Chocolate & Despair
7.7
เขียนโดย [NNS]
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.
13 chapter
1 วิจารณ์
15.16K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Accident
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ผมอยู่กับฮารุมาได้สองเดือนแล้วแม้ชีวิตไม่ได้จี๊จ๋าหวานแหวนอะไรแต่ก็ทำให้ผมมีความสุขมากเขาคอยดูแลผมตลอดทั้งเวลายกของก็คอยมาช่วยตลอดเวลาผมทำอาหารก็คอยมามองแล้วยิ้มให้ถึงผมจะเขินนิดหน่อยแต่ก็รู้สึกดีใจมากแล้วถึงสักเล็กน้อยที่โรงเรียนผมก็ยิ้มได้แล้วแถมยังคุยกับคนอื่นมากกว่าเมื่อก่อนๆด้ในตอนนี้ชีวิตของผมดีขึ้นมากๆ
ผมคงไม่สามารถรักใครได้เท่ากับฮารุอีกแล้ว
ผมคงขาดเขาไม่ได้อีกแล้ว จนกระทั้งวันนั้นมาถึง
วันที่ 16 มกราคม 1954
ทั้งๆที่เป็นวันที่ฝนตกเหมือนกับวันนั้นวันที่เราสองคนสื่อใจถึงกันแท้ๆทั้งที่เป็นวันที่เหมือนกับตอนนั้นผมหยิบเสื้อคลุมสีดำที่ใส่ประจำมาสวมแล้ววิ่งออกจากคอนโดอย่างรวดเร็วผมลืมปิดไฟหรือปิดแก๊สหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่โทรศัพท์ของใครที่ไม่รู้จักทำให้ผมรีบออกวิ่งไปทันทีไม่ขึ้นรถไฟผมวิ่งเข้าไปในแท๊กซี่ที่จอดอยู่อย่างรวดเร็วกว่าผมจะวิ่งมาเจอรถแท๊กซี่ก็ใช้เวลาไป10กว่านาทีแล้วแต่จะให้ยืนรอผมก็ไม่ใจเย็นขนาดนั้น
“ไปโรงพยาบาลนากาเระ”
“คะ ครับ”
คนขับรถเห็นผมร้อนรนจึงรับขับอย่างรวดเร็วมันใช้เวลา10นาทีก็ถึงแต่เวลานั้นสำหรับผมมันช้ามากเกินไป
เมื่อถึงหน้าโรงพยาบาลผมโยนขึ้น10000เยนไว้แล้ววิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันทีผมไม่มัวเสียเวลาแม้แต่รอลิฟต์ผมวิ่งขึ้นบันไดไปที่ชั้น5อย่างรวดเร็วตรงไปที่ห้องผ่าตัดที่7ที่หน้าห้องมีนางพยาบาลยืนรออยู่
“เอ่อ..”
“มานาเสะ เรย์ ครับ”ผมบอกชื่อก่อนที่เขาจะถามผมด้วยซ้ำ
“คะ คุณมานาเสะนะคะ คนไข้คุณนานาชิมะ ฮารุประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเมื่อเวลา 11.30นาฬิกาวันนี้กำลังเข้ารับการผ่าตัดอยู่คะ”
“อาการเป็นยังไงบ้างครับ”แม้ผมจะเหนื่อยกับการวิ่งแต่ผมก็ไม่มีเวลามาพักแล้ว
“คะ อาการเค้าไม่มีกระดูกส่วนไหนหักร่างกายฟกช้ำหลายแห่งแล้วก็...”นางพยาบาลลังเลที่จะพูดต่อ
“แล้วก็อะไรครับ”ผมตะคอกใส่เขาแม้จะเป็นโรงพยาบาลผมก็ไม่มีความสนใจเกรงใจใครแล้ว
“สะ ศรีษะเขาได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงคะ คะ ควรเตรียมใจไว้สักเล็กน้อยนะคะ”
เตรียมใจประโยคนี้ดังอยู่ในหัวผมจากนั้นทุกอย่างก็มืดลง
“อะ อือ”ผมค่อยๆลืมตาช้าๆเพดานสีขาวสะอาด
ที่นี่...
“ตื่นแล้วเหรอ”มีขวดน้ำโยนมาทางผมผมใช้มือรับไว้
“ยูคิ ทำไม...”ยูคินั่งอยู่ตรงข้ามผม
“นายเมล์มาบอกชั้นว่า[เกิดเรื่องที่โรงพยาบาลชั้น5ห้องผ่าตัด7]ชั้นเลยรีบบึ่งมานี่ไง”
“พอมาถึงนายก็นอนสลบอยู่ พอถามนางพยาบาลก็บอกว่านายฟังอาการฮารุแล้วหมดสติไปนะ”
ฮารุ ใช่ ฮารุถูกรถชน ผมตอนนั้นเมื่อได้ยินว่าต้องเตรียมใจเลยเป็นลมไป
“อุ๊บ”ผมรู้สึกอยากอาเจียนทันทีกระเพาะมันบีบตัวปั้นป่วนไปหมด
“เฮ้ เรย์ใจเย็นๆหน่อยนายหน้าซีดหมดแล้วดื่มน้ำก่อนเถอะ”เขาหยิบขวดน้ำจากมือผมไปเปิดฝาขวดแล้วยื่นให้ผม
ผมคว้ามันมาดื่มรวดเร็วจนหมดขวด
“เอ่อ เธอคือ...”
ผมเงยหน้ามองตนที่ส่งเสียงทักเป็นคูสามีภรรยาวัยทำงานตามปกติแต่เขาเป็นใครกันนะผมไม่เคยรู้จักเขาเลย
“พ่อแม่ของฮารุนะ”ยูคิหันมาบอกผม
ผมยืนขึ้นโค้งทำการสวัสดีเขา
“ผมมานาเสะ เรย์ ที่อาศัยอยู่กับเขาครับ”
“อ่าจ๊ะชั้นรู้จากฮารุจังแล้วว่าเขาเช่าห้องในคอนโดของเธออยู่”
“ขอโทษนะที่วันนี้ต้องให้เธอมาลำบากเรื่องลูกชายชั้นเดี๋ยวจากนี้พวกเราจะคอยดูอาการเขาเอง เธอไปพักผ่อนเถอะ”
“ไม่ครับผมก็จะอยู่”
“ไม่ว่ายังไงด้วยเหตุผลอะไรก็จะอยู่ครับ”ผมยืนยันหนักแน่น
“เข้าใจแล้ว”พวกเขายอมรับอย่างง่ายดาย
เวลาผ่านไปแล้ว1ชั่วโมงหลังผมตื่นยูคิบอกผมว่าผมหมดสติไปร่วม30นาทีได้การผ่าตัดของฮารุยังไม่เสร็จเลย
แม่ของฮารุมานั่งข้างผมพ่อของเขามานั่งที่ด้านข้างผมอีกด้าน
“พวกเธอคบกันอยู่เหรอ”พ่อของเขาถามอย่างตรงไปตรงมาจนผมลังเลที่จะตอบ
“ครับ...”ผมได้แต่บอกไปตรง
“งั้นเหรอ”เขาไม่มีท่าทีต่อว่าอะไรเลย
“ดีจังเลยนะ”แม่ของฮารุพูดอย่างนั้นแล้วพ่อของเขาก็พูดต่อ
“ชั้นรู้อยู่แล้วละว่าเจ้านั่นไม่มีทางคบผู้หญิงนะนายไม่ต้องกังวลหรอกนะมานาเสะคุง”
“เจ้านั้นคงจะกลัวที่จะคบกับผู้หญิงละนะตั้งแต่วันนั้น”
“วันนั้น...?”
“วันที่แม่ของเค้าทิ้งเค้าไปโดยไม่บอกนะ”
“เอะ แต่”
“ชั้นเป็นภรรยาใหม่ของเขานะกับฉารุจังไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดหรอก”
“ตอนชั้นมาใหม่ๆเค้าตอนนั้นเอาแต่หลบอยู่ใต้โต๊ะในห้องพอชั้นเข้าใกล้ก็จะกรีดร้องทันทีเลย”
“สักครึ่งปีเห็นจะได้เขาถึงค่อยกล้าเข้าใกล้ผู้หญิงนะแต่ชั้นคิดว่าเขาคงไม่กล้าคบผู้หญิงหรอก”
“เจ้านั้นนะทำดีกับคนอื่นตลอดใช่มั้ยละ เพราะ เจ้านั้นไม่อยากถูกทอดทิ้งไงละ”
“แต่เขาไว้ใจเธอนะมานาเสะจัง”
“เขาไว้ใจเธอเขาถึงได้คบกับเธอเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งหมดหวังสิเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่”
“...”
“ครับ”ผมตอบได้แค่นั้นผม ไม่เคยรู้อะไรเลย ไม่เคยรู้อดีตหรือเรื่องของฮารุเลยสักนิดเดียว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา การผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลงคุณหมอเดินมาหาพ่อแม่ของฮารุ
“ขอเชิญมาพูดคุยกันสักเล็กน้อยนะครับ”
“...”ผมทำได้แต่นั่งรอตรงนี้สินะ แต่
“เธอก็มาด้วยสิพ่อของฮารุพูดเช่นนั้น
ผมรีบลุกขึ้นเดินตามไปทันทีเราเดินเข้าไปในห้องของผู้ป่วยสักพักร่างของฮารุก็มาถึงที่หัวและแขนของเขามีผ้าพันแผลพันอยู่
“เขาพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”
คำพูดนั้นทำให้ผมดีใจมากผมหันไปยิ้มกับยูคิ
“แต่”
คำพูดต่อจากนั้นผมไม่อยากรับฟังเท่าไหร่มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
“เขาอาจไม่ได้สติขึ้นมาอีกเลยนะครับ”
คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกหน้ามืดอีกครั้งผมเซไปด้านหลังยูคิมารับตัวผมไว้
“เรย์เป็นอะไรหรือเปล่า”
“มานาเสะจัง”
“มานาเสะ”ทุกคนเข้ามาหาผมเพื่อดูอาการ
“ไม่เป็นไรครับหน้ามืดนิดหน่อยเอง”
“ครับ ถ้าจะให้รออย่างนี้ค่าห้องกับค่าอุปกรณ์ต่างๆคงจะหนักหนาพอสมควรแถมยังต้องมีคนมาคอยดูแลอีก”
“งั้นเหรอคะ”แม่ของฮารุทำสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรครับเรื่องค่าห้องค่าอุปกรณ์ผมจ่ายให้เอง”
“!!!”
“ส่วนเรื่องดูแลผมจะมาดูตอนเรียนเสร็จเองครับ”
“แต่มานาเสะจังเรื่องเงินนะเธอ”
“ไม่ต้องห่วงครับหมอนี่ยังเหลือเงินที่ได้มาเกินหลักล้านอยู่แล้วถ้าฉุกเฉินผมจะช่วยเองครับ”ยูคิพูด
“เธอคือ???”
“มินาคามิ ยูคิครับเพื่อนของเรย์กับฮารุ”
“เข้าใจแล้วเรื่องค่าจิปาถะอื่นๆเราจะช่วยเท่าที่ทำได้นะ”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากวันนั้น
พอเลิกเรียนเสร็จผมก็มาหาเค้าเหมือนทุกทีที่ห้องสีขาวที่มีดอกไม้ตั้งอยู่ผมมาที่นี่ทุกวันจนถึงช่วงหมดเวลาเยี่ยมนั่งข้างๆเค้าพูดเรื่องต่างๆคอยจับมือเขาอย่างนี้เสมอได้แต่ภาวนาให้เขาลืมตาขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับผมอีกครั้ง
Chapter 10 End (ตอนหน้าจบแล้วน้า(มั้ง))
ผมคงไม่สามารถรักใครได้เท่ากับฮารุอีกแล้ว
ผมคงขาดเขาไม่ได้อีกแล้ว จนกระทั้งวันนั้นมาถึง
วันที่ 16 มกราคม 1954
ทั้งๆที่เป็นวันที่ฝนตกเหมือนกับวันนั้นวันที่เราสองคนสื่อใจถึงกันแท้ๆทั้งที่เป็นวันที่เหมือนกับตอนนั้นผมหยิบเสื้อคลุมสีดำที่ใส่ประจำมาสวมแล้ววิ่งออกจากคอนโดอย่างรวดเร็วผมลืมปิดไฟหรือปิดแก๊สหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่โทรศัพท์ของใครที่ไม่รู้จักทำให้ผมรีบออกวิ่งไปทันทีไม่ขึ้นรถไฟผมวิ่งเข้าไปในแท๊กซี่ที่จอดอยู่อย่างรวดเร็วกว่าผมจะวิ่งมาเจอรถแท๊กซี่ก็ใช้เวลาไป10กว่านาทีแล้วแต่จะให้ยืนรอผมก็ไม่ใจเย็นขนาดนั้น
“ไปโรงพยาบาลนากาเระ”
“คะ ครับ”
คนขับรถเห็นผมร้อนรนจึงรับขับอย่างรวดเร็วมันใช้เวลา10นาทีก็ถึงแต่เวลานั้นสำหรับผมมันช้ามากเกินไป
เมื่อถึงหน้าโรงพยาบาลผมโยนขึ้น10000เยนไว้แล้ววิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลทันทีผมไม่มัวเสียเวลาแม้แต่รอลิฟต์ผมวิ่งขึ้นบันไดไปที่ชั้น5อย่างรวดเร็วตรงไปที่ห้องผ่าตัดที่7ที่หน้าห้องมีนางพยาบาลยืนรออยู่
“เอ่อ..”
“มานาเสะ เรย์ ครับ”ผมบอกชื่อก่อนที่เขาจะถามผมด้วยซ้ำ
“คะ คุณมานาเสะนะคะ คนไข้คุณนานาชิมะ ฮารุประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเมื่อเวลา 11.30นาฬิกาวันนี้กำลังเข้ารับการผ่าตัดอยู่คะ”
“อาการเป็นยังไงบ้างครับ”แม้ผมจะเหนื่อยกับการวิ่งแต่ผมก็ไม่มีเวลามาพักแล้ว
“คะ อาการเค้าไม่มีกระดูกส่วนไหนหักร่างกายฟกช้ำหลายแห่งแล้วก็...”นางพยาบาลลังเลที่จะพูดต่อ
“แล้วก็อะไรครับ”ผมตะคอกใส่เขาแม้จะเป็นโรงพยาบาลผมก็ไม่มีความสนใจเกรงใจใครแล้ว
“สะ ศรีษะเขาได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงคะ คะ ควรเตรียมใจไว้สักเล็กน้อยนะคะ”
เตรียมใจประโยคนี้ดังอยู่ในหัวผมจากนั้นทุกอย่างก็มืดลง
“อะ อือ”ผมค่อยๆลืมตาช้าๆเพดานสีขาวสะอาด
ที่นี่...
“ตื่นแล้วเหรอ”มีขวดน้ำโยนมาทางผมผมใช้มือรับไว้
“ยูคิ ทำไม...”ยูคินั่งอยู่ตรงข้ามผม
“นายเมล์มาบอกชั้นว่า[เกิดเรื่องที่โรงพยาบาลชั้น5ห้องผ่าตัด7]ชั้นเลยรีบบึ่งมานี่ไง”
“พอมาถึงนายก็นอนสลบอยู่ พอถามนางพยาบาลก็บอกว่านายฟังอาการฮารุแล้วหมดสติไปนะ”
ฮารุ ใช่ ฮารุถูกรถชน ผมตอนนั้นเมื่อได้ยินว่าต้องเตรียมใจเลยเป็นลมไป
“อุ๊บ”ผมรู้สึกอยากอาเจียนทันทีกระเพาะมันบีบตัวปั้นป่วนไปหมด
“เฮ้ เรย์ใจเย็นๆหน่อยนายหน้าซีดหมดแล้วดื่มน้ำก่อนเถอะ”เขาหยิบขวดน้ำจากมือผมไปเปิดฝาขวดแล้วยื่นให้ผม
ผมคว้ามันมาดื่มรวดเร็วจนหมดขวด
“เอ่อ เธอคือ...”
ผมเงยหน้ามองตนที่ส่งเสียงทักเป็นคูสามีภรรยาวัยทำงานตามปกติแต่เขาเป็นใครกันนะผมไม่เคยรู้จักเขาเลย
“พ่อแม่ของฮารุนะ”ยูคิหันมาบอกผม
ผมยืนขึ้นโค้งทำการสวัสดีเขา
“ผมมานาเสะ เรย์ ที่อาศัยอยู่กับเขาครับ”
“อ่าจ๊ะชั้นรู้จากฮารุจังแล้วว่าเขาเช่าห้องในคอนโดของเธออยู่”
“ขอโทษนะที่วันนี้ต้องให้เธอมาลำบากเรื่องลูกชายชั้นเดี๋ยวจากนี้พวกเราจะคอยดูอาการเขาเอง เธอไปพักผ่อนเถอะ”
“ไม่ครับผมก็จะอยู่”
“ไม่ว่ายังไงด้วยเหตุผลอะไรก็จะอยู่ครับ”ผมยืนยันหนักแน่น
“เข้าใจแล้ว”พวกเขายอมรับอย่างง่ายดาย
เวลาผ่านไปแล้ว1ชั่วโมงหลังผมตื่นยูคิบอกผมว่าผมหมดสติไปร่วม30นาทีได้การผ่าตัดของฮารุยังไม่เสร็จเลย
แม่ของฮารุมานั่งข้างผมพ่อของเขามานั่งที่ด้านข้างผมอีกด้าน
“พวกเธอคบกันอยู่เหรอ”พ่อของเขาถามอย่างตรงไปตรงมาจนผมลังเลที่จะตอบ
“ครับ...”ผมได้แต่บอกไปตรง
“งั้นเหรอ”เขาไม่มีท่าทีต่อว่าอะไรเลย
“ดีจังเลยนะ”แม่ของฮารุพูดอย่างนั้นแล้วพ่อของเขาก็พูดต่อ
“ชั้นรู้อยู่แล้วละว่าเจ้านั่นไม่มีทางคบผู้หญิงนะนายไม่ต้องกังวลหรอกนะมานาเสะคุง”
“เจ้านั้นคงจะกลัวที่จะคบกับผู้หญิงละนะตั้งแต่วันนั้น”
“วันนั้น...?”
“วันที่แม่ของเค้าทิ้งเค้าไปโดยไม่บอกนะ”
“เอะ แต่”
“ชั้นเป็นภรรยาใหม่ของเขานะกับฉารุจังไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดหรอก”
“ตอนชั้นมาใหม่ๆเค้าตอนนั้นเอาแต่หลบอยู่ใต้โต๊ะในห้องพอชั้นเข้าใกล้ก็จะกรีดร้องทันทีเลย”
“สักครึ่งปีเห็นจะได้เขาถึงค่อยกล้าเข้าใกล้ผู้หญิงนะแต่ชั้นคิดว่าเขาคงไม่กล้าคบผู้หญิงหรอก”
“เจ้านั้นนะทำดีกับคนอื่นตลอดใช่มั้ยละ เพราะ เจ้านั้นไม่อยากถูกทอดทิ้งไงละ”
“แต่เขาไว้ใจเธอนะมานาเสะจัง”
“เขาไว้ใจเธอเขาถึงได้คบกับเธอเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งหมดหวังสิเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่”
“...”
“ครับ”ผมตอบได้แค่นั้นผม ไม่เคยรู้อะไรเลย ไม่เคยรู้อดีตหรือเรื่องของฮารุเลยสักนิดเดียว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา การผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลงคุณหมอเดินมาหาพ่อแม่ของฮารุ
“ขอเชิญมาพูดคุยกันสักเล็กน้อยนะครับ”
“...”ผมทำได้แต่นั่งรอตรงนี้สินะ แต่
“เธอก็มาด้วยสิพ่อของฮารุพูดเช่นนั้น
ผมรีบลุกขึ้นเดินตามไปทันทีเราเดินเข้าไปในห้องของผู้ป่วยสักพักร่างของฮารุก็มาถึงที่หัวและแขนของเขามีผ้าพันแผลพันอยู่
“เขาพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”
คำพูดนั้นทำให้ผมดีใจมากผมหันไปยิ้มกับยูคิ
“แต่”
คำพูดต่อจากนั้นผมไม่อยากรับฟังเท่าไหร่มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
“เขาอาจไม่ได้สติขึ้นมาอีกเลยนะครับ”
คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกหน้ามืดอีกครั้งผมเซไปด้านหลังยูคิมารับตัวผมไว้
“เรย์เป็นอะไรหรือเปล่า”
“มานาเสะจัง”
“มานาเสะ”ทุกคนเข้ามาหาผมเพื่อดูอาการ
“ไม่เป็นไรครับหน้ามืดนิดหน่อยเอง”
“ครับ ถ้าจะให้รออย่างนี้ค่าห้องกับค่าอุปกรณ์ต่างๆคงจะหนักหนาพอสมควรแถมยังต้องมีคนมาคอยดูแลอีก”
“งั้นเหรอคะ”แม่ของฮารุทำสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรครับเรื่องค่าห้องค่าอุปกรณ์ผมจ่ายให้เอง”
“!!!”
“ส่วนเรื่องดูแลผมจะมาดูตอนเรียนเสร็จเองครับ”
“แต่มานาเสะจังเรื่องเงินนะเธอ”
“ไม่ต้องห่วงครับหมอนี่ยังเหลือเงินที่ได้มาเกินหลักล้านอยู่แล้วถ้าฉุกเฉินผมจะช่วยเองครับ”ยูคิพูด
“เธอคือ???”
“มินาคามิ ยูคิครับเพื่อนของเรย์กับฮารุ”
“เข้าใจแล้วเรื่องค่าจิปาถะอื่นๆเราจะช่วยเท่าที่ทำได้นะ”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากวันนั้น
พอเลิกเรียนเสร็จผมก็มาหาเค้าเหมือนทุกทีที่ห้องสีขาวที่มีดอกไม้ตั้งอยู่ผมมาที่นี่ทุกวันจนถึงช่วงหมดเวลาเยี่ยมนั่งข้างๆเค้าพูดเรื่องต่างๆคอยจับมือเขาอย่างนี้เสมอได้แต่ภาวนาให้เขาลืมตาขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับผมอีกครั้ง
Chapter 10 End (ตอนหน้าจบแล้วน้า(มั้ง))
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ