[Fic Hetalia UKUS] ราตรีนิมิตกลางสายฝน
8.3
เขียนโดย snowred
วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.50 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
8,541 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559 13.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ยามแรก : สิ่งที่ค้างคา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยามแรก
สิ่งที่ค้างคา
เขาเชื่อมั่นในมาตลอด ว่าตนนั้นแข็งแกร่ง
จนกระทั่งวันนั้นที่ท้องฟ้าร่ำไห้ ... และชายผมสีบลอนด์ตาสีฟ้าที่ถือปืนคาบศิลาหันปลายมาทางเขา
ดวงตาสีฟ้าคมกริบบาดลึกเข้าไปในจิตใจเขาอย่างเย็นเฉียบ ยิ่งกว่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาราวกับทอดทิ้งเขา
'อัลเฟรด'
เขาพึมพำชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงระโหยอ่อนแรง
'ความทรงจำที่เรามีร่วมกันมา ... มันหมายความว่ายังไง?'
.
.
.
.
.
.
.
ซ่า...
แปะ ๆ
ฝนตกลงมาและกระทบกับหน้าต่างที่มีหยดน้ำฝนเกาะพราว อังกฤษหรือจิตวิญญาณประเทศอังกฤษ ชายผู้มีผมสีทองและดวงตาสีเขียวดั่งมรกตลืมตาปรือขึ้น เขาพบว่าตนเองนอนหลับคาหนังสือบนโต๊ะที่อ่านค้างไว้ อังกฤษไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน แต่พอหันไปมองนาฬิกาบนผนังห้องฝั่งหนึ่ง ก็พบว่าเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
ตึก... ตึก...
ได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนดังเบา ๆ และฟังดูแล้วคงจะเดินอย่างช้า ๆ อังกฤษนิ่งไปพักหนึ่งแล้วนึกแปลกใจ ...เขาอยู่ในบ้านตนเองและก็มีแต่เขาที่อยู่คนเดียว แล้วทำไม...
แกรก
รู้สึกได้ถึงสัมผัสของบางอย่างที่แข็งและเย็นเฉียบ มันชื้น ๆ เหมือนมีน้ำมาเกาะ อังกฤษค้างในขณะที่เขากำลังหยิบปืนจากที่ซ่อน แต่มันช้าไปแล้ว
"นาย... เข้ามาได้ไง?" ในสถานการณ์แบบนี้จะฉวยโอกาสคงยาก อย่างน้อยเขาก็ต้องคุยกับอีกฝ่ายอย่างใจเย็นก่อน
"ฆ่าเขาซะ"
อังกฤษไม่ได้หันไปจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่เสียงที่คุ้นเคยแบบนี้มัน...
"นี่นาย ...คงไม่ใช่..."
เขานั่นเอง
ผู้บุกรุก... คือเขาเอง
แต่ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อ---
อังกฤษหรี่ตาลงอย่างกลัดกลุัม เขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย พอหันไปก็พบกับตัวเขาอีกคนที่สวมชุดเครื่องแบบสีแดงในสงครามประกาศอิสรภาพอเมริกา มือที่ขาวซีดนั้นถือปืนยาวจ่อมาที่เขา ร่างกายเต็มไปด้วยน้ำฝนที่เปียกปอน ผมสีทองลู่ลงแนบใบหน้าขาว ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเศร้า ดวงตาสีเขียวตอนนี้ราวกับป่ารกครึ้มที่ลึกเข้าไป อังกฤษผงะแล้วคิด
นี่ตัวฉันในตอนนั้นเหรอ?
---แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ
ฆ่าเขา ---ใครล่ะ?
อเมริกาเหรอ?
"ตัวฉัน อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันแก้แค้น---"
กล่าวถามไม่ทันจบ จู่ ๆ อุณหภูมิห้องก็ลดฮวบลง อังกฤษตัวสั่นอย่างคุมไม่อยู่ เขาตื่นตกใจกับเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้ ทว่าไม่ทันไรภาพโดยรอบก็กลายเป็นสีดำ
"มันต้องมีสักวันที่เขาจะกลับมาฆ่านายอีก อังกฤษ ก่อนจะถึงวันนั้นนายต้องรีบลงมือ"
เสียงนั้นแผ่วลง จากนั้นอังกฤษก็ไม่รับรูัอะไรอีก
.
.
.
.
.
.
.
"---กฤษ ---อังกฤษ นายเป็นอะไรไป?!"
"?"
อังกฤษตื่นพร้อมกับเสียงของใครบางคนที่เรียกเขาด้วยน้ำเสียงแตกตื่นกังวล เขายืดตัวแล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย
"อเมริกา?"
"นายร้องไห้ทำไม?! ฝันร้ายเหรอ?!!" ดูเหมือนว่าจะเพิ่งตื่นเลยยังลำดับความคิดไม่ถูก เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร แล้วทำไมถึงมีสีหน้าแบบนั้น เขาลองลูบหน้าตัวเองก่อนจะสัมผัสถึงของเหลวที่ไหลไม่ขาด
"นี่มัน... อะไรกัน?" ถ้าเป็นอังกฤษตอนปรกติคงจะโวยวาย แต่หลังฝันถึงตัวเขาในอดีตเขาก็รู้สึกสับสน "ฉันสิต้องถามนาย ฉันพยายามปลุกเท่าไหร่นายก็ไม่ตื่นสักที ผ่านมาพักใหญ่แล้ว คิดว่าถ้านายยังไม่ตื่นจะไปเรียกใครสักสักคนที่ยังไม่กลับมาช่วยดู"
อังกฤษรู้สึกว่าในอกตนเองมันเบาหวิว และเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก เขาหันมองซ้ายขวาอย่างเหม่อลอย ดูเหมือนว่าเขาจะหลับในที่ประชุม พอนึกเรื่องนี้ขึ้นได้หน้าก็แดงเพราะความอาย ดูเหมือนอังกฤษไม่สนเรื่องที่ตนร้องไห้ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากจากเป๋าเสื้อแล้วซับน้ำตาก่อนจะถาม
"ฉันหลับไปตอนไหน?" อเมริกาถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโล่งอกหรือยังกังวลอยู่ "หลังประชุมเสร็จ นายนั่งเหม่ออยู่พักหนึ่งแล้วก็หลับ ตอนแรกฉันกับคนอื่นจะเข้ามาปลุกแต่ฝรั่งเศสบอกว่าปล่อยไปเถอะ หลังจากนั้นฉันไปหาอะไรกินแล้วแวะมาดู ก่อนจะเห็นนายร้องไห้ทั้ง ๆ ที่ยังหลับนี่แหละ"
ฟังไปแล้วคิดอย่างสงสัย สมองอังกฤษด้านชาครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าตนเองแปลก ๆ
"อังกฤษ นายฝันถึงอะไร?" ปรกติอเมริกามักจะมีสีหน้ายิ้มแย้ม พอเขาขรึมขึ้นมาเล่นเอาอังกฤษนิ่งไม่กล้าขยับ "ฝันร้าย... ไม่มีอะไรหรอก ฉันคงเครียดเรื่องที่บอสให้ทำมากไปหน่อย"
"งานอะไรล่ะนั่น? เล่นเอานายเก็บไปฝันจนร้องไห้" อเมริกาขมวดคิ้วมุ่น แต่สีหน้าคลายลงเล็กน้อย "ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันโอเคแล้ว" อังกฤษโบกมือปัดอย่างรำคาญ เขาทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่ตนเองร้องไห้ อเมริกาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย
"วันที่ฉันจากนายมาสินะ"
"!"
อังกฤษสะดุ้ง เขานั่งนิ่งแล้วมองไปทางอื่น ริมฝีปากเม้มแน่นจนสีเลือดจาง "ฉันกลับล่ะ" กล่าวจบก็ลุกขึ้นและก้าวออกไป
"อังกฤษ" อเมริกาเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว ทว่าความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงนั้นมากพอที่จะทำให้อังกฤษหยุด "ฉัน..." สีหน้าของอเมริกาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ จนอีกฝ่ายเริ่มรำคาญ
"อย่าใส่ใจเลย ฉันลืม ๆ มันไปแล้วล่ะ" อังกฤษถอนหายใจ เขาพูดจากใจจริงว่าตนเองลืมมันไปแล้ว
ทว่าความฝันเมื่อครู่มันตอกย้ำเขา...
อเมริกายิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอ่ย "โอเค กลับดี ๆ ล่ะ" อังกฤษโบกมือให้อีกฝ่ายแล้วก้าวเดินต่อ
แกรก
ประตูห้องประชุมปิดลง อเมริกายืนเท้าโต๊ะประชุมที่ยาว เขาสอดสายตามองไปรอบ ๆ พลางคิด
เมื่อกี้... ใครแอบมองเราอยู่น่ะ?
ช่วงนี้อังกฤษมักจะนึกถึงเรื่องในอดีต โลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันนั้นมันทำให้เขาอดคิดถึงความทรงจำที่ผ่านมาไม่ได้ ซึ่งมันก็ผ่านมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้ว และไม่รู้ว่าเพราะเรื่องนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาฝันถึงเรื่องราวเหล่านั้นเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เขารบกับสกอตแลนด์… พี่ชายของเขา อังกฤษเคยมีความทรงจำที่ดีร่วมกับสกอตแลนด์ สายสัมพันธ์ที่มองไม่เห็นแต่พวกเขารู้สึกได้นั้นมันเลือนรางในใจของอังกฤษ ตอนนั้นเขายังเด็ก รู้เพียงแต่ความต้องการและความกลัว เขาต้องทำตามความต้องการของเจ้านายตนเอง
หลังจากนั้นหลายปีผ่านมา อเมริกาที่เป็นน้องชายของเขาก็ประกาศอิสรภาพ ตอนนั้นอังกฤษเข้าใจความรู้สึกของสกอตแลนด์จากก้นบึ้งของหัวใจ
ความโดดเดี่ยว… การถูกทอดทิ้ง สายสัมพันธ์ที่ร่วมกันถักทอขาดสะบั้น
นั่นคือความรู้สึกแรกที่แผ่เข้ามาในจิตใจ
พอกลับมาถึงบ้านอังกฤษก็ต้องแปลกใจกับรอยแปลก ๆ บนทางเข้าบ้าน …มันเป็นของเหลวสีแดงสด หยดเป็นทางเข้าไปในบ้านซึ่งประตูถูกเปิดทิ้งไว้ เขาเริ่มระแวงและร้อนรน
นี่คงไม่ใช่ว่าความฝัน…
อังกฤษหยิบปืนที่พกติดตัวมาก่อนจะง้างนกสับ เขาเลือกที่จะเดินไปทางข้างบ้านดีกว่าไปเผชิญกับผู้บุกรุกตรง ๆ และย่อตัวลงต่ำกว่าหน้าต่างพลางเดินจนถึงบริเวณหนึ่งของบ้าน ระหว่างนั้นเขาก็อดคิดอย่างหัวเสียไม่ได้ว่า รอยเลือดมันชัดเจนขนาดนี้แต่ทำไมคนที่ผ่านไปมาถึงไม่สังเกตเห็น ที่สำคัญคือผู้บุกรุกเข้าบ้านเขาได้ยังไงก็ในเมื่อกุญแจบ้านอยู่ที่เขา อย่างน้อยอังกฤษก็ไว้ใจตนเองเกินกว่าจะเก็บกุญแจสำรองซ่อนไว้บริเวณหน้าบ้าน
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้น
ปัง!
แกร๊ง!
คงจะเป็นเสียงโลหะปะทะกัน อังกฤษรีบสอดสายตามองไปทางช่องว่างหน้าต่าง ดูท่าว่าต้นเสียงจะอยู่ข้างในบ้านลึกเลยไม่เห็นใคร เขาตัดสินใจไปทางหลังบ้านแล้วไขกุญแจอย่างร้อนรน
ผู้บุกรุกไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่มีมากกว่านั้น
ปัง!
เพล้ง!
คราวนี้เป็นเสียงลูกกระสุนพุ่งข้าวของบางอย่างที่แข็ง อังกฤษวิตกมากขึ้นว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ในขณะที่ชั่งใจว่าจะโทรฯ หาคนอื่นให้มาช่วยดีหรือไม่ก็มีเสียงใครบางคนพูดเสียงดัง
“นาย--- หลังจากช่วงล่าอาณานิคมตอนนั้นนายก็ไม่ได้เป็นโจรสลัดแล้วนี่”
อังกฤษสะดุ้งแล้วนิ่งอึ้ง ---โจรสลัด ใครกัน? แล้วเสียงเมื่อครู่ก็ช่างคุ้นหูเหลือเกิน
“สกอตแลนด์ คลับคล้ายคลับคลาเหมือนกันนะว่านายเองก็เคยเป็นเหมือนกัน”
เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง …สกอตแลนด์… อยู่ที่นี่เหรอ?
อังกฤษไม่รู้ว่าตนเองดีใจหรือรู้สึกอย่างไร อย่างน้อยเขาก็อุ่นใจเพราะว่าพี่ชายเขาอยู่ที่นี่ แม้แต่ก่อนจะเคยมีเรื่องกันแต่ปัจจุบันนี้ก็นับได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีทีเดียว
“หึ! นั่นมันก็นานมาแล้วนะ”
อังกฤษลังแลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเข้าไปดีไหม ก่อนจะตัดสินใจรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างกระวนกระวาย ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณประเทศจะตายง่าย ๆ ไม่ได้ แต่เขาก็ทนเห็นพี่ชายตนเองมีแผลไม่ได้หรอก
พอมาถึงก็พบว่าทั้งสองฝ่ายอยู่หน้าบันไดขึ้นชั้นสอง สภาพบ้านเละแทะอย่างที่คิดไว้ อังกฤษไม่ลืมที่จะเล็งปืนไปที่ชายหนุ่มในชุดโจรสลัดสีแดง ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นหันมามองเขาตั้งแต่ได้ยินเสียงฝีเท้ากระทบพื้นดัง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคอยระวังข้างหลังที่มีร่างของชายผมสีแดงในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงิน ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะยืนไม่มั่นคงและไหล่ข้างซ้ายมีบาดแผลรวมทั้งรอยฟกช้ำต่าง ๆ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี เพราะอย่างน้อยในมือก็ยังมีดาบเปื้อนเลือดอยู่ สกอตแลนด์เบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึง เขาคิดว่าอังกฤษอาจจะกลับมาช้ากว่านี้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มน่าหวาดหวั่น
“มาได้จังหวะพอดีเลยนะ” สกอตแลนด์เอ่ยกับอังกฤษที่ตอนนี้มีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาสีมรกตจับจ้องไปที่ตัวเขาอีกคน “สกอตแลนด์! ทำไมพี่--- นายถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ แล้วหมอนี่---”
สกอตแลนด์ไม่ตอบอะไร อังกฤษละสายตาไปมองเขา ตัวเขาอีกคนที่เมื่อครู่มีสีหน้าเรียบเฉยมาตอนนี้แสยะยิ้ม
“ตอนแรกตั้งใจว่าจะฆ่าให้ตายแบบดี ๆ แท้ ๆ เชียว แต่หมอนี่ดันไหวตัวทันก่อน” อังกฤษนิ่งไปพร้อมกับตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เขาละสายตามามองอีกฝ่าย
“ไหวตัวทัน นายทำอะไรกับสกอตแลนด์!”
“หึ ๆ … ทำให้ทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นไหมไง” โจรสลัดอังกฤษกล่าวอย่างใจเย็น ทว่าใบหน้านั้นฉายแววอำมหิต
“นายคงไม่คิดจะ---”
“มันเป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละตัวฉัน ฉันจะทำลายทุกประเทศและเริ่มต้นประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง ถึงคราวนั้นทุกอย่างจะต้องเป็นไปในทางที่ดี”
พูดมาถึงตรงนี้สกอตแลนด์มีแววตาที่ฉายความกังวล เขารู้ตัวดีว่าน้องชายตนเองนั้นแข็งแกร่งมาแต่ไหนแต่ไร การที่โจรสลัดอังกฤษรู้ว่าอนาคตของโลกเป็นยังไงแล้ว เรื่องการเริ่มต้นประวัติศาสตร์ใหม่เขาก็มีโอกาสทำมันได้สูง
แต่---
“มันก็จริงที่แต่ก่อนเราเคยครอบครองเจ็ดคาบสมุทร และนานาประเทศต้องยอมก้มหัวให้ให้เรา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ทุกประเทศในตอนนี้ล้วนได้รับเอกราชและเข้มแข็งกว่าแต่ก่อนมาก นายอย่าได้ประเมินฝีมือพวกเขาต่ำเชียว!” อังกฤษไม่อยากจะยอมรับหรอก แต่มันเป็นอย่างที่พวกเขาพูดจริง ๆ ความรุ่งเรืองยิ่งมีมากเท่าไหร่ พอมันใกล้ขีดสุดย่อมแตกสลายได้ทุกเมื่อ แล้วตอนนี้หลายประเทศก็ล้วนพัฒนากว่าแต่ก่อนมาก
“หืม? นายเปลี่ยนไปมากเหมือนกันนะ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนอุดมการณ์ของเรานั้นยิ่งใหญ่ เราผู้ซึ่งเป็นจักรวรรดิอังกฤษที่เคยมีเหล่าอาณานิคมมากมาย แต่มาดูตัวเรา… นายตอนนี้สิ เกิดอะไรขึ้นกับนายกัน?”
สกอตแลนด์มองอังกฤษที่มีสีหน้าเจ็บปวด ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่เขาเข้าใจดีเลยว่าความยิ่งใหญ่มันไม่มีทางอยู่ได้ตลอด พอตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ริมฝีปากก็เหยียดออกอย่างเยาะเย้ย เขารู้สึกอยากจะขำจริง ๆ
“นายนี่มันโง่จริง ๆ คิดว่าของพรรค์นั้นมันจะอยู่ได้ตลอดรึไง” โจรสลัดอังกฤษปรายตามองสกอตแลนด์ที่อยู่ข้างหลังตนเอง เขาส่ายหน้าช้า ๆ “สกอตแลนด์ นายกำลังประชดตัวเองอยู่รึไง นายไม่ได้มีความรุ่งเรืองอย่างฉันถึงได้พูดแบบนั้น”
“ไม่เลย นายน่าจะรู้สึกได้ตลอดนะ ขนาดจักรวรรดิโรมันยังล่มสลายทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนนั้นรุ่งเรืองจนแทบไม่มีใครเทียบเคียง แล้วมาดูจุดจบสิ ร่างกายเขาล้วนแต่มีบาดแผล ปรัสเซียเองก็เช่นกัน เหล่าทหารที่ถูกเขาฆ่าล้วนสาปแช่ง พญาอินทรีดำที่ไปเยือนยังแห่งหนใดก็ล้วนมีแต่ความหายนะ ถึงท้ายที่สุดแล้วอาจจะดีกว่าจักรวรรดิโรมัน แต่เขาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนีที่เป็นน้องชายของเขา ทั้ง ๆ ที่ความแข็งแกร่งของประเทศพวกเขาควรจะใช้ในนามของปรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งเคยนำพาความรุ่งโรจน์มาสู่เยอรมนี!”
กาลเวลาล้วนไหลผ่าน สกอตแลนด์ก็เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเช่นกัน เขาเรียนรู้เรื่องราวของจิตวิญญาณประเทศอื่น ๆ และได้ตระหนักถึงเรื่องที่เขาเล่า
“แล้วยังไง?”
อังกฤษกับสกอตแลนด์จับจ้องไปที่โจรสลัดอังกฤษที่มีสีหน้าเบื่อหน่าย
“นายคิดว่านั่นคือความต้องการจริง ๆ ของฉันเหรอ?” อังกฤษเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึง ดูเหมือนว่าสกอตแลนด์จะรู้สึกได้ถึงอีกสิ่งหนึ่งเลยมีสีหน้าเยือกเย็น
“ตกลง… นายต้องการอะไร?” อังกฤษถามพร้อมกับที่สมองเขาหวนนึกไปถึงความฝันก่อนหน้านี้
หรือว่าจะเป็นอเมริกา?
“ฉันว่าตัวเองบอกนายไปแล้วนะ”
“?”
เหลือเพียงแต่ความเงียบจนแม้แต่เสียงลมหายใจก็ยังได้ยินชัดเจน
“ความอาลัยอาวรณ์ของอังกฤษในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพอเมริกา”
“?!”
สกอตแลนด์มองอังกฤษที่ตอนนี้ที่ตอนนี้ฉายสีหน้าตระหนก น้องชายของเขาหวนนึกถึงตัวเองอีกคนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน
‘ฆ่าเขาซะ’
อังกฤษกัดริมฝีปาก
‘มันต้องมีสักวันที่เขาจะกลับมาฆ่านายอีก อังกฤษ ก่อนจะถึงวันนั้นนายต้องรีบลงมือ’
“นาย… ความอาลัยอาวรณ์?” สกอตแลนด์หรี่ตาลงพลางถาม “ถ้าเรียกแบบนั้นจะสะดวกกว่า จริง ๆ แล้วก็คือจิตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในช่วงสงครามนั้น ฉันเองก็เป็นความอาลัยอาวรณ์ในช่วงล่าอาณานิคมเหมือนกัน”
สกอตแลนด์ครุ่นคิดครู่หนึ่งในขณะที่อังกฤษยังคงฉงนอยู่ “เข้าใจล่ะ จิตที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือความค้างคาในใจของอังกฤษสินะ ดูเหมือนว่าตัวฉันเองและประเทศอื่น ๆ ก็น่าจะมีเหมือนกัน” โจรสลัดอังกฤษยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวเสริม
“เข้าใจอะไรเร็วดีนี่ ---นายพูดถูกแล้วล่ะ จิตวิญญาณทุกประเทศล้วนมีสิ่งที่ค้างคาในใจตนเอง เห็นอย่างนี้ก็เถอะ แต่อังกฤษในยุคปัจจุบันและที่ผ่านมานั้นมีหลายครั้งที่เขายังอดนึกถึงตอนที่ตนเองเป็นเกือบเป็นใหญ่ในโลกไม่ได้ เขาอยากย้อนกลับไปแก้ไขอะไรต่าง ๆ จนมีตัวฉันคนนี้อยู่ยังไงล่ะ”
“นายรู้---” อังกฤษยังถามไม่ทันจบอีกฝ่ายก็ชิงตอบก่อน “ฉันเป็นความปรารถนาของนาย เพราะแบบนั้นถึงได้มีฉัน และฉันก็รู้อีกว่านายยังต้องการสิ่งใดอีก”
“!”
มาถึงตรงนี้ใบหน้าของอังกฤษซีดจนแทบไม่เห็นสีเลือด เขาตะโกนลั่น
“หยุด! หุบปากซะ---”
ความต้องการลึก ๆ ในใจของเขา
เขาเก็บมันเป็นความลับไว้มาตลอด และตัวเขาเองก็กำลังเป็นคนเผยมัน
“นายต้องการครอบครองอเมริกา”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ