short time ผ่านมาให้จำ
เขียนโดย เสี่ยงชือหั่วกัว
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.33 น.
แก้ไขเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2559 18.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) 9 ตุลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 6
@ร้านข้าวต้ม
ชอบจัง.....
อากาศเย็นสบายได้นั่งซดข้าวต้มร้อนๆกับหนุ่มหล่อๆ
ถ้าไม่ติดเรื่องที่ฉันไม่มีตัวตนในยุคนี้ฉันคงไม่กลับไปหรอก อยู่ที่นี่มาสักพักก็เริ่มชอบแฟชั่นสมัยนี้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ หน้าตาแต่ละคนดูหล่อสวยแบบธรรมชาติดี จนฉันเริ่มคิดคำถามนึงวนๆในหัวขึ้นมาว่าในอีก 40 ปีข้างหน้าธนินจะยังมีชีวิตอยู่รึเปล่านะ ถ้าฉันกลับไปได้ฉันจะตามหาบ้านของเขาให้เจอให้ได้ ดังนั้นพรุ่งนี้ฉันจะลองไปโดดสระที่ธรรมศาสตร์ดู ฉันโผล่มาตรงนั้นมันน่าจะเชื่อมกันได้
ฉันคิดพลางตักข้าวต้มใส่ปากไปมองหน้าหล่อๆของผู้ชายยุคคุณพ่อไป ยิ่งมองยิ่งเพลิน
เฮ้อ....มีความสุขจริงๆชีวิตวัยเกือบขึ้นคานของฉัน^^
“พรุ่งนี้จะมีการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ เธอจะไปพร้อมกับฉันมั้ย”
“พ่อคุณไม่ว่าเหรอ”
“เค้ายุ่งจะตายคงไม่รู้หรอก”
“หน้ามีรอยช้ำเพิ่มอีกรึเปล่าน่ะ”
“รู้จักเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ^^”
“^^” ฉันตักข้าวต้มเข้าปากแก้เขิน ผู้ชายสมัยนี้มันร้าย>///<
แล้วเราก็นั่งกินไปเรื่อยๆ จนชายสามคนเดินเข้ามาในร้าน ฉันดันไปสบตาหนึ่งในนั้นเข้า
“พี่จอร์จ!!”หนึ่งในลูกน้องของนายยอดสะกิดลูกพี่ให้หันมาทางนี้
“อ้าว น้องเผือกนี่นา^^” นายยอดเดินนำลูกน้องมาทางนี้ แล้วถือวิสาสะลากเก้าอี้ออกมานั่งลงตรงหัวโต๊ะ
“น้องเผือกกินอะไรเหรอจ้ะ”
“ร้านข้าวต้มจะให้กินอะไรล่ะจ้ะ^^”
“อู้ว คนสวยปากดี ชอบ....”ลูกน้องA
“แหมๆ ทำตาดุด้วย”ลูกน้องB
“ขอโทษนะนายยอด รู้จักศีลข้อที่ 4 อทินนาทานามั้ยคะ ว่าอย่ามายุ่งกับคนของชาวบ้าน นี่สามีฉันนั่งทำหน้าหล่ออยู่ตรงนี้แถมฉันกำลังท้องอ่อนๆได้ 2 ชั่วโมงแล้ว ที่รักช่วยพูดอะไรหน่อยสิคะ”
ฉันหันไปยิ้มหวานให้ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นสามี เขาดูหน้าเอ๋อๆงงๆไม่ต่างกันกับพวกนายยอด
“อือ ทีนี้ก็เลิกยุ่งกับเมียฉันได้แล้วกลับไปเรียนต่อไม่ก็หางานทำซะอย่ามายุ่งกับลูกเมียชาวบ้านอีกนะ”
“-0-“
สีหน้าของพวกจิ้กโก๋ดูช็อกๆไปตั้งแต่ฉันเอาศีลธรรมมาอ้าง ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่นั่งซดข้าวต้มอยู่ ไม่รู้ว่าใครควรจะอายกว่ากันระหว่างฉันที่ท้อง หรือนายยอดที่เป็นชู้ชาวบ้าน แต่ก็ได้ผลไม่ถึงนาทีต่อมาสามหนุ่มก็ถอยทับไป
.
.
.
บรรยากาศเงียบอยู่สักพัก แล้วธนินก็พูดขึ้น
“ผู้หญิงแบบนี้ก็มีด้วย? คิดยังไงถึงพูดไปแบบนั้นล่ะครับที่รัก^^”
“แน่ะ ติดใจที่ได้ภรรยาสวยเหรอคะ^^”
“ฉันน่ะไม่เดือดร้อนหรอกแต่เธอน่ะจะเสียหาย”
“หัดเป็นห่วงฉันตั้งแต่เมื่อไหร่คะที่รัก^^”
“ยัยผู้หญิงคนนี้นี่^^”
วันต่อมา
“ช่วยลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัว 13 คนด้วย”
ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ วันที่ 9 ตุลา การชุมนุมเริ่มขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว 13 ขบฐ ฉันกำลังต่อแถวเพื่อลงชื่อ อากาศร้อนๆกับกลิ่นเหงื่อของชายร่างใหญ่ตรงหน้า
ได้อารมณ์รักชาติสุดๆ
แล้วก็มีเสียงโวยวายดังขึ้น มีคนหุ้มดูอะไรสักอย่างอยู่
“มีคนชัก ช่วยหน่อยเร็ว!!!”
ฉันคิดอยู่ประมาณ 10 วิ ว่าควรจะออกจากแถวไปช่วยหรือรอคนอื่นไปช่วย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งไปทางที่มีคนห้อมล้อมอยู่แล้วฝ่าฝูงชนเข้าไป
“ฉันเป็นหมอ ขอทางหน่อยค่ะ”
มาอยู่ที่นี่ไม่ได้ทำหน้าที่ตั้งหลายวัน
พอฉันฝ่าวงล้อมเข้าไปได้ก็เห็นร่างของชายหนุ่มหน้าแว่นผิวซีดคนหนึ่งกำลังนอนนิ่ง จึงตรวจชีพจรดูพบว่ามันเริ่มเต้นอ่อนลง ต้องทำซีพีอาร์
แล้วฉันก็ลงแรงกดหน้าอกเขาเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ดีขึ้น
พอทำไปนานๆฉันจึงตัดสินใจทุบอกเขาไปหนึ่งที จนเขาผุดลุกขึ้นตาเหลือกด้วย แล้วอะไรสักอย่างก็กระเด็นออกมาจากปากเขาพุ่งมาชนหน้าผากฉันแล้วตกลงไปพื้น ฉันจึงมองตามไปในขณะที่คนที่เพิ่งฟื้นสำลักไม่หยุด พอมองตามไปก็พบว่ามันคือ ลูกอม.....
“โอ ลูกอมปลิดวิญญาณชัดๆ”
“เกือบได้ตายโง่ๆแล้วมั้ยล่ะ”
เริ่มมีเสียงนินทาระยะเผาขนดังมา ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มแยกย้ายกลับไปเข้าแถวดังเดิม
แล้วฉันก็กลายเป็นผู้ช่วยชีวิตหนุ่มแว่นหน้าจืดไว้ เขาชื่อสุชาติ เป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วเราก็กลายเป็นเพื่อนกันโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว จนถูกลากมาอยู่หน่วยพยาบาลนี่แหละ และฉันก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องว่าฉันลืมธนินไปได้ไง เขาอยู่ตรงไหนล่ะเนี่ย
เวร!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ