอย่างหมันไส้ในวาจา
" ขอแหวนคืนให้กันต์ด้วยค่ะ " ริมฝีปากบางบอกอย่างใจเย็น
" ถ้าพี่ไม่ให้ล่ะ "
" นิ! พลอย ฉันว่าเธออย่ายืดเยื้อเลยนะ คืนแหวนให้กันต์ไปซะ " พิมพรรณช่วยย้ำบอกอีกแรง
" ถ้าอยากได้..ก็เข้ามาเอาซิคะ " ใบหน้าหวานอมยิ้มเริ่มสนุกสนานในสายตาของตัวเอง
ทางด้านเพาภิรมย์ที่พึ่งจอดรถและกำลังมุ่งหน้าเดินผ่านทุ่งหญ้าแห้งแล้งที่สูงเลยหัวจึงมาเห็นพลอยขวัญเข้าพอดี
" พลอยขวัญ...มาสร้างเรื่องอะไรอีกเนี่ย " เพาภิรมย์พูดกับตัวเองเบาๆและยืนแอบดูสถานการณ์อย่างสนใจ
" พี่พลอยต้องการอะไรคะ " กันต์ถามออกไปเรียบๆ
“ ถามแบบนี้ แสดงว่าถ้าพี่ต้องการอะไร กันต์ก็จะให้หมดใช่หรือป่าวคะ ”
“ เพ้อเจ้อ! อะไรของเธอห่ะพลอยขวัญ ” พิมพรรณเอ่ยต่อว่านิดหน่อย
“ ส่งแหวนของกันต์คืนมา ” ร่างบางเอ่ยบอกอีกครั้ง
“ อยากได้เหลือเกินนะ ”
“ ไหนลองบอกรักพี่พลอยให้ชื่นใจหน่อยซิคะ ” พลอยขวัญยิ้มบอกอย่างมีหวัง
“ หืม..ขอมากไปแล้วมั้ง ” พิมพรรณเบ้ปากใส่
เพาภิรมย์ได้ยินเช่นนั้นจึงเริ่มไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงพฤติกรรมของพลอยขวัญที่ไม่ยอมหยุดกิริยาแบบนี้เสียที
“ กันต์มีสติพอที่จะไม่เที่ยวมาบอกรักใครพร่ำเพื่อ ” ริมฝีปากบางเอ่ยบอกเรียบๆ พลอยขวัญเริ่มมีอารมณ์โกรธเมื่อคำพูดของอีกคนนั้นกำลังหมายถึงเธอ
“ คืนแหวนมาให้กันต์ ”
“ หวงนักเหรอ... ”
พลอยขวัญกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะทิ้งแหวนที่อยู่ในมือลงสู่พื้นพร้อมกับยกขาขึ้นเล็กน้อยหมายจะเหยียบแหวนเพชรวงนั้นให้จมดิน
“ หยุด!!! ”
กันต์เปล่งเสียงคล้ายออกคำสั่งดังลั่นจนพลอยขวัญต้องหยุดการกระทำลงทันที ร่างบางรีบปรี่เข้าไปเพื่อที่จะหยิบแหวนของตัวเอง แต่พลอยขวัญรีบคว้าสองมือคู่นั้นไว้ กันต์สะบัดออกด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงร่างเพรียวจึงหยิบแหวนวงเดิมขึ้นมาเป็นประกันไว้อีกครั้ง
“ ฉันใจเย็นกับคุณมามากพอแล้วนะ! ” กันต์เริ่มต่อว่าเพราะหมดความอดทนเต็มที
“ เมื่อไหร่คุณจะเลิกยุ่งกับชีวิตฉันซะที!! ”
“ เมื่อไหร่คุณจะออกไปจากชีวิตของฉัน!! ”
พลอยขวัญนิ่งเหมือนโลกหยุดหมุนความรู้สึกของเธอในตอนนี้กำลังเคว้งคว้างอย่างไรบอกไม่ถูก พิมพรรณเริ่มเป็นห่วงสถานการณ์กลัวว่าหลานสาวของเธอจะปลดปล่อยด้านมืดออกมาเสียก่อนถึงเวลานั้น พลอยขวัญคงจะไม่ต่างอะไรกับเมธาวีเป็นแน่ ถัดไปในแถบทุ่งหญ้ารกหนาสายตาคู่หนึ่งที่กำลังยืนดูอยู่ไม่ไกลนักนั้นกับรู้สึกเศร้าและเสียใจเมื่อได้รับรู้ถึงความอึดอัดของคนรักที่ต้องเก็บไว้มันมากมายเหลือเกินอีกทั้งความเห็นแก่ตัวและความเจ้าอารมณ์ของเธอที่ผ่านมา...กันต์จะต้องทนเป็นทุกข์มากขนาดไหน...
" คุณจะวุ่นวายอะไรกับฉันนักหนา! "
" หยุดทำแบบนี้ซะทีเถอะ! ถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันสนใจคุณ "
" ฉันไม่มีวันรักคุณ ต่อให้ฉันเจอคุณให้เร็วกว่านี้ ฉันก็มั่นใจว่าฉันไม่มีทางรักคนอย่างคุณ!! "
" อย่าเรียกร้องอะไรจากฉัน อย่าโหยหาในสิ่งที่ฉันไม่มีให้! "
พลอยขวัญถึงกับน้ำตาคลอทั้งเสียใจทั้งโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
“ รักเค้ามากเลยเหรอ.. ” น้ำเสียงสั่นเครือถามขึ้น
“ ใช่ ” กันต์ตอบกลับทันควัน
“ ไอ้แหวนวงนี้มันคงจะสำคัญมากเลยซินะ อยากได้คืนนักใช่แมะ! ”
“ ถ้าอยากได้ ก็ไปงมหาเอาเองก็แล้วกัน!!! ”
พลอยขวัญบอกเสร็จก็ปาแหวนที่อยู่ในมือลงไปยังทะเลสาบทันที ใบหน้าเรียวหันมองตามแหวนที่ลอยล่วงลงสู่ผิวน้ำ
“ พลอย!! ทำไมเธอทำแบบนี้!!! ”
“ ฉันก็ทำเพราะความสะใจไง! ”
ร่างบางไม่สนใจอะไรกับสิ่งรอบด้านอีกต่อไปสองเท้ามุ่งวิ่งลงไปในทะเลสาบทันที
“ กันต์!!! ” พิมพรรณเรียกคล้ายตกใจที่เห็นหลานสาววิ่งลงไปในสายน้ำนิ่งสงบดำผุดดำว่ายเพื่อหาแหวนของตัวเองบริเวณที่ไม่ลึกและไม่ตื้นเท่าไหร่นัก
“ ยังไงก็หาไม่เจอหรอก!! ” พลอยขวัญตะโกนบอกหญิงสาวที่กำลังหาของรักของหวงอยู่ในน้ำ
“ เพี๊ยะ!!! ” “ เพี๊ยะ!!! ”
ในขณะนั้นเองหัวไหล่ของพลอยขวัญก็ถูกดึงให้ร่างหันเผชิญหน้ากับใครบางคนก่อนที่แรงโมโหจะฟาดลงไปกระทบบนใบหน้าทั้งหน้ามือและหลังมือตามมาจนร่างเซกระเด็นล้มกองไปกับพื้น
“ เพาภิรมย์! ” เสียงพลอยขวัญเอ่ยเรียกบางเบาถึงผู้หญิงที่ยืนสูงเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเพราะกำลังเสียหน้า
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
“ กันต์ว่าจะให้คนงานตัดหญ้าแห้งๆริมฝั่งพวกนี้ให้หมด จะได้ดูสะอาดตามากขึ้น ” ใบหน้าเรียวหันพูดกับพิมพรรณน้าสาว
“ อืม..ก็ดีนะจะได้ดูไม่น่ากลัวด้วย ” พิมพรรณกล่าวตอบพร้อมกับหันมองไปรอบๆ
“ ถ้าตัดหญ้าพวกนี้ออกไป ก็คงสว่างมากขึ้น จะได้ดูไม่เหมือนเดินอยู่ในบ้านผีสิง ” สองน้าหลานหัวเราะพูดคุยปรึกษากันอย่างสนุกสนาน
“ แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควรนะ เพราะหญ้าพวกนี้หนาใช่เล่น ” พิมพรรณกล่าว
“ เออ! แล้วนี่คุณเพาของกันต์จะตามมาที่นี่มั้ย ”
“ มาค่ะ เห็นบอกว่าถ้าคุยกับคุณแม่เสร็จเมื่อไหร่ แล้วจะรีบตามมา ” กันต์ยิ้มบอก
“ งั้นเดี๋ยวเราเดินเล่นแถวๆนี้ก็แล้วกันเนอะ วังเวงดีนะ ว่าแมะ ” น้าสาวพูดปนหัวเราะพร้อมกับมองไปรอบๆแถมท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเสียจริง
“ ลองเรียกเข้าพบส่วนตัวแบบนี้นะ สงสัยโดนเรียกตักเตือน ฮิฮิ ”
พิมพรรณทำท่ากระซิบกระซาบ กันต์จึงอมยิ้มตามพลางนึกคิดถึงเพาภิรมย์แล้วมือเรียวจึงกอบกุมยกขึ้นมองชมแหวนวงจองตัวที่ยังคงอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายไม่เคยถอดให้ห่างตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ ว้าวๆ มีแอบดูแหวนด้วย แค่นี้ก็คิดถึงกันแล้วเหรอจ๊ะ ” เสียงพิมพรรณเอ่ยแซวเล่นพร้อมกับปรี่เข้ามาหา
“ ก็แค่ดูเฉยๆเองค่ะ ว่ามีคราบอะไรสกปรกหรือป่าวจะได้ทำความสะอาด ” กันต์ยิ้มตอบแก้ตัวไป
“ แหมๆ ดูอย่างนั้นจะไปมองเห็นทุกซอกทุกมุมได้ยังไงล่ะจ๊ะ ถอดออกมาดูดีๆซิ ไม่เป็นไรหรอก ”
พิมพรรณยิ้มบอกกันต์จึงถอดแหวนออกพลิกดูไปมาสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่ขณะนั้นเองแหวนที่ถืออยู่ในมือนั้นก็ถูกดึงไปทันทีด้วยฝีมือของคนที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่
“ พลอยขวัญ!!! ” พิมพรรณเอ่ยเรียกเสียงดังเมื่อเห็นการกระทำเช่นนั้นโดยมีลางสังหรณ์ว่าคงจะไม่ประสงค์ดีเป็นแน่ กันต์เองก็ตกใจไม่น้อยยังคงมองแหวนที่อยู่ในมือของอีกคนไม่คาดสายตา
“ ประคบประหงมเหลือเกินนะ กับอีแค่แหวนเพชรเม็ดโต ” พลอยขวัญยิ้มบอกแววตาริษยา
" ฉันว่าเธอไม่ควรจะถือวิสาสะหยิบของ ของคนอื่นไปง่ายๆแบบนี้นะ! " พิมพรรณบอกน้ำเสียงไม่พอใจ
" คนอื่นที่ไหน...คนกันเองทั้งนั้น " พลอยขวัญยิ้มอย่างอารมณ์ดี สายตาจับจ้องร่างบางที่ยืนมองเธอเรียบนิ่ง
" ว่าไงจ๊ะที่รัก คิดถึงพี่พลอยบ้างหรือป่าวคะ " ร่างเพรียวส่งสายตากรุ้มกริ่มพร้อมกับพูดออกมาเบาๆ พิมพรรณเบ้ปากอย่างหมันไส้ในวาจา
" ขอแหวนคืนให้กันต์ด้วยค่ะ " ริมฝีปากบางบอกอย่างใจเย็น
" ถ้าพี่ไม่ให้ล่ะ "
" นิ! พลอย ฉันว่าเธออย่ายืดเยื้อเลยนะ คืนแหวนให้กันต์ไปซะ " พิมพรรณช่วยย้ำบอกอีกแรง
" ถ้าอยากได้..ก็เข้ามาเอาซิคะ " ใบหน้าหวานอมยิ้มเริ่มสนุกสนานในสายตาของตัวเอง
ทางด้านเพาภิรมย์ที่พึ่งจอดรถและกำลังมุ่งหน้าเดินผ่านทุ่งหญ้าแห้งแล้งที่สูงเลยหัวจึงมาเห็นพลอยขวัญเข้าพอดี
" พลอยขวัญ...มาสร้างเรื่องอะไรอีกเนี่ย " เพาภิรมย์พูดกับตัวเองเบาๆและยืนแอบดูสถานการณ์อย่างสนใจ
" พี่พลอยต้องการอะไรคะ " กันต์ถามออกไปเรียบๆ
“ ถามแบบนี้ แสดงว่าถ้าพี่ต้องการอะไร กันต์ก็จะให้หมดใช่หรือป่าวคะ ”
“ เพ้อเจ้อ! อะไรของเธอห่ะพลอยขวัญ ” พิมพรรณเอ่ยต่อว่านิดหน่อย
“ ส่งแหวนของกันต์คืนมา ” ร่างบางเอ่ยบอกอีกครั้ง
“ อยากได้เหลือเกินนะ ”
“ ไหนลองบอกรักพี่พลอยให้ชื่นใจหน่อยซิคะ ” พลอยขวัญยิ้มบอกอย่างมีหวัง
“ หืม..ขอมากไปแล้วมั้ง ” พิมพรรณเบ้ปากใส่
เพาภิรมย์ได้ยินเช่นนั้นจึงเริ่มไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงพฤติกรรมของพลอยขวัญที่ไม่ยอมหยุดกิริยาแบบนี้เสียที
“ กันต์มีสติพอที่จะไม่เที่ยวมาบอกรักใครพร่ำเพื่อ ” ริมฝีปากบางเอ่ยบอกเรียบๆ พลอยขวัญเริ่มมีอารมณ์โกรธเมื่อคำพูดของอีกคนนั้นกำลังหมายถึงเธอ
“ คืนแหวนมาให้กันต์ ”
“ หวงนักเหรอ... ”
พลอยขวัญกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะทิ้งแหวนที่อยู่ในมือลงสู่พื้นพร้อมกับยกขาขึ้นเล็กน้อยหมายจะเหยียบแหวนเพชรวงนั้นให้จมดิน
“ หยุด!!! ”
กันต์เปล่งเสียงคล้ายออกคำสั่งดังลั่นจนพลอยขวัญต้องหยุดการกระทำลงทันที ร่างบางรีบปรี่เข้าไปเพื่อที่จะหยิบแหวนของตัวเอง แต่พลอยขวัญรีบคว้าสองมือคู่นั้นไว้ กันต์สะบัดออกด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงร่างเพรียวจึงหยิบแหวนวงเดิมขึ้นมาเป็นประกันไว้อีกครั้ง
“ ฉันใจเย็นกับคุณมามากพอแล้วนะ! ” กันต์เริ่มต่อว่าเพราะหมดความอดทนเต็มที
“ เมื่อไหร่คุณจะเลิกยุ่งกับชีวิตฉันซะที!! ”
“ เมื่อไหร่คุณจะออกไปจากชีวิตของฉัน!! ”
พลอยขวัญนิ่งเหมือนโลกหยุดหมุนความรู้สึกของเธอในตอนนี้กำลังเคว้งคว้างอย่างไรบอกไม่ถูก พิมพรรณเริ่มเป็นห่วงสถานการณ์กลัวว่าหลานสาวของเธอจะปลดปล่อยด้านมืดออกมาเสียก่อนถึงเวลานั้น พลอยขวัญคงจะไม่ต่างอะไรกับเมธาวีเป็นแน่ ถัดไปในแถบทุ่งหญ้ารกหนาสายตาคู่หนึ่งที่กำลังยืนดูอยู่ไม่ไกลนักนั้นกับรู้สึกเศร้าและเสียใจเมื่อได้รับรู้ถึงความอึดอัดของคนรักที่ต้องเก็บไว้มันมากมายเหลือเกินอีกทั้งความเห็นแก่ตัวและความเจ้าอารมณ์ของเธอที่ผ่านมา...กันต์จะต้องทนเป็นทุกข์มากขนาดไหน...
" คุณจะวุ่นวายอะไรกับฉันนักหนา! "
" หยุดทำแบบนี้ซะทีเถอะ! ถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันสนใจคุณ "
" ฉันไม่มีวันรักคุณ ต่อให้ฉันเจอคุณให้เร็วกว่านี้ ฉันก็มั่นใจว่าฉันไม่มีทางรักคนอย่างคุณ!! "
" อย่าเรียกร้องอะไรจากฉัน อย่าโหยหาในสิ่งที่ฉันไม่มีให้! "
พลอยขวัญถึงกับน้ำตาคลอทั้งเสียใจทั้งโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
“ รักเค้ามากเลยเหรอ.. ” น้ำเสียงสั่นเครือถามขึ้น
“ ใช่ ” กันต์ตอบกลับทันควัน
“ ไอ้แหวนวงนี้มันคงจะสำคัญมากเลยซินะ อยากได้คืนนักใช่แมะ! ”
“ ถ้าอยากได้ ก็ไปงมหาเอาเองก็แล้วกัน!!! ”
พลอยขวัญบอกเสร็จก็ปาแหวนที่อยู่ในมือลงไปยังทะเลสาบทันที ใบหน้าเรียวหันมองตามแหวนที่ลอยล่วงลงสู่ผิวน้ำ
“ พลอย!! ทำไมเธอทำแบบนี้!!! ”
“ ฉันก็ทำเพราะความสะใจไง! ”
ร่างบางไม่สนใจอะไรกับสิ่งรอบด้านอีกต่อไปสองเท้ามุ่งวิ่งลงไปในทะเลสาบทันที
“ กันต์!!! ” พิมพรรณเรียกคล้ายตกใจที่เห็นหลานสาววิ่งลงไปในสายน้ำนิ่งสงบดำผุดดำว่ายเพื่อหาแหวนของตัวเองบริเวณที่ไม่ลึกและไม่ตื้นเท่าไหร่นัก
“ ยังไงก็หาไม่เจอหรอก!! ” พลอยขวัญตะโกนบอกหญิงสาวที่กำลังหาของรักของหวงอยู่ในน้ำ
“ เพี๊ยะ!!! ” “ เพี๊ยะ!!! ”
ในขณะนั้นเองหัวไหล่ของพลอยขวัญก็ถูกดึงให้ร่างหันเผชิญหน้ากับใครบางคนก่อนที่แรงโมโหจะฟาดลงไปกระทบบนใบหน้าทั้งหน้ามือและหลังมือตามมาจนร่างเซกระเด็นล้มกองไปกับพื้น
“ เพาภิรมย์! ” เสียงพลอยขวัญเอ่ยเรียกบางเบาถึงผู้หญิงที่ยืนสูงเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเพราะกำลังเสียหน้า
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ