เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ

6.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.

  44 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) การกลับมาของอดีต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          1 อาทิตย์ผ่านพ้นไป เพาภิรมย์ดีใจเป็นที่สุดแต่แอบความรู้สึกนั้นไว้ไม่แสดงท่าทางอะไรมากกลัวว่าเป้าหมายที่เธออยากจะเข้าใกล้มากที่สุดจะตื่นตระหนกไปเสียก่อน

เวลา 7 โมงตรงเป็นเวลาอาหารเช้า พิมพรรณนั่งรออยู่ที่โต๊ะพร้อมกับอุปกรณ์การรับประทานต่างๆที่ถูกจัดเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพาภิรมย์สวมใส่กางเกง Disco Pant สีเปลือกมังคุดทับกับเสื้อสีดำแขนสั้นมากับรองเท้าส้นสูงดูดีมีสไตล์ปล่อยผมสยายเดินมาถึงโต๊ะอาหาร

“ แหมๆ สวยทุกวันเลยนะจ๊ะ แม่ดีไซเนอร์คนเก่ง ” พิมพรรณเอ่ยปากแซวที่การแต่งกายของเพาภิรมย์แต่ละครั้งช่างดูดีไม่ผิดเพี้ยนเพราะเธอเป็นนักธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นระดับต้นๆคนหนึ่ง

“ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ...เธอบอกว่าให้วันนี้ฉันแต่งตัวทะมัดทะแมง ฉันใส่กางเกงมาแล้ว จะให้ขึ้นเขาลงห้วยที่ไหน ฉันพร้อมจ้ะ ” จริตสาวมั่นเอ่ยบอกอย่างยิ้มแย้ม

“ ก็ไม่ได้พาไปขึ้นเขาที่ไหนหรอก อยู่แถวนี้แหละวันนี้ก็คงวุ่นๆทั้งวัน กันต์เองก็ด้วย ” พิมพรรณบอกอย่างเหนื่อยๆ

“ ถ้างั้นมีอะไรที่ฉันช่วยได้ บอกเลยนะ ฉันจะทำให้เต็มที่เลย ” เพาภิรมย์เบือนหน้านิ่งนิดหน่อยเมื่อพิมพรรณพูดถึงสาวน้อยของเธอที่ไม่ได้เจอหน้านักแต่ก็หันมายิ้มบอกอย่างเต็มใจ เพื่อนสาวเองก็รู้ดีว่าเพาภิรมย์ค่อนข้างหงุดหงิดที่ไม่ได้เจอกันต์ซะเท่าไหร่

“ ว่าแต่มีเรื่องอะไรเหรอ ฉันเห็นคนงานหลายคนงุ่นง่านอยู่หลังคุ้มเต็มไปหมด ”

“ อ๋อ ตรงสระบัวใกล้ๆเรือนเจ้าย่าน่ะ มีพื้นที่รกๆ กันต์เลยอยากให้ทำเป็นสวนดอกไม้สวยๆก็เรื่องนี้แหละที่ฉันจะให้เธอช่วย ” เพื่อนสาวอธิบาย เพาภิรมย์พยักหน้าเข้าใจแอบยิ้มเบาๆ
หญิงรับใช้นำข้าวต้มทรงเครื่องหน้าตาดีมาเสริฟให้พิมพรรณและเพาภิรมย์

“ โห!! ข้าวต้มน่าทานจัง ” ดวงตาคู่สวยแอบเหลือบมองว่าทำไมสาวน้อยของเธอยังไม่มาที่โต๊ะอาหารหันมาเจอข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้าก็หิวขึ้นมาทันทีไม่รอช้ารีบชิมข้าวต้มร้อนๆที่ส่งกลิ่นแตะจมูกอย่างไม่อาจปฏิเสธรสชาติความอร่อย

“ หืม..อร่อยมากอ่ะ ปกติฉันไม่ชอบกินข้าวต้มซักเท่าไหร่ ข้าวต้มที่นี่ทำฉันติดใจซะแล้วซิ ” เพาภิรมย์บอกถึงรสชาติพร้อมหัวเราะนิดๆอย่างประหลาดใจตัวเอง พิมพรรณยิ้มส่ายหัวหน่อยๆที่เพื่อนสาวเอ่ยชมข้าวต้มมื้อเช้าของวันนี้อย่างเลิศเลอซะเหลือเกิน

“ เชฟคนไหนทำเนี่ย ” ริมฝีปากสวยเอ่ยถามขณะที่ยังคงตักข้าวต้มเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“ อร่อยมากเลยเหรอ ” พิมพรรณหยุดการกินหันมาถามอย่างสงสัย

“ ก็ใช่น่ะสิ ฉันไม่เคยกินข้าวต้มที่ไหนอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยล่ะ ” ใบหน้าสวยพูดสีหน้าจริงจัง ระหว่างนั้นเองร่างบางที่อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อหลวมๆไหล่ตกเกล้าผมมัดจุกยุ่งๆเดินออกมาจากมุมหนึ่งในมือมีผ้าสีขาวสะอาดผืนเล็กกำลังเช็ดคราบน้ำจากการชำระล้าง เพาภิรมย์เหลือบไปเห็นเข้าพอดีเลยทำทีท่าไม่สนใจก้มหน้าก้มตากินต่อ

“ อ้าว กันต์ไม่กินก่อนเหรอ.... ” น้าสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นกันต์เดินผ่านโต๊ะอาหารสุดหรูของคุ้มหลวง

“ ไม่หิวค่ะ ” ร่างบางหันมาตอบและยิ้มให้เหลือบมองเพาภิรมย์ที่กำลังทานมื้อเช้าอย่างไม่สนใจใคร

“ ไม่ชิมฝีมือตัวเองหน่อยเหรอ ” พิมพรรณเอ่ยถามเพาภิรมย์หยุดกึกรู้แจ้งข้อสงสัยว่าใครเป็นคนทำข้าวต้มที่ไม่ใช่ของโปรดของเธอเลยแต่เช้านี้กับกินจนจะหมดถ้วยอยู่แล้ว เงยหน้ามองเชฟที่เธอถามหาไม่แปลกใจที่จะติดใจข้าวต้ม ขนาดคนทำเธอยังทั้งรักทั้งหวงขนาดนี้

“ นี่ไงเชฟมือหนึ่งที่เธอถามหา ชมนักชมหนาว่ารสชาติข้าวต้มเช้านี้อร่อยเหลือเกิน ” พิมพรรณแนะนำแซวๆ กันต์ทำเก๊กนิ่งไม่พูดอะไรและเดินออกไป เพาภิรมย์รู้สึกเสียเซลฟ์ปนเขินนิดหน่อยที่ชมไปซะเยอะแถมพิมพรรณยังบอกไปซะหมดเปลือกอีก

 

เมื่ออาหารมื้อเช้าเสร็จสิ้นไปพิมพรรณจึงออกมาจัดแจงดูงานอย่างขมักเขม้น บ่อน้ำขนาดกลางถูกขุดขึ้นใหม่ตามคำสั่งของกันต์ เพาภิรมย์กำลังทำหน้าที่ฉีดน้ำใส่ดอกไม้สีสวยต่างๆที่มาจากเรือนของเจ้าย่าบัวเงินให้ชุ่มฉ่ำไม่แห้งเหี่ยวระหว่างรอการปลูก
ในขณะที่เพาภิรมย์กำลังดูแลดอกไม้อยู่อย่างเพลินๆนั้นสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างก็หยุดชะงักมองไม่กระพริบตา

ร่างบางที่กำลังเดินออกมาจากประตูบานใหญ่ของคุ้มหลวงหยุดมองไปรอบๆงานที่กำลังเกิดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เสื้อสูทแฟชั่นดึงแขนแค่ซอกสีกรมท่าถูกสวมใส่อยู่ในตัวเธอดูทะมัดทะแมงติดกระดุมหนึ่งเม็ดพร้อมกับเสื้อกล้ามตัวจิ๋วด้านในสีขาวคู่กับกางเกงยีนส์เดฟยี่ห้อดีสีดำเอวต่ำแอบเปรี้ยวด้วยรองเท้าส้นสูงเข้ากับชุดอย่างดีเยี่ยมมัดผมรวบตึงปล่อยหางม้าพริ้วไหวท้าทายกับสายลม

เดินออกมาระยะหนึ่งก็ยกแว่นตาทรงตี๋ใหญ่สีดำสนิทขึ้นมาใส่บังแสงแดดที่สอดส่องให้เห็นออล่าผิวขาวมาแต่ไกล มือซ้ายล้วงเกี่ยวกระเป๋ากางเกงไว้ มุ่งหน้าเดินไปยังเจ้าหน้าที่หัวหน้าคนงานจากบริษัทที่มีชื่อเสียงที่กำลังสร้างซุ้มศาลานั่งเล่นให้สวยงามที่สุด

“ สวัสดีค่ะเจ้า เชิญเจ้าเดินชมรอบๆก่อนนะคะ ถูกใจมั้ยหรือจะให้ปรับเปลี่ยนอะไรบ้างรีเควสมาได้เลยค่ะ ” หัวหน้างานสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยทำความเคารพและบอกอย่างเอาใจเป็นที่สุด เพาภิรมย์ยืนมองอย่างไม่คาดสายตาเริ่มออกอาการไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“ อืม..ทุกอย่างก็เป็นไปตามแบบที่วางไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีต้นไม้มาเพิ่มอีกหลายอย่าง ทางคุณก็เริ่มตกแต่งตามแบบได้เลย พุ่มไม้...พื้นหญ้า ทางเดิน ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด อ้อ....แล้วก็ สีของซุ้มศาลานั่งเล่น ขอเป็นสีขาวนะคะ แค่นี้แหละ..... ” กันต์พูดอย่างสุภาพบอกรายละเอียดอย่างชัดเจนฟังดูเป็นผู้นำทุกระเบียดนิ้วพร้อมกับส่งแบบงานคืนให้กับเจ้าหน้าที่สาวสวยที่ยืนยิ้มหวานให้อยู่ ริมฝีปากบางยิ้มตอบกลับให้ตามมารยาทที่มีอยู่ในตัวและเดินไปตรวจงานทางอื่นรอบๆ

เพาภิรมย์ยืนมองจ้องตาเขม็งกับพฤติกรรมต่างๆที่แม่เจ้าหน้าที่สาวสวยออกอาการบางอย่างจนเกิดหน้าเกินตา ระหว่างนั้นเอง

“ ระวังครับระวัง!! ” เสียงคนงานคนหนึ่งดังขึ้นสนั่น กันต์ที่พึ่งเดินเบี่ยงออกมาจากเจ้าหน้าที่สาวสวยหันหลังมองตามเสียงชุลมุนพร้อมกับเพาภิรมย์และพิมพรรณที่มองตามเสียงนั้นด้วยเช่นกัน

“ บี ระวัง!!! ” เสียงแหลมๆร้องบอกพร้อมกับผลักร่างเจ้าหน้าที่สาวให้หลบท่อนไม้ใหญ่ที่กำลังจะล้มใส่เธอ

“ อุ๊ย!! ” เสียงอุทานของหญิงสาวที่ถูกเพื่อนคนหนึ่งผลักเข้าเต็มแรงดังขึ้น ก่อนจะถลาเข้ามากอดร่างของกันต์ที่กำลังยืนมองเหตุการณ์อยู่เต็มๆ....... หญิงสาวค่อยๆหันมองใบหน้าของคนที่เธอกำลังยืนกอดอยู่ได้กลิ่นน้ำหอมจากเจ้าตัวจนทำให้เธอเผลอสูดดมเบาๆ กันต์ยืนนิ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดหน่อยกระพริบตาถี่ๆผ่านแว่นดำที่คนอื่นมองไม่เห็นดวงตาของเธอ เพาภิรมย์พร้อมพิมพรรณรีบวิ่งเข้ามาดู

“ เป็นอะไรหรือป่าวคะคุณ ” พิมพรรณเอ่ยถาม

“ ขอโทษค่ะ ” เจ้าหน้าที่สาวสวยปล่อยอ้อมกอดของเธอและเอ่ยบอก ก่อนที่จะเดินออกไป กันต์พยักหน้ารับเบาๆยังงงๆอยู่

“ กันต์.... กันต์!!! ”

“ ป่าวๆ ป่าวนะป่าว กันต์ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อยู่ดีๆเค้าก็พรวดเข้ามาเลยอ่ะ ” เสียงพิมพรรณเรียกจนกันต์สะดุ้งหันไปเจอกับเพาภิรมย์เข้าพอดีรีบพูดแก้ตัวจนปากสั่นไปหมด

“ ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย จะถามว่าเป็นอะไรหรือป่าว ” พิมพรรณงงงวยในสิ่งที่หลานของเธอพูดเสียยาว ก่อนที่จะเดินไปสั่งคนงานให้ระมัดระวัง

เพาภิรมย์ยืนยิ้มกอดอกแอบคิดในใจชะรอยว่าสาวน้อยของเธอคงจะกลัวมากเลยรีบแก้ตัวเสียยกใหญ่ทั้งที่ในใจเธอไม่ได้คิดอะไรเสียด้วยซ้ำเพราะมองเหตุการณ์อยู่ตลอดว่ามันเพียงเป็นอุบัติเหตุ เมื่อเห็นเช่นนั้นเพาภิรมย์จึงแกล้งทำหน้าบึ้งใส่แถมเม้มปากไปมามองเรือนร่างอย่างเสน่หาและก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆ

กันต์หน้าซีดรีบถอยหลังเพราะตอนนี้ครบหนึ่งอาทิตย์ เพาภิรมย์สามารถเข้าใกล้เธอได้แล้ว ร่างบางรีบหันหลังและเดินเร็วๆไปทางอื่นทันที เพาภิรมย์หัวเราะออกมาชอบใจที่ได้แกล้งสาวน้อยของเธอ

 

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เพาภิรมย์รดน้ำต้นไม้ที่พึ่งปลูกเสร็จโดยฝีมือของพิมพรรณหันมองไปรอบๆตัวเป็นระยะๆเมื่อสาวน้อยของเธอหายหน้าไป ระหว่างนั้นเอง…

“ ขออนุญาตครับ กุญแจรถของคุณเพาครับ ” เพาภิรมย์หันมองและรับกุญแจรถเบนซ์จากนพมาอย่างงงๆ

“ รถฉัน? ” ริมฝีปากสวยเอ่ยถามอีกครั้งอย่างสงสัย

“ เอ่อ...อภินันธนาการจากคุ้มหลวงครับ ถ้าคุณเพาจะไปไหน จะได้ไม่ต้องรอคุณพรรณ ” นพอ้ำอึ้งบอก ก่อนจะเดินออกไปเมื่อทำตามคำสั่งของเจ้านายที่ได้ยินเพาภิรมย์คุยกับพิมพรรณในวันนั้นจึงสั่งให้นพนำกุญแจรถไปให้ เพาภิรมย์นิ่วหน้าคิดสักครู่ก็ยิ้มหวานออกมาทันทีเพราะรู้ว่าอภินันธนาการครั้งนี้มาจากตัวเล็กของเธอ

“ เดี๋ยวขากรรไกก็ค้างหรอก ยิ้มอยู่ได้ ” พิมพรรณเห็นเพาภิรมย์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยอดแซวไม่ได้


เวลาเที่ยงวัน คนงานทุกคนหยุดพักและเติมพลังด้วยอาหารกลางวัน เพาภิรมย์เดินตามหากันต์และมาหยุดอยู่แถวสระบัวมองตรงไป ณ เรือนกล้วยไม้ของ เจ้าย่าบัวเงิน ที่อยู่ถัดมาจากคุ้มหลวงเพียงนิด มีทางเดินที่ทอดยาวผ่านบ่อบัวเชื่อมกับเรือนไม้ทรงล้านนาที่ใหญ่ตระการตา ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดงดงามไร้ที่ติ

เพาภิรมย์มองเข้าไปยังด้านในบังเอิญเห็นกันต์กำลังยืนอยู่ยิ้มดีใจเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่สักครู่ก็เห็นอิงฟ้าอยู่ด้วย จึงหยุดยืนมองพฤติกรรมของทั้งคู่ อิงฟ้ายืนคุยเกาะเกี่ยวแขนกันต์อย่างมีความสุขโดยที่กันต์เองก็คุยด้วยปกติ เพาภิรมย์เห็นแบบนั้นแล้วก็เริ่มหมันไส้เด็กคนนี้นักแต่ต้องใจเย็นเพราะสีหน้าของกันต์เหมือนกับอึดอัดใจพอสมควร

อิงฟ้ามีท่าทีว่ากำลังจะกลับเธอจึงสั่งลากันต์ด้วยการหอมแก้มสองข้าง ใบหน้าเรียวยิ้มให้บางๆ อิงฟ้าส่งสายตาหวานให้ก่อนที่เธอจะเดินออกไป เพาภิรมย์เบี่ยงตัวหลบกับต้นไม้เพื่อไม่ให้อิงฟ้าเห็นเธอ

“ ยัยเด็กแก่แดด ” ริมฝีปากสวยพึมพำออกมาเบาๆไม่อยากใส่ใจกับอิงฟ้ามากนักเพราะเห็นว่าคนของเธอนั้นไม่มีท่าทางจะตอบสนองด้วยเลยแม้แต่น้อย

 


ในห้องทำงานส่วนตัวของกันต์...... ความเย็นของเครื่องปรับอากาศกำลังดี พนักพิงของเก้าอี้ที่ความสูงเลยศรีษะมีร่างบางนั่งไขว่ห้างเอนกายพิงอยู่ นิ้วมือหมุนด้ามปากกาเล่นกำลังนั่งคิดงานอะไรบางอย่าง สักครู่กันต์ก็ลุกขึ้นและหันไปที่แฟ้มเอกสารด้านหลังยืนเลือกหาชื่อที่ต้องการ

มือเรียวเปิดแฟ้มดูงานในนั้นไปเรื่อยๆด้วยแฟ้มเอกสารที่ถูกลื้อออกมาวางไว้จนล้นจึงทำให้เบียดกับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางไว้อยู่แล้วล่วงลงกับพื้น ใบหน้าเรียวหันมองด้านล่างจึงปิดแฟ้มที่อยู่ในมือแล้วย่อตัวลงเพื่อที่จะหยิบหนังสือเล่มนั้น ชั่วพริบตามือของกันต์กับจับเข้าที่มือขาวนุ่มของใครบางคนที่ยื่นลงมาหยิบหนังสือให้เสียก่อน สายตาเหลือบมองเจอแววตาคู่สวยกำลังจ้องมองอยู่เช่นกัน เป็นเพาภิรมย์นั่นเองที่แอบเข้ามาเงียบๆเพื่อไม่ให้ตัวเล็กของเธอตื่นตกใจ

“ คุณเพา ” เสียงเล็กเอ่ยเรียกบางเบาก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนและเดินไปกลางห้อง เพาภิรมย์อมยิ้มมองตามร่างเล็กที่กำลังหนีเธอเสียแล้ว

“ หายตัวมาหรือไง ไม่ได้ยินเสียงเลย ” กันต์ที่ตอนนี้เดินไปเกาะหลังโซฟาสำหรับรับแขกเอ่ยถามขึ้น ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มกรุ้มกริ่มเธอชอบนักเวลาสาวน้อยมีอาการแบบนี้ พลางวางหนังสือที่หยิบขึ้นมาจากพื้นและเดินไปหาเป้าหมายช้าๆ

“ หาซะทั่ว มาอยู่นี่เอง ” ร่างสูงเดินต้อนตัวเล็กของเธอไม่รีบร้อนเพื่อให้พ้นจากหลังโซฟาเสียที กันต์เองก็เดินวนมาจนสุดขอบโซฟาจึงเดินไปอยู่กลางห้องที่เก่า เพาภิรมย์ยิ้มเจ้าเล่ห์และรีบปรี่เข้าไปใกล้จนร่างบางขยับถอยหลังไปติดกำแพง

“ หนีทำไม....” น้ำเสียงยียวนกับสายตาที่ปานจะกลืนกินทำให้ใบหน้าเรียวเหงื่อหยดทันที แถมหัวใจก็เต้นตูมตามไปหมด

“ ไม่..ไม่ได้หนี ” กันต์เบี่ยงหน้าไปอีกทางก่อนจะตอบเบาๆ ผมที่รวบตึงเผยให้เห็นลำคอขาวจนน้ำหอมส่งกลิ่นเชิญชวนอย่างไม่รู้ตัว มือสองข้างของเพาภิรมย์ยื่นเข้ามาเกาะเอวบางพร้อมกับลูบไล้ไปมา

“ ยืนให้อิงฟ้าหอมซ้ายหอมขวาเหรอจ๊ะ เด็กดื้อ ” เพาภิรมย์ใช้ปลายจมูกลากวนเวียนอยู่กับลำคอหอมกรุ่นช้าๆพร้อมพูดเบาๆ กันต์สีหน้าตกใจเล็กน้อยว่าเพาภิรมย์รู้ได้อย่างไร

“ คือ..คือ..กะ..กันต์ไม่...ทัน..เห็น เลยไม่ได้ระวัง ไม่ดะ.....อื้อ.. ” เสียงเล็กกำลังแก้ตัวเบาๆแต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกครอบงำด้วยริมฝีปากสวยของคนตรงหน้า เพาภิรมย์ที่ไม่อาจห้ามใจเมื่อเห็นปากบางสั่นระริกพยายามพูดแก้ตัวแสนน่ารัก ไล่ริมฝีปากจูบบดขยี้อย่างกับอดอยากปากแห้งมาจากไหน เรียวลิ้นร้อนล้วงลึกไล่ต้อนความหอมหวานตวัดหยอกเย้าลิ้นด้านในมาดูดคลึงจนทำให้ร่างเล็กแทบทรุดตัวลงเพราะความสยิว

“ อื้อ..อื้อ.... ” สองมือของกันต์ผลักดันตัวคนตรงหน้าเมื่อใกล้จะหมดลมเต็มที เพาภิรมย์ไม่ยอมปล่อยริมฝีปากบางเลยแม้แต่น้อยกับส่งจูบหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆจับสองมือคู่น้อยที่พยายามผลักดันให้โอบกอดต้นคอของเธอ และอุ้มร่างเล็กขึ้นมาโดยที่ขาทั้งสองข้างของกันต์เกาะเกี่ยวสะโพกสวยของเธอเอาไว้ปากร้อนยังคงทำหน้าที่จูบไปมาดูดรัดลิ้นเล็กไม่หยุดหย่อน

เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็วางร่างบางลงบนโต๊ะทำงานแทรกตัวเข้าระหว่างกลางและค่อยๆปรับเปลี่ยนรสจูบเป็นเชื่องช้านุ่มนวล บางเบาเพื่อเว้นที่ว่างให้สาวน้อยได้หายใจอย่างเต็มที่ ริมฝีปากสวยค่อยๆเคลื่อนย้ายลงมายังข้างแก้มนวลจูบซับเคล้าคลึงเบาๆสูดดมกลิ่นหอมทั้งสองข้างส่งเสียงครางในลำคอแสนจะพอใจ

เสียงหัวใจของทั้งสองเต้นคล้ายจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ร่างกายหอบหนักเอาการ มือเรียวที่โอบกอดลำคอค่อยๆเคลื่อนย้ายไปยังแผ่นหลังของเพาภิรมย์ลูบไล้ไปมา

“ อืม....” เสียงครางอื้ออึงชิดลำคอขาวเมื่อแรงนิ้วกดจิกแผ่นหลังเบาๆ ริมฝีปากร้อนบดเคล้าคลึงซอกคอหอมกรุ่นเรียกเสียงลมหายใจบางเบาหอบกระเส่าดังออกมาจากร่างเล็ก ริมฝีปากสวยจูบเม้มไล่เลียขึ้นมายังข้างแก้มและประกบลงกับกลีบปากบางอีกครั้งเรียวลิ้นร้อนล้วงลึกควานหาความหอมหวานไม่รู้เบื่อจูบเน้นอีกครั้งก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง

ร่ายกายของทั้งคู่หอบกระเส่าไม่แพ้กัน ความคิดถึง ความโหยหาได้ถูกปลดปล่อยออกไปบ้างแล้ว

“ พี่รักกันต์นะ รักมากด้วย ” ดวงตาเพาภิรมย์จ้องมองแสนรักใคร่

“ แล้วกันต์ล่ะรักคุณเพาหรือป่าวคะ ” เพาภิรมย์ถามเสียงออดอ้อน

“ รักค่ะ กันต์รักคุณเพาที่สุด ” ริมฝีปากบางอมยิ้มกับท่าทางของคนรักก่อนจะเอื้อมบีบจมูกโด่งเบาๆพร้อมกับพูดออกไปอย่างอ่อนโยน เพาภิรมย์ยิ้มกว้างหัวใจรู้สึกมีความสุขที่สุดกับคำบอกรักจากกันต์โอบกอดร่างบางเอาไว้ไม่ยอมให้รักครั้งนี้มีใครมาพรากจากเธอไปได้ทั้งนั้น กันต์กอดตอบแนบแน่นไม่ว่าเพาภิรมย์จะใจร้ายกับเธอในบางครั้ง แต่เธอก็รักผู้หญิงคนนี้มากไม่เคยคิดโกรธเคืองได้เลยแม้แต่น้อย

“ ขอบคุณนะคะ เรื่องรถ ” เพาภิรมย์ปล่อยอ้อมกอดก่อนจะพูดออกไป กันต์ยิ้มพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าสวยโน้มเข้าไปใกล้หมายจะจุมพิตริมฝีปากบางอีกครั้ง แต่ระหว่างนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน เสียงถอนหายใจกับดวงตากลิ้งไปมาราวกับขัดจังหวะเสียจริงของเจ้าของมือถือ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกวางไว้อยู่มุมหนึ่งตั้งตอนที่แอบย่องเข้ามา

“ สวัสดีค่ะ เพาภิรมย์พูดค่ะ ” เสียงหวานเอ่ยอย่างสุภาพและรีบกลับมาที่เดิมเมื่อเห็นว่าสาวน้อยของเธอกำลังจะลงจากโต๊ะ มือเรียวโอบกอดเอวบางไว้ข้างหนึ่งตามด้วยหอมแก้มฟอดใหญ่ ใบหน้าเรียวเขินนิดๆหลบสายตาหน่อยๆไม่รู้เพาภิรมย์จะให้เธอนั่งอยู่บนโต๊ะทำไม

“ สวัสดีจ้ะ เพา ” ปลายสายตอบกลับมา เพาภิรมย์ค่อยๆหุบรอยยิ้มลงสายตาเริ่มไตร่ตรองน้ำเสียงคุ้นๆนั่น

“ คุณ...” ริมฝีปากสวยกำลังอึ้งตกใจเมื่อเธอจำเสียงของผู้ที่โทรมาได้ กันต์แอบมองบ้างเป็นระยะเมื่อเห็นเพาภิรมย์นิ่งไป แต่ก็ไม่อยากสนใจอะไรมากเมื่อเพาภิรมย์ชำเลืองมามองเพราะเกรงว่าจะเสียมารยาท

“ เดี๋ยว พี่คุยธุระแป๊บนึงนะคะ ” เพาภิรมย์ใช้มือกุมโทรศัพท์เพื่อไม่ให้เสียงเล็ดรอดเข้าไปแล้วหันมาบอกกันต์ ใบหน้าเรียวยิ้มพยักหน้าเบาๆ เพาภิรมย์จึงเปิดประตูออกไปคุยข้างนอกห้อง


ณ ริมสระว่ายน้ำ เพาภิรมย์เลือกที่จะหาที่คุยเงียบๆ

“ นั่น....” ริมฝีปากสวยเอ่ยถามสั้นๆอีกครั้งเพื่อความแน่ใจจากปลายสายที่โทรเข้ามา

“ เมย์ไง เมธาวี หวังว่าเพาคงยังจำเมย์ได้ยู่นะคะ ” ปลายสายตอบกลับมาเสียงหวาน เพาภิรมย์อ้าปากค้างเป็นคนที่เธอคิดจริงๆ เมธาวี แฟนคนแรกที่ทอดทิ้งเธอไปโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเธอจะเสียใจมากเพียงใด

“ เพา....เพาฟังเมย์อยู่หรือป่าว ” เมธาวีเรียกอีกครั้งเมื่อเพาภิรมย์เงียบไป

“ เธอได้เบอร์ฉันมาจากไหน ” เพาภิรมย์ถามเสียงแข็ง

“ เพาก็รู้ ว่าไม่มีอะไรที่เมย์ทำไม่ได้ ถ้าเกี่ยวกับเพา ” ปลายเสียงกรุ้มกริ่ม ส่อแววหว่านเสน่ห์ไม่น้อย

“ ใช่ ฉันรู้ ว่าคนอย่างคุณ ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงจะทำให้ใครเจ็บปวดมากขนาดไหน ” เพาภิรมย์เสียงแข็งเยือกเย็นบ่งบอกได้ว่าเกลียดเข้าไส้

“ ไม่เอาน่าเพา เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว เมย์รู้ว่าเพาโกรธ แต่ตอนนี้เมย์ก็กลับมาแล้ว เมย์กลับมาหาเพาแล้วไง เมย์รักเพานะคะ ” เมธาวีพูดราวกับมั่นใจว่าเพาภิรมย์ยังรอเธออยู่อย่างนั้น

“ แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ฉันมีคนที่ฉันรักแล้ว ต่อไปเธออย่าโทรมาหาฉัน ฉันไม่อยากคุยกับเธออีก ” เพาภิรมย์พูดเสร็จก็ตัดสายทิ้งทันที เมธาวีอดีตแฟนที่ชอบผลาญเงินผู้หญิงที่คบด้วยนับไม่ถ้วนตอนนี้หมดตัวเลยกลับเมืองไทยสืบรู้มาว่าเพาภิรมย์รวยขึ้นมากจนเป็นเจ้าของบริษัทเลยจะมาขอคืนดีและเกาะเพาภิรมย์อีกครั้ง

เพาภิรมย์กัดฟันข่มน้ำตาของตัวเองไว้เมื่อความแค้นในใจมันเริ่มประทุ แต่ในเมื่อเธอไม่ได้คิดอะไรกับเมธาวีแล้ว แถมยังเกลียดอีกเสียด้วยซ้ำก็ไม่จำเป็นต้องเสียน้ำตาให้คนแบบนั้นอีก ร่างสูงกลับมายังห้องทำงานเปิดประตูเข้าไปเห็นร่างบางกำลังยืนกอดอกเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างผ่านกระจกใส

เมื่อเธอมีเพชรอยู่ในมือแล้วไม่มีทางที่จะกลับไปจมปลักกับอดีตที่เจ็บปวดอีกเป็นแน่ เพาภิรมย์เดินเข้าไปใกล้ๆสองมือเข้าโอบกอดสาวน้อยและก้มหอมแก้มฟอดใหญ่ ใบหน้าเรียวหันมองและยิ้มให้

“ คิดถึงจัง ” ใบหน้าสวยเอาคางเกยไหล่ไว้พูดเสียงออดอ้อน กันต์หัวเราะนิดพร้อมกับยิ้มอีกครั้ง

“ ยิ้มอย่างเดียวเลย ”

“ ไม่ชอบให้กันต์ยิ้มเหรอ ” ริมฝีปากบางถามเบาๆ

“ ชอบ..... ” เพาภิรมย์เอ่ยบอกพร้อมกับจับร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้า

“ แต่ชอบตอนหลับตาพริ้มๆ แล้วก็ยิ้มหน่อยๆ แล้วก็เสียง อุ๊บ....” ริมฝีปากสวยพูดกำกวมจนทำให้กันต์เขิน รีบยกมือปิดปากคนตรงหน้าไว้ก่อนที่จะพูดอะไรมากกว่านั้น

“ คุณเพา...” เสียงเล็กเอ่ยพูดพร้อมกับทำหน้าดุๆเพราะตอนนี้เขินไปหมดแล้ว เพาภิรมย์ยิ้มผ่านแววตาจึงจูบมือที่ปิดปากเธออยู่ซะเลย ร่างบางรีบเอามือออกและหยิกแก้มของอีกคนด้วยความหมันเขี้ยว

“ เสียงแบบนี้แหละ ที่พี่จะบอก ” เพาภิรมย์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆและยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ ไม่คุยด้วยแล้ว คุณเพาชอบแกล้ง ” กันต์เบี่ยงตัวเดินหนีเพราะอีกคนช่างทำให้เธอเขินอายไม่หยุด

“ เดี๋ยวๆ จะไปไหนอ่ะ ” ร่างสูงวิ่งเข้ามากอดด้านหลัง

“ ไปปลูกต้นไม้ค่ะ ป่านนี้น้าพรรณเหงาแล้ว ”

“ คุณเพา ปล่อยได้แล้วค่ะ ” ริมฝีปากบางเรียกซ้ำอีกครั้งเมื่อเพาภิรมย์ทำเงียบ

“ ไม่เอาอ่ะ ไม่ให้ไป ”

“ ไม่ไปไม่ได้ค่ะ ต้นไม้รออยู่ ”

“ ปล่อยให้รอไปก่อนซิ” เพาภิรมย์ไม่ยอมปล่อยง่ายๆซุกใบหน้าระดมจูบไปทั่วลำคอขาว

“ โอ๊ย ” กันต์หยิกที่แขนของคนด้านหลังจนต้องยอมปล่อยอ้อมกอด

“ พอแล้วค่ะ ”

“ พอก็ได้ ขอไปปลูกด้วยคนนะ แต่ขอเข้าห้องน้ำก่อน รอก่อนนะ นะ นะ นะ นะ ” เพาภิรมย์ไม่วายที่จะดึงร่างบางเข้าไปกอดและหอมแก้มอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป กันต์ยิ้มกับตัวเองและนั่งลง ร่างเล็กทิ้งหลังพิงกับโซฟาไขว่ห้างดูมาดเท่มองอะไรไปเพลินๆ แต่อยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเพาภิรมย์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง


กันต์หันดูและชำเลืองมองเพาภิรมย์ยังคงไม่ออกมาจึงปล่อยให้ดังไปก่อน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรอบสองติดๆแต่ด้วยที่โทรศัพท์ถูกวางอยู่ริมโต๊ะความสั่นไหวจึงทำให้ตัวเครื่องล่วงลงกับพื้น ใบหน้าเรียวหันมาเห็นรีบเอื้อมมือก้มลงไปหยิบขึ้นมาแต่สายเรียกเข้าก็ตัดไปพอดี

“ กันต์!!! ” เสียงเพาภิรมย์ดังขึ้นราวกับดุคนตรงหน้าอย่างนั้น เมื่อเห็นกันต์กำลังจ้องมองโทรศัพท์ของเธออยู่ในมือ ร่างบางตกใจนิดหน่อยกับเสียงของอีกคนแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรมากหันมองเพาภิรมย์เพียงนิด ร่างสูงรีบเดินมาคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของสาวน้อย กันต์นิ่งสงบมองโทรศัพท์ที่เพาภิรมย์หยิบไปพร้อมกับสายตาที่ค่อยๆเหลือบมองใบหน้าสวยอีกครั้งว่าจะอารมณ์เสียอะไรนักหนา

“ อย่ายุ่งกับโทรศัพท์พี่ ” ริมฝีปากสวยพูดเสียงแข็งเพราะกลัวว่ากันต์จะรู้เรื่องของเมธาวีไม่รู้เลยว่ากำลังทำตัวให้มีพิรุธอย่างมาก

“ กันต์ไม่ได้อยากยุ่งหรอกค่ะ เพียงแต่มีสายเข้า แล้วโทรศัพท์ก็ตกพื้น กันต์เลยเก็บขึ้นมาให้ ก็แค่นั้น ” น้ำเสียงเรียบนิ่งทำให้อีกคนเริ่มรู้ตัวว่าวู่วามไปเอง

“ อย่าลืมโทรกลับนะคะ เค้าคงจะมีธุระสำคัญมาก ถึงได้โทรติดกันหลายสาย ” ร่างบางลุกขึ้นจากโซฟาเอ่ยบอกเรียบๆเช่นเคยก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

เพาภิรมย์มองตามหลังหลับตาเสียอารมณ์กับตัวเองที่ร้อนรนไปหน่อยและดูออกว่าตัวเล็กของเธอคงไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งคำพูดก็ทำให้เธอร้อนตัวได้ไม่น้อย เพาภิรมย์กดดูเบอร์ว่าใครโทรมา ปรากฏว่าเป็นเมธาวีจริงๆทำให้เสียอารมณ์เข้าไปอีกช่างน่ารำคาญใจเสียจริง ความรักของเธอกำลังไปได้สวยแต่จู่ๆเมธาวีก็กลับเข้ามาเกาะแกะเสียอย่างนั้น เพาภิรมย์ยืนคิดไตร่ตรองว่าจะบอกกันต์ดีมั้ยเพราะเมธาวีอาจจะมีผลเสียกับเธอในภายหลังก็เป็นได้..........

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา