บันทึกป่วน วิญญาณนิสัยแย่
8.0
เขียนโดย Broskev
วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.31 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
21.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 20.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) เตรียมตัวเข้าสำนักแบบเศรษฐี..เสกน้องใส่ท้องแม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียนจื่อเข้ามารายงานว่าได้ส่งคุณหนูเหมยที่บ้านแล้วทั้งยังรับฝากข้อความมาให้ข้าอีกด้วย ว่าขอบคุณอีกครั้งและถามถึงการมาเล่นที่บ้านนี้อีกครั้งถ้ามีโอกาส
ข้าตอบว่ายินดีต้อนรับนางเสมอ ทำให้สีหน้าเสียนจื่อสว่างสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เสียนจื่อยังบอกอีกว่า คุณหนูเหมยเป็นบุตรสาวจากอนุคนหนึ่งของท่านอ๋องห้าที่ได้ชื่อว่าเป็นอ๋องเจ้าสำราญมากที่สุด
เสเพลมากที่สุดในเมือง แซ่เหมยเป็นแซ่ของมารดาของนางที่ออกมาข้างนอกจนทำว่าวตกมาในเขตเรือนตะวันตกได้ ก็เพราะออกมาไหว้พระกับมารดาและแอบออกมาเล่นว่าวที่พึ่งซื้อได้จากในตลาด
มารดาของนางยังให้รางวัลเป็นถุงเงินเล็กๆมาหนึ่งถุงสำหรับที่ช่วยเหลือบุตรสาวแล้วพามาส่ง
เมื่อเห็นเสียนจื่อยื่นถุงให้ ข้าเลยให้มันเก็บเอาไว้เอง
ทั้งนึกเวทนาเสียนจื่ออยู่ลึกๆแม้นางจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุ แต่ก็ยังเป็นบุตรีของท่านอ๋องอยู่ดีถึงข้าไม่รังแกพวกเค้า เพียงฐานะก็เคี่ยวกรำพวกมันมากอยู่แล้ว
หลังเลิกเรียนตอนเย็นท่านแม่ใหญ่ให้คนมาแจ้งว่าหาอาจารย์สอนต่อสู้ ขี่ม้า ยิงธนูให้ข้าได้แล้วแต่เนื่องจากตารางของข้าเต็มมาก นางจึงบอกให้คุยกับอาเย่แล้วจัดตารางใหม่
แน่นอนว่าอาเย่ไม่ออกความเห็นใดเพียงข้าเรียกมันไปพบก็ทำหน้าเหมือนท้องผูกมาสิบวันครึ่งเดือน
ข้าก็ไม่เคี้ยวเข็นเด็กนั้น จัดตารางให้ตัวเองและมันไปตามใจ
และเพื่อไม่ให้ตัวเองจมกับบ้านที่น่าเบื่อข้าเลยไปเยี่ยมแม่ใหญ่เสนอให้ไม่ต้องเรียกอาจารย์ต่อสู้ ขี่ม้า ยิงธนู มาสอนที่บ้านแต่ไปเรียนที่สำนักยุทธแทน ตอนเที่ยงกลับมาทานข้าวที่บ้านแล้วเรียนวิชาทั่วไปตอนบ่าย
แม้ท่านแม่ใหญ่จะเป็นห่วงกังวลอยู่บ้าง แต่เมื่อคำนึงว่าถึงเวลาที่ข้าโตพอให้ออกไปนอกบ้านได้แล้ว จึงตกลง
ออ ข้ายังไม่ลืมทวงถามการขึ้นเงินเดือนของท่านอาจารย์ทั้งหลายเรื่องนี้ แม่ใหญ่บอกว่าจะไป ทวงค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นมาจากทางบ้านอาเย่เอารับรองว่าเหล่าอาจารย์ทุกท่านจะต้องพึงพอใจนึกชื่นชมแม่ใหญ่ในใจ นางสมเป็นภรรยาพ่อค้าจริงๆ
ดังนั้นตั้งแต่สัปดาห์หน้า ข้าก็จะได้เป็นศิษย์สำนักยุทธชื่อดังของเมือง และเรื่องสนุกคงตามมาไม่น้อยเลย
.........................................
การเตรียมตัวเข้าสำนักข้างนอกนั้นยุ่งวุ่นวายแบบเศรษฐีๆ
ทั้งตัดชุด ซื้ออุปกรณ์ คัดผู้ติดตาม ทุกอย่างต้องใหม่ ต้องดี ต้องสมศักดิ์ศรีวิ่งวุ่นกันทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง
แน่นอนว่ารวมซ้ายและขวาด้วยตอนนี้
ยอดเยี่ยม..
เหลือบมองตัวเองในกระจก เด็กน้อยแสนงาม ปากนิดจมูกหน่อย ดูโปร่งใส
บอบบางไม่ต่างจากงานแก้วเจียรนัยยืนหน้าเหม็นอยู่ในนั้น
รู้สึกเหมือนเห็นคำว่า...รวย... ตัวเป้งแปะอยู่กลางหน้าผากอย่างน่าสงสาร
นั่นสินะ คนรวยๆ ก็ต้องทำตัวอย่างคนรวยๆ ชีวิตคนเราก็ไม่ค่อยมีทางเลือกมากนักหรอก
คนนั้นรีบ คนนี้ก็รีบ เหล่าคนรับใช้ต่างเดินไปมาน่ารำคาญราวกับแมงหวี่รอบศีรษะ
โอ...ชีวิตที่น่าสมเพชเวทนาของข้า.. ...น่าเสียดายอย่างสุดซึ้งที่ข้าไม่สามารถตบแมงหวี่พวกนี้ได้
และที่น่าเวทนากว่านั้น ....ข้าเองก็ไม่พ้นกัน
การยืนวัดตัวสำหรับข้าตรากตรำไม่น้อย
"ยืดอกอีกนิด กางแขนอีกหน่อยขอรับ หากนายน้อยยังยืนท่าเมื่อยอย่างนี้
เราคงได้อยู่ด้วยกันอีกนาน และต้องได้เจอกันอีกในเวลาอันใกล้"
ช่างวัดตัวกล่าวเรื่องคอขาดบาดตายด้วยใบหน้านิ่ง เส้นเอ็นตรงขมับของมันกระตุกเป็นพักๆ
ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่ง
ข้าทำตัวเรียบๆร้อยๆขึ้น อีกนิด แต่ก็...อีกนิดเท่านั้นแหละนะ ช่างวัดตัวกระตุกยิ้มฝืนๆ กว่าชั่วยามแล้วที่ข้าเดี๋ยวทำนั่น เดี๋ยวทำนี้
เดินทางนั้น เรียกคนนี้ไม่ปล่อยให้วัดตัวง่ายๆเสียที
ช่างวัดตัวผู้โชคร้ายก็ตามข้าไปทุกที่ เปลี่ยนมุมแล้ว เปลี่ยนท่าอีก วัดใหม่อีกก็หลายหนจากเรื่องง่ายๆ ก็ลากยาวเป็นชั่วยามขึ้นมา
บ่าวรับใช้ที่ทราบนิสัยของข้าดีก็ได้แต่ส่งสายตาเห็นใจไปให้....และ เท่านั้นจริงๆ
ข้าเรียกใบหน้าพวกนี้ว่า ความเสแสร้ง
พวกมันต้องรู้สึกดีมากแน่ๆหละภายใต้ความเห็นอกเห็นใจ ซาบซึ้งตรึงใจสุดเปรียบปาน
เชื่อได้เลยว่าเป็นความโล่งอกที่มีเหยื่อผู้โชคร้ายดึงความสนใจของข้าไปพักใหญ่จากการรังแกพวกมัน และเหยื่อคนนั้นจะใครก็ได้....ที่ไม่ใช่ตัวเองพวกมันก็เพียงออกอาการเห็นใจไปตามมารยาทเท่านั้น
มองสายตาให้กำลังใจ ถอนใจทำหน้าปั้นยากอย่างอับจนปัญญานั่นแหละใช่เลย พวกนั้นทำท่าอย่างนั้นจนเป็นเหมือนกันหมดและก่อนที่ข้าจะมีเวลามากพอ จะคิดแผนการดีๆอะไรออก
บ่าวเหล่านั้นก็เหมือนนกรู้
เผ่นกันออกไปหมดชุดเสียแล้วทิ้งไว้แต่บ่าวผู้หนึ่งที่ข้ารู้คร้าวๆว่าน่าจะแพ้พนันน้ำเต้า ปู ปลา แล้วไม่มีปัญญาจ่ายที่เสียนจื่อ คนรับใช้หน้านิ่งฉบับข้า เล่นเป็นเจ้ามือเมื่อเย็นวันก่อน
ข้าเหลือบมองบ่าวรับใช้ที่พยายามกลายร่างตัวเองเป็นเงาตามประตู
หรือผีข้างตู้อย่างความมุ่งมั่น หักโหมด้วยสายตาเวทนา
เป็นไปได้หรือไม่ ว่าจะมีตำราการเป็นบ่าวรับใช้ หรืออะไรที่เป็นแบบแผนเถือกๆนั้น
สำหรับบ่าวของข้า โดยที่ข้าไม่รู้สักวันข้าจะลองถามพ่อบ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยจะได้แนะนำว่าแบบแผนสีหน้าเสแสร้งนั้นต้องปรับปรุงตรงการกลอกตาอีกเล็กน้อย
เหลือบมองช่างวัดตัวข้างๆ ซึ่งไม่มีวาจาจะกล่าวนอกจากพยายามเร่งงาน
โดยการพยายามเอียงตัวตามการเคลื่อนไหวของข้าในท่าทางประหลาดๆช่างคนดียังมุ่งมั่นที่จะทำงานของตัวต่อไป...น่าเลื่อมใสในจรรยาบรรณยิ่ง..
ออ...หรือไม่..ก็เป็นเงินก้อนโตค่าจ้างนั่น
และเมื่อข้าคิดไม่ออกอีกแล้วว่าจะทำอะไร ก็กลับมายืนเมื่อย บิดนู่นสะบัดนี่แทน
เทียบกับข้าแล้ว การเตรียมการของ เย่เย่ราบรื่น กว่ามากทั้งเด็กน้อยนี่ยังมีหน้าตารับแขก ให้บรรยากาศน่าใกล้ชิด
ไม่ว่าบ่าวรับใช้หรืออาจารย์ที่เข้มงวด ก็ยังผ่อนคลายกับเด็กคนนี้
แม้ว่าคนผู้นี้จะทำเรื่องผิดพลาด เพียงดวงตาสีเขียวกับสีหน้าหมาหงอย ทุกสิ่งล้วนราบรื่น
ถึงอย่างนั้น การที่เด็กคนนี้เป็นเพียงคุณชายจากตระกูลสายรองที่ไม่สำคัญอะไรทั้งเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ไม่บ่นไม่ว่าไม่เหวี่ยงและที่สำคัญไม่มีคนหนุนหลังคอยปกป้องคนส่วนมากเลยละเลย จูเจียงเย่ ไปกลายๆ
น่าขำ
ขณะที่ข้าโหดร้ายกับคนเหล่านี้ พวกมันกลับเคารพนบนอบข้า ดูแลเอาใจ
คอยสังเกตสีหน้าของข้าตลอดเวลา ไม่กล้าทำเรื่องผิดพลาดไปแม้เพียงนิดแม้ว่าข้าเองจะไม่เคยวิ่งแจ้นไปฟ้องร้องเอาความกับผู้ใหญ่คนใดเลยก็ตาม
คนเรานั้นประหลาด โดยเฉพาะบ่าวรับใช้ ยิ่งกดขี่เท่าไหร่ ยิ่งดูแลเราดีขึ้นเท่านั้น
นึกถึงแต่ก่อนที่เกิดมาในชาติหนึ่ง ข้ามีท่านแม่เป็นเจ้าแม่ขาวีน
อะไรที่นางไม่พอใจเป็นได้ด่า เหวี่ยงงวงตลอดโดยเฉพาะกับการซื้อสินค้าด้วยแล้ว ท่านแม่ผู้นี้กล้าที่จะฟ้องร้องถึงเจ้านายที่ที่ใหญ่ที่สุดอย่างไม่หวั่นเกรงเลยทีเดียว
เช่น ถ้าซื้อของที่ได้ของแถมแล้วสินค้าที่แถมหมดและไม่มีให้ล่ะก็วันนั้นเป็นคราวเคราะห์ของพนักงานผู้นั้นแน่แล้ว
ข้านึกถึงแล้วก็ขำ ตอนนั้นข้ากลับเป็นอะไรที่ต่างจากท่านแม่นางนั้นมากเหลือเกิน
ยิ่งท่านแม่ขี้วีนมากเท่าไหร่ ตัวข้า ก็ยิ่งหน้าบางมากขึ้นเท่านั้น ผลออกมากลับน่าสนใจยิ่ง
8 ใน 10 ท่านแม่มักประสบความสำเร็จในกิจการของท่าน ท่านวีน ท่านว่า เอาเรื่องทุกทางข้าถูกเสมอ นี่คือคติของท่านและถือว่าเป็นแบบแผนของชีวิตเลยหละ
แต่ยิ่งกว่านั้นท่านกลับจะได้มากขึ้นทั้งที่ไม่น่าจะได้อย่างน่าประหลาดใจทั้งทุกคนยังพินอบพิเทา เอาอกเอาใจนาง
ขณะที่ข้าเรียบร้อยทำตัวดี ยอมรับความลำบากใจของผู้อื่น
สุดท้าย น้อยครั้งนักที่ข้าเจรจาสำเร็จนอกจากเสียเวลาเสียแรง เสียเงินทอง เสียใจ ข้านั้นไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย
การเป็นคนดีนี่ไม่ง่ายเลย
.....................................
ทุกเช้าข้าจะไปหาท่านแม่แล้วนำน้ำชาตัวใหม่ที่ปรุงขึ้นเพื่อล้างยาจากชาดอกไม้เดิมไปให้ท่านชิม
หรือถ้าไปเองไม่ได้ก็จะได้เสียนจื่อไปแทน
เรื่องน้ำชานั้นข้าจงใจเล่นไปตามบทของบุตรที่พึ่งรู้จักการปรุงชามาปรึกษาท่านแม่ผู้เชี่ยวชาญ
โดย เริ่มจากรสแย่ๆก่อน จากนั้นก็จะปรับรสชาติให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ข้ามองชามน้ำชาที่ว่างเปล่าในมือขาวผ่องของท่านช่วงนี้ขอเพียงท่านพ่อไปหาท่านแม่ล่ะก็ ข้าเป็นต้องได้น้องสมใจ
รับรู้ได้รางๆว่าตัวเองเหมือนปีศาจมากขึ้นทุกที
ไม่สิ ... ลึกๆแล้วข้ารู้อยู่แล้วหละว่าตัวเองน่ะปีศาจชัดๆ
ท่านแม่คนดีก็ไม่ได้ทราบเจตนาอันชั่วร้ายของบุตรชายตัวน้อยของนางเลยสักนิด
ตั้งใจดื่มชาของข้าอย่างจริงจัง ทั้งยังแนะนำติ ชมอย่างแม่ๆ
ที่รักบุตรและต้องการให้บุตรประสบความสำเร็จ ในกิจการใดๆก็ตามพึ่งกระทำ
สำหรับนาง ข้าเป็นบุตรอันประเสริฐ นั่นแหละข้า
ข้าไม่ได้ค้นหาว่าอะไรทำให้ท่านแม่ไม่ต้องการเด็ก สุขภาพของท่านก็ถือว่าดีระหว่างนี้ข้าแอบตรวจท่านบ่อยๆ
ถ้างั้นก็อาจเป็นปัญหาแบบที่ผู้หญิงที่เป็นแม่เท่านั้นจะเข้าใจ
อืม ข้าก็เคยเกิดเป็นหญิง แล้วก็เคยเป็นแม่เหมือนกันถ้าท่านมีปัญหาก็ถามข้าได้นะ ประสบการณ์ข้าโชกโชนใช่น้อยลูกเดียว ลูกแฝด ลูกไม่ออก เกิดก่อน เกิดหลังกำหนด เด็กไม่กลับหัว สายรกรัดคอข้าก็เคยมาหมด คลอดลูกตายก็มีบ้างนานๆครั้ง
อืม ถ้าไม่มีปัญหาด้านคลอด ใหญ่ๆก็อาจจะเรื่องน้ำนม
จริงสินะ ท่านแม่ก็ดูจะไม่ค่อยมีน้ำนมให้ข้าเท่าไหร่
แม่นมตอนแรกของข้า พอข้าโตได้สักหน่อยก็ถูกแม่ใหญ่ย้ายไปทำอย่างอื่น
ข้าไม่ได้เห็นนางมานานมากแล้วจริงๆ
แม่ใหญ่ไม่ต้องการให้ข้าใกล้ชิดกับใครมากเกินไปจนมีอิทธิพลทางจิตใจได้แม้แต่กับท่านแม่ของข้าเองก็ตาม
เพื่อคุมอำนาจในบ้านอย่างมั่นคง แม่ใหญ่เลยอบรมเลี้ยงดูข้ามาแต่เด็กเพื่อให้ข้าเป็นของนางอย่างแท้จริง
หรืออย่างน้อยก็ทำให้ข้าเห็นคำพูดของนางมีน้ำหนัก และต้องใส่ใจ
อา ข้าน่ะใส่ใจผู้อื่นเสมอแหละ
แล้วไปเถอะ
ดีนะที่วิญญาณข้าฉลาด ต่อให้น้ำนมไม่พอ สารอาหารไม่ครบ ก็ยังมีสมองที่ดีได้
แล้วนี่ถ้าน้องเกิดมาจะมีปัญหาทางสมองหรือไม่ข้าต้องเตรียมแม่นมตั้งแต่ตอนนี้หรือเปล่านะ
เรื่องสารอาหารท่านแม่อาจจะไม่ได้คิดถึงข้อนี้ก็เป็นได้ในภพนี้ก็ไม่มีใครรู้จักด้วย
หรืออาจจะเป็น “การเป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้านที่คลอดลูกได้” ก็ได้
เรื่องนี้ดูจะร้ายแรงที่สุด ความริษยาไม่เคยปราณีใคร แม้แต่คนที่เคยจิตใจดีที่สุดก็ตาม
ถ้าท่านแม่ตั้งครรภ์จริง ข้าเองยังรับประกันไม่ได้เลยว่าจะไม่มีคนวางยาทำร้ายหรือถึงขนาดเชือดท่านทิ้ง
ถึงตอนนั้น ข้าต้องหาทางปกป้องท่านให้ดี
ข้าตอบว่ายินดีต้อนรับนางเสมอ ทำให้สีหน้าเสียนจื่อสว่างสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เสียนจื่อยังบอกอีกว่า คุณหนูเหมยเป็นบุตรสาวจากอนุคนหนึ่งของท่านอ๋องห้าที่ได้ชื่อว่าเป็นอ๋องเจ้าสำราญมากที่สุด
เสเพลมากที่สุดในเมือง แซ่เหมยเป็นแซ่ของมารดาของนางที่ออกมาข้างนอกจนทำว่าวตกมาในเขตเรือนตะวันตกได้ ก็เพราะออกมาไหว้พระกับมารดาและแอบออกมาเล่นว่าวที่พึ่งซื้อได้จากในตลาด
มารดาของนางยังให้รางวัลเป็นถุงเงินเล็กๆมาหนึ่งถุงสำหรับที่ช่วยเหลือบุตรสาวแล้วพามาส่ง
เมื่อเห็นเสียนจื่อยื่นถุงให้ ข้าเลยให้มันเก็บเอาไว้เอง
ทั้งนึกเวทนาเสียนจื่ออยู่ลึกๆแม้นางจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุ แต่ก็ยังเป็นบุตรีของท่านอ๋องอยู่ดีถึงข้าไม่รังแกพวกเค้า เพียงฐานะก็เคี่ยวกรำพวกมันมากอยู่แล้ว
หลังเลิกเรียนตอนเย็นท่านแม่ใหญ่ให้คนมาแจ้งว่าหาอาจารย์สอนต่อสู้ ขี่ม้า ยิงธนูให้ข้าได้แล้วแต่เนื่องจากตารางของข้าเต็มมาก นางจึงบอกให้คุยกับอาเย่แล้วจัดตารางใหม่
แน่นอนว่าอาเย่ไม่ออกความเห็นใดเพียงข้าเรียกมันไปพบก็ทำหน้าเหมือนท้องผูกมาสิบวันครึ่งเดือน
ข้าก็ไม่เคี้ยวเข็นเด็กนั้น จัดตารางให้ตัวเองและมันไปตามใจ
และเพื่อไม่ให้ตัวเองจมกับบ้านที่น่าเบื่อข้าเลยไปเยี่ยมแม่ใหญ่เสนอให้ไม่ต้องเรียกอาจารย์ต่อสู้ ขี่ม้า ยิงธนู มาสอนที่บ้านแต่ไปเรียนที่สำนักยุทธแทน ตอนเที่ยงกลับมาทานข้าวที่บ้านแล้วเรียนวิชาทั่วไปตอนบ่าย
แม้ท่านแม่ใหญ่จะเป็นห่วงกังวลอยู่บ้าง แต่เมื่อคำนึงว่าถึงเวลาที่ข้าโตพอให้ออกไปนอกบ้านได้แล้ว จึงตกลง
ออ ข้ายังไม่ลืมทวงถามการขึ้นเงินเดือนของท่านอาจารย์ทั้งหลายเรื่องนี้ แม่ใหญ่บอกว่าจะไป ทวงค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นมาจากทางบ้านอาเย่เอารับรองว่าเหล่าอาจารย์ทุกท่านจะต้องพึงพอใจนึกชื่นชมแม่ใหญ่ในใจ นางสมเป็นภรรยาพ่อค้าจริงๆ
ดังนั้นตั้งแต่สัปดาห์หน้า ข้าก็จะได้เป็นศิษย์สำนักยุทธชื่อดังของเมือง และเรื่องสนุกคงตามมาไม่น้อยเลย
.........................................
การเตรียมตัวเข้าสำนักข้างนอกนั้นยุ่งวุ่นวายแบบเศรษฐีๆ
ทั้งตัดชุด ซื้ออุปกรณ์ คัดผู้ติดตาม ทุกอย่างต้องใหม่ ต้องดี ต้องสมศักดิ์ศรีวิ่งวุ่นกันทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง
แน่นอนว่ารวมซ้ายและขวาด้วยตอนนี้
ยอดเยี่ยม..
เหลือบมองตัวเองในกระจก เด็กน้อยแสนงาม ปากนิดจมูกหน่อย ดูโปร่งใส
บอบบางไม่ต่างจากงานแก้วเจียรนัยยืนหน้าเหม็นอยู่ในนั้น
รู้สึกเหมือนเห็นคำว่า...รวย... ตัวเป้งแปะอยู่กลางหน้าผากอย่างน่าสงสาร
นั่นสินะ คนรวยๆ ก็ต้องทำตัวอย่างคนรวยๆ ชีวิตคนเราก็ไม่ค่อยมีทางเลือกมากนักหรอก
คนนั้นรีบ คนนี้ก็รีบ เหล่าคนรับใช้ต่างเดินไปมาน่ารำคาญราวกับแมงหวี่รอบศีรษะ
โอ...ชีวิตที่น่าสมเพชเวทนาของข้า.. ...น่าเสียดายอย่างสุดซึ้งที่ข้าไม่สามารถตบแมงหวี่พวกนี้ได้
และที่น่าเวทนากว่านั้น ....ข้าเองก็ไม่พ้นกัน
การยืนวัดตัวสำหรับข้าตรากตรำไม่น้อย
"ยืดอกอีกนิด กางแขนอีกหน่อยขอรับ หากนายน้อยยังยืนท่าเมื่อยอย่างนี้
เราคงได้อยู่ด้วยกันอีกนาน และต้องได้เจอกันอีกในเวลาอันใกล้"
ช่างวัดตัวกล่าวเรื่องคอขาดบาดตายด้วยใบหน้านิ่ง เส้นเอ็นตรงขมับของมันกระตุกเป็นพักๆ
ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่ง
ข้าทำตัวเรียบๆร้อยๆขึ้น อีกนิด แต่ก็...อีกนิดเท่านั้นแหละนะ ช่างวัดตัวกระตุกยิ้มฝืนๆ กว่าชั่วยามแล้วที่ข้าเดี๋ยวทำนั่น เดี๋ยวทำนี้
เดินทางนั้น เรียกคนนี้ไม่ปล่อยให้วัดตัวง่ายๆเสียที
ช่างวัดตัวผู้โชคร้ายก็ตามข้าไปทุกที่ เปลี่ยนมุมแล้ว เปลี่ยนท่าอีก วัดใหม่อีกก็หลายหนจากเรื่องง่ายๆ ก็ลากยาวเป็นชั่วยามขึ้นมา
บ่าวรับใช้ที่ทราบนิสัยของข้าดีก็ได้แต่ส่งสายตาเห็นใจไปให้....และ เท่านั้นจริงๆ
ข้าเรียกใบหน้าพวกนี้ว่า ความเสแสร้ง
พวกมันต้องรู้สึกดีมากแน่ๆหละภายใต้ความเห็นอกเห็นใจ ซาบซึ้งตรึงใจสุดเปรียบปาน
เชื่อได้เลยว่าเป็นความโล่งอกที่มีเหยื่อผู้โชคร้ายดึงความสนใจของข้าไปพักใหญ่จากการรังแกพวกมัน และเหยื่อคนนั้นจะใครก็ได้....ที่ไม่ใช่ตัวเองพวกมันก็เพียงออกอาการเห็นใจไปตามมารยาทเท่านั้น
มองสายตาให้กำลังใจ ถอนใจทำหน้าปั้นยากอย่างอับจนปัญญานั่นแหละใช่เลย พวกนั้นทำท่าอย่างนั้นจนเป็นเหมือนกันหมดและก่อนที่ข้าจะมีเวลามากพอ จะคิดแผนการดีๆอะไรออก
บ่าวเหล่านั้นก็เหมือนนกรู้
เผ่นกันออกไปหมดชุดเสียแล้วทิ้งไว้แต่บ่าวผู้หนึ่งที่ข้ารู้คร้าวๆว่าน่าจะแพ้พนันน้ำเต้า ปู ปลา แล้วไม่มีปัญญาจ่ายที่เสียนจื่อ คนรับใช้หน้านิ่งฉบับข้า เล่นเป็นเจ้ามือเมื่อเย็นวันก่อน
ข้าเหลือบมองบ่าวรับใช้ที่พยายามกลายร่างตัวเองเป็นเงาตามประตู
หรือผีข้างตู้อย่างความมุ่งมั่น หักโหมด้วยสายตาเวทนา
เป็นไปได้หรือไม่ ว่าจะมีตำราการเป็นบ่าวรับใช้ หรืออะไรที่เป็นแบบแผนเถือกๆนั้น
สำหรับบ่าวของข้า โดยที่ข้าไม่รู้สักวันข้าจะลองถามพ่อบ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยจะได้แนะนำว่าแบบแผนสีหน้าเสแสร้งนั้นต้องปรับปรุงตรงการกลอกตาอีกเล็กน้อย
เหลือบมองช่างวัดตัวข้างๆ ซึ่งไม่มีวาจาจะกล่าวนอกจากพยายามเร่งงาน
โดยการพยายามเอียงตัวตามการเคลื่อนไหวของข้าในท่าทางประหลาดๆช่างคนดียังมุ่งมั่นที่จะทำงานของตัวต่อไป...น่าเลื่อมใสในจรรยาบรรณยิ่ง..
ออ...หรือไม่..ก็เป็นเงินก้อนโตค่าจ้างนั่น
และเมื่อข้าคิดไม่ออกอีกแล้วว่าจะทำอะไร ก็กลับมายืนเมื่อย บิดนู่นสะบัดนี่แทน
เทียบกับข้าแล้ว การเตรียมการของ เย่เย่ราบรื่น กว่ามากทั้งเด็กน้อยนี่ยังมีหน้าตารับแขก ให้บรรยากาศน่าใกล้ชิด
ไม่ว่าบ่าวรับใช้หรืออาจารย์ที่เข้มงวด ก็ยังผ่อนคลายกับเด็กคนนี้
แม้ว่าคนผู้นี้จะทำเรื่องผิดพลาด เพียงดวงตาสีเขียวกับสีหน้าหมาหงอย ทุกสิ่งล้วนราบรื่น
ถึงอย่างนั้น การที่เด็กคนนี้เป็นเพียงคุณชายจากตระกูลสายรองที่ไม่สำคัญอะไรทั้งเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ไม่บ่นไม่ว่าไม่เหวี่ยงและที่สำคัญไม่มีคนหนุนหลังคอยปกป้องคนส่วนมากเลยละเลย จูเจียงเย่ ไปกลายๆ
น่าขำ
ขณะที่ข้าโหดร้ายกับคนเหล่านี้ พวกมันกลับเคารพนบนอบข้า ดูแลเอาใจ
คอยสังเกตสีหน้าของข้าตลอดเวลา ไม่กล้าทำเรื่องผิดพลาดไปแม้เพียงนิดแม้ว่าข้าเองจะไม่เคยวิ่งแจ้นไปฟ้องร้องเอาความกับผู้ใหญ่คนใดเลยก็ตาม
คนเรานั้นประหลาด โดยเฉพาะบ่าวรับใช้ ยิ่งกดขี่เท่าไหร่ ยิ่งดูแลเราดีขึ้นเท่านั้น
นึกถึงแต่ก่อนที่เกิดมาในชาติหนึ่ง ข้ามีท่านแม่เป็นเจ้าแม่ขาวีน
อะไรที่นางไม่พอใจเป็นได้ด่า เหวี่ยงงวงตลอดโดยเฉพาะกับการซื้อสินค้าด้วยแล้ว ท่านแม่ผู้นี้กล้าที่จะฟ้องร้องถึงเจ้านายที่ที่ใหญ่ที่สุดอย่างไม่หวั่นเกรงเลยทีเดียว
เช่น ถ้าซื้อของที่ได้ของแถมแล้วสินค้าที่แถมหมดและไม่มีให้ล่ะก็วันนั้นเป็นคราวเคราะห์ของพนักงานผู้นั้นแน่แล้ว
ข้านึกถึงแล้วก็ขำ ตอนนั้นข้ากลับเป็นอะไรที่ต่างจากท่านแม่นางนั้นมากเหลือเกิน
ยิ่งท่านแม่ขี้วีนมากเท่าไหร่ ตัวข้า ก็ยิ่งหน้าบางมากขึ้นเท่านั้น ผลออกมากลับน่าสนใจยิ่ง
8 ใน 10 ท่านแม่มักประสบความสำเร็จในกิจการของท่าน ท่านวีน ท่านว่า เอาเรื่องทุกทางข้าถูกเสมอ นี่คือคติของท่านและถือว่าเป็นแบบแผนของชีวิตเลยหละ
แต่ยิ่งกว่านั้นท่านกลับจะได้มากขึ้นทั้งที่ไม่น่าจะได้อย่างน่าประหลาดใจทั้งทุกคนยังพินอบพิเทา เอาอกเอาใจนาง
ขณะที่ข้าเรียบร้อยทำตัวดี ยอมรับความลำบากใจของผู้อื่น
สุดท้าย น้อยครั้งนักที่ข้าเจรจาสำเร็จนอกจากเสียเวลาเสียแรง เสียเงินทอง เสียใจ ข้านั้นไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย
การเป็นคนดีนี่ไม่ง่ายเลย
.....................................
ทุกเช้าข้าจะไปหาท่านแม่แล้วนำน้ำชาตัวใหม่ที่ปรุงขึ้นเพื่อล้างยาจากชาดอกไม้เดิมไปให้ท่านชิม
หรือถ้าไปเองไม่ได้ก็จะได้เสียนจื่อไปแทน
เรื่องน้ำชานั้นข้าจงใจเล่นไปตามบทของบุตรที่พึ่งรู้จักการปรุงชามาปรึกษาท่านแม่ผู้เชี่ยวชาญ
โดย เริ่มจากรสแย่ๆก่อน จากนั้นก็จะปรับรสชาติให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ข้ามองชามน้ำชาที่ว่างเปล่าในมือขาวผ่องของท่านช่วงนี้ขอเพียงท่านพ่อไปหาท่านแม่ล่ะก็ ข้าเป็นต้องได้น้องสมใจ
รับรู้ได้รางๆว่าตัวเองเหมือนปีศาจมากขึ้นทุกที
ไม่สิ ... ลึกๆแล้วข้ารู้อยู่แล้วหละว่าตัวเองน่ะปีศาจชัดๆ
ท่านแม่คนดีก็ไม่ได้ทราบเจตนาอันชั่วร้ายของบุตรชายตัวน้อยของนางเลยสักนิด
ตั้งใจดื่มชาของข้าอย่างจริงจัง ทั้งยังแนะนำติ ชมอย่างแม่ๆ
ที่รักบุตรและต้องการให้บุตรประสบความสำเร็จ ในกิจการใดๆก็ตามพึ่งกระทำ
สำหรับนาง ข้าเป็นบุตรอันประเสริฐ นั่นแหละข้า
ข้าไม่ได้ค้นหาว่าอะไรทำให้ท่านแม่ไม่ต้องการเด็ก สุขภาพของท่านก็ถือว่าดีระหว่างนี้ข้าแอบตรวจท่านบ่อยๆ
ถ้างั้นก็อาจเป็นปัญหาแบบที่ผู้หญิงที่เป็นแม่เท่านั้นจะเข้าใจ
อืม ข้าก็เคยเกิดเป็นหญิง แล้วก็เคยเป็นแม่เหมือนกันถ้าท่านมีปัญหาก็ถามข้าได้นะ ประสบการณ์ข้าโชกโชนใช่น้อยลูกเดียว ลูกแฝด ลูกไม่ออก เกิดก่อน เกิดหลังกำหนด เด็กไม่กลับหัว สายรกรัดคอข้าก็เคยมาหมด คลอดลูกตายก็มีบ้างนานๆครั้ง
อืม ถ้าไม่มีปัญหาด้านคลอด ใหญ่ๆก็อาจจะเรื่องน้ำนม
จริงสินะ ท่านแม่ก็ดูจะไม่ค่อยมีน้ำนมให้ข้าเท่าไหร่
แม่นมตอนแรกของข้า พอข้าโตได้สักหน่อยก็ถูกแม่ใหญ่ย้ายไปทำอย่างอื่น
ข้าไม่ได้เห็นนางมานานมากแล้วจริงๆ
แม่ใหญ่ไม่ต้องการให้ข้าใกล้ชิดกับใครมากเกินไปจนมีอิทธิพลทางจิตใจได้แม้แต่กับท่านแม่ของข้าเองก็ตาม
เพื่อคุมอำนาจในบ้านอย่างมั่นคง แม่ใหญ่เลยอบรมเลี้ยงดูข้ามาแต่เด็กเพื่อให้ข้าเป็นของนางอย่างแท้จริง
หรืออย่างน้อยก็ทำให้ข้าเห็นคำพูดของนางมีน้ำหนัก และต้องใส่ใจ
อา ข้าน่ะใส่ใจผู้อื่นเสมอแหละ
แล้วไปเถอะ
ดีนะที่วิญญาณข้าฉลาด ต่อให้น้ำนมไม่พอ สารอาหารไม่ครบ ก็ยังมีสมองที่ดีได้
แล้วนี่ถ้าน้องเกิดมาจะมีปัญหาทางสมองหรือไม่ข้าต้องเตรียมแม่นมตั้งแต่ตอนนี้หรือเปล่านะ
เรื่องสารอาหารท่านแม่อาจจะไม่ได้คิดถึงข้อนี้ก็เป็นได้ในภพนี้ก็ไม่มีใครรู้จักด้วย
หรืออาจจะเป็น “การเป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้านที่คลอดลูกได้” ก็ได้
เรื่องนี้ดูจะร้ายแรงที่สุด ความริษยาไม่เคยปราณีใคร แม้แต่คนที่เคยจิตใจดีที่สุดก็ตาม
ถ้าท่านแม่ตั้งครรภ์จริง ข้าเองยังรับประกันไม่ได้เลยว่าจะไม่มีคนวางยาทำร้ายหรือถึงขนาดเชือดท่านทิ้ง
ถึงตอนนั้น ข้าต้องหาทางปกป้องท่านให้ดี
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ