นางพญาไร้ใจ
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
34) จุดจบของไป๋เฟิง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจินหย่งนั่งอยู่ในห้องอยู่ในชุดนักโทษ ด้วยท่าทีนิ่งสงบและใจเย็น เขากำลังนั่งรอหญิงน่ารังเกียจที่เป็นตัวปัญหาให้เขากับองค์หญิงหลี่เหวินมาตลอดระยะเวลาสิบปี เขารู้ว่าในจิตใจ ของนางหญิงข้ารับใช้คนนั้น คงแค้นเขามาก เขาไม่สนใจและนึกกลัวเกรงกับความแค้น ที่นางมีต่อเขาเลยสักนิด เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ความคิดในสมองอันโง่งมที่คิดเพียงแต่เรื่องความรักส่วนตัวระหว่างเขากับนาง และเป็นคนเก็บอารมณ์และท่าทีของตัวเองไม่เก่งอย่างนาง ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวสำหรับเขาเลย นางคงคิดว่าการที่นางดิ้นรนจนขึ้นเป็นสนมของฮ่องเต้คว้านจื่อได้สำเร็จ จะทำให้นางอาศัยมันมาทำลายเขาและองค์หญิงได้ นางคิดว่าจะปิดฟ้าด้วยฝ่ามือได้หรืออย่างไร ประวัติความเป็นมาของนางมันสืบได้ยากนักหรือ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อน เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผู้เกี่ยวข้องและได้รับความเสียหายมากมาย ย่อมต้องมีคนรับรู้กล่าวถึงและบันทึกไว้อยู่แล้ว แล้วนางคิดว่านางมีปากทูลฮ่องเต้ได้คนเดียวหรือ เขาไม่มีปากจะทูลเรื่องราวต่อฮ่องเต้บ้างหรืออย่างไร นางในตอนนี้คงกำลังอยากจะแก้แค้นเขาเสียจนไม่ทันได้ระวังระแวงอะไรเลย เสียงพูดคุยกับทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง และเปิดประตูเข้ามา จินหย่งยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองโดยรับรู้ได้ดีว่า ใครมาเยือนเขาในยามวิกาล เบื้องหน้าปรากฏร่างบางของหญิงงามนางหนึ่ง ใบหน้าของหญิงตรงหน้า จัดว่างามสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นสนมเอก แต่จินหย่งกลับ ไม่ได้รู้สึกพิศวาสไม่แม้แต่จะรู้สึกชื่นชมในความงามนั้น สายตาว่างเปลามีเพียงความรู้สึกสมเพชชิงชังรังเกียจและรอยยิ้มหยันแต่เพียงเท่านั้น เขาเป็นผู้เอ่ยปากทักขึ้นก่อน "ไม่ทราบว่าพระสนมมีสิ่งใดให้กระหม่อมรับใช้ อย่างนั้นหรือพะยะค่ะ ถึงได้เสด็จมาในยามวิกาลเช่นนี้" ไป๋เฟิงมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาตะลึงงัน สิบปีมาแล้วที่นางไม่ได้พบเจอชายหนุ่ม ผู้ที่เป็นทั้งรักและแค้นฝังจิตฝังใจนาง ในยามนี้เขาเติบโตเป็นหนุ่มรูปงาม องอาจและมีร่างกายแข็งแกร่ง ความแค้นที่สุมใจแต่เมื่อได้พบหน้าหัวใจกับกระตุกเต้นระรัว แต่ก็ต้องข่มใจระงับความหวั่นไหวนั้นไว้และเอ่ยตอบเสียงกร้าว "หึ รู้สึกว่าท่านในตอนนี้จะไม่ได้เดือดร้อนกับสถานการณ์ของตัวเอง และคนในตระกูลของท่านเลยนะ คงไม่ต้องให้ข้าย้ำเตือนหรอกกระมังว่าชีวิตของคนในตระกูลจินและตระกูลเหอ อยู่ในกำมือของข้าแล้ว"
"เอ๋...กระหม่อมไม่ทราบความหมาย ที่พระสนมตรัสจริงๆพะยะค่ะ ผู้ที่มีคำสั่งให้จับกุมตัวกระหม่อม และคนในตระกูลจินพร้อมกับคนในตระกูลเหอคือฝ่าบาทนะพะยะค่ะ เหตุใดพระสนมจึงตรัสว่า ชีวิตของพวกกระหม่อมอยู่ในกำมือของพระสนมได้ล่ะพะยะค่ะ" "หึ! ไม่ต้องมาทำเป็นไขสือ ท่านน่ะหรือจะไม่รู้ คนที่ทูลเรื่องของพวกท่านต่อฝ่าบาทก็คือข้าเอง ฝ่าบาทกำลังโปรดปรานข้ามาก หากท่านไม่อยากจะเดือดร้อน ข้าว่าท่านควรฉลาดในการวางตัวกับข้าหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นข้าจะทูลฝ่าบาท ว่าท่านและคนในตระกูลจินตระกูลเหอคิดกบฏต่อฝ่าบาท" จินหย่งแสร้งทำเป็นตอบโต้แย้งด้วยเหตุด้วยผลด้วยน้ำเสียงเรียบ "เหตุใดพระสนมต้องทำเช่นนั้นด้วย ในเมื่อพระองค์ก็ทรงทราบว่ามันไม่เป็นความจริง เพียงแค่เรื่องของกระหม่อมเพียงคนเดียวพระสนมถึงกับดึงเอาชีวิตของคนทั้งสองตระกูลหลายชีวิตมาข้องเกี่ยวด้วย พระองค์ทรงลืมไปแล้วหรือว่าหนึ่งในตระกูลนั้นก็คือตระกูลเหอที่เคยรับพระสนมเป็นธิดาบุญธรรมนะพะยะค่ะ"
"แล้วยังไง! ตระกูลเหอที่รับข้าเป็นธิดาบุญธรรมจากความอนุเคราะห์ขององค์หญิงหลี่เหวิน องค์หญิงสูงศักดิ์ที่หน้าด้านไร้ยางอาย แย่งชายที่เป็นคู่หมายของคนอื่นมาเป็นของตัวเองน่ะหรือ" ฟังมาถึงตอนนี้จินหย่งที่ใจเย็นมาตลอดรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาจนส่งเสียงตวาด "ขอพระสนมหยุดตรัสถึงองค์หญิงหลี่เหวิน ด้วยถ้อยคำลบหลู่ดูหมิ่นเยี่ยงนั้น องค์หญิงสูงส่ง เสียสละตัวเองเพื่อราษฎรจนไม่หวั่นเกรงว่าพระองค์จะเดือดร้อนประการใด ห้าวหาญเข้มแข็งและสง่างาม พระองค์ไม่ใช่บุคคลที่พระสนมจะกล่าวล่วงเกินได้"
"ฮ่าๆๆ... ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ท่านก็ยังเอาแต่ชื่นชมยกย่ององค์หญิง ทั้งๆที่ในพระทัยขององค์หญิงมีแต่อุดมการณ์และเป้าหมายของตัวเอง หาได้มีใจรักต่อท่านไม่ คนที่มีใจรักแต่เพียงท่านคือข้าคนนี้ต่างหาก สำหรับข้าท่านสำคัญที่สุดเพื่อท่านแล้วข้ายอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ท่านเห็นใจและเหลียวแล แต่หัวใจของท่านก็ยังมีแต่เพียงองค์หญิงจนไม่สนใจข้าเลย ข้าอดทนรอที่จะมอบความเจ็บปวดและย่อยยับให้กับท่านและองค์หญิงมานานนักแล้ว ให้มันรู้ไปสิว่าข้าจะเอาชนะท่านไม่ได้ ข้าเคยมีสถานะเป็นคู่หมายพระราชทานแต่ท่านไม่ยอมรับและรังเกียจ ในวันนี้ต่อให้ท่านรังเกียจข้ามากแค่ไหน หากท่านอยากรักษาชีวิตของคนในตระกูลจินและคนในตระกูลเหอล่ะก็ วันนี้ท่านต้องครอบครองข้า ทำให้ข้ามีความสุขให้ได้! ไม่อย่างนั้นชีวิตของคนในตระกูลจินและตระกูลเหอ ก็อย่าหวังว่าจะรอดไปได้เลย!"
จินหย่งยิ้มหยันมุมปากพร้อมเอ่ยขึ้น "ทรงได้ยินคำตรัสของพระสนมไป๋เฟิง ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่พะยะค่ะฝ่าบาท" สิ้นคำของจินหย่ง เสียงของฝาผนังห้องก็เคลื่อนตัวออก ก่อนที่ไป๋เฟิงจะหันไปตามเสียงเลื่อนของผนัง และก็ต้องตกตะลึงจนช็อค ร่างกายเย็นเฉียบ เมื่อร่างที่ปรากฏให้เห็นคือ ฮ่องเต้คว้านจื่อ ที่เพ่งมองมายังนางด้วยดวงตาคลั่งแค้นเกลียดชัง ร่างบางของไป๋เฟิงทรุดลงกับพื้นด้วยหัวใจหนาวสะท้านราวกับกำลังเห็นภูติผีปีศาจ "นังหญิงแพศยา น่ารังเกียจ! ความงามภายนอกกับจิตใจอันต่ำตมของเจ้าช่างตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เจ้ากล้าหลอกใช้ข้าเป็นเครื่องมือเพื่อบังคับครอบครองชายที่ไม่สนใจเจ้า หญิงแพศยาไร้ยางอายอย่างเจ้าจะอยู่ไปเพื่ออะไรอีก"
"ทหาร! เข้ามาให้หมด! สนมเอกไป๋เฟิงพฤติกรรมน่ารังเกียจ ไร้คุณสมบัติของการเป็นสนม ให้ปลดเป็นสามัญชนนำตัวไปประหารให้สิ้น เอาศพไปแห่ประจานรอบเมือง แล้วเอาไปทิ้งหน้าผาให้หมาป่ากัดแทะ หญิงชั่วช้าสารเลวเยี่ยงนี้ไม่มีสิทธิ์ฝังศพในสุสานราชวงศ์ ลากตัวไปให้พ้นข้าเดี๋ยวนี้!"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ