You And I เพื่อนรักกันตลอดไป

-

เขียนโดย BTS22MRT

วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 09.43 น.

  13 บท
  0 วิจารณ์
  15.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ชีวิตหลังแต่งงานของวรพงศ์ และความรักของณวัฒน์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 7 ชีวิตหลังแต่งงานของวรพงศ์ และความรักของณวัฒน์ Life after marriage of Mr.Phong  And the love of Mr.Nawat.
 
                   พงศ์รู้สึกหนักใจที่ต้องมีแฟนเป็นผู้หญิง แถมพ่อแม่ยังหมายมั่นให้มีหลานให้อุ้มอีก พงศ์ก็ทนๆทำไป จนมีลูกมีลูกคนแรก ในตอนแรกพงศ์ก็ไม่ได้คิดอะไร ปล่อยให้แม่เป็นฝ่ายพาภรรยาไปฝากครรภ์ พอลูกสามารถตรวจดูเพศได้
                   แม่พงศ์พาภรรยากลับมาบอกว่า "พงศ์จ๊ะ ดีใจด้วยลูกได้ลูกชายจ้า"
                   พงศ์ว่า "จริงสิแม่ โห ผมดีใจมากเลยครับ"
หลังจากนั้นพงศ์ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน หมั่นดูแลครรภ์ภรรยา เฝ้ารอวันที่เจ้าตัวน้อย จะคลอดออกมา พงศ์มีความอยากได้ลูกชายมากๆ เห่อลูกตั้งแต่ยังไม่คลอดชักชวนแม่ไปช่วยเลือกของสำหรับลูกเพราะว่าตนไม่ค่อยละเอียดเรื่องนี้
                   แม่ว่า "ไม่เอาแม่ไม่ไป พาเมียไปสิพงศ์"
                   หันไปที่ภรรยาพงศ์ "หนูไปเป็นเพื่อนตาพงศ์หน่อยละกันนะ"
                   ภรรยาพงศ์ "ได้ค่ะ"
                   พงศ์รีบโต้ "งั้นไม่เป็นไรครับ ผมไปคนเดียวก็ได้ครับ"
                   แม่เอือมละอาเลยทำใจว่า "อะๆ แม่ไปก็ได้ แต่ต้องพาเมียไปด้วยนะ"                          พงศ์ว่า "งั้นก็ได้ครับ ไปกันเลยไหมครับ?" พงศ์ท่าทางรีบ
                   แม่ว่า "แปบหนึ่งลูก แม่ยังไม่ได้แต่งตัวเลย"
พงศ์รอแม่และเมียแต่งตัวเสร็จแล้วออกไปด้วยกันไปเดินห้างที่เคยเดินกับตี๋นั่นแหล่ะ บังเอิญจริงๆ ดันเดินไปเจอผู้บริหารห้างคนใหม่ เข้ามาทักพงศ์พอดี   
                   ผู้บริหารห้างคนใหม่ "ใช่คุณพงศ์ ใช่ไหมครับ ผมชื่อณวัฒน์ เจริญผล นะครับ เป็นหลานของ พี่ตี๋ มารับหน้าที่แทนพี่ตี๋ พี่ตี๋เคยบอกว่าคุณพงศ์เป็นแขก VIP คุณพงศ์มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ"
                   พงศ์รู้สึกดีใจที่ตี๋ยกให้ตัวเองเป็น VIP แล้วว่า "อ๋อ ผมมาซื้อของสำหรับเด็กอ่อนน่ะครับ  พอจะมีอะไรแนะนำไหมครับ?"
                   ณวัฒน์ว่า "งั้นเชิญทางนี้เลยครับ"
การช้อปปิ้งครั้งนี้พงศ์ได้รับคำแนะนำที่ดีมากๆ ได้ทั้งส่วนลด และบัตร VIP ตลอดชีพอีกด้วย ได้ซื้อเปลไกวเด็ก ที่นอนเด็ก หมอน ของเล่น เสื้อผ้าเด็ก อุปกรณ์ชงนม แม้กระทั่งผ้าอ้อมเด็ก ช่างเป็นพ่อที่เห่อลูกชายคนนี้มากจริงๆ
ทางด้าน ณวัฒน์ เจริญผล CEO หนุ่มผู้มากประสบการณ์ ที่เคยร่วมงานกับลุงตี๋ หรือลุงธีรวัฒน์ มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปีหลังจากที่ดูแลลูกค้า VIP อย่างพงศ์เรียบร้อยแล้ว จึงเดินกลับไปที่ Office ระหว่างเดินกลับก็มีโทรศัพท์โทรมาเบอร์แปลกพอรับสายแล้วพบว่าเป็นลูกค้าที่สนใจจะมาเช่าพื้นที่ในห้าง
                   หญิงสาวผู้สนใจเช่าพื้นที่ถามว่า "สวัสดีค่ะ คุณณวัฒน์ ใช่ไหมคะ ไม่ทราบว่าที่ห้างยังมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ๆไหมคะ?"
                   ณวัฒน์ถามว่า "ใช่ครับผม ที่ว่าขนาดใหญ่นี่ต้องการกี่ตารางเมตรหรือครับ?"
                   หญิงสาวผู้สนใจเช่าพื้นที่บอกว่า "เอ่อ ประมาณ 36 ตารางเมตรอ่ะค่ะ จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศน่ะค่ะ"
                   ณวัฒน์บอกว่า "มีครับ มีครับ อยู่ประมาณชั้น 3 ได้ไหมครับ?
ณวัฒน์ เดินไปคุยไป ขณะนั้นเองก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ถือแก้วกาแฟร้อนๆ คุยโทรศัพท์อยู่ด้วยเดินสวนมา เดินกันไม่ทันระวังชนกันเข้าอย่างจัง กาแฟหกใส่เสื้อ CEO หนุ่มเลอะไปหมดเลย มือถือของณวัฒน์ก็หล่นลงพื้นด้วย
                   หญิงสาวบอกว่า "ขอโทษค่ะๆ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะคะ คุณเป็นอะไรมากไหมคะ อุ๊ย มือถือคุณตกค่ะ เดี๋ยวฉันเก็บให้นะคะ นี่ค่ะมือถือของคุณค่ะ" มีเสียงของผู้หญิงดังออกมาจากโทรศัพท์ของณวัฒน์ นั่นก็คือเสียงของเธอนั่นเอง
                   ณวัฒน์บอกว่า "อ้อ ขอบคุณที่เก็บมือถือให้นะครับ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ครับ"
                   หญิงสาวคุยโทรศัพท์ว่า "ฮัลโหลๆ คุณคะคุณคะ แปบหนึ่งนะคะ" เสียงของเธอไปดังในเครื่องของณวัฒน์ด้วย ซึ่งเธอก็ได้ยินเหมือนกัน
                   หญิงสาวทำหน้าเจื๋อนแล้วบอกว่า "เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ อย่าเพิ่งไปค่ะ"
                   ณวัฒน์ถามว่า "คุณลูกค้ามีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?"
                   หญิงสาวถามว่า "นี่ใช่คุณณวัฒน์ หรือเปล่าคะ? เหอะๆๆๆ" พูดพร้อมโชวมือถือตนเองขึ้นมาให้ดูพบว่าเบอร์ที่หญิงสาวคุยอยู่นั้นเป็นเบอร์ของณวัฒน์จริงๆ
                   ณวัฒน์บอกว่า "อ้าว คุณลูกค้าเองหรอครับ เรียนเชิญมานั่งที่Officeก่อนนะครับ" ณวัฒน์พาหญิงสาวผู้สนใจเช่าพื้นที่ มานั่งที่Office พนักงานท่านอื่นๆในOffice ต่างมองมาที่เสื้อที่เลอะกาแฟของณวัฒน์ กันหมด
                   ลูกน้องชายถามว่า "ไปทำอะไรมาพี่ ทำไมถึงเลอะได้ขนาดนี้หล่ะครับ?"
                   ณวัฒน์บอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก ฝากดูแลลูกค้าด้วยเดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อแปบหนึ่งนะ"
                   ลูกน้องชายตอบรับว่า "ครับๆ ได้ครับ" ณวัฒน์หันไปมองหน้าลูกค้าแล้วยิ้มให้ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนลูกค้าน่ะหรอ ยิ้มตอบแบบแหยๆหน้าเจื๋อน อย่างคนสำนึกผิดอยู่เลย
หลังจากนั้น ณวัฒน์ก็มาพร้อมกับเสื้อตัวใหม่เอี่ยมยังไม่ได้แกะป้ายราคาออกเลย ณวัฒน์เห็นลูกน้องชายกำลังรับลูกค้าท่านนี้อยู่จึงเข้ามายืนคุยด้วย
                   ณวัฒน์ถามว่า "ว่าไงน้องคุยกับลูกค้าไปถึงไหนแล้ว? แล้วคุณลูกค้าสนใจพื้นที่ตรงไหนหรอครับ?"
                   หญิงสาวกล่าวคำขอโทษว่า "เอ่อ คือ ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษจริงๆนะคะ ที่ฉันทำเสื้อคุณเลอะหมดเลย" พูดพร้อมเอามือไหว้แบบก้มหัว
                   ณวัฒน์รีบรับไหว้ว่า "โอ้ย ไม่ต้องครับ คุณลูกค้า ไม่เป็นไรจริงๆครับ" พูดพร้อมก้มลงตาม จนป้ายราคาห้อยลง หญิงสาวเห็นหลุดขำออกมา
                   หญิงสาวหลุดขำว่า "หึๆๆ ฮ่าๆๆๆ"
                   ณวัฒน์ถามว่า "ขำอะไรหรอครับ?"
                   หญิงสาวบอกว่า "เดี๋ยวฉันแกะมันออกให้นะคะ" ว่าแล้วก็ช่วยแกะป้ายราคาออกให้
                   ณวัฒน์บอกว่า "อ้อ ขอโทษครับผมลืมน่ะครับ ผมเพิ่งซื้อมากี่นี้เองครับ" ตอนนี้ทั้งคู่กำลังสบตาซึ่งกันและกันอยู่ หญิงสาวก็แกะป้ายออกจนเสร็จ
                   ณวัฒน์บอกว่า "เขาะ ขอบคุณนะครับ ผมนี่แย่จังเลยครับ"
                   หญิงสาวบอกว่า "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ดูน่ารักดีออกนะคะ" ถึงตอนนี้ณวัฒน์ ก็หน้าแดงไปหมดแล้ว
                   ณวัฒน์บอกว่า "เขาะ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ เหอะๆๆๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เอ่อ คือจะเข้าไปทำงานต่ออ่ะครับ" ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องของ CEO ไป เอามือเกาหัวไปด้วย
                   หญิงสาวบอกว่า "เชิญเลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ" ลูกน้องใน Office เห็นต่างอมยิ้มกันใหญ่ ณวัฒน์เข้าห้องมาถอนหายใจ นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นจนลูกน้องชายเคาะประตู
                   ณวัฒน์บอกว่า "เข้ามาได้" ลูกน้องชายนำแฟ้มเอกสารการทำสัญญาเข้ามา
                   แล้วนั่งลงมาถามว่า "ฮั่นแน่ พี่ณวัฒน์ แอบชอบลูกค้าหรอครับ?"
                   ณวัฒน์แย้งว่า "เปล้าซะหน่อย ไปรู้มาจากไหนนี่ ไม่มี้ จริงๆนะ"
                   ลูกน้องชายบอกว่า "งั้นผมจีบนะครับ?"
                   ณวัฒน์บอกว่า "เอาสิ แต่อย่าให้เสียการเสียงานนะ เดี๋ยวจะโดนหักเงินเดือนนะ"
                   ลูกน้องชายบอกว่า "ทราบแล้วครับ คุณ CEO หนุ่มหล่อไฟแรง"
                   ณวัฒน์พูดปัดว่า "ออกไป ปะพี่จะทำงานต่อ" พูดไปยิ้มไป
                   ลูกน้องชายตอบรับว่า "คร๊าบผม" จากนั้นณวัฒน์ก็เปิดแฟ้มเอกสารดูพบว่าลูกค้าได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่แล้ว ยังยิ้มไม่หยุด คงจะได้เจอรักแท้เข้าซะแล้วสิ
วันต่อมาณวัฒน์ก็เดินไปเห็นลูกน้องชายกินข้าวกับลูกค้าท่านนี้ในช่วงพักกลางวัน
                   ณวัฒน์พูดกับตัวเองว่า "ไม่น่าเลย ลูกน้องชิงจีบไปก่อนซะแล้ว อืม ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เดี๋ยวสักวันก็คงจะเจอใครสักคนเอง" พูดแบบให้กำลังใจตัวเอง
หลายวันที่ไม่ได้เจอกับลูกค้าท่านนี้ ณวัฒน์ก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย อยู่ๆลูกน้องชายก็เดินเข้ามาถือเสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามลวดลายที่สื่อถึงทะเลที่ถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย กับช่อดอกกุหลาบสีขาวห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนแล้วห่อทับด้วยกระดาษสีน้ำตาลอีกชั้นเข้ามาที่ Office มาเคาะประตูห้อง CEO
                   ณวัฒน์บอกว่า "เข้ามาได้" ลูกน้องชายก็ถือของทั้ง 2 อย่างนี้เข้ามาในห้อง
                   ณวัฒน์เลยทักว่า "แหมๆ จะเตรียมช่อดอกไม้ เอาไปให้สาว แต่ไม่กล้าเอาไปให้ใช่ไหมหล่ะ?"
                   ลูกน้องชายโต้ว่า "คนที่ไม่กล้าเอาไปให้ไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่เป็นลูกค้าผู้หญิงที่นั่งอยู่ใน Office นี้ต่างหาก "
                   ณวัฒน์สงสัยถามว่า "ใครหรอ? "
                   ลูกน้องชายบอกว่า "พี่ออกไปดูเองจะดีกว่านะครับ" พอณวัฒน์ออกไปพร้อมกับลูกน้องชายก็พบกับลูกค้าที่เคยทำกาแฟหกใส่ตนจริงๆ ณวัฒน์เข้าใจว่าเธอคือคนที่ลูกน้องชายนั้นจีบอยู่จึงหยิบดอกไม้จากมือลูกน้องชายไปให้
                   แล้วบอกว่า "ลูกน้องของผมนี่แย่จริงๆเลย จีบสาวก็ยังไม่กล้าให้ดอกไม้อีก" พนักงานใน Office ที่กำลังรอลุ้นเจ้านายอยู่ เงิบซะงั้น
                   หญิงสาวงงบอกว่า "หา อะไร อะไรหรอคะ?"
                   ณวัฒน์บอกว่า "อ้าว ก็คุณลูกค้าคบกับลูกน้องของผมอยู่ไม่ใช่หรอครับ?" ลูกน้องชายได้ยินอย่างนั้นเอามือก่ายหน้าผากทันที
                   ลูกน้องชายรีบบอกว่า "โถ่ พี่มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ พี่เข้าใจผิดแล้วครับ"
                   หญิงสาวก็รีบบอกว่า "ไม่เป็นไรจะน้อง เดี๋ยวพี่พูดเอง คือว่าที่ฉันไปนั่งคุยกับลูกน้องของคุณณวัฒน์น่ะค่ะ ก็เพราะว่าฉันไม่รู้ว่าคุณณวัฒน์ชอบหรือไม่ชอบอะไรต่างหากค่ะ น้องจ๊ะเอาเสื้อมาให้พี่หน่อย" ลูกน้องชายยื่นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าครามให้หญิงสาว
                   หญิงสาวว่าต่อ "นี่เป็นเสื้อเชิ้ตของผู้ชาย Size เดียวกับที่คุณณวัฒน์ใช้ สีก็ที่คุณณวัฒน์ชอบ ดอกไม้นี่ก็เป็นดอกไม้ที่คุณณวัฒน์ชอบอีก ฉันเองต่างหากที่ไม่กล้าเอาไปให้คุณน่ะค่ะ" ถึงตอนนี้ณวัฒน์ก็หน้าแดงไปหมดแล้ว พนักงาน Office เปลี่ยนอารมณ์จากเงิบกลายเป็นโห่ร้องพร้อมปรบมือ
                   ณวัฒน์ประหลาดใจบอกว่า "คุณชอบผมงั้นหรอครับ? แต่ แต่ผมเป็นคนเอ๋อๆอ๋าๆหน่อยๆนะครับ"
                   หญิงสาวว่า "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าวันไหนคุณณวัฒน์ลืมแกะป้ายราคาฉันก็จะแกะออกให้อีกค่ะ" พนักงาน Office โห่ร้องอีกครั้ง
                   ณวัฒน์ว่า "ถ้างั้นเป็นแฟนกับผมนะครับ"
                   หญิงสาวว่า "เป็นแค่แฟนเองหรอคะ?"
                   ณวัฒน์ว่า "ถ้าไม่เป็นแค่แฟนงั้นก็ แต่งงานกับผมนะครับ" พูดพร้อมโอบกอดกัน พนักงาน Office ปรบมือเสียงดังก้อง ตอนนี้ณวัฒน์ได้เจอกับความรักของตัวเองสักที
                   กลับมาที่พงศ์ในวันกำหนดคลอด พงศ์เข้าไปดูภรรยาคลอดอย่างใกล้ชิด เมื่อลูกคลอดเขาตื่นเต้นมากๆเลย ที่ได้เห็นลูก แต่หมอบอกว่าเด็กตัวเหลืองต้องเข้าตู้อบก่อน ส่งให้พยาบาลอุ้มไปเข้าตู้อบ หลังจากออกจากห้องคลอดแล้ว พงศ์ร้อนใจมากรีบเข้าไปส่องลูกตัวเองผ่านกระจก เพราะห้ามเข้า ทิ้งเมียไม่ดูดำดูดีเลย หมอมาเรียกพงศ์มาคุยกับภรรยาที่เตียง
                   หมอว่า "เด็กอาจจะต้องอยู่ในตู้สัก 2-3 วันนะครับ ส่วนคุณผู้หญิงถ้าไม่มีอาการอะไร พรุ่งนี้ก็กลับได้ครับ"
                   พงศ์ว่า "อ่อครับ"
                   แม่พงศ์และภรรยา ว่า "ค่ะๆ" หลังจากหมอออกไปพงศ์ก็ขอตัวกลับทันที โดยระหว่างกลับก็แวะไปดูลูกแปบหนึ่ง
                   พงศ์ว่า "หายไวๆนะครับ ตี๋น้อยของพ่อ" พงศ์ตั้งชื่อให้ลูกทันที เพราะว่าอยากให้เขามาเป็นตัวแทนของตี๋นั่นเอง
                   วันต่อมาแม่พงศ์ว่า "พงศ์ไปรับเมียกลับบ้านสิลูก"         
                   พงศ์ว่า "แม่ไปเองเถอะ ผมไม่ไปหรอก งานยุ่งอ่ะครับ"
                   แม่พงศ์ว่า "แต่เขาเป็นเมียลูกนะ"
                   พงศ์โต้ "เมียแบบไม่เต็มใจมากกว่า แม่ไปเถอะ ผมไปก็จะทะเลาะกันเปล่าๆ" แม่พงศ์บังคับลูกไม่ได้ จึงต้องไปรับภรรยาของพงศ์ตามลำพัง
                   เมื่อไปถึงภรรยาของพงศ์ ไม่เห็นพงศ์จึงถามว่า "พงศ์ไม่มาหรอคะ?"
                   แม่พงศ์ว่า "จะ รายนั้นเขางานยุ่งตลอด จะกลับพร้อมแม่ไหม?"
ภรรยาพงศ์หายดีแล้ว แต่แกล้งทำเป็นยังไม่หาย เพื่อจะได้รับลูกกลับเลยในวันพรุ่งนี้
                   ภรรยาพงศ์ว่า "หนูยังป่วยๆอยู่เลย เวียนหัว เดี๋ยวรอรับลูกกลับไปด้วยเลยดีกว่าค่ะ ขอบคุณคุณแม่ที่เป็นห่วงนะคะ"
                   แม่พงศ์ว่า "งั้นแม่กลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆหล่ะ"
                     แม่พงศ์กลับบ้านมา ไร้คนสนใจ เจอแต่พ่อที่ทักว่า "เมียพงศ์ไม่กลับมาหรอ?"
                   แม่พงศ์ว่า "เขาจะรอกลับพร้อมลูก"
รุ่งขึ้นพยาบาลเอาเด็กมาให้แม่อุ้มให้ลูกดื่มนมแม่ตั้งแต่เช้า ดูท่าทางจะหิวมาก หลังจากลูกอิ่ม แม่และพงศ์ก็มาถึงโรงพยาบาลพอดี พงศ์มาถึงก็มาขออุ้มลูกจากมือภรรยา
                   พงศ์ว่า "ขออุ้มลูกหน่อยสิ" ภรรยาไม่ขัดขืนยอมให้อุ้ม หลังจากนั้นก็พากันไปจ่ายค่าโรงพยาบาล ก่อนจะกลับ โดยที่พงศ์ไม่ยอมให้ภรรยาอุ้มอีกเลย
                   แม่พงศ์ว่า "เห่อลูกมากไปแล้วนะพงศ์ เด็กยังต้องกินนมแม่นะ ส่งให้เมียไปเถอะ" พงศ์ขัดใจแต่ก็ยอมส่งตี๋น้อยคืนให้
                   พงศ์ว่า "ไปกินนมแม่นะครับ ตี๋น้อยของพ่อ"
                   แม่พงศ์ว่า "ทำไมเรียกหนูน้อยว่าตี๋หล่ะ ตั้งชื่ออื่นไม่ได้หรอพงศ์"
                   แม่ไม่เห็นด้วย แต่พงศ์ว่า "แม่ครับตี๋ เขาก็ตายไปหลายปีแล้ว จะเป็นอะไรไป ลูกของผมให้ผมตั้งชื่อเองเถอะนะ" แม่พงศ์กลายเป็นคนแก่ๆที่ลูกตัวเองไม่เชื่อฟังอีกต่อไป
                    พงศ์เลี้ยงดูลูกชายอย่างใกล้ชิด ทำงานเสร็จก็จะรีบกลับบ้านมาดูเสมอๆ ชอบมาแย่งตี๋น้อย จากมือภรรยา ไปอุ้มเองบ่อยๆ ลูกชายคนนี้เหมือนเป็นตัวแทนของตี๋ ที่เขานึกถึงตลอดพงศ์นำเงินในบัญชีที่ตี๋ เปิดให้นั้นมาปิดบัญชีแล้วเปิดใหม่เป็น บัญชีเพื่อตี๋น้อยเด็กชายดิศวัตติ์ วงศ์ทอง เพื่อหวังให้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกน้อยคนนี้
                   แม่มาคุยกับพงศ์ว่า "แม่อยากได้หลานอีกคนหนึ่ง พงศ์ทำให้แม่ได้ไหม เอามาเป็นเพื่อนเล่นกันไง"
                   พงศ์ว่า "ก็ได้ แต่แม่รอหน่อยละกันช่วงนี้ยังไม่อยากมีอะไรเลย อยากเลี้ยงลูกคนแรกนี้ไปก่อน"แม่ก็ไม่ว่าอะไร เห็นว่าตกปากรับคำแล้ว ก็คงจะทำให้เป็นแน่ แต่อาจจะนานหน่อย
                   3 ปีต่อมา ภรรยาตั้งครรภ์คนที่ 2 พงศ์พาไปฝากท้องเพื่อหวังจะได้ลูกชายอีกคน แต่พอถึงช่วงเช็คเพศได้พบว่าได้ลูกสาว พงศ์ก็ไม่สนใจอีกเลยเอาแต่ดูแลตี๋น้อย พอลูกสาวจะคลอด
                   พงศ์เอาแต่อ้างว่า "งานยุ่ง เดี๋ยวค่อยไปเยี่ยม"
สร้างความเจ็บช้ำให้ภรรยาอย่างยิ่ง ภรรยาพงศ์ตั้งชื่อลูกสาวว่ารดา พอภรรยาบอกจะไปซื้อของใช้ของลูกสาว พงศ์กลับให้แค่บัตร VIP ไปแต่ไม่ยอมไปด้วย ทำให้แม่พงศ์ต้องไปกับภรรยาแทน
ชีวิตในบ้าน พ่อเลี้ยงแต่ลูกชาย ส่วนแม่เลี้ยงได้แค่ลูกสาว เพราะพ่อไม่ค่อยปล่อยตี๋น้อยมาให้แม่เลี้ยงนัก พงศ์เลี้ยงลูกชายจนลูกชายมองพ่อเป็น ฮีโร่ แบบในการ์ตูนทีวี พงศ์ก็เลยได้ทีเล่นเป็นฮีโร่จริงๆซะเลย ให้ลูกขี่หลัง วิ่งเล่นกันในสวนหน้าบ้าน                 ขณะที่ลูกสาวน้องรดาจะ 5 ขวบแล้ว มีพฤติกรรมเลียนแบบพี่ชาย อยากไปเล่นกับพ่อบ้าง พงศ์ก็ยังมีความเป็นพ่ออยู่ ก็ช่วยเล่นกับรดาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เทคแคร์อะไรมากมาย จนบางทีภรรยาก็ต้องเข้ามาอุ้มรดาไปเลี้ยงเอง เพราะพงศ์ชอบปล่อยรดาทิ้งให้นั่งเฉยๆบ่อยๆ
                   หลังจากมีลูก 2 คนพงศ์ก็ทำหมันไปเลย เพราะไม่อยากจะยุ่งอะไรกับผู้หญิงอีกแล้ว
                   ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตที่ประหลาด พ่อแม่ไม่หอมแก้มกัน พ่อแม่ไม่กอดกัน เว้นแต่ลูกๆจะขอให้พ่อแม่กอด ก็จะกอดกันแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว ต่อไปถ้าลูกไม่ขออีกก็จะไม่กอด ไม่หอมแก้ม
                   ตี๋น้อยว่า "พ่อครับ แม่ครับ กอดกัน กอดกัน"
                   รดาว่า "หนูกอดด้วย กอดด้วย"
                   แม่และพ่อ "ได้จะๆ กอดกันนะ รักกัน รักกัน"
หลายปีที่ตี๋ จากไปพงศ์ คิดถึงตลอด อาการเครียดจนต้องไปพบจิตแพทย์ จิตแพทย์จึงแนะนำว่าควรจะหาเวลาไปพักผ่อนบ้างไปเที่ยวบ้าง พงศ์จึงตัดสินใจไปเที่ยวกับตี๋น้อย แต่ตี๋น้อยขอให้รดาไปด้วย พงศ์ก็อนุญาตโดยไม่คิดจะชวนภรรยาไป
ภรรยาก็รู้ตัวดีว่าพงศ์ต้องไม่ชวนตนแน่นอน จึงทำใจซะ ส่วนแม่พงศ์ เดี๋ยวนี้ก็ไม่สามารถบังคับอะไรพงศ์ได้แล้ว เลยได้แต่ถอนหายใจ และใช้ชีวิตประจำวันตามวัยชราไป
                   พงศ์ไปเที่ยวฝรั่งเศส ในตอนเช้า ก็พาลูกไปเที่ยวสวนสนุกที่มีชื่อเสียง หลายๆที่ ดูเด็กทั้งสองจะสนุกมาก พงศ์ได้มองลูกชายหัวเราะชอบใจ ก็รู้สึกมีความสุข เป็นการพักผ่อน ที่แค่มองลูกตัวเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว หลังจากเหนื่อยจากการเล่น พาลูกเดินห้างดังๆ แน่นอนลูกต้องร้องซื้อของเล่น   ตี๋น้อยชอบตุ๊กตาซุปเปอร์ฮีโร่ รดาก็อยากได้ตาม แต่พงศ์ หยิบตุ๊กตาบาร์บี้สวยๆให้ รดาเลยเปลี่ยนใจเอาตุ๊กตาบาร์บี้ดีกว่า ไม่เอาซุปเปอร์ฮีโร่ พากันไปกินข้าว ก็ป้อนข้าวให้ลูกทุกคน เพราะไม่อยากให้คนรอบๆมองตนไม่ดี ตอนดึกๆพอส่งลูกเข้านอน และหลับหมดแล้วก็มาเที่ยวในผับแถวๆนั้น ก็พบกับชายแก่คนหนึ่งไม่สบาย เป็นหวัด ไอหนักมาก น้ำมูกไหลไม่หยุด จึงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ชายแก่ มองดูผ้าแบบชะงักแปบหนึ่ง เพราะตามวัฒนธรรมตะวันตก เขาไม่ค่อยมีใครมีน้ำใจแบบนี้
                   พงศ์บอกว่า "I just wanna help you"
                   ชายแก่บอก "Oh thanks" หลังจากผู้ชายคนนั้นใช้เสร็จแล้วก็อาสาหยิบมาทิ้งขยะให้ คงไม่ใช้ต่ออีกแล้ว โดยไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อยู่
 
(ติดตามตอนต่อไป)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา