มนุษย์ผู้เป็นยมทูตแห่งความตาย
7.0
เขียนโดย aikn
วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.41 น.
2 chapter
0 วิจารณ์
4,438 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน พ.ศ. 2559 18.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ อายะเนะ(ผู้แต่ง)พูดคุย
วันที่ 24 เมษายน ปีxxx วันแห่งชะตากรรมที่ไม่มีวันลืมตลออดกาล บนเครื่องบินแห่งหนึ่งเหนืออังกฤษที่จะไปญี่ปุ่น มีครอบครัวหนึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่กำลังจะกลับจากการเที่ยวที่อังกฤษนั้น ได้คุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ก็มีเสียงสัญญาณเตื่อนภัยว่าเครื่องบินกำลังตก เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะช่วยสุดความสามารถแต่ก็ไม่ไหวเพราะเครื่อนยนต์ของเครื่องบินพังทำให้เครื่องบินตก แล้วทุกคนก็เสียชีวิตรวมถึง งาสึกิ คุมิโกะ และครอบครัวของเขาด้วย
ที่เป็นชาวญี่ปุ่นในเครื่องบินนี้ด้วยเพราะในเครื่องบินมีแต่ชาวอังกฤษมีแต่ครอบครับเขาที่เป็นชาวญี่ปุ่น
อายะเนะ(ผู้แต่ง)จบการพูดคุย
งาสึกิ คุมิโกะพูดคุย
ณ ดินแดนแห่งความตาย (เขาเรียกกัยแบบนั้น)
ดิน แดนที่ไร้สีสัน มีแต่ซากกระดูกมากมายอยู่ตรงหน้าฉันคือผู้หญิงผมสีม่วงยาวเกินเอวนิดหน่อย ใส่ชุดกิโมโนสีชมพูอ่อนปนสีดำมีรูปดอกซากุระ ตาสีแดงเหมือนทับทิมผูกโบสีขาวข้างหนึ่งที่ด้านซ้าย พกมีดยาวคู่อยู่ที่เอว เธอได้เดินทาถามฉันว่า
"เธอนะ ทำหน้าเหมือนว่าเธอไม่กลัวความตายละนะ แต่ทำไมถึงร้องไห้ละ"พอผู้หญิงคนนั้นพูดจบฉันก็พึงจะรู้ตัวว่าตัวเองร้องไห้ ฉันจึงพูดว่า
"ยังไงทุกคนเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้วในสักวันหนึ่ง แต่ฉันพอเห็นพวกเขาแยกจากกับครอบครัวก็อดสงสารพวกเขาขึ้นมา"พอฉันพูดจบผู้ หญิงคนนั้้นก็ได้ถามฉันว่า
"แล้วตัวเธอละ ทั้งที่ตายไปแล้วพร้อมๆกับครอบครัวของเธอแท้ๆ ไม่กลัวเพื่อนเธอเสียใจหรอ"ฉันจึงทำหน้าเศร้าพร้อมพูดว่า
"ก็กลัวนะคะ แต่ว่าคนตายไม่สามารถคืนชีพได้"พอฉันพูดจบเธอกับหัวเราะพร้อมพูดว่า
"5 5 5 ชักถูกใจแล้วสิ"ฉันจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธนิดหน่อยว่า
"มันไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ"พอฉันพูดจบ เธอคนนั้นก็พูดด้วยเสียงจริงจังว่า
"นั้นสินะ แล้วถ้าเกิดว่ามีคนบอกว่าเธอสามารถคืนชีพได้แต่ไม่ใช่มนุษย์อีกละ"คำพูดของเธอนั้นทำให้ฉันตกใจพร้อมพูดว่า
"คุณพูดอะไรนะ"ฉันนั้นได้พุดทั้งตกใจอยู่หญิงสาวจึงพูดว่า
"เราจะบอกว่าถ้าเราทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาบนฌลกมนุษย์อีครั้งในฐานะยมทูตแต่ถ้าไม่รับเจ้าจะตายกลายเป็นวิญญาณ"คำพูดนั้นทำให้ฉันคิดว่าจะรับไว้ดีไหม
"เอาอย่างไรดีละ"ผู้หญิงคนนั้นถามฉัน ฉันจึงบอกว่า
"ตกลง ยังไงก็ดีกว่าทำให้คนอื่นเสียใจอีก"ผู้หญิงคนนั้นจึงพูดต่อว่า
"นั้นสินะ นั้นบอกชื่อเจ้ามา เราชื่อ หานาสึกิ มิกิ เป็นยมทูต"แล้วฉันก็พูดต่อว่า
"ฉันชื่อ งาสึกิ คุมิโกะ"พอฉันพูดชื่อจบก็มีวงแหวนเวทย์ปรากฎขึ้นมาแล้วเธอก็พูดว่า
"นามของเราคือ หานาสึกิ มิกิ เราขอมอดหน้าที่ยมทูตให้แก่เด็กสาวผู้นี้เถอะ"แล้ววงแหวนเวทย์ก็หาย ปรากฎแต่ ดาบ หอก และเคียวแล้วคุณหานาสึกิก็พูดว่า
"จะเอาอาวุธอันไหนก็เลือกได้แค่อันเดียวนะ"ฉันจึงนั่งคิดว่าจะเอาอาวุธอะไรจนฉันเลือกว่า
"เอาเคียว"ฉันตอบแบบนั้นคณหานาสึกิจึงพูดว่า
"จะดีหรอที่เอาเคียวเป็นอาวุธนะ"เธอพูดด้อยความสงสัย ฉันจึงตอบว่า
"ค่ะ"
"นั้นจับเคียวเลย"ฉันจับเคียวแล้วสีผมของฉันก็เปลี่ยนเป็นสีเงิน ตาก็เปลียนเป็นสีแดงเหมือนทับทิม ผูกโบสีดำสองข้าง ชุดเปลียนเป็นกิโมโนสีดำ เสื้อคลุมสีดำ แล้วคุณหานาสึกิก็พูดว่า
"เป็นชาวญี่ปุ่นหรอ"
"ค่ะ"
"คุณเองก็เป็นคนญี่ปุ่นสินะคะ"ฉันถามด้วยความสงสัย
"เคยเป็นนะ"คุณหานาสึกิตอบ
"เคยเป็น หมายความว่าไงคะ"ฉันถาม
"เราไม่อยากบอกนะ นั้นเราขอเตือนก่อนนะ"
"เตือนอะไรค่ะ"ฉันถาม
"เมื่เจ้าได้เป็นยมทูตและจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลง คือ หนึ่ง เมื่อเจ้าใช้ร่างมนุษย์หรือร่างยมทูตตัวเจ้าเมื่อใครสัมผัมตัวละก็ ตัวเจ้าจะเย็นเป็นน้ำแข็ง สอง เมื่อเจ้าใช้ร่างยมทูตแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยนไป สามเมื่อใช้ร่างยมทูตแล้ว เจ้าจะมีความสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ ชึ่งเราไม่รู้ว่าเจ้าใช้เวทย์มนต์อะไรนอกจากเจ้าจะใช้เวทย์มนต์ให้เห็นถึงจะรู้ธาตุของเจ้าว่าคืออะไร สี่ เมื่อเจ้าเป็นร่างมนุษย์แล้วจะใช้ความสามารถของยมทูตได้ 4 อย่างคือ เนตรพันลี้ ถอดจิต สัมผัมวิญญาณและโทรจิต ห้า ถ้ามีใครรู้ว่าเจ้าตายไปแล้วอาจจะถึงแก่ชีวิตได้และหก ที่ต้องระวังพวกช่างสังเกตหน่อยคือเจ้าจะไม่มีการเติบโตไม่ว่าจะเป็นความสูงหรือน้ำหนักก็ตาม"คุณหานาสึกิตอบคำถามฉันแต่คำตอบนั้นทำให้ฉันงงฉันจึงพูดว่า
"คือว่า..."
"ยังไมเข้าใจสินะ"ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบคุญหานาสึกิก็พูดต่อว่า
"ที่ไม่เข้าใจ คือ เนตรพันลี้ ถอดจิต สัมผัมวิญญาณและโทรจิตสินะ นั้นก็เริ่มจากเนตรพันลี้ก่อนละกัน เนตรพันลี้คือ การมองเห็นปีศาจหรือวิญญาณไม่ว่าอยู่ที่ไหนในระยะไกลนะ ถอดจิตคือ การที่เราสามารถถอดวิญญารของเราได้เอง สัมผัมวิญญาณคือ การไปจับตัววิญญาณได้และรูตำแหน่งวิญญาณและโทรจิตคือ การส่งความคิดของตนเองเปลี่ยนเป็นเสียงแลัวส่งให้ฝ่ายที่มีพลังเวทย์ที่เราอยากติดต่อด้วย ทีนี้คงเข้าใจแล้วสินะ"คุณหานาสึกิก้ได้พูดเสร็ดจึงถามฉัน ฉันจึงบอกว่า
"ค่ะ"ฉันตอบ
"นั้นก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ คุณยมทูตมือใหม่"
"ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ คุณหานาสึกิ"
งาสึกิ คุมิโกะจบการพูดคุย
อายะเนะ(ผู้แต่ง) พูดคุย
การเป็นยมทูตของ งาสึกิ คุมิโกะนั้นกลับไม่มีใครรู้เลยว่าตัวของเธอนั้นจะนำอันตรายมาสู่เพื่อนๆและคนรอบข้างโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
โปรดติดตามตอนต่อไปถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ แล้วถ้ามีอะไรแนะนำก็บอกได้เลยนะคะ จะนำไปแก้ไขค่ะ
ขอบคุณค่ะ
วันที่ 24 เมษายน ปีxxx วันแห่งชะตากรรมที่ไม่มีวันลืมตลออดกาล บนเครื่องบินแห่งหนึ่งเหนืออังกฤษที่จะไปญี่ปุ่น มีครอบครัวหนึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่กำลังจะกลับจากการเที่ยวที่อังกฤษนั้น ได้คุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ก็มีเสียงสัญญาณเตื่อนภัยว่าเครื่องบินกำลังตก เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะช่วยสุดความสามารถแต่ก็ไม่ไหวเพราะเครื่อนยนต์ของเครื่องบินพังทำให้เครื่องบินตก แล้วทุกคนก็เสียชีวิตรวมถึง งาสึกิ คุมิโกะ และครอบครัวของเขาด้วย
ที่เป็นชาวญี่ปุ่นในเครื่องบินนี้ด้วยเพราะในเครื่องบินมีแต่ชาวอังกฤษมีแต่ครอบครับเขาที่เป็นชาวญี่ปุ่น
อายะเนะ(ผู้แต่ง)จบการพูดคุย
งาสึกิ คุมิโกะพูดคุย
ณ ดินแดนแห่งความตาย (เขาเรียกกัยแบบนั้น)
ดิน แดนที่ไร้สีสัน มีแต่ซากกระดูกมากมายอยู่ตรงหน้าฉันคือผู้หญิงผมสีม่วงยาวเกินเอวนิดหน่อย ใส่ชุดกิโมโนสีชมพูอ่อนปนสีดำมีรูปดอกซากุระ ตาสีแดงเหมือนทับทิมผูกโบสีขาวข้างหนึ่งที่ด้านซ้าย พกมีดยาวคู่อยู่ที่เอว เธอได้เดินทาถามฉันว่า
"เธอนะ ทำหน้าเหมือนว่าเธอไม่กลัวความตายละนะ แต่ทำไมถึงร้องไห้ละ"พอผู้หญิงคนนั้นพูดจบฉันก็พึงจะรู้ตัวว่าตัวเองร้องไห้ ฉันจึงพูดว่า
"ยังไงทุกคนเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้วในสักวันหนึ่ง แต่ฉันพอเห็นพวกเขาแยกจากกับครอบครัวก็อดสงสารพวกเขาขึ้นมา"พอฉันพูดจบผู้ หญิงคนนั้้นก็ได้ถามฉันว่า
"แล้วตัวเธอละ ทั้งที่ตายไปแล้วพร้อมๆกับครอบครัวของเธอแท้ๆ ไม่กลัวเพื่อนเธอเสียใจหรอ"ฉันจึงทำหน้าเศร้าพร้อมพูดว่า
"ก็กลัวนะคะ แต่ว่าคนตายไม่สามารถคืนชีพได้"พอฉันพูดจบเธอกับหัวเราะพร้อมพูดว่า
"5 5 5 ชักถูกใจแล้วสิ"ฉันจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธนิดหน่อยว่า
"มันไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ"พอฉันพูดจบ เธอคนนั้นก็พูดด้วยเสียงจริงจังว่า
"นั้นสินะ แล้วถ้าเกิดว่ามีคนบอกว่าเธอสามารถคืนชีพได้แต่ไม่ใช่มนุษย์อีกละ"คำพูดของเธอนั้นทำให้ฉันตกใจพร้อมพูดว่า
"คุณพูดอะไรนะ"ฉันนั้นได้พุดทั้งตกใจอยู่หญิงสาวจึงพูดว่า
"เราจะบอกว่าถ้าเราทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาบนฌลกมนุษย์อีครั้งในฐานะยมทูตแต่ถ้าไม่รับเจ้าจะตายกลายเป็นวิญญาณ"คำพูดนั้นทำให้ฉันคิดว่าจะรับไว้ดีไหม
"เอาอย่างไรดีละ"ผู้หญิงคนนั้นถามฉัน ฉันจึงบอกว่า
"ตกลง ยังไงก็ดีกว่าทำให้คนอื่นเสียใจอีก"ผู้หญิงคนนั้นจึงพูดต่อว่า
"นั้นสินะ นั้นบอกชื่อเจ้ามา เราชื่อ หานาสึกิ มิกิ เป็นยมทูต"แล้วฉันก็พูดต่อว่า
"ฉันชื่อ งาสึกิ คุมิโกะ"พอฉันพูดชื่อจบก็มีวงแหวนเวทย์ปรากฎขึ้นมาแล้วเธอก็พูดว่า
"นามของเราคือ หานาสึกิ มิกิ เราขอมอดหน้าที่ยมทูตให้แก่เด็กสาวผู้นี้เถอะ"แล้ววงแหวนเวทย์ก็หาย ปรากฎแต่ ดาบ หอก และเคียวแล้วคุณหานาสึกิก็พูดว่า
"จะเอาอาวุธอันไหนก็เลือกได้แค่อันเดียวนะ"ฉันจึงนั่งคิดว่าจะเอาอาวุธอะไรจนฉันเลือกว่า
"เอาเคียว"ฉันตอบแบบนั้นคณหานาสึกิจึงพูดว่า
"จะดีหรอที่เอาเคียวเป็นอาวุธนะ"เธอพูดด้อยความสงสัย ฉันจึงตอบว่า
"ค่ะ"
"นั้นจับเคียวเลย"ฉันจับเคียวแล้วสีผมของฉันก็เปลี่ยนเป็นสีเงิน ตาก็เปลียนเป็นสีแดงเหมือนทับทิม ผูกโบสีดำสองข้าง ชุดเปลียนเป็นกิโมโนสีดำ เสื้อคลุมสีดำ แล้วคุณหานาสึกิก็พูดว่า
"เป็นชาวญี่ปุ่นหรอ"
"ค่ะ"
"คุณเองก็เป็นคนญี่ปุ่นสินะคะ"ฉันถามด้วยความสงสัย
"เคยเป็นนะ"คุณหานาสึกิตอบ
"เคยเป็น หมายความว่าไงคะ"ฉันถาม
"เราไม่อยากบอกนะ นั้นเราขอเตือนก่อนนะ"
"เตือนอะไรค่ะ"ฉันถาม
"เมื่เจ้าได้เป็นยมทูตและจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลง คือ หนึ่ง เมื่อเจ้าใช้ร่างมนุษย์หรือร่างยมทูตตัวเจ้าเมื่อใครสัมผัมตัวละก็ ตัวเจ้าจะเย็นเป็นน้ำแข็ง สอง เมื่อเจ้าใช้ร่างยมทูตแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยนไป สามเมื่อใช้ร่างยมทูตแล้ว เจ้าจะมีความสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ ชึ่งเราไม่รู้ว่าเจ้าใช้เวทย์มนต์อะไรนอกจากเจ้าจะใช้เวทย์มนต์ให้เห็นถึงจะรู้ธาตุของเจ้าว่าคืออะไร สี่ เมื่อเจ้าเป็นร่างมนุษย์แล้วจะใช้ความสามารถของยมทูตได้ 4 อย่างคือ เนตรพันลี้ ถอดจิต สัมผัมวิญญาณและโทรจิต ห้า ถ้ามีใครรู้ว่าเจ้าตายไปแล้วอาจจะถึงแก่ชีวิตได้และหก ที่ต้องระวังพวกช่างสังเกตหน่อยคือเจ้าจะไม่มีการเติบโตไม่ว่าจะเป็นความสูงหรือน้ำหนักก็ตาม"คุณหานาสึกิตอบคำถามฉันแต่คำตอบนั้นทำให้ฉันงงฉันจึงพูดว่า
"คือว่า..."
"ยังไมเข้าใจสินะ"ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบคุญหานาสึกิก็พูดต่อว่า
"ที่ไม่เข้าใจ คือ เนตรพันลี้ ถอดจิต สัมผัมวิญญาณและโทรจิตสินะ นั้นก็เริ่มจากเนตรพันลี้ก่อนละกัน เนตรพันลี้คือ การมองเห็นปีศาจหรือวิญญาณไม่ว่าอยู่ที่ไหนในระยะไกลนะ ถอดจิตคือ การที่เราสามารถถอดวิญญารของเราได้เอง สัมผัมวิญญาณคือ การไปจับตัววิญญาณได้และรูตำแหน่งวิญญาณและโทรจิตคือ การส่งความคิดของตนเองเปลี่ยนเป็นเสียงแลัวส่งให้ฝ่ายที่มีพลังเวทย์ที่เราอยากติดต่อด้วย ทีนี้คงเข้าใจแล้วสินะ"คุณหานาสึกิก้ได้พูดเสร็ดจึงถามฉัน ฉันจึงบอกว่า
"ค่ะ"ฉันตอบ
"นั้นก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ คุณยมทูตมือใหม่"
"ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ คุณหานาสึกิ"
งาสึกิ คุมิโกะจบการพูดคุย
อายะเนะ(ผู้แต่ง) พูดคุย
การเป็นยมทูตของ งาสึกิ คุมิโกะนั้นกลับไม่มีใครรู้เลยว่าตัวของเธอนั้นจะนำอันตรายมาสู่เพื่อนๆและคนรอบข้างโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
โปรดติดตามตอนต่อไปถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ แล้วถ้ามีอะไรแนะนำก็บอกได้เลยนะคะ จะนำไปแก้ไขค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ