นางพญาไร้ใจ
7.9
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
37 ตอน
1 วิจารณ์
40.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ทดสอบและทำความรู้จัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเด็กชายจินหย่งแอบลอบมองการขวัดแขว่งดาบและการเคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าที่รวดเร็วฉับไว และกำลังนึกชื่นชมอยู่ แต่ในขณะนั้นเองร่างบางที่เขาจับตามองอยู่ก็หายไปจากสายตาอย่างกระทันหัน และแล้วร่างของเขาก็ถูกลมจากการซัดกำลังภายในมาปะทะที่ด้านหลัง เมื่อรับรู้ได้ว่าถูกลอบโจมตีเขาก็หันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายทันที และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนผู้ที่ลอบมาโจมตีเขาก็คือ องค์หญิงหลี่เหวินนั่นเอง เขาตั้งรับไปพลางถอยไปพลาง ท่ามกลางเสียงตะโกนขอร้องให้หยุดของเด็กหญิงข้ารับใช้อีกนางหนึ่ง "ว๊าย! องค์หญิงเพคะ หยุดก่อนเถอะเพคะ ได้โปรดไว้ชีวิตเขาด้วย" องค์หญิงหลี่เหวินและเด็กชายไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของเด็กหญิงข้ารับใช้เลย หัวใจของเด็กชายจินหย่งในตอนนี้กำลังเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่ด้วยความหวาดกลัวแต่เป็นความตื่นเต้นดีใจที่แม้ว่าจะถูกจู่โจมโดยองค์หญิงน้อยด้วยท่าทีที่ราวกับเป็นศัตรู แต่ดูจากสีหน้าแววตาของนางแล้วนี่ไม่ใช่การหมายจะพรากพลาญเอาชีวิตเขาอย่างแท้จริง เพราะแววตาของนางเป็นแววตาที่กำลังประเมินความสามารถและทดสอบเขาอยู่ต่างหากและที่เขาตื่นเต้นเพราะรู้สึกชื่นชมในฝีมือที่แข็งแกร่งของนาง ก่อนหน้านี้เขาได้มีโอกาสชื่นชมในสติปัญญาอันล้ำเลิศของนางมาก่อนแล้ว แต่ในครั้งนี้ยังได้พบกับความสามารถในด้านการต่อสู้อีกด้วย และที่น่าดีใจก็คือการที่นางตั้งใจทดสอบประเมินเขาอยู่นั้นก็นับเป็นโอกาสอันดีที่นางจะได้ทำความรู้จักและสนใจในตัวเขาซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาอย่างสุดหัวใจนั่นเอง
ในกระบวนท่าสุดท้ายเด็กชายถูกซัดหงายท้องลงไปนอนอยู่บนพื้น ฉับพลันนั้นร่างบางน้อยๆขององค์หญิงก็กดทับร่างของเขาและนำดาบมากดจ่อที่คอเขาด้วยแววตาข่มขวัญ และเอ่ยปากซักถามด้วยสุรเสียงราบเรียบ "เจ้าคือบุตรชายของแม่ทัพจินใช่หรือไม่ ข้าสังเกตุว่าเจ้าชอบมาลอบมองข้าอยู่บ่อยๆมีจุดประสงค์อันใดบอกมา!" เสียงเด็กน้อยที่เป็นข้ารับใช้ตะโกนอย่างตกใจและพยายามห้ามปราม "อย่าฆ่าเขาเลยนะเพคะ ได้โปรดอย่าทำร้ายเขาปล่อยเขาเถิดเพคะองค์หญิง ฮือๆ" จินหย่งไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งในเสียงที่ตะโกนห้ามปรามที่ห่วงใยในสวัสดิภาพของเขา ของข้ารับใช้ตัวน้อยเลยซ้ำยังรู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ นางจะตะโกนทำไม องค์หญิงแค่ทดสอบเขาเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือสังหารเขาจริงๆสักหน่อย น่ารำคาญยิ่งนัก ตอนนี้เขาสาบานได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกลัวที่จะต้องตายเลยแม้แต่น้อย ในหัวใจของเขากำลังมีความสุขที่กำลังจะได้พูดคุยกับองค์หญิงในดวงใจของเขา ลมหายใจที่ปะทะใกล้บริเวณใบหน้าของเขา รวมถึงความหอมกรุ่นของเครื่องหอมชั้นสูง พระพักตรที่อยู่ใกล้ทำให้ยิ่งเห็นสิริโฉมอันงดงาม และแววตาที่ทรงอำนาจข่มขวัญผู้คนที่ในตอนนี้กำลังจ้องมองเขาราวกับนางเสือที่จับเหยื่อได้และกำลังประเมินเหยื่อที่ตัวเองล่ามาได้อย่างไรอย่างนั้น หัวใจของเขากำลังเบิกบานและคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงตะโกนอันน่าหนวกหูของนางข้ารับใช้ตัวน้อยนางนั้น เขาอยากอยู่กับองค์หญิงน้อยของเขาตามลำพังมากกว่า มี่เหยียนจ้องมองแววตาของเด็กชายตัวน้อยที่ไม่มีร่องรอยของความตื่นกลัวอยู่ในแววตา ซ้ำนางยังเห็นแววตาของความยินดีที่ปรากฏอยู่ทำให้นึกชื่นชมเขาอยู่หลายส่วน นางเคยเห็นเด็กคนนี้ติดตามบิดาเข้าวังมาก่อน และเขาก็ชอบที่จะมาแอบลอบมองนางอยู่เสมอจนนางได้สืบประวัติของเขาและรับรู้ว่า เด็กคนนี้คือบุตรชายเพียงคนเดียวของตะกูลจิน ซึ่งบิดาคือแม่ทัพจินหยาง ดูจากหน่วยก้านแล้วบุคลิกงามสง่าใบหน้าฉายความเป็นเด็กหนุ่มรูปงามตั้งแต่ยังเยาว์ นางได้รับรู้มาว่าเขาเป็นเด็กที่มีความฉลาดเป็นผู้ใหญ่เกินวัย และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินอายุ และจากที่ประเมินก็เห็นว่าจริง เพราะเขาได้แต่ตั้งรับและไม่ได้ตอบโต้การจู่โจมของนางกลับ แต่ก็รับได้ทุกท่วงท่าโดยไม่พลาดพลั้งเสียที และนางก็รับรู้ดีว่าที่นางกำลังได้เปรียบเขาอยู่ในตอนนี้ก็เพราะตัวเขาเป็นฝ่ายยินยอมให้นาง
"กระหม่อมมีนามว่าจินหย่ง เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลจินอย่างที่องค์หญิงเข้าพระทัยถูกต้องแล้วพะยะค่ะ กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาร้ายเพียงแต่อยากได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดถวายความจงรักภักดีต่อองค์หญิงเท่านั้นพะยะค่ะซึ่งคงเป็นวาสนาแก่กระหม่อมยิ่ง" เด็กชายจินหย่งเอ่ยตอบด้วยความฉะฉานไร้แววตื่นกลัว น้ำเสียงสม่ำเสมอ ไม่มีความสั่นไหวท่าทีมั่นใจและทรนง ชั่วครู่ มี่เหยียนปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ และนึกชื่นชมว่าเขาสมกับเป็นบุตรชายของแม่ทัพจิน เพราะหากประเมินจากอายุเพียงเก้าปี เด็กน้อยตัวแค่นี้กลับมีความกล้าหาญ เชื่อมั่นในตัวเองและฉลาด ซึ่งเหมาะที่นางจะให้เขามาคอยเป็นแขนขาให้ในภายภาคหน้า ในขณะที่มี่เหยียนยิ้มอย่างดีใจที่กำลังจะได้บุคคลชั้นเลิศที่จะมาช่วยงานนางเพิ่มอีกคน เด็กชายจินหย่งที่ตอนนี้หัวใจถูกสะกดด้วยรอยยิ้มเพียงน้อยนิดของนางจนนิ่งงันไป เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่เสน่หาในตัวเขาและก็รู้ว่าเป็นรอยยิ้มพึงพอใจในการทดสอบเขา แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจกับรอยยิ้มนั้นอยู่ดี ใบหน้าที่มักเรียบเฉยทรงอำนาจที่เขาเห็นอยู่เป็นนิจหากแต่เพียงแค่แย้มยิ้มให้เขาเพียงน้อยนิด กลับช่างงดงามจนเขาหลงใหลและประทับใจ ดูเหมือนยิ่งได้รู้จักและได้ใกล้ชิดเขาจะยิ่งหลงเสน่ห์ของนางพญาผู้งามสง่านางนี้มากขึ้นทุกทีแล้ว
ในกระบวนท่าสุดท้ายเด็กชายถูกซัดหงายท้องลงไปนอนอยู่บนพื้น ฉับพลันนั้นร่างบางน้อยๆขององค์หญิงก็กดทับร่างของเขาและนำดาบมากดจ่อที่คอเขาด้วยแววตาข่มขวัญ และเอ่ยปากซักถามด้วยสุรเสียงราบเรียบ "เจ้าคือบุตรชายของแม่ทัพจินใช่หรือไม่ ข้าสังเกตุว่าเจ้าชอบมาลอบมองข้าอยู่บ่อยๆมีจุดประสงค์อันใดบอกมา!" เสียงเด็กน้อยที่เป็นข้ารับใช้ตะโกนอย่างตกใจและพยายามห้ามปราม "อย่าฆ่าเขาเลยนะเพคะ ได้โปรดอย่าทำร้ายเขาปล่อยเขาเถิดเพคะองค์หญิง ฮือๆ" จินหย่งไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งในเสียงที่ตะโกนห้ามปรามที่ห่วงใยในสวัสดิภาพของเขา ของข้ารับใช้ตัวน้อยเลยซ้ำยังรู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ นางจะตะโกนทำไม องค์หญิงแค่ทดสอบเขาเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือสังหารเขาจริงๆสักหน่อย น่ารำคาญยิ่งนัก ตอนนี้เขาสาบานได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกกลัวที่จะต้องตายเลยแม้แต่น้อย ในหัวใจของเขากำลังมีความสุขที่กำลังจะได้พูดคุยกับองค์หญิงในดวงใจของเขา ลมหายใจที่ปะทะใกล้บริเวณใบหน้าของเขา รวมถึงความหอมกรุ่นของเครื่องหอมชั้นสูง พระพักตรที่อยู่ใกล้ทำให้ยิ่งเห็นสิริโฉมอันงดงาม และแววตาที่ทรงอำนาจข่มขวัญผู้คนที่ในตอนนี้กำลังจ้องมองเขาราวกับนางเสือที่จับเหยื่อได้และกำลังประเมินเหยื่อที่ตัวเองล่ามาได้อย่างไรอย่างนั้น หัวใจของเขากำลังเบิกบานและคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงตะโกนอันน่าหนวกหูของนางข้ารับใช้ตัวน้อยนางนั้น เขาอยากอยู่กับองค์หญิงน้อยของเขาตามลำพังมากกว่า มี่เหยียนจ้องมองแววตาของเด็กชายตัวน้อยที่ไม่มีร่องรอยของความตื่นกลัวอยู่ในแววตา ซ้ำนางยังเห็นแววตาของความยินดีที่ปรากฏอยู่ทำให้นึกชื่นชมเขาอยู่หลายส่วน นางเคยเห็นเด็กคนนี้ติดตามบิดาเข้าวังมาก่อน และเขาก็ชอบที่จะมาแอบลอบมองนางอยู่เสมอจนนางได้สืบประวัติของเขาและรับรู้ว่า เด็กคนนี้คือบุตรชายเพียงคนเดียวของตะกูลจิน ซึ่งบิดาคือแม่ทัพจินหยาง ดูจากหน่วยก้านแล้วบุคลิกงามสง่าใบหน้าฉายความเป็นเด็กหนุ่มรูปงามตั้งแต่ยังเยาว์ นางได้รับรู้มาว่าเขาเป็นเด็กที่มีความฉลาดเป็นผู้ใหญ่เกินวัย และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินอายุ และจากที่ประเมินก็เห็นว่าจริง เพราะเขาได้แต่ตั้งรับและไม่ได้ตอบโต้การจู่โจมของนางกลับ แต่ก็รับได้ทุกท่วงท่าโดยไม่พลาดพลั้งเสียที และนางก็รับรู้ดีว่าที่นางกำลังได้เปรียบเขาอยู่ในตอนนี้ก็เพราะตัวเขาเป็นฝ่ายยินยอมให้นาง
"กระหม่อมมีนามว่าจินหย่ง เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลจินอย่างที่องค์หญิงเข้าพระทัยถูกต้องแล้วพะยะค่ะ กระหม่อมไม่ได้มีเจตนาร้ายเพียงแต่อยากได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดถวายความจงรักภักดีต่อองค์หญิงเท่านั้นพะยะค่ะซึ่งคงเป็นวาสนาแก่กระหม่อมยิ่ง" เด็กชายจินหย่งเอ่ยตอบด้วยความฉะฉานไร้แววตื่นกลัว น้ำเสียงสม่ำเสมอ ไม่มีความสั่นไหวท่าทีมั่นใจและทรนง ชั่วครู่ มี่เหยียนปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ และนึกชื่นชมว่าเขาสมกับเป็นบุตรชายของแม่ทัพจิน เพราะหากประเมินจากอายุเพียงเก้าปี เด็กน้อยตัวแค่นี้กลับมีความกล้าหาญ เชื่อมั่นในตัวเองและฉลาด ซึ่งเหมาะที่นางจะให้เขามาคอยเป็นแขนขาให้ในภายภาคหน้า ในขณะที่มี่เหยียนยิ้มอย่างดีใจที่กำลังจะได้บุคคลชั้นเลิศที่จะมาช่วยงานนางเพิ่มอีกคน เด็กชายจินหย่งที่ตอนนี้หัวใจถูกสะกดด้วยรอยยิ้มเพียงน้อยนิดของนางจนนิ่งงันไป เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่เสน่หาในตัวเขาและก็รู้ว่าเป็นรอยยิ้มพึงพอใจในการทดสอบเขา แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเบิกบานใจกับรอยยิ้มนั้นอยู่ดี ใบหน้าที่มักเรียบเฉยทรงอำนาจที่เขาเห็นอยู่เป็นนิจหากแต่เพียงแค่แย้มยิ้มให้เขาเพียงน้อยนิด กลับช่างงดงามจนเขาหลงใหลและประทับใจ ดูเหมือนยิ่งได้รู้จักและได้ใกล้ชิดเขาจะยิ่งหลงเสน่ห์ของนางพญาผู้งามสง่านางนี้มากขึ้นทุกทีแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ