เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเวลาล่วงเลยไปจนท้องฟ้าเริ่มมืดลง กันต์และเพาภิรมย์ยังไม่ได้พุดคุยกันอีกเลย จนกระทั่งกันต์ได้กลับเข้ามาที่ห้องทำงานอีกครั้งทิ้งร่างที่แสนจะเมื่อยล้าลงกับเก้าอี้ตัวเดิมของโต๊ะทำงาน เมื่อนึกถึงเพาภิรมย์แล้วก็รู้สึกน้อยใจนักที่พูดจาราวกับเธอเป็นคนอื่น แถมท่าทางยังส่อแววมีพิรุธอีกต่างหากสมองจึงคิดไปต่างๆนาๆถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ
“ ขอโทษนะ ” เสียงเพาภิรมย์ดังขึ้นใบหน้าเรียวหันมองแปลกใจอีกครั้งทำไมชอบเข้ามาเงียบๆ ร่างบางหันเก้าอี้ไปอีกทาง เพาภิรมย์เดินมาหาข้างหน้าย่อตัวคุกเข่าลงและเอื้อมมือเข้าไปกอดเอวบางไว้ เงยหน้าขึ้นมองสาวน้อยที่หันหน้าหนีไปทางอื่น
“ กันต์....” เสียงออดอ้อนของเพาภิรมย์ทำให้กันต์ใจเต้นแรงมากขึ้นพยายามควบคุมสติของตัวเองให้มากที่สุดไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้น
“ เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ” ร่างสูงซุกใบหน้ากับหน้าท้องแบนราบบอกอย่างรู้สึกผิด
“ กันต์ ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ ”
“ อย่าเงียบซิ ” เพาภิรมย์พูดไม่หยุดทำเสียงออดอ้อนไม่เลิก ร่างบางดันตัวเองเพื่อที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่อีกคนกับจับกดให้นั่งลงเช่นเดิมและฉกจูบริมฝีปากบางทันที
“ อื้อ....” กันต์ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่บนเก้าอี้สองมือถูกเพาภิรมย์กดเอาไว้แน่น ริมฝีปากสวยจูบกลีบปากบางอย่างยั่วยวนไม่รีบร้อนลิ้นร้ายบดเบียดจนแทรกแซงเข้าโพรงปากได้สำเร็จกอดเกี่ยวโรมรัดลิ้นด้านในที่ดิ้นหนีไปมาเรียวลิ้นร้อนสำรวจไปทั่วโพรงปากหอมจูบอันแสนจะยั่วยวนเริ่มทำให้กันต์สั่นคอนไปทั่วร่างหลับตาพริ้มรับรอยจูบที่ชวนเคลิบเคลิ้ม
เพาภิรมย์ปล่อยมือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นไปประคองใบหน้าเรียวไว้ลูบไล้ข้างแก้มเบาๆ
“ อืม... ” กลีบปากบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระและจูบเม้มไปตามข้างแก้มอย่างเชื่องช้าเลยไปยังใบหูขาวใช้ลิ้นวนเวียนทักทายไปมาขบกัดเล่นเบาๆสร้างความสยิวไปทั่วกายให้กับเจ้าของร่าง
“ ปล่อย...” ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นเบาๆแทบจะไม่ได้ยินเสียงยกมือดันร่างเพาภิรมย์อีกครั้ง ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมองสาวน้อยของเธอสองมือประคองใบหน้าเรียวให้สบตาเธอแต่โดยดี
“ หายโกรธนะคะ ” ริมฝีปากสวยพูดบางเบาๆพร้อมกับยิ้มหวานให้
“ ไม่....” กันต์ตอบสั้นๆและเบนหน้าไปทางอื่น
เพาภิรมย์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆอีกครั้ง ดวงตาคู่เสน่ห์แอบเห็นว่าอีกคนกำลังจะทำอะไรรีบหันหน้าหลบหลีกยกมือขึ้นผลักดันร่างสูงแต่กลับถูกจับไว้ทั้งสองข้าง ริมฝีปากสวยไล่ต้อนใบหน้าเรียวที่หันหลบไปมา
“ คุณเพา หยุดนะ พอได้แล้ว ” กันต์ร้องบอกยังคงหันหลบหนีใบหน้าสวยที่กำลังรังแกเธอไม่หยุดหย่อน เพาภิรมย์กดจมูกโด่งลงยังซอกคอหอมกรุ่นซุกไซร้สลับสองข้างอย่างโหยหา
“ ฮื่อ....ปล่อย ” แรงอันน้อยนิดดีดดิ้นไม่เลิกแม้จะเริ่มอ่อนระทวยเต็มที
“ อืม...กันต์ ต้องทำยังไง ถึงจะหายโกรธฮึ...คนดี ” เสียงบางเบาบอกชิดลำคอขาวลมหายใจกระทบเนื้อนวลจนทำให้หัวใจของกันต์เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เรียวปากร้อนดูดเม้มฝังรอยแดงไว้ด้วยความหมันเขี้ยววกกลับไปประกบริมฝีปากบางอีกครั้งกดจูบนุ่มนวลเรียกร้องให้อีกคนตอบสนองเธอ
กันต์เผลอรับจูบที่แสนจะอ่อนหวานจากเพาภิรมย์ทั้งสองแลกจูบกันไปมาแสนเนิ่นนานมือข้างหนึ่งของเพาภิรมย์เริ่มลูบไล้บริเวณอกอิ่มผ่านเสื้อสูทตัวสวยค่อยๆปลดกระดุมที่ถูกติดเพียงหนึ่งเม็ดออกช้าๆปากร้อนยังคงทำหน้าที่สร้างความเพลิดเพลินไปเรื่อยๆเรียวลิ้นตวัดเร้าโรมควานหาความหอมหวานด้านในแสนซุกซนมือเรียวของเพาภิรมย์สอดลึกเข้าไปยังเสื้อกล้ามตัวจิ๋วเมื่อความร้อนของฝ่ามือแตะลงยังหน้าท้องแบนราบ กันต์สะดุ้งขึ้นรีบคว้ามือของเพาภิรมย์ไว้และหันหลบใบหน้าสวยทันที
“ ทำไมอ่ะ ” เสียงอ้อนถามเบาๆ
“ กันต์ง่วงแล้ว กลับห้องก่อนนะคะ ” ริมฝีปากบางเงียบสักพักก่อนที่จะพูดออกมาพร้อมกับรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไป
“ เดี๋ยว.....” เพาภิรมย์จับร่างบางให้หันมาเผชิญหน้าอีกครั้งมองใบหน้าเรียวที่ตอนนี้ซีดเซียวราวกับกลัวอะไร
กันต์กำลังใจเต้นตูมตามจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพาภิรมย์เคยทำกับเธอในตอนนั้นมันช่างวาบหวิวสยิวกายและก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน จนตอนนี้ตัวเนื้อเริ่มสั่นไปหมดไม่รู้ว่ากลัวหรือตื่นเต้นกันแน่ เพาภิรมย์มองเรียวหน้าสาวน้อยที่คอยหลบสายตาเป็นระยะๆแถมเนื้อตัวก็สั่นเทาไปหมดยามที่เธอจับต้องกาย ก็เริ่มดูออกว่ากันต์กำลังกลัวเธอ ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มนิดๆแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแอบชอบใจเพราะช่างน่าหมันเขี้ยวเสียจริง
“ อยู่ดีๆก็จะหนีไปนอน แล้วทิ้งให้พี่ทรมารอยู่แบบนี้อ่ะเหรอ ”
“ พี่รักกันต์นะคะ พี่คิดถึงกันต์มากด้วย กันต์ไม่สงสารพี่บ้างเหรอ ไม่คิดถึงพี่บ้างเลยหรือไง พี่โดนทำโทษตั้งหนึ่งอาทิตย์ ใจจะขาดอยู่แล้วนะ ” เสียงออดอ้อนพร่ำบอกพร้อมกับใบหน้าที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆร่างบางเริ่มคล้อยไปกับเสน่หาและแววตาที่ถูกสะกดใบหน้าสวยโน้มเข้ามาหมายจะจุมพิตริมฝีปากบาง
แต่ระหว่างนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเพาภิรมย์ก็ดังขึ้น ร่างสูงหยุดการกระทำ ใบหน้าเรียวหันมองโทรศัพท์ที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะทำงานเห็นเป็นเบอร์ที่ไม่ได้ถูกบันทึกชื่อ เพาภิรมย์รีบหยิบโทรศัพท์มา กันต์มองหน้าคนรักนิ่งถึงแม้จะมีคำถามมากมายอยู่ในหัวแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรทั้งสิ้น มองเข้าไปยังดวงตาของเพาภิรมย์ที่เริ่มมีพิรุธก่อนจะตัดสินใจเดินเลี่ยงออกไปเปิดประตูที่ทะลุเข้าสู่ห้องนอนของเธอได้และปิดลงเงียบๆ
เพาภิรมย์เสียอารมณ์เป็นอย่างมากเพราะเธอกำลังอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มแมวเหมียวกำลังจะติดกับเธออยู่แล้วเชียวก้มมองโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองก็ยิ่งรำคาญใจเมื่อคนที่โทรเข้ามาคือ เมธาวีนั่นเองเพาภิรมย์กดรับสายอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ เพาคะ วันนี้เมย์โทรไปตั้งหลายครั้งทำไมเพาไม่รับสาย ”
เพาภิรมย์รู้สึกหมันไส้รำคาญใจนักเรื่องอะไรเธอจะต้องรับสายในเมื่อเธอบอกไปแล้วว่าไม่อยากคุยกับเมธาวีอีก
“ ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่อยากคุยกับเธออีก อย่ามายุ่งกับฉัน!! ”
“ แต่เมย์คิดว่า เพาควรจะตามใจเมย์หน่อยนะ ถ้าเมย์อยากคุยกับเพา เพาก็ต้องคุยกับเมย์...รู้มั้ยจ๊ะ ”
ปลายสายตอบกลับทำเอาเพาภิรมย์อยากจะฉีกปากของเมธาวีเป็นชิ้นๆเรื่องอะไรเธอต้องทำตามความต้องการเมธาวีด้วย
“ ไม่! เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน ”
“ ถ้าเพาไม่คุยกับเมย์ เมย์ก็คงจะต้องโทรไปแนะนำตัวกับ....เจ้ากันต์ฎรัศมิ์ ว่าเมย์เป็นอะไรกับเพา และเรารักกันมากแค่ไหน ดีมั้ย ” เมษาบอกเรียบๆ เพาภิรมย์เบิกตาโตตกใจว่าเมธาวีรู้จักกันต์ได้อย่างไร
“ เธอรู้จักกันต์ได้ยังไง ” เพาภิรมย์ถามร้อนรน
“ เอาเป็นว่า เมย์สามารถติดต่อเค้าได้ก็แล้วกัน เพายังไม่ต้องรู้หรอกว่าเมย์รู้จักเค้าได้ยังไง ต่อไปนี้ถ้าเมย์โทรไป เพาต้องรับสาย ไม่อย่างนั้น เมย์จะโทรหาสาวน้อยของเพาแทน... ” พูดเสร็จเมธาวีก็วางสายทันทีทิ้งให้เพาภิรมย์กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก เมธาวีรู้จักกันต์ได้อย่างไรถ้าโทรมาเกาะแกะเธอกันต์ต้องสงสัยแน่ๆเพาภิรมย์ได้แต่ถอนหายใจเดินกระสับกระส่ายคิ้วขมวดอยู่อย่างนั้น
วันใหม่....
“ เชอะ! น่าไม่อาย ทำมาบอกรักอย่างนั้นรักอย่างนี้ ทุเรศที่สุด ” เสียงพิมพรรณกล่าวถึงเมธาวีซึ่งเธอรู้จักเป็นอย่างดี เพาภิรมย์จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาพิมพรรณเพื่อหาทางแก้ไข
“ ฉันจะทำยังไงดี ช่วยคิดหน่อยซิ ” เพาภิรมย์รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ
“ ฉันว่าน่าจะบอกกันต์ไปเลยนะ ว่ายัยนี่มาเกาะแกะเธอ กันต์เป็นคนมีเหตุผลอาจจะไม่ว่าอะไรก็ได้ บอกก่อนดีกว่ามารู้เองทีหลังและเรื่องจะยาวนะ ”
“ ถ้าอย่างนั้นเค้าก็รู้น่ะซิ ว่าฉันแอบคุยกับเมย์ เมื่อวานฉันยิ่งมีพิรุธอยู่ จนตอนนี้งอนยังไม่หายเลย ” เพาภิรมย์บอกอย่างกลุ้มใจ
“ งั้นก็ง้อก่อน แล้วค่อยบอกทีหลัง ” พิมพรรณแนะแนวทาง เพื่อนสาวหันมองพิมพรรณและเริ่มคิดตาม
“ จะทำยังไงอ่ะ ห้องเค้าก็ไม่ให้เข้า ตัวก็ไม่เจอ โทรไปก็ไม่รับ ไม่รู้ไปหลบอยู่ที่ไหน ” เพาภิรมย์ยกมือยกไม้อธิบายอย่างเซ็งๆ
“ เดี๋ยวนะ ตอนนี้ บ่ายสองโมงครึ่ง ” พิมพรรณยกข้อมือเพื่อดูนาฬิกาและนิ่วหน้าคิด
“ เพาภิรมย์!!! ”
“ อะไร เสียงดังทำไมเนี่ย ”
“ เธอต้องไปที่เหมือง เพราะกันต์อยู่ที่นั่น กันต์ไม่ได้เอารถไป นพเป็นคนไปส่งและจะเลยไปส่งเจ้าหลวงที่บริษัทต่อ ไปฉุดตัวกันต์แล้วพาขึ้นรถเพื่อจะได้อยู่กันสองคนและปรับความเข้าใจกันให้ได้ โอเค๊! ” พิมพรรณชี้นิ้วบอกรายละเอียดแผนการของเธอจนเพาภิรมย์นั่งลุ้นระทึกอย่างกับนั่งดูหนังลักพาตัว
“ โอเคเลย ” เพาภิรมย์พยักหน้าและยิ้มเมื่อนึกถึงแผนการของพิมพรรณ
ท้องฟ้าเริ่มครึ้มเมฆหนาปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า เพาภิรมย์ขับรถเข้ามาจอดยังเหมืองเพชร ร่างสูงก้าวลงจากรถหันมองไปรอบๆเพื่อหาสาวน้อยของเธอ และเดินสอดส่องไปทั่วจนพบร่างบางที่กำลังยืนคุยงานอยู่กับคนงานคนหนึ่ง
กันต์สั่งงานต่อหัวหน้าควบคุมงานเสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมาใกล้ๆบริเวณทางออก เพภิรมย์รีบหาที่หลบเพื่อไม่ให้กันต์เห็นในตอนนี้ ร่างบางเดินมองงานรอบๆมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้ารถเบนซ์คุ้นตาที่จอดอยู่ สายตาเพ่งมองสักครู่
“ รถคันนี้....” กันต์พึมพำกับตัวเองเบาๆ ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นมองรอบกายเพื่อหาเพาภิรมย์ ก้มมองนาฬิกาเลยเวลาที่นพจะมารับแต่ทำไมป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีก
“ รอคุณเพาอยู่หรือป่าวจ๊ะ ” เพาภิรมย์เดินเข้ามาใกล้ๆด้วยกลัวว่าตัวเล็กของเธอจะหนีไปเสียก่อน ใบหน้าเรียวหันมองตกใจนิดหน่อย ไม่รอช้ารีบก้าวขาเร็วๆเพื่อเดินหนีทันที
“ เดี๋ยวกันต์ ขึ้นรถซิคะ พี่มารับแล้วไง ” ร่างสูงวิ่งเข้าไปคว้าแขนไว้
“ ไม่ขึ้น ไม่ไป ” กันต์บอกเสร็จรีบแกะมือของเพาภิรมย์ออกและเดินไปทันที
“ ดื้อนักนะ....เดี๋ยวเถอะ ” ริมฝีปากสวยพูดอย่างหมันเขี้ยว เพาภิรมย์หันซ้ายหันขวาก่อนจะตัดสินใจรีบกลับไปที่รถและขับตามสาวน้อยที่เดินหนี
“ กันต์ ขึ้นรถเถอะ ” เพาภิรมย์ขับรถประกบข้างๆและเปิดกระจกลงพร้อมกับพูดออกไป
“ ไม่ขึ้น ”
“ อีกไกลนะ กว่าจะถึง เดินไปเดี๋ยวก็ปวดขาหรอก ”
“ จะเดิน ” กันต์ตอบกลับไปพลางมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเสียงฟ้าร้องก็ยังดังเป็นระยะๆ
“ ฝนจะตกแล้วนะตัวเล็ก ขึ้นรถเถอะนะคะ ” เพาภิรมย์เกลี่ยกล่อมเต็มที่ ร่างบางยังคงเงียบและเดินต่อไป
“ ครื้น!!! ” เสียงฟ้าร้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“ กันต์ ฟ้าร้องแล้วนะ ไม่กลัวเหรอ ”
ร่างบางไม่ฟังเสียงรีบก้าวขาเดินต่อไปไม่หยุด เพาภิรมย์จึงจอดรถหยุดนิ่งนั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดี
“ ครื้น!!! ฮึ่ม!! ” สายฟ้าเริ่มแล่บแป๊บๆพร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง ร่างบางหยุดกึกเงยหน้ามองด้านบนที่เริ่มมีสายฝนโปรยปรายลงมา ดวงตากระพริบถี่ๆขาเรียวเริ่มก้าวถอยหลังและหันกลับวิ่งไปเปิดประตูรถและขึ้นไปนั่งทันที
เพาภิรมย์หันมองและยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่พิมพรรณเคยบอก ต้องขอบคุณสภาพอากาศในวันนี้ซินะ กันต์มองท้องฟ้าที่มีแสงแว๊บๆเป็นระยะสักครู่ก่อนที่จะหันไปหยิบของด้านหลัง เพาภิรมย์หันมองตามว่าสาวน้อยกำลังหาอะไร สายตาเหลือบมองแก้มนวลที่ยื่นเข้ามาท้าทายอย่างไม่รู้ตัว จมูกโด่งจึงก้มลงหอมเสียหนึ่งฟอด
“ ฮื่อ!! ” ใบหน้าเรียวหันมาดุใส่เบาๆเมื่อถูกฉวยโอกาส ก่อนที่จะหยิบสิ่งที่ค้นหาอยู่นาน นั่นก็คือ ผ้าหนาสีทึบผืนหนึ่ง กันต์ปรับเบาะให้เอนนอนและนำผ้าผืนนั้นมาคลุมหัวปิดบังหน้าตาไม่ให้แสงจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาได้แม้แต่น้อย
“ ออกรถซิคะ ” เพาภิรมย์ยิ้มนิดๆก่อนที่จะจับพวงมาลัยและขับรถออกไป
สายฝนเม็ดใหญ่โปรยปรายลงมาค่อนข้างแรงจึงทำให้การเดินทางลำบากพอสมควรเพราะมองไม่ค่อยเห็นทาง เพาภิรมย์ขับรถมาถึงปากทางเข้าถนนส่วนบุคคล ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไปทันที รถเบนซ์แล่นเข้ามาจอด ณ จุดหมายปลายทางตามความต้องการของเพาภิรมย์
“ ตัวเล็ก.....ถึงแล้ว ” ใบหน้าสวยก้มลงไปกระซิบคนที่ยังนอนคลุมโปงอยู่
“ ไม่เอา ยังไม่ลง รอฝนหายก่อนค่ะ คุณเพาลงไปก่อนเถอะ ” เสียงอู้อี้ตอบกลับมา เพาภิรมย์หัวเราะในลำคอนิดๆไม่คิดว่าอีกคนจะกลัวขนาดนี้ ร่างสูงก้าวขาลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูอีกด้านก่อนจะเอื้อมมือไปช้อนสาวน้อยให้ลุกขึ้นนั่ง
“ ฮื่อ...จะทำอะไร ”
“ พาเข้าบ้านไง ”
“ ไม่เอาไม่ไป ”
“ อยู่เฉยๆ ถ้าดื้อ เดี๋ยวจับปล้ำนะ ” ร่างบางที่ดิ้นหนีหยุดการกระทำทันที ใบหน้าสวยอมยิ้มเบาๆและอุ้มสาวน้อยของเธอออกจากรถและพาเข้ามาในบ้านโดยมีเสียงบ่นพึมพำออกมาเล็กๆจากคนที่ถูกอุ้ม เพาภิรมย์ค่อยๆวางร่างบางนั่งลงกับโซฟา
กันต์ดึงผ้าที่คลุมไว้อยู่นานออกจากศรีษะ ดวงตาคู่เสน่ห์เบิกโตมองไปยังพื้นที่รอบกาย
“ เวียงฎรัศมิ์! ” กันต์หันมองเพาภิรมย์ที่ยืนยิ้มอยู่ก็รู้ทันทีว่าน้าสาวตัวดีเป็นคนให้กุญแจบ้านมาแน่ๆคงจะวางแผนกันมาซินะ
“ อืม ก็ฝนตกหนัก ขับต่อไปจะอันตรายป่าวๆ ก็เลยเลี้ยวเข้ามา.......คืนนี้ นอนที่นี่นะ ” ใบหน้าสวยก้มลงมากระซิบเบาๆทำเอาร่างบางอ้าปากค้างทั้งกลัวที่นี่ทั้งกลัวคนที่อยู่ตรงหน้า
“ อ้า!! ไม่เอาอ่ะ ไม่อยู่นะ จะกลับอ่ะ จะกลับ ” กันต์ยืนขึ้นปรี่เข้าไปคว้าแขนเพาภิรมย์และเขย่าบอกเบาๆเหมือนกับเด็กที่กำลังงอแง
“ เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้ ว่าอยากกลับหรือป่าว ” ใบหน้าสวยหันมาพูดเบาๆส่งสายกรุ้มกริ่มมีเล่ศนัย กันต์เริ่มเขินค่อยๆปล่อยแขนที่จับไว้นั้นและเดินเลี่ยงออกไปทันที
ร่างบางเข้ามายังห้องนอนใบหน้าเรียวอมยิ้มเบาๆหันมองไปรอบๆห้องที่ยังเป็นระเบียบเรียบร้อยแม้ไม่ได้เข้ามาที่นี่บ่อยนักแต่ก็มีคนคอยมาทำความสะอาดให้อยู่ทุกอาทิตย์ กันต์เดินไปเปิดยังตู้เสื้อผ้าเผยให้เห็นเสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีกรมท่าทั้งสิ้น ริมฝีปากบางฉีกยิ้มออกมาอีกครั้งที่ทุกอย่างยังถูกจัดไว้เรียบร้อยเช่นกัน
สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่ยั้ง เพาภิรมย์เดินชมไปรอบๆของบ้านสีขาวล้วนแล้วเป็นสีขาวทั้งสิ้น จะมีเฟอร์นิเจอร์บางอย่างเท่านั้นที่จะแปลกสีแตกต่างกันไป สักครู่ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างบางที่อาบน้ำมาเรียบร้อยแล้ว เสื้อยืดสีขาวแขนยาวกับกางเกงขายาวสีกรมท่าถูกสวมใส่เสร็จศัพท์
กันต์เดินมาหาเพาภิรมย์สองมือยื่นผ้าที่ถูกพับไว้แล้วพร้อมกับชุดที่ต้องเปลี่ยน มือเรียวยื่นออกไปรับของพวกนั้นและดึงร่างบางเข้ามากอด
“ อาบให้หน่อยได้มั้ยอ่ะ ”
“ ไม่ค่ะ ปล่อยด้วย ” กันต์พยายามดึงแขนที่เกี่ยวพันรอบกายของเธอออก เพาภิรมย์ส่งยิ้มหวานๆให้แล้วก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากบางหนึ่งครั้งก่อนจะยอมปล่อยและเดินไปอย่างอารมณ์ดี
กันต์หันมองตามทำหน้างอนๆที่โดนฉวยโอกาสอยู่เรื่อยแต่ก็ไม่เคยห้ามได้ พลางมองไปยังนอกบ้านที่ท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติคงจะเป็นเพราะใกล้ค่ำอีกทั้งผสมกับสภาพอากาศของวันนี้ยิ่งทำให้ที่นี่ดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้นในสายตาของเธอ
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ท้องฟ้าในตอนนี้มืดสนิทยังคงโปรยเม็ดฝนลงมาหนักอยู่เช่นเคย กันต์นั่งกอดหมอนอิงอยู่ที่โซฟาตัวเดิมมองไปข้างนอกที่เริ่มมีแสงว๊อบแว๊บเข้าตาทำให้เธอไม่ชอบเป็นที่สุด
“ ตัวเล็ก.... ” เพาภิรมย์โผล่หน้าออกมาจากประตู ใบหน้าเรียวหันมองรอฟังคำถาม
“ มานี่มา นั่งอยู่ตรงนั้นไม่กลัวเหรอ ”
กันต์ไม่ตอบอะไรและยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพาภิรมย์ยิ้มนิดๆก่อนที่จะเดินออกไปหา มือเรียวเอื้อมไปดึงสาวน้อยให้ลุกขึ้นจากโซฟา ร่างบางอีดออดไม่อยากเข้าไปในห้อง
“ ถ้ายังดื้อไม่เลิกเนี่ย คืนนี้พี่ไม่ให้นอนนะ ” เพาภิรมย์เอ่ยบอกอย่างยิ้มๆ กันต์ส่งเสียงฮึดฮัดนิดหน่อยแต่ก็ยอมปล่อยให้เพาภิรมย์เดินจูงมือพาเข้าไปในห้อง ใบหน้าเรียวแอบมองเรือนร่างของคนข้างหน้าที่แต่งตัวเหมือนเธอ เพียงแต่เสื้อเป็นแขนสั้นก็เท่านั้น ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มดูอ่อนวัยอย่างกับรุ่นราวคราวเดียวกัน
ร่างบางนั่งลงกับที่นอนเบาๆ เพาภิรมย์เดินดูนั่นดูนี่เรื่อยเปื่อยหันมาอีกทีริมฝีปากสวยก็อมยิ้มออกมา เมื่อเห็นสาวน้อยของเธอนำผ้าห่มมาห่อกายไว้
“ ห่อซะกลมเชียวนะ หนาวหรือไง ” เพาภิรมย์เดินเข้ามาใกล้และก้มถามเบาๆ กันต์อ้ำอึ้งไม่ตอบอะไรเพราะเหมือนอีกคนดูจะรู้ทันถึงเหตุผลบางอย่างของการห่อหุ้มกาย
“ เปรี้ยง!!! พรึ่บ! ”
“ อ้าาา!! ” เสียงฟ้าร้องดังลั่นพร้อมกับไฟดับลง ร่างบางสะบัดผ้าห่มออกและกระโดดเข้าหาเพาภิรมย์ทันที
“ ไฟดับ....ฮือ..อยากกลับบ้านแล้วอ่ะ ” เพาภิรมย์ที่ยืนอยู่ข้างๆโอบกอดสาวน้อยของเธอที่ยืนอยู่บนเตียง ริมฝีปากสวยอมยิ้มพร้อมกับหัวเราะหน่อยๆที่ตัวเล็กของเธอร้องจะกลับบ้านเสียให้ได้
“ ไม่ต้องกลัวนะคะ แค่ไฟดับเอง ” เพาภิรมย์เงยหน้าขึ้นพูดกับร่างเล็กที่กอดเธอแน่น
“ คุณเพาจะไปไหน!! ” กันต์กระโดดลงจากเตียงและวิ่งไปเกาะเอวเพาภิรมย์ไว้
“ ไปหยิบเทียนมาจุดไง จะได้มีแสงสว่าง ” ริมฝีปากสวยเอ่ยบอกเบาๆ กันต์พยักหน้ารับงกๆแต่ก็ยังคงเกาะเอวเดินตามไปทุกที่
แสงเทียนสาดส่องสลัวๆ เพาภิรมย์จุดเทียนไว้จนหมดเท่าที่มีตามความต้องการของกันต์
“ กันต์ขอถือไว้อันนึงนะ ” ร่างบางหยิบเทียนมาถือไว้สองมือ
“ ถือไว้ทำไม มันร้อนนะ เอาวางไว้เถอะ ” เพาภิรมย์แย่งเทียนกลับไปจนตัวเล็กของเธอยืนหน้าบูดทันที
“ กันต์จะถือ กันต์อยากสว่างเยอะๆ ”
“ ไม่ให้ถือ มันร้อน เดี๋ยวน้ำตาเทียนก็หยดโดนมือหรอก ”
“ จะถืออ่ะ ”
“ ไม่ให้ถือ ”
“ จะถือ!!/อูยย!! ” สองคนแย่งกันไปแย่งกันมาจนกันต์เผลอทำเทียนหล่นใส่เท้าของเพาภิรมย์
“ คุณเพา!!! กันต์ขอโทษ เป็นอะไรหรือป่าวคะ เจ็ยมั้ย ” ร่างบางย่อตัวคุกเข่าลงสองมือลูบไปที่เท้าขาวๆของเพาภิรมย์อย่างเป็นห่วง เพาภิรมย์ก้มมองริมฝีปากสวยจึงยิ้มออกมาเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากเพราะแค่เฉี่ยวๆไปเท่านั้น แต่เมื่อเห็นกันต์เป็นห่วงจึงแกล้งสำออยเสียหน่อย
“ โอ๊ยๆ เจ็บ พาไปนั่งที่เตียงหน่อยซิคะ ” ร่างบางรีบยืนขึ้นประคองเพาภิรมย์ไปนั่งลงกับเตียงและคุกเข่าก้มลงดูรอยแดงบางๆนั่น
“ กันต์ขอโทษนะคะ กันต์ไม่ได้ตั้งใจ คุณเพาเจ็บมากหรือป่าวคะ ” กันต์ถามอย่างเป็นห่วง
“ อืม...เจ็บ ” เพาภิรมย์แกล้งตีหน้าสำออยทันที
“ ที่นี่ไม่มียาด้วย ” ใบหน้าเรียวหันมองรอบๆ
“ แต่กันต์ มียา ” เพาภิรมย์พูดออกมาเบาๆ ร่างบางทำหน้าสงสัย
“ ขอจูบหน่อย แค่นี้ก็หายแล้ว ” ใบหน้าสวยก้มลงมาใกล้ๆและพูดเบาๆ
“ ไม่ได้ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย ” กันต์ถอยห่างเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยเสียแล้วมั้ง
“ อือ ไม่เป็นไรหรอก แค่แสบๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก ” เพาภิรมย์ชักเท้าออกจากมือนุ่มนิ่มที่วางไว้อยู่นั้นพร้อมกับพูดเหมือนงอนๆ ใบหน้าเรียวมองสองจิตสองใจเมื่อเห็นอีกคนโกรธ
“ อ่ะ ก็ได้ๆ จูบอย่างเดียวนะ ”
ใบหน้าสวยหันมายิ้มดวงตาแวววาวทันที จนกันต์เริ่มไม่ใจเสียแล้วคิดถูกหรือป่าวเนี่ย เพาภิรมย์ค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปากบางอย่างนุ่มนวล จูบดูดเม้มไปมาและลืมตามองสาวน้อยที่หลับตาพริ้มจึงได้โอกาสดึงตัวเข้ามากอดเบาๆ
“ อื้อๆ ” เสียงเล็กร้องประท้วงเมื่อโดนคุกคามด้วยเรียวลิ้นซุกซนที่หาทางบุกเข้าโพลงปากนุ่มได้สำเร็จ ร่างบางถูกจับมานั่งไว้บนตัก ก่อนที่เพาภิรมย์จะพลิกตัวให้ลงนอนอยู่ใต้ร่างแต่โดยดี
“ คุณเพา!! ไหนบอกว่าจูบอย่างเดียวไง ” ใบหน้าสวยถูกดันออกห่างก่อนจะพูดทักท้วง
“ พี่ไม่ได้บอกซักคำ ว่าจะจูบอย่างเดียว ”
“ คนฉวยโอกาส ” มือเรียวเอื้อมตีแขนของเพาภิรมย์
“ หึ หึ หนึ่งอาทิตย์ใช่มั้ย ตัวเล็ก ไม่รอดแน่ ” เพาภิรมย์หัวเราะในลำคออมยิ้มกรุ้มกริ่ม จนร่างบางห่อตัวหันหน้าหนีเมื่อริมฝีปากสวยกำลังก้มลงมาใกล้มากขึ้นทุกที.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ