นางพญาไร้ใจ
7.9
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
37 ตอน
1 วิจารณ์
40.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
27) สั่งลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบนแท่นบรรทม สองร่างของเด็กน้อยชายหญิงเกี่ยวกระหวัดกันพร้อมบทสวาทเริงรักอันแสนร้อนดังเพลิง ด่ำดิ่งสู่ตัญหาราคะพร้อมส่งเสียงครวญคราง ดังประสานกัน "อื้อ..จินหย่ง อา" "องค์หญิงกระหม่อมแทบใจจะขาดอยู่แล้วพะยะคะ ดีเหลือเกิน อื้ม..องค์หญิงของกระหม่อม" เด็กชายที่เคยถูกชักนำเข้าสู่โลกของกามารมณ์สวาทของผู้ใหญ่ บัดนี้กลายเป็นเด็กน้อยใจแตกที่ได้รับการปลูกฝังเสียจนเตลิดไปไกล และในระยะหลังเด็กน้อยผู้มีพรสวรรค์และเรียนรู้เร็วก็แทบไม่ต้องให้นำทางอีก ในอดีตชาติมี่เหยียนเคยได้รับการปลูกฝังให้ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายของตัวเองโดยไม่เกี่ยงวิธี และหลายๆครั้งก็ต้องลองเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งการเสี่ยงนั้นในบางครั้งก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้น และเรื่องของเด็กชายคนนี้ก็เช่นกันที่นางคงคิดผิด เป็นเพราะนางเห็นอีกฝ่ายเป็นเด็กอายุเก้าขวบคนหนึ่งจึงคิดที่จะล่อลวงเขาเพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ แต่มันกลับเหมือนว่านางเป็นผู้ปลุกให้ปีศาจตัวน้อยที่ร้ายกาจและมีพรสวรรค์ในเรื่องตัญหาราคะเป็นเลิศ ให้ตื่นขึ้นมา เพราะที่แล้วมา เชิงสวาทที่นางสอนให้เด็กน้อยได้รู้ ก็แค่การกอดจูบลูบคลำ และการใช้มือทำรักให้กับเขาเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้เด็กน้อยผู้นี้เหิมเกริมเสียจนฉวยโอกาสกับนางในทุกครั้งที่มีโอกาสเอื้ออำนวยให้ และตักตวงเอาตามใจชอบและที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาหลอมรวมตัวตนของเขาเข้าครอบครองนาง โดยที่นางไม่ได้สอนเพราะนางมองว่าเขายังเด็กเกินไปที่จะทำแบบนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าเด็กน้อยที่มีพรสวรรค์ในด้านนี้เป็นเลิศ กลับปล่อยให้ความต้องการทางธรรมชาติสอนเขาเอง จนทำให้สามารถตักตวงและมอบบทรักอันเร่าร้อนกับนางจนนางรู้สึกว่า ในระยะหลังมานี้นางกลายเป็นเหยื่อเสียเอง แต่ในช่วงเวลานี้นอกจากนางจะไม่ได้โกรธเคืองหรือห้ามปรามเขาแล้ว นางยังตามใจเขาและปรนเปรอมอบความสุขสมให้เขาจนกว่าจะพอใจอีกด้วย ด้วยเพราะนางรับรู้ดีว่า เขาในตอนนี้กำลังต้องการกำลังใจ จากความสูญเสียบิดา และนางเองก็จำเป็นต้องจากเขาเป็นเวลาถึงสิบปี แม้ว่าเขาจะมีจิตใจที่แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่นแต่เด็กก็คือเด็ก การสูญเสียและการพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก แม้แต่ผู้ใหญ่ยังยากจะทำใจได้เลย นับประสาอะไรกับเด็กชายอายุเก้าขวบ และเขาก็ยึดนางเป็นที่พึ่งและสลักนางเอาไว้ในใจ หากจะทำอะไรเพื่อปลอบประโลมและเป็นกำลังใจให้เขานางก็พร้อมจะทำเพื่อชดเชย ให้กับความรักความภักดีที่ต้องนำมาซึ่งความสูญเสียให้แก่เขา
เด็กน้อยจินหย่งฝากฝังตัวตนของเขา หลอมรวมเข้าสู่ในกายขององค์หญิงอันเป็นที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายครั้งหลายหนราวกับจะอยากให้กายของเขาหลอมเข้ากับร่างบางตัวน้อยของคนตรงหน้า องค์หญิงหลี่เหวินได้ทูลร้องขอพระอนุญาติจากองค์ฮ่องเต้ เป็นเวลาสิบวันเพื่อดูแลเขาจนกว่าอาการเจ็บจากการโดนโบยจะหาย และเพื่อล่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย โดยขอออกมาอยู่ที่ตำหนักเกายู่อี้ที่นอกวังตามลำพังกับเขาสองคน ซึ่งความจริงแล้วอาการบาดเจ็บบอบช้ำจากการโดนโบยของเขาหายตั้งแต่เมื่อห้าวันก่อนแล้ว แต่ในเมื่อมีโอกาสที่เขากับองค์หญิงจะได้ร่ำลากันภายในห้าวัน เขาย่อมต้องใช้โอกาสนี้เพื่อตักตวงจดจำตราตรึง ชดเชยในวันเวลาที่ต้องไกลห่างกันสิบปีและแววตาที่เคยเฉยชาเรียบนิ่งไร้อารมณ์ขององค์หญิง บัดนี้เต็มไปด้วยความสงสารเห็นใจและอยากปลอบประโลมเขาด้วยแล้ว ก็ยิ่งสร้างความประทับใจและซาบซึ้งให้แก่เขายิ่งนัก ตัวเขานั้นมีความภักดีและมอบใจให้นางไปหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นร่องรอยอารมณ์ความหวั่นไหวที่หลุดออกมาจากหัวใจที่ถูกปิดกั้น ก็ทำให้เขายินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะมันทำให้เขาสุขใจที่ได้รับรู้ว่า เขาสามารถเปิดประตูอันแสนเย็นชาในหัวใจขององค์หญิงได้แล้ว และแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกันกับเขา แววตาที่นางมองเขาเหมือนกับความสงสารเห็นใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กคนหนึ่ง แต่เพียงเท่านั้นเขาก็ดีใจมากแล้ว เพราะสำหรับอดีตนักฆ่าไร้หัวใจที่ถูกฝึกมาให้สังหารคนอย่างไร้ความปราณี การที่นางมีความรู้สึกต่อเขาจึงเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะอย่างน้อยเขาก็คือคนพิเศษกว่าคนอื่น เป็นเขาคนเดียวที่จะได้รับความรู้สึกในแบบนี้จากนาง
"จินหย่ง...ข้ายกไป๋เฟิงให้เจ้านะ" มี่เหยียนเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลังจากเพิ่งผ่านบทสวาทอันยาวนานและร้อนแรงกับเด็กชาย "ขอบพระทัยพะยะค่ะองค์หญิง" แน่นอนว่าเด็กน้อยรับรู้ดีว่าคำว่า 'ยกให้' นั้นหมายความว่าอย่างไร นัยของใจความนั้นก็คือองค์หญิงยกไป๋เฟิงให้เขาได้แก้แค้น เขายังจำได้ถึงถ้อยคำความเห็นแก่ตัวอย่างไร้จิตสำนึกของเด็กหญิงน่ารังเกียจคนนั้น! นางกล้าบอกว่าการเอ่ยทูลขอการหมั้นหมายกับเขาคือการปกป้องเขา จนป่านนี้นางยังโง่งมเสียจนไม่รู้ว่า โทษฐานกบฏที่นางร่วมมือกับขุนนางกังฉินให้ร้ายองค์หญิงนั้น หากไม่ใช่ด้วยพระปรีชาขององค์หญิงที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและพวกเขาได้แล้วล่ะก็ โทษฐานกบฏมีโทษถึงขั้นประหารเจ็ดชั่วโครตด้วยซ้ำ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องตายไปเพราะนางด้วย และในความจริงแล้วโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงเองก็มีโทษประหารเช่นกัน แต่เพราะฮ่องเต้เห็นแก่ว่าเขายังเด็กจึงแค่ตัดสินให้โดนโบยส่วนองค์หญิงนอกจากจะยังเป็นเด็กและยังได้ชื่อว่าเป็นพระธิดาของพระองค์จึงไม่อาจหักใจสั่งประหารได้ และให้เนรเทศแทน แต่แทนที่เรื่องในครั้งนี้นำมาซึ่งความสูญเสียแก่บิดาบุญธรรมคือเสนาธิการเหอจื่อหลง นางกลับไม่สำนึกเสียใจแล้วยังกล้าเห็นแก่ตัวทูลขอเขากับฮ่องเต้อีก สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจอันเห็นแก่ตัว อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เห็นเรื่องของเขามาเป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่สนว่าจะทำให้ผู้มีพระคุณของนางต้องเดือดร้อนอย่างไร ช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ได้เลย! เขาจะตอบแทนความรักที่นางมีต่อเขาให้สาสม เดิมทีเขาก็เป็นคนไร้หัวใจมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็เพิ่งค้นพบว่าเขามีหัวใจเพื่อมอบให้กับองค์หญิงผู้เป็นดวงใจของเขา และในตอนนี้นางก็ทำเขาต้องห่างไกลจากองค์หญิง พรากดวงใจของเขาไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีหัวใจให้กับนาง ในเมื่อนางเห็นแก่ตัว โง่เง่าจนสร้างความสูญเสียให้เขาอย่างใหญ่หลวงแล้ว เขาก็ขอสนองความรักที่นางมีต่อเขา จะทำให้นางร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลและเจ็บปวดจนตาย นางจะได้รู้ว่าการเก็บกอดตำแหน่งคู่หมายพระราชทาน มันไม่ได้หมายความว่านางได้ครอบครองเขา เพราะกายและใจของเขาเป็นขององค์หญิงหลี่เหวินแต่เพียงผู้เดียว สำหรับนางมีเพียงความเจ็บปวดเจียนตายเท่านั้นที่เขาจะมอบให้! "จินหย่ง... ฟังข้าให้ดีนะ นับจากนี้ในระหว่างสิบปี ให้เจ้าฝึกฝนฝีมือตนเองและความรู้ความสามารถให้แกร่งกล้า และจงพาตัวเองสู่ตำแหน่งแม่ทัพให้ได้ภายในสิบปี และในระหว่างที่ข้าจำต้องจากไปอยู่ยังแคว้นจ้าว ข้าจะเสาะแสวงหาเด็กกำพร้าที่มีระดับสติปัญญาฉลาดมาให้เจ้าฝึกฝนอบรม เพื่อเป็นกองกำลังพิเศษ ทยอยส่งมาให้กับเจ้า ในยามนี้ราชสำนักกำลังอ่อนแอ ขาดขุนนางภักดีที่มีความสามารถ เสด็จพ่อของข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาให้ราษฎร อีกไม่นานต้องถูกประชาชนรุกฮือ และแคว้นข้างเคียงจะต้องฉวยโอกาสบุกเข้ามาทำสงครามแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรนับจากนี้ ขอให้เจ้าอดทนรอเพราะบัลลังก์มังกรคงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้านี้ ในตอนนี้สิ่งที่พวกเราควรทำก็คือ การรอคอยอย่างใจเย็น เจ้าเองก็คงจะเห็นแล้วว่าเป้าหมายของพวกเราคงไม่มีวันสำเร็จ หากปราศจากอำนาจ ในตอนนี้เจ้ากับข้ายังเด็กเกินไป และยังไม่มีอำนาจและความแข็งแกร่งเพียงพอ นับจากนี้จงอดทนเคี่ยวกรำฝีมือและตำแหน่งของตัวเองให้ยิ่งใหญ่และรอข้า อีกสิบปี ข้าหวังว่าจะได้พบแม่ทัพจินหย่งผู้องอาจและแข็งแกร่งพร้อมกับขุมกำลังของเหล่านักรบที่แข็งแกร่งนะ" จินหย่งที่ได้ฟังรับสั่งของเจ้าหญิงในแผนการสำหรับเตรียมการเพื่ออำนาจและเป้าหมายในอนาคต ก็มีประกายตาล้ำลึก แรงกล้า รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงด้วยหัวใจที่ยอมสวามิภักดิ์ให้แด่นางพญาผู้สง่าและเปี่ยมด้วยสติปัญญา "โปรดทรงวางพระทัย กระหม่อมจะทำตามดำริขององค์หญิงให้เป็นจริงให้ได้พะยะค่ะ กระหม่อมจะอดทนรอคอย อยู่ทุกลมหายใจของกระหม่อมเลยพะยะค่ะ"
เด็กน้อยจินหย่งฝากฝังตัวตนของเขา หลอมรวมเข้าสู่ในกายขององค์หญิงอันเป็นที่รักซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายครั้งหลายหนราวกับจะอยากให้กายของเขาหลอมเข้ากับร่างบางตัวน้อยของคนตรงหน้า องค์หญิงหลี่เหวินได้ทูลร้องขอพระอนุญาติจากองค์ฮ่องเต้ เป็นเวลาสิบวันเพื่อดูแลเขาจนกว่าอาการเจ็บจากการโดนโบยจะหาย และเพื่อล่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย โดยขอออกมาอยู่ที่ตำหนักเกายู่อี้ที่นอกวังตามลำพังกับเขาสองคน ซึ่งความจริงแล้วอาการบาดเจ็บบอบช้ำจากการโดนโบยของเขาหายตั้งแต่เมื่อห้าวันก่อนแล้ว แต่ในเมื่อมีโอกาสที่เขากับองค์หญิงจะได้ร่ำลากันภายในห้าวัน เขาย่อมต้องใช้โอกาสนี้เพื่อตักตวงจดจำตราตรึง ชดเชยในวันเวลาที่ต้องไกลห่างกันสิบปีและแววตาที่เคยเฉยชาเรียบนิ่งไร้อารมณ์ขององค์หญิง บัดนี้เต็มไปด้วยความสงสารเห็นใจและอยากปลอบประโลมเขาด้วยแล้ว ก็ยิ่งสร้างความประทับใจและซาบซึ้งให้แก่เขายิ่งนัก ตัวเขานั้นมีความภักดีและมอบใจให้นางไปหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นร่องรอยอารมณ์ความหวั่นไหวที่หลุดออกมาจากหัวใจที่ถูกปิดกั้น ก็ทำให้เขายินดีเป็นอย่างยิ่งเพราะมันทำให้เขาสุขใจที่ได้รับรู้ว่า เขาสามารถเปิดประตูอันแสนเย็นชาในหัวใจขององค์หญิงได้แล้ว และแม้ว่าอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกันกับเขา แววตาที่นางมองเขาเหมือนกับความสงสารเห็นใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กคนหนึ่ง แต่เพียงเท่านั้นเขาก็ดีใจมากแล้ว เพราะสำหรับอดีตนักฆ่าไร้หัวใจที่ถูกฝึกมาให้สังหารคนอย่างไร้ความปราณี การที่นางมีความรู้สึกต่อเขาจึงเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะอย่างน้อยเขาก็คือคนพิเศษกว่าคนอื่น เป็นเขาคนเดียวที่จะได้รับความรู้สึกในแบบนี้จากนาง
"จินหย่ง...ข้ายกไป๋เฟิงให้เจ้านะ" มี่เหยียนเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลังจากเพิ่งผ่านบทสวาทอันยาวนานและร้อนแรงกับเด็กชาย "ขอบพระทัยพะยะค่ะองค์หญิง" แน่นอนว่าเด็กน้อยรับรู้ดีว่าคำว่า 'ยกให้' นั้นหมายความว่าอย่างไร นัยของใจความนั้นก็คือองค์หญิงยกไป๋เฟิงให้เขาได้แก้แค้น เขายังจำได้ถึงถ้อยคำความเห็นแก่ตัวอย่างไร้จิตสำนึกของเด็กหญิงน่ารังเกียจคนนั้น! นางกล้าบอกว่าการเอ่ยทูลขอการหมั้นหมายกับเขาคือการปกป้องเขา จนป่านนี้นางยังโง่งมเสียจนไม่รู้ว่า โทษฐานกบฏที่นางร่วมมือกับขุนนางกังฉินให้ร้ายองค์หญิงนั้น หากไม่ใช่ด้วยพระปรีชาขององค์หญิงที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองและพวกเขาได้แล้วล่ะก็ โทษฐานกบฏมีโทษถึงขั้นประหารเจ็ดชั่วโครตด้วยซ้ำ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ต้องตายไปเพราะนางด้วย และในความจริงแล้วโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงเองก็มีโทษประหารเช่นกัน แต่เพราะฮ่องเต้เห็นแก่ว่าเขายังเด็กจึงแค่ตัดสินให้โดนโบยส่วนองค์หญิงนอกจากจะยังเป็นเด็กและยังได้ชื่อว่าเป็นพระธิดาของพระองค์จึงไม่อาจหักใจสั่งประหารได้ และให้เนรเทศแทน แต่แทนที่เรื่องในครั้งนี้นำมาซึ่งความสูญเสียแก่บิดาบุญธรรมคือเสนาธิการเหอจื่อหลง นางกลับไม่สำนึกเสียใจแล้วยังกล้าเห็นแก่ตัวทูลขอเขากับฮ่องเต้อีก สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจอันเห็นแก่ตัว อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เห็นเรื่องของเขามาเป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่สนว่าจะทำให้ผู้มีพระคุณของนางต้องเดือดร้อนอย่างไร ช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ได้เลย! เขาจะตอบแทนความรักที่นางมีต่อเขาให้สาสม เดิมทีเขาก็เป็นคนไร้หัวใจมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็เพิ่งค้นพบว่าเขามีหัวใจเพื่อมอบให้กับองค์หญิงผู้เป็นดวงใจของเขา และในตอนนี้นางก็ทำเขาต้องห่างไกลจากองค์หญิง พรากดวงใจของเขาไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีหัวใจให้กับนาง ในเมื่อนางเห็นแก่ตัว โง่เง่าจนสร้างความสูญเสียให้เขาอย่างใหญ่หลวงแล้ว เขาก็ขอสนองความรักที่นางมีต่อเขา จะทำให้นางร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลและเจ็บปวดจนตาย นางจะได้รู้ว่าการเก็บกอดตำแหน่งคู่หมายพระราชทาน มันไม่ได้หมายความว่านางได้ครอบครองเขา เพราะกายและใจของเขาเป็นขององค์หญิงหลี่เหวินแต่เพียงผู้เดียว สำหรับนางมีเพียงความเจ็บปวดเจียนตายเท่านั้นที่เขาจะมอบให้! "จินหย่ง... ฟังข้าให้ดีนะ นับจากนี้ในระหว่างสิบปี ให้เจ้าฝึกฝนฝีมือตนเองและความรู้ความสามารถให้แกร่งกล้า และจงพาตัวเองสู่ตำแหน่งแม่ทัพให้ได้ภายในสิบปี และในระหว่างที่ข้าจำต้องจากไปอยู่ยังแคว้นจ้าว ข้าจะเสาะแสวงหาเด็กกำพร้าที่มีระดับสติปัญญาฉลาดมาให้เจ้าฝึกฝนอบรม เพื่อเป็นกองกำลังพิเศษ ทยอยส่งมาให้กับเจ้า ในยามนี้ราชสำนักกำลังอ่อนแอ ขาดขุนนางภักดีที่มีความสามารถ เสด็จพ่อของข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ปัญหาให้ราษฎร อีกไม่นานต้องถูกประชาชนรุกฮือ และแคว้นข้างเคียงจะต้องฉวยโอกาสบุกเข้ามาทำสงครามแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรนับจากนี้ ขอให้เจ้าอดทนรอเพราะบัลลังก์มังกรคงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้านี้ ในตอนนี้สิ่งที่พวกเราควรทำก็คือ การรอคอยอย่างใจเย็น เจ้าเองก็คงจะเห็นแล้วว่าเป้าหมายของพวกเราคงไม่มีวันสำเร็จ หากปราศจากอำนาจ ในตอนนี้เจ้ากับข้ายังเด็กเกินไป และยังไม่มีอำนาจและความแข็งแกร่งเพียงพอ นับจากนี้จงอดทนเคี่ยวกรำฝีมือและตำแหน่งของตัวเองให้ยิ่งใหญ่และรอข้า อีกสิบปี ข้าหวังว่าจะได้พบแม่ทัพจินหย่งผู้องอาจและแข็งแกร่งพร้อมกับขุมกำลังของเหล่านักรบที่แข็งแกร่งนะ" จินหย่งที่ได้ฟังรับสั่งของเจ้าหญิงในแผนการสำหรับเตรียมการเพื่ออำนาจและเป้าหมายในอนาคต ก็มีประกายตาล้ำลึก แรงกล้า รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงด้วยหัวใจที่ยอมสวามิภักดิ์ให้แด่นางพญาผู้สง่าและเปี่ยมด้วยสติปัญญา "โปรดทรงวางพระทัย กระหม่อมจะทำตามดำริขององค์หญิงให้เป็นจริงให้ได้พะยะค่ะ กระหม่อมจะอดทนรอคอย อยู่ทุกลมหายใจของกระหม่อมเลยพะยะค่ะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ