ลิขิตโลกา - One World

8.0

เขียนโดย CatMoNo

วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.20 น.

  13 บท
  2 วิจารณ์
  13.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 23.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เดชมวยไชยา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 2
 
               เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก ทำให้เอกราชจำต้องถอนตัวออกมาจากผิวหญิงสาวนิ่ม ๆ ของเหล่านางแบบในความฝันด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
 
                “ ใครมันโทรมาตอนนี้ฟะ โอ้ย....ตีสองเนี้ยนะ ให้ตายเถอะ ” ผมบ่นออกมาเบา ๆ กับตัวเอง เมื่อมองไปยังนาฬิกาบนหัวเตียงแล้วพบว่าตอนนี้เวลา 02:18 น.
 
                ถ้าถามผมว่าทำไมไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ล่ะก็ คุณคงไม่ลืมนะครับว่างานผมคืออะไร แม้จะเป็นนอกเวลาราชการ ผมก็ไม่มีอำนาจที่จะปิดเสียงเครื่องโทรศัพท์ที่ทำงานได้หรอกครับ ว่าแต่ นี่มันเบอร์ใครเนี้ย ไม่เคยเห็นแหะ.....
 
                “ สวัสดีครับ เอกราชพูดสายครับ “
 
                “ คุณเอกราชครับ ผมนักวิจัยของศาสตราจารย์ที่เราเคยพบกันตอนเช้าวันนี้ ผมกำลังจะเอาผลงานวิจัยทั้งหมดไปให้คุณเอกราชที่ห้อง คุณเอกราชอย่าไปไหนนะครับ ”  น้ำเสียงในสายดูลุกลี้ลุกลนอย่างชัดเจน ทำให้ผมเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมต้องรีบเอามาให้ตอนนี้ รอตอนเช้าก็ได้นี่น่า
 
                “ ปั่ง ๆ ๆ ” เสียงดังแว่ว ๆ จากปลายสาย แต่ก่อนที่เอกราชจะได้ถามอะไร สายก็ถูกตัดไปเสียก่อน เอกราชโยนโทรศัพท์ไปบนเตียงอย่างเซ็ง ๆ จากนั้นก็เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำเพื่อให้ตาสว่าง จากนั้นก็ชงกาแฟดื่ม และโทรหาโทยะ เพื่อนสนิทของเขาที่โตมาด้วยกัน แต่หมอนี่มีพ่อเป็นแม่ทัพ ตำแหน่งเลยดีกว่าผม ก็นั้นแหละนะ เป็นถึงผู้อำนวยการด้านทรัพยากรบุคคลของสภาโลกเขตเอเชีย ส่วนเงินเดือน..........อย่าพูดถึงมันเลย เดี๋ยวผมจะชิงฆ่าตัวตายเสียก่อนถ้าเอามาเปรียบกับเงินเดือนผม
 
                “ ฮาโหยววว........โทรมาตอนนี้อยากตายรึงายว้า......” เสียงโทยะตอบกลับมาอย่างง่วง ๆ
 
                “ โอ้ว.....สวัสดีครับคุณโทยะ กระผมโทรมาจากธนาคารอิงออน เพื่อเสนอโปรโมชั่นบัตรเครดิตให้คุณโทยะ ไม่ทราบว่าคุณโทยะสนใจฟังมั้ยครับ ” ผมตอบไปอย่างยิ้ม ๆ
 
                “ บัตรเครดิต......ตอนตีสองกว่าเนี้ยนะ......อยากตายมากสินะไอ่@!#@#$^%! ”
 
                “ เห้ย....โทยะ นี่เอกเองเว้ย มีเรื่องแจ้ง ศูนย์วิจัยโทรมาบอกว่าจะเอางานวิจัยมาให้ตอนเนี้ย เห็นว่าแปลก ๆ ก็เลยแจ้งแกไว้ก่อน ”
 
                “ อ่าว......เอกเองเหรอฟะ แกล้งเนียนเป็นพนักงานธนาคารนะเอ็ง งานวิจัยอะไรทำใมเราไม่เคยได้ยินหว่า ”
 
                “ งานวิจัยของสภาโลกนั้นแหละ ไม่รู้เหมือนกัน นายสั่งให้มารอรับ ก็เลยมารอตั้งแต่เมื่อวานละ นี่ก็ว่า.......” แต่ก่อนที่ผมจะได้คุยต่อ ประตูห้องพักของผมก็ถูกกระแทกออกอย่างแรง พร้อมกับร่าง ๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยบาดแผลที่โดนยิงโซเซเข้ามาในห้องพัก
 
                “ คุณเอก......รับงานวิจัยไป แล้วรีบหนีครับ พวกมันตามผมมา พวกองค์กรเงา ”
 
                (“ เห้ย.....เอก เกี่ยวกับองค์กรเงาด้วยเหรอฟะ เอก....ได้ยินมั้ยเห้ย..” เสียงแว่ว ๆ ในโทรศัพท์ดังขึ้น เพราะผมยังไม่ได้วางสาย )
 
                นักวิจัยโชกเลือดคนนั้นเหวี่ยงกระเป๋าหนังมาให้ผม แต่คงเพราะบาดแผลโดนยิงเข้าที่แขน ทำให้ไม่มีแรงตก กระเป๋ายังมาไม่ถึงตัวผม มันก็ตกลงพื้นและเอกสารข้างในก็ปลิวกระจายออกเต็มห้องพัก และทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังขึ้นเบา ๆ เหมือนการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง ร่างของนักวิจัยล้มลงแน่นิ่งกับพื้นหน้าห้องผม
 
                ชายชุดสูทสีดำ 3 คนเดินเข้ามาในห้องผม คนนำหน้าข้ามร่างของนักวิจัยมาหยุดตรงหน้าผม และมองดูเอกสารที่กระจายเต็มห้อง
 
                “ เก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมด อย่าให้ขาดซักแผ่นล่ะ ” เขาหันไปสั่งงานชายชุดสูทสีดำ 2 คนด้านหลัง จากนั้นก็มีคนหนึ่งเดินแยกออกมาเก็บเอกสารทั้งหมดในห้อง ส่วนอีกคนยืนปิดทางออกไว้
 
                “ ขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ และอย่าขัดขืนหรือขัดขวางการทำงานของพวกผมเลยนะครับ ผมไม่อยากฆ่าคนโดยไม่จำเป็น “ ชายชุดดำด้านหน้าพูดออกมา พร้อมกับจ้องหน้าผมเขม็ง
 
                สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งโทรศัพท์ที่ผมโทรหาโทยะ ผมก็ยังไม่ทันได้กดวาง แต่ด้วยเหตุการณ์นี้ ผมทำการวิเคราะห์สถานการณ์เบื้องต้น ด้วยสามัญสำนึกของตนเอง ผมตัดสินใจสู้กับคนพวกนี้
 
                “ หยุด!! ..... และวางเอกสารทั้งหมดไว้ที่เดิมด้วยครับ ” ผมพูดออกมาเสียงเบา แต่ในความเงียบยามตีสองแบบนี้ ชายชุดดำทั้ง 3 คน และโทยะในสาย ต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจน
 
                ชายชุดดำด้านหน้าแสยะยิ้มขึ้นมา พร้อมยกปืนขึ้นมาเล็งทางหัวผมเหมือน ๆ กับขายชุดดำอีก 2 คน ทันทีนั้นผมใช้งานพรสวรรค์ของผมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ด้วยการเร่งการทำงานของสมองขึ้น ทำให้พอจะคาดเดาวิถีกระสุนทั้งหมดได้ และชิงเคลื่อนไหวหลบก่อนที่ทั้ง 3 คนจะเหนี่ยวไกเพียงเสี้ยววินาที
 
                จากนั้นผมก็ย่อตัวลง ความคิดระลึกถึงพระคุณของครูมวยผู้สอนวิชา จากนั้นตั้งท่าเสือลากหาง และพุ่งเข้าหาชายชุดดำทั้ง 3 คนอย่างรวดเร็ว
 
                เพียงพริบตา ผมกลับมายืนในจุดเดิม ในท่าหันหลัง ชายชุดดำทั้ง 3 คนต่างก็ลงไปนอนอยู่กับพื้น สภาพแขนของทุกคนถูกบิดผิดรูป สร้างความเจ็บปวดให้กับทั้ง 3 คนเป็นอย่างมาก
 
                แต่ที่เหนือกว่านั้น สิ่งที่ก่อกำเนิดขึ้นมาในจิตใจของทั้ง 3 คนคือความกลัว เหมือนกับมองพญามัจจุราชที่กำลังหันหลังให้ตัวเอง ทั้ง 3 คนไม่มีความคิดที่จะต่อสู้อีกต่อไป ชายชุดดำที่เป็นหัวหน้าพอมองเห็นว่าลูกน้องที่เก็บเอกสาร ได้เก็บเอกสารมาจนครบแล้วและกำลังถืออยู่ในมือที่ถูกบิดผิดรูป ก็ออกคำสั่งให้รีบถอยในทันที ก่อนที่ตนเองและลูกน้องจะทำงานพลาด หรืออาจทิ้งชีวิตไว้ที่นี้เพราะฝีมือของชายหนุ่มคนนี้
 
                ชายชุดดำทั้ง 3 คนต่างก็รีบหนีออกไปจากห้อง โดยที่เอกราชไม่หันหลังมามอง กระทั่งเวลาผ่านไปซักพัก เขาก็ล้มลงกับพื้นห้อง มือทั้งสองที่ยกขึ้นมากุมหัวแน่น
 
                “ อ๊าก.................................” ผมตะโกนออกมาเสียงดัง ด้วยอาการปวดหัว มันจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่ผมฝืนใช้พรสวรรค์ของผมร่วมกับเพลงมวยไชยา และตอนนั้นจู่ ๆ โทยะก็วิ่งเข้ามาในห้องของผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว
 
-------------------------------
 
                โทยะด้วยที่รู้ว่าเพื่อนมีเรื่อง เลยรีบมาหาเพราะที่พักไม่ไกลกัน พอเห็นอาการของเพื่อนรัก ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น อาการแบบนี้เอกมันต้องใช้พลังเกินตัวอีกแน่นอน โทยะค่อย ๆ พยุงเอกขึ้นมา และพาไปนอนที่เตียง หางตาของโทยะเหลือบไปเห็นกระปุกยาสีขาวตกอยู่ข้างห้อง พร้อมกับเอกสารสีแปลก ๆ ปึกเล็ก ๆ ที่ปลิวไปแทรกอยู่ในซอกตู้เสื้อผ้า
 
                “ จำได้ว่าเวลาเอกมันเป็นแบบนี้ ต้องกินยาเฉพาะที่หมอให้มานี่น่า คงยานี่แหละมั่ง เคยถามมันแต่ดันไม่ยอมบอกชื่อยาให้ฟัง เอาวะ ยานี่แหละ........... “
 
                โทยะหยิบกระปุกยาแล้วเทมาหนึ่งเม็ด เหลียวมองไปที่เอก ก็เห็นเอกกำลังอ้าปากหอบหายใจอยู่ เลยหยอดยาเม็ดเล็ก ๆ นั้นใส่ปากให้เอกกลืนลงไปทันที จากนั้นเอกก็สลบไปทันที
 
                “ อาวละ........แค่นี้ก็เรียบร้อย ซักพักคงหายเหมือนทุกที ว่าแต่.......นี่มันเอกสารอะไร งานวิจัยทีว่ารึเปล่าเนี้ย ” โทยะเก็บกระปุกยาลงกระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหยิบเอกสารติดมือขึ้นมา จากนั้นโทรหาเจ้าหน้าที่เพื่อให้มาเก็บศพนักวิจัยที่เสียชีวิตอยู่หน้าห้องเอก
 
                พอโทยะได้อ่านเอกสารไปซักพัก ใบหน้าอันหล่อเหลาที่มีหญิงสาวหลายคนติดพัน จนทำให้เจ้าตัวมีนิสัยเจ้าชู้ และหื่นกาม ค่อย ๆ ซีดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มืออีกข้างก็หยิบกระปุกยาขึ้นมาดูจึงได้เห็นชื่อของตัวยาที่เขียนตัวเล็ก ๆ ติดข้างกระปุก
 
                “ ยา X-Turn นั้นไงล่ะ.......ชัดเจน ไม่ใช่ยาแก้ปวดเหมือนทุกทีนี่หว่า.............ตายแน่เรา ไอ้เอก โทยะคนนี้ขอโทษ... ” โทยะที่หน้าซีด รีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทของกลุ่มเขา ที่มีกัน 3 คน
 
                “ ริน.............เรือหายแล้ว รีบมาห้องไอ้เอกด่วนเลยนะ........โอเค........ตอนเช้าก็ได้.....เรื่องใหญ่เลยแหละ.....ตายแน่เลยฉัน.......เฮ้อ........” โทยะพอพูดจบก็นั่งซึมอยู่ไม่ไกลจากศพของนักวิจัย บรรยากาศดูมืดมนเหมือน ๆ กับมีศพ 2 ศพที่ถูกฆ่าตายอยู่ใกล้ ๆ กัน
 
                ( วิญญาณนักวิจัยหน้าห้อง : ถึงผมจะเป็นตัวประกอบ แต่สนใจร่างผมหน่อยสิครับ........ฮื่อ ๆ ๆ ๆ )
 
------------------------------------------
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา