The Witches : Red Witch
เขียนโดย Kyoso12
วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.55 น.
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 11.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) คำสาบานรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(กลับมาที่ฝั่งของ เมลิซ่า)
“วันนี้คุณจะเดินอีกนานมั้ย”
“อีกไม่นานหรอก จริงสิฉันรู้จักสถานที่ดีดีที่เธออาจจะชอบ”
“ที่ไหนหรอ”
“ป่าแห่งภูติพราย ที่นี่ถูกปกครองโดยมิราน่า นางเป็นพรายไม้ที่สวยมากร่างกายของนางเป็นไม้ไปทั้งตัว อีกทั้งนางยังมีเหล่าภูติตัวน้อยๆที่คอยช่วยเหลือนาง และสิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ก็คือเมื่อถึงเวลากลางคืนนั้น ต้นไม้ทุกต้นในเขตของนางจะเปล่งแสงออก เปรียบเสมือนดวงไฟยามค่ำคืนซึ่งมัน เป็นอะไรที่งดงามมาก”
“แต่ไม่ว่าอะไรคุณก็สวยที่สุดในสายตาของผมนะ”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ” ฉันผลักหัวคนข้าง
“แหม ก็มันเรื่องจริงนี่นา”
“เอาละ เกือบจะถึงแล้วเดินบนหินพวกนี้ตามฉันมาสิ” ฉันชี้ไปที่โขดหินที่เรียงกันเป็นทางเดินมุ่งไปสู่เขตของป่าภูติพราย เมื่อเห็นอาเธอร์ทำท่าเก้ๆกังๆ ฉันจึงคว้ามือของเค้าและจูงมือให้เค้าเดินตามฉันมา เมื่อตะวันเริ่มลับฟ้าเสียงของต้นไม้เหล่านี้จึงเริ่มปรากฎขึ้น รวมทั้งหิ่งห้อยมากมายที่พากันส่องแสงระยิบระยับ ก่อให้เกิดภาพที่งดงามที่สุด
ฉันหันกลับไปมองอาเธอร์ที่กำลังเพลิดเพลินกับสิ่งอัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า เค้าหันมาและยิ้มให้ฉันอย่างมีความสุข ฉันจึงยิ้มตอบเค้าและพาเค้าเดินเข้าไปเรื่อยๆ เหล่าภูติตัวน้อยที่แอบอยู่ต่างก็พากันออกมาต้อนรับฉันและอาเธอร์ พวกภูติน้อยเหล่านี้ทำมงกุฏดอกไม้ให้ฉัน เล่นเอาอาเธอร์ยิ้มไม่หยุดเลยและทันใดนั้นเองมิราน่าก็ปรากฎตัวออกมา
“สวัสดีผู้มาเยือน” มิราน่ากล่าวต้อนรับพวกเราและยิ้มอย่างอบอุ่น
“สวัสดีมิราน่า” ฉันยิ้มตอบนาง
“ที่ป่าของข้าขอยินดีคู่รักหนุ่มสาวทุกคู่เพื่อมาสาบานรักกันที่นี่”
“เดี๋ยวมิราน่าข้าไม่ใช่.....” ยังไม่ทันจะพูดอาเธอร์ก็ลุดหัวเราะออกมาทำให้ฉันต้องหันไปมองค้อน
“เมลิซ่าเดินตามข้ามาทางนี้สิ” มิราน่าเรียกฉันให้ไปคุยกับนางตามลำพัง ปล่อยให้อาเธอร์เล่นอยู่กับภูติตัวน้อยๆอยู่ตรงนั้นสักพัก
“มิราน่าเธอจะพูดอะไรกับฉันกันแน่”
“ข้าดูสายตาที่เค้าและเจ้ามองกันออกนะรู้มั้ย”
“แต่ข้า...”
“เจ้าไม่ควรจะพูดโกหกเมื่ออยู่ในเขตของข้าที่รัก อีกอย่างเจ้าลองมองไปที่เค้าสิเมลิซ่า” มิราน่าจับที่ไหล่ของฉันให้หันไปมองที่อาเธอร์
“มิราน่า...”
“เจ้าลองมองเค้าสิเมลิซ่าเค้ามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่กับเจ้า”
“แต่ว่าฉันไม่อยากจะเค้าต้องเจ็บปวดทรมานฉันอยากให้เค้าได้รับในสิ่งที่ดีสุดและกลับไปหาคู่หมั้นที่เหมาะสมของเค้า”
“แต่เจ้ากลับต้องมาทรมานคนเดียวอย่างนั้นหรือข้าว่านั่นเป็นการไม่สมควร”
“แต่ว่า...”
“ฟังข้านะที่รัก ความรักของพวกเจ้าทั้งสองเป็นความรักแท้ที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาแทนในที่ตรงนี้ได้ ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้หมดแล้วตั้งแต่ทั้งเค้าและเจ้าเกิดมา รวมถึงการที่เจ้าได้มาอยู่ที่นี่อีกด้วย และอีกอย่างที่ข้าอยากจะบอกเจ้าไม่ต้องตัวเอง บังคับตัวเองไม่ให้รักเค้าไม่ได้หรอกนะ และอีกอย่างถ้าพวกเจ้าสาบานรักกันที่นี่แล้วไม่ว่าอะไรก็ตามก็ไม่สามารถแยกพวกเจ้าออกจากกันได้ พวกเจ้าจะเป็นคู่รักกันตลอดไป”
“แต่ฉันทำไม่ได้”
“เจ้าต้องทำได้เมลิซ่า แค่ปล่อยหัวใจของเจ้าไปและทำตามที่หัวใจของเจ้าปราถนา ไปซะเดี๋ยวข้าจะให้เหล่าภูติตัวน้อยของข้าจัดเตรียมสถานที่ไว้ให้และพวกเจ้าทั้งสองสามารถอยู่ที่นั่นได้จนถึงรุ่งเช้า” มิราน่าผลักหลังฉันให้เดินไปหาอาเธอร์
“ว่าไงเมื่อกี้คุยอะไรกัน”
“ก็นิดๆหน่อยๆตามประสาผู้หญิงแหละ”
“นั่น!! เราไปทางนั้นกันมั้ย” อาเธอร์ชี้ไปทางข้างหลังฉัน ซึ่งเหล่าภูติน้อยได้เตรียมทางไว้ให้นำไปสู่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางป่าแห่งนี้ ฉันพยักหน้าตอบอาเธอร์ อาเธอร์จึงจูงมือฉันและพาเดินไปยังต้นไม้ใหญ่ที่เหล่าภูติตัวน้อยได้เตรียมไว้ ไม่รู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้มันจะถูกรึเปล่า แต่ฉันเคยได้ยินมาว่าเวทย์มนต์ของมิราน่ามีอำนาจมากแค่เพียงกระซิบก็สามารถเปลี่ยนความคิดได้
และฉันคิดว่านางอาจจะเวทย์มนต์นี้กับฉันก็ได้เพื่อให้ฉันยอมรับความรู้สึกที่มีต่ออาเธอร์ และตอนนี้ฉันก็รู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างๆฉันคือคนที่ฉันอยากจะฝากชีวิตไว้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บอยู่ลึกๆเพราะถ้าเราค้นหาดอกไม้นั่นเจอแล้วทุกอย่างก็จะจบลง
ตลอดเส้นทางที่เราเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่นั้น เสียงเพลงก็ค่อยๆบรรเลงขึ้นก่อเกิดเป็นเสียงเพลงที่ไพเราะชวนหลงไหล ที่มาพร้อมกับแสงไฟที่ระยิบระยับไปตามรายทางไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ที่ส่องประกายแสงสีชมพูอ่อน ที่ทำให้รู้สึกอ่อนหวานขึ้นไปอีก
“สวยจังเลยนะที่นี่น่ะ” อาเธอร์กุมมือของฉันแน่นขึ้น
“อื้ม ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” เราหันมาสบตาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่กันต่อ เมื่อเมื่อเรามาถึงมิราน่าก็ใช้เวทยืมนต์ของเธอเสกให้เถาวัลย์ของต้นไม้ใหญ่ลงมาปกคลุมพวกเราจนมิด ทำให้ภายในต้นไม้ใหญ่แห่งนี้มีเพียงฉันกับอาเธอร์เท่านั้น เราทั้งคู่หันมาสบตากันอีกทั้งอาเธอร์ยังดึงมือของฉันมากุมไว้ทั้งสองข้าง
“เมลิซ่า ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษในสิ่งที่ผมเคยทำเอาไว้กับคุณเมื่อวันก่อนและจนกระทั่งเมื่อเช้านี้ก็เช่นเดียวกันผมขอโทษจากใจจริงที่ผมทำไปก็เพราะผมโกรธคุณที่คุณไม่ยอมพูดความรู้สึกจริงๆของคุณออกมา”
“อันที่จริงฉันเองก็ผิดเหมือนกันที่เอาแต่ปิดกั้นเธอตลอด แต่ว่าที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะฉันอยากให้เธอได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด”
“แต่มันไม่ใช่เลยเมลิซ่า เพราะคุณคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผม บอกตามตรงตอนนี้คุณสวยมากเลย” อาเธอร์ค่อยๆคุกเข่าข้างหนึ่งลงต่อหน้าฉัน
“ขอบคุณนะ”
“และผมขอสัญญาไว้ตรงนี้ ผมจะรักคุณตลอดไปเมลิซ่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมก็จะรักคุณ ปกป้องคุณ และดูแลคุณตลอดไป” อาเธอร์หยิบสร้อยคอที่อยู่ในถุงผ้าใบเล็กๆของเค้าออกมา นำมันมาวางบนฝ่ามือของฉันและจุมพิศที่หลังมือของฉันอย่างอ่อนโยน จากนั้นเค้าจึงค่อยๆลุกขึ้น
“อาเธอร์ แต่ว่าสร้อยเส้นนี้มัน......”
“สร้อยเส้นนี้เดิมทีมันเป็นของท่านพ่อ ท่านพ่อให้ท่านแม่ตอนที่เจอกันครั้งแรกและตอนนี้ผมก็ส่งต่อมันมาให้คุณเพราะคุณคือรักแรกและรักเดียวของผมจากนี้และตลอดไปเมลิซ่า แล้วคุณละเมลิซ่าคุณรักผมมั้ย”
“รักสิ แต่เพราะฉันรักเธอฉันถึงไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บปวดหลังจากที่เราต้องแยกจากกัน ฉันอยากให้เธอได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในเมื่อยืนยันว่าฉันคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอฉันก็ยินดีที่จะรับมันไว้” ฉันหันหลังให้อาเธอร์เพื่อให้เค้าสวมสร้อยคอเส้นนี้ให้กับฉันและหันหน้ามาทางเค้าอีกที
“ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย” อาเธอร์ค่อยๆปัดเศษผมที่แก้มของฉันออกก่อนจะที่เลื่อนมือมาเชยที่คางของฉันและใช้มืออีกข้างหนึ่งโอบเอวของฉันเอาไว้ จากนั้นเค้าจึงมอบจูบอันแสนอ่อนหวานให้กับฉันหัวใจที่เต้นรัวของเราสองคนประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกัน
ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าการจูบกับอาเธอร์มันเป็นยังไงแต่ก็ไม่เคยมีจูบไหนที่ทำให้ฉันรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน ฉันอยากจะหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้ให้นานตราบนานเท่านาน แต่ยังไงเวลาที่แสนสุขนี้ก็ต้องจบลง ฉันจึงค่อยผละหน้าอกของอาเธอร์ออกช้าๆ เพื่อทำให้เค้าหลุดออกจากภวังค์
“พอได้แล้วละ”
“ทำไมละ เขินผมหรอ”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไมละ”
“ถ้าใช่ผมก็จะทำให้คุณเขินผมมากเดิมยังไงละ” อาเธอร์ใช้มือช้อนตัวฉันขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อจะอุ้มฉันในท่าเจ้าหญิง
“เดี๋ยว!!!” ฉันพยายามดิ้นไปมาจนทำให้อาเธอร์ประคองฉันไม่อยู่และทำให้เราทั้งคู่ล้มลงไปกับพื้น
“โอ๊ยยยยย!! ดิ้นทำไมเนี่ย”
“จู่ๆก็มาอุ้มแบบนี้ฉันก็ตกใจหมดสิ”
“ว่าแต่เราจะต้องอยู่ในนี้อีกนานเท่าไหร่เนี่ย”
“มิราน่าบอกว่าสามารถอยู่ได้จนรุ่งเช้า”
“แบบนั้นก็ดีสิ”
“ทำไมละ” ฉันหันไปสบตาคนข้างๆ
“ชายหนุ่มกับหญิงสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสองในที่ลับตาแบบนี้ ควรจะทำอะไรละ” อาเธอร์ทำสายตายั่วยวนแลเค้าอยากจะโดนฉันทุบมากเลยสินะ
“หึ มันใช่เรื่องหรออาเธอร์”
“ใช่สิ..” ไม่ทันไรอาเธอร์ก็จับกดฉันลงกับพื้นและล็อคข้อมือของฉันเอาไว้
“อาเธอร์ เดี๋ยวสิ!! ฉันไม่..”
“เฮ้อ ต้องให้ผมอดทนไปถึงเมื่อไหร่กันเมลิซ่า รู้มั้ยว่าแค่ผมอยู่ใกล้ตัวคุณแบบนี้ผมก็แทบจะคลั่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นท่าทางของคุณหรือกลิ่นตัวของคุณที่ยั่วยวนให้สติของผมคลั่ง และอีกอย่างผมหึงหวงคุณมากเวลาที่คุณไปคุยหรือไปใกล้ผู้ชายคนอื่น ดังนั้นผมจึงอยากจะให้คุณเป็นของผมซะ เป็นแค่ของผมคนเดียวไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะไม่มีสิทธิ์มาแตะคุณทั้งนั้น”
“เฮ้อ เด็กน้อยเอ้ยฉันจะยอมให้เธอสักครั้งละกัน”
“ขอบคุณ แต่เอาจริงๆแล้วที่ผมให้สร้อยคุณไปผมขอคุณแต่งงานนะ”
“บ้า!!”
“จริงๆ ถึงเจเนวีฟจะเป็นคู่หมั้นแต่ก็ยังไม่เป็นทางการเพราะว่าท่านพ่อใช้เงินทางสู่ขอมาให้แต่ไม่เคยได้ใช้วัตถุทางใจสู่ขอเลย มีแต่คุณนั่นแหละที่ผมกล้าใช้สร้อยเส้นนี้สู่ขอคุณเป็นเครื่องยืนยันทางใจว่าผมจะรักคุณและดูแลคุณในฐานะว่าที่ราชินีของผมยังไงละ”
“ช่างลึกซึ้งเสียจริงนะ อันที่จริงฉันเองก็ไม่เคยคิดหรอกว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้เพราะในชีวิตของฉันไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่คิดจะจริงจังกับฉันเพราะผู้ชายเคยผ่านเข้ามาเค้าหวังเพียงรูปร่างหน้าตาของฉันหาใช่ที่จิตใจ ก็มีเธออาเธอร์ขอบคุณที่เธอหนักแน่นในความรักที่มีต่อฉันมาตลอด 14 ปี”
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่คุณพร้อมรึยัง”
“...” ฉันพยักหน้าอาเธอร์จึงโน้มตัวลงทำให้ใบหน้าของเค้าและฉันอยู่ใกล้กันมากจนทำให้รู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน หัวใจของเราที่เริ่มเต้นรัวจนไม่เป็นจังหวะ จากนั้นอาเธอร์จึงเริ่มด้วยการจูบที่ริมฝีปากของฉันอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเลื่อนลงมาประทับรอยจูบที่บริเวณต้นคอ เลื่อนลงมาเรื่อยจนมาถึงเนินอกของฉัน อาเธอร์ค่อยๆใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปที่ต้นขาฉันอย่างช้าๆ ฉันจึงค่อยๆหลับลงและดื่มด่ำไปกับค่ำคืนอันแสนหวานของเราสองคน...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ