Chocolate & Despair
เขียนโดย [NNS]
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เวลา 19.30 น.
แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 17.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) Last light
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ5 เดือนมาแล้วตั้งแต่วันนั้นผมจบชั้นมัธยมปลายตอนนี้กำลังเรียนมหาวิทยาลัยด้านวรรณกรรมที่มหาลัย เซนชู สาเหตุที่เลือกมหาลัยนี้คงแค่เพราะมันอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล นากาเระ ที่ฮารุอยู่
“นี่ๆมานาเสะคุงนัดบอดวันนี้ไปไม่ได้จริงๆเหรอ”
“ขอโทษนะ คงไม่ได้หรอกชั้นต้องไปโรงพยาบาลอีก”
“เสียดายจัง มีผู้หญิงโรงเรียนอื่นบอกว่าอยากเจอมานาเสะคุงตั้งเยอะ”
“ขอโทษจริงๆ ชั้นนะ มีคนที่รักอยู่แล้ว”
“งะ งั้นเหรอ”
“ขอตัวก่อนนะ”
“จะ จ๊ะ”
ผมเดินไปตามทางมีคนยืนโบกมือเรียกผมอยู่
“ปฏิเสธอีกแล้วเหรอ”
“นายก็รู้นี่”
“หมอนั้นไม่ได้สติมา5เดือนแล้วนะ”
“แต่ยังมีหวังอยู่นี่”
“เฮ้อ นายนี่น้า ว่าแต่ถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไร”เราสองคนเดินออกมาจากอาคารเรียนสายลมเย็นๆพัดผ่านมา
“ทำไมนายใส่ผ้าพันคอตลอดละหน้าร้อนก็ใส่นะ”
“นี่นะเหรอ”ผมใช้มือจับผ้าพันคอสีแดงที่อยู่บนคอ
“ช่นายไม่ได้ซื้อเองใช่ไหมละ”แน่นอนยูคิรู้ดีอยู่แล้วเพราะเวลาผมซื้อเสื้อผ้าจะซื้อแค่สีดำไม่ก้น้ำเงินเท่านั้น
“ฮารุให้มานะ ตอนเข้าย้ายมาอยู่บอกว่าให้ในฐานะที่คบกัน”
“เหรอนั้นแสดงให้เห็นว่านายไม่อยากลืมเขาสินะ”
“อืม...คงจะอย่างนั้น”
“เฮ้ ยูคิ”มีผู้ชายที่ผมไม่รู้จักกำลังเรียกยูคิอยู่ดูแล้วน่าจะมหาลัยปีสามได้แล้ว
“คะ คุณซากะ”ผมเห็นยูคิผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวหน้าเขาแดงนิดหน่อย
“ใครเหรอยูคิ”
“คะคุณ ยานากิ ซากากิ นะอยู่อีกมหาลัยหนึ่งนะ”
“แฟนนายเหรอ”
“ทะ ทำ ทำไมถึงรู้ละ”
“ก็นายกระอักกระอ่วนขนาดนั้นนี่นา”
“อะ เอ๋ ปะ เปล่านี่”
“นายไปเถอะชั้นไปโรงพยาบาลคนเดียวได้”
“อะ อืม งั้นไปก่อนนะ”
“เจอกันพรุ่งนี้”ยูคิโบกมือแล้ววิ่งไปหาคุณยานากิทันที
ผมเดินเลี้ยวซ้ายไปตรงทางผ่านจะมีร้านขายดอกไม้อยู่ผมมักจะแวะซื้อไปเปลี่ยนให้เขาเสมอซื้อแอปเปิลเขาไปสักสามสี่ลูกผมขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น5ตรงไปที่ห้องที่หน้าห้องเขียนว่า นานาชิมะ ฮารุ ผมเปิดเข้าไปห้องสีขาวที่ได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างดีที่ข้างเตียงมีโต๊ะอยู่บนโต๊ะจะมีจานแอปเปิลที่ปอกแล้วกับแจกันดอกไม้อยู่ผมจะคอยเปลี่ยนดอกไม้ปอกแอปเปิลวางไว้ทุกวันเผื่อเขาตื่นขึ้นทาแล้วรู้สึกหิวข้างใต้แจกันดอกไม้มีโน๊ตอยู่ใบหนึ่งที่ผมเขียนไว้
ถ้าตื่นแล้วรีบติดต่อมานะชั้นจะมาหา มินาเสะ เรย์
ผมเปิดผ้าม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาวางของไว้บนเก้าอี้เปลี่ยนน้ำในแจกันเอาดอกไม้ชุดใหม่เปลี่ยนแทนที่ของเก่าที่ยังดูสดอยู่เพราะผมเอามาเปลี่ยนทุกวันปอกแอปเปิลใส่จานวางไว้เสร็จแล้วก็นั่งลงข้างๆเตียงเขาใช้มือของข้างประกบมือของเขาไว้แล้วเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟังเหมือนทุกที
“ไงฮารุ5เดือนแล้วนะ”
“ขอโทษทีนะช่วงนี้ชั้นมาอยู่กับนายได้ไม่นานพอดีงานที่มหาลัยค่อนข้างยุ่งนะ”
“จริงสิยูคิเองก็มีแฟนแล้วนะแถมเป็นรุ่นพี่ต่างมหาลัยอีกตกใจหมดเลยละ”
“หมอนั้นเองดูมีความสุขดีจังเลยนะ”พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาของผมก็เริ่มเอ่อล้นออกมา
“นายต้องเป็นห่วงไม่ว่าจะนานแค่ไหนชั้นจะรอ”
“ชั้นจะรอนายเสมอไว้ว่าจะนานแค่ไหน”
“เพราะฉะนั้นนายพักผ่อนให้เต็มที่เลยนะ”
“พอนายตื่นขึ้นมาชั้นจะพานายไปที่ต่างๆให้สนุกจนนายลืมทุกอย่างเลยละ”
“เพราะงั้นนายไม่ต้องกังวลอะไรนะ”
เพียงไม่นานในความรู้สึกผมท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
“ขอโทษนะชั้นต้องไปแล้ว”
ผมทำแบบนี้ทุกวันๆมาตั้งแต่ฮารุไม่ได้สติแล้ว
“เรย์คุง วันนี้ก็มาเหรอ”
“ครับ คุณชิโนนะ”ชิโนนะ มายะ นางพยาบาลที่รับผิดชอบฮารุอยู่เธอเจอกับผมทุกครั้งตอนผมกลับช่วงหมดเวลาเยี่ยมไข้แล้ว
“ฮารุคุง หวังว่าจะฟื้นเร็วๆนี้นะนี่ก็ตั้ง5เดือนแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ให้เขาได้พักบ้างก็ดี ยังไงพอเขาตื่นคงโวยวายอยากทำนู้นทำนี่แหละครับ”
“จ๊ะ”คุณชิโนนะใช้ผ้าเช็ดที่ตาของผม
ทำให้ผมรู้สึกตัวว่าร้องไห้อีกแล้ว
“ขะ ขอโทษครับผมเอาอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรจ๊ะชั้นเข้าใจ”
“ครับงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”ผมเดินออกจากโรงพยาบาลกลับไปที่บ้านสิ่งเหล่านี้เหมือนกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้วทุกอย่างนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆกระทั่ง
7 วันหลังจากนั้นมีเมล์จากคุณชิโนนะส่งมาให้ผมที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาลัยพอผมอ่านข้อความนั้นแล้วผมก็รีบวิ่งทันทีไม่สนใจอาจารย์ที่ตะโกนหรือเสียงของยูคิที่เรียกผมอีกแล้วผมรับวิ่งไปที่โรงพยาบาลนากาเระทันทีผมไม่สนแม้แต่การเสียเวลาใช้ลิฟต์ผมรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเหมือนกับวันที่รู้ข่าวฮารุประสบอุบัติเหตุ
ผมใช้เวลาประมาณ5นาทีมาถึงชั้น5ผมวิ่งตามทางที่คุ้นเคยไปที่ห้องๆนั้นห้องที่ฮารุอยู่ผมรีบเปิดประตูอย่างรวดเร็วสิ่งที่ผมเห็นคือ
“รอยยิ้มที่สดใสเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นกลางทุ่งน้ำแข็งขั้วโลกน้ำตาของผมไหลนองทันทีผมรีบกระดดไปที่ดวงอาทิตย์ดวงนั้นทันที
“ฮารุ ฮารุ ฮารุ”ฮารุเขาฟื้นแล้วนั้นคือข้อความที่คุณชิโนนะส่งมาให้ผม
“อ้าวๆเรย์คุงฮารุคึงยังไม่หายดีเลยกระโดเข้าไปแบบนั้นมันไม่ดีนะจ๊ะ”
“ฮึก ขะ ขอโทษครับ”ผมกล่าวคำขอโทษพร้อมน้ำตาแห่งความยินดีที่ไหลนองเต็มใบหน้าของผม
“เชิญกันตามสะดวกนะจ๊ะอีกสักพักคุณหมอจะมาตรวจอีกรอบระหว่างนั้นก็คุยกันตามสบายนะ”
““ครับ””ผมกับฮารุพูดพร้อมกัน
“เอ้าๆพ่อหนุ่มน้อยไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งนานขี้แยซะแล้วนะเนี่ย”ผมผละออกจากฮารุโดยที่น้ำตายังไหลอยู่
“ก็ ก้ เพราะใครละเจ้าบ้านึกจะหลับก็หลับตั้งนานอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาเจ้าบ้า”
“เรย์”ฮารุดึงผมเข้ามากอดทันที
“ขอโทษนะชั้นทำให้เป้นห่วงสินะ”
“ว่าแต่เรย์ผมนายยาวขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”
“ชั้นไม่ได้ตัดนะ”ผมหยุดร้องไห้แล้วนั่งคุยกับเขาอยู่ข้างเตียง
“นายใส่ผ้าพันคอที่ชั้นให้ด้วยนะ”
“นะ นี่นะ คะ แค่ แค่”
“แค่อะไรเหรอ”
“แค่อะไรไม่ต้องสนใจหรอก”ผมหันหน้าหลบสายตาเขา
“เรย์”เขาดึงผมเข้าไปริมฝีปากของเราสองคนประกบกันริมฝีปากของเขายังนุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนเดิม
“ชั้นอยากรู้นะ”ใบหน้าของผมร้อนผ่าวผมหลบสายตาเขาแล้วพูดออกไป
“แค่อยากให้นายอยู่ใกล้ๆแค่นั้นเอง”
“เรย์เขากอดผมไว้ด้วยแรงที่เขาในตอนนี้มี
“เอ้า จ้า จ้า ฮารุคุงแรงดีจังนะเดี๋ยวเราต้องไปตรวจกันแล้วนะ”
“ครับ”ฮารุหันไปหาคุณชิโนนะ
“ชั้นรออยู่นี่นะ”ผมจับมือฮารุแล้วบอกเขา
“ขอโทษนะทั้งๆที่นายรอชั้นตลอดแต่ได้คุยนิดเดียวเอง”
“เดี๋ยวนายก็กลับมาแล้วนี่ไม่เป็นไรหรอก”
ผมนั่งหยิบงานที่อาจารย์สั่งมาทำผมนั่งทำได้สัก30นาทีประตูห้องก็เปิดคุณชิโนนะกลับมาพร้อมคุณหมอแล้วก็เรย์
“อาการดูคร่าวๆแล้วไม่มีปัญหาอะไรแต่ต้องอยู่โรงพยาบาลดูอาการสักระยะแล้วก็ต้องทำกายภาพบำบัดด้วยนะ
“ครับ”ฮารุหันไปตอบแบบง่ายๆ
“ผลตรวจแบบละเอียดจะมาในสองสามวันตอนนี้พวกเธอสองคนคุยกันตามสบายเลยนะชั้นกับคุณหมอขอตัวก่อนนะ”
“ครับขอบพระคุณมากครับ”ผมยืนขึ้นแล้วโค้งให้คุณหมอกับคุณชิโนนะ
“ชั้นได้ยินแล้วนะเรย์นายมาหาชั้นทุกวันตั้งแต่ชั้นหมดสติเลยเหรอ”
“ก็ ก็ ช่วยไท่ได้นี่นายหมดสติอยู่ไม่มีคนดูแลไม่ได้หรอก”
“ว่าไปเรย์นายทำอะไรอยู่เหรอ”
“อะ นี่นะงานที่มหาลัยนะ”
“เหนายเข้ามหาลัยแล้วสินะชั้นเองพอหายดีคงต้องไปสอบเทียบชั้นเข้าบ้างแล้วสิ”
“ถึงตอนนั้นชั้นจะช่วยติวให้นะ”
เราสองคนคุยกันไปเรื่อยๆเหมือนจะชดเชยเวลา5เดือนที่เขาหลับอยู่ผมเล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟังทั้งเรื่องตอนนี้เรื่องที่ผมเล่าให้เขาฟังตอนหมดสติเรื่องที่ยูคิย้ายมาเมื่อสามเดือนก่อนจนเวลาล่วงเลยจนจวนถึงหมดเวลาเยี่ยมไข้แล้ว”
“สงสัยชั้นต้องกลับแล้วละนะ”
“อืม ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้”
“วันนี้ก้ได้จ๊ะ”
“คะ คุณชิโนนะ”
“จ้า ชั้นเอาฟูกมาหนะคืนนี้เรย์คุงค้างที่นี่ก็ได้นะ”
“จะ จริงเหรอครับ”
“จ้าชั้นขอคุณหมอให้แล้วละ”
“ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป้นไรหรอกเทียบกับที่เรย์คุงมานั่งจับมือฮารุคุงแล้วร้องไห้ทุกวันแค่นี้คงไม่พอหรอกมั้ง”
“คะ คุณ ชินาโนะ”ผมเขินจนหน้าแดงทันทีที่โดนแฉเรื่องตัวเอง
“ขี้แยจังน้า”
“นายเงียบไปเลย”ผมจัดการปูฟูกให้เรียบร้อยแล้วนั่งทำงานไปคุยกับฮารุไป
“3ทุ่มแล้วเข้านอนได้แล้ว”
“เอ๋แต่ชั้นยัง”
“ไม่ต้องอ้อนนายเพิ่งฟื้นต้องพักผ่อนให้มากๆ”
“แต่ชั้นนอนมา5เดือนแล้วนะ”
“ตอนนี้กับตอนนั้นมันต่างกันเอ้านอน”ผมปิดไฟทันที
“เรย์นี่เข้มงวดจังน้า”
“ถ้านายยอมนอนดีๆอีกสักสองวันชั้นจะขอคุณชิโนนะพานายนั่งรถเข็นไปดูทะเลหลังโรงพยาบาลให้”
“จริงเหรอสัญญานะ”
“อืม”ผมยิ้มให้เขาท่าทางเขาดูดีใจมากๆเลย
“...”
“....”
ตอนนี้เวลาเกือบ4ทุ่มแล้ว
“ฮารุ”
“...”ไม่มีเสียงตอบกลับเขาคงหลับไปแล้ว
ผมลุกขึ้นมองขึ้นไปบนเตียงของเขาเขากำลังนอนหลับอยู่ตอนนี้เขาไม่มีสายน้ำเหลือหรืออะไรอยู่เลยผมเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ของเขาแต่
มือของผมโดนจับผมดดนดึงขึ้นไปบนเตียงทันที
“ฮะ ฮารุ ทำอะไรนะ”
“ชั้นกลัวนี่”
“กลัว???”เขาดึงผมมากอดบนเตียง
“กลัวตื่นขึ้นมาจะไม่เจอนายนะสิ”
“บะ บ้าหรือไงนายนะ”
“นิดหน่อยนะ”
“ชั้นสิกลัวกว่านายอีก”เสียงของผมเบาลงเรื่อยๆ
“เอ๋”
“ชั้นกลัว พรุ่งนี้พอชั้นตื่นขึ้นมาแล้วนายจะไม่ยอมตื่นอีก”
“เรย์”เขากอดผมแน่นขึ้น
“คืนนี้นอนด้วยกันนะ”
“อืม”ผมตอบกลับปแล้วกอดเขาไว้
รุ่งเช้า
“อ้าวๆตายจริง”นางพยาบาลผู้มาดูกำลังเห็นภาพเด็กหนุ่มสองคนกำลังนอนกอดกันหลับสนิทบนเตียงเล็กๆทำให้เธอรู้ทันทีว่าสองคนนี้รักกันมากแค่ไหน
สองวันแล้วหลังจาที่ฮารุฟื้นวันนี้ก็เป็นวันที่ผมสัญญากับเขาว่าจะพาไปดูทะเลแถมคุฯชินาโนะก็อณุญาติแล้วด้วยผมรีบไปหาฮารุทันทีตอนที่ผมจะเปิดประตูนั้นประตูก็เปิดพอดีผมเจอกับนางพยาบาลชินาโนะที่คอยช่วยเหลือมาตลอด
“สวัสดีครับคุณชินาโนะ”
“จะ จ๊ะ สวัสดีจะพาฮารุคุงไปทะเลสินะชั้นเตรียมรถเข็นไว้ในห้องแล้วเชิญตามสบายเลยจ๊ะ”คุณชิโนนะพุดโดยไม่สบตาผมแล้วเดินออกไปทันที
มีอะไรกันนะ ผมเดินเข้าไปในห้องทันที
“ไงเรย์”ฮารุยิ้มทักทายผมตามปกติ
“จะไปทะเลกันหรือยัง”
“อืม เร็วๆสิชั้นอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง”
“ครับๆ”ผมดึงรถเข็นออกมาแล้วประคองฮารุนั่งลงไปเอาเสื้อคลุมคลุมเขาตอนนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวอากาศจึงเย็นพอสมควร
ผมพาเขามาที่ทะเลเรายืนกันอยู่ตรงนั้นโดยที่ฮารุไม่ยอมพูดอะไรในตอนนั้นเอง
หิมะก็เริ่มตกลงมาพอดี
“ทะเลตอนที่หิมะตกเนี่ยสวยจังนะ”
“นั้นสินะ”ผมถอนผ้าพันคอออกแล้วพันมันไว้รอบคอฮารุ
“เรย์”
“เดี่ยวนายจะหนาวนะ”
“หึ นายนี่นะ”
“เรย์ ช่วยหลับตาแล้วก้มลงมาหน่อยสิ
ผมยอมทำตามอย่างง่ายดายในตอนนั้นก็มีอะไรมาพันที่คอของผม
“มันยาวนะแบ่งกันคนละข้างนะ”
ผ้าพันคอด้านหนึ่งอยู่ที่ผมอีกด้านอยู่ที่ฮารุผ้าพันคอสีแดงที่ช่วยเชื่อมเราสองคนเป็นหนึ่งตาสีแดงและตาสีแซฟไฟร์ประสานกันเราสองคนจูบกันเบาก่อนที่ผมจะยืดตัวยืนตามปกตจับที่ไหล่ของเขามือของฮารุจับที่มือของผมอย่างอ่อนโยน
“เรย์”
“มีอะไร”
“ขอบคุณนะที่มอบความรักให้ชั้น”
“ชั้นควรเป้นคนพูดคำนั้นมากกว่าถ้าเป็นชั้นเมื่อก่อนที่ไม่ได้เจอนายคงเป็นแบบตอนนี้ไม่ได้หรอก”
“เรย์ ชั้น ชั้น”
“ฮารุ”
“ชั้นมีเรื่องขอร้อง”
“อะไรเหรอ”
“ช่วยลืมชั้นไปได้มั้ย”
“หา!!!”
“นะ นายพูด อะไรของนายนะฮารุ”
“ชั้นนะนะ”
“อะไรละบอกชั้นมาสิไม่งั้นชั้นไม่ยอมรับหรอก”ผมเดินไปด้านหน้าของฮารุสบตากับเขาตรงๆ
“ถ้านายฟังแล้วจะยอมรับสินะ”
“...”ผมตอบไม่ได้ได้แค่ยืนกัดฟันทนอยู่ตรงนั้น
“ผลการตรวจโดยละเอียดออกมาแล้ว”
“ผลคือชั้นนะมีอาการก้อนเลือดแข็งตัวในสมองขนาดใหญ่ด้วยถ้าไม่ผ่าตัดออกอีกสองปีจะตายอยู่ดี”
“งั้นนายก็ผ่าสิ”
“โอกาสผ่าสำเร็จต่ำมากถ้าหากสำเร็จก็มีโอกาสสูงมากที่ชั้นจะขยับร่างกายไม่ได้อีกเลย”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”
“ชั้นไม่อยากเป็นภาระของนายอีกแล้ว”
“นายพูดบ้าอะไรของนายสำหรับชั้นแล้วนายไม่เคยเป็นภาระสักหน่อย”
“ถึงนายจะคิดแบบนั้นแต่ชั้นไม่ได้คิดนะ”
“ฮารุ”
“ก็ได้ นายอยากจะทำอะไรก็ตามใจนายเลย”ผมถอดผ้าพันคอออกปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
“แต่ชั้นจะไม่ลืมนายเด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ไม่ลืม”ผมวิ่งออกไปทันทีวิ่งไปโดยไม่หันกลับมาอีกเลย
“จะดีเหรอฮารุคุง”
“ครับคุณชิโนนะ”
“เวลาของเขาเหลือมากกว่าผมมากจะให้เขาจมปลักกับผมได้ยังไงละครับ”ฮารุเงยหน้าขึ้นมายิ้มโดยที่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
ทำไมละ ฮารุ ทำไม ทำไม ยังไงชั้นก็ลืมนายไม่ได้หรอกแต่ทำไมทำไมมม
หลังจากวันนั้นก็สองเดือนแล้วผมไม่ไปหาเขาอีกเลยไม่ได้ติดต่อไปด้วยแต่บางครั้งผมก็เดินไปทางดรงพยาบาลมองไปที่หน้าต่างห้องเขาแต่ผ้าม่านห้องเขาก็ปิดไว้ตลอดวันนี้มหาลัยหยุดเรียนผมจึงกำลังทำความสะอาดบ้านที่ห้องชั้นสองห้องข้างๆห้องผมห้องของฮารุผมเข้ามาทำความสะอาดและจัดการข้าวของไว้เหมือนเดิมตลอดแม้จะไม่ได้ใช้มาเกินครึ่งปีแล้วกลิ่นอายของเขาก็ยังคงอยู่เมื่อก่อนผมก้ทำความสะอาดได้เฉยๆแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วน้ำตาของผมเอ่ล้นออกมาอีกครั้ง
ผมอยากเจอเขา อีกครั้ง อยากได้ยินเสียงอยากสัมผัสเขา อยากอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นผมรีบเช็ดน้ำแล้วเดินลงมาข้างล่างเพื่อรับสาย
เวลาแบบนี้ใครโทรมากันนะ
“ครับ มานาเสะ เรย์ครับ”
“เรย์คุงแย่แล้วละฮารุคุงเค้า”
ในตอนนั้นในหัวของผมว่างเปล่าไปหมดต้องรีบไปผมหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่แล้ววิ่งออกไปทันทีโทรศัพท์ที่หลุดมือผมปล่อยมันวางไว้ที่พื้อนผมใช้เวลาร่วม20นาทีกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของฮารุทันทีแต่เมื่อผมมาถึง
เย็นบรรยากาศในห้องช่างเย็นยะเยือกความอบอุ่นในห้องนี้ไม่เหลืออีกแล้วร่างของฮารุนอนนิ่งไม่ยอมขยับร่างกายของผมเหมือนไม่มีแรงแต่ขาของผมกลับเดินต่อไปเข้าไปใกล้เพื่อมองเขามือของผมยื่นออกไปจับที่มือของเขา
เย้น มือที่เคยอบอุ่นตอนนี้กลับเย็นยะเยือกน้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มของผมแล้วทุกอย่างก้มือดลงเมื่อผมลืมตาขึ้นผมหวังแค่ว่าให้นี่กลายเป้นฝันร้ายอันหนึ่งเท่านั้น
ผมลืมตาขึ้นเพดานสีขาว
“ตื่นแล้วเหรอมานาเสะคุง”
“คุณชินาโนะ”
“เธอเป็นลมไปนะ”
“ครับ”
ไม่ใช่ฝัน...สินะ
“ฮารุคุงเค้าลื่นลมแล้วหัวกระแทกพื้นเมื่อเช้าทำให้อารกของเค้าเข้าขั้นวิกฤษทันทีเลยชั้นรีบติดต่อเธอไปแต่มันช้าเปินไป”
ผมทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่นั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆผมมันบ้าเองทั้งที่อยากเจอเขาแต่ก็ยึดแต่ความหยิ่งยโสของตัวเองไม่มาหาเขาสุดท้ายสุดท้าก้ทำไม่ได้แม้แต่สัมผัสเขาหรืออยู่เคียงข้างเขาในวาระสุดท้ายด้วยซ้ำผมมันแย่ที่สุด
“เรย์จัง”พ่อกับแม่ของฮารุเดินตรงมาที่ผมใบหน้าของพวกเขามีหยดน้ำตาไหลอยู่
“ของพวกนี้ฮารุเขาฝากมาให้เธอ”
มีของอยู่สองชิ้นคือจดหมายและผ้าพันคอสีแดงที่เขาได้ให้ผมไว้ผมรับของทั้งสองอย่างมา
“ยังไงผม...ขอตัวกลับก่อนนะ...ครับ”
“ให้เราไปส่งไหม”
“ไม่เป็น....ไรครับ”ผมลุกขึ้นเดินออกจากโรงพยาบาลใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงก็มาถึงคอนโดของผม
ผมวางจดหมายและผ้าพันคอไว้บนโต๊ะ ผมต้องอ่านมัน
ไม่ว่าจะเป็นคำสาปแช่งอวยภรหรือข้อความอะไรผมก็ต้องอ่านผมนำผ้าพันคอมาพันไว้ที่คอของผมแกะซองจดหมายออกที่ร่วงออกมาจากซองจดหมายคือแหวนสองวงมันเป็นแหวนเงินที่สลักเป็นรูปกามเทพสองคนหันหน้าเข้าหากันที่ตรงกลางเป็นอัญมณีสีฟ้าหนึ่งวงอีกวงเป้นสีแดง
ทับทิม กับแซฟไฟร์
ผมกุมแหวนสองวงไว้ในมือแล้วเริ่มอ่านจดหมาย
ถึงเรย์
ขอโทษนะที่ชั้นพูดไปแบบนั้นแต่ชั้นต้องทำจริงๆชั้นเหลือเวลาไม่มากไม่เหมือนกับนายชั้นดีใจนะที่นายมาคอยดูแลชั้นแต่ว่าขอร้องละแม้นายจะไม่ลืมชั้นแต่อย่างน้อยนายก็ปล่อยชั้นเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้วเถอะนะนายต้องรับคนอื่นเข้ามาในชีวิตนายอีกแหวนสองวงนี้ชั้นทำไว้ให้นายนายคงเข้าใจความหมายของแต่ละวงสินะช่วยเก็บมันไว้ด้วยนะแต่นายอย่ายึดติดกับชั้นเลยปล่อยให้มันเป็นอดีตที่ผ่านไปเถอะนะ
ฮารุ
ขอโทษ ขอโทษนะฮารุชั้นคงทำไม่ได้หรอกชั้นปล่อยนายไม่ได้หรอกไม่มีทางผมกอดแหวนกับจดหมายแล้วนอนลงไปไม่นานสติผมก้จมลงสู่ความมืด
“...ราจารย์”
“ศาสตราจารย์ มินาเสะ”มีของบางอย่างตีที่หัวไม่ใช้แฟ้มเอกสารแบบในหนังการ์ตูนมันเป็นหนังสือวรรณกรรมเล่มหนาเลยทีเดียว
“ทำอะไรของนายนะ ยูคิ”
“นายนั้นแหละเรย์เป็นถึงศาสตราจารย์แต่มาหลับที่มหาลัยแบบนี้คนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไงหา”
“หนวกหูน่า นายเป้นรองศาสตราจารย์แต่มาตีหัวศาสตราจารย์แบบนี้ได้ที่ไหนละ”
“เฮ้อ นายทำงานที่นี่ทั้งคืนเลยเหรอ”
“อืม”
“ปีนี้ก็จะไปสินะ”
“อืม”
“การที่นายยังสวมผ้าพันคอผืนนั้นแสดงว่านายยังลืมเขาไม่ได้สินะ”
“อืม ไม่คิดจะลืมด้วย”
“เฮ้อรีบไปรีบมาละกัน”ยูคิพูดแล้วเดินออกไป
ผมหยิบบางสิ่งในเสื้อของผมออกมาแหวนสองวง ทับทิม และ แซฟไฟร์ ผมและฮารุ หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านไป5ปีแล้วผมในตอนนี้เป็นศาสตราจารย์มนมหาลัยและวันนี้จะเดินทางไปที่นั้น
ผมเดินขึ้นบันได้ไปพร้อมช่อดอกไม้ ที่นั้นมีหลุมศพอยู่เต็มไปหมดผมเดินออกไปด้านข้างเดินผ่านทางดินเข้าไปด้านในที่นั้นมีจุดหมายของผมอยู่ในที่สุดผมก็มาถึง
หน้าแผ่นหินที่สลักไว้ว่า [นานาชิมะ ฮารุ]ผมเป็นขอให้ทำหลุมศพเขาที่นี่ด้วยตัวเองให้หลุมศพหันหน้าออกไปทางทะเลผมวางดอกไม้แล้วนั่งข้างๆหลุมศพ
“ไงฮารุชั้นมาแล้วนะ”
“5ปีแล้วสินะตั้งแต่วันนั้น”
“ตอนนี้ชั้นได้เป็นศาสตราจารย์ในมหาลัยแล้วยูคิเองก็มาเป็นรองศาสตราจารยืช่วยชั้นอยู่หมอนั้นตอนนี้อยู่ด้วยกันกับคุณ ยานากิแล้วนะนายจำได้ใช้มัย คุณยานากิ ซากากินะตอนนี้เข้าเป็นบรรณนาธิการอยู่ละสำนักพิมพ์ชื่อดังซะด้วย”
“แล้วก็นะฮารุขอโทษจริงๆชั้นลืมนายไม่ได้หรอกแต่ไม่ต้องห่วงชั้นไม่ปล่อยให้ชีวิตตกต่ำหรอกไม่งั้นนายคงเป็นห่วงชั้นแย่เลยนะแล้วก็”ผมหยิบแหวนออกมาจากเสื้อ
“ชั้นยังเก็บไว้อยู่เลยนะ แต่ว่า”ผมดึงแหวนทัยทิมออกแล้วใส่ลงในสร้อยอีกเส้น
“อันนี้นะของนายนะ”ผมนำสร้อยไปแขวนไว้ที่หลุมศพของเขาใช้ริมฝีปากจูบแล้วลูบมันเบาๆ
“ชั้นรักนายนะฮารุ ชั้นรักนายคิดถึงนายมาตลอด ตอนนั้นชั้น ชั้น ชั้นขอโทษชั้นไม่ได้อยู่เคียงข้างนายชั้นขอโทษ”ผมปล่อยให้น้ำตาเอ่อล้นออกมา
“ชั้นต้องไปแล้วปีหน้าจะมาใหม่นะ”ผมยืนขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกไป
[เรย์]
ผมมาที่ต้นเสียงสิ่งที่ผมเห็น
ฮารุกำลังยืนอยู่ข้างหลุมศพที่นิ้วของเขาสวมแหวนทับทิมอยู่
[พยายามเข้านะ]รอยยิ้มอันอ่อนโยนเหมือนพระอาทิตย์จากนั้นลมก็พัดเข้ามาอย่างแรงผมหลับตาลงพอลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพของฮารุก็ไม่อยู่แล้ว
แต่ช่างมันสิต่อให้เป้นภาพลวงตามันก็ทำให้ผมมีความสุขมากผมจัดผ้าพันคอสีแดงแล้วเดินออกไปอีกครั้ง
Ending
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ