[Man Vandalism] นรกร้าย ผู้ชายป่าเถื่อน
เขียนโดย Nami1412
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 01.31 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Man Vandalism - ChapTer 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
AuThor : นามิ
“พี่คริสฮะ” หลังจากที่มาถึงโรงเรียนทั้ง 2 ก็ไปนั่งรอเพื่อนๆ ที่โต๊ะประจำใต้ต้นจามจุรี คริสตัลจึงหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านตามเคย จัสมินมินจึงเรียกคริสตัลขึ้น
“ว่าไง” คริสตัลตอบกลับเสียงเรียบ แต่หน้าก็ไม่ละจากหนังสือเรียน
“มินว่าแม่แปลกๆ นะฮะ” จัสมินมินพูดตามที่ตนเองคิด คริสตัลจึงเงยหน้าขึ้นมามองจัสมินทันทีเพราะคริสตัลก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นละ” คริสตัลถามขึ้นเพราะอยากจะรู้เหตุผลของน้องชายว่าตรงกับที่ตนเองคิดไว้หรือเปล่า
“ก็เมื่อเช้าผมเห็นแม่เหม่อๆ ด้วย สีหน้าก็เครียดเหมือนกำลังมีเรื่องให้คิดหนักอยู่” จัสมินจึงบอกเหตุผลตนเองให้คริสตัลฟัง
คริสตัลจึงนึกย้อนไปเมื่อตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน แม่บอกไว้ว่าจะกลับตอนดึกๆ เพราะบอกมีธุระสำคัญ หรือเพราะธุระที่สำคัญของแพน จึงทำให้แพนมีสีหน้าที่เครียดแบบนี้
“ก็ไม่แน่ เห็นแม่บอกมีธุระสำคัญคงจะเป็นเรื่องนี้แหละ” คริสตัลคิ้วขมวดเพราะรู้สึกสงสัยกับธุระของแม่ขึ้นมาตะหงิดๆ
“ผมอยากช่วยแม่จัง” จัสมินทำหน้าหงอยๆ เพราะรู้ว่ายังไงตนช่วยอะไรแม่ไม่ได้ อาจเป็นเพราะจัสมินยังเด็กด้วย แพนจึงไม่ได้บอกอะไรมาก
“เอาไว้เราค่อยไปถามแม่กันดีกว่า เผื่อช่วยอะไรได้บ้าง” คริสตัลบอกกลับ ก่อนจะก้มอ่านหนังสือเรียนต่อเพราะไม่อยากคิดอะไรตอนนี้และเช้านี้ก็มีสอบด้วย
“มินก็ว่างั้นแหละ” จัสมินจึงหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านบ้างแต่เหมือนว่าทั้งคริสตัลและจัสมินจะไม่มีสมาธิในการอ่านสักเท่าไหร่เพราะมัวแต่คิดเรื่องแม่ตนเองอยู่
“โย่ว! 2 พี่น้องคุยอะไรกันแลเครียดๆ” เสียงใสของเพื่อนอีกคนเดินมาทักทายทั้งคู่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ คริสตัล
“เครียดเรื่องแม่นิดหน่อยอะไมล์” จัสมินเป็นคนตอบเมื่อเห็นว่าคริสตัลยังนั่งเงียบอยู่
“เครียดทำไมละ ปรึกษาไมล์ได้นะ” สไมล์ฉีกยิ้มตามฉบับของตนเอง
“เหมือนแม่มีความลับ” คริสตัลที่นั่งเงียบอยู่สักพักก็พูดแทรกจัสมินที่กำลังอ้าปากจะพูด จัสมินจึงบ่นอุ้บอ้บในลำคอแต่ไม่ได้จริงจังนัก
“เอาน่า แม่คงไม่อยากให้คริสกับมินกังวลไง ถ้าแม่พร้อมเดี๋ยวแม่ก็บอกเราเองแหละเข้าใจแม่หน่อยนะ” สไมล์พยายามอธิบายให้จัสมินเข้าใจความรู้สึกของแพนในตอนนี้ เพราะสไมล์ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
“สมกับที่เป็นไมล์ ทำให้มินคิดอะไรได้เยอะเลย” จัสมินยกมือหยิกแก้ม 2 ข้างของสไมล์อย่างหมั่นเขี้ยว ส่วนคริสตัลก็นั่งมองจัสมินกับสไมล์เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะก้มลงอ่านหนังสือเรียนต่อ
“โอ้ย! เจ็บนะมิน” สไมล์ทำหน้างอเมื่อถูกแกล้ง จัสมินจึงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆ ก็แก้มไมล์นุ๊มนุ่ม มินเลยอดใจไม่ไหวก็เลยหยิกแรงไปหน่อย” จัสมินทำหน้าทะเล้นเมื่อเห็นแก้มของสไมล์มีรอยแดงนิดๆ
“ไม่หน่อยแล้วแหละ ไมล์โกรธแล้วด้วย” สไมล์แกล้งนั่งหันหลังให้จัสมิน
“โกรธหรอ ขอโทษดีกันนะ” จัสมินก็พอรู้ว่าสไมล์แค่แกล้งแต่ก็เล่นไปตามบทแล้วเดินมาฝั่งสไมล์และชูนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อง้อ
“ก็ได้ คิคิ” สไมล์เกี่ยวก้อยกับจัสมินแล้วหัวเราะออกมากับความน่ารักของจัสมิน
“มัวแต่เล่น ไม่อ่านหนังสือเดี๋ยวก็สอบไม่ได้” คริสตัลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าจัสมินกับสไมล์ยังเล่นไม่หยุดและไม่มีทีท่าว่าจะอ่านหนังสือสอบกันเลย จึงได้เงยหน้าขึ้นมาดุทั้งคู่
“ขอโทษคร้าบบบบ” ทั้งคู่รีบขอโทษและหยุดเล่นทันที จัสมินรีบหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่าน ส่วนสไมล์ก็วิ่งกลับไปนั่งฝั่งตนเองแล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าคริสตัลจะรุ่นเดียวกันกับสไมล์ แต่สไมล์กลับรู้สึกว่าคริสตัลมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตนเองเสียด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะคริสตัลมีน้องชายบวกกับแพนอบรมสั่งสอนมาดีด้วย จึงทำให้คริสตัลเป็นที่น่าเคารพสำหรับเพื่อนในห้องเลยก็ว่าได้
หลังจากที่อ่านหนังสือกันพอหอมปากหอมคอ ทั้งสามจึงไปเข้าแถวเคารพธงชาติ เมื่อได้ยินเสียงเพลงมาร์ชที่โรงเรียนเปิดเพื่อเตือนให้นักเรียนไปเข้าแถว ก่อนจะรีบพากันวิ่งไปที่หน้าเสาธง แต่แวบหนึ่งจัสมินกลับรู้สึกวูบไหวในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
บรรยากาศระหว่างกำลังสอบจัสมินกลับไม่มีสมาธิในการสอบเอาซะเลย จัสมินรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในใจ เหงื่อค่อยๆ ผุดตามไรผมขึ้นมาเรื่อยๆ
“มินเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเหงื่อออกเยอะแบบนั้นละ” คริสตัสที่นั่งอยู่ข้างหลังกำลังตั้งใจสอบ แต่สังเกตว่าจัสมินนั่งกระสับกระส่ายอยู่ได้สักพักแล้ว จึงแอบสะกิดจัสมินเบาๆ เพราะกลัวอาจราย์จะได้ยินเข้า
“มินเป็นอะไรไม่รู้ฮะพี่คริส ทำไมวันนี้มันรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุขเหมือนจะมีเรื่องให้เครียด” จัสมินกระซิบตอบตามความรู้สึกเพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“ไปพักที่ห้องพยาบาลก่อนมั้ย เดี๋ยวพี่บอกอาจารย์ให้” คริสตัลมองหน้าจัสมินด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ดีกว่าฮะ มินไม่ได้เป็นอะไรมาก” จัสมินฝืนยิ้ม แต่หน้าก็ซีดพอสมควร
“อืม ถ้าไม่ไหวจริงๆ บอกพี่นะ” คริสตัลพยักหน้า เพราะตอนนี้กำลังสอบจึงไม่อยากเซ้าซี้อะไรจัสมินมากนัก
..
..
..
“ฟู่! เลิกเรียนซะที” คริสตัลถอนหายใจออกมา หลังจากที่สอบเสร็จไปสามวิชารวด
“ไปหาอะไรกินกันเถอะฮะพี่คริส จะได้ไม่มืดซะก่อน” จัสมินเอ่ยขึ้น เพราะตนเองรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ ขึ้นมา
“อืม ไมล์เรากลับแล้วนะ” คริสตัลหันไปบอกสไมล์ที่พึ่งวายสายโทรศัพท์ไป
“อื้ม เราก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เจอกันวันจันทร์นะ” สไมล์ฉีกยิ้มก่อนจะโบกมือลาทั้งคู่ แล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่
“แล้วเจอกันนะไมล์” จัสมินและคริสตัลจึงพากันเดินกลับบ้านและคริสตัลก็พาจัสมินแวะร้านอาหารเพื่อทานข้าวกันก่อน จากนั่นก็พาเดินกลับบ้าน
“แม่ยังไม่กลับอีกหรอเนี่ย” เมื่อทั้ง 2 มาถึงบ้าน ก็ยังไม่เห็นแพนกลับมา บ้านก็มืดและเงียบ
“ก็แม่บอกจะกลับค่ำๆ นี่นา” คริสตัลบอก ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าประตูรั้วบ้านเปิดอยู่และถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าประตูในบ้านเปิดอยู่ เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดไฟในบ้าน ทั้งคู่จึงไม่ได้สังเกตอะไรมากนัก
“เห้ย! พวกแกเป็นใคร” จัสมินได้ยินเสียงคริสตัลตะโกนเสียงดังจึงรีบวิ่งเข้าไปดู ก็เจอกับผู้ชายสี่ถึงห้าคน ใส่สูทสีดำยืนเฝ้าหน้าประตูในบ้านของตนเอง
“หึหึ” เสียงหัวเราะของชายอีกคนนั่งอยู่ตรงโซฟา แต่จัสมินและคริสตัลไม่เห็นหน้าเพราะชายคนนั้นหันหลังให้อยู่ ก่อนที่ไฟในบ้านจะสว่างขึ้น
“พวกคุณเป็นใครฮะ มาทำอะไรที่บ้านผม” จัสมินเดินเข้าไปถามชายคนนั้นที่นั่งอยู่ตรงโซฟาโดยไม่เกรงกลัว เพราะการที่มาบุกรุกบ้านคนอื่นมันก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้านที่จะทำอะไรก็ได้
“ถึงนายไม่ถามฉันก็จะบอก ฉันชื่อ “จีซัส” เป็นเจ้าหนี้ของพวกนาย” จีซัสลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ต่างจากจัสมินและคริสตัลที่สูงเพียงแค่ไหล่ของจีซัสนั้นเอง ทำให้จัสมินรู้ว่าจีซัสสูงและเท่มากๆ และที่สำคัญยังหล่อเหลาเอาการด้วย
“เจ้าหนี้งั้นหรอ หมายความว่าไง” คริสตัลเงยหน้ามองคนตรงหน้า ก่อนจะถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็แม่ของพวกนายไปยืมเงินฉันมาแล้วไม่มีจ่าย” จีซัสมองหน้าร่างบางตรงหน้า ยอมรับว่าสนใจร่างบางตรงหน้าอยู่ไม่น้อย
“แล้วแม่ติดหนี้คุณอยู่เท่าไหร่ฮะ” จัสมินถามขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ คริสตัลจึงจับมือมินไว้แน่น เพราะรู้ว่าจัสมินกลัวคนพวกนี้
“สามล้าน” จีซัสตอบเสียงเรียบ แต่คนที่ฟังกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จีซัสยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าของร่างบางตรงหน้า
“ทำไมเยอะจัง แล้วแบบนี้จะทำไงดีละฮะพี่คริส” จัสมินหันไปถามคริสตัล แต่คริสตัลในเวลาก็คิดอะไรไม่ออกเช่นกันจึงได้แต่ทำหน้านิ่งๆ
“แล้วแม่พวกผมอยู่ไหนครับ” คริสตัลถามจีซัสขึ้นเมื่อนึกถึงแม่ตนเอง
“ไอ้ซันไปพาเข้ามา” จีซัสหันไปบอกชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่ชายชุดดำจะออกไปหน้าบ้าน สักพักแพนก็เดินเข้ามาในบ้านโดยมีชายชุดดำ 2 คนเมื่อกี้เดินตามหลังมาติดๆ
“แม่ฮะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ละฮะ” จัสมินโผลเข้ากอดผู้เป็นแม่ แพนอ้าแขนรอรับกอดของลูกอย่างเป็นห่วง เพราะกลัวว่าจีซัสจะทำอะไรกับลูกๆ ของเธอ
“แม่ขอโทษนะคริสตัล จัสมิน แม่ขอโทษ..อึกๆ” แพนร้องไห้ออกมากับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป คริสตัลเดินมากอดแพนเพื่อหวังจะปลอบใจ แต่ก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะแพนรู้ดีว่าคนพวกนี้จะไม่ยอมกลับไปจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ นั่นคือสิ่งที่แพนไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ใช่ความผิดของแม่นะฮะ...อึกๆ ...ไม่ใช่...เป็นเพราะพวกผม...อึกๆ ...ต่างหาก” จัสมินสะอื้นไม่หยุด ทั้งกลัวพวกจีซัสและกลัวแพนจะถูกทำร้ายด้วย ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกระแวงไปหมด
“เป็นเพราะพวกผมที่ทำให้แม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไปใช่มั้ยครับ” คริสตัลพูดต่อจากจัสมิน เพราะเขาเองก็คิดแบบเดียวกับน้องชายเช่นกัน
“พวกผมเอาแต่เล่น...อึกๆ ...ไม่เคยช่วยอะไรแม่เลยใช่มั้ยฮะ...แม่เลยต้องทำแบบนี้” จัสมินเงยหน้าขึ้นมาถามแพนทั้งน้ำตา
“ไม่ใช่นะ คริสกับมินไม่ผิดนะ เป็นเพราะแม่เอง แม่เองที่ผิด” แพนกอดลูกชายทั้ง 2 แน่นเพราะความผิดทั้งหมดเป็นของเธอ ลูกๆ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย มีแต่เธอสร้างปัญหาไว้ทั้งนั้น
“ใม่ใช่...อึกๆ” จัสมินกำลังจะพูด
“คุยกันเสร็จยัง” จีซัสพูดตัดบท เพราะนั่งฟังมาได้สักพักแล้ว
“แล้วผมและแม่จะหาเงินมาคืนให้นะครับ” คริสตัลผละออกจากอ้อมกอดแพนแล้วหันไปบอกจีซัส แต่จีซัสกลับยิ้มแสยะอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
“ไม่ได้! ฉันให้โอกาสแม่นายหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายต้องเอาเงินมาคืน แต่ถ้าไม่ได้ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน” จีซัสยื่นคำขาดเพราะเขาก็ต้องรายงานเรื่องนี้ให้พ่อรับรู้เช่นกัน
“คุณจีต้องการอะไรในบ้านเอาไปได้เลยค่ะ ฉันไม่ห้าม” แพนเอ่ยทั้งน้ำตาพลางกอดลูกๆ ทั้ง 2 กลัวเหลือเกิน กลัวว่าสิ่งที่จีซัสต้องการนอกจากเงินจะเป็น....
“อะไรก็ได้งั้นหรอ” จีซัสถามอีกครั้ง และจ้องไปที่เด็กหนุ่มทั้ง 2 อย่างพิจารณา ยิ้งทำให้แพนกระชับกอดลูกชายทั้ง 2 แน่น
“ค่ะ ฉันให้ได้...หมด” แพนกลั้นใจตอบ ถึงแม้ว่าจะให้ทุกอย่างที่จีซัสต้องการไม่ได้ทั้งหมด แต่แพนก็จำเป็นต้องตอบเผื่อจะมีปาฏิหาริย์ดลใจไม่ให้จีซัสเลือกสิ่งที่แพนกลัวอยู่ในตอนนี้
“ผมต้องการเด็กคนนี้” จีซัสชี้ไปที่หนึ่งในเด็กหนุ่มทั้ง 2 ที่กอดแพนแน่น
“คนไหนวะมึง” ซันซัสที่ยืนอยู่ข้างๆ จีซัสถามขึ้น
“มึงจะอยากรู้ไปทำไม” จีซัสไม่ตอบแต่หันไปยิงคำถามสั่นซัสด้วยความสงสัย
“เผื่อเป็นคนเดียวกับที่กูเล็งไว้อยู่ไง” ซันซัสตอบอย่างไม่เกรงกลัวจีซัส ทำให้จัสมินแปลกใจเล็กน้อยที่ลูกน้องไม่มีท่าทีว่าจะกลัวเจ้านายเลย
“แล้วถ้าเป็นคนเดียวกับที่มึงเล็งไว้ละ” จีซัสใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างกวนๆ จัสมินใจกระตุบวูบเมื่อเห็นจีซัสทำหน้ากวนๆ กับรู้สึกเท่ในความคิดจัสมิน
“กูรู้ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน” ซันซัสตอบ เพราะเขาสังเกตได้ว่าสายตาที่จีซัสมองเด็กหนุ่มทั้ง 2 นั้น สายตาจีซัสจะมองไปที่อีกคนมากกว่า
“แล้วมึงจะถามกูทำไมวะไอ้ซัน ถ้ามึงรู้ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน” จีซัสบ่นออกมาไม่จริงจังนัก จีซัสก็รู้ว่าซันซัสเล็งเด็กคนนี้ไว้อยู่ เพราะตอนที่ซันซัสพาแพนเดินเข้ามาในบ้าน จีซัสสังเกตซันซัสซัสจ้องหน้าเด็กหนุ่มอีกคนไม่วางตาเลย
“ผมต้องการลูกของคุณมาแลกเปลี่ยน” จีซัสหันมาย้ำเพื่อให้แพนได้ยินกับสิ่งที่ตนเองต้องการ
“ไม่ได้นะ ฉันให้ไม่ได้นี่ลูกชายของฉันนะคะคุณจี ถ้าคุณเอาลูกชายไปจากฉันหมด แล้วฉันจะอยู่กับใคร” แพนกอดลูกชายทั้ง 2 แน่น น้ำตาไหลนองกอดลูกชายด้วยความหวงแหน
“ใครบอกว่าผมจะเอาลูกคุณไปทั้ง 2 คนละ” จีซัสยกยิ้มมุมปาก และหันไปจ้องเด็กหนุ่มอีกคนที่ร้องไห้สะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่
“หมายความว่ายังไงคะ” แพนถามขึ้นด้วยความสงสัย จริงอยู่ที่แพนคิดไว้ว่าจีซัสต้องการลูกๆ ของเธอมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่แพนคิดว่าจีซัสจะเอาลูกๆ ของเธอไปทั้ง 2 คน
“ผมอยากได้แค่คนเดียวและก็ต้องเป็นคนนี้” จีเดินมากระชากแขนของจัสมินให้ลุกขึ้น จัสมินสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะคิดไม่ถึงว่าจีซัสจะเลือกตนเอง
“ปล่อยผมนะ ปล่อย!” จัสมินพยายามสะบัดแขนออก แต่ก็สู้แรงจีซัสไม่ได้
“ปล่อยน้องผมเถอะนะครับ แล้วพาผมไปแทน” คริสตัลลุกขึ้นมาจับข้อมือของจีซัสไว้
“ไม่ได้นะคริส แม่ไม่ให้ใครไปทั้งนั้นแหละ” แพนแทบจะขาดใจเมื่อเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
“ฉันต้องการน้องของนาย ส่วนนายก็อยู่กับแม่ไป” จีซัสสะบัดข้อมือเล็กออกแต่ไม่แรงมากนักพราะสายตาซันซัสจ้องมาที่ตนเองเป็นเชิงบอกว่าอย่าทำเด็กคนนี้แรงมากนัก
“ขอละค่ะคุณจี อย่าเอาลูกฉันไปเลยนะ ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของฉัน” แพนคลานมาจับขาของจีซัสไว้ น้ำตาไหลอาบทั่วแก้ม จีซัสชะงักนิดนึงที่แพนทำแบบนี้
“ก็คุณบอกเอาว่าอยากได้อะไรก็เอาไป ผมก็ทำตามแล้วไง” จีซัสมองหน้าแพนด้วยใบหน้านิ่งๆ ยอมรับว่ารู้สึกสงสารเล็กน้อย เพราะยังไงแพนก็คือผู้หญิง แต่จีซัสไม่มีทางเลือกเลยต้องนำลูกของเธอมาเป็นตัวประกัน เพราะสิ่งของในบ้านเมื่อนำไปขายมันยังไม่ได้ถึงครึ่งนึงของเงินที่ยืมมาเลย
“ไม่ ต้องไม่ใช่มินสิคุณจี..อึกๆ” แพนยังคงร้องไห้ไม่หยุด คริสตัลรู้สึกสงสารแม่ตนเองมาก แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย จึงได้แต่ยืนร้องไห้อย่างเงียบๆ
+++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ