สลับร่างข้ามกาล

ค่ำคืนหนึ่งในขณะที่แพรวาและผกากรองกำลังอยู่ในห้วงนิทรา    อาจเป็นโชคชะตาที่ทำให้ทั้งสองสาวต่างยุค           ได้มาพบกันในความฝันข้ามกาลเวลา ในฝันผกากรองกำลังนอนหลับและฝันไปว่า         เธอกำลังเล่นอยู่กับลูกของบ่าวไพร่และบริวารอยู่อย่างสนุกสนาน           แต่อยู่ๆก็มีแสงสีขาวสว่างจ้าจนเด็กสาวผู้ใจกล้าและซุกซน           สงสัยและเดินหายเข้าไปในแสงสีขาวนั้น   และเมื่อเธอได้เดินผ่านแสงสีขาวนั้นมา    เธอก็ออกมาพบกับสถานที่แปลกตา เป็นห้องที่ผนังไม่ได้ทำจากไม้อย่างเดียวกับบ้านของเธอ    และเมื่อสัมผัสดูก็รู้สึกถึงความแข็งอย่างมากของผนัง         ภายในห้องมีหญิงสาวคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก            นอนหลับอยู่บนเตียงสวมใส่ชุดประหลาดที่ไม่เหมือนกับผู้คนในยุคของเธอ    เธอเดินเข้าไปใกล้เมื่อก้มมองดู     ก็พบว่าหญิงสาวที่นอนอยู่เป็นสาวงามจนชวนตะลึง   ผิวพรรณ         ก็ดูขาวนวลเนียน      จนเธออยากทำความรู้จัก            ผกากรองเอื้อมมือไปสะกิดอีกฝ่ายพร้อมกับส่งเสียงเรียก  "นี่ๆ หล่อนๆ"     แพรวารู้สึกถึงแรงสะกิดและเสียงสดใสเรียกข้างหู  จึงลืมตาขึ้นมองดูแล้วก็พบว่า   คนที่มาสะกิดเธอนั้นเป็นเด็กสาวที่เด็กกว่าเธอ  สวมใส่ชุดไทยโบราณเหมือนกับที่เคยเห็นในละครพีเรียดย้อนยุค    เธอรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวตรงหน้าทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน        เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงและเอ่ยถามเด็กสาวชุดไทยด้วยเสียงนุ่มนวล    "เธอเป็นใครกันจ๊ะ  เข้ามาในห้องนอนของฉันได้ยังไง"                 ผกากรองส่งยิ้มสดใสและตอบด้วยน้ำเสียงกังวาลใส   "พี่สาวงามมากเลย    ข้าชื่อผกากรองเป็นลูกของพระยาราชปกรณ์ กับคุณหญิงกลีบผกาจ่ะ   จำได้ว่ากำลังเล่นอยู่ที่บ้านดีๆ  ก็มีลำแสงประหลาดโผล่มา       นึกสงสัยก็เลยเดินเข้าไปแล้วพอออกมาอีกที  ก็มาโผล่ที่นี่ น่ะจ่ะ   แล้วพี่สาวล่ะทำไมถึงแต่งกายแปลกๆเยี่ยงนั้น              แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน     ไม่เห็นเหมือนเรือนของข้าเลย"
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แนะนำตัว      และผลัดกันพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของแต่ละคน        จนทำให้สองสาวได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนต่างยุคสมัยกันกับตน พาให้นึกแปลกใจกับเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น   ไตร่ถามจนค้นพบว่าสิ่งที่เชื่อมให้สองสาวต่างยุคได้พบกันนั้นคือในความฝัน     เพราะก่อนหน้านั้นต่างฝ่ายต่างมีความคิดอันแน่วแน่ที่เบื่อหน่าย      กับสถานการณ์รอบข้างที่ตนเองต้องเผชิญจนอยากหลีกหนี          แพรวานั้นกำลังกลุ้มใจเพราะกำลังทะเลาะกับคนรักเรื่องทัศนคติที่ไม่ตรงกัน     ส่วนผกากรองนั้นก็เบื่อหน่ายกับเสียงบ่นว่าของใครต่อใครโดยเฉพาะผกามาศพี่สาวของเธอ   ที่ชอบเอาความประพฤติของเธอมาว่ากระทบยกมาข่มจนเธอรำคาญใจ          จำได้ว่าก่อนจะนอนเธอเข้าไปในห้องพระตั้งใจจะไปอธิฐานกับองค์พระในห้อง           แต่ก็ได้พบกับนาฬิกาโบราณเรือนเก่าตั้งอยู่บนพาน            จึงหยิบเอามาและอธิฐานจิตกับองค์พระ    ว่าหากแต่นาฬิกาเรือนนี้และด้วยอำนาจแห่งพระพุทธองค์    ขอให้ช่วยนำทาง    ให้เธอหลุดพ้นจากเรื่องหงุดหงิดวุ่นวายใจที่กำลังเป็นอยู่        
ในขณะที่ทางฝ่ายแพรวาก็ไปทำบุญที่วัดเพื่อหวังให้จิตใจสงบ   แล้วก็ไปไหว้พระประทานในโบสถ์อธิฐานให้อำนาจของพระพุทธองค์นำแสงสว่างมาให้เธอ   เพียงแต่ช่วงเวลาที่อธิฐานนั้นต่างเวลากัน  ของแพรวาอธิฐานเมื่อตอนกลางวัน  ส่วนผกากรองนั้นอธิฐานในห้องพระก่อนนอนตอนกลางคืน         หลังจากนั้นเป็นต้นมาแพรวาและผกากรอง               ก็อธิฐานจิตในห้องพระก่อนนอนขอให้ได้พบกัน                     และทั้งสองก็พบปะพูดคุยผ่านความฝันกันทุกคืน      นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของโชคชะตา         ของหญิงสาวต่างยุคที่กำลังจะทำให้ชีวิตของหญิงสาวทั้งสองเปลี่ยนไป