RIcipie
7.7
เขียนโดย Miyuki
วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.27 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
5,176 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559 22.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บบที่2 ปฐมบทแห่งการเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสถานที่ที่โคลเด็กสาวที่กำลังวิ่งตรงดิ่งไปหลังจากที่ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นของเธอพูดและเตือนเกี่ยวกับบางอย่างเกี่ยวพิธีปฐมนิเทศน์เกิดขึ้นในโรงยิมวันนี้บางทีอาจจะเกิดเรื่องดีๆสำหรับเธอเกิดขึ้นในวันเปิดเทอมแบบนี้ก็ได้นะ?
ตึก ตึก
เสียงวิ่งของเธอดังขึ้นเมื่อวิ่งไปตรงทางฟุตบาททางเข้าของโรงยิมขนาดใหญ่ซึ่งตอนนี้คนก็มีไม่ค่อยมากมีคละจากสถานที่อื่นๆในโรงเรียนกำลังเดินตรงมายังโรงยิมโคลหายหายใจหอบเหนื่อยที่วิ่งมาเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งประจำห้องของเธอโดยมีเด็กสาวผมสีน้ำตาลปล่อยยาวกลางหลังนั่งอยู่ข้างหน้าของโคลและเธอค่อยๆหันหน้ากลับมานับว่าเป็นใบหน้าที่โคลคุ้นเคยเป็นอย่างดี หญิงสาวคนนั้นทักมาถามโคลด้วยรอยยิ้มที่เธอเห็นเป็นปกติทุกวัน
“อ่าวโคล...ไปทำอะไรมาให้เหงื่อท่วมขนาดนั้นกันละ?” “ก็วิ่งมานิดหน่อยนะ...” “...ดูเหมือนจะไม่นิดหน่อยแล้วละนะ...” “อ่า...นั่นสินะ...”
โคลนั่งลงยังเก้าอี้ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมมาให้หายเหนื่อยอย่างนั้นที่นั่งของเธออยู่ซ้ายสุดคนสุดท้ายของแถวและใกล้ประตูทางออกโรงยิมมากๆถึงเจอเรื่องน่ากลัวหรืออันตรายยังไงเธอก็วิ่งหนีออกได้สบายอยู่แล้ว.... ถึงจะคิดอะไรแบบนั้นแต่เธอก็เป็น1ในสภานักเรียนละนะเรื่องแบบนี้ต้องให้ความสำคัญกับนักเรียนในรั้วโรงเรียนเดียวกันของเธอก่อนถึงจะถูก ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางเมืองแบบนี้ก็คงคิดว่าจะโจมตีกันยากสำหรับพวกองค์กรที่จ้องจะทำร้ายเธอและสภานักเรียนทุกคนอยู่อย่างแน่นอน ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถไว้ใจได้อยู่ดี.. เริ่มมีนักเรียนเข้าโรงยิมมาเรื่อยๆที่จากที่นั่งที่ว่างบางที่บ้างหายไปบ้างก็เริ่มเต็มขึ้นมาทันทีแต่ก็แค่เฉพาะบางจุดเท่านั้นแต่บางจุดก็ยังไม่เต็มเมื่อโคลกวาดสายตามองไปรอบๆก็พบกับเด็กหนุ่มที่เจอกันเมื่อเช้าแล้วปั่นหัวเธออย่างเอาเป็นเอาตาย... ใช่แล้ว...เด็กหนุ่มผู้ไม่ยอมเปิดเผยนามสกุลของตัวเอง “ดีออน” เมื่อมองเขาไกลๆอาจจะดูเท่ห์และเยือกเย็นจนเด็กสาวที่นั่งข้างๆเริ่มไม่สามารถหยุดมองได้แต่เมื่อเขาคุยกับคนอื่นแล้วเขากลับสุภาพอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้เด็กสาวนั่งข้างๆหน้าเริ่มแดงขึ้นมาทีละนิด เมื่อเทียบกับการกระทำของเขาที่ทำกับโคลแล้วเป็นอะไรที่เธอไม่ถูกด้วยเป็นเอามากมันจึงทำให้เธอหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้นเข้ามาในสายตาเธอเข้า แต่ตอนนี้โรงยิมเต็มไปด้วยนักเรียนของที่นี่จนหมดแล้วทุกที่นั่งด้วยเช่นกัน และพิธีปฐมนิเทศก็ได้เริ่มขึ้นโดยที่มีผู้อาวุโสคนหนึ่งขึ้นมาบนเวลทีที่ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเขาคือผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโรงเรียนนี้ต่างๆนาๆซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับใครหลายคนจนพวกเขาเผลอนอนหลับไปเลยละ.. “สวัสดีเหล่านักเรียนที่น่ารักทุกคนของโรงเรียนรีซิสแห่งนี้นะครับ” เมื่อสิ้นเสียงของผู้อำนวยการก็ได้มีเสียงของเด็กหนุ่มทางลำโพงแทนเมื่อมองไปทางหน้าเวทีจากที่ไกลๆแล้วเขาคือเด็กหนุ่มผมแดงสวมสูท เนคไท และกางเกงของโรงเรียนอย่างถูกระเบียบและมีระเบียบ ปลอกแขนตราโรงเรียนที่อยู่ทางแขนขวาผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโรงเรียนแห่งนี้ “คาร์ดอส ดาร์เลเน่”เขาพูดต่อไปเรื่อยๆเหมือนเป็นการแนะนำตัวเองและสมาชิกสภานักเรียนคนอื่นๆถึงอย่างนั้นก็เมื่อชื่อของโคลติดด้วยทั้งที่ชื่อของคนอื่นๆพวกนักเรียนต่างปรบมือยินดีที่ได้ยินชื่อแท้ๆแต่เมื่อถึงชื่อของโคลนั้นเสียงปรบมือต่างเงียบกริบไปยกเว้นเพียงแค่นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มสภาทุกคนต่างปรบมือให้เธอเหมือนกับปกติทุกครั้งแม้แต่คนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็เช่นกัน ♦พิธีปฐมนิเทศน์ก็ได้จบลงไปนักเรียนทุกคนได้แยกย้ายกลับไปยังห้องของตนเองกันหมด โคลเดินออกจากโรงยิมใหญ่ไปก่อนคนแรกในห้องซึ่งแน่นอนว่านักเรียนในโรงยิมต่างก็ไม่สังเกตเธออยู่แล้วเป็นทุนเดิมทำให้เธออยู่คนเดียวได้บ่อยๆ ตอนนี้เธอเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียนก่อนคนแรก เป็นห้องเรียนที่ว่างเปล่าผู้คนมีเพียงแค่กระเป๋าวางไว้เท่านั้นตามโต๊ะซึ่งกำหนดจำนวนนักเรียนมาก็เท่านั้น ห้องของโคลเองมีนักเรียนแค่15คน ซึ่งต่างจากห้องอื่นๆที่มี30คน แต่มันก็กลายเป็นเรื่องปกติของโคลไปแล้ว โคลอยู่โรงเรียนแห่งนี้มาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่เธอทำตัวแบบนี้ โคลเดินตรงไปนั่งเก้าอี้ของตนที่ติดกับดีออนเด็กหนุ่มที่เจอและก่อกวนเธอเมื่อเช้าจนเกือบไปสายในพิธีปฐมนิเทศน์แต่ก็ไม่สายเท่าไหร่ก็ยังถือว่าเช้าอยู่ เมื่อโคลเหม่อคิดเรื่องต่างๆออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่สังเกตเลยว่ามีชายหนุ่มกำลังจับจ้องเธออยู่ตรงประตูทางเข้าของห้องเรียนและเข้าเดินมายังหน้าโต๊ะที่โคลนั่งก่อนที่เขาจะหันเก้าอี้มาแล้วนั่งตรงหน้าโต๊ะของโคล “...เหม่ออะไรกันนะโคลอี้?”น้ำเสียงของชายหนุ่มทำให้โคลหลุดจากภวังค์เธอมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเธอ เด็กหนุ่มผมเหลืองตาฟ้า ใบหน้าหล่อจนหยุดจดจ้องไม่ได้ แน่นอนว่าเขามีปลอกแขนขวาของสภานักเรียนเหมือนกับเธอ เขาคือรองประธานนักเรียน ‘ครูส แอนเจลโล่’“แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ” “แต่เมื่อเธอเหม่อออกไปยาวมากเลยนะ..” “...ช่างฉันเถอะน่า....” “จริงรึเปล่า?” น้ำเสียงของหญิงสาวได้แทรกบทสนทนาที่ทั้งสองคนกำลังคุยอยู่เมื่อโคลหันไปทางต้นเสียงก็พบกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าเธอเมื่อเช้า เธอก็คือ1ในสภานักเรียนเหมือนกับโคลและครูส “รูบี้ ชาร์รอน” “มันก็ต้องจริงอยู่แล้วสิ..” “เห~” ครูสลากเสียงยาวด้วยความสงสัย “แล้วเมื่อเช้าคุณวิ่งหน้าตื่นจนเหงื่อออกแบบนั้นเพราะอะไรกันคะ?” “มีคนแกล้งมานิดหน่อย..” “ดิฉันไม่รู้หรอกนะว่าใครแกล้งคุณ...ยิ่งคุณมีสีผมแบบนี้มันทำให้คนแกล้งเธอได้ง่ายๆอีกละ..” “ต้องขอขอบคุณกับความหวังดีของคุณนะ รูบี้ ชาร์รอน.. แต่ฉันคิดว่าฉันไม่เป็นอ—“ “...เห็นเธอพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะโคล....” โคลยังพูดไม่จบก็มีเสียงแทรกเข้ามาอีกเสียง เด็กหนุ่มที่อยู่หน้าเวที สีผมที่คุ้นเคยชินตาคาร์ดอสนั่นเอง..เขาเดินมายังโต๊ะของเธอที่ตอนนี้คนของสภานักเรียนนั้นเกือบจะครบแล้ว “ช่างฉันเถอะน่า...อ่อใช่แล้วนี่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วนะ เดี๋ยวครูที่ปรึกษาห้องเราก็เข้ามาแล้วด้วย” “อย่าลืมสิว่าพวกเราเรียนด้วยตัวเองยกเว้นวิชาพละนะ..” คาร์ดอสพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “แต่คาบแรกเราก็ต้องเจอกับครูที่ปรึกษานี่..?” “ไม่จำเป็นหรอกเพราะห้องนี้นักเรียนมีกันเพียงแค่20กว่าๆเอง”ครูสพูด “อ่า...นั่นสินะ?” “ถ้าคาบนี้ว่างงั้นไปสำรวจรอบๆโรงเรียนดีไหมคะ?”รูบี้พูดพร้อมกับยิ้มเล็กยิ้มน้อยเสริมให้ใบหน้านั้นน่ารักไปใหญ่ “...ยังไงก็ได้...”จูเลียที่นั่งเงียบแล้วฟังบทสนทนาของเหล่าสภานักเรียนคุยกันอย่างสนุกสนานก็ได้ปริปากพูดออกมาพร้อมกับปิดหนังสือในมือทันที “เอาเป็นว่าทุกคนตกลงสินะ งั้นก็ไปกันเลย!” รูบี้พูดออกไปด้วยความตื่นเต้นกับการสำรวจโรงเรียนรีซิสแห่งนี้นั่นก็คงเป็นเรื่องปกติที่แปลกใหม่สำหรับคุณหนูอย่างเธออยู่แล้ว ว่าแล้วรูบี้ก็เดินนำไปก่อนโดยไม่บอกว่าจะสำรวจตรงไหน จูเลียค่อยๆลุกจากเก้าอี้ขึ้นช้าๆแล้วเดินตามรูบี้ไปอีกคนตอนนี้ในห้องก็เหลืออยู่เพียงแค่สามคนคือ โคล คาร์ดอส และ ครูส ซึ่งตอนนี้พวกเขาสามคนก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไรดี.. บรรยากาศในห้องเงียบสักพักก่อนที่คาร์ดอสจะดึงแขนครูสซึ่งนั่งบนเก้าอี้ให้ลุกขึ้นก่อนจะลากตัวออกไปด้วยกัน “ระวังตัวด้วยละโคล...ยิ่งเธอเป็นคนของตระกูลที่คนอื่นเขาไม่ชอบกันด้วย” คาร์ดอสพูดทิ้งท้ายกับโคลไว้แล้วเดินออกจากห้องเรียนไป ในห้องนี้มีเพียงแค่เธอคนเดียว คำพูดของคาร์ดอสเป็นคำพูดที่เธอจำได้ขึ้นใจมากๆตั้งแต่เด็กเธอเป็นเด็กสาวที่ถูกกลั่นแกล้งมากที่สุดและเยอะที่สุดเธอยืนคิดอะไรบางอย่างสักพักก่อนจะเดินออกห้องไปตามคนอื่นๆจุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตากำลังถือกำเนิดและก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ว
ตึก ตึก
เสียงวิ่งของเธอดังขึ้นเมื่อวิ่งไปตรงทางฟุตบาททางเข้าของโรงยิมขนาดใหญ่ซึ่งตอนนี้คนก็มีไม่ค่อยมากมีคละจากสถานที่อื่นๆในโรงเรียนกำลังเดินตรงมายังโรงยิมโคลหายหายใจหอบเหนื่อยที่วิ่งมาเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งประจำห้องของเธอโดยมีเด็กสาวผมสีน้ำตาลปล่อยยาวกลางหลังนั่งอยู่ข้างหน้าของโคลและเธอค่อยๆหันหน้ากลับมานับว่าเป็นใบหน้าที่โคลคุ้นเคยเป็นอย่างดี หญิงสาวคนนั้นทักมาถามโคลด้วยรอยยิ้มที่เธอเห็นเป็นปกติทุกวัน
“อ่าวโคล...ไปทำอะไรมาให้เหงื่อท่วมขนาดนั้นกันละ?” “ก็วิ่งมานิดหน่อยนะ...” “...ดูเหมือนจะไม่นิดหน่อยแล้วละนะ...” “อ่า...นั่นสินะ...”
โคลนั่งลงยังเก้าอี้ที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมมาให้หายเหนื่อยอย่างนั้นที่นั่งของเธออยู่ซ้ายสุดคนสุดท้ายของแถวและใกล้ประตูทางออกโรงยิมมากๆถึงเจอเรื่องน่ากลัวหรืออันตรายยังไงเธอก็วิ่งหนีออกได้สบายอยู่แล้ว.... ถึงจะคิดอะไรแบบนั้นแต่เธอก็เป็น1ในสภานักเรียนละนะเรื่องแบบนี้ต้องให้ความสำคัญกับนักเรียนในรั้วโรงเรียนเดียวกันของเธอก่อนถึงจะถูก ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางเมืองแบบนี้ก็คงคิดว่าจะโจมตีกันยากสำหรับพวกองค์กรที่จ้องจะทำร้ายเธอและสภานักเรียนทุกคนอยู่อย่างแน่นอน ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถไว้ใจได้อยู่ดี.. เริ่มมีนักเรียนเข้าโรงยิมมาเรื่อยๆที่จากที่นั่งที่ว่างบางที่บ้างหายไปบ้างก็เริ่มเต็มขึ้นมาทันทีแต่ก็แค่เฉพาะบางจุดเท่านั้นแต่บางจุดก็ยังไม่เต็มเมื่อโคลกวาดสายตามองไปรอบๆก็พบกับเด็กหนุ่มที่เจอกันเมื่อเช้าแล้วปั่นหัวเธออย่างเอาเป็นเอาตาย... ใช่แล้ว...เด็กหนุ่มผู้ไม่ยอมเปิดเผยนามสกุลของตัวเอง “ดีออน” เมื่อมองเขาไกลๆอาจจะดูเท่ห์และเยือกเย็นจนเด็กสาวที่นั่งข้างๆเริ่มไม่สามารถหยุดมองได้แต่เมื่อเขาคุยกับคนอื่นแล้วเขากลับสุภาพอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้เด็กสาวนั่งข้างๆหน้าเริ่มแดงขึ้นมาทีละนิด เมื่อเทียบกับการกระทำของเขาที่ทำกับโคลแล้วเป็นอะไรที่เธอไม่ถูกด้วยเป็นเอามากมันจึงทำให้เธอหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้นเข้ามาในสายตาเธอเข้า แต่ตอนนี้โรงยิมเต็มไปด้วยนักเรียนของที่นี่จนหมดแล้วทุกที่นั่งด้วยเช่นกัน และพิธีปฐมนิเทศก็ได้เริ่มขึ้นโดยที่มีผู้อาวุโสคนหนึ่งขึ้นมาบนเวลทีที่ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเขาคือผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโรงเรียนนี้ต่างๆนาๆซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับใครหลายคนจนพวกเขาเผลอนอนหลับไปเลยละ.. “สวัสดีเหล่านักเรียนที่น่ารักทุกคนของโรงเรียนรีซิสแห่งนี้นะครับ” เมื่อสิ้นเสียงของผู้อำนวยการก็ได้มีเสียงของเด็กหนุ่มทางลำโพงแทนเมื่อมองไปทางหน้าเวทีจากที่ไกลๆแล้วเขาคือเด็กหนุ่มผมแดงสวมสูท เนคไท และกางเกงของโรงเรียนอย่างถูกระเบียบและมีระเบียบ ปลอกแขนตราโรงเรียนที่อยู่ทางแขนขวาผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโรงเรียนแห่งนี้ “คาร์ดอส ดาร์เลเน่”เขาพูดต่อไปเรื่อยๆเหมือนเป็นการแนะนำตัวเองและสมาชิกสภานักเรียนคนอื่นๆถึงอย่างนั้นก็เมื่อชื่อของโคลติดด้วยทั้งที่ชื่อของคนอื่นๆพวกนักเรียนต่างปรบมือยินดีที่ได้ยินชื่อแท้ๆแต่เมื่อถึงชื่อของโคลนั้นเสียงปรบมือต่างเงียบกริบไปยกเว้นเพียงแค่นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มสภาทุกคนต่างปรบมือให้เธอเหมือนกับปกติทุกครั้งแม้แต่คนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็เช่นกัน ♦พิธีปฐมนิเทศน์ก็ได้จบลงไปนักเรียนทุกคนได้แยกย้ายกลับไปยังห้องของตนเองกันหมด โคลเดินออกจากโรงยิมใหญ่ไปก่อนคนแรกในห้องซึ่งแน่นอนว่านักเรียนในโรงยิมต่างก็ไม่สังเกตเธออยู่แล้วเป็นทุนเดิมทำให้เธออยู่คนเดียวได้บ่อยๆ ตอนนี้เธอเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้องเรียนก่อนคนแรก เป็นห้องเรียนที่ว่างเปล่าผู้คนมีเพียงแค่กระเป๋าวางไว้เท่านั้นตามโต๊ะซึ่งกำหนดจำนวนนักเรียนมาก็เท่านั้น ห้องของโคลเองมีนักเรียนแค่15คน ซึ่งต่างจากห้องอื่นๆที่มี30คน แต่มันก็กลายเป็นเรื่องปกติของโคลไปแล้ว โคลอยู่โรงเรียนแห่งนี้มาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่เธอทำตัวแบบนี้ โคลเดินตรงไปนั่งเก้าอี้ของตนที่ติดกับดีออนเด็กหนุ่มที่เจอและก่อกวนเธอเมื่อเช้าจนเกือบไปสายในพิธีปฐมนิเทศน์แต่ก็ไม่สายเท่าไหร่ก็ยังถือว่าเช้าอยู่ เมื่อโคลเหม่อคิดเรื่องต่างๆออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่สังเกตเลยว่ามีชายหนุ่มกำลังจับจ้องเธออยู่ตรงประตูทางเข้าของห้องเรียนและเข้าเดินมายังหน้าโต๊ะที่โคลนั่งก่อนที่เขาจะหันเก้าอี้มาแล้วนั่งตรงหน้าโต๊ะของโคล “...เหม่ออะไรกันนะโคลอี้?”น้ำเสียงของชายหนุ่มทำให้โคลหลุดจากภวังค์เธอมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเธอ เด็กหนุ่มผมเหลืองตาฟ้า ใบหน้าหล่อจนหยุดจดจ้องไม่ได้ แน่นอนว่าเขามีปลอกแขนขวาของสภานักเรียนเหมือนกับเธอ เขาคือรองประธานนักเรียน ‘ครูส แอนเจลโล่’“แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยนะ” “แต่เมื่อเธอเหม่อออกไปยาวมากเลยนะ..” “...ช่างฉันเถอะน่า....” “จริงรึเปล่า?” น้ำเสียงของหญิงสาวได้แทรกบทสนทนาที่ทั้งสองคนกำลังคุยอยู่เมื่อโคลหันไปทางต้นเสียงก็พบกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าเธอเมื่อเช้า เธอก็คือ1ในสภานักเรียนเหมือนกับโคลและครูส “รูบี้ ชาร์รอน” “มันก็ต้องจริงอยู่แล้วสิ..” “เห~” ครูสลากเสียงยาวด้วยความสงสัย “แล้วเมื่อเช้าคุณวิ่งหน้าตื่นจนเหงื่อออกแบบนั้นเพราะอะไรกันคะ?” “มีคนแกล้งมานิดหน่อย..” “ดิฉันไม่รู้หรอกนะว่าใครแกล้งคุณ...ยิ่งคุณมีสีผมแบบนี้มันทำให้คนแกล้งเธอได้ง่ายๆอีกละ..” “ต้องขอขอบคุณกับความหวังดีของคุณนะ รูบี้ ชาร์รอน.. แต่ฉันคิดว่าฉันไม่เป็นอ—“ “...เห็นเธอพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะโคล....” โคลยังพูดไม่จบก็มีเสียงแทรกเข้ามาอีกเสียง เด็กหนุ่มที่อยู่หน้าเวที สีผมที่คุ้นเคยชินตาคาร์ดอสนั่นเอง..เขาเดินมายังโต๊ะของเธอที่ตอนนี้คนของสภานักเรียนนั้นเกือบจะครบแล้ว “ช่างฉันเถอะน่า...อ่อใช่แล้วนี่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วนะ เดี๋ยวครูที่ปรึกษาห้องเราก็เข้ามาแล้วด้วย” “อย่าลืมสิว่าพวกเราเรียนด้วยตัวเองยกเว้นวิชาพละนะ..” คาร์ดอสพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “แต่คาบแรกเราก็ต้องเจอกับครูที่ปรึกษานี่..?” “ไม่จำเป็นหรอกเพราะห้องนี้นักเรียนมีกันเพียงแค่20กว่าๆเอง”ครูสพูด “อ่า...นั่นสินะ?” “ถ้าคาบนี้ว่างงั้นไปสำรวจรอบๆโรงเรียนดีไหมคะ?”รูบี้พูดพร้อมกับยิ้มเล็กยิ้มน้อยเสริมให้ใบหน้านั้นน่ารักไปใหญ่ “...ยังไงก็ได้...”จูเลียที่นั่งเงียบแล้วฟังบทสนทนาของเหล่าสภานักเรียนคุยกันอย่างสนุกสนานก็ได้ปริปากพูดออกมาพร้อมกับปิดหนังสือในมือทันที “เอาเป็นว่าทุกคนตกลงสินะ งั้นก็ไปกันเลย!” รูบี้พูดออกไปด้วยความตื่นเต้นกับการสำรวจโรงเรียนรีซิสแห่งนี้นั่นก็คงเป็นเรื่องปกติที่แปลกใหม่สำหรับคุณหนูอย่างเธออยู่แล้ว ว่าแล้วรูบี้ก็เดินนำไปก่อนโดยไม่บอกว่าจะสำรวจตรงไหน จูเลียค่อยๆลุกจากเก้าอี้ขึ้นช้าๆแล้วเดินตามรูบี้ไปอีกคนตอนนี้ในห้องก็เหลืออยู่เพียงแค่สามคนคือ โคล คาร์ดอส และ ครูส ซึ่งตอนนี้พวกเขาสามคนก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนอย่างไรดี.. บรรยากาศในห้องเงียบสักพักก่อนที่คาร์ดอสจะดึงแขนครูสซึ่งนั่งบนเก้าอี้ให้ลุกขึ้นก่อนจะลากตัวออกไปด้วยกัน “ระวังตัวด้วยละโคล...ยิ่งเธอเป็นคนของตระกูลที่คนอื่นเขาไม่ชอบกันด้วย” คาร์ดอสพูดทิ้งท้ายกับโคลไว้แล้วเดินออกจากห้องเรียนไป ในห้องนี้มีเพียงแค่เธอคนเดียว คำพูดของคาร์ดอสเป็นคำพูดที่เธอจำได้ขึ้นใจมากๆตั้งแต่เด็กเธอเป็นเด็กสาวที่ถูกกลั่นแกล้งมากที่สุดและเยอะที่สุดเธอยืนคิดอะไรบางอย่างสักพักก่อนจะเดินออกห้องไปตามคนอื่นๆจุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตากำลังถือกำเนิดและก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ