You And I เพื่อนรักกันตลอดไป

-

เขียนโดย BTS22MRT

วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.43 น.

  13 บท
  0 วิจารณ์
  15.51K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) การจากไปของพงศ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 8 การจากไปของพงศ์ The death of Mr.Phong.
 
                   วันต่อมาก็พาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ ไปดูปลาใน Underwater World ลูกๆต่างมีความสุขมากๆ เกิดความผูกพันอันแน่นแฟ้น ระหว่างพ่อลูกแบบไม่คิดว่าพ่ออาจจะอยู่ได้ไม่นาน
                   เมื่อกลับมาถึงบ้าน พงศ์เริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อนมาก ไม่สบายยืนไม่ได้ ภรรยาเห็นจึงเรียกคนขับรถมาช่วยพาไปโรงพยาบาล
                   ภรรยาว่า "ใครอยู่ข้างนอกมาช่วยที"
                   คนขับรถ "คุณผู้ชายเป็นอะไรหรอครับ"
                   ภรรยาว่า "รีบส่งโรงพยาบาลเร็วๆ"
                   คนขับรถ "ได้ครับๆ" จากนั้นก็พยุงพงศ์ขึ้นรถ รีบขับไปโรงพยาบาล          ที่หน้าห้องฉุกเฉินตึงเครียดมาก ทั้งภรรยาและแม่สามีต่างร้อนใจ กับอาการของพงศ์ เมื่อหมอออกมา
                   หมอบอกว่า "คนไข้เป็นโรคไข้หวัดที่ยังไม่เคยเจอในประเทศไทยครับ    หมอทำได้แค่ให้ยาไปตามอาการเท่านั้นครับ"
ลูกๆมาเยี่ยมพ่อต่างร้องไห้ กอดพ่อไว้แน่นอยากให้พ่อกลับบ้าน
                   ลูกๆ "พ่อ พ่อ กลับบ้านนะ ฮือๆๆ"
                   พงศ์ว่า "ไม่ต้องห่วงลูกเดี๋ยวพ่อก็กลับแล้ว ไม่ร้องไห้นะเด็กดี"
                   ภรรยาว่า "คุณเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม?"
                   พงศ์ว่า "ก็ปวดๆที่หัวนิดหน่อยอ่ะ คงไม่มีอะไรหรอก" ภรรยาได้แค่ถามอาการไม่ได้คุยอะไรดุจคู่รักเลย เฉยชามาก พอหมดเวลาเยี่ยมจึงพากันกลับบ้าน ทั้งๆที่ลูกต่างยังร้องไห้อยู่
                   คืนวันนั้น พงศ์รู้สึกปวดหัวมาก หมอจึงได้ทำการฉีดยารักษาอาการปวดและเอ็กซเรย์สมอง พบว่าเชื้อโรคนี้กินเนื้อสมองไปบางส่วนแล้ว แต่ก็ไม่อยากบอกพงศ์ แต่พงศ์ ก็คะยั้นคะยอถามให้ได้
                   พงศ์นอนอยู่บนเตียงถามว่า "หมอบอกความจริงมาเลย ผมไม่ตกใจหรอก"
                   หมอหยิบฟิล์มเอ็กซเรย์มาให้ดู บอกว่า "คุณมีเชื้อร้ายในสมองที่กินสมองไปแล้วบางส่วนครับ ทำใจดีๆไว้นะครับ หมอขอไปเอายาอีกตัวมาฉีดให้นะครับ"
พงศ์อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วคิดได้ว่าตัวเองคงใกล้ตายแล้ว มีน้ำตาเล็กน้อยไหลออกมา หมอเดินออกไปจากห้องแปบเดียว เพื่อจะไปเอายาฉีดฆ่าเชื้อมาเพิ่มให้พงศ์
พงศ์เอามือคว้าโทรศัพท์ตัวเองจากโต๊ะที่หัวเตียงมา กดเบอร์โทรอะไรบางอย่าง
                   พงศ์คุยว่า "ใช่ ประกันชีวิตใช่ไหมครับ"
                   พนักงานประกันชีวิตตอบว่า "ใช่ครับ ลูกค้าชื่ออะไรครับ"
                    พงศ์ว่า "ชื่อ วรพงศ์ วงศ์ทอง ครับ พี่ช่วยมาที่โรงพยาบาลด้วยครับ เร็วๆนะครับ ผมจะไม่ไหวแล้ว"
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "โอเคครับ ได้ครับๆ"
                   หลังจากวางสาย พงศ์รู้สึกแย่มากๆ เหมือนกำลังจะขาดใจตาย รีบกดปุ่มบันทึกเสียงในโทรศัพท์เอาไว้แล้วพูดสั่งเสียอะไรบางอย่างลงไป
                    หลังจากพูดเสร็จก็ไม่ได้กดหยุด ปล่อยให้อัดไปเรื่อยๆอยู่อย่างนั้น จากนั้น พงศ์ก็นึกถึงภาพที่ตี๋ พาไปทำประกันชีวิต 
                    พงศ์ว่า "พี่พาผมมาที่นี่ทำไมหรอครับ"
                   ตี๋ตอบว่า "มาประกันชีวิต ก็ต้องมาทำประกันชีวิตสิครับ"
                   พงศ์ว่า "แหมพี่ ผมแข็งแรงจะตาย ไม่ตายง่ายๆหรอกน่า"
                   ตี๋ว่า "ว่าไม่ได้นะ พี่ก็ทำแล้วเหมือนกัน นี่พี่ยกมรดกให้พ่อให้แม่ด้วย
                   พงศ์ก็ยังมีพ่อแม่อยู่ ทำเพื่อท่านสิ"
                   พงศ์ว่า "ผมจะเอาเงินที่ไหนทำประกันหรอครับ พี่ก็พูดเป็นเล่นไป"
                   ตี๋ว่า "แล้วพงศ์เป็นแฟนใครหล่ะ?"
                   พงศ์ว่า "อย่าบอกนะว่า..."
                   ตี๋ว่า "พี่จะทำให้เองแหล่ะ นะนะนะนะ ห้ามปฏิเสธนะพงศ์ พี่ทำให้เพราะรักพงศ์สุดหัวใจ แม้พี่จะแต่งงานกับพงศ์แบบทางการไม่ได้ ขอให้พี่ได้ช่วยพงศ์เรื่องนี้ด้วยเถอะนะ ถือว่าเป็นสินสอดก็แล้วกัน"
                   พงศ์ว่า "ไม่เปลืองเงินแย่หรอครับ"
                   ตี๋ว่า "พงศ์คุยอยู่กับใครหล่ะ?"
                   พงศ์ว่า "เจ้าของห้างดังน่ะหรอครับ"
                   ตี๋ว่า "ก็ใช่น่ะสิ นึกว่าพงศ์ลืมไปแล้วซะอีก พี่น่ะเงินเก็บเยอะแยะ แล้วตั้งแต่คบกับพงศ์มา พี่ก็เก็บเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพื่อจะชวนพงศ์มาทำประกันชีวิตในวันนี้ไง พงศ์ห้ามปฏิเสธนะ นะนะนะน้า"
                   พงศ์น้ำตาคลอเบ้าบอกว่า "ผมขอบคุณพี่มากเลยครับ ฮือๆๆ พี่ดีกับผมมากจริงๆ ฮือๆๆๆ"
                   ตี๋ว่า "พี่เต็มใจเสมอเพื่อพงศ์ คนที่พี่รัก ปะไปทำประกันกัน"
ตี๋พาพงศ์เข้าไปปรึกษาเรื่องทำประกันชีวิต พงศ์ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ยื่นเอกสารที่เตรียมมาให้พนักงานไป ทำจนได้กรมธรรม์มาหนึ่งเล่ม พงศ์เปิดดูรายละเอียดอย่างสนอกสนใจ แล้วพบว่า
                   พงศ์ว่า "พี่ๆ นี่มันอะไรกัน วงเงินคุ้มครองตั้ง 10 ล้านบาท โหเยอะไปไหมพี่"
                   ตี๋ว่า "ไม่เยอะไปหรอกพงศ์อย่าลืมสิว่าตอนนี้ พงศ์ยังไม่มีเงินเก็บไว้ให้แม่เลยนี่ ทำเถอะนะ นะครับ"
                   พงศ์ว่า "ก็ ก็ได้ครับ ตามนั้นเลยครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ"                      ในเวลานั้น หลังจากพงศ์ระลึกถึงความหลังการทำประกันชีวิตในครั้งนั้น ที่แสนมีความสุขที่สุดในโลก พงศ์ยิ้มทั้งน้ำตา ร้องไห้ออกมา
                   พงศ์ตั้งจิตอธิษฐานในใจว่า "ขอบคุณครับ ขอบคุณพี่ตี๋มากๆ ไม่ว่าตอนนี้พี่ตี๋จะไปอยู่ในภพภูมิใด ขอให้พี่จงรับรู้ว่า น้องพงศ์คนนี้ รักพี่ตี๋คนเดียวและจะรักตลอดไป สุดท้ายนี้พงศ์ขอให้ได้พบกับพี่ตี๋อีกครั้งด้วยเถิด ขอให้ได้อยู่เป็นคู่รักที่เป็นชายหญิงด้วยเถิด พงศ์อยากอยู่ร่วมชาติกับพี่อีกครั้งครับ"
                    จากนั้นพงศ์ ก็ไออย่างรุนแรง มีเลือดออกจากปาก แต่ก็ยังยิ้มอย่างมีความสุข แล้วก็สิ้นลม ไปอย่างสงบ เหมือนหลับไปเลยหมอกลับมาพบว่าพงศ์เสียชีวิตแล้ว รีบเรียกพยาบาลให้ไปโทรหาญาติ
                   พยาบาลว่า "คุณพ่อคุณแม่ของคุณวรพงศ์ใช่ไหมคะ?
                   แม่พงศ์ว่า "ใช่ค่ะ"
                   พยาบาลว่าต่อ "ทำใจดีๆไว้นะคะ คุณวรพงศ์ วงศ์ทอง เสียชีวิตแล้วค่ะ"
                   แม่พงศ์ร้องไห้พร้อมพูดว่า "ฮือๆๆๆ ค่ะๆ เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"
                    พ่อพงศ์มาเจอถาม "พงศ์เสียแล้วหรอ ฮือๆๆๆ ปะแม่ไปรับศพลูกกันเถอะ"
                   ภรรยาพงศ์เห็นพอดีว่า "หนูไปด้วยนะคะ"
                   แม่พงศ์ว่า "ปะๆ ไปด้วยกันหมดนี่แหล่ะ"พ่อแม่และภรรยาพงศ์ไปรับศพพงศ์ในคืนนั้นเอง เมื่อไปถึงก็พบกับพนักงานบริษัทประกันชีวิตคนหนึ่ง
                   เข้ามาถามว่า "ใช่คุณพ่อคุณแม่ของคุณวรพงศ์ วงศ์ทอง ใช่ไหมครับ"
                   แม่พงศ์ว่า "ใช่ๆค่ะ"
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "ผมมาจากบริษัทประกันชีวิต ที่คุณวรพงศ์เคยมาทำไว้น่ะครับ"
                   พ่อพงศ์ว่า "ตาพงศ์ทำประกันไว้ด้วยหรอ"
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "ใช่ครับ เห็นเขาไปทำพร้อมๆกับคุณธีรวัฒน์น่ะครับ"
                   พ่อพงศ์ว่า "ใครคือ ธีรวัฒน์"
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "ที่เขาชื่อเล่นว่าตี๋ไงครับ"
พ่อแม่ของพงศ์ ถึงบางอ้อ ไม่คิดไม่ฝันว่า นายตี๋นั่นจะห่วงใยลูกของตนมากขนาดนั้น
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "นี่คือเล่มกรมธรรม์ ฉบับจริงครับ ส่วนฉบับ คัดลอกอยู่ที่ตัวคุณวรพงศ์เองครับ"
พ่อแม่ของพงศ์อ่านดูพบว่าวงเงินคุ้มครอง 10 ล้านบาท ต่างตกใจ ไม่นึกไม่ฝันว่า จะมีคนที่หวังดีกับลูกตัวเองขนาดนี้
                   พนักงานประกันชีวิตว่า "คุณวรพงศ์เรียกผมมาก่อนที่เขาจะสิ้นใจครับ ผมมาถึงหมอก็บอกเขาเสียชีวิตแล้ว แล้วนี่ คุณวรพงศ์บันทึกเสียงทิ้งไว้ด้วยนะครับ ผมเจอบนหัวเตียงกำลังบันทึกอยู่ เลยกดบันทึกมาน่ะครับ"
                   พ่อพงศ์ว่า "ไหนๆพงศ์ว่ายังไง" พ่อแม่และภรรยาพงศ์อยากฟัง
                   เสียงที่บันทึก "พ่อครับ แม่ครับ ผมรักพ่อกับแม่นะครับ อ๊อคๆ(เสียงไอ) ผมยังไม่มีเวลาได้บอกเลยว่า ผมทำประกันชีวิตให้แม่นะครับ พี่ตี๋เขารักผมมาก เขาทำให้ผม เพื่อให้ผมมีเงินเก็บให้แม่ครับ อ๊อคๆ แม่ครับพ่อครับฝากดูแลลูกด้วยนะครับ"
                   ภรรยาของพงศ์รอฟังอยู่ว่าพงศ์ จะพูดอะไรถึงตนบ้าง แล้วก็ได้ยิน "ที่รักจ๋า คุณเป็นภรรยาที่ดีมากเลยนะครับ คุณดูแลลูกทุกคนดีมาก แม้ผมจะชอบแย่งตี๋น้อยมาเลี้ยงบ่อยๆ อ๊อคๆ แต่ว่าคุณทำหน้าที่แม่ได้ดีมากเลยครับ ผมขอสารภาพความจริงว่า ที่ผมตั้งชื่อลูกว่าตี๋เพราะผมต้องการระลึกถึงเขาคนที่พาผมไปทำประกันชีวิตนี้น่ะครับ ทุกครั้งที่ผมเลี้ยงดูเขา ผมก็จะนึกถึงเขาตลอดเวลา อ๊อคๆ แล้วอีกเรื่องผมฝากเงินเข้าบัญชีเพื่อเด็กชายดิศวัตติ์ วงศ์ทองไว้ด้วย 5 ล้านบาท ผมได้รับจากพี่ตี๋ในงานศพพี่ตี๋ครับ พ่อครับแม่ครับที่รักครับ ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่แต่ว่า ผมรักทุกคนนะครับ กรรมใดที่ผมกระทำต่อพ่อแม่และที่รักของผม ผมขออโหสิกรรมด้วยนะครับ อ๊อคๆ"
ถึงตอนนี้ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งเมียต่างร้องห่มร้องไห้
                   พร้อมพูดว่า "โถลูก แม่ให้อภัยลูกเสมอ /  พ่อก็ไม่เคยโกรธลูกเลยนะ / โถ ที่รักของน้อง น้องเคยเสียใจกับที่พี่เฉยชากับน้อง แต่ตอนนี้ ไม่แล้ว ไม่อีกแล้ว ยังไงน้องก็รู้ดีว่าพี่ยังรักน้องและลูกอยู่ ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบคุณจริงๆ"
เสียงที่บันทึกขาดหายไป ทุกคนพยายามฟัง ว่ามีอะไรต่อไหม
                   มีเสียงต่อเป็นเสียงไอ "อ๊อคๆอ๊อคๆอ๊อคๆ"
                   จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงหมอบอกว่า "คุณ คุณ ตื่นสิๆ พยาบาล พยาบาล (พร้อมกดปุ่มฉุกเฉิน) มาที่นี่ทีช่วยโทรหาญาติคนไข้ด้วย เขาเสียชีวิตแล้ว /(พยาบาลมาถึง) ได้ค่ะๆ"
จากนั้นทุกคนก็กดหยุดไม่ฟังต่อพนักงานประกันชีวิตน้ำตาซึม เพราะเพิ่งได้ยินข้อความนี้เช่นเดียวกัน
                   แต่ว่าต้องทำหน้าที่ต่อ "รบกวนคุณพ่อคุณแม่นำเอกสารที่อยู่กับคุณวรพงศ์มาด้วยนะครับ เออ นี่เบอร์ผมนะครับ ถ้าพร้อมมาคุยเรื่องเบี้ยประกันเมื่อไหร่ โทรมาได้ตลอดนะครับ"
                   แม่พงศ์ว่า "ค่ะๆๆ"
                   หมอมาพอดีหมอว่า "ญาติมารับศพแล้วใช่ไหมครับ เชิญทางนี้เลยครับ" เมื่อมาถึงศพพบว่า หน้าตาแจ่มใสดูเหมือนคนยังไม่ตาย
                   หมอว่า "อ๋อ คือทางเรามีฝ่ายแต่งหน้าศพน่ะครับ เผื่อว่าญาติจะนำไปรดน้ำศพ"        
                    พ่อพงศ์ "ขอบคุณครับๆ ปะพาศพไปไว้วัดกันนะ พงศ์ตามมานะลูก"
                    เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลพบว่ามีรถป่อเต็กตึ๊ง มารออยู่แล้วแม่ถามว่า "ใครเป็นคนเรียกมาหรือคะ" พ่อแม่ที่ชรามากแล้วของตี๋ลงมาจากรถมีคนช่วยพยุงตลอด
                   แม่ตี๋ว่า "ฉันรู้ข่าวจากพนักงานประกันชีวิตจึงเรียกมาให้ค่ะ จะได้ทำพิธีกันแบบถูกต้อง"
                   พ่อแม่พงศ์ต่างดีใจ ไม่นึกว่าคนที่ไม่เคยเจอกัน จะเป็นมิตรกันได้ขนาดนี้ การขนศพเป็นไปด้วยดี พ่อแม่ตี๋เรียกทหารมาช่วยด้วย งานเลยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ราบรื่นดีมาก
                   พ่อแม่ของพงศ์ ซื้อช่อดอกไม้และพวงมาลัย มาให้พ่อแม่ของตี๋ กะจะนั่งพื้นแต่แม่ตี๋ห้ามไว้
                   แม่ตี๋ว่า "ไม่ต้องนั่งพื้นจ้า คนกันเองทั้งนั้น นั่งเก้าอี้ข้างๆนี่แหล่ะ"
                    แม่พงศ์ "อ่อ ค่ะๆ"
                   แม่พงศ์สารภาพว่า "คือดิฉันเป็นคนจัดการงานแต่งงานให้พงศ์เองค่ะ พยายามแยกพงศ์ออกจากตี๋น่ะค่ะ ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่นึกว่าตี๋เขาจะรักพงศ์มากมายขนาดนี้เลยน่ะค่ะ"
                   แม่ตี๋ว่า"คนที่ตี๋รักฉันก็รักด้วย ไม่เป็นไรหรอก ช่วยๆกันส่งพงศ์ขึ้นสวรรค์กันนะ"     
                    พ่อแม่พงศ์ "ค่ะๆ / ครับๆ"
การจัดงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า แต่ก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากเผาศพพงศ์ พ่อแม่ก็ไปรับเบี้ยประกัน
                   และบอกภรรยาพงศ์ว่า "แม่จะดูแลลูกทั้งสองคนให้ ให้มาอยู่กับปู่กับย่าจะดีกว่า ส่วนเธอจะได้ทำงานไม่เครียดไง แล้วก็ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันเลยก็ได้นะ จะได้เจอลูกทุกวันไง"
                   เมียพงศ์"ค่ะๆทำอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ มากๆนะคะ"
                   แม่พงศ์บอกว่า "ไม่เป็นไรนะลูก แม่เต็มใจเสมอจ้า" พูดพร้อมยิ้มหวานให้
 
(ติดตามตอนต่อไป)
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา