สลับร่างข้ามกาล
9.4
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.42 น.
20 บท
0 วิจารณ์
23.86K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 05.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ความรู้สึกเศร้าหมองในจิตใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความที่ยุคอดีต คุณหญิงกลีบผกาได้ให้แพรวาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกและเป็นผู้อาสาทำแผลให้เธอด้วยตัวเอง คุณหญิงกลีบผกาและพระยาราชปกรณ์รู้สึกเอ็นดูแพรวาในร่างของผกากรองมาก เพราะเธอเป็นหญิงสาวผู้มีกิริยามารยาทสุภาพอ่อนหวานน่ารักน่าเอ็นดู ถึงแม้ว่าแพรวาจะไม่ใช่บุตรสาวของพวกท่าน แต่พวกท่านก็รักใคร่เอ็นดูและไม่นึกรังเกียจ
"ฉันต้องขอบใจหล่อนมากนะ แม่แพรวาที่บอกเล่าเรื่องของหล่อนกับแม่ผกากรองให้ฉันได้รับรู้ ทั้งที่ตัวหล่อนก็คงจะสับสนกับความเปลี่ยนแปลง ของตัวเองอย่างกะทันหันแบบเดียวกัน แต่หล่อนก็รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างสุขุมเยือกเย็น และพูดคุยกับพวกเราอย่างตรงไปตรงมา" พระยาราชปกรณ์กล่าวขอบคุณแพรวา ในขณะนั่งอยู่บนแคร่เคียงข้างคุณหญิงกลีบผกาที่กำลังทำแผลให้เธอ แพรวายิ้มรับก่อนจะกล่าวคำพูดออกมาตามที่ใจคิด "ไม่เป็นไรค่ะคุณพระ แพรเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่แพรจะต้องปิดบังอะไร ตอนแรกที่แพรฟื้นขึ้นมาก็ตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ แต่พอได้ยินคุณหลวงเรียกแพรว่าแม่ผกากรอง และเครื่องแต่งกายและภาพลักษณ์ของคุณหลวง ก็แตกต่างจากผู้คนในสถานที่ที่แพรจากมา เมื่อรวมเข้ากับเรื่องที่เคยได้ฟังจากคำบอกเล่าของผกากรองเกี่ยวกับคุณหลวง ก็เลยทำให้แพรปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้น่ะค่ะ แล้วก็ตัดสินใจบอกเล่าทุกสิ่งตามความเป็นจริง เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิต ของตัวแพรและผกากรองโดยตรง ทุกคนในครอบครัวหรือคนสำคัญของผกากรอง สมควรจะได้รับรู้เรื่องนี้ แล้วตัวแพรเองก็ไม่นิยมชมชอบ กับการพยายามที่จะเปลี่ยนความเป็นตัวตนของตัวเองไปเป็นเหมือนใครด้วยค่ะ"
ท้ายประโยคแพรวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง สีหน้าเศร้าลงจนทุกคนสังเกตุเห็น
หลวงเรืองฤิทธิ์มองกิริยานั้นของร่างบางนิ่ง และรู้สึกว่าจิตใจของเขาก็เหมือนจะพลอยไม่สบายใจกับอาการเศร้าหมองนั้นไปด้วย คุณหญิงกลีบผกาที่เห็นอาการเศร้าหมองจากหญิงสาว ในร่างของบุตรสาวก็ให้นึกห่วงเหมือนกับได้เห็นบุตรสาวของท่านเศร้า จึงถามขึ้นอย่างอ่อนโยน
"มีเรื่องอะไรอย่างนั้นรึแม่แพรวา" แพรวาตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของเธอออกมาเพื่อระบายความอัดอั้นให้ใครสักคนได้ฟัง "ก่อนที่แพรจะเข้ามาอยู่ในร่างของผกากรอง ในที่ที่แพรจากมานั้นแพรได้คบหาดูใจกับเพื่อนชายคนสนิทอยู่คนหนึ่่งค่ะเขาชื่ออานนท์์ แต่สถานที่ที่แพรจากมานั้นมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุอันล้ำสมัยแตกต่างจากที่นี่ ดังนั้นแนวความคิดและวัฒนธรรมจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อย่างเช่นค่านิยมของความรักนวลสงวนตัวของผู้หญิง ที่พากันปล่อยให้ผู้ชายที่เพียงแค่คบหาดูใจและยังไม่ได้แต่งงานกัน กอดจูบหรือชิงสุกก่อนห่ามได้กันจนเป็นเรื่องปกติ การแต่งกายที่เน้นการเปิดเผยเรือนร่าง เพื่ออวดหุ่นของตัวเองว่าสวยงามซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้คนในสถานที่ ที่แพรจากมาปฏิบัติกันจนเป็นเรื่องปกติค่ะ"
"ในขณะที่แพรกลับมีแนวความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ก็เลยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ล้าสมัยตกยุค แพรมักจะมีปากเสียงกับนนท์ด้วยเรื่องพวกนี้อยู่เป็นประจำ จนกระทั่งหนหลังสุดเขาซื้อเสื้อผ้าที่ค่อนข้างโป๊และอวดเนื้อหนังมังสาที่เป็นชุด ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในสังคมนั้นนิยมใส่กัน เพื่อให้แพรใส่มาร่วมงานเลี้ยงของกลุ่มเพื่อน แต่แพรไม่กล้าใส่เพราะเห็นว่ามันโป๊เกินไปจึงตัดสินใจ เลือกใส่ชุดที่ปิดมิดชิดและเรียบร้อยแทน แต่มันกลับทำให้นนท์รู้สึกอายเพื่อน ที่แพรทำตัวเป็นผู้หญิงเชยตกยุคจนเขาถูกกลุ่มเพื่อนล้อ นนท์โกรธแพรและขึ้นเสียงต่อว่าแพรเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ" "แพรเสียใจและน้อยใจที่เขาเห็นเรื่องหน้าตาของเขา สำคัญกว่าความเป็นตัวตนของแพร จึงได้ตัดสินใจวิ่งออกมาจากงาน และชั่วขณะนั้นแพรนึกถึงผกากรองขึ้นมา ก่อนที่แพรจะรู้สึกว่าร่างของแพรถูกบางสิ่งกระแทกร่าง และพอฟื้นขึ้นมาแพรก็เข้ามาอยู่ในร่างของผกากรองแล้วล่ะค่ะ แพรรู้สึกเสียใจที่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับแพรมานาน จนพัฒนาความสัมพันธ์กัน เขาน่าจะรู้จักแพรดีกว่าใคร แพรก็เป็นของแพรแบบนี้มานานแล้ว แต่เขากลับเห็นว่าแนวความคิดของแพรล้าสมัยและอับอายเพื่อน"
"แพรผิดหรือคะที่ไม่เห็นดีด้วย และห้ามปรามกับการปล่อยให้ผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานกันกอดจูบตามอำเภอใจ แพรก็แค่คิดว่าตราบที่ยังคบหาดูใจกัน และยังไม่แต่งงานก็ควรจะเคารพให้เกียตรซึ่งกันและกัน และแพรก็ไม่ชอบที่จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้านุ่งน้อยห่มน้อย อวดให้ผู้ชายคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนรักหรือสามีของแพรเห็น ซึ่งนั่นทำให้แพรคิดว่าถ้าแพรมาอยู่ที่นี่ ความคิดของแพรก็คงไม่ผิดแปลก จนเหมือนตัวประหลาดในสายตาของใคร ทั้งที่แต่ก่อนค่านิยมแนวความคิดของสังคมที่แพรอยู่ ก็เคยมีค่านิยมในแบบเดียวกับที่แพรยึดถือ แต่พอมีความเจริญทางวัตถุและรับเอาวัฒนธรรมของชาวตะวันตกเข้ามา จนทำให้ทุกคนเปลี่ยนค่านิยมไปตามสังคมที่เปลี่ยนไป ในขณะที่แพรยังนิยมที่จะยึดถือสิ่งเหล่านี้ไว้อยู่ แต่มันกลับทำให้แพรกลายเป็นสาวตกยุคให้ผู้คนล้อกันสนุก และถูกมองว่าน่าเบื่อในสายตาของผู้ชายที่แพรคบหาดูใจ"
คุณหญิงกลีบผกาตบอกด้วยความตกใจ กับแนวความคิดและค่านิยมในสังคมของแม่แพรวา ว่าช่างแปลกประหลาดและน่าเกลียดอะไรอย่างนี้ เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกขัดใจ "ตายจริง! ยึดถืออะไรกันแบบนั้น สิ่งที่แม่แพรวายึดถือมันก็ดีงามเหมาะสมสำหรับผู้หญิงแล้วมิใช่รึ พ่อหนุ่มนั่นก็แปลกซื้อเสื้อผ้าโป๊นุ่งน้อยห่มน้อยให้ผู้หญิงของตัวเองใส่ไปอวดชายอื่น ไม่รู้สึกหึงหวงหรือไร"
"ฉันว่าแม่แพรวาเลิกคบหากับไอ้ผู้ชาย ที่มีค่านิยมเสื่อมทรามเช่นนั้นซะเถิด ชายหนุ่มที่ชื่ออานนท์คนนั้น ไม่คู่ควรกับแม่แพรวาเลยสักนิด" หลวงเรืองฤิทธิ์รีบเอ่ยเสริมขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่โกรธแทนหญิงสาวปะปนกับความรู้สึกส่วนตัวของเขาเองที่อยากให้แม่แพรวาเลิกกับชายคนรัก ซึ่งความรู้สึกอย่างหลังดูเหมือนจะชัดเจนยิ่งกว่า
"ฉันต้องขอบใจหล่อนมากนะ แม่แพรวาที่บอกเล่าเรื่องของหล่อนกับแม่ผกากรองให้ฉันได้รับรู้ ทั้งที่ตัวหล่อนก็คงจะสับสนกับความเปลี่ยนแปลง ของตัวเองอย่างกะทันหันแบบเดียวกัน แต่หล่อนก็รับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างสุขุมเยือกเย็น และพูดคุยกับพวกเราอย่างตรงไปตรงมา" พระยาราชปกรณ์กล่าวขอบคุณแพรวา ในขณะนั่งอยู่บนแคร่เคียงข้างคุณหญิงกลีบผกาที่กำลังทำแผลให้เธอ แพรวายิ้มรับก่อนจะกล่าวคำพูดออกมาตามที่ใจคิด "ไม่เป็นไรค่ะคุณพระ แพรเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่แพรจะต้องปิดบังอะไร ตอนแรกที่แพรฟื้นขึ้นมาก็ตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ แต่พอได้ยินคุณหลวงเรียกแพรว่าแม่ผกากรอง และเครื่องแต่งกายและภาพลักษณ์ของคุณหลวง ก็แตกต่างจากผู้คนในสถานที่ที่แพรจากมา เมื่อรวมเข้ากับเรื่องที่เคยได้ฟังจากคำบอกเล่าของผกากรองเกี่ยวกับคุณหลวง ก็เลยทำให้แพรปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้น่ะค่ะ แล้วก็ตัดสินใจบอกเล่าทุกสิ่งตามความเป็นจริง เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิต ของตัวแพรและผกากรองโดยตรง ทุกคนในครอบครัวหรือคนสำคัญของผกากรอง สมควรจะได้รับรู้เรื่องนี้ แล้วตัวแพรเองก็ไม่นิยมชมชอบ กับการพยายามที่จะเปลี่ยนความเป็นตัวตนของตัวเองไปเป็นเหมือนใครด้วยค่ะ"
ท้ายประโยคแพรวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง สีหน้าเศร้าลงจนทุกคนสังเกตุเห็น
หลวงเรืองฤิทธิ์มองกิริยานั้นของร่างบางนิ่ง และรู้สึกว่าจิตใจของเขาก็เหมือนจะพลอยไม่สบายใจกับอาการเศร้าหมองนั้นไปด้วย คุณหญิงกลีบผกาที่เห็นอาการเศร้าหมองจากหญิงสาว ในร่างของบุตรสาวก็ให้นึกห่วงเหมือนกับได้เห็นบุตรสาวของท่านเศร้า จึงถามขึ้นอย่างอ่อนโยน
"มีเรื่องอะไรอย่างนั้นรึแม่แพรวา" แพรวาตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของเธอออกมาเพื่อระบายความอัดอั้นให้ใครสักคนได้ฟัง "ก่อนที่แพรจะเข้ามาอยู่ในร่างของผกากรอง ในที่ที่แพรจากมานั้นแพรได้คบหาดูใจกับเพื่อนชายคนสนิทอยู่คนหนึ่่งค่ะเขาชื่ออานนท์์ แต่สถานที่ที่แพรจากมานั้นมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุอันล้ำสมัยแตกต่างจากที่นี่ ดังนั้นแนวความคิดและวัฒนธรรมจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อย่างเช่นค่านิยมของความรักนวลสงวนตัวของผู้หญิง ที่พากันปล่อยให้ผู้ชายที่เพียงแค่คบหาดูใจและยังไม่ได้แต่งงานกัน กอดจูบหรือชิงสุกก่อนห่ามได้กันจนเป็นเรื่องปกติ การแต่งกายที่เน้นการเปิดเผยเรือนร่าง เพื่ออวดหุ่นของตัวเองว่าสวยงามซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้คนในสถานที่ ที่แพรจากมาปฏิบัติกันจนเป็นเรื่องปกติค่ะ"
"ในขณะที่แพรกลับมีแนวความคิดที่แตกต่างจากคนอื่น ก็เลยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ล้าสมัยตกยุค แพรมักจะมีปากเสียงกับนนท์ด้วยเรื่องพวกนี้อยู่เป็นประจำ จนกระทั่งหนหลังสุดเขาซื้อเสื้อผ้าที่ค่อนข้างโป๊และอวดเนื้อหนังมังสาที่เป็นชุด ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ในสังคมนั้นนิยมใส่กัน เพื่อให้แพรใส่มาร่วมงานเลี้ยงของกลุ่มเพื่อน แต่แพรไม่กล้าใส่เพราะเห็นว่ามันโป๊เกินไปจึงตัดสินใจ เลือกใส่ชุดที่ปิดมิดชิดและเรียบร้อยแทน แต่มันกลับทำให้นนท์รู้สึกอายเพื่อน ที่แพรทำตัวเป็นผู้หญิงเชยตกยุคจนเขาถูกกลุ่มเพื่อนล้อ นนท์โกรธแพรและขึ้นเสียงต่อว่าแพรเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ" "แพรเสียใจและน้อยใจที่เขาเห็นเรื่องหน้าตาของเขา สำคัญกว่าความเป็นตัวตนของแพร จึงได้ตัดสินใจวิ่งออกมาจากงาน และชั่วขณะนั้นแพรนึกถึงผกากรองขึ้นมา ก่อนที่แพรจะรู้สึกว่าร่างของแพรถูกบางสิ่งกระแทกร่าง และพอฟื้นขึ้นมาแพรก็เข้ามาอยู่ในร่างของผกากรองแล้วล่ะค่ะ แพรรู้สึกเสียใจที่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับแพรมานาน จนพัฒนาความสัมพันธ์กัน เขาน่าจะรู้จักแพรดีกว่าใคร แพรก็เป็นของแพรแบบนี้มานานแล้ว แต่เขากลับเห็นว่าแนวความคิดของแพรล้าสมัยและอับอายเพื่อน"
"แพรผิดหรือคะที่ไม่เห็นดีด้วย และห้ามปรามกับการปล่อยให้ผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานกันกอดจูบตามอำเภอใจ แพรก็แค่คิดว่าตราบที่ยังคบหาดูใจกัน และยังไม่แต่งงานก็ควรจะเคารพให้เกียตรซึ่งกันและกัน และแพรก็ไม่ชอบที่จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้านุ่งน้อยห่มน้อย อวดให้ผู้ชายคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนรักหรือสามีของแพรเห็น ซึ่งนั่นทำให้แพรคิดว่าถ้าแพรมาอยู่ที่นี่ ความคิดของแพรก็คงไม่ผิดแปลก จนเหมือนตัวประหลาดในสายตาของใคร ทั้งที่แต่ก่อนค่านิยมแนวความคิดของสังคมที่แพรอยู่ ก็เคยมีค่านิยมในแบบเดียวกับที่แพรยึดถือ แต่พอมีความเจริญทางวัตถุและรับเอาวัฒนธรรมของชาวตะวันตกเข้ามา จนทำให้ทุกคนเปลี่ยนค่านิยมไปตามสังคมที่เปลี่ยนไป ในขณะที่แพรยังนิยมที่จะยึดถือสิ่งเหล่านี้ไว้อยู่ แต่มันกลับทำให้แพรกลายเป็นสาวตกยุคให้ผู้คนล้อกันสนุก และถูกมองว่าน่าเบื่อในสายตาของผู้ชายที่แพรคบหาดูใจ"
คุณหญิงกลีบผกาตบอกด้วยความตกใจ กับแนวความคิดและค่านิยมในสังคมของแม่แพรวา ว่าช่างแปลกประหลาดและน่าเกลียดอะไรอย่างนี้ เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกขัดใจ "ตายจริง! ยึดถืออะไรกันแบบนั้น สิ่งที่แม่แพรวายึดถือมันก็ดีงามเหมาะสมสำหรับผู้หญิงแล้วมิใช่รึ พ่อหนุ่มนั่นก็แปลกซื้อเสื้อผ้าโป๊นุ่งน้อยห่มน้อยให้ผู้หญิงของตัวเองใส่ไปอวดชายอื่น ไม่รู้สึกหึงหวงหรือไร"
"ฉันว่าแม่แพรวาเลิกคบหากับไอ้ผู้ชาย ที่มีค่านิยมเสื่อมทรามเช่นนั้นซะเถิด ชายหนุ่มที่ชื่ออานนท์คนนั้น ไม่คู่ควรกับแม่แพรวาเลยสักนิด" หลวงเรืองฤิทธิ์รีบเอ่ยเสริมขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่โกรธแทนหญิงสาวปะปนกับความรู้สึกส่วนตัวของเขาเองที่อยากให้แม่แพรวาเลิกกับชายคนรัก ซึ่งความรู้สึกอย่างหลังดูเหมือนจะชัดเจนยิ่งกว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ