สลับร่างข้ามกาล
9.4
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.42 น.
20 บท
0 วิจารณ์
23.86K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 05.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ไต่ถามเรื่องราว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลวงเรืองฤิทธิ์พิจารณาท่อนไม้เปื้อนเลือดที่อีกฝ่ายยื่นส่งมาให้ แล้วก็เห็นจริงตามที่เด็กสาวกล่าว นึกสงสัยว่าเป็นฝีมือใครที่ปองร้ายแม่ผกากรอง เพราะที่นี่เป็นเรือนของพระยาราชปกรณ์ แล้วแม่ผกากรองก็เป็นบุตรสาวของเรือนนี้ ไม่มีทางที่บุคคลภายนอกจะเข้ามาทำร้ายได้แน่ จึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ และเมื่อเห็นศรีษะของร่างบางมีเลือดไหลซึมทางด้านหลังของศรีษะเป็นแผลแตก "แย่จริง...หล่อนเป็นอย่างไรบ้างเจ็บมากรึไม่" เอ่ยถามพร้อมกับเข้ามาตรวจดูแผลแตกบนศรีษะของเด็กสาว แพรวาย่นคิ้วและเอ่ยตอบ "รู้สึกเจ็บหน่วงๆชาๆน่ะค่ะ ก่อนที่ฉันจะเข้ามาอยู่ในร่างของ ผกากรอง ฉันกำลังมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนชายคนสนิทจนรู้สึกเสียใจและในชั่วเสี้ยววินาที ที่ฉันคิดน้อยใจและนึกไปถึงผกากรอง ว่าฉันน่าจะเหมาะที่จะอยู่ในที่ของผกากรองมากกว่าสถานที่ที่ฉันอยู่แต่เดิม แต่นั่นมันเป็นแค่ความคิดชั่ววูบ ที่เกิดจากอารมณ์ของความน้อยใจของฉันเท่านั้นนะคะ และในระหว่างที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีบางสิ่งมาชนเข้ากับร่างของฉัน พอรู้สึกตัวอีกครั้งฉันก็มาอยู่ในร่างของผกากรองแล้วล่ะค่ะ"
"ฉันมีเรื่องอยากถามคุณหลวงหน่อยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผกากรองเหรอคะ แล้วคุณหลวงลงไปช่วยร่างของผกากรองขึ้นมาจากน้ำได้ยังไง เพราะการที่ฉันเข้ามาอยู่ในร่างของผกากรองได้ ตัวเธอเองก็คงต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นและถ้าฉันเดาไม่ผิด ในความคิดของผกากรองในขณะนั้นก็คงคิดถึงเรื่องของฉันขึ้นมาเหมือนกัน จึงทำให้ฉันเข้ามาอยู่ในร่างของเธอได้น่ะค่ะคุณหลวง"
"แม่ผกากรองหล่อนทำตัวก๋ากั่นเกินหญิง หาญกล้าเข้าไปช่วยสู้กับบุรุษที่กำลังฉุดคร่าหญิงสาวจนตัวหล่อนเองต้องบาดเจ็บ โชคดีที่ฉันผ่านเข้ามาเห็นจึงช่วยไว้ได้ พอมาถึงเรือนก็ถูกพระยาราชปกรณ์ กับคุณหญิงกลีบผกา คุณพ่อคุณแม่ของหล่อนต่อว่า แม่ผกากรองร้องไห้น้อยใจวิ่งลงมาจากเรือน ฉันนึกห่วงจึงลงจากเรือนตั้งใจว่าจะตามมาปลอบหล่อน พอลงมาก็ไม่เห็นตัวหล่อนเสียแล้ว จึงเดินตามหาและก็ได้ยินเสียงดัง ตูม!! ดังมาจากทางนี้คล้ายกับร่างของคนตกน้ำ นึกสังหรณ์ใจว่าอาจเป็นแม่ผกากรองก็เลยรีบกระโดดลงไปดำลงไปใต้น้ำ และได้พบร่างของแม่ผกากรองจึงช่วยขึ้นมา หล่อนไม่มีสติฉันจึงต้องช่วยผายปอดอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งหล่อนลืมตาขึ้นมาแล้วตบหน้าของฉันนั่นแหละแม่แพรวา" คุณหลวงเล่าด้วยน้ำเสียงในตอนท้ายติดหยอกล้อปนขัน จนแพรวามีอาการค้อนใส่เข้าให้แล้วบ่นเสียงอ่อย "แหม...ก็มันตกใจนี่คะคุณหลวง อยู่ดีๆฟื้นขึ้นมาก็เจอผู้ชายแปลกหน้าก้มลงมาเอ่อ...ประกบปาก เป็นใครก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นนั่นแหละค่ะ" แพรวาหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าก้มลงมาจูบ เพราะเข้าใจแล้วว่าชายหนุ่มมีเจตนาดี ที่ตั้งใจช่วยคนจมน้ำผายปอดจึงเลือกใช้คำว่าประกบปากแทนด้วยสีหน้าอายๆ หลวงเรืองฤิทธิ์รู้ทันคำเลี่ยงของอีกฝ่ายดีแต่ก็ไม่กล่าวอะไรออกไปให้ร่างบางต้องอาย และกิริยาของแพรวาก็ทำให้คุณหลวงเผลอมองความรู้สึกภายในใจสั่นไหว กับกิริยาที่น่ารักน่ามองนั้น มัวแต่จ้องเพลินจนนึกขึ้นมาได้ว่า แม่แพรวากำลังมีแผลแตกที่ศรีษะจึงรีบกล่าวตัดบทสนทนา
"ฉันว่าเรื่องนี้เอาไว้ไปถึงเรือนแล้วค่อยคุย พร้อมกันกับพระยาราชปกรณ์กับคุณหญิงกลีบผกาทีหลังเถิด เลือดบนศรีษะของหล่อนเริ่มไหลมากแล้ว"
"ฉันมีเรื่องอยากถามคุณหลวงหน่อยค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผกากรองเหรอคะ แล้วคุณหลวงลงไปช่วยร่างของผกากรองขึ้นมาจากน้ำได้ยังไง เพราะการที่ฉันเข้ามาอยู่ในร่างของผกากรองได้ ตัวเธอเองก็คงต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นและถ้าฉันเดาไม่ผิด ในความคิดของผกากรองในขณะนั้นก็คงคิดถึงเรื่องของฉันขึ้นมาเหมือนกัน จึงทำให้ฉันเข้ามาอยู่ในร่างของเธอได้น่ะค่ะคุณหลวง"
"แม่ผกากรองหล่อนทำตัวก๋ากั่นเกินหญิง หาญกล้าเข้าไปช่วยสู้กับบุรุษที่กำลังฉุดคร่าหญิงสาวจนตัวหล่อนเองต้องบาดเจ็บ โชคดีที่ฉันผ่านเข้ามาเห็นจึงช่วยไว้ได้ พอมาถึงเรือนก็ถูกพระยาราชปกรณ์ กับคุณหญิงกลีบผกา คุณพ่อคุณแม่ของหล่อนต่อว่า แม่ผกากรองร้องไห้น้อยใจวิ่งลงมาจากเรือน ฉันนึกห่วงจึงลงจากเรือนตั้งใจว่าจะตามมาปลอบหล่อน พอลงมาก็ไม่เห็นตัวหล่อนเสียแล้ว จึงเดินตามหาและก็ได้ยินเสียงดัง ตูม!! ดังมาจากทางนี้คล้ายกับร่างของคนตกน้ำ นึกสังหรณ์ใจว่าอาจเป็นแม่ผกากรองก็เลยรีบกระโดดลงไปดำลงไปใต้น้ำ และได้พบร่างของแม่ผกากรองจึงช่วยขึ้นมา หล่อนไม่มีสติฉันจึงต้องช่วยผายปอดอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งหล่อนลืมตาขึ้นมาแล้วตบหน้าของฉันนั่นแหละแม่แพรวา" คุณหลวงเล่าด้วยน้ำเสียงในตอนท้ายติดหยอกล้อปนขัน จนแพรวามีอาการค้อนใส่เข้าให้แล้วบ่นเสียงอ่อย "แหม...ก็มันตกใจนี่คะคุณหลวง อยู่ดีๆฟื้นขึ้นมาก็เจอผู้ชายแปลกหน้าก้มลงมาเอ่อ...ประกบปาก เป็นใครก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นนั่นแหละค่ะ" แพรวาหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าก้มลงมาจูบ เพราะเข้าใจแล้วว่าชายหนุ่มมีเจตนาดี ที่ตั้งใจช่วยคนจมน้ำผายปอดจึงเลือกใช้คำว่าประกบปากแทนด้วยสีหน้าอายๆ หลวงเรืองฤิทธิ์รู้ทันคำเลี่ยงของอีกฝ่ายดีแต่ก็ไม่กล่าวอะไรออกไปให้ร่างบางต้องอาย และกิริยาของแพรวาก็ทำให้คุณหลวงเผลอมองความรู้สึกภายในใจสั่นไหว กับกิริยาที่น่ารักน่ามองนั้น มัวแต่จ้องเพลินจนนึกขึ้นมาได้ว่า แม่แพรวากำลังมีแผลแตกที่ศรีษะจึงรีบกล่าวตัดบทสนทนา
"ฉันว่าเรื่องนี้เอาไว้ไปถึงเรือนแล้วค่อยคุย พร้อมกันกับพระยาราชปกรณ์กับคุณหญิงกลีบผกาทีหลังเถิด เลือดบนศรีษะของหล่อนเริ่มไหลมากแล้ว"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ