นางพญาไร้ใจ
7.9
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 08.27 น.
37 ตอน
1 วิจารณ์
40.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 19.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) ยุยงหลอกใช้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภายในหนึ่งเดือน ปัญหาในบ้านเมืองถูกแก้ไขโดยองค์หญิงหลี่เหวินพระธิดาองค์เล็ก ถึงสามเรื่องใหญ่ๆด้วยกัน ทั้งปัญหาโรคระบาด การค้าขายของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับการช่วยเหลือ จนมีรายได้แก่ราษฎรที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าและอีกหนึ่งเรื่องสำคัญก็คือ การสั่งประหารขุนนางที่มีหลักฐานทุจริตรับสินบนจนทำให้ประชาชนและราษฎรพากันชื่นชม และมาร้องเรียนที่ตำหนักเกายู่อี้กันอย่างมากมาย จากหมื่นเป็นแสนจากแสนเป็นหลายแสน จนเมื่อเรื่องไปถึงราชสำนักทำให้เหล่าขุนนางกังฉินที่มีชะนักติดหลังเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข และยังรวมไปถึงฮ่องเต้หลี่จงด้วย เพราะได้รับการยุยงโดยเหล่าขุนนางสอพลอและเหล่าขุนนางกังฉิน ที่ต่างกลัวว่าหากสืบจนพบหลักฐานการทุจริตของพวกตนแล้วจะถูกสั่่งประหาร เพราะภายในหนึ่งเดือนมานี้พวกขุนนางที่เคยเป็นมือเป็นเท้าให้พวกตน ถูกสั่งประหารไปแล้วหลายรายอย่างเด็ดขาด จึงทำให้เหล่าขุนนางกังฉินทูลยุยงต่อองค์ฮ่องเต้ว่า พระธิดาองค์เล็กโหดเหี้ยมสั่งประหารคนตั้งแต่ยังเด็กชันษาเพียงหกขวบ หากปล่อยไว้เมื่อเติบใหญ่จะกลายเป็นสตรีใจเหี้ยม และในตอนนี้ได้รับแรงศรัทธาจากราษฎรอย่างมาก และอาจเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ ทำให้ฮ่องเต้หลี่จงกริ้วอย่างมาก นึกเจ็บใจที่อุตส่าปล่อยให้ธิดาองค์เล็กไปเที่ยวนอกวัง และยังให้ป้ายอาญาสิทธิ์ก็หวังแค่ให้ใช้ในเรื่องความปลอดภัย แต่กลับไปใช้สั่งประหาร สั่งงานสั่งการเอาได้ตามใจ
ในระหว่างที่ราชสำนักกำลังร้อนรนกันอยู่นั้น ไป๋เฟิงที่กำลังเสียใจและคับแค้นใจเรื่องขององค์หญิงหลี่เหวินจนมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว พอดีกับที่เหล่าขุนนางกังฉินเห็นเข้า ก็ทำทีเข้าไปถามเพราะจำได้ว่าไป๋เฟิงคืออดีตข้ารับใช้คนสนิทขององค์หญิงหลี่เหวิน "เด็กน้อยเจ้าเป็นอะไรไปหรือ ทำไมถึงมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวล่ะ เจ้าน่าจะอยู่กับองค์หญิงและกับจินหย่งไม่ใช่หรือ" เด็กน้อยไป๋เฟิงด้วยความใสซื่อไร้เดียงสาที่ไม่รับรู้เรื่องการเมือง ไม่เข้าใจสถานการณ์และกำลังนึกน้อยใจ เสียใจและโกรธองค์หญิงหลี่เหวิน ก็เล่าเรื่องของตัวเองไปตามความรู้สึก โดยไม่รู้ว่าคนที่กำลังมาซักถามนั้นอยู่ฝ่ายใด
"ฮือๆ ข้าเกลียดองค์หญิงหลี่เหวิน องค์หญิงหลี่เหวินแย่งจินหย่งไปจากข้า จินหย่งเป็นของข้า แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจข้าเลย สนใจแต่องค์หญิงคนเดียวแล้วไม่ยอมให้ข้าไปเล่นด้วยอีก ถ้าองค์หญิงไม่อยู่ใกล้กับจินหย่งเขาจะต้องสนใจข้าใช่หรือเปล่าคะใต้เท้า" เหล่าขุนนางที่ได้ยินเด็กหญิงคร่ำครวญก็พากันยิ้มและได้โอกาสในการหลอกใช้ ความไร้เดียงสาและอารมณ์กรุ่นโกรธของไป๋เฟิงเป็นเครื่องมือในการกำจัดองค์หญิงหลี่เหวิน "เอาล่ะๆ เจ้าไม่ต้องร้องไห้ไปพวกข้าเห็นใจเจ้าจริงๆนะ นั่นสิงั้นข้าจะบอกวิธีทำให้องค์หญิงห่างจากจินหย่งดีหรือไม่ล่ะ จินหย่งจะได้หันมาสนใจเจ้าไง" "จริงหรือเจ้าคะ ทำอย่างไรหรือ"
"ง่ายนิดเดียว ในตอนนี้ฮ่องเต้ทรงกริ้วองค์หญิงอย่างมาก หากเจ้าไปทูลฟ้องฮ่องเต้ว่า องค์หญิงกับพวกพ้องมีใจคิดกบฎต่อราชบัลลังก์ ฮ่องเต้ต้องสั่งลงโทษองค์หญิงแน่ โทษฐานกบฎร้ายแรงมากนะ ตอนนี้องค์หญิงสร้างความเดือดร้อนให้ราชสำนัก หากเจ้าที่สนิทกับองค์หญิงไปกราบทูลพระองค์ต้องเชื่อเจ้าแน่ แล้วที่นี้องค์หญิงก็จะต้องถูกสั่งห้ามไปเล่นนอกวัง ถูกสั่งลงโทษหนัก แล้วทีนี้จินหย่งก็ต้องถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับองค์หญิงอีก แล้วเมื่อไม่มีองค์หญิงแล้ว เพื่อนที่สนิทของเขาก็มีแต่เจ้า เขาก็ต้องสนใจเจ้าแน่" เด็กน้อยที่แสนซื่อไร้เดียงสา และกำลังถูกอำนาจความริษยาเข้าครอบงำหลงเชื่อเหล่าขุนนางกังฉินโดยทันที นางไม่รู้ว่าโทษฐานกบฎนั้นร้ายแรงมากประการใด หากเป็นผู้ใหญ่จะต้องถูกสั่งประหารเจ็ดชั่วโครต หากเป็นเด็กอาจจะได้รับโทษเบาหน่อยแต่ก็ร้ายแรงมากเช่นกัน แต่อนิจจาเมื่อไป๋เฟิงเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาที่ไม่ได้รับรู้ว่าองค์หญิงกับจินหย่งทำเรื่องสำคัญอะไรกัน และต่อให้จะบอก ก็คงเกินกว่าที่เด็กหญิงที่มีระดับสติปัญญาธรรมดาจะเข้าใจอยู่ดี หากเปรียบก็เหมือนกับเอาเรื่องการเมืองมาเล่าให้เด็กอนุบาลอายุหกขวบฟังนั่นแหละ แล้วในตอนนี้ความรู้สึกริษยาความรักความหลงก็นำหน้าซะจนไม่รับรู้ว่า ในครั้งนี้สิ่งที่นางกราบทูลต่อฮ่องเต้ จะไม่ใช่เพียงแค่ถูกโบยหรือกักบริเวณ และผู้ที่เดือดร้อนก็ไม่ได้มีแต่องค์หญิงกับจินหย่งเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแม่ทัพจินหยาง เสนาธิการเหอจื่อหลง และเหล่าขุนนางตงฉินที่ให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับองค์หญิงก็จะได้รับโทษหนักด้วยเช่นกัน นี่คงเป็นชะตาของเด็กทั้งสามที่ต้องมาพัวพัน เกี่ยวโยง สร้างกรรมและเป็นอุปสรรค์แก่กัน ไป๋เฟิงคงไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้จินหย่งรักและสนใจนางไม่ได้แล้ว จินหย่งยังแค้นและเกลียดชังนางจนสุดหัวใจและปรารถนาที่จะทำทุกสิ่งเพื่อทำลายนางให้เจ็บปวดย่อยยับอย่างที่สุดอีกด้วย
ในระหว่างที่ราชสำนักกำลังร้อนรนกันอยู่นั้น ไป๋เฟิงที่กำลังเสียใจและคับแค้นใจเรื่องขององค์หญิงหลี่เหวินจนมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว พอดีกับที่เหล่าขุนนางกังฉินเห็นเข้า ก็ทำทีเข้าไปถามเพราะจำได้ว่าไป๋เฟิงคืออดีตข้ารับใช้คนสนิทขององค์หญิงหลี่เหวิน "เด็กน้อยเจ้าเป็นอะไรไปหรือ ทำไมถึงมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวล่ะ เจ้าน่าจะอยู่กับองค์หญิงและกับจินหย่งไม่ใช่หรือ" เด็กน้อยไป๋เฟิงด้วยความใสซื่อไร้เดียงสาที่ไม่รับรู้เรื่องการเมือง ไม่เข้าใจสถานการณ์และกำลังนึกน้อยใจ เสียใจและโกรธองค์หญิงหลี่เหวิน ก็เล่าเรื่องของตัวเองไปตามความรู้สึก โดยไม่รู้ว่าคนที่กำลังมาซักถามนั้นอยู่ฝ่ายใด
"ฮือๆ ข้าเกลียดองค์หญิงหลี่เหวิน องค์หญิงหลี่เหวินแย่งจินหย่งไปจากข้า จินหย่งเป็นของข้า แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจข้าเลย สนใจแต่องค์หญิงคนเดียวแล้วไม่ยอมให้ข้าไปเล่นด้วยอีก ถ้าองค์หญิงไม่อยู่ใกล้กับจินหย่งเขาจะต้องสนใจข้าใช่หรือเปล่าคะใต้เท้า" เหล่าขุนนางที่ได้ยินเด็กหญิงคร่ำครวญก็พากันยิ้มและได้โอกาสในการหลอกใช้ ความไร้เดียงสาและอารมณ์กรุ่นโกรธของไป๋เฟิงเป็นเครื่องมือในการกำจัดองค์หญิงหลี่เหวิน "เอาล่ะๆ เจ้าไม่ต้องร้องไห้ไปพวกข้าเห็นใจเจ้าจริงๆนะ นั่นสิงั้นข้าจะบอกวิธีทำให้องค์หญิงห่างจากจินหย่งดีหรือไม่ล่ะ จินหย่งจะได้หันมาสนใจเจ้าไง" "จริงหรือเจ้าคะ ทำอย่างไรหรือ"
"ง่ายนิดเดียว ในตอนนี้ฮ่องเต้ทรงกริ้วองค์หญิงอย่างมาก หากเจ้าไปทูลฟ้องฮ่องเต้ว่า องค์หญิงกับพวกพ้องมีใจคิดกบฎต่อราชบัลลังก์ ฮ่องเต้ต้องสั่งลงโทษองค์หญิงแน่ โทษฐานกบฎร้ายแรงมากนะ ตอนนี้องค์หญิงสร้างความเดือดร้อนให้ราชสำนัก หากเจ้าที่สนิทกับองค์หญิงไปกราบทูลพระองค์ต้องเชื่อเจ้าแน่ แล้วที่นี้องค์หญิงก็จะต้องถูกสั่งห้ามไปเล่นนอกวัง ถูกสั่งลงโทษหนัก แล้วทีนี้จินหย่งก็ต้องถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับองค์หญิงอีก แล้วเมื่อไม่มีองค์หญิงแล้ว เพื่อนที่สนิทของเขาก็มีแต่เจ้า เขาก็ต้องสนใจเจ้าแน่" เด็กน้อยที่แสนซื่อไร้เดียงสา และกำลังถูกอำนาจความริษยาเข้าครอบงำหลงเชื่อเหล่าขุนนางกังฉินโดยทันที นางไม่รู้ว่าโทษฐานกบฎนั้นร้ายแรงมากประการใด หากเป็นผู้ใหญ่จะต้องถูกสั่งประหารเจ็ดชั่วโครต หากเป็นเด็กอาจจะได้รับโทษเบาหน่อยแต่ก็ร้ายแรงมากเช่นกัน แต่อนิจจาเมื่อไป๋เฟิงเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาที่ไม่ได้รับรู้ว่าองค์หญิงกับจินหย่งทำเรื่องสำคัญอะไรกัน และต่อให้จะบอก ก็คงเกินกว่าที่เด็กหญิงที่มีระดับสติปัญญาธรรมดาจะเข้าใจอยู่ดี หากเปรียบก็เหมือนกับเอาเรื่องการเมืองมาเล่าให้เด็กอนุบาลอายุหกขวบฟังนั่นแหละ แล้วในตอนนี้ความรู้สึกริษยาความรักความหลงก็นำหน้าซะจนไม่รับรู้ว่า ในครั้งนี้สิ่งที่นางกราบทูลต่อฮ่องเต้ จะไม่ใช่เพียงแค่ถูกโบยหรือกักบริเวณ และผู้ที่เดือดร้อนก็ไม่ได้มีแต่องค์หญิงกับจินหย่งเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแม่ทัพจินหยาง เสนาธิการเหอจื่อหลง และเหล่าขุนนางตงฉินที่ให้ความช่วยเหลือร่วมมือกับองค์หญิงก็จะได้รับโทษหนักด้วยเช่นกัน นี่คงเป็นชะตาของเด็กทั้งสามที่ต้องมาพัวพัน เกี่ยวโยง สร้างกรรมและเป็นอุปสรรค์แก่กัน ไป๋เฟิงคงไม่รู้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้จินหย่งรักและสนใจนางไม่ได้แล้ว จินหย่งยังแค้นและเกลียดชังนางจนสุดหัวใจและปรารถนาที่จะทำทุกสิ่งเพื่อทำลายนางให้เจ็บปวดย่อยยับอย่างที่สุดอีกด้วย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ