[Man Vandalism] นรกร้าย ผู้ชายป่าเถื่อน
8.8
เขียนโดย Nami1412
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 01.31 น.
10 ตอน
1 วิจารณ์
12.54K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Man Vandalism - ChapTer 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAuThor : นามิ
“จัสมิน คริสตัล วันนี้แม่กลับบ้านดึกหน่อยนะ เลิกเรียนแล้วกลับบ้านเร็วๆ นะลูก” เสียงหญิงวัยกลางเอ่ยบอกลูกชายทั้งสองคน ขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งทานข้าวอยู่ห้องครัวเพราะวันนี้เธอมีธุระที่สำคัญต้องไปทำ และเธอจะรอให้ลูกๆ ไปโรงเรียนก่อนแล้วค่อยออกไปทำธุระข้างนอก
“แม่จะไปไหนฮะ/ครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกัน เธอยิ้มอ่อน ๆ ให้กับลูกชายทั้งสองที่นั่งทานข้าวอยู่คนละฝั่ง
“แม่มีธุระต้องไปทำจ้ะ แต่แม่กลัวกลับมาไม่ทันทำข้าวเย็นให้ทานด้วย คริสก็พาน้องไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยกลับบ้านก็ได้นะ แต่อย่าดึกละ” แพนลูบหัวคริสตัลเบาๆ ส่วนแขนอีกข้างก็กอดจัสมินแน่น ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองแปลกใจในท่าทีของแม่ตนเองแต่ไม่มีใครกล้าถาม
“ครับ แม่อย่ากลับดึกมากนะครับ คริสเป็นห่วง” คริสกอดแพนแน่น แพนยิ้มให้กับท่าทางของลูกชายและกระชอบอ้อมกอดลูกชายทั้งสองแน่น
“ถ้าเผื่อแม่กลับเร็ว อย่าลืมแวะซื้อเค้กมาฝากมินด้วยนะฮะ” จัสมินเงยหน้าขึ้นมาบอกผู้เป็นแม่ด้วยท่าทางอ้อนๆ เพราะจัสมินชอบทานเค้กเป็นชีวิตจิตใจ ชอบจนบางครั้งแทบจะไม่ทานข้าวเลย จนแพนดุเข้าให้จัสมินจึงเลือกทานข้าวก่อนแล้วค่อยมาทานเค้กต่อ ต่างจากคริสตัลที่ไม่ชอบของหวานแต่ชอบทานอาหารรสจัด ยิ่งเผ็ดเท่าไหร่ยิ่งดีจนแพนก็แอบห่วงลูกคนนี้เหมือนกัน สรุปแล้วยังไงก็น่าเป็นห่วงทั้งคู่ บวกกับหน้าตาหวานๆ คล้ายผู้หญิงเข้าไปอีก แพนยิ่งห่วงและหวงมากกว่าเดิมอีกสิบเท่า
“เรานี่นะ ถึงแม่จะกลับเร็วแต่ยังไงก็ไม่เกินหกโมงเย็นอยู่แล้ว ซึ่งมันมืดแล้วยังจะให้แม่แวะซื้อของให้อีกหรอ” คริสตัลดุน้องชายไม่จริงจังนัก ทำให้จัสมินพองลมที่แก้มอย่างงอนๆ แต่คริสตัลก็รู้ว่าจัสมินแค่แกล้งเท่านั้น
“จ้าๆ ถ้าแม่กลับเร็วแม่จะแวะซื้อให้ทั้งคู่เลยนะ” แพนส่งยิ้มให้ลูกชายอย่างเอ็นดูและลูบหัวลูกๆ ไปด้วย ลูกชายขอทั้งทีมีหรือผู้เป็นแม่จะขัดใจ
“ผมไม่เอาเค้กนะครับ ขอเป็นเกี๊ยวเย็นโฟต้มยำทะเลดีกว่า รสจัดๆ ด้วยนะครับ” คริสตัลปฏิเสธที่แพนจะซื้อเค้กมาให้ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่เพราะมันหวานมากเกินไป ทำให้เวลาทานเค้กเสร็จคริสตัลจะรู้สึกพะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา
“อ้าวไหนพี่คริสยังบอกมินอยู่เลยว่าไม่ให้แม่แวะซื้อของตอนมืด” จัสมินถามขึ้นคริสตัล เพราะตอนแรกยังห้ามจัสมินอยู่เลยแต่ตนเองกับบอกแม่ด้วยซะงั้น
“ก็แม่บอกจะซื้อให้ พี่ไม่อยากให้แม่เสียน้ำใจ” คริสตัลรีบแก้ตัว แต่จัสมินก็รู้ว่าคริสตัลแค่แกล้งๆ พูดไปเท่านั้น แพนนั่งฟังลูกชายพูดด้วยความเอ็นดู
“รีบทานข้าวกันเร็ว เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายกันนะ” แพนบอกลูกๆ ที่นั่งคุยเถียงกันอยู่ จัสมินกับคริสตัลจึงรีบทานข้าวทันทีเพราะกลัวไปโรงเรียนสายและอีกหนึ่งเหตุผลคือกลัวแพนจะดุเอา
“พวกเราไปโรงเรียนแล้วนะฮะ” คริสตัลเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าเสร็จ แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ส่วนจัสมินออกไปรอที่หน้าบ้านแล้ว
“จ้า จะข้ามถนนดูรถดีๆ ละ ดูน้องด้วยนะคริส” แพนยิ้มให้แต่ก็ไม่วายกำชับให้คริสตัสดูแลจัสมิน เพราะจัสมินเป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดีเสมอ ใสซื่อมากสำหรับแพน ต่างจากคริสตัลที่ถึงแม้จะนิ่ง ฃๆ แต่คริสตัลก็แลดูเป็นใหญ่มากกว่าจัสมิน อาจจะเป็นเพราะคริสตัลเป็นพี่ก็เลยต้องทำเป็นตัวอย่างให้น้องดูก็ได้
“ครับ” คริสตัลตอบรับพร้อมกับยกมือไหว้แพนแล้วเดินออกไปหาจัสมินหน้าบ้านเพื่อที่จะได้ไปโรงเรียน
หลังจากที่ลูกๆ ไปโรงเรียนแล้ว แพนจึงหยิบโทรศัพท์โทรไปหาใครบางคนทันที สายตาของแพนเหม่อลอยออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย แต่ภายในใจกลับร้อนลุ่มไปหมด ไม่รู้ว่าครั้งนี้เธอจะให้คำตอบกับคนๆ นั้นยังไง แล้วถ้าคนๆ นั้นไม่ยอมขึ้นมาเธอจะทำยังไง ก่อนจะได้ยินเสียงสัญญาณบ่งบอกว่าปลายสายกดรับสายแล้ว
“จะให้ฉันไปเจอที่ไหน” แพนเอ่ยถามคนในสายเสียงเรียบๆ สีหน้าบ่งบอกว่าเครียดพอสมควร
“ได้ งั้นตอนบ่ายๆ ฉันจะไป” แพนกดวางสายด้วยใบห้นาที่อ่อนล้าเพราะเมื่อคืนก็แทบจะไม่ได้นอนเพราะเครียดเรื่องนี้พอสมควร ก่อนจะล้มตัวนอนลงที่โซฟาอย่างใช้ความคิด
“จะทำยังไงดี” น้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตา
..อีกด้านหนึ่ง..
“ไอ้ซันมึงมาหากูที่ห้องทำงานหน่อย ตามไอ้เซนต์มาด้วย” จีซัสโทรตามบอร์ดี้การ์ดที่เป็นทั้งมือขวาและมือซ้ายให้มาที่ห้องทำงานของตนเอง
[มีอะไรวะจี] ซันซัสถามขึ้น เพราะเขากำลังสั่งงานลูกน้องให้ยกของเข้าไปเก็บไว้ส่วนไหนของคลังสินค้า
“[มึงรีบมากันเถอะน่า อย่าถามมาก] จีซัสบอกปัดๆ เพราะอยากให้มาคุยที่นี่มากกว่า
[เออ เดี๋ยวไป] ซันซัสบอกก่อนจะตัดสายทิ้ง จีซัสจึงนั่งพิงเก้าอี้ราคาแพงแล้วหลับตาเพื่อพักสายตาที่นั่งเช็คงานทั้งวัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” จีซัสตะโกนออกมา บอร์ดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองจึงเปิดประตูเข้าไปทันที
“ว่าไงครับ เรียกพวกกูมาทำไม” เซนต์ซัสเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับจีซัสด้วยท่าทางกวนๆ ส่วนซันซัสก็นั่งลงที่โซฟาที่ไว้สำหรับคุยเรื่องงาน
“กูเบื่อว่ะ” จีซัสพูดอย่างเซ็งๆ เพราะช่วงนี้เขาต้องหมกมุ่นอยู่กับงานตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกเบื่อๆ
“เบื่อแล้วให้พวกกูทำไงวะ หรือจะให้พวกกูใส่คอสเพลย์มาเต้นให้มึงดูแบบนี้ปะ” เซนต์ซัสเสนอไอเดีย แต่เป็นไอเดียที่จีซัสอยากจะถีบเข้าที่หน้ามากกว่า
“เดี๋ยวกูกก็ตัดเงินเดือนหรอก” จีซัสขู่ไม่จริงจังนัก
“มึงกล้าเปล่า” เซนต์ซัสถามอย่างไม่กลัว เพราะรู้ว่าจีซัสแค่ขู่เล่น ๆ
“กูเคยตัดเงินเดือนมึงปะละ” จีซัสถามกลับ
“ไม่” เซนต์ซัสตอบกลับ จีซัสจึงยกยิ้มมุมปาก
“ไอ้นี่ก็นั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา” จีซัสอดที่จะแขวะอีกคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ที่โซฟาไม่ได้
“ไอ้ซัน”
“ไอ้ซัน”
“ไอ้ซัน”
“ไอ้ซันโว้ยยย!” เสียงจีซัสตะโกนลั่นใส่หูของซันซัสอย่างเสียงดัง ทำให้ซันซัสสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเสียงของจีซัสแสบไปถึงแก้วหูของเขา
“อะไรของมึงวะจี ตะโกนทำเชี่ยไร” ซันซัสพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
“แล้วมึงเป็นเชี่ยไรมาหงุดหงิดใส่กูเนี่ย” จีซัสพูดอย่างขำๆ ไม่ได้รู้สึกโกรธที่ซันซัสหงุดหงิดใส่
“ไม่มีไร” ซันซัสตอบแบบปัดๆ
“หน้าอย่างมึงมีอะไรให้คิดวะ” จีซัสถามอย่างกวนๆ ซันซัสจึงมองอย่างเคืองๆ
“อย่ามองกูแบบนั้นสิ กูถามด้วยความหวังดี” จีซัสทำหน้าทะเล้น นานๆ ทีจะได้มีโอกาสแกล้งซันซัสบ้าง เพราะส่วนมากจะติดเรื่องงานกันตลอด
“มึงจะกวนตีนมันอีกนานไหมจี เดี๋ยวมันก็ประเคนให้มึงหรอก” เซนต์ซัสนั่งมองจีซัสมาได้สักพักก็พูดขึ้น
“กูอยากจะให้มันประเคนมาจริงๆ เห็นนั่งหน้านิ่งกูอยากให้มันออกกำลังบ้าง” จีซัสพูดอย่างขำๆ
“ตกลงมึงเรียกกูทำไม” ซันซัสพูดแทรก
“เออบ่ายนี้กูมีนัด จะให้มึงหรือไอ้เซนต์ไปกับกู” จีซัสถาม เพราะซันซัสกับเซนต์ซัสต้องแยกกันไปขับรถให้จีซัสกับไมยราพ
“ที่ไหน” ซันซัสถามจีซัสที่นั่งเช็ครายชื่อบรรดาลูกหนี้ที่ติดเงินเขาไว้อยู่
“ร้านxxx” จีซัสตอบ
“มึงไปขับรถให้คุณท่านละกัน ส่วนกูจะไปกับไอ้จี” ซันซัสหันไปบอกฝาแฝดน้องชายที่นั่งรอคำตอบจากที่ชาย แต่พอได้ฟังคำตอบก็ทำให้เซนต์ซัสถึงกับเซ็ง
“อีกและ ทำไมมึงชอบให้กูขับรถให้คุณท่านจังวะ” เซนต์ซัสพูดอย่างเซ็งๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปกับคุณท่าน แต่เพราะคุณท่านชอบซื้อของให้เป็นค่าตอบแทนที่เป็นคนขับรถให้ ทำให้เซนต์ซัสเกรงใจอยู่ไม่น้อย แต่คุณท่านกับบอกว่าเป็นค่าชดเชยที่ทำให้พ่อแม่เขาตายในหน้าที่
“ก็ดีไม่ใช่หรอวะที่พ่อกูซื้อให้” จีซัสบอก ของในที่นี้คือ พ่อของเขาชอบซื้อพวกนาฬิกายี่ห้อดัง กางเกงราคาเฉียดแสน ไหนจะรถยนต์คันปัจจุบันที่เซนต์ซัสขับด้วย ส่วนซันซัสที่ไม่อยากไปกับไมยราพ เพราะไมยราพชอบแซวเขาทุกเรื่องที่มีโอกาสซึ่งไม่ต่างกันเลยทั้งไมยราพและจีซัส เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก และอีหหนึ่งเหตุผลก็เหมือนกับเซนต์ซัสที่ไมยราพชอบซื้อของให้เขาทุกอย่างเพื่อชดเชยความผิด
“มันก็ดี แต่กูเกรงใจ” เซนต์ซัสพูดเสียงเบาๆ เมื่อเห็นไมยารพกำลังเดินผ่านห้องทำงานของจีซัสที่พวกเขาคุยกันอยู่
“เป็นพูดเสียงเบาจังวะ” จีซัสถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“คุณท่านเดินผ่าน” ซันซัสเป็นฝ่ายตอบ
“แล้วใครไม่ปิดประตูห้องวะ” จีซัสหันไปมองประตูก็พบว่าเปิดอยู่
“กู” ซันซัสตอบสั้นๆ แต่ยังคงหน้านิ่ง
“โถ่! ไอ้คุณซันซัสครับ ไม่ต้องเก๊กขนาดนั้นก็ได้” จีซัสพูดอย่างหมั้นไส้ที่ซันซัสยังเก๊กหน้านิ่ง
“เสือก!” ซันซัสพูดต่อทันทีที่จีซัสพูดจบ จีซัสมองซันซัสตาเขียวปัดแล้วชูนิ้วกลางให้
“พอๆ สงบศึกไอ้คุณชาย” เซนต์ซัสรีบห้ามศึกสงคราม ระหว่างจีซัสและซันซัส
“แล้วจะไปกี่โมง” ซันซัสถามจีซัสที่ชูนิ้วกลางมาทางเขาค้างไว้อยู่
“ออกไปเลยก็ได้ กูเบื่ออยู่บ้าน” จีซัสยกนิ้วลง ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวออกไปพบลูกหนี้ที่นัดไว้
“แล้วมึงละ” ซันซัสหันมาถามน้องชายบ้าง
“ไม่รู้ คุณท่านมีนัดหรือเปล่าวันนี้” เซนต์ซัสส่ายหน้าไปมา เพราะเขากับซันซัสจะสลับเป็นคนขับรถให้ไมยราพ แล้วแต่ว่าใครมีธุระที่ไหน ถ้าเป็นทางเดียวกับจีซัส คนนั้นก็ไปกับจีซัส ส่วนอีกคนก็ไปขับรถให้คุณท่าน
“กูไม่รู้ กูไม่ใช่คุณท่าน” ซันซัสตอบอย่างกวนๆ แต่หน้าก็ยังคงนิ่งตามฉบับตนเอง แล้วเดินออกไปจากห้องทันที
“ไอ้นี่ หน้านิ่งแต่กวนตีนชิบหาย” เซนต์ซัสอดที่จะด่าพี่ชายตนเองไม่ได้กับความกวนตีนกับหน้านิ่งๆ ของซันซัส
“พี่ใครละ” จีซัสถาม
“พี่กู” เซนต์ซัสตอบ
“เออ ก็พี่มึง” จีซัสบอกแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
“อะไรของมันวะ” เซนต์ซัสคิ้วขมวดไม่เข้าใจกับคำพูดของจีซัส ก่อนจะเป็นคนสุดท้ายที่เดินออกจากห้องทำงานของจีซัส
..
..
..
“ไหนลูกหนี้ของมึงวะจี” ซันซัสถามขึ้นและมองหาบุคคลที่จีซัสนัดไว้ จีซัสยกโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาลูกหนี้ที่นัดไว้
“อยู่นี่ค่ะ” เสียงผู้หญิงดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันไปมองก็พบว่านั่งหญิงวัยกลางนั่งอยู่โต๊ะด้านหลังของพวกเขาให้มองไม่เห็น
“ขอโทษครับ พอดีมองไม่เห็น” ซันซัสพูดขอโทษ ก่อนทั้งคู่จะนั่งลงฝั่งตรงข้ามหญิงวัยกลาง
“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงวัยกลางส่งยิ้มให้ ทำให้ซันซัสกระตุบวูบ ไม่ใช่เพราะชอบ แต่เพราะเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงวัยกลางคนนี้
“เข้าเลยก็แล้วกัน ตกลงหนี้ว่าไง” จีซัสเข้าประเด็นที่จะมาคุยในวันนี้ เพราะเขาต้องกลับไปรายงานพ่อตนเองเรื่องนี้ด้วย
“คือดิฉันขอเวลา...” แพนกำลังจะพูดขึ้น
“ไม่ได้! คุณเลื่อนนัดผมมาหลายครั้งแล้ว” จีซัสพูดแทรก เขาไม่อยากเป็นคนใจร้าย แต่เขาพึ่งเข้ามารับตำแหน่งมาเฟียได้ไม่นาน เขาต้องมีหน้าที่รายงานเรื่องลูกหนี้กับพ่อของเขา
“แต่ดิฉันไม่มีเงินใช้คุณจีเลยตอนนี้ ขอเวลาให้ดิฉันหน่อยนะคะ” แพนตอบด้วยเสียงสั่น ๆ เพราะเธอก็หมดปัญญาเรื่องนี้แล้วจริงๆ
“ผมอยากให้เวลาคุณนะ แต่ผมก็ต้องรายงานให้พ่อผมทราบเหมือนกัน แต่ละคนก็มีหน้าที่การงานต้องทำ ถ้าครั้งนี้ผมให้เวลาคุณอีก แล้วผมจะบอกพ่อยังไง” จีซัสพูดด้วยความสุภาพ เขาเองก็รู้สึกถูกชะตากับแพนเช่นกัน
“ดิฉันเข้าใจค่ะ แต่ดิฉันก็มีลูกสองคนที่ต้องดูแลเหมือนกัน เพราะพ่อของลูกก็จากพวกเราไปแล้ว ดิฉันเป็นคนเดียวที่เลี้ยงดูพวกเขา” แพนบอกเหตุผลของตนเองและนึกถึงใบหน้าของจัสมินและคริสตัลไปด้วย
“ลูกคุณอายุเท่าไหร่กันแล้ว” จีซัสถามต่อเมื่อรู้ว่าแพนมีลูกสองคน เพราะเขาอาจจะเอาไปเป็นตัวประกันขัดดอกให้กับเขา
“16 ค่ะ เป็นเด็กผู้ชายฝาแฝด” แพนตอบกับด้วยเสียงสั่นๆ
“ฝาแฝดหรอ” เป็นเสียงซันซัสที่เอ่ยขึ้น จีซัสหันไปมองหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้ถามอะไร
“พาผมไปที่บ้านของคุณหน่อยสิ” จีซัสหันมาบอกแพนด้วยเสียงนิ่งๆ ทำให้แพนชะงักเล็กน้อย
“ได้ค่ะ” แพนตอบเสียงแผ่วเบา เพราะไม่เข้าใจว่าจีซัสจะไปทำอะไรที่บ้านของตนเอง
“งั้นก็ไปกันเลย” จีซัสลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้แพนมองอย่างอึ้ง ๆ เมื่อเห็นจีซัสแบบเต็มตัว เพราะที่ผ่านมาแพนเห็นเฉพาะแค่ตอนนั่งเท่านั้น
“คุณไปรถพวกผมละกัน จะได้บอกทางไปด้วย” ซันซัสบอกก่อนจะเดินนำไปที่รถ
“ซัน มึงโทรบอกเซนต์เอาลูกน้องมาสมทบด้วย” จีซัสบอกซันซัสก่อนจะขึ้นรถไป ตามด้วยแพน
“เออ” ซันซัสตอสตอบสั้น ๆ แล้วกดโทรบอกเซนต์ซัส
+++++++++++++++
อย่าลืมเม้นให้กำลังใจน้องจัสมิน น้องคริส และน้องสไมล์นะคะ ><
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ