The Witches : Red Witch
9.0
เขียนโดย Kyoso12
วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.55 น.
11 ตอน
19 วิจารณ์
14.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 11.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ทางเลือกของเมลิซ่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(เช้าวันต่อมา)
ฉันตื่นลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าของอีกวันบนเตียงนอนของอาเธอร์ ที่พยายามตื้อฉันให้มานอนที่ห้องของเค้าจนได้ในที่สุด ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปที่ระเบียงของห้องนอนเพื่อสูดอากาศในยามเช้า ฉันมองออกไปข้างนอกนั่นเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่ฉันไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน ภาพเหล่าทหารและคนใช้ที่ต่างทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
และทันใดนั้นเองก็มีอีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ขอบระเบียงที่ขาของมันเหมือนจะมีข้อความแนบมาด้วย ฉันจึงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษข้อความนั่น และเปิดอ่านมัน มันเชียนไว้ว่า ‘จงระวังแม่มดดำ’ เมื่อฉันอ่านจบฉันสายตาของฉันจึงสดุดไปเห็นเฮดิสที่ยืนอยู่ข้างล่าง และจากนั้นเค้าก็หายตัวไป แม่มดดำงั้นหรอ? แสดงว่าแม่มดดำที่ว่านั้นต้องเป็นใครสักคนที่อยู่ในปราสาทแห่งนี้
“ที่รักตื่นแล้วหรอ” อาเธอร์ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงียเล็กน้อยทักฉันขึ้นทำให้ฉันต้องใช้เวทย์มนต์ของเผากระดาษแผ่นนั้นและหันมายิ้มให้กับอาเธอร์
“จ๊ะ ฉันตื่นแล้ว” ฉันเดินเข้าไปขยี้หัวของอาเธอร์เบาๆราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาเป็นว่าไม่วันนี้ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่เป็นแม่มดมืดเหมือนดั่งที่เวโรนิก้าและเฮดิสบอกกับฉันไว้ จากนั้นฉันจึงเดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะได้ไปหาเจ้าหญิงมอร์กาน่าหลังจากที่เรานัดกันไว้เมื่อวานนี้
ส่วนอาเธอร์ก็เหมือนจะนอนต่ออีกเค้าคงเพลียจากการเตรียมงานสินะถึงได้ไม่ยอมตื่นแบบนี้ เมื่อฉันจัดการอะไรเรียบร้อยดีแล้วฉันจึงรีบเดินออกจากห้องนอนของอาเธอร์เพื่อจะไปหาเจ้าหญิงมอร์กาน่าแต่แล้วฉันก็ต้องสดุดเมื่อเห็นเจเนวีฟยืนตรงหน้าของฉัน
“เจ้ามาทำอะไรในห้องนี้”
“ฉันแค่มาปลุกอาเธอร์ก็เท่านั้นเอง” ฉันยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเบี่ยงตัวเพื่อเดินไปอีกทาง
“เดี๋ยว!”
“...” ฉันมองมองเจเนวีฟอีกครั้ง
“คืนนี้ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มฉันขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว มาพบข้าที่ศาลาในสวน”
“ทำไมฉันจะต้องไปพบกับคุณด้วยละ”
“ฉันเป็นเจ้าหญิงฉันจะสั่งใครยังไงก็ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเจ้า”
“คุณมีอะไรก็พูดมาตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย!!!”
“งั้นตามฉันมา” เจเนวีฟกระชากข้อมือของฉันให้ตามเธอเข้าไปยังห้องสมุดที่อยู่ไม่ไกลนักจากห้องนอนของอาเธอร์ เมื่อเข้าไปถึงข้างในห้องเจเนวีฟจึงล็อคประตูห้องทันที
“เดี่ยว!! นี่คุณจะทำอะไร...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบฝ่ามือของเจเนวีฟก็ฟาดเข้าที่หน้าของฉันอย่างเต็มแรง
“หึ ไม่มีใครที่แย่งของของฉันไปได้ง่ายหรอกนะ อ้อ จริงสิเธอใช้นาเสน่ห์กับเค้าใช่มั้ยละ!!”
“เดี๋ยวนะ!! ยาเสน่ห์งั้นหรอ!! คุณคิดว่าคนแบบฉันเนี่ยนะจะใช้มันและอีกอย่างไม่มีมนุษย์คนไหนรู้จักยาแบบนี้หรอก งั้นก็แสดงว่าคุณเองก็เป็นแม่มดเหมือนกันใช่มั้ย!!”
“ถูกต้อง ฉลาดดีนี่ และฉันจะบอกอะไรให้นะว่าโอกาสของเธอมันใกล้จะหมดลงแล้ว” เจเนวีฟเดินเข้ามาใกล้ๆฉันอย่างช้าๆ พร้อมกับเสกกริชเล่มหนึ่งออกมาพร้อมกับเดินมาที่ข้างๆตัวฉัน
“นั่นมัน.....”
“คืนนี้ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายเมลิซ่า ถ้าเธอไม่ออกไปจากชีวิตของอาเธอร์ภายในคืนนี้ฉันจะควบคุมเธอให้แทงเค้าด้วยกริชเล่มนี้ตอนเวลาเที่ยงคืน แต่ถ้าเธอยอมทำตามข้อเสนอของฉันอาเธอร์ก็จะปลอดภัย” เจเนวีฟกระซิบที่ข้างหูของฉันเบาๆ
“คุณมันเลวที่สุดเจเนวีฟ”
“ฉันจะเป็นแม่มดหรือว่านางฟ้าทุกสิ่งมันขึ้นอยู่กับตัวฉันเอง โอ้ จริงสิฉันลืมบอกไปอีกอย่าง......”
“....”
“ฉันร่ายคาถาใส่เธอไปแล้วนี่นา”
“ไม่นะ” น้ำตาของฉันค่อยไหลออกมา
“เอ้า เป็นอะไรไปเสียใจอย่างนั้นหรือไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอรีบออกไปตั้งแต่ตอนนี้อาจจะทันนะ” ฉันผลักเจเนวีฟออกและใช้คาถาเพื่อปลดล็อคประตูของห้อง และรีบวิ่งออกไปโดยเร็ว ฉันวิ่งไปตามทางเดินเรื่อยๆทั้งที่ยังร้องไห้อยู่แบบนี้
“อ้าว ท่านเมลิซ่า....” เจ้าหญิงมอร์กาน่าทักฉันแต่ฉันไม่ได้ตอบเธอไป ฉันจึงรีบมุ่งหน้าไปทางด้านหลังของปราสาทจนถึงที่สวนดอกไม้ฉันทรุดลงกับพื้นหญ้าและร้องไห้อยู่ตรงนั้น ในตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินแต่ตอนนี้ร่างกายของฉันรู้สึกชาไปหมดจนแม้แต่จะลุกขึ้นยืนก็ยังไม่ไหว เมื่อก่อนฉันไม่ใช่คนที่จะอ่อนแอให้กับอะไรแบบนี้ต้องแต่ที่ฉันได้รักกับอาเธอร์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดรวมถึงตัวฉันเองด้วย
ดูฉันตอนนี้สิร้องไห้ราวกับเด็กน้อยไม่ปราณน่าสมเพชตัวเองสิ้นดี ฉันพยายามปาดน้ำตาของตัวเองและมองไปรอบๆ ทำให้ฉันได้พบกับเฮดิสอีกครั้งเค้ายืนอยู่ที่ศาลาที่ตั้งอยู่กลางสวน ฉันจึงรวบรวมแรงที่มีอยู่เพื่อจะลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ศาลาที่เฮดิสนั้นยืนคอยฉันอยู่ตรงนั้น
“ดูเหมือนว่าเธอคงจะเจอกับแม่มดดำเข้าแล้วสินะ”
“ใช่...” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ในศาลาพร้อมกับเอามือปาดน้ำตาไปด้วย
“เฮ้อ ใช้วาจาสาปเธอได้เนี่ยไม่ใช่เล่นแล้วนะ”
“แล้วเธอมาที่นี่ทำไม”
“ข้าแค่จะมาช่วยก็เท่านั้นเองเอาละ มีสองทางเลือกให้อย่างแรกก็คือไปอยู่ที่บ้านของเธอตามลำพังแล้วใช้ชีวิตแบบนั้นไปเรื่อยๆจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้นกับเผชิญกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นและหาทางแก้มันให้ได้ก่อนที่คำสาปจะสำแดงฤทธิ์”
“ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ไม่แน่ฉันอาจจะเลือกข้อแรกเพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดอะไรอีก และอีกอย่างอาเธอร์ก็จะได้อยู่กับคู่หมั้นของเค้าถึงว่านางจะเป็นแม่มดดำก็ตามฉันเชื่อว่าที่นางทำไปก็เพราะนางรักอาเธอร์นั่นแหละ”
“หึ คิดดีแล้วหรอ” เฮดิสเหยียดยิ้มที่มุมปาก
“ทำไมละ”
“อย่าลืมคำนายของเธอสิ เธอจะต้องตั้งท้องนะและอีกอย่างถ้าเกิดลูกของเธอเกิดแค้นที่พ่อของเค้าทิ้งเธอละ เธอจะว่ายังไง”
“มันก็จริงนะ”
“...”
“แล้วบอกฉันทีได้มั้ยว่าฉันควรจะทำยังไง”
“ไปที่งานเลี้ยงคืนนี้และจบเรื่องทุกอย่างลงซะ เดี๋ยวข้าจะคอยช่วยเธอเอง”
“หึ พ่อมดอย่างนายนี่มีด้านดีเยอะเหมือนกันนะ”
“ข้าทำไปเพราะว่าข้ายอมรับไม่ได้ที่นางมาใส่ร้ายป้ายสีเธอแบบนี้ อีกอย่างกษัตริย์อย่างอาเธอร์น่ะ คู่ควรกับคนอย่างเธอที่สุดแล้ว”
“ขอบคุณนะ แล้วเราจะถอนคำสาปนี้ยังไง”
“เธอต้องถอนมันด้วยตัวเอง”
“ยังไง” เมื่อฉันมาอีกทีเฮดิสก็หายไปแล้วทิ้งไว้แค่ความว่างเปล่ากับคำถามที่ฉันอยากรู้ฉันจะถอนคำสาปนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าเกิดฉันทำให้เค้าลืมฉัน ลบความทรงจำของเราที่มีร่วมกัน และฉันออกไปจากชีวิตของเค้าทุกอย่างก็อาจจะดีขึ้นได้ นี่เป็นทางเลือกที่ฉันได้เลือกไว้แล้วจริงของเธอเจเนวีฟฉันมันไม่คู่ควรกับอาเธอร์เลยสักนิด ฉันเสกผีเสื้อสีแดงตัวหนึ่งขึ้นมาและร่ายคาถาลบความทรงจำลงไป เมื่อใดก็ตามที่อาเธอร์ได้สัมผัสมันเรื่องราวของเราทั้งสองคนจะหายไปทันที ฉันจะเสมือนไร้ตัวตนในหัวใจของเธอ
จะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อเมลิซ่าติดอยู่ในความทรงจำของเธออีกแล้วอาเธอร์ ไม่มีอีกต่อไปแล้วเหตุการณ์ต่อจากนี้ไปจะมีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องราวทั้งหมดและเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ส่วนลูกของเราไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะเลี้ยงดูเค้าเป็นอย่างดีฉันจะไม่มีทางให้เค้ามาทำลายอาณาจักรของเธอได้แน่นอน ฉันหันหลังให้กับปราสาทและเดินเข้าป่าไป โดยไร้ซึ่งคำอำลาถ้าหากพรจากป่าแห่งภูติพรายยังมีฤทธิ์อยู่สักวันเราคงจะได้เจอกันอีกครั้ง...
ฉันตื่นลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าของอีกวันบนเตียงนอนของอาเธอร์ ที่พยายามตื้อฉันให้มานอนที่ห้องของเค้าจนได้ในที่สุด ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปที่ระเบียงของห้องนอนเพื่อสูดอากาศในยามเช้า ฉันมองออกไปข้างนอกนั่นเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่ฉันไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน ภาพเหล่าทหารและคนใช้ที่ต่างทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง
และทันใดนั้นเองก็มีอีกาตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ขอบระเบียงที่ขาของมันเหมือนจะมีข้อความแนบมาด้วย ฉันจึงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษข้อความนั่น และเปิดอ่านมัน มันเชียนไว้ว่า ‘จงระวังแม่มดดำ’ เมื่อฉันอ่านจบฉันสายตาของฉันจึงสดุดไปเห็นเฮดิสที่ยืนอยู่ข้างล่าง และจากนั้นเค้าก็หายตัวไป แม่มดดำงั้นหรอ? แสดงว่าแม่มดดำที่ว่านั้นต้องเป็นใครสักคนที่อยู่ในปราสาทแห่งนี้
“ที่รักตื่นแล้วหรอ” อาเธอร์ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงียเล็กน้อยทักฉันขึ้นทำให้ฉันต้องใช้เวทย์มนต์ของเผากระดาษแผ่นนั้นและหันมายิ้มให้กับอาเธอร์
“จ๊ะ ฉันตื่นแล้ว” ฉันเดินเข้าไปขยี้หัวของอาเธอร์เบาๆราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอาเป็นว่าไม่วันนี้ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่เป็นแม่มดมืดเหมือนดั่งที่เวโรนิก้าและเฮดิสบอกกับฉันไว้ จากนั้นฉันจึงเดินไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะได้ไปหาเจ้าหญิงมอร์กาน่าหลังจากที่เรานัดกันไว้เมื่อวานนี้
ส่วนอาเธอร์ก็เหมือนจะนอนต่ออีกเค้าคงเพลียจากการเตรียมงานสินะถึงได้ไม่ยอมตื่นแบบนี้ เมื่อฉันจัดการอะไรเรียบร้อยดีแล้วฉันจึงรีบเดินออกจากห้องนอนของอาเธอร์เพื่อจะไปหาเจ้าหญิงมอร์กาน่าแต่แล้วฉันก็ต้องสดุดเมื่อเห็นเจเนวีฟยืนตรงหน้าของฉัน
“เจ้ามาทำอะไรในห้องนี้”
“ฉันแค่มาปลุกอาเธอร์ก็เท่านั้นเอง” ฉันยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเบี่ยงตัวเพื่อเดินไปอีกทาง
“เดี๋ยว!”
“...” ฉันมองมองเจเนวีฟอีกครั้ง
“คืนนี้ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มฉันขอคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว มาพบข้าที่ศาลาในสวน”
“ทำไมฉันจะต้องไปพบกับคุณด้วยละ”
“ฉันเป็นเจ้าหญิงฉันจะสั่งใครยังไงก็ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเจ้า”
“คุณมีอะไรก็พูดมาตรงนี้ เดี๋ยวนี้เลย!!!”
“งั้นตามฉันมา” เจเนวีฟกระชากข้อมือของฉันให้ตามเธอเข้าไปยังห้องสมุดที่อยู่ไม่ไกลนักจากห้องนอนของอาเธอร์ เมื่อเข้าไปถึงข้างในห้องเจเนวีฟจึงล็อคประตูห้องทันที
“เดี่ยว!! นี่คุณจะทำอะไร...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบฝ่ามือของเจเนวีฟก็ฟาดเข้าที่หน้าของฉันอย่างเต็มแรง
“หึ ไม่มีใครที่แย่งของของฉันไปได้ง่ายหรอกนะ อ้อ จริงสิเธอใช้นาเสน่ห์กับเค้าใช่มั้ยละ!!”
“เดี๋ยวนะ!! ยาเสน่ห์งั้นหรอ!! คุณคิดว่าคนแบบฉันเนี่ยนะจะใช้มันและอีกอย่างไม่มีมนุษย์คนไหนรู้จักยาแบบนี้หรอก งั้นก็แสดงว่าคุณเองก็เป็นแม่มดเหมือนกันใช่มั้ย!!”
“ถูกต้อง ฉลาดดีนี่ และฉันจะบอกอะไรให้นะว่าโอกาสของเธอมันใกล้จะหมดลงแล้ว” เจเนวีฟเดินเข้ามาใกล้ๆฉันอย่างช้าๆ พร้อมกับเสกกริชเล่มหนึ่งออกมาพร้อมกับเดินมาที่ข้างๆตัวฉัน
“นั่นมัน.....”
“คืนนี้ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้ายเมลิซ่า ถ้าเธอไม่ออกไปจากชีวิตของอาเธอร์ภายในคืนนี้ฉันจะควบคุมเธอให้แทงเค้าด้วยกริชเล่มนี้ตอนเวลาเที่ยงคืน แต่ถ้าเธอยอมทำตามข้อเสนอของฉันอาเธอร์ก็จะปลอดภัย” เจเนวีฟกระซิบที่ข้างหูของฉันเบาๆ
“คุณมันเลวที่สุดเจเนวีฟ”
“ฉันจะเป็นแม่มดหรือว่านางฟ้าทุกสิ่งมันขึ้นอยู่กับตัวฉันเอง โอ้ จริงสิฉันลืมบอกไปอีกอย่าง......”
“....”
“ฉันร่ายคาถาใส่เธอไปแล้วนี่นา”
“ไม่นะ” น้ำตาของฉันค่อยไหลออกมา
“เอ้า เป็นอะไรไปเสียใจอย่างนั้นหรือไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอรีบออกไปตั้งแต่ตอนนี้อาจจะทันนะ” ฉันผลักเจเนวีฟออกและใช้คาถาเพื่อปลดล็อคประตูของห้อง และรีบวิ่งออกไปโดยเร็ว ฉันวิ่งไปตามทางเดินเรื่อยๆทั้งที่ยังร้องไห้อยู่แบบนี้
“อ้าว ท่านเมลิซ่า....” เจ้าหญิงมอร์กาน่าทักฉันแต่ฉันไม่ได้ตอบเธอไป ฉันจึงรีบมุ่งหน้าไปทางด้านหลังของปราสาทจนถึงที่สวนดอกไม้ฉันทรุดลงกับพื้นหญ้าและร้องไห้อยู่ตรงนั้น ในตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินแต่ตอนนี้ร่างกายของฉันรู้สึกชาไปหมดจนแม้แต่จะลุกขึ้นยืนก็ยังไม่ไหว เมื่อก่อนฉันไม่ใช่คนที่จะอ่อนแอให้กับอะไรแบบนี้ต้องแต่ที่ฉันได้รักกับอาเธอร์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดรวมถึงตัวฉันเองด้วย
ดูฉันตอนนี้สิร้องไห้ราวกับเด็กน้อยไม่ปราณน่าสมเพชตัวเองสิ้นดี ฉันพยายามปาดน้ำตาของตัวเองและมองไปรอบๆ ทำให้ฉันได้พบกับเฮดิสอีกครั้งเค้ายืนอยู่ที่ศาลาที่ตั้งอยู่กลางสวน ฉันจึงรวบรวมแรงที่มีอยู่เพื่อจะลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ศาลาที่เฮดิสนั้นยืนคอยฉันอยู่ตรงนั้น
“ดูเหมือนว่าเธอคงจะเจอกับแม่มดดำเข้าแล้วสินะ”
“ใช่...” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ในศาลาพร้อมกับเอามือปาดน้ำตาไปด้วย
“เฮ้อ ใช้วาจาสาปเธอได้เนี่ยไม่ใช่เล่นแล้วนะ”
“แล้วเธอมาที่นี่ทำไม”
“ข้าแค่จะมาช่วยก็เท่านั้นเองเอาละ มีสองทางเลือกให้อย่างแรกก็คือไปอยู่ที่บ้านของเธอตามลำพังแล้วใช้ชีวิตแบบนั้นไปเรื่อยๆจนกว่าเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้นกับเผชิญกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นและหาทางแก้มันให้ได้ก่อนที่คำสาปจะสำแดงฤทธิ์”
“ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ไม่แน่ฉันอาจจะเลือกข้อแรกเพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องมาเจ็บปวดอะไรอีก และอีกอย่างอาเธอร์ก็จะได้อยู่กับคู่หมั้นของเค้าถึงว่านางจะเป็นแม่มดดำก็ตามฉันเชื่อว่าที่นางทำไปก็เพราะนางรักอาเธอร์นั่นแหละ”
“หึ คิดดีแล้วหรอ” เฮดิสเหยียดยิ้มที่มุมปาก
“ทำไมละ”
“อย่าลืมคำนายของเธอสิ เธอจะต้องตั้งท้องนะและอีกอย่างถ้าเกิดลูกของเธอเกิดแค้นที่พ่อของเค้าทิ้งเธอละ เธอจะว่ายังไง”
“มันก็จริงนะ”
“...”
“แล้วบอกฉันทีได้มั้ยว่าฉันควรจะทำยังไง”
“ไปที่งานเลี้ยงคืนนี้และจบเรื่องทุกอย่างลงซะ เดี๋ยวข้าจะคอยช่วยเธอเอง”
“หึ พ่อมดอย่างนายนี่มีด้านดีเยอะเหมือนกันนะ”
“ข้าทำไปเพราะว่าข้ายอมรับไม่ได้ที่นางมาใส่ร้ายป้ายสีเธอแบบนี้ อีกอย่างกษัตริย์อย่างอาเธอร์น่ะ คู่ควรกับคนอย่างเธอที่สุดแล้ว”
“ขอบคุณนะ แล้วเราจะถอนคำสาปนี้ยังไง”
“เธอต้องถอนมันด้วยตัวเอง”
“ยังไง” เมื่อฉันมาอีกทีเฮดิสก็หายไปแล้วทิ้งไว้แค่ความว่างเปล่ากับคำถามที่ฉันอยากรู้ฉันจะถอนคำสาปนี้ได้อย่างไร แต่ถ้าเกิดฉันทำให้เค้าลืมฉัน ลบความทรงจำของเราที่มีร่วมกัน และฉันออกไปจากชีวิตของเค้าทุกอย่างก็อาจจะดีขึ้นได้ นี่เป็นทางเลือกที่ฉันได้เลือกไว้แล้วจริงของเธอเจเนวีฟฉันมันไม่คู่ควรกับอาเธอร์เลยสักนิด ฉันเสกผีเสื้อสีแดงตัวหนึ่งขึ้นมาและร่ายคาถาลบความทรงจำลงไป เมื่อใดก็ตามที่อาเธอร์ได้สัมผัสมันเรื่องราวของเราทั้งสองคนจะหายไปทันที ฉันจะเสมือนไร้ตัวตนในหัวใจของเธอ
จะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อเมลิซ่าติดอยู่ในความทรงจำของเธออีกแล้วอาเธอร์ ไม่มีอีกต่อไปแล้วเหตุการณ์ต่อจากนี้ไปจะมีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่รู้เรื่องราวทั้งหมดและเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ส่วนลูกของเราไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะเลี้ยงดูเค้าเป็นอย่างดีฉันจะไม่มีทางให้เค้ามาทำลายอาณาจักรของเธอได้แน่นอน ฉันหันหลังให้กับปราสาทและเดินเข้าป่าไป โดยไร้ซึ่งคำอำลาถ้าหากพรจากป่าแห่งภูติพรายยังมีฤทธิ์อยู่สักวันเราคงจะได้เจอกันอีกครั้ง...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ