[Man Vandalism] นรกร้าย ผู้ชายป่าเถื่อน

8.8

เขียนโดย Nami1412

วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 01.31 น.

  10 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Man Vandalism - ChapTer 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

AuThor : นามิ

 

 

 

พรึ่บ!

 

“อ๊ะ! ปล่อยผมนะ” คริสตัลสะดุ้งเมื่อซันซัสเดินมากระชากแขนตนเองออกไปทางประตูหลังบ้าน

 

“ผมขอเคลียร์กับเด็กคนนี้สักครู่” ซัยซัสเอ่ยขอแพนอย่างสุภาพก่อนจะลากไปที่ประตูหลังบ้านอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่นะ นี่มันอะไรกัน พวกคุณปล่อยลูกของฉันมานะ” แพนร้องไห้ไม่หยุด เพราะลูกๆ ของเธอตอนนี้แยกย้ายกันไปคนละที่แล้ว แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย

 

“ปล่อยเรื่องนั้นไปก่อน เรามาเคลียร์เรื่องของเรากันดีกว่า” จีซัสพูดอย่างไม่ใส่ใจกับเรื่องเมื่อกี้ เพราะเขาสนใจเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆ เขามากกว่า เด็กน้อยที่ยืนตัวสั่นๆ อย่างหวาดระแวง

 

“คุณจีเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเถอะนะคะ ฉันขอร้องเถอะ” แพนยกมือไว้อย่างน่าสงสาร แต่จีซัสกลับทำหน้านิ่งๆ ไม่แสดงอาการใดออกมา

 

“นะคะคุณจี...อึกๆ” แพนก้มลงเพื่อจะกราบแต่กลับมีมือปริศนามารับมือของแพนที่กำลังจะกราบลงพื้น แพนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่ามือนั้นเป็นของจีซัส

 

“คะ คุณจี” แพนเอ่ยชื่อจีซัสอย่างแปลกใจที่จีซัสมารับมือของเธอไว้

 

“ถึงผมจะเป็นมาเฟีย แต่ผมก็ไม่ชอบให้คนอายุมากกว่ามากราบผมแบบนี้” จีซัสตอบด้วยเสียงนิ่งๆ ถึงแม้พวกมาเฟียส่วนมากจะชอบให้คนยกมือไหว้นับถือ แต่สำหรับจีซัสมันไม่ใช่ ที่จะให้คนอายุมากกว่ามาทำแบบนี้ จีซัสคิดว่ามันไม่เหมาะสม ถึงแม้จีซัสจะมีอิทธิพลมากกว่าแต่ยังไงเรื่องอายุก็สำคัญกว่าอยู่ดี

 

พลั่ก!

 

เสียงประตูหลังบ้านเปิดออกมา จีซัสหันไปมองก็เห็นว่าซันซัสเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเด็กหนุ่มอีกคนที่มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย

 

“เป็นไงบ้าง” จัซัสถามขึ้นและยักคิ้วให้ซันซัส

 

“เรียบร้อยดี” ซันซัสยักคิ้วส่งกลับ จัสมินมองไปที่คริสตัลอย่างสงสัยว่าทั้งคู่ไปคุยอะไรกันมา ก่อนจะสังเกตว่าคริสตัลหน้าแดงๆ และปากเจ่อเล็กน้อย

 

“หึหึ มึงนี่นะ” จีซัสหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันมาพยุงแพนให้ลุกขึ้น

 

“เอาอย่างงี้ละกัน งั้นช่วงปิดเทอมผมจะมารับลูกชายของคุณและผมจะคอยส่งข่าวลูกชายคุณให้เรื่อยๆ ตกลงมั้ย” จีซัสยื่นข้อเสนอให้ เพราะคิดเรื่องนี้ได้สักพักแล้ว

 

แพนที่กำลังคิดว่าดีมั้ย แต่ก็เป็นทางเดียวที่ตนเองจะติดต่อกับจัสมินได้ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากทางนี้ แพนจึงพยักหน้าตกลง

 

“ไม่นะแม่ ผมไม่ให้น้องไปอยู่กับคนใจร้ายแบบนี้หรอก” คริสตัลวิ่งจับมือผู้เป็นแม่ไว้พลางส่งสายตาขอร้องแม่ตนเอง

 

“แต่แม่ไม่มีทางเลือกนะคริส เข้าใจแม่หน่อย” เมื่อได้ยินประโยคที่แพนเอ่ยขึ้น ทำให้คริสตัลนึกถึงทำพูดของสไมล์ขึ้นมาทันที

 

“เอาน่า แม่คงไม่อยากให้คริสกับมินกังวลไง ถ้าแม่พร้อมเดี๋ยวแม่ก็บอกเราเองแหละเข้าใจแม่หน่อยนะ”

 

“ครับ” คริสตัลยอมฟังที่แพนพูด แพนจึงสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่ง

 

“ผมไม่เป็นไรหรอกฮะ แม่และพี่คริสไม่ต้องเป็นห่วงมินนะ” จัสมินมองหน้าแม่และพี่ชาย พลางนึกถึงตอนที่ตนเองนั่งสอบและรู้สึกกระวนกระวายในจิตใจ

 

‘เรื่องนี้เองหรอเนี่ย’ จัสมินคิดในใจเมื่อรู้ว่าที่ตนกระวนกระวายเมื่อเช้าคงเป็นเพราะเรื่องนี้

 

“โรงเรียนปิดเทอมวันไหน” จีซัสถามขึ้นเมื่อเห็นว่าจัสมินยอมไปกับตนเองแล้ว

 

“อาทิตย์หน้าฮะ” จัสมินเงยหน้าขึ้นมาตอบจีซัส เพราะจีซัสสูงกว่าตนเองเยอะ ก่อนจะสังเกตว่าจีซัสหน้าตาดีอยู่ไม่น้อย ยิ่งอยู่ในชุดสูทสีดำแบบนี้ ยิ่งแฝงความเท่ไปด้วย

 

“อืม เลิกเรียนวันศุกร์เดี๋ยวตอนเย็นมารับ” จีซัสตอบเสียงนิ่งๆ และมองใบหน้าของจัสมินอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าหวานยิ่งกว่าผู้หญิง จมูกรั้นโด่ง แก้มใสอมชมพู ปากเล็กเป็นกระจับน่าจูบ

 

“งั้นพวกเรากลับกันเถอะ” จีซัสพูดขึ้นเพราะกลัวอดใจไม่ได้จับจัสมินจูบตรงนี้ ก่อนที่ชายชุดดำทั้งหลายจะแยกย้ายกันออกไปข้างนอก

 

“มิน” แพนโผลเข้ากอดลูกชายแน่น เธอไม่อยากให้ลูกชายไปอยู่กับพวกมาเฟียเลย

 

“แม่ฮะ แม่ไม่ต้องห่วงมินนะ มินดูแลตนเองได้” จัสมินกอดแม่และยิ้มให้ถึงแม้ว่าตอนนี้อยากจะร้องไห้ก็ตาม

 

“ดูแลตนเองดีๆ นะมิน พี่เป็นห่วง” คริสตัลกอดจัสมินด้วยความเป็นห่วง

 

..ด้านจีซัส..

 

“ทำไมมึงถึงสนใจเด็กคนนั้นวะ” ซันซัสถามขึ้นระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านเพราะปกติเพื่อนคนนี้ไม่เคยสนใจผู้ชายเลย

 

“ไม่รู้ แต่กูจะเอา” จีซัสตอบเสียงเรียบ ซันซัสจึงยกยิ้มมุมปาก

 

“ระวังจะตกหลุมรักเองหละ” เซนต์ซัสที่ฟังได้สักพักจึงเอ่ยแซวจีซัสอย่างขำๆ

 

“เรื่องของกู” จีหันไปยักคิ้วใส่เซนต์ซัส เซนต์ซัสจึงชูนิ้วกลางให้อย่างหมั่นไส้

 

..คฤหาสน์..

 

“เป็นไงบ้างลูกหนี้จ่ายเงินครบหรือเปล่า” ทันทีที่ย่างเท้าเข้ามาในบ้าน ผู้เป็นพ่อที่นั่งรออยู่ได้เอ่ยถามขึ้นทันที

 

“เหลือหนึ่งราย ไม่มีตังจ่าย” จีซัสตอบห้วนๆ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงข้ามกับพ่อส่วนซันซัสและเซนต์ก็เดินเลี่ยงไปที่อื่นปล่อยให้พ่อลูกคุยกัน

 

“แกจัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” ไมยราพยังคงถามต่อ

 

“ยังครับ แต่ผมให้ส่งลูกของเธอมาขัดดอก” จีซัสตอบหน้านิ่งๆ

 

“หึหึ เอามาขัดดอกหรือเอามาทำเมียละ” ถึงจีซัสจะทำหน้านิ่ง แต่ผู้เป็นพ่อก็อดแซวไม่ได้

 

“พ่อเคยเห็นผมมีเมียปะละ” จีซัสไม่ตอบแต่ย้อนคำถามใส่พ่อตนเอง

 

“ก็ไม่เคย” ไมยราพตอบ แต่ก็ไม่เข้าใจกับคำถามของลูกชาย

 

“นั่นแหละ ครั้งนี้ก็แค่เล่นๆ เมียจะหาตอนไหนก็ได้” จีซัสตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจะขึ้นไปบนห้อง

 

“ร้ายจริงๆ ลูกชายคนนี้” ไมยราพมองตามลูกชายคนเดียวที่วันๆ ไม่ค่อยจะได้คุยกันสักเท่าไหร่ ยกเว้นแต่เรื่องงาน

 

“หึหึ” จีซัสหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินขึ้นห้องไป

 

หลังจากที่เข้ามาในห้อง จีซัสก็จัดการอาบน้ำก่อนจะนั่งเล่นที่เตียงของตนเองพลางนึกถึงใบหน้าของจัสมิน ทำไมเด็กคนนี้ถึงทำให้เขาสนใจมากขนาดนี้ และก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงต้องพามาอยู่ที่นี่ด้วย ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนเบื่อเร็วมาก แล้วถ้าเด็กนี่มาอยู่ด้วย เขาจะไม่เบื่อเร็วหรอ?

 

“หึหึ แล้วมึงจะได้รู้ว่านรกจริงๆ มันเป็นยังไง” จีซัสยิ้มแสยะพร้อมนึกถึงใบหน้าของจัสมินที่น้ำตานอง

 

“ห๊ะ! อะไรนะ มินต้องไปอยู่กับพวกมาเฟีย” เสียของสไมล์พูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อมาเล่นกับจัสมินและคริสตัลที่บ้านแล้วได้ยินเรื่องที่ทั้งคู่เล่าให้ฟัง

 

สไมล์ที่อยู่บ้านรู้สึกเบื่อๆ จึงขอแม่มาเล่นที่บ้านของจัสมินและคริสตัล แต่ก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนต้องไปอยู่ใช้หนี้ให้กับพวกมาเฟีย

 

“อื้ม ใช่แล้ว” จัสมินนั่งก้มหน้าก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนสไมล์อดที่จะสงสารเพื่อนไม่ได้

 

“แล้วทำไมต้องเป็นมินด้วยละ” สไมล์ถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะอย่างน้อยสิ่งของในบ้านก็น่าจะนำไปขายได้หรือยืดบ้านเป็นหลักประกันก็ยังได้เลย

 

“เขากลัวแม่จะหาเงินมาคืนไม่ได้มั้ง เลยเอามินไปขัดดอกแทน” คริสตัลตอบ

 

“ไมล์ว่าไม่ใช่นะ แต่ไมล์คิดว่าคนที่ชื่อจีซัสอะไรนั่นอาจกำลังสนใจมินอยู่ก็เป็นได้” สไมล์พูดตามที่ตนเองคิด

 

“ทะทำไมไมล์คิดแบบนั้นละ” จัสมินถามขึ้นด้วยความอยากรู้ เพราะจัสมินดูยังไงก็ไม่มีท่าทีว่าจีซัสจะสนใจตนเองเลย

 

“ก็ถ้าเขาไม่ได้สนใจมิน ทำไมเขาไม่เสนอตัวเลือกอื่นมาให้แม่ของมินละ ทำไมต้องพามินไปอยู่ที่นั่นด้วย แล้วทำไมไม่เลือกคริสไปละถ้าไม่ได้สนใจมิน จริงมั้ย” สไมล์พูดอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ คริสตัลคิดตามที่สไมล์เล่าให้ฟัง คริสตัลเองก็ไม่อยากจะคิดว่าจีซัสสนใจจัสมินเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง คริสตัลคงไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่

 

“ไม่ใช่หรอก เขาแค่ต้องการให้มินไปทำงานใช้หนี้มากกว่าแหละ” จัสมินตอบตามที่ตนเองคิด แต่ก็อดที่จะคิดเหมือนสไมล์ไม่ได้

 

“แต่ยังไงมินก็ต้องไปอยู่กับเขาอยู่ดีแหละ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้” คริสตัลพูดแทรก ทำให้จัสมินก้มหน้าเล็กน้อย รู้สึกน้อยใจในโชคชะตาที่ทำแบบนี้กับตนเอง

 

“ไม่ได้นะ ไมล์ไม่ให้มินไปหรอก” สไมล์มองหน้าเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

 

“ไม่ได้หรอกไมล์ พวกมันไม่ยอมหรอก” คราวนี้เป็นเสียงของคริสตัสบ้าง

 

“คริสก็ต้องอยู่กับแม่แค่ 2 คนหรอ แล้วแม่จะอยู่ได้หรอที่มินไปอยู่กับมาเฟียเนี่ย”  คำพูดของสไมล์ แพนที่อยู่ในครัวได้ยินทั้งหมด น้ำตาใสๆ หยดลงไปพื้นกระเบื้องสีขาวเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงวันที่ลูกชายจะไม่ได้อยู่กับตนเองแล้ว

 

“อยู่ไม่ได้ก็จะให้คริสทำไงละ ก็พวกนั้นเราทำอะรไม่ได้อยู่แล้ว” คริสตัลเอ่ยขึ้นมา พลางมองหน้าน้องชายไปด้วย

 

“ไม่เป็นไรหรอกมินดูแลตนเองได้ ไม่ต้องห่วงมินนะ” จัสมินฝืนยิ้มออกไป เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเพราะคิดแต่เรื่องนี้

 

“ยังไงก็อดห่วงไม่ได้หรอกนะ เพื่อนทั้งคน” สไมล์จับมือจัสมินไว้แล้วพูดด้วยความเป็นห่วง

 

“มินดูแลตนเองได้จริงๆ เชื่อใจมินสิไมล์” จัสมินเปลี่ยนมากอดคอสไมล์ไว้

 

“ใช่ด้วย ไมล์ต้องเชื่อใจเพื่อนรักสิ” สไมล์จึงกอดคอจัสมินบ้าง

 

คริสตัสนั่งมองภาพนั้นด้วยความดีใจที่เห็นจัสมินยังยิ้มได้ เพราะตั้งแต่เมื่อวานจัสมินแทบไม่ยิ้มเลย

 

“ขอกอดด้วยสิ” คริสตัลอ้าแขนขึ้นพลางเดินมากอดจัสมินและสไมล์

 

“ขอแม่กอดด้วยคนนะ” แพนที่ได้ยินทั้งสามคุยกันก็อดที่จะมากอดด้วยไม่ได้

 

ทั้งสี่นั่งกอดกันสักพักก่อนที่แพนจะผละออกเพื่อไปเตรียมโต๊ะกินข้าว ส่วนจัสมินและคริสตัลก็ช่วยกันตักกับข้าวมาเสิร์ฟสไมล์ ส่วนสไมล์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะจัสมินและคริสตัลให้เหตุผลว่าสไมล์เป็นแขก เจ้าบ้านต้องบริการ

 

“อร่อยมั้ยไมล์” แพนถามขึ้นหลังจากที่ทานข้าวไปได้สักพัก

 

“อร่อยมากครับ มีแต่ของที่ไมล์ชอบ” สไมล์หันไปยิ้มให้แพนก่อนจะทานข้าวต่อ

 

“ไม่หิวหรอมิน ทำไมเขี่ยข้าวละ” คริสตัลที่สังเกตสักพักได้แล้วว่าจัสมินเอาแต่นั่งเขี่ยข้าวอยู่แบบนั้น

 

“หรือกับข้าวไม่ถูกปากหรอลูก” แพนถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง

 

“ปะ เปล่ะฮะ คือมิน...” มินก้มหน้าไม่ตอบเพราะไม่กล้าบอกว่าเครียดเรื่องจีซัสอยู่

 

“อย่าคิดมากนะมิน ยังไงพี่ก็ไม่มีทางให้มินไปอยู่ที่นั่นนานหรอก พี่ต้องพามินกลับมาอยู่ที่นี่ให้ได้” คริสตัลที่พอเข้าใจจัสมิน จึงเอื้อมมือไปจับมือน้องชายไว้เพื่อให้จัสมินมั่นใจในคำพูดตนเอง

 

“ใช่ๆ ไมล์ก็ไม่ยอมให้มินไปอยู่ที่ที่แบบนั้นหรอก ไมล์จะช่วยอีกแรง” สไมล์จึงเอื้อมมือไปจับมือมินไว้ด้วย

 

แพนมองภาพนั้นด้วยน้ำตาคลอรู้สึกรักเด็กสามคนนี้มาก สไมล์ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่คนในครอบครัวแต่ก็พร้อมที่จะช่วยจัสมินเต็มที่

 

“ขอบใจไมล์มากนะลูก แม่มีความสุขจังที่เห็นเราสามคนรักกันแบบนี้” แพนเอ่ยไปเช็ดน้ำตาไป

 

“ยังไงพวกเราก็เพื่อนกันครับ เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อนอยู่แล้ว” สไมล์มองหน้าแพน แล้วหันไปมองคริสตัลและจัสมินด้วยรอยยิ้ม

 

“ขอบคุณนะไมล์ ไมล์ทำให้มินรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย สมกับที่เป็นไมล์” จัสมินยิ้มออกมาจนลืมเรื่องจีซัสไปได้ชั่วคราว

 

คริสตัลเมื่อเห็นว่าจัสมินเริ่มผ่อนคลายจึงสบายใจขึ้นมาบ้าง

 

“พรุ่งนี้เราไปเดินเล่นที่ห้างกันมั้ย นานๆ จะได้อยู่ครบสามคน” สไมล์เอ่ยชวน เพราะส่วนมากทั้งสามจะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวด้วยกันเพราะบ้านสไมล์ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย และอีกหนึ่งเหตุผลคือสไมล์ไม่อยากให้จัสมินเครียดเรื่องจีซัสด้วย

 

“เอ่อ..คือ” จัสมินอ้ำอึ้งเพราะถ้าตนเองและคริสตัลไม่อยู่ ใครจะอยู่กับแม่

 

“ไปเถอะมินและคริส แม่อยู่คนเดียวได้นะ ตอนที่มินและคริสไปโรงเรียนแม่ยังอยู่ได้เลย” แพนต้องการให้มินคลายเครียดบ้างจึงอนุญาตให้ลูกชายทั้ง 2 ไป

 

“ครับแม่” คริสตัลหันไปตอบแม่

 

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้มาหานะ วันนี้ไมล์กลับเลยละกันเดี๋ยวมีธุระต้องไปต่ออีก แม่ครับไมล์กลับแล้วนะ” สไมล์ลุกขึ้นก่อนจะลาจัสมินและคริสตัลแล้วหันไปบอกแพนแล้วยกมือไหว้

 

 

 

+++++++++++++++

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา