The Invisible : The Girls
9.7
เขียนโดย โรแลนด์
วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.17 น.
5 ตอน
0 วิจารณ์
7,091 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 21.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) องค์กรลับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เสียงฝีเท้าเดินผ่านไปมาอยู่รอบๆตัวของเฟิร์นและนุช ทั้งคู่ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน พวกเธอไม่เห็นอะไรเลยด้วยซ้ำเพราะพวกเธอถูกคลุมศรีษะด้วยผ้าคลุมสีดำ มือของทั้งสองถูกมัดด้วยกุญแจมือหรืออะไรบางอย่างที่ทำจากเหล็กหนาอยู่ทางด้านหลังร่างกายของทั้งคู่ยังคงอ่อนแรงจากฤทธิ์จากยาสลบ ทำให้การก้าวเดินในแต่ละก้าวนั้นช่างเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ยังโชคดีที่มีมือของ "ใครบางคน" คอยพยุงตัวของทั้งคู่ไว้อยู่ ร่างที่คอยพยุงตัวของสองสาวมาตลอดทางหยุดเดิน... เขาโยนทั้งสองสาวเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง "โอ๊ย!" นุชร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดตามร่างกาย ในขณะที่เสียงฝีเท้าของ"ใครคนหนึ่ง" กำลังเดินออกไปจากห้องนี้ และเสียงฝีเท้านั้นก็ค่อยๆเบาลงและหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ความเงียบงัน กับชีวิตที่อ้างว้างเดียวดาย เคว้างคว้างและทุกข์ทน สับสนและไร้จุดหมาย...
"นุช... ใครปิดไฟ?" เฟิร์นถามเพราะมองไม่เห็นอะไรเลย "อืมม... เราว่าไม่มีใครปิดไฟนะ แต่เราถูกคลุมหน้าอยู่น่ะสิ!" นุชตอบด้วยเสียงเบาราวกับกระซิบ
ในสภาพบรรยากาศที่เงียบสงัดแบบนี้ ทำให้เฟิร์นฟังสิ่งที่นุชพูดออกมาได้ดียิ่งขึ้น...
"เค้าจับเรามาทำไมอ่ะ?" เฟิร์นถาม "เราก็ไม่รู้..." นุชตอบ "แล้วใครจับเรามาอ่ะ?" เฟิร์นยังคงถามต่อไป... "ไม่รู้สิ..." นุชตอบพร้อมกับถอนหายใจ "คนจับเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?" "ไม่รู้... กระเทยมั้ง!" "จิงอ่ะ?!" "อืม..." "จิงดิ่?!" "..." "... ... ...????" "..." นุชใช้ไม้ตายด้วยการไม่พูดอะไรอีกต่อไปเพื่อทำให้เฟิร์นเลิกถาม
กรึ่กๆ!... เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงเหมือนคนกำลังไขกลอนประตูเพื่อจะเข้ามาในห้อง เอี๊ยดด... และแล้วประตูบานนั้นก็เปิดออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ตามด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงกำลังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆสองสาว
พรึ่บ! มือซี๊ดๆดึงผ้าคลุมหน้าของสองสาวขึ้นมาอย่างแรง ทำให้เฟิร์นและนุชต้องหรี่ตาเพราะสายตายังไม่ชินกับแสงสว่าง
"หวัดดีฮะ!" หญิงสาวในชุดสูทสีเทากล่าวด้วยภาษาแปลกๆ
"คุณเป็นใครน่ะ?!" เฟิร์นตะโกนถาม "ผมหรอฮะ! ผมชื่อ..." หญิงสาวกำลังจะกล่าว แต่ทว่า... เธอลืมอะไรบางอย่าง หญิงสาวจึงถอยออกไปในระยะสั้นๆพอให้เธอยืนเหยียดตรงเหมือนนักการเมืองที่คอยยืนอยู่ด้านหลังนายกฯตอนที่นายกฯกำลังถูกสัมภาษณ์ในทีวีอย่างไรอย่างนั้น เธอยืดออกแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนหายใจยาวๆออกมา
"พูดสิฮะ เอ้ย! จะพูดอะไรก็รีบๆพูดสิ!" เฟิร์นเริ่มรำคาญ ในขณะที่นุชก็ยังนั่งเงียบๆอยู่เช่นเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ผมชื่อสะกำ เบียงเตย เป็นเลขาอันดับที่หนึ่งของท่านประธานยังไงล่ะ! โอ๊ะๆๆๆ! แต่ขอโทษนะฮะ เห็นกระผมแปลกๆแบบนี้ ผมจบจากอังกฤษนะฮะ โฮ๊ะๆๆ! ที่สำคัญ ผมมีรอยยิ้มเป็นส่วนตัวฮะ!"
"สงสัยจะเรียนเยอะไปล่ะมั้ง..." นุชกล่าวเบาๆ ซึ่งสะกำก็คงจะไม่ได้ยิน เพราะเธอมัวแต่หัวเราะและชื่นชมตัวเธออยู่อย่างนั้น จนเมื่อเธอได้สติ เธอจึงกระแอมเบาๆก่อนจะกล่าวต่อ "บอกมานะฮะ! ว่าพวกคุณทำงานให้ใครฮะ..." สะกำถาม "ทำงานอะไร? พาร์ทไทม์เดี๋ยวนี้เค้ารับอายุ 18 ขึ้นนะ เรายังทำงานไม่ได้หรอก" เฟิร์นกล่าว "ไม่ใช่สิฮะ!" สะกำเริ่มเสียงดังขึ้น "พวกคุณทำงานให้ใครฮะ!? ถ้าพวกคุณไม่ยอมบอก ผมซวยนะฮะ!" "เดี๋ยวๆ แล้วนี่เป็นผู้หญิง ทำไมถึงพูดฮะล่ะ?" เฟิร์นถาม "มันเป็นสไตล์ฮะ! เอ้า! อย่านอกเรื่องสิฮะ พวกคุณทำงานให้ใครฮะ?!" สะกำยังคงถามต่อไป "เราไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรนะ แต่พวกเรากำลังจะกลับบ้าน พวกคุณก็จับเรามาที่นี่แหละ..." เฟิร์นกล่าว "พวกคุณนี่ปากแข็งนะฮะ หึหึ" สะกำกล่าวพร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มและสายตาแปลกๆราวกับจะดึงดูดสองสาวนั้นเข้าไป "ปากแข็งอะไร?... บ้าป่าว!??!!" นุชเริ่มหมดความอดทน "เอ้าๆ ไม่่เป็นไรฮะ!" สะกำเริ่มยิ้มมุมปาก "ผมคงจะต้องไปเรียนท่านประธานก่อนนะฮะ สำหรับวันนี้... สวัสดีฮะ!" สะกำพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที
เหตุุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ยิ่งทวีความสงสัยให้กับนุชและเฟิร์นมากขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอกันแน่...
ณ ห้องท่านประธาน
ก๊อกๆ! สะกำเคาะประตูห้องท่านประธาน
"เข้ามา!" ท่านประธานกล่าว "ท่านประธานฮะ! ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลยฮะ เราควรทำยังไงดีฮะ?" สะกำเริ่มตั้งคำถาม
ชายหนุ่มในชุดสูทที่เทาที่ทุกคนเรียกว่าท่านประธาน เริ่มครุ่นคิด... เขามองสะกำผ่านแว่นตาสีดำหนาเตอะของเขาออกไป "ผมว่านะฮะ... เอ้ย! ผมว่านะ... เราควรเก็บพวกเขาไว้ก่อน รอให้พวกเขายอมเปิดปาก จากนั้นเราค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง" ท่านประธานกล่าวกับสะกำด้วยน้ำเสียงที่ดูสุขุมและขรึมอย่างน่าเกรงขาม
"แต่ว่า... เรามีเวลาไม่มากนะฮะท่าน" สะกำกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ต้องทำให้พวกเขายอมเปิดปากให้เร็วที่สุด เข้าใจมั้ย!" ท่านประธานเสียงดังขึ้น "ขะ... เข้าใจฮะ ถ้าอย่างนั้นสะกำต้องไปก่อน สำหรับวันนี้... สวัสดีฮะ!" สะกำรีบออกไปจากห้องท่านประธานทันที
ท่านประธานหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 8พลัสของเขาขึ้นมา เขาปิดเกมส์คุ๊กกี้รันที่เปิดค้างไว้ แล้วกดเบอร์โทรก่อนที่เขาจะยกหูโทรศัพท์ขึ้น "ฮัลโล๋! หึหึ! ผมมีเรื่องอยากให้คุณ!!!... ห้ะ อ่าว ประกันหรอครับ โทษครับๆ โทรผิดฮะ... ยังครับ.. ครับ ยังไม่มีใครตายครับ..." เขายิ่มกรุ้มกริ่มและเริ่มกดเบอร์โทรใหม่อีกรอบหนึ่ง "ฮัลโล๋... หึหึ ประสิทธิ์! ผมมีเรื่องอยากให้คุณจัดการหน่อย... ใช่! ได้ตัวมาแล้ว! หึหึหึหึหึ!" ท่านประธานหัวเราะคนเดียวเบาแลัวจึงวางสายโทรศัพ์ลง
ท่านประธานมองออกไปนอกหน้าต่างของตัวอาคาร ภายนอกนั้นมีเพียงความว่างเปล่า เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาดื่ม มืออีกข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงเขายังคงยืนอยู่อย่างนั้น และสายตาก็มองออกไปพร้อมกับคิดในใจว่า 'เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนะ... จุดที่เราต้องมานั่งทำงานในที่ที่เราเคยดูถูกสารพัด แหม่... คิดแล้วมันช่าง... น่าสมเพชเสียนี่กะไร ไม่เคยคิดเลยว่า... งานของคุณพ่อ มันจะ... หนักหนาสาหัสขนาดนี้!'
ก๊อกๆๆๆ! ความคิดเพ้อเจ้อของท่านประธานต้องหยุดลงหลังจากได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง
"เชิญเข้ามา!" ท่านประธานกล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุมเช่นเดิม หญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับชายหนุ่มในชุดดำอีกหนึ่งคน หญิงคนหนึ่งใส่สูทสีขาว อีกคนหนึ่งมาในชุดตำรวจ "อ้าว! ประสิทธิ์ เข้ามาสิ ผมจะแนะนำให้รู้จัก" ท่านประธานกล่าวกับชายชุดดำที่เขาเรียกว่าประสิทธิ์ "นี่พร ชื่อจริงชื่อพรพรรณส่องแสง สว่างเจิดจ้าสุขาภิบาลอลังการบานตะไทในโลกาอะโลห้าคาบาเร่ เธอเป็นหัวหน้าหน่วยสืบที่ FBI ส่งมาทำงานให้กับผม" ท่านประธานชี้มือไปที่หญิงชุดขาว "สวัสดีค่ะ" พรมองประสิทธิ์และกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ "ส่วนนี่ ชื่ออุ๋งศรี ชื่อจริงชื่อนางสาวอุ๋งศรี ฉวีวรรณ เป็นหนึ่งในตำรวจหญิงหน่วยสืบสวนที่เก่งกาจที่สุดในโลก" ท่านประธานชี้มือไปที่ตำรวจหญิงมาดเข้ม "สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" อุ๋งศรีทักทายประสิทธิ์ "เอาล่ะ สองสาว ส่วนนี่คือประสิทธิ์ ชื่อจริงคือนายประสิทธิ์ อิทธิฤทธิ์เกรียงไกร เป็นบอดี้การ์ดที่ทำงานให้กับองค์ของผมตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกวันแรกเลย" ท่านประธานแนะนำประสิทธิ์ให้สองสาวได้รู้จัก "ต่อไปนี้... พวกคุณทั้งสามคนจะต้องร่วมงานกัน แผนที่ผมเตรียมไว้จะเริ่มปฏิบัติจริงทันทีที่เป้าหมายยอมเปิดปากบอกความจริงและทำงานให้กับเรา" ท่านประธานกล่าวต่อทั้งสามคนที่อยู่ต่อหน้าเขา
"เอาล่ะ!" ท่านประธานเริ่มกล่าวต่อ "คุณได้ข้อมูลอะไรมาบ้างล่ะ พร?" ท่านประธานถาม "ท่านประธานค่ะ... จากข้อมูลที่เราได้มาที่จตุจักร เสื้อผ้าถูกสุด แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้ามือสองละก็ ที่นั่นมีมากมาย... มีใครจะคัดค้านไหม?" พรกล่าว "เรื่องนี้ต้องถามคนท้องถิ่น" อุ๋งศรีตอบ "สามเพ็งถูกกว่า" ประสิทธิ์เสริมขึ้นมา "บางคนก็บอกประตูน้ำ..." "จริงหรอ?" พรกล่าวด้วยความไม่แน่ใจ "โรงเกลือถูกสุด..." อุ๋งศรีเริ่มแย้ง "ฉันเคยไปที่นั่นมาแล้ว... เดินตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยเลย" "แบบนั้น... ข้อคงเคล็ด..." พรกล่าว "นั่นเรื่องจริง..." ประสิทธิ์เสริม "บางคนใช้น้ำมันมวนนวดให้หายเคล็ด... บ้างก็ใช้ยาหม่อง...." "ทาถู ทาถู..." ท่านประธานเสริม "ยาหม่องมันแก้แมลงสัตว์กัดต่อย..." พรแย้ง "ใช่! ผมเคยทาตอนโดนมดกัด หายคันเป็นปลิดทิ้ง" ท่านประธานช่วยเสริม "แซมบัคก็ใช้ได้!" ประสิทธิ์กล่าว "ตกลงเราจะคุยเรื่องชุดกันต่อไหม! หรือจะคุยเรื่องขี้ผึ้งแก้แมลงสัตว์กัดต่อย" อุ๋งศรีกล่าวอย่างรำคาญ "เคล็ดขัดยอก น้ำร้อนลวก แผลพุพอง เป็นหนอง เชื้อราบนหนังศรีษะ..." ท่านประธานกล่าว "ใช้เย็นเตร็กเจ้าของเดียวกับโทนาฟ" อุ๋งศรีต่อให้่จบ "ไปเรื่อยเลย..." พรกล่าว "สรุปว่าเราจะส่งสองสาวนั่นไป... แต่ถ้าให้เขาใส่ชุดองค์กรเรา จะต้องเป็นที่สะดุดตาเป็นแน่!" ท่านประธานกล่าว "เหยื่อที่เราจับมานั่นน่ะหรอ... แล้วเราจะให้พวกเขาแต่งตัวยังไงล่ะ..." อุ๋งศรีถาม "เสื้อยืด รองเท้าแตะ กางเกงยีน แล้วนั่งรถตุ๊กๆไป" ท่านประธานกล่าว
ณ ห้องคุมขัง
สองสาวนั่งอยู่เงียบๆอย่างไร้จุดมุ่งหมาย นุชหิวข้าว ส่วนเฟิร์นยากกลับบ้านไปฟังเพลงของ Justin Biber แต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายขนาดนั้น ตึ่ง! ประตูถูกเปิดออก ชายร่างยักษ์ในชุดดำจำนวนสี่คนเดินเข้ามาจับตัวของสองสาวออกไป
"นี่! จะพาเราไปไหน!" เฟิร์นกล่าวด้วยความตกใจ "หิวข้าว..." นุชกล่าวเบาๆ "เงียบเถอะน่า!" ชายร่างยักษ์คนหนึ่งกล่าว
พวกเขาพาสองสาวมานั่งในห้องโถงใหญ่ มือที่ถูกมัดของทั้งคู่ถูกแกะออก ในห้องโถงนั้นมีโต๊ะตัวยาวดูแล้วหรูหรา ตรงกลางของโต๊ะมีเชิงเทียนสีทองขนาดใหญ่วางอยู่ ด้านบนของห้องเมื่อมองขึ้นไปจะเห็นไฟที่ห้อยระบิยระยับลงมาเป็นสีทอง ดูแล้วหรูหรามากมาย หลายๆอย่างภายในห้องนี้ล้วนเป็นสีทองทั้งนั้น โต๊ะก็ทอง เก้าอี้ก็ทอง ไฟก็ทอง ห้างที่เยาวราชก็ทอง อะไรๆก็ทอง ขนาดดอกไม้ก็ยังเป็นสีทอง ทั้งหมดนี้ทำให้ทั้งสองสาวตาลุกวาว ไม่นานนักก็มีหญิงที่แต่งตัวสุภาพห้าคน ซึ่งทุกคนสวมเอี้ยมสีขาวอยู่ ที่ดูๆแล้วก็สามารถรู้ได้ว่านี่คือบรรดาแม่ครัว เดินตรงมาที่สองสาว ในมือของบรรดาแม่บ้านมีถาดสีเงินอร่ามอยู่ พวกเธอเดินตรงมาที่สองสาวพร้อมกับส่งยิ้มให้ และเปิดถาดอาหารสีเงินนั้นออกมา ในนั้นมีอาหารสุดหรูมากมาย
"เชิญทานเลยค่ะ..." แม่ครัวคนหนึ่งนำอาหารมาเสิร์ฟแล้วยิ้มให้เฟิร์นกับนุช "เอ่อ... ขอบคุณมากค่ะ" เฟิร์นตอบรับแบบงงๆ แต่เมื่อหันไปด้านข้างก็พบว่านุชทานไปครึ่งจานแล้ว "ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะคะ... ทั้งหมดนี้ท่านประธานเป็นคนจัดมาให้ค่ะ" แม่ครัวอีกคนหนึ่งกล่าวและยิ้มให้อย่างสุภาพ "ท่านประธานหรอคะ?" เฟิร์นถามแม่ครัวคนดังกล่าว "ใช่ค่ะ... คนที่อยู่ในรูปตรงนั้นไงคะ..." แม่ครัวชี้ไปที่กรอบรูปใหญ่กลางห้องโถง เผยให้เห็นชายหนุ่มวัยกลางคน เขาสวมแว่นตาสีดำ ทรงผมหยักโศกดกดำ ใบหน้านั้นยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ที่ริมฝีปาก ด้านล่างของกรอบรูปนั้นสลักชื่อ "บุญเสริม มนแคนแก่นคูน" ซึ่งน่าจะเป็นชื่อของท่านประธาน "อ๋อออ... คนนี้เองหรอที่จับตัวพวกเรามา" เฟิร์นกล่าว "หยุดพูดมากแล้วก็รีบกินได้แล้ว!" อุ๋งศรีที่ยืนอยู่ตรงประตูอีกฝากหนึ่งของห้องโถงพูดขึ้น "พวกเธอน่ะ! จะต้องมาทำงานให้กับองค์กรเรา..." "ทำงานให้หรอ?? องค์กรอะไรอ่ะ? แล้วทำไมพวกเราต้องทำด้วย?" เฟิร์นถามด้วยความตกใจอีกครั้ง "หึหึหึ! เดี๋ยวพวกเธอก็จะได้รู้!!!" อุ๋งศรีกล่าวด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย "แล้วพวกเราจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่?" นุชถาม "เมื่อภารกิจเสร็จนั่นแหละ! เลิกถามได้แล้วพวกเธอน่ะ!!" อุ๋งศรีเริ่มรำคาญ "แต่ว่าฉันลืมแนะนำตัวไป! ฉันชื่ออุ๋งศรี เป็นหัวหน้าตำรวจหญิง ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนฝึกพวกเธอในการทำงานให้กับองค์กรของเราเอง และพวกเธอจะต้องเชื่อฟังฉัน!" "อืม..." เฟิร์นตอบ "..." แต่นุชไม่ตอบ
อุ๋งศรีหันหน้ากลับมาและพูดคนเดียว "หึหึ! แผนการแรกเริ่มขึ้นแล้ว!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
"นุช... ใครปิดไฟ?" เฟิร์นถามเพราะมองไม่เห็นอะไรเลย "อืมม... เราว่าไม่มีใครปิดไฟนะ แต่เราถูกคลุมหน้าอยู่น่ะสิ!" นุชตอบด้วยเสียงเบาราวกับกระซิบ
ในสภาพบรรยากาศที่เงียบสงัดแบบนี้ ทำให้เฟิร์นฟังสิ่งที่นุชพูดออกมาได้ดียิ่งขึ้น...
"เค้าจับเรามาทำไมอ่ะ?" เฟิร์นถาม "เราก็ไม่รู้..." นุชตอบ "แล้วใครจับเรามาอ่ะ?" เฟิร์นยังคงถามต่อไป... "ไม่รู้สิ..." นุชตอบพร้อมกับถอนหายใจ "คนจับเราเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?" "ไม่รู้... กระเทยมั้ง!" "จิงอ่ะ?!" "อืม..." "จิงดิ่?!" "..." "... ... ...????" "..." นุชใช้ไม้ตายด้วยการไม่พูดอะไรอีกต่อไปเพื่อทำให้เฟิร์นเลิกถาม
กรึ่กๆ!... เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงเหมือนคนกำลังไขกลอนประตูเพื่อจะเข้ามาในห้อง เอี๊ยดด... และแล้วประตูบานนั้นก็เปิดออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็ตามด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงกำลังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆสองสาว
พรึ่บ! มือซี๊ดๆดึงผ้าคลุมหน้าของสองสาวขึ้นมาอย่างแรง ทำให้เฟิร์นและนุชต้องหรี่ตาเพราะสายตายังไม่ชินกับแสงสว่าง
"หวัดดีฮะ!" หญิงสาวในชุดสูทสีเทากล่าวด้วยภาษาแปลกๆ
"คุณเป็นใครน่ะ?!" เฟิร์นตะโกนถาม "ผมหรอฮะ! ผมชื่อ..." หญิงสาวกำลังจะกล่าว แต่ทว่า... เธอลืมอะไรบางอย่าง หญิงสาวจึงถอยออกไปในระยะสั้นๆพอให้เธอยืนเหยียดตรงเหมือนนักการเมืองที่คอยยืนอยู่ด้านหลังนายกฯตอนที่นายกฯกำลังถูกสัมภาษณ์ในทีวีอย่างไรอย่างนั้น เธอยืดออกแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนหายใจยาวๆออกมา
"พูดสิฮะ เอ้ย! จะพูดอะไรก็รีบๆพูดสิ!" เฟิร์นเริ่มรำคาญ ในขณะที่นุชก็ยังนั่งเงียบๆอยู่เช่นเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ผมชื่อสะกำ เบียงเตย เป็นเลขาอันดับที่หนึ่งของท่านประธานยังไงล่ะ! โอ๊ะๆๆๆ! แต่ขอโทษนะฮะ เห็นกระผมแปลกๆแบบนี้ ผมจบจากอังกฤษนะฮะ โฮ๊ะๆๆ! ที่สำคัญ ผมมีรอยยิ้มเป็นส่วนตัวฮะ!"
"สงสัยจะเรียนเยอะไปล่ะมั้ง..." นุชกล่าวเบาๆ ซึ่งสะกำก็คงจะไม่ได้ยิน เพราะเธอมัวแต่หัวเราะและชื่นชมตัวเธออยู่อย่างนั้น จนเมื่อเธอได้สติ เธอจึงกระแอมเบาๆก่อนจะกล่าวต่อ "บอกมานะฮะ! ว่าพวกคุณทำงานให้ใครฮะ..." สะกำถาม "ทำงานอะไร? พาร์ทไทม์เดี๋ยวนี้เค้ารับอายุ 18 ขึ้นนะ เรายังทำงานไม่ได้หรอก" เฟิร์นกล่าว "ไม่ใช่สิฮะ!" สะกำเริ่มเสียงดังขึ้น "พวกคุณทำงานให้ใครฮะ!? ถ้าพวกคุณไม่ยอมบอก ผมซวยนะฮะ!" "เดี๋ยวๆ แล้วนี่เป็นผู้หญิง ทำไมถึงพูดฮะล่ะ?" เฟิร์นถาม "มันเป็นสไตล์ฮะ! เอ้า! อย่านอกเรื่องสิฮะ พวกคุณทำงานให้ใครฮะ?!" สะกำยังคงถามต่อไป "เราไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไรนะ แต่พวกเรากำลังจะกลับบ้าน พวกคุณก็จับเรามาที่นี่แหละ..." เฟิร์นกล่าว "พวกคุณนี่ปากแข็งนะฮะ หึหึ" สะกำกล่าวพร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มและสายตาแปลกๆราวกับจะดึงดูดสองสาวนั้นเข้าไป "ปากแข็งอะไร?... บ้าป่าว!??!!" นุชเริ่มหมดความอดทน "เอ้าๆ ไม่่เป็นไรฮะ!" สะกำเริ่มยิ้มมุมปาก "ผมคงจะต้องไปเรียนท่านประธานก่อนนะฮะ สำหรับวันนี้... สวัสดีฮะ!" สะกำพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันที
เหตุุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ยิ่งทวีความสงสัยให้กับนุชและเฟิร์นมากขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอกันแน่...
ณ ห้องท่านประธาน
ก๊อกๆ! สะกำเคาะประตูห้องท่านประธาน
"เข้ามา!" ท่านประธานกล่าว "ท่านประธานฮะ! ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลยฮะ เราควรทำยังไงดีฮะ?" สะกำเริ่มตั้งคำถาม
ชายหนุ่มในชุดสูทที่เทาที่ทุกคนเรียกว่าท่านประธาน เริ่มครุ่นคิด... เขามองสะกำผ่านแว่นตาสีดำหนาเตอะของเขาออกไป "ผมว่านะฮะ... เอ้ย! ผมว่านะ... เราควรเก็บพวกเขาไว้ก่อน รอให้พวกเขายอมเปิดปาก จากนั้นเราค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง" ท่านประธานกล่าวกับสะกำด้วยน้ำเสียงที่ดูสุขุมและขรึมอย่างน่าเกรงขาม
"แต่ว่า... เรามีเวลาไม่มากนะฮะท่าน" สะกำกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล "ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็ต้องทำให้พวกเขายอมเปิดปากให้เร็วที่สุด เข้าใจมั้ย!" ท่านประธานเสียงดังขึ้น "ขะ... เข้าใจฮะ ถ้าอย่างนั้นสะกำต้องไปก่อน สำหรับวันนี้... สวัสดีฮะ!" สะกำรีบออกไปจากห้องท่านประธานทันที
ท่านประธานหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 8พลัสของเขาขึ้นมา เขาปิดเกมส์คุ๊กกี้รันที่เปิดค้างไว้ แล้วกดเบอร์โทรก่อนที่เขาจะยกหูโทรศัพท์ขึ้น "ฮัลโล๋! หึหึ! ผมมีเรื่องอยากให้คุณ!!!... ห้ะ อ่าว ประกันหรอครับ โทษครับๆ โทรผิดฮะ... ยังครับ.. ครับ ยังไม่มีใครตายครับ..." เขายิ่มกรุ้มกริ่มและเริ่มกดเบอร์โทรใหม่อีกรอบหนึ่ง "ฮัลโล๋... หึหึ ประสิทธิ์! ผมมีเรื่องอยากให้คุณจัดการหน่อย... ใช่! ได้ตัวมาแล้ว! หึหึหึหึหึ!" ท่านประธานหัวเราะคนเดียวเบาแลัวจึงวางสายโทรศัพ์ลง
ท่านประธานมองออกไปนอกหน้าต่างของตัวอาคาร ภายนอกนั้นมีเพียงความว่างเปล่า เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาดื่ม มืออีกข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงเขายังคงยืนอยู่อย่างนั้น และสายตาก็มองออกไปพร้อมกับคิดในใจว่า 'เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนะ... จุดที่เราต้องมานั่งทำงานในที่ที่เราเคยดูถูกสารพัด แหม่... คิดแล้วมันช่าง... น่าสมเพชเสียนี่กะไร ไม่เคยคิดเลยว่า... งานของคุณพ่อ มันจะ... หนักหนาสาหัสขนาดนี้!'
ก๊อกๆๆๆ! ความคิดเพ้อเจ้อของท่านประธานต้องหยุดลงหลังจากได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง
"เชิญเข้ามา!" ท่านประธานกล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุมเช่นเดิม หญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับชายหนุ่มในชุดดำอีกหนึ่งคน หญิงคนหนึ่งใส่สูทสีขาว อีกคนหนึ่งมาในชุดตำรวจ "อ้าว! ประสิทธิ์ เข้ามาสิ ผมจะแนะนำให้รู้จัก" ท่านประธานกล่าวกับชายชุดดำที่เขาเรียกว่าประสิทธิ์ "นี่พร ชื่อจริงชื่อพรพรรณส่องแสง สว่างเจิดจ้าสุขาภิบาลอลังการบานตะไทในโลกาอะโลห้าคาบาเร่ เธอเป็นหัวหน้าหน่วยสืบที่ FBI ส่งมาทำงานให้กับผม" ท่านประธานชี้มือไปที่หญิงชุดขาว "สวัสดีค่ะ" พรมองประสิทธิ์และกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ "ส่วนนี่ ชื่ออุ๋งศรี ชื่อจริงชื่อนางสาวอุ๋งศรี ฉวีวรรณ เป็นหนึ่งในตำรวจหญิงหน่วยสืบสวนที่เก่งกาจที่สุดในโลก" ท่านประธานชี้มือไปที่ตำรวจหญิงมาดเข้ม "สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" อุ๋งศรีทักทายประสิทธิ์ "เอาล่ะ สองสาว ส่วนนี่คือประสิทธิ์ ชื่อจริงคือนายประสิทธิ์ อิทธิฤทธิ์เกรียงไกร เป็นบอดี้การ์ดที่ทำงานให้กับองค์ของผมตั้งแต่เขาลืมตาดูโลกวันแรกเลย" ท่านประธานแนะนำประสิทธิ์ให้สองสาวได้รู้จัก "ต่อไปนี้... พวกคุณทั้งสามคนจะต้องร่วมงานกัน แผนที่ผมเตรียมไว้จะเริ่มปฏิบัติจริงทันทีที่เป้าหมายยอมเปิดปากบอกความจริงและทำงานให้กับเรา" ท่านประธานกล่าวต่อทั้งสามคนที่อยู่ต่อหน้าเขา
"เอาล่ะ!" ท่านประธานเริ่มกล่าวต่อ "คุณได้ข้อมูลอะไรมาบ้างล่ะ พร?" ท่านประธานถาม "ท่านประธานค่ะ... จากข้อมูลที่เราได้มาที่จตุจักร เสื้อผ้าถูกสุด แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้ามือสองละก็ ที่นั่นมีมากมาย... มีใครจะคัดค้านไหม?" พรกล่าว "เรื่องนี้ต้องถามคนท้องถิ่น" อุ๋งศรีตอบ "สามเพ็งถูกกว่า" ประสิทธิ์เสริมขึ้นมา "บางคนก็บอกประตูน้ำ..." "จริงหรอ?" พรกล่าวด้วยความไม่แน่ใจ "โรงเกลือถูกสุด..." อุ๋งศรีเริ่มแย้ง "ฉันเคยไปที่นั่นมาแล้ว... เดินตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยเลย" "แบบนั้น... ข้อคงเคล็ด..." พรกล่าว "นั่นเรื่องจริง..." ประสิทธิ์เสริม "บางคนใช้น้ำมันมวนนวดให้หายเคล็ด... บ้างก็ใช้ยาหม่อง...." "ทาถู ทาถู..." ท่านประธานเสริม "ยาหม่องมันแก้แมลงสัตว์กัดต่อย..." พรแย้ง "ใช่! ผมเคยทาตอนโดนมดกัด หายคันเป็นปลิดทิ้ง" ท่านประธานช่วยเสริม "แซมบัคก็ใช้ได้!" ประสิทธิ์กล่าว "ตกลงเราจะคุยเรื่องชุดกันต่อไหม! หรือจะคุยเรื่องขี้ผึ้งแก้แมลงสัตว์กัดต่อย" อุ๋งศรีกล่าวอย่างรำคาญ "เคล็ดขัดยอก น้ำร้อนลวก แผลพุพอง เป็นหนอง เชื้อราบนหนังศรีษะ..." ท่านประธานกล่าว "ใช้เย็นเตร็กเจ้าของเดียวกับโทนาฟ" อุ๋งศรีต่อให้่จบ "ไปเรื่อยเลย..." พรกล่าว "สรุปว่าเราจะส่งสองสาวนั่นไป... แต่ถ้าให้เขาใส่ชุดองค์กรเรา จะต้องเป็นที่สะดุดตาเป็นแน่!" ท่านประธานกล่าว "เหยื่อที่เราจับมานั่นน่ะหรอ... แล้วเราจะให้พวกเขาแต่งตัวยังไงล่ะ..." อุ๋งศรีถาม "เสื้อยืด รองเท้าแตะ กางเกงยีน แล้วนั่งรถตุ๊กๆไป" ท่านประธานกล่าว
ณ ห้องคุมขัง
สองสาวนั่งอยู่เงียบๆอย่างไร้จุดมุ่งหมาย นุชหิวข้าว ส่วนเฟิร์นยากกลับบ้านไปฟังเพลงของ Justin Biber แต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายขนาดนั้น ตึ่ง! ประตูถูกเปิดออก ชายร่างยักษ์ในชุดดำจำนวนสี่คนเดินเข้ามาจับตัวของสองสาวออกไป
"นี่! จะพาเราไปไหน!" เฟิร์นกล่าวด้วยความตกใจ "หิวข้าว..." นุชกล่าวเบาๆ "เงียบเถอะน่า!" ชายร่างยักษ์คนหนึ่งกล่าว
พวกเขาพาสองสาวมานั่งในห้องโถงใหญ่ มือที่ถูกมัดของทั้งคู่ถูกแกะออก ในห้องโถงนั้นมีโต๊ะตัวยาวดูแล้วหรูหรา ตรงกลางของโต๊ะมีเชิงเทียนสีทองขนาดใหญ่วางอยู่ ด้านบนของห้องเมื่อมองขึ้นไปจะเห็นไฟที่ห้อยระบิยระยับลงมาเป็นสีทอง ดูแล้วหรูหรามากมาย หลายๆอย่างภายในห้องนี้ล้วนเป็นสีทองทั้งนั้น โต๊ะก็ทอง เก้าอี้ก็ทอง ไฟก็ทอง ห้างที่เยาวราชก็ทอง อะไรๆก็ทอง ขนาดดอกไม้ก็ยังเป็นสีทอง ทั้งหมดนี้ทำให้ทั้งสองสาวตาลุกวาว ไม่นานนักก็มีหญิงที่แต่งตัวสุภาพห้าคน ซึ่งทุกคนสวมเอี้ยมสีขาวอยู่ ที่ดูๆแล้วก็สามารถรู้ได้ว่านี่คือบรรดาแม่ครัว เดินตรงมาที่สองสาว ในมือของบรรดาแม่บ้านมีถาดสีเงินอร่ามอยู่ พวกเธอเดินตรงมาที่สองสาวพร้อมกับส่งยิ้มให้ และเปิดถาดอาหารสีเงินนั้นออกมา ในนั้นมีอาหารสุดหรูมากมาย
"เชิญทานเลยค่ะ..." แม่ครัวคนหนึ่งนำอาหารมาเสิร์ฟแล้วยิ้มให้เฟิร์นกับนุช "เอ่อ... ขอบคุณมากค่ะ" เฟิร์นตอบรับแบบงงๆ แต่เมื่อหันไปด้านข้างก็พบว่านุชทานไปครึ่งจานแล้ว "ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะคะ... ทั้งหมดนี้ท่านประธานเป็นคนจัดมาให้ค่ะ" แม่ครัวอีกคนหนึ่งกล่าวและยิ้มให้อย่างสุภาพ "ท่านประธานหรอคะ?" เฟิร์นถามแม่ครัวคนดังกล่าว "ใช่ค่ะ... คนที่อยู่ในรูปตรงนั้นไงคะ..." แม่ครัวชี้ไปที่กรอบรูปใหญ่กลางห้องโถง เผยให้เห็นชายหนุ่มวัยกลางคน เขาสวมแว่นตาสีดำ ทรงผมหยักโศกดกดำ ใบหน้านั้นยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ที่ริมฝีปาก ด้านล่างของกรอบรูปนั้นสลักชื่อ "บุญเสริม มนแคนแก่นคูน" ซึ่งน่าจะเป็นชื่อของท่านประธาน "อ๋อออ... คนนี้เองหรอที่จับตัวพวกเรามา" เฟิร์นกล่าว "หยุดพูดมากแล้วก็รีบกินได้แล้ว!" อุ๋งศรีที่ยืนอยู่ตรงประตูอีกฝากหนึ่งของห้องโถงพูดขึ้น "พวกเธอน่ะ! จะต้องมาทำงานให้กับองค์กรเรา..." "ทำงานให้หรอ?? องค์กรอะไรอ่ะ? แล้วทำไมพวกเราต้องทำด้วย?" เฟิร์นถามด้วยความตกใจอีกครั้ง "หึหึหึ! เดี๋ยวพวกเธอก็จะได้รู้!!!" อุ๋งศรีกล่าวด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย "แล้วพวกเราจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่?" นุชถาม "เมื่อภารกิจเสร็จนั่นแหละ! เลิกถามได้แล้วพวกเธอน่ะ!!" อุ๋งศรีเริ่มรำคาญ "แต่ว่าฉันลืมแนะนำตัวไป! ฉันชื่ออุ๋งศรี เป็นหัวหน้าตำรวจหญิง ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนฝึกพวกเธอในการทำงานให้กับองค์กรของเราเอง และพวกเธอจะต้องเชื่อฟังฉัน!" "อืม..." เฟิร์นตอบ "..." แต่นุชไม่ตอบ
อุ๋งศรีหันหน้ากลับมาและพูดคนเดียว "หึหึ! แผนการแรกเริ่มขึ้นแล้ว!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ