Impossible Love... รักไม่ได้ก็จะรัก
7.3
เขียนโดย maillynboony
วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 16.19 น.
6 chapter
0 วิจารณ์
8,487 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559 17.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ผู้ปกครอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 3
( Khaowpan Part’s )…
ผมมาถึงมหาลัยก่อนเวลาสอนสามชั่วโมงเพราะต้องตื่นมาให้ทันเจ้าเตี้ยเกี๊ยะเข้าเรียน หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ผมไม่ได้ตอบมันไป เพียงแต่ไล่มันขึ้นไปนอน มันกรอกตาใส่ผมก่อนจะเดินหายไปกับบันไดบ้านเพื่อเข้าห้อง ที่ผมไม่ตอบ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีคำตอบ ผมมี แต่เลือกที่จะไม่ตอบดีกว่า ไม่รู้ซิ! ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอ่ะ แมนๆเตะบอลอย่างผมมันต้องมาแคร์เรื่องนี้ด้วยเหรอ? 7 ปีนะเว้ยคุณ ผ่านมานาน จนผมแทบจะจำใครไม่ได้ด้วยซ้ำรุ่นๆเดียวกันเนี่ย
ความคิดหยุดชะงักเมื่อเสียงประตูห้องเปิด พร้อมกับการก้าวขาของร่างสูงผิวสีเข้มเข้ามา ความรู้สึกถึงการมาของคนๆนี้ทำให้ผมต้องถอนหายใจ เพราะไอ้คนที่เข้ามามันคือไอ้โย่ง เพื่อนผมที่เรียนปริญญาตรีด้วยกัน ตอนนี้มันก็ต่อด็อกเตอร์ ส่วนผมเลือกจะกลับมาสอนที่กรุงเทพ
“เฮ้ยๆ ทำไมต้องถอนหายใจด้วยนะ เพื่อนมาหาเนี่ย”
“กูเบื่อหน้ามึงไงคร้าบบคุณอัคชัย”
“โฮ้! นิกูอุตส่าห์หาเวลาว่างที่ยาวสุดๆของกู ลงมาหามึงเลยนะเว้ย ทำไมพูดแบบนี้ว่ะ”
“นิถ้านับตั้งแต่ปี 1 ยันจบป.โท กูกับมึงแยกกันแค่ตอนกลับบ้านเนี่ย มึงคิดว่ากูอยากจะเจอมึงอีกมั้ย แม่งงง ตัวติดกันจนคนอื่นเค้าคิดว่ามึงเป็นผัวกูแล้วเนี่ย”
“กูก็ไม่ติดอะไรนะมึง เอาม่ะ” มันไม่พูดป่าว มันเดินมานั่งตักผมด้วย สัสโย่ง!!
“เชี้ยย ลุกขึ้น!!” ผมดันตัวมันออกไปก่อนจะรวบของเตรียมสอนไปคณะวิศวะฯสาขาที่เจ้าเตี้ยมันเรียน
“แล้วมึงจะไปไหนว่ะ กูเพิ่งมาเนี่ย”
“กูจะไปเตรียมสอนแล้ว ต้องใช้เวลาเดินไป เอ้า! มาก็ดีแล้ว ช่วยกูถือไปด้วยครับเชี้ยโย่ง”
“นิกูไม่ได้ขอเลยนะ เฮ้ยไอ้ปั้น รอด้วย!!”
( Kia Part’s )…
ตอนนี้เป็นเวลาคาบว่างของพวกผมครับ ผม ไอ้กานต์ ไอ้ศรและไอ้ภูมิเลือกที่จะตั้งวงนอนเอกเขนกอยู่ใต้ตึก เพราะจะเดินออกจากคณะไปหอสมุดกลางมันก็ร้อน เดินไกลด้วย เพราะอีกชั่วโมงกว่าพวกผมก็ต้องเข้าเรียนอยู่ดี … ผมกับไอ้ศรกำลังคุยเรื่องเดือนคณะที่กำลังตกเป็นข่าวซุบซิบกันในคณะว่าเป็นเกย์ และหิ้วเด็กไปกินที่หอ ถามผมว่าคิดเห็นไงกับเรื่องนี้ ผมเฉยๆนะ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนสมัยนี้แล้ว ใจผมมันเปิดกว้างพอ แต่ถ้าให้ผมมีแฟนเป็นเกย์นั้น หยุดเลยครับ ผมโคตรขนลุก!เพราะทุกวันนี้ผมเห็นเพื่อนผมมันส่อแววว่าจะมาทางนี้ ผมยังรู้สึกว่า ขนแขนมันชันแปลกๆ
ผมละจากการคุยกับไอ้ศรที่ตอนนี้มันออกไปคุยโทรศัพท์กับแฟนมันที่อยู่ต่างคณะ ผมโคตรอิจฉาไอ้ศรเลย ที่มีแฟนโคตรสวย ซึ่งต่างจากมัน ดูยังไงก็โคตรจืดดดด … ผมเบนสายตามาหาเพื่อนอีกสองคน ที่ตอนนี้มันนอนตักกันมุ้งมิ้งน่ารักเชียว .. เดี๋ยว! มึงสองคนไม่ใช่ใช่ม่ะ? … สิ่งที่ผมเห็นคือภาพของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนอนตักกัน ปัดผม จับมือกันไปมา ไอ้กานต์จับหน้าของไอ้ภูมิพลิกไปมาก่อนจะหัวเราะและดีดจมูกมัน เชี้ยยย!!! เรามาถึงจุดที่ผู้ชายเล่นกันแบบนี้แล้วเหรอว่ะ?
“มึงสองคน มีอะไรจะบอกกูมั้ยว่ะ”
“บอกไรว่ะ อ้อ! เรามีเรียนกับเพื่อนมึงคาบต่อไปด้วยไอ้เกี๊ยะ .. ไอ้กานต์ เลิกดีดจมูกกูได้แล้ว” เพื่อนภูมิเบนหน้ามองพูดกับผมก่อนจะพลิกหน้าไปด่าอีกคนที่เอาแต่เล่นอยู่ ไอ้กานต์ก็เชื่อฟัง ดีดจมูกไม่ได้ก็เอาหน้าไซร้แผงอกเพื่อนภูมิด้วยความสนุก แล้วตอนนี้กูก็เห็นมันดิ้นไปมาสนุกกันสองคน
“เกี๊ยะ ไอ้สองตัวนั้นมันห่าไรว่ะ”
“ผสมพันธุ์”
“พูดเป็นเล่น เอามั้งม่ะ” แล้วไอ้ศรก็เอามือมาล้วงในเสื้อผมทันที … ล้วงมาไม่ว่า มาเค้นนมกูทำไมไอ้เชี้ยยยยยยยย!!!
“ไอ้เกี๊ยะ มึงสู้มือกูเหรอว่ะ ไอ้สัสสส ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“ปล่อยกู!! ไอ้กานต์ ไอ้ภูมิ ช่วยกูด้วยยยยยยย!!”
เสียงตะโกนที่ผ่านลำคอผมไป มันทำให้ไอ้สองตัวที่นัวเนียกันอยู่หยุดเล่นแล้วมองมาที่ผม ความรู้สึกถึงทางรอดของผมมันก็เปร่งประกายออกมา เพื่อนสองหน่อที่ลุกขึ้นและเดินมาทางผม อาการดีใจที่ว่ารอดของผมมันรู้สึกเริ่มริบหรี่ .. เพราะสายตาของอีกสองตัว แม่งไม่เหมือนมาช่วยเค้าเลย มันมาซ้ำ!!!!! …. ไอ้กานต์และเพื่อนภูมิทำการล็อคขาทั้งสองข้างของผมก่อนจะให้ไอ้ศรทะลวงเสื้อผมถนัดกว่าเดิม … T^T มึงชำเรากูเหอะ ถ้าจะทำแบบนี้
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ” เสียงสวรรค์ที่ทำให้ผมรอดจากไอ้ไฮยีน่า 3 ตัวนี้ดังขึ้นไม่ไกลจากโต๊ะผมนัก
“โว้ววว วิศวะฯในกรุงเทพ เค้าเล่นกันแบบนี้แล้วเหรอว่ะปั้น” และนั่นก็เป็นอีกเสียงนึงที่ทำให้ผมรู้ว่าใครเป็นคนห้ามทัพ
“อาจารย์”
เพื่อนรักสามหน่อของผมปล่อยมือจากตัวผมก่อนจะดีดตัวไปนั่งกันเป็นระเบียบทันที และปล่อยให้ผมอยู่ในสภาพบอกบุญไม่รับ เสื้อกระดุมขาด 3 เม็ด ยับเป็นจุดๆ ทำให้เสื้อผมเปิดรับแดดอย่างช่วยไม่ได้ แผงอกข้ามันขาวนะเว้ยย พวกมึงแม่งงงง!!! … ผมขยับเสื้อให้มันมิดชิดกว่าเดิมก่อนจะมองหน้าข้าวปั้นที่ตอนนี้มันหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไร ผิดกับคนที่มาด้วย ที่หน้าตาโคตรซน แววตาเจ้าชู้ได้โล่ ผมรู้สึกได้
“เล่นอะไรกัน ดูสถานที่ด้วยนะครับนักศึกษา แล้วนิไม่มีเรียนกันเหรอไงเกี๊ยะ”
“ไม่มีครับจารย์ ก็รอเรียนคลาสของจารย์นั่นแหละ” ข้าวปั้นกรอกตาไปมาก่อนจะหันไปพูดกับคนที่มาด้วย
“โย่ง วันนี้มึงมีเสื้อผ้าไว้ในรถป่ะ”
“จะไปมีได้ไงเล่า กูลงเครื่องมา กูก็เอาไว้ที่คอนโดหมดซิครับ แล้วขับรถมาหามึงเนี่ย”
“วันไหนไม่ได้อยากขอใช้มึงนิขนมาเหมือนย้ายบ้านเลยนะไอ้ยัดฟัด … เกี๊ยะ ไปหาเอาเข็นกลัดมาติดเสื้อด้วย รู้อยู่ว่าคลาสเรามีผู้หญิงมาเรียน อุจาดลูกตา”
“ผมจะไปหามาจากไหนล่ะ อ่ะ! จารย์คร้าบบ ผมขอกุญแจรถด้วยค้าบบ เมื่อเช้าเห็นเหมือนมีอยู่ตรงคอนโซนหน้ารถ”
ผมแบมือขอกุญแจจากร่างสูงสวมแว่นตรงหน้า ท่ามกลางสีหน้าแปลกใจของทุกคนที่ได้ยิน ถ้าสำหรับเพื่อนผมมันแค่แปลกใจตรงที่ว่า วันก่อนเพิ่งบอกไม่รู้จัก วันนี้กลับพูดเหมือนสนิท แต่ถ้าเป็นร่างสูงที่ยืนข้างข้าวปั้นนั้น ผมไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนผมคนนี้มันเคยคุยเรื่องของผมหรือป่าว แต่เห็นสีหน้ามึนแบบแปลกๆ ผมคิดว่ายัง…
“มาหยิบเอง ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาเนี่ย มือไม่ว่าง” ข้าวปั้นเอียงสะโพกขวามาทางผม ผมเหลือบตามองก่อนจะลุกขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงเจ้าตัวยาวนี้ สภาพอาจจะทุลักทุเลหน่อย ตรงที่ไอ้ปั้นมันถือของและกางเกงมันเสล็คเข้าทรง ผมเลยต้องเอี่ยวตัวเบนไปด้านหลังมันแล้วล้วงเอากุญแจ แต่มันค่อยข้างจะหยิบลำบากในความคิดผม
แต่สายตาที่คนอื่นมองมานั้น มันเหมือนผมกำลังลวนลามอาจารย์ตัวเองอยู่ ภาพของนักศึกษาชายทาบไปด้านหลังอาจารย์ฝึกสอนแล้วมือล้วงกระเป๋าของเค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เชื่อได้เลย ถ้ามีสาววายเดินผ่าน จิ้นผมกับไอ้ปั้นแน่ๆ!!
“วู้!! กว่าจะหยิบขึ้นมาได้ หัดใส่ตัวที่มันหลวมกว่านี้หน่อยนะจารย์ หยิบลำบาก … เดี๋ยวกูมานะ พวกมึงขึ้นไปพร้อมกับจารย์เลยก็ได้ ไม่ต้องรอ”
“มึงรู้ห้องแล้วใช่มั้ย”
“อืมๆ กูไปล่ะ” …. แล้วผมก็ตีนผีวิ่ง 4x100 ไปที่รถทันที
“ส่วนพวกเธอก็ตามอาจารย์ขึ้นมาแล้วกัน … ไอ้โย่ง! มึงจะอยู่รอกูสอนก่อนมั้ยแล้วไปหาไรกินกัน ไหนๆมึงก็มานี้แล้วนิ” ร่างสูงหันมาถามเพื่อนของเขาก่อนจะเห็นใบหน้าอันมึนงงของมันได้ชัดเจน สงสัยซินะ..
“ไอ้คนที่วิ่งไปเมื่อกี้นี้ มันเป็นเพื่อนข้างบ้านกูเอง เมื่อเช้ามาด้วยกัน”
“เพื่อน??!! นักศึกษาเนี่ยนะ เพื่อน?”
“เออ! กูแก่กว่ามันปีเดียว แต่เรียนเร็วกว่ามัน 2 ปี ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันจริงๆแล้ว กูก็น้องมึงอีกทีว่ะโย่ง”
“ไอ้เรื่องนั้นกูไม่แคร์หรอก แต่กูสงสัย เพื่อนหน้าขาวๆ ตัวเล็ก ปากแดงที่วิ่งออกไป นั่นผู้ชายแน่เหรอว่ะ เชี้ยยน่ารักสัส!”
“อย่าคิดแม้แต่จะหวัง มันไม่ได้ชอบผู้ชาย อีกอย่างกูก็ไม่ชอบให้คนรู้จักอย่างมึงมาจีบเพื่อนกูด้วย”
“เดี๋ยวๆ กูยังไม่ได้บอกว่าจะจีบเลย ทำไมต้องกันท่ากูด้วยว่ะ หรือมึง…”
“เงียบปากไปเลย ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดโว้ย แม่มันสั่งให้แม่กูดูแลมันก่อนที่พวกท่านจะกลับมาไทย กูต้องคอยดูแลแทนแม่กูด้วย อีกอย่างกูรู้นิสัยมึงดี แค่คลำไม่มีหาง มึงก็เอาหมดอ่ะ”
“โฮ้! กุไม่ใช่สัตว์นะเว้ย แต่เพื่อนมึงน่ารักจริงๆนะ มึงไม่คิดอะไรบ้างเหรอ?”
“คิดเชี้ยไร มันผู้ชาย กูก็ผู้ชาย ได้ฟ้าผาตายห่าพอดี … กูไม่ชอบศึกช้างชนช้างนะเว้ยมึง ถ้านอกรั้วมหาลัยกูคือเพื่อนมัน แต่ถ้ากูยังอยู่ในรั้ว กูคือผู้ปกครองมัน เข้าใจ๋?”
“กูเองก็จะรอดูวันที่มึงจะเป็นอย่างอื่นมากกว่าผู้ปกครองนะไอ้ปั้น” … ไอ้งามไส้!!
“เลิกเพ้อเจ้อซักทีมึง รีบๆเดิน เพื่อนๆมันขึ้นไปหมดแล้วเนี่ย”
“เบี่ยงประเด็น… เออๆ ไงวันนี้กูขอดูการสอนมึงหน่อยก็แล้วกัน”
“ตามสบาย”
ข้าวปั้นส่ายหัวมองเพื่อนที่เดินนำเค้าไปอย่างระอาใจ แต่พอมาคิดอีกที สิ่งที่เพื่อนเค้าพูดมา เค้าไม่เคยสังเกตุจริงๆจังๆซักทีว่าหน้าตาของเพื่อนเค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมันเป็นยังไง เค้าลองนึกภาพย้อนกลับไปตอนที่เห็นพวกเพื่อนเจ้าเตี้ยมันรุมไซร้แกล้งกันก็รู้สึกหงุดหงิดหน่อยๆ ไม่ได้หวงนะ แต่นี่มันมหาลัย ไม่ใช่ที่บ้าน แต่พอเค้าดุไปหน่อยก็เลิกเล่นกัน แต่พอดูสภาพเพื่อนเค้าแล้ว เหมือนมันโดนรุมโทรมมาก็ไม่ปาน … ปากแดง หน้าขาว หุ่นสมส่วน ..เดี๋ยวๆไม่ใช่ล่ะข้าวปั้น มึงเพ้อเจ้อไรเนี่ยเฮ้ยย
“ไอ้ห่าโย่ง แม่งทำกูอีกแล้วนะ … ผู้ปกครอง เพื่อนกัน ผู้ปกครอง เพื่อนกัน ท่องไว้ๆ”
**********************************************************************************************
ติชมได้น้าาา ... อยากให้เรื่องเป็นแนวไหนก็แนะนำกันมาได้ เราเอามามิกซ์แอนด์แมชชชชชกันเหอะ
( Khaowpan Part’s )…
ผมมาถึงมหาลัยก่อนเวลาสอนสามชั่วโมงเพราะต้องตื่นมาให้ทันเจ้าเตี้ยเกี๊ยะเข้าเรียน หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน ผมไม่ได้ตอบมันไป เพียงแต่ไล่มันขึ้นไปนอน มันกรอกตาใส่ผมก่อนจะเดินหายไปกับบันไดบ้านเพื่อเข้าห้อง ที่ผมไม่ตอบ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีคำตอบ ผมมี แต่เลือกที่จะไม่ตอบดีกว่า ไม่รู้ซิ! ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอ่ะ แมนๆเตะบอลอย่างผมมันต้องมาแคร์เรื่องนี้ด้วยเหรอ? 7 ปีนะเว้ยคุณ ผ่านมานาน จนผมแทบจะจำใครไม่ได้ด้วยซ้ำรุ่นๆเดียวกันเนี่ย
ความคิดหยุดชะงักเมื่อเสียงประตูห้องเปิด พร้อมกับการก้าวขาของร่างสูงผิวสีเข้มเข้ามา ความรู้สึกถึงการมาของคนๆนี้ทำให้ผมต้องถอนหายใจ เพราะไอ้คนที่เข้ามามันคือไอ้โย่ง เพื่อนผมที่เรียนปริญญาตรีด้วยกัน ตอนนี้มันก็ต่อด็อกเตอร์ ส่วนผมเลือกจะกลับมาสอนที่กรุงเทพ
“เฮ้ยๆ ทำไมต้องถอนหายใจด้วยนะ เพื่อนมาหาเนี่ย”
“กูเบื่อหน้ามึงไงคร้าบบคุณอัคชัย”
“โฮ้! นิกูอุตส่าห์หาเวลาว่างที่ยาวสุดๆของกู ลงมาหามึงเลยนะเว้ย ทำไมพูดแบบนี้ว่ะ”
“นิถ้านับตั้งแต่ปี 1 ยันจบป.โท กูกับมึงแยกกันแค่ตอนกลับบ้านเนี่ย มึงคิดว่ากูอยากจะเจอมึงอีกมั้ย แม่งงง ตัวติดกันจนคนอื่นเค้าคิดว่ามึงเป็นผัวกูแล้วเนี่ย”
“กูก็ไม่ติดอะไรนะมึง เอาม่ะ” มันไม่พูดป่าว มันเดินมานั่งตักผมด้วย สัสโย่ง!!
“เชี้ยย ลุกขึ้น!!” ผมดันตัวมันออกไปก่อนจะรวบของเตรียมสอนไปคณะวิศวะฯสาขาที่เจ้าเตี้ยมันเรียน
“แล้วมึงจะไปไหนว่ะ กูเพิ่งมาเนี่ย”
“กูจะไปเตรียมสอนแล้ว ต้องใช้เวลาเดินไป เอ้า! มาก็ดีแล้ว ช่วยกูถือไปด้วยครับเชี้ยโย่ง”
“นิกูไม่ได้ขอเลยนะ เฮ้ยไอ้ปั้น รอด้วย!!”
( Kia Part’s )…
ตอนนี้เป็นเวลาคาบว่างของพวกผมครับ ผม ไอ้กานต์ ไอ้ศรและไอ้ภูมิเลือกที่จะตั้งวงนอนเอกเขนกอยู่ใต้ตึก เพราะจะเดินออกจากคณะไปหอสมุดกลางมันก็ร้อน เดินไกลด้วย เพราะอีกชั่วโมงกว่าพวกผมก็ต้องเข้าเรียนอยู่ดี … ผมกับไอ้ศรกำลังคุยเรื่องเดือนคณะที่กำลังตกเป็นข่าวซุบซิบกันในคณะว่าเป็นเกย์ และหิ้วเด็กไปกินที่หอ ถามผมว่าคิดเห็นไงกับเรื่องนี้ ผมเฉยๆนะ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนสมัยนี้แล้ว ใจผมมันเปิดกว้างพอ แต่ถ้าให้ผมมีแฟนเป็นเกย์นั้น หยุดเลยครับ ผมโคตรขนลุก!เพราะทุกวันนี้ผมเห็นเพื่อนผมมันส่อแววว่าจะมาทางนี้ ผมยังรู้สึกว่า ขนแขนมันชันแปลกๆ
ผมละจากการคุยกับไอ้ศรที่ตอนนี้มันออกไปคุยโทรศัพท์กับแฟนมันที่อยู่ต่างคณะ ผมโคตรอิจฉาไอ้ศรเลย ที่มีแฟนโคตรสวย ซึ่งต่างจากมัน ดูยังไงก็โคตรจืดดดด … ผมเบนสายตามาหาเพื่อนอีกสองคน ที่ตอนนี้มันนอนตักกันมุ้งมิ้งน่ารักเชียว .. เดี๋ยว! มึงสองคนไม่ใช่ใช่ม่ะ? … สิ่งที่ผมเห็นคือภาพของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนอนตักกัน ปัดผม จับมือกันไปมา ไอ้กานต์จับหน้าของไอ้ภูมิพลิกไปมาก่อนจะหัวเราะและดีดจมูกมัน เชี้ยยย!!! เรามาถึงจุดที่ผู้ชายเล่นกันแบบนี้แล้วเหรอว่ะ?
“มึงสองคน มีอะไรจะบอกกูมั้ยว่ะ”
“บอกไรว่ะ อ้อ! เรามีเรียนกับเพื่อนมึงคาบต่อไปด้วยไอ้เกี๊ยะ .. ไอ้กานต์ เลิกดีดจมูกกูได้แล้ว” เพื่อนภูมิเบนหน้ามองพูดกับผมก่อนจะพลิกหน้าไปด่าอีกคนที่เอาแต่เล่นอยู่ ไอ้กานต์ก็เชื่อฟัง ดีดจมูกไม่ได้ก็เอาหน้าไซร้แผงอกเพื่อนภูมิด้วยความสนุก แล้วตอนนี้กูก็เห็นมันดิ้นไปมาสนุกกันสองคน
“เกี๊ยะ ไอ้สองตัวนั้นมันห่าไรว่ะ”
“ผสมพันธุ์”
“พูดเป็นเล่น เอามั้งม่ะ” แล้วไอ้ศรก็เอามือมาล้วงในเสื้อผมทันที … ล้วงมาไม่ว่า มาเค้นนมกูทำไมไอ้เชี้ยยยยยยยย!!!
“ไอ้เกี๊ยะ มึงสู้มือกูเหรอว่ะ ไอ้สัสสส ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“ปล่อยกู!! ไอ้กานต์ ไอ้ภูมิ ช่วยกูด้วยยยยยยย!!”
เสียงตะโกนที่ผ่านลำคอผมไป มันทำให้ไอ้สองตัวที่นัวเนียกันอยู่หยุดเล่นแล้วมองมาที่ผม ความรู้สึกถึงทางรอดของผมมันก็เปร่งประกายออกมา เพื่อนสองหน่อที่ลุกขึ้นและเดินมาทางผม อาการดีใจที่ว่ารอดของผมมันรู้สึกเริ่มริบหรี่ .. เพราะสายตาของอีกสองตัว แม่งไม่เหมือนมาช่วยเค้าเลย มันมาซ้ำ!!!!! …. ไอ้กานต์และเพื่อนภูมิทำการล็อคขาทั้งสองข้างของผมก่อนจะให้ไอ้ศรทะลวงเสื้อผมถนัดกว่าเดิม … T^T มึงชำเรากูเหอะ ถ้าจะทำแบบนี้
“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ” เสียงสวรรค์ที่ทำให้ผมรอดจากไอ้ไฮยีน่า 3 ตัวนี้ดังขึ้นไม่ไกลจากโต๊ะผมนัก
“โว้ววว วิศวะฯในกรุงเทพ เค้าเล่นกันแบบนี้แล้วเหรอว่ะปั้น” และนั่นก็เป็นอีกเสียงนึงที่ทำให้ผมรู้ว่าใครเป็นคนห้ามทัพ
“อาจารย์”
เพื่อนรักสามหน่อของผมปล่อยมือจากตัวผมก่อนจะดีดตัวไปนั่งกันเป็นระเบียบทันที และปล่อยให้ผมอยู่ในสภาพบอกบุญไม่รับ เสื้อกระดุมขาด 3 เม็ด ยับเป็นจุดๆ ทำให้เสื้อผมเปิดรับแดดอย่างช่วยไม่ได้ แผงอกข้ามันขาวนะเว้ยย พวกมึงแม่งงงง!!! … ผมขยับเสื้อให้มันมิดชิดกว่าเดิมก่อนจะมองหน้าข้าวปั้นที่ตอนนี้มันหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไร ผิดกับคนที่มาด้วย ที่หน้าตาโคตรซน แววตาเจ้าชู้ได้โล่ ผมรู้สึกได้
“เล่นอะไรกัน ดูสถานที่ด้วยนะครับนักศึกษา แล้วนิไม่มีเรียนกันเหรอไงเกี๊ยะ”
“ไม่มีครับจารย์ ก็รอเรียนคลาสของจารย์นั่นแหละ” ข้าวปั้นกรอกตาไปมาก่อนจะหันไปพูดกับคนที่มาด้วย
“โย่ง วันนี้มึงมีเสื้อผ้าไว้ในรถป่ะ”
“จะไปมีได้ไงเล่า กูลงเครื่องมา กูก็เอาไว้ที่คอนโดหมดซิครับ แล้วขับรถมาหามึงเนี่ย”
“วันไหนไม่ได้อยากขอใช้มึงนิขนมาเหมือนย้ายบ้านเลยนะไอ้ยัดฟัด … เกี๊ยะ ไปหาเอาเข็นกลัดมาติดเสื้อด้วย รู้อยู่ว่าคลาสเรามีผู้หญิงมาเรียน อุจาดลูกตา”
“ผมจะไปหามาจากไหนล่ะ อ่ะ! จารย์คร้าบบ ผมขอกุญแจรถด้วยค้าบบ เมื่อเช้าเห็นเหมือนมีอยู่ตรงคอนโซนหน้ารถ”
ผมแบมือขอกุญแจจากร่างสูงสวมแว่นตรงหน้า ท่ามกลางสีหน้าแปลกใจของทุกคนที่ได้ยิน ถ้าสำหรับเพื่อนผมมันแค่แปลกใจตรงที่ว่า วันก่อนเพิ่งบอกไม่รู้จัก วันนี้กลับพูดเหมือนสนิท แต่ถ้าเป็นร่างสูงที่ยืนข้างข้าวปั้นนั้น ผมไม่รู้หรอก ว่าเพื่อนผมคนนี้มันเคยคุยเรื่องของผมหรือป่าว แต่เห็นสีหน้ามึนแบบแปลกๆ ผมคิดว่ายัง…
“มาหยิบเอง ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาเนี่ย มือไม่ว่าง” ข้าวปั้นเอียงสะโพกขวามาทางผม ผมเหลือบตามองก่อนจะลุกขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงเจ้าตัวยาวนี้ สภาพอาจจะทุลักทุเลหน่อย ตรงที่ไอ้ปั้นมันถือของและกางเกงมันเสล็คเข้าทรง ผมเลยต้องเอี่ยวตัวเบนไปด้านหลังมันแล้วล้วงเอากุญแจ แต่มันค่อยข้างจะหยิบลำบากในความคิดผม
แต่สายตาที่คนอื่นมองมานั้น มันเหมือนผมกำลังลวนลามอาจารย์ตัวเองอยู่ ภาพของนักศึกษาชายทาบไปด้านหลังอาจารย์ฝึกสอนแล้วมือล้วงกระเป๋าของเค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เชื่อได้เลย ถ้ามีสาววายเดินผ่าน จิ้นผมกับไอ้ปั้นแน่ๆ!!
“วู้!! กว่าจะหยิบขึ้นมาได้ หัดใส่ตัวที่มันหลวมกว่านี้หน่อยนะจารย์ หยิบลำบาก … เดี๋ยวกูมานะ พวกมึงขึ้นไปพร้อมกับจารย์เลยก็ได้ ไม่ต้องรอ”
“มึงรู้ห้องแล้วใช่มั้ย”
“อืมๆ กูไปล่ะ” …. แล้วผมก็ตีนผีวิ่ง 4x100 ไปที่รถทันที
“ส่วนพวกเธอก็ตามอาจารย์ขึ้นมาแล้วกัน … ไอ้โย่ง! มึงจะอยู่รอกูสอนก่อนมั้ยแล้วไปหาไรกินกัน ไหนๆมึงก็มานี้แล้วนิ” ร่างสูงหันมาถามเพื่อนของเขาก่อนจะเห็นใบหน้าอันมึนงงของมันได้ชัดเจน สงสัยซินะ..
“ไอ้คนที่วิ่งไปเมื่อกี้นี้ มันเป็นเพื่อนข้างบ้านกูเอง เมื่อเช้ามาด้วยกัน”
“เพื่อน??!! นักศึกษาเนี่ยนะ เพื่อน?”
“เออ! กูแก่กว่ามันปีเดียว แต่เรียนเร็วกว่ามัน 2 ปี ซึ่งถ้าวิเคราะห์กันจริงๆแล้ว กูก็น้องมึงอีกทีว่ะโย่ง”
“ไอ้เรื่องนั้นกูไม่แคร์หรอก แต่กูสงสัย เพื่อนหน้าขาวๆ ตัวเล็ก ปากแดงที่วิ่งออกไป นั่นผู้ชายแน่เหรอว่ะ เชี้ยยน่ารักสัส!”
“อย่าคิดแม้แต่จะหวัง มันไม่ได้ชอบผู้ชาย อีกอย่างกูก็ไม่ชอบให้คนรู้จักอย่างมึงมาจีบเพื่อนกูด้วย”
“เดี๋ยวๆ กูยังไม่ได้บอกว่าจะจีบเลย ทำไมต้องกันท่ากูด้วยว่ะ หรือมึง…”
“เงียบปากไปเลย ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดโว้ย แม่มันสั่งให้แม่กูดูแลมันก่อนที่พวกท่านจะกลับมาไทย กูต้องคอยดูแลแทนแม่กูด้วย อีกอย่างกูรู้นิสัยมึงดี แค่คลำไม่มีหาง มึงก็เอาหมดอ่ะ”
“โฮ้! กุไม่ใช่สัตว์นะเว้ย แต่เพื่อนมึงน่ารักจริงๆนะ มึงไม่คิดอะไรบ้างเหรอ?”
“คิดเชี้ยไร มันผู้ชาย กูก็ผู้ชาย ได้ฟ้าผาตายห่าพอดี … กูไม่ชอบศึกช้างชนช้างนะเว้ยมึง ถ้านอกรั้วมหาลัยกูคือเพื่อนมัน แต่ถ้ากูยังอยู่ในรั้ว กูคือผู้ปกครองมัน เข้าใจ๋?”
“กูเองก็จะรอดูวันที่มึงจะเป็นอย่างอื่นมากกว่าผู้ปกครองนะไอ้ปั้น” … ไอ้งามไส้!!
“เลิกเพ้อเจ้อซักทีมึง รีบๆเดิน เพื่อนๆมันขึ้นไปหมดแล้วเนี่ย”
“เบี่ยงประเด็น… เออๆ ไงวันนี้กูขอดูการสอนมึงหน่อยก็แล้วกัน”
“ตามสบาย”
ข้าวปั้นส่ายหัวมองเพื่อนที่เดินนำเค้าไปอย่างระอาใจ แต่พอมาคิดอีกที สิ่งที่เพื่อนเค้าพูดมา เค้าไม่เคยสังเกตุจริงๆจังๆซักทีว่าหน้าตาของเพื่อนเค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมันเป็นยังไง เค้าลองนึกภาพย้อนกลับไปตอนที่เห็นพวกเพื่อนเจ้าเตี้ยมันรุมไซร้แกล้งกันก็รู้สึกหงุดหงิดหน่อยๆ ไม่ได้หวงนะ แต่นี่มันมหาลัย ไม่ใช่ที่บ้าน แต่พอเค้าดุไปหน่อยก็เลิกเล่นกัน แต่พอดูสภาพเพื่อนเค้าแล้ว เหมือนมันโดนรุมโทรมมาก็ไม่ปาน … ปากแดง หน้าขาว หุ่นสมส่วน ..เดี๋ยวๆไม่ใช่ล่ะข้าวปั้น มึงเพ้อเจ้อไรเนี่ยเฮ้ยย
“ไอ้ห่าโย่ง แม่งทำกูอีกแล้วนะ … ผู้ปกครอง เพื่อนกัน ผู้ปกครอง เพื่อนกัน ท่องไว้ๆ”
**********************************************************************************************
ติชมได้น้าาา ... อยากให้เรื่องเป็นแนวไหนก็แนะนำกันมาได้ เราเอามามิกซ์แอนด์แมชชชชชกันเหอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ