นางพญาไร้ใจ
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) จินหย่ง เด็กชายที่หลงใหลเสน่ห์แห่งนาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเขามีนามว่าจินหย่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว ของตะกูลแม่ทัพที่สืบทอดกันมาหลายสมัย เขาได้รับการชื่นชมจากบิดามารดาและผู้หลักผู้ใหญ่ ว่าเป็นเด็กที่มีบุคลิกสง่างามฉลาดเฉลียวและแตกฉานในเรื่องการฝึกวรยุทธิ์และทักษะการต่อสู้รวมถึงมีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ ตัวเขาในตอนนี้มีอายุเก้าปี เขาไม่เคยหวั่นเกรงต่อสิ่งใดและเชื่อมั่นในตัวเอง เขาไม่ใช่คนที่มีคุณธรรมอะไรนัก และแม้ว่าเขาจะอยากเป็นแม่ทัพเหมือนกับบิดาของเขา แต่ความรู้สึกนึกคิดของเขากลับแตกต่างจากผู้เป็นบิดา เขาไม่ได้หลับหูหลับตาทำตามคำสั่งด้วยความจงรักภักดีอย่างโง่งม สำหรับเขาจะรับใช้ผู้ที่เห็นว่าสมควรรับใช้เท่านั้น และเขาก็จะเลือกนายที่คู่ควรกับความจงรักภักดีของเขา และเกณฑ์การตัดสินใจนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง ที่แน่ๆเขาไม่มีทางมีความจงรักภักดีให้กับฮ่องเต้หลี่จงพระองค์นี้เด็ดขาด ฮ่องเต้ไร้คุณธรรมไม่สนใจราชกิจ ลุ่มหลงสุรานารี ไมใช่นายที่เขาอยากจะรับใช้ถวายชีวิตให้ แต่แล้วเขากลับได้พบผู้ที่เขาหลงใหลและตั้งใจไว้ว่าเขาจะขอเป็นข้ารับใช้ให้แก่นางให้ได้ ซึ่งนางก็คือ องค์หญิงลำดับที่สองของราชวงศ์ องค์หญิงหลี่เหวิน
ครั้งหนึ่งเขามีโอกาสได้ตามบิดาเข้าวังเพื่อกราบทูลถวายรายงานเกี่ยวกับเรื่องการทหารในชายแดน และในครั้งนั้นทำให้เขาได้พบกับองค์หญิงพระองค์น้อยผู้มีสิริโฉมงดงาม บุคลิกงามสง่าราวนางพญา ในครานั้นในขณะที่ในท้องพระโรงกำลังหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในชายแดน ที่มีปัญหาขุนนางในที่นั้นที่ส่วนใหญ่เขารับรู้มาจากบิดาว่า ล้วนแล้วแต่เป็นขุนนางกังฉินประจบสอพลอไร้ความสามารถที่จะคิดอ่านเรื่องบ้านเมือง แน่นอนว่าไม่มีใครมีความเห็นที่ดีที่จะแก้ปัญหาเลยแม้แต่น้อย ส่วนฮ่องเต้พระองค์นั้นน่ะหรือจะทำอะไรได้ นอกจากผลักภาระให้พวกขุนนางทุ่มเถียงหารือกันเอง โดยที่พระองค์ทำสีพระพักตรเบื่อหน่าย อยากจะให้การประชุมจบเสียเต็มประดา แต่แล้วในขณะนั้นกลับมีร่างบางขององค์หญิงพระองค์น้อย ภาพของนางยังคงติดตราตรึงใจเขา นางย่างเท้าเข้ามาในท้องพระโรงด้วยบุคลิกงามสง่า สีพระพักตรและแววตาเรียบนิ่งเฉยชาประทับใจเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่สิ่งที่ทำให้เขาหลงใหลนางและสลักไว้ในใจคือ นางกลับเอ่ยปากออกความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทางการทหารในชายแดนได้อย่างฉะฉาน ด้วยสุรเสียงมั่นคง จนเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นความคิดที่มาจากเด็กหญิงชันษาเพียงหกปี จนแม้แต่เขาที่เป็นเด็กอายุเก้าปีที่ได้รับการชื่นชมว่ามีความคิดอย่างเป็นผู้ใหญ่เกินวัย ยังต้องทึ่งและนึกชื่นชมในตัวนางเลยเพราะสิ่งที่นางเอ่ยต่อหน้าพระพักตรในตอนนั้น ทำให้เหล่าขุนนางรวมถึงท่านพ่อของเขาที่เป็นแม่ทัพตกตะลึงและทึ่งกันอย่างมาก เพราะนางสามารถบอกวิธีแก้ปัญหาออกมาจนท่านพ่อของเขาถึงกับโขกศรีษะคำนับด้วยแววตาชื่นชมยกย่องในพระปรีชาขององค์หญิงพระองค์น้อย ที่เขาคิดว่าบรรดาขุนนางในท้องพระโรงและฮ่องเต้สมควรจะอับอายที่ต้องให้เด็กหญิงนางหนึ่งบอกวิธีแก้ปัญหาให้ แต่แทนที่ฮ่องเต้ผู้โง่งมพระองค์นั้นจะชื่นชมในความสามารถของนางแต่กลับ กล่าวตำหนิหาว่าสตรีไม่ควรยุ่งเรื่องราชกิจบ้านเมือง และเอ่ยปากไล่นางออกไปจากท้องพระโรงด้วยความกริ้วโกรธ แต่แม้ว่าจะถูกโกรธเคืองและถูกตำหนิโดยพระบิดา สีหน้าแววตาของนางกลับยังคงฉายแววนิ่งเฉย เยือกเย็น ไม่มีวี่แววแห่งความเสียพระทัยในแววตาของพระองค์เลยแม้แต่น้อย และตั้งแต่นั้นนางก็ได้เข้าไปประทับอยู่ในใจเขา จนเขาอยากจะทำทุกวิถีทางที่จะได้รับใช้ใกล้ชิดอยู่ข้างกายนาง เขามักจะชอบติดตามบิดาเข้าวังและแอบมาลอบมองนางอยู่เสมอ ยิ่งได้รับรู้เรื่องราวความเป็นอัจฉริยะและความคิดอ่านที่เกินวัย และเขาคิดว่านางเป็นบุคคลประเภทเดียวกันกับเขา คือไม่สนใจเรื่องของคนอื่นมากไปกว่าตนเอง และเห็นความสำคัญต่อเป้าหมายของตัวเองสำคัญกว่าสิ่งใด เย็นชาและไร้หัวใจ และเขายังรู้สึกว่าได้เห็นแววตาแห่งความเป็นนักล่าอยู่ในแววตาของนาง ที่มีรัศมีที่น่าเกรงขามออกมาจากตัวของนางเยี่ยงนางพญา ซึ่งเขาสลักนางไว้ในใจของเขาเพียงหนึ่งเดียวและคิดว่าไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้ใกล้ชิด หากว่าเขาจะมีวาสนาได้ชิมเนื้อหงส์ผู้งามสง่าสักครั้ง ให้เขาตายก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ