สลับร่างข้ามกาล
9.4
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.42 น.
20 บท
0 วิจารณ์
23.88K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 05.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ผกากรอง สาวแสบแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความที่ยุคอดีต ผกากรองออกมาเดินเที่ยวที่ตลาดกับบ่าวรับใช้อีกคนหนึ่งในระหว่างที่กำลังเดินดูของที่แม่ค้านำมาวางขายจนเพลิน ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวคนหนึ่งดังแว่วมา "ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!...ช่วยด้วย โอ๊ย!" ผกากรองนึกสงสัยจึงรีบดูไปตามเสียงร้อง แล้วก็ได้เห็นว่ามีชายฉกรรจ์อยู่สองคน กำลังฉุดคร่าหญิงสาวดูจากการแต่งกายแล้ว น่าจะเป็นบ่าวไพร่จากเรือนไหนสักที่ เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ ต่อหน้าต่อตาผู้คน อย่างไม่กลัวเกรงใคร ผกากรองตัดสินใจตรงเข้าไปช่วย "เฮ้ย! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้พวกบ้านี่ รังแกผู้หญิงรึ!" ว่าแล้วก็ปี่เข้าไปต่อสู้ เธอกระโดดถีบเข้าไปที่ชายคนหนึ่ง "นี่แนะ! ตรงเข้าไปขวางกันหญิงสาวที่เป็นเป้าหมายในการฉุดออกไปอยู่ข้างหลัง และพยายามต่อสู้จนชายฉกรรจ์ ทั้งสองคนแย่ไปตามๆกัน แต่กระนั้นเรี่ยวแรงของผู้ชายย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงอยู่โดยธรรมชาติอยู่แล้ว และยิ่งอีกฝ่ายมีถึงสองคน จึงเป็นเรื่องยากที่ผกากรองจะต่อกรได้ไหว ผกากรองถูกชายหนึ่งในนั้นชกเข้าที่ท้องจนจุก ในขณะที่สถานการณ์กำลังเสียเปรียบ
พอดีกับที่หลวงเรืองฤิทธิ์ ผ่านเข้ามาเห็นจึงตรงเข้าช่วยต่อสู้ จนชายทั้งสองคนรีบหนีไป เมื่อเรื่องคลี่คลายแล้ว หลวงเรืองฤิทธิ์จึงเข้ามาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น "เกิดอะไรขึ้นรึ แม่ผกากรอง" หลวงเรืองไต่ถามพร้อมกับตรงเข้ามาประคองด้วยความเป็นห่วงเพราะ ร่างบางตรงหน้ากำลังมีอาการจุกเสียดอยู่ และผู้ที่ตอบคำถามแทนก็คือหญิงสาวผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ "บ่าวชื่อ เอื้องเจ้าค่ะ เป็นบ่าวเรือนคุณหลวงเทวา กำลังถูกชายสองคนนั้นฉุดเอาตัวไป แต่ได้หญิงผู้นี้เข้ามาช่วยไว้ด้วยความหวังดี แต่สู้ไม่ไหว จึงพลาดพลั้งถูกพวกมันทำร้ายเอาเจ้าค่ะ" "เฮ่อ...เอาอีกแล้วรึแม่ผกากรอง แล้วเป็นอย่างไรเล่านั้นน่ะ ทำหาญกล้าเยี่ยงนั้นหากฉันไม่มาเห็นเข้า วีรสตรีอย่างแม่ผกากรองคงรับเคราะห์ไปด้วย"
"อูย...จุกจังเจ้าคะคุณหลวงเรือง ก็เห็นคนเดือดร้อนถูกฉุดอยู่ทนโท่ แล้วก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเลยนี่เจ้าคะ อิฉันก็เลยต้องช่วยแต่ว่าขอบพระคุณคุณหลวงเรืองมากนะเจ้าคะ แฮะๆๆ" หลวงเรืองส่ายหน้าให้กับเด็กสาวตรงหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ กับความซุกซนแสบก๋ากั่นเกินหญิง ด้วยความขันปนเอ็นดู เมื่ออาสาพามาส่งถึงบ้านและเล่าเรื่องราวให้พระยาราชปกรณ์และคุณหญิงกลีบผกาฟัง สาวแสบก็ถูกเทศนาเสียยกใหญ่ "ทำเรื่องมาอีกแล้วรึ แม่ผกากรอง พ่อล่ะเหนื่อยใจกับเราเสียจริง ริทำตัวเป็นวีรสตรีหาญกล้า นี่ถ้าไม่ได้หลวงเรือง ผ่านมาช่วยไว้ล่ะก็แม่ผกากรองไม่ต้องย่ำแย่ไปด้วยหรอกรึ" คุณหญิงกลีบผกาที่นั่งอยู่ข้างๆก็เอ็ดเสริมไปด้วยอีกคนหนึ่ง "จะช่วยเหลือใครก็ต้องดูกำลังตัวเองด้วยสิ แม่ผกากรอง เราเป็นหญิงนะ จะหาญสู้กับผู้ชายมันเกินกำลังเราเกินไป ช่วยอยู่กับบ้านให้พ่อกับแม่สบายใจหน่อยได้หรือไม่" ด้วยความที่ผกากรองยังเป็นเด็กสาวอายุสิบแปด ความคิดจึงยังคงเป็นเด็กก็พาให้น้อยใจ เพราะคิดว่าตัวเองหวังดีและทำความดีด้วยการช่วยคน แต่กลับถูกบ่นว่า แทนที่จะได้รับคำชมจึงร้องไห้วิ่งปึงปังลงจากเรือนไปด้วยความน้อยใจ ที่คิดว่าเธอเหมือนกับอยู่ไม่ถูกที่ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาใครไปเสียหมด เธออยากมีชีวิตที่เป็นอิสระที่จะสามารถคิดหรือทำอะไรได้อย่างเสรี และผู้คนยอมรับในตัวเธอ
พอดีกับที่หลวงเรืองฤิทธิ์ ผ่านเข้ามาเห็นจึงตรงเข้าช่วยต่อสู้ จนชายทั้งสองคนรีบหนีไป เมื่อเรื่องคลี่คลายแล้ว หลวงเรืองฤิทธิ์จึงเข้ามาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น "เกิดอะไรขึ้นรึ แม่ผกากรอง" หลวงเรืองไต่ถามพร้อมกับตรงเข้ามาประคองด้วยความเป็นห่วงเพราะ ร่างบางตรงหน้ากำลังมีอาการจุกเสียดอยู่ และผู้ที่ตอบคำถามแทนก็คือหญิงสาวผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ "บ่าวชื่อ เอื้องเจ้าค่ะ เป็นบ่าวเรือนคุณหลวงเทวา กำลังถูกชายสองคนนั้นฉุดเอาตัวไป แต่ได้หญิงผู้นี้เข้ามาช่วยไว้ด้วยความหวังดี แต่สู้ไม่ไหว จึงพลาดพลั้งถูกพวกมันทำร้ายเอาเจ้าค่ะ" "เฮ่อ...เอาอีกแล้วรึแม่ผกากรอง แล้วเป็นอย่างไรเล่านั้นน่ะ ทำหาญกล้าเยี่ยงนั้นหากฉันไม่มาเห็นเข้า วีรสตรีอย่างแม่ผกากรองคงรับเคราะห์ไปด้วย"
"อูย...จุกจังเจ้าคะคุณหลวงเรือง ก็เห็นคนเดือดร้อนถูกฉุดอยู่ทนโท่ แล้วก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเลยนี่เจ้าคะ อิฉันก็เลยต้องช่วยแต่ว่าขอบพระคุณคุณหลวงเรืองมากนะเจ้าคะ แฮะๆๆ" หลวงเรืองส่ายหน้าให้กับเด็กสาวตรงหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ กับความซุกซนแสบก๋ากั่นเกินหญิง ด้วยความขันปนเอ็นดู เมื่ออาสาพามาส่งถึงบ้านและเล่าเรื่องราวให้พระยาราชปกรณ์และคุณหญิงกลีบผกาฟัง สาวแสบก็ถูกเทศนาเสียยกใหญ่ "ทำเรื่องมาอีกแล้วรึ แม่ผกากรอง พ่อล่ะเหนื่อยใจกับเราเสียจริง ริทำตัวเป็นวีรสตรีหาญกล้า นี่ถ้าไม่ได้หลวงเรือง ผ่านมาช่วยไว้ล่ะก็แม่ผกากรองไม่ต้องย่ำแย่ไปด้วยหรอกรึ" คุณหญิงกลีบผกาที่นั่งอยู่ข้างๆก็เอ็ดเสริมไปด้วยอีกคนหนึ่ง "จะช่วยเหลือใครก็ต้องดูกำลังตัวเองด้วยสิ แม่ผกากรอง เราเป็นหญิงนะ จะหาญสู้กับผู้ชายมันเกินกำลังเราเกินไป ช่วยอยู่กับบ้านให้พ่อกับแม่สบายใจหน่อยได้หรือไม่" ด้วยความที่ผกากรองยังเป็นเด็กสาวอายุสิบแปด ความคิดจึงยังคงเป็นเด็กก็พาให้น้อยใจ เพราะคิดว่าตัวเองหวังดีและทำความดีด้วยการช่วยคน แต่กลับถูกบ่นว่า แทนที่จะได้รับคำชมจึงร้องไห้วิ่งปึงปังลงจากเรือนไปด้วยความน้อยใจ ที่คิดว่าเธอเหมือนกับอยู่ไม่ถูกที่ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาใครไปเสียหมด เธออยากมีชีวิตที่เป็นอิสระที่จะสามารถคิดหรือทำอะไรได้อย่างเสรี และผู้คนยอมรับในตัวเธอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ