สร้างเมืองที่ต่างโลก
-
เขียนโดย dagzombi
วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 04.24 น.
3 ตอน
2 วิจารณ์
9,480 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 04.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ลืมตาที่แดนปีศาจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ห้องที่มีหนังสือการ์ตูนวางอยู่เกลื่อน ที่มุมเล็ก ๆ มีเกมกระดานวางซ้อนทับไว้มากมาย เด็กหนุ่มนอนเล่นเกมอยู่ที่พื้น "ฉันรักนาย! รักนายที่สุดเลย ได้โปรดอยู่กับฉันตลอดไปน่ะ""อืม ชั้นจะอยู่กับเธอตลอดไป ไอโกะ""เยี่ยม!"ในที่สุดผมก็เคลียร์รูท ของ ไอโกะ ได้สักที่ ไม่นึกเลยว่าเธอจะจีบอยากสุด ๆ ผม ชื่อว่า คิริงาระ ฟูโด อายุ 15 ปี ห้องของมีหนังสือการ์ตูน วางเกลื่อนเต็มพื้นห้อง กับ ฟิกเกอร์ที่วางไว้บนคอม ผมเป็นโอตาคุ กับ ฮิคิโคโมริครับ ใช่ชีวิตอย่างไร้ความหมายมาตลอด 2 ปี หมกตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนตลอดเวลา สิ่งที่ทำก็มีเพียง การอ่านการ์ตูน กับ เล่นเกมส์ "ก๊อก ๆ""มีเพื่องของลูก เขามาเยียมน่ะ จะให้เข้ามารึเปล่า?"เสียงของผู้หญิงที่ผมรู้จักดี แม่ของผมเอง"ไม่ครับ บอกเขาให้กลับไปเถอะ"เสียงฝีเท้าดังห่างออกไป แสดงว่าเจ้าของเสียงได้ไปแล้ว ใคร หลายคนอาจจะคิดว่า คนที่มาจะต้องเป็น ผู้หญิงที่เพื่อนสมัยเด็ก ที่ความสัมพันธ์ตัดกันไม่ขาด แม้จะกลายขยะไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ดูแลตลอด แต่บอกเลยมันไม่ใช่ ก็คนที่มาเยี่ยมเป็นผู้ชาย เจ้านั้นทั้ง ฉลาด กีฬา ก็เก่ง นิสัยดี แถมหน้าตายังที่เหมือนผู้หญิงอีก แม้แต่ผู้ชายยังหลงคิดว่ามันเป็นผู้หญิงเลย ผมละเกียจไอ้คนแบบนี้จริง ๆ ที่ เจ้านั้นมาหาผม ก็เพราะ อยากให้ผมกลับไปเรียนเหมือนเดิม คงอยากจะดูดีในสายตาคนอื่นมากนักสิน่ะ ชั้นกลับไปเรียนแน่นอน ถ้าไอ้พวกหน้าหล่อทุกคนหายไปให้หมดโรงเรียนก่อนดูเวลาตอนนี้ ก็บ่าย 5 โมง เหรอ งั้นมีเวลาเล่นเกม ประมาณ 6 ชั่วโมง แล้วค่อยเข้านอนแล้วกันตอนรุ่งสางเวลา ตี 5 ผมตื่นขึ้นแล้วลุกมาแต่งตัว สวมเสื้อวอมทั้วตัว และ สะพายกระเป๋าเป้สีน้ำตาลผมค่อย ๆ เดินออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ เดินลงบรรไดชั้นสอง ผ่านห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น พอออกจากบ้านก็ค่อย ๆ เปิด-ปิดประตูเบา ๆ วันนี้ผมตื่นเต้นมาก ๆ เพราะวันนี้มีงาน โดจินชิ ที่ อากิบะ ยังไงละ ท่ามกลางความมืดสลั่ว ๆ หมอกที่เริ่มลงหนา ผมเดินไปตามถนน มีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าตามทาง แล้วผมก็ซื้อตั่วขึ้นรถไฟ ไปอากิบะแสงสว่างจากรถไฟ สว่างจนดูเหมือนเป็นแสงสว่างอันใหญ่ในความมืด แต่ไม่นาน แสงไฟที่ใหญ่ และ มีสีสันมากมาย ก็ปรากฎ อยู่ไกล ๆ แล้วแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ก็มา รถไฟจอดที่สถานี ผมเดินลงจากรถไฟ ถึงที่หมายแล้ว นั้นคือ ย่านอะกิบะ อยากไปงานเร็ว ๆ จังเลย ผมได้แต่คิดเรื่อยเปลื่อยขณะเดินไป อากิบะจู่ ๆ ผมก็สังเกตว่ามีคนกำลังโบกมือให้ แล้วก็เดินมาทางนี้ผม จำเสียงได้ คนที่เดินเข้ามานั้นก็คือ ไอ้หน้าหล่อ นั้นเอง หน้าของเจ้านั้นสวยเหมือนผู้หญิงมาก ๆ ผมที่เป็นโอตาคุ ถึงกับหัวใจหยุดเต้นไปชั่วครู่ แต่ผมก็เกรียดหมอนี่ อยู่ดี เจ้าเดินเข้า กล่าวทักทาย และ ถามไปมา พอพูดได้ไม่นาน ก็หาโอกาจ บอกให้ผมกลับไปเรียน บอกว่า เพื่อนในห้องเป็นห่วงมาก ไอ้ชั้น ก็เอาแต่อยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนฝูง แล้วยังจะมาบอกว่าเพื่อนเป็นห่วงอีกงั้นเหรอ แม้แต่นายชั้นยังเจ้าชื่อไม่ได้เลย เริ่ม พูดมากแล้ว แกมีมารยาทรึเปล่า จะไม่ให้ชั้นพูดเลยรึไง ในขณะที่กำลังหาทางหนีอยู่นั้น กลุ่มคนก็เดินเข้ามา พวกนั้นทั้งชายและหญิง แต่งตัวทันสมัยมาก ๆ แถมหน้าตาแต่ละคนอย่างกับดารา และพอมองใกล้ ๆ พวกนี้ก็คือ เหล่าไอดอลประจำโรงเรียน พวกนั้นเข้ามา และ รวมกลุ่ม กับ ไอ้หน้าล่อ พอฟังที่พวกนั้นพูดก็ดูเหมือนว่า จะนัดเจอกันมาก่อนด้วย กลุ่มดาราแต่งตัวทันสมัย กับ ไอ้จืดใส่ชุดวอม ทำกันได้น่ะ ผมคงเป็นตัวตลกไปซะแล้ว ทั้งที่เพื่อน ๆ มากันครบแล้ว แต่ ไอ้หน้าหล่อ ก็ยังพูดเหมือนเดิม นี่ยังไม่พออีกเหรอ จากประโยคที่พูดราวกับไม่สนใจผู้ฟัง ไม่นานผมก็จะพูดใส่แรง ๆ จากนั้นก็จะเล่นบท หนุ่มผู้แสนดี พยายยามช่วยเพื่อนแต่กลับถูกปฎิเสธอย่างแรง แล้วเหล่าเพื่อน ๆ ก็พากันสงสาร แต่กลับว่าร้ายชั้น เหมือนผู้ร้าย มันต้องมาลงเอยแบบนี้แน่ ๆ ไม่ เป็นไรปล่อยให้พวกนี้พูดไปเถอะ ค่อยหาโอกาสปฎิเสธแบบเบา ๆ ไม่กระทบกระทั่งกัน จะได้ไม่ทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่าย หรือ จะบอกว่าผมซึ่งใจมาก แต่ เกรงใจพวกหน้าหล่อขอตัวก่อนน่ะ ดีหว่า ผม บอกปฏิเสธ แล้วออกมาอย่างเงียบ ๆ แต่ก็ถูกไอ้หน้าหล่อ ก็เดินเข้ามาขวางหน้า ถามหน่อยเถอะทำไมพวกนาย ถึงมาย่านอากิบะ จะไปชิบูยา หรือท่ไหนก็ได้แต่ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย หน้าพวกนายเข้ากับที่นี่มาก ๆ เลย (ประชด)จู่ ๆ ก็มีแผ่นดินไหว เท้าของผมขัดกันสะดุดเอาหัวลงพื้น แล้วก็สลบไป***************************************************************************ในที่สุดสงครามก็ได้หยุดลงผมได้ถูกส่งตัวให้มาร่วมสงคราม และ ตอนนี้มันจบลงไปแล้วภายในสุสานร้างยามมืดแห่งหนึ่ง ผมอยู่ กับ ชายอีกคนที่ใส่สวมผ้าคลุมสีดำ "ท่านจะไม่ไปร่วมงานฉลอง ก่อนเหรอ?""ไม่ละชั้นจะไปเร็ว ๆน่ะ อีกอย่างคนในงานมีแต่พวกหน้าหล่อ ๆ ทั้งนั้น ชั้นไม่ไปหรอก"พูดเสร็จชายผ้าคลุมดำก็โรยผงสีขาวเป็นวงกลมเล็ก ๆ ขนาด 1 เมตร"ช่างน่าเสียดาย ท่านที่เป็นคนยุติสงคราม ควรจะได้รับการยกย่อง แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย""ช่างมันเถอะน่า อย่างน้อยนายก็รู้เรื่องของชั้นทั้งคนแล้วนี่นา"ใกล้ ๆ กันนั้นมีกระเป๋าหนังสีน้ำตาล กับ เสื้อวอมสีแดงวางอยู่ ผมหยิบเสื้อมาใส่ แบกเป้ให้ที่ไหล่ แล้วเดินเข้าไปในวงกลม "ช่วยบอกได้มั้ย ว่าท่านจะไปที่ใด""ชั้นว่าจะไปอีกโลก สร้างฮาเร็มสาวมอนสเตอร์แล้วใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ น่ะ" จริง ๆ จะไปสร้างเมืองของตัวเองต่างหาก"นั้นสิน่ะครับ ใคร ๆ ก็อยากมีภรรยาหลายคนกันทั้งนั้น นี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านไม่กลับโลกเดิมของท่านสิน่ะ"ผมถึงเงิบไปนิดหน่อย ก็น่ะ"ท่านจะไม่อยู่ที่นี่จริงเหรอ?""ชั้นก็บอกนายไปแล้วไง ถ้ามีเรื่องด่วนค่อยมาเรียกฉันแล้วกัน ok"แล้วคนที่ยืนอยู่ในวงกลมก็หายไป**********************************************************************************รู้สึกหนักตามาก ๆ ผมค่อย ๆ รู้สึกตัวแล้วค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ สิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรก ก็คือท้องฟ้าที่มืดสนิท กับบรรดาหมอกมากมายลอยฝ้องเต็มไปหมด ผมหันไปมองข้าง ๆ มีรากห่อหุ้มตัวผมอยู่ นี่คงเป็นเวทของเจ้านั้นสิน่ะ แล้วรากนั้นก็สลายไป ข้าวของของผมล่นลงพื้น พอ ผมพยุงตัวขึ้นมา ก็ตกใจมาก พื้นดินที่มีน้ำขังจนชื้นแฉะ กับต้อนไม้ที่แห้งเหียว ไร้ซิ้งสิ่งมีชีวิต แถมอากาศก็แย่มาก ๆ มีพิษรึเปล่าก็ไม่รู้เริ่มรู้สึกแสบหน้าอกแล้วสิ ผมเปิดเป้ค้นดูของข้างใน พอข้นไปดูผมก็เจอกับกำไลข้อมือ มีสีเท่าสารเป็นเชือดหลายเส้น ความสามารถ คือ วาบคนที่มีชื่อระบุอยู่ในกำไล ที่อยู่ที่ไหนก็ได้ มาที่นี่ ยังเหลืออยู่อีกเหรอ แต่ก็ไม่ใช่ของที่หา เริ่มค้นอีกครั้งก็เจอกับ หน้ากากกันแก็ส ผมเอามาสวมที่หน้า รู้สึกสดชื้นขึ้นมาทันตา ผมยืนมองไปรอบ ๆ สถานที่ที่เหมือนนรกแบบนี้ ไม่ใช้ที่ไหนนอกจากทวีปของเผ่าปีศาจ แดนปีศาจแน่นอน ผมหยิบสมุดแผนที่โลกแล้วคิดที่นี่งั้นเหรอ ที่ผมจะสร้างเมือง เป็นอย่างนี้คงไม่ต้องขออนุญาตใครแล้วมั้ง ผมเดินสำรวจ พื้นที่ เนื่องจากไม่มีแสง แล้วยังมีหมอกบัง ทำให้เวลาเดินลำบากมาก สุดท้ายผมก็หยุดเดิน ผมลองเรื่องที่ผ่าน ๆ มา ผม เปิดหน้าต่างค่าสเตตัส หน้าจอสี่เหลื่ยมใหญ่กว่าตัวปรากฎตรงหน้าผม มันเขียนว่า กำลังปรับปรุง แต่ก็ยังบอก สายอาชีพอันเดิม คือ นักอันเชิญ ที่เป็นผู้เริ่มต้นผมเดินกลับไปทางเก่า ก็เจอป้ายหลุมศพ ที่นั้นก็มีศพที่ไม่ได้ฝั่งรวมอยู่ด้วย ผมนึกชื่อเวท และ ทำการร่าย[เหล่าวิญญาณ ที่ยังอยู่ ณ ที่นี้ ข้าผู้คุมความตาย ขอบรรชา]เหล่า ซากศพลุกขึ้นมา ทั้งจากพื้น หรือในหลุมศพ ก่อตัวรวมกันเป็นร่างโครงกระดูก มีทั้งหมด 8 ตัว ทุกตัวมีเกราะเบาสวมที่ตัว และมีดาบ ติดที่เอว 1 เล่ม มี หนึ่งตัวที่ยังมีเลือดเนื้อ มันเดินเข้ามาผม ก้มหัวให้ แล้วชี้มือไปที่ใดที่หนึ่ง เหมือนอยากให้ผมไปที่นั้น ยังไงก็ดีกว่าไม่มีที่ไป แถมอาจจะได้รู้อะไรที่เป็นประโยชน์ด้วยก็ได้ผม มองหา ที่คาด กับ ดาบ มาติดที่เอว เดินกำลังจะเดินตามไป ผมก็ได้มองเห็นร่าง ร่างหนึ่งที่โดนอาวุธเสียบอยู่ตามลำตัว ในท่ายืน และรอบ ๆไม่มีศพอื่นอยู่เลย ผมเดินเข้าไปเอาผ้าคลุมสีดำ ที่ดูเด่นมาสวม แต่ก็รูขาดอยู่เต็ม และ สองข้างก็ไม่เท่ากันด้วย แล้วพวกผมก็ไปต่อ เดินผ่านหมอกหนา ผ่านดินแฉะ ผ่านมาเรื่อย ๆ ผ่านมาอยู่นาน จนหมอกเริ่มจางลง ข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกลนัก มันคือป่าสีดำมืดทึบ พวกเดินเข้าไปใกล้ ๆ ป่านั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ต้นไม้ไม่มีหญ้า เถาวัลย์มากมายขึ้นปกคลุมทั่วทั้งป่า รากก็ขึ้นมายั่วเยี้ยเต็มพื้น บรรยากาศข้างในที่ไม่ควรเข้าไปอย่างยิ้ง เจ้าตัวที่นำทางมา พอถึงหน้าป่าก็กลายเป็นโครงกระดูกเหมือนเดิม ผม สั่งให้โครงกระดูก 3 ตัว เอาประเป๋าเป้ออกไปให้ห่างป่า และสั่งให้พวกมันเฝ้าไว้ 3 ตัวนี้เกินไปรึเปล่าน่ะ ช่างเถอะ ในนั้นมีอาหารรวมอยู่ด้วยนี่นาผมจ้องมองป่าที่มืดมิดนี้อยู่สักพัก จู่ ๆ ลมก็พัดออกมา ผมรู้สึกได้เลยลมที่พัดเข้ามาโดนผิวหนัง มัน เป็นพิษ มันแสบขึ้นผมเลยเอาผ้าคลุมมาบังเอาไว้ ต้องระวังลมที่อยู่ในป่าให้มากแล้วสิ แล้วยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีหมอกสีม่วงลอยเข้ามาใกล้ ๆ ผมรีบหนีเข้าป่าก่อนมันจะเข้าถึงตัวข้างในป่าถึงภายนอกจะดูมืด แต่พอเริ่มปรับสายตาได้ มันก็ดูสว่างขึ้นมามากเลย พวก ผมก็เริ่มเดินไปข้างหน้า ก่อนผมจะมาที่นี่ผมได้ยินมาว่า โลกนี้เหมือนในเกม จะต้องสู้กับบอสต่าง ๆ ถึงจะได้สมบัติ หรือ ปลดปล่อยอะไรสักอย่างได้ ปลดปล่อยก็ประมาณว่า เราเป็นผู้กล้าเมื่อปราบบอสสำเร็จ มันก็สลายร่างเป็นเจ้าหญิงแสนสวยอะไรแบบนี้ขอเสร็จเรื่องนี้แล้วสาวสวยโผล่ออกมาด้วยเถอะ ในนอกจะมีรากไม้ที่เดินให้ลำบาก หรือ เถาวัลย์ที่ขึ้นปกคลุมทั่วป่าแล้วยังมีหมอกสีม่วงที่รวมเป็นก้อน ลอยไปลอยมาเต็มไปหมดอีกด้วย เนื่องจากในป่ามีแต่หมอกพิษ ของตั้งชื่อป่าว่า [ป่าหมอกพิษ] แล้วกันพอ เดินมาได้สักพักก็ได้ยินเสียง ฝีเท้าคู่หนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ เสียงนั้นเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แล้วร่างสิ่งมีชีวิตก็ปรากฏออกมาจากหลังต้นไม้ ตัวสีดำมีเศษผ้าปิดที่แค่ช่วงร่าง ถือท่อนไม้ใหญ่ ร่างสูง 2 เมตร มีแขนขาเหมือนมนุษย์ แต่มีหน้าที่บิดเบี้ยวจนดูไม่ออกว่าอะไรคืออะไรบ้าง ผิวหนังตามลำตัว มีของเหลวสีดำคล้ายเมือกใหลออกมาด้วยมันมาแบบไม่เป็นมิตรแน่ ๆ ผมเลยสั่งให้ทุกตัวโจมตี โครง กระดูกวิ่งออกไป 1 ตัวในนั้นถึงก่อน แล้วพุ่งผ่านเข้าไปฟันที่ขาซ้ายของมัน จนเลยไปด้านหลัง "ฉัวะ!"ขาที่โดนฟันเกิดเป็นแผล เลือดสีดำพุ่งกระกายออกมาโดนตัว ตัวที่ 2 และที่ 3 ตามเข้ามาติด ๆ คิดจะเข้าไปฟันแผลเดิน เจ้านั้นโมโห ยกท่อนไม้ขึ้นแล้วเวียงมันลง "โป๊ะ"ตัว ที่สองเกือบจะถูบท่อนไม้เวียงทับ แต่ อีกตัวหนึ่งที่ตามเข้ามา ก็ใช้ดาบรับรับเอาไว้ ตัวที่ 2 เห็นจังหวะ แล้วฟันที่ข้อมือที่ถือท่อนไม้ อย่างจัง "ฉัวะ" เลือดสีดำเหลวพุ่งออกมาโดนทั้งสองตัว อีกสองตัวสุด ท้าย ในขณะที่ใช้ดาบรับท่อนไม้อยู่ พวกมันวิ่งเข้ามาใช้แขนที่ใหญ่ของมันเป็นที่เยียบ วิ่งขึ้นยังแขนที่ถือท่อนไม้ กระโดดฟันที่หน้าที่ละตัว เจ้าเซจนล้มลงไปด้านหลัง โดยที่มีโครงกระดูกตัวแรกยืนรออยู่ แล้วก็ใช้ดาบแทงเข้าไปที่หัวใจจากด้านหลัง พร้อมกับกระโดดออกมา เจ้านั้นล้มลงโดยได้แรงจากตอนที่ล้มลง ดาบเลยทะลุออกมาด้านหน้า"โฮ่งงงงงง"เสียงเงียบไปไม่นาน ท้องมันก็ฉีกออกกลายเปิดปากแล้วร้องกะโกนเสียงดังสุด ๆ จากนั้นก็เงียบไป รางเริ่มค่อย ๆ กลายไปช้า ๆ"lv up ๆๆๆ..."ไอคอนสี่เหลียมเล็ก ๆ ขั้นมาข้างหัวพร้อมกับขึ้นว่า lv up ต่อมา ก็ไอคอนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ กระพิบอยู่ผมแตะมัน ข้อความขนาดใหญ่ก็ลอยออกมา ในนั้นมีเขียนว่า [สถานะการใช้เวทอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้นแล้ว] และ [การใช้สูตรเวท]สูตรเวทมันอะไรเนี่ย ? ไม่เห็นรู้จักเลย"ครืน นนน"ยังไม่ทันได้เริ่มคิด ก็มีเสียงมากมายกำลังใกล้เข้ามา พอเข้ามาใกล้มากขึ้นก็เห็นว่า สิ่งที่เข้ามาใกล้คือฝูงมอนสเตอร์นั้นเองไม่นึกเลยว่าก่อนตาบมันจะมี สกิล เรียกพวก ต้องหนีออกจากตรงนี้แล้ว จู่ ๆ ก็มีเม็ดแสงมากมาย ลอยเป็นทางให้ผม ผมสั่งทุกตัวรีบไปตามแสงนั้นทันที ผมวิ่งตามแสงนั้นไประหว่างนั้นก็ท่องเวทอันใหม่ไปด้วย หลบ รากใหญ่ หลบหมอกสีม่วง แล้วเห็นทางข้างหน้าว่าเป็นบ่อใหญ่ แถวนั้นมีสะพานอยู่ ผมวิ่งขึ้นไปที่สะพาน สั่งให้ตัวที่วิ่งออกมาจากสะพานตัวสุดท้าย ตัดสะพานทิ้งซ๊ะหลังสะพานเป็นป่าหนามาก ๆ แต่พอพ้นออกมา ก็กลายเป็นที่โล่งที่โล่งนี้เป็นวงกลม ยาวสัก 30 เมตร ไม่มีรากไม้ที่พื้น หมอกสีม่วง แต่ก็ยังมีเถาวัลย์คลุมข้างบนเหมือนเดิม ผมได้แต่หอบหายใจถี่ จนไม่สังเกตุถึงใครบางคน ร่าง สูบผอม ผมขาวยาวถึงพื้น สวมเสื้อคลุมสีดำ คล้ายกับชุดแม่มด กำลังลากศพตัวอะไรสักอย่าง โยนเข้าไปในบ่อเล็ก ๆ อีกอันที่กำลังเดือดอยู่ลงไป รู้สึกได้เลยว่ามันรู้สึกถึงผมแล้ว มันค่อย ๆ หันมา เผยเป็นหน้า ขาวซีดไร้ซึ่งอวัยวะใด ๆ เป็นหน้าที่กลวงโบ๋ มีแค่ รอยกรีดเป็นทาง ทำเป็น รูปปากยิ้ม กับ เส้นกลม ๆ ทำเป็นตาสองข้างแค่นั้น [:บอส:]ไอคอนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น เป็นสัญญาณบอกถึงบอสว่าปรากฏตัว แล้ว ก็มีอะไรสักอย่างวิ่งเข้าหาผม ฟันโครงกระดูก 2 ตัว จนแตกกระจาย มันฟันอีกทีแต่โครงกระดูกสองตัวใช้ดาบรับไว้ จนกระเด็นออกไปชนต้นไม้ แต่อีกตัวที่เหลือใช้แรงผลักผมออกไป แล้วร่างกระดูดที่ผลักผมก็แตกสลายหายไปตามแรงเวียงของดาบ เกราะสีแวววาวติดอยู่ทั่วทั้งตัวและหัว จนมองไม่เห็นร่างที่อยู่ข้างใน สูงราว ๆ 2 เมตร ถือดาบใหญ่คมกริบอยู่ที่มือขวาดูจากเกราะที่ทำออกมาให้ดูตัวใหญ่กว่าเดิมแล้ว ขอทั้งชื่อว่า [เกราะยักต์]แล้วกัน[:รองบอส:]แล้วไอคอนก็ออกมาแบบนี้คงไม่ไหว ทั้งที่ฟัดเจ้าพวกโครงกระดูกจนไม่เหลือแล้วยังไม่รู้ความสามารถของบอสอีก แบบนี้ต้องถอยท้าจะดีกว่า แต่ว่าน่ะ ทางจะออกจากป่านี้ก็ยังไม่รู้ แถมถ้าออกไปก็อาจไปเจอพวกโน้นอีกก็ได้ แล้วมันยังเป็นบอสตัวแรกที่ได้เจออีก......โธ่ จะลองสู้ดูก็ได้********************************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ