The Witches II : Dark Heart
เขียนโดย Kyoso12
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.58 น.
แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) จุดจบของแม่มดสีแดง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อฉันมาถึงยังถ้ำที่มอร์เดร็ด ลีอาร์และเอาเธอร์อยู่แล้ว เฮดิสจึงดีดนิ้วขึ้นเพื่อให้เวลานั้นเดินต่อ ในตอนนี้เอสเธอร์และลีอาร์ต่างต้อนมอร์เดร็ดจนจมมุม ตอนนี้ที่มอร์เดร็ดยืนอยู่นั้นเป็นขอบขอหน้าผาข้างล่างลงไปนั้นก็คือลาวาแล้ว ฉันลืมบอกไปว่าที่ถ้ำแห่งนี้เดิมทีเคยเป็นภูเขาไปมาก่อนแต่เพราะชาวบ้านของคาเมรอทเห็นว่าหินของที่นี่มีความแข็งแกร่งมากจึงนำไปใช้ในการสร้างเมือง จนกลายเป็นถ้ำที่มีลาวาไหลอยู่ข้างล่าง
“มอร์เดร็ด...” ฉันพยายามจะเดินเข้าไปหามอร์เดร็ด
“อย่ามายุ่งกับข้า!!!” มอร์เดร็ดใช้ดาบของเค้าปัดไล่ฉัน
“นี่แม่เองมอร์เดร็ด...กลับมาหาแม่เถอะลูก..”
“ไม่!!! ยังไงข้าก็ไม่กลับไป!!!”
“ยังจำได้มั้ยมอร์เดร็ด...ครั้งแรกที่ลูกพูดได้ลูกพูดกับแม่ยังไง...”
“...”
“ลูกบอกว่าลูกรักแม่...”
“ไม่!!!” มอร์เดร็ดในตอนนี้เริ่มเกิดอาการสับสนอย่างเห็นได้ชัดเค้าใช้มือทั้งสองข้างกุมหัวของเค้าเอาไว้
“แม่เองก็อยากจะบอกลูกเหมือนกันว่าแม่รักลูก และแม่อยากจะขอโทษแม่พลาดเองที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้” ฉันเดินเข้าใกล้มอร์เดร็ดเรื่อยๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบไปทั่วแก้มของฉัน บางทีถ้าวันนั้นฉันยอมกลับไปเผชิญหน้ากับเจเนวีฟ มอร์เดร็ดเองก็คงจะไม่ต้องมีสภาพแบบนี้
“ไม่!!! ไปให้พ้นจากข้าซะ!!!”
“แม่รักลูกนะ....” ฉันเข้าสวมกอดมอร์เดร็ดทั้งน้ำตาในขณะที่ดาบของมอร์เดร็ดก็ค่อยแทงทะลุร่างของฉัน
“ท่านแม่!!! ไม่!!!” เอสเธอร์ตะโกนขึ้นและพยายามจะวิ่งมาหาฉันแต่ก็ถูกลีอาร์ห้ามเอาไว้
“ข้าเองก็รักท่านแม่เหมือนกัน....” มอร์เดร็ดกล่าวขึ้นในตอนนี้น้ำตาของเค้าก็ไหลอาบทั่วแก้มฉันกันพร้อมกับเลือดของเค้าที่กำลังไหลออกมา ถ้าฉันเจ็บเค้าก็ต้องเจ็บด้วยสินะ
“มอร์เดร็ด...” ฉันค่อยๆใช้มือข้างหนึ่งไกล่เกลี่ยไปที่แก้มของมอร์เดร็ดเพื่อจะเช็ดน้ำตาของลูกชายฉัน
“ข้าขอโทษที่ข้าดื้อต่อท่าน และข้าขอโทษที่ข้าฆ่าท่านพ่อไป...”
“นั่นไม่ใช่ตัวเจ้าลูกรักมันเป็นเพราะคำสาป”
“แต่มันก็ยังเป็นตัวข้า...ลาก่อนท่านแม่” มอร์เดร็ดเอนตัวลงพร้อมกับดึงดาบของเค้าออกจากตัวฉันเพื่อให้เค้าตกไปยังธารลาวาที่อยู่ด้านล่าง
“ไม่!!!!!” ฉันพยายามจะเอื้อมมือไปคว้ามอร์เดร็ดเอาไว้แต่ก็ไม่ทันการ ฉันช้าไป......ฉันทรุดตัวลงกับพื้น คนที่ฉันรักจากฉันไปอีกคนแล้ว....ในตอนนี้เฮดิสรีบเข้ามาประคองตัวของฉันเอาไว้เพราะฉันเสียเลือดไปมากจากเหตุการเมื่อสักครู่ ส่วนเอสเธอร์ก็รีบเข้ามากอดฉันเอาไว้ โดยมีลีอาร์ที่ยืนอยู่ห่างๆ
“ท่านแม่! อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ….ถ้าไม่มีท่านข้าอยู่ไม่ได้” เอสเธอร์กล่าวขึ้นพร้อมน้ำตา
“เอสเธอร์เมื่อไม่มีแม่อยู่แล้วลูกต้องเข้มแข็งให้ได้สิ...”
“ไม่ ไม่ ไม่ ได้โปรดอย่าจากข้าไปเลยท่านแม่”
“ข้าจะรักษาเจ้าเอง..” เฮดิสกล่าวขึ้น
“ไม่เฮดิส ปล่อยฉันไว้แบบนี้แหละดีแล้ว...มันถึงเวลาที่ฉันจะได้ไปอยู่กับคนที่ฉันรักแล้ว”
“...” เฮดิสไม่ตอบอะไร เค้าทำได้เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย
“ไม่เอาแบบนี้สิท่านแม่ท่านจะทิ้งข้าไปไม่ได้นะ....” เอสเธอร์ดึงมือของฉันขึ้นมาไว้แนบแก้มของเธอ
“ถึงว่าแม่จะไม่อยู่แล้วแต่แม่และพ่อก็จะอยู่ข้างๆลูกเสมอ จงจำคำของแม่เอาไว้ให้ดีเอสเธอร์ จะไม่มีใครมาทำร้ายเจ้าได้ลูกรักและก็เฮดิส...”
“ว่าไง....”
“ข้าขอฝากเอสเธอร์ไว้กับเจ้าด้วย....”
“ได้....ข้าสัญญา....”
“งั้น..ข้าก็หมดห่วงแล้วละ....”
(2เดือนต่อมา ณ อาณาจักรเพนดรากอน)
หลังจากวันนั้นกองทัพทั้งของเจเนวีฟและกองทัพของเมลิซ่าต่างก็ต้องล่าถอยออกไป ทำให้สงครามได้ยุติลงแต่ก็เหลือไว้ซึ่งอาณาจักรคาเมรอทที่ล่มสลายไปเพราะการโจมของฝ่ายทหารของเจเนวีฟที่สามารถไล่ต้อนทหารของเมลิซ่ามาถึงคาเมรอทได้สำเร็จ จำเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คาเมรอทล่มสลายไป
ต่อมาเอสเธอร์จึงรวบรวมชาวบ้านและทหารที่เหลือรอดในการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ ที่ห่างไกลจากคาเมรอท ตอนนี้พวกชาวเมืองและพวกทหารต่างพากันทำพิธีศพของเมลิซ่าขึ้นด้วยความโศกเศร้า อีกทั้งยังต้องทำพิธีศพของเจ้าชายมอร์เดร็ด ว่าที่ราชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์ต่อจากกษัตริย์อาเธอร์แต่ก็ต้องมาจากไปเร็วแบบนี้
ทำให้สิทธิ์ในการครองราชบัลลังก์ต้องตกมาอยู่ในมือของเจ้าหญิงเอสเธอร์ เธอจึงตั้งชื่อเมืองใหม่ที่ได้ปกครองนั้นว่าเพนดรากอนตาม นามสกุลของเธอ อีกทั้งเธอยังมีเจ้าหญิงลีอาร์คอยเป็นที่ปรึกษาสำหรับเธอ ซึ่งในระหว่างทางก่อนจะถึงที่นี่ลีอาร์ได้ให้คำสาบานไว้กับเอสเธอร์ ว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปในฐานะที่ปรึกษาและอีกสิ่งหนึ่งที่เธอนั้นยังไม่รู้ตัว.........
“ถึงจะฝั่งศพของท่านแม่และท่านพี่ช้าไปหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ” เอสเธอร์กล่าวขึ้นขณะที่กำลังวางดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์หน้าหลุมศพของครอบครัวของเธอ
“กว่าจะจัดการอะไรทุกอย่างให้เรียบร้อยก็ผ่านมา 2 เดือนแล้วอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญตอนนี้พวกเค้าทั้ง 4 คนได้อยู่ด้วยกันแล้วที่นี่...” ลีอาร์ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเอสเธอร์กล่าวขึ้นพร้อมกับค่อยเดินไปวางดอกกุหลาบสีขาวหน้าหลุมศพของมอร์เดร็ด
“เฮ้อ ถ้าท่านพี่ยังอยู่ก็คงจะดีกว่านี้สินะ....”
“ข้าว่าถ้าทุกคนยังอยู่ทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้...”
“นั่นสินะ...ว่าแต่ท่านพี่ลีอาร์” เมื่อเอสเธอร์พูดจบจึงพาลีอาร์เดินออกจากบริเวณนั้นเพื่อให้ชาวเมืองทุกคนได้นำดอกไม้มาวางหน้าหลุมศพของทั้ง 4 คน โดยในงานศพครั้งนี้ทั้งลีอาร์และเอสเธอร์ต่างอยากให้งานศพนี้ออกมาเรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องหรูหราแต่ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและอาวรณ์
“มีอะไรรึ”
“ท่านไปให้หมอดูอาการของท่านรึยัง”
“ยังเลย ข้าว่าเสร็จจากพิธีฝังศพก่อนถึงจะไป”
“ข้าทำอะไรไม่ถูกเลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนข้าตั้งตัวไม่ทันเลย”
“ข้าเข้าใจดีก็เจ้ายังเด็กอยู่แต่ต้องมาเจอเรื่องราวแบบนี้ก็คงจะปรับตัวยากหน่อย”
“เฮ้อ ช่างมันเถอะยังไงเรื่องราวพวกนี้มันก็ผ่านมาแล้วข้าไม่อยากเก็บมันมาคิดให้รู้สึกเศร้าหมองหรอก”
“นั่นสินะ ว่าแต่เมืองนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อยู่ติดกับแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้สอยได้อย่างดี” ลีอาร์กล่าวพรางใช้สายตาทอดยาวไปตามแม่น้ำ ส่วนเอสเธอร์เมื่อเห็นดังนั้นจึงลองหันไปมองบ้าง เมื่อมองไปเรื่อยๆเธอก็สดุดกับสิ่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำ
“ท่านพี่ลีอาร์ข้าขอไปเดินเล่นแถวๆริมแม่น้ำก่อนนะ ส่วนท่านพี่รีบไปหาหมอก่อนได้เลยนะ”
“ได้จ๊ะ รีบตามมานะ”
“เพคะ!” เด็กสาวหันมายิ้มให้กับลีอาร์ก่อนที่จะเดินตรงไปยังแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเธอเดินมาถึงเธอก็ได้พบกับเฮดิสที่นั่งอยู่ริแม่น้ำอยู่เพียงลำพัง เมื่อเธอเห็นดังนั้นเธอจึงค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเฮดิสจนมากเกินไป
“ไม่ต้องเดินเบาขนาดนั้นก็ได้ข้ารู้อยู่แล้ว” เฮดิสพูดขึ้น
“งั้นหรอ ขอข้านั่งด้วยคนนะ”
“ได้สิ” เมื่อเธอเห็นว่าเฮดิสไม่ได้ว่าอะไรเธอ เธอจึงนั่งลงข้างๆเฮดิสและทอดสายตายาวไปตามแม่น้ำที่กำลังไหลริน
“ท่านกำลังทำอะไรอยู่งั้นหรอ”
“ข้ากำลังคิด...”
“คิดอะไรอยู่งั้นหรอ หรือว่าท่านแอบร้องไห้!”
“ข้าเปล่า...ข้าเพียงแค่คิดว่าทำไมตอนนั้นข้าถึงยอมฟังที่แม่ของเจ้าพูดและปล่อยให้นางต้องตายไป....”
“เพราะนั่นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับท่านแม่ แต่สำหรับท่านแล้วมันคือความเจ็บปวด”
“ถูกของเจ้า...”
“แล้วต่อจากนี้ท่านจะทำอะไรต่อละ”
“ข้าคงต้องกลับไปจัดการเรื่องของพี่ชายข้าให้เสร็จก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็ค่อยว่ากันอีกที”
“งั้นก็ขอให้โชคดีนะ” เอสเธอร์หันมายิ้มให้กับเฮดิส ทำให้เฮดิสต้องหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับความไร้เดียงสาของเอสเธอร์ ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วยืดตัว เพื่อยืดเส้นยืดสาย
“แล้วเจอกันเด็กน้อย” เฮดิสหยิบก้อนหินบนพื้นขึ้นมาแล้วปาไปยังแม่น้ำซึ่งนั่นก็ทำเอสเธอร์มองไปตามทิศทางของหินที่ขว้างไปและกลับมาอีกครั้งเฮดิสก็หายตัวไปแล้ว เอสเธอร์จึงรีบลุกขึ้นบ้างและเดินกลับไปหาลีอาร์อีกครั้ง เธอเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงยังบ้านพักของหมอประจำเมืองใช่แล้วหมอคนนี้ก็คือเมอร์ลินนั่นเองซึ่งตอนนี้ลีอาร์กำลังให้เมอร์ลินตรวจอาการของเธออยู่
“ตกลงข้าป่วยเป็นอะไรรึ”
“เปล่าเลย ท่านไม่ได้ป่วยอะไร..ท่านแค่ตั้งครรภ์” เมื่อได้ยินคำพูดจากเมอร์ลินทำให้ทั้งลีอาร์และเอสเธอร์ต่างพากันช็อค
“ข้า..จะตั้งครรภ์”
“ใช่ ช่วงนี้งดต่อสู้ได้งดไปเลยนะ”
“เย้!!! สุดท้ายท่านก็คือพี่สะใภ้ของข้า!!!” เอสเธอร์รีบวิ่งเข้ามาสวมกอดลีอาร์ด้วยความดีใจ และใช้ใบหน้าของเธอถูที่หลังของลีอาร์ไปมา
“หยุดเถอะเอสเธอร์มันทำให้ข้ารู้สึกขนลุกนะ”
“โอ้ ขออภัยด้วยพอดีว่าข้าเผลอลืมตัวไปหน่อย”
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าจะจัดยาบำรุงไปให้ และเจ้าหญิงลีอาร์ต้องทานให้ครบตามที่ข้าสั่งนะ”
“ได้เลย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ