[Kai x Aichi Vanguard] Badly Love รักทรมานสีชมพู

7.7

เขียนโดย SayaTaeru

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.41 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  11.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 19.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2 สาวน้อยที่มีมลทิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2 สาวน้อยที่มีมลทิน

 

 

 

ไอจิค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาในห้องพักของเธอ นี่เพิ่งผ่านไปคืนแรกหลังจากที่เธอย้ายมาที่นี่ เจอเพื่อนเก่า...ที่ดูท่าไม่อยากจะเจอเธอเท่าไหร่นัก เพราะเขานั้นทั้งด่า ทั้งตะคอก ทั้งผลักไสไล่ส่ง แถมยังทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแท้ ๆ

ภาพของเด็กหนุ่มในวัยเยาว์ในอดีต เริ่มค่อย ๆ ถูกซ้อนทับด้วยความก้าวร้าวของเด็กหนุ่มคนเดียวกัน หากแต่ต่างกันตรงช่วงเวลา

ไอจิพาร่างของตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็ทำธุระส่วนตัวอะไรเรียบร้อยก็แต่งชุดนักเรียนของฮิตซุยในระดับชั้นม.ปลายออกจากห้องของเธอ เมื่อเปิดประตูออกไป ฝุ่นควัน และกลิ่นเหม็นของควันรถก็เข้ามาปะทะในโสตประสาทของไอจิอย่างจัง จนเด็กสาวต้องเอามือปิดปากและจมูกเพื่อกันไม่ให้ควันเข้ามาโดยสัญชาตญาณ

“นี่หรอ….เมืองที่เราจากมาเพียงไม่กี่ปี”ไอจิบ่นออกมาเบา ๆ เธอถือกระเป๋าสีดำใบเล็ก ๆ ออกมาด้วยก่อนจะหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากระโปรงออกมา ไอจิล็อคประตูเรียบร้อยก็เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงที่ตีนบันไดของอพาร์ทเม้นต์ เธอก็พบกับคน ๆ หนึ่งที่ไม่อยากจะเจอเขาในตอนนี้

เด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งพอดีนั้นกำลังยืนหันหลังให้ สีผมสีน้ำตาลเข้ม เขาสวมยูนิฟรอมของฮิตซุยแบบของผู้ชาย ที่แตกต่างจากเธอก็แค่สวมกางเกงขายาวแทนกระโปรงสั้นไม่เกินเข่าของเธอ และถุงเท้าที่ต้องยาวเลยเข่าในแบบผู้หญิงด้วย

เธอจงใจไม่ทักเขา แล้วก็พยายามทำเป็นไม่เห็นไคโดยการแสร้งหยิบมือถือออกมา และเปิดแอพพิเคชั่นโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่หัวใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าด้วยความตื่นเต้น หรืออะไรกันแน่

“เดี๋ยว !”พลันเด็กหนุ่มคนที่เธอพยายามหลบหน้า ก็ดันคว้ามือของเธอเอาไว้ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขาทำให้ไอจิเผลอเคลิ้มไปวูบหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติหันหน้ามามองเขาด้วยความสงสัยใจ

“อะ...อะไรหรอคะ ?”ไอจิถามพลางกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เนื่องจากกลัวว่าไคจะทำอะไรแผลง ๆ ใส่เธออีก เมื่อวานก็ยังไม่หายเจ็บใจที่เขาด่าเธอเลย

“...เธอรู้หรอ ว่าไปโรงเรียนทางไหน”ไคถาม ไอจิกระพริบตาปริบ ๆ จะว่าไปก็จริงของเขา ถึงเธอจะเกิดที่นี่ แต่เส้นทาง หรืออะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับที่นี่ก็ค่อย ๆ ถูกเลือนหายไปกับกาลเวลา ยกเว้นก็แต่เขาเท่านั้น ที่เธอไม่มีวันลืม

“ฉันจะพาเธอไปด้วย”ไคว่าพลางเดินจูงมือไอจิไปอีกทางที่เธอเดินไป เด็กสาวหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะอาย เพราะเดินไปผิดทาง หรือเขินที่เขานั้นเดินจับมือเธอ และกำแน่นราวกับกำลังย้ำเตือนเธอว่านี่คือความจริงไม่ใช่ความฝัน

“คือว่า..ไคคุงไม่โกรธแล้วหรอคะ”ไอจิถาม พลันเด็กหนุ่มก็หยุดเดินไป เขาหันหน้ามามองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“โกรธอยู่มั้ง”ไคตอบประชดพลางเดินต่อ ไอจิย่นจมูกใส่เล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าถูกประชด แต่ก็รู้สึกดีที่เขานั้นไม่ได้โกรธเธอแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องตะคอกใส่เธอเหมือนเมื่อวาน เขาจะได้ไม่ต้องผลักไสไล่ส่งเธออีก และ...พวกเธอก็จะเป็นมิตรต่อกัน…

“ถึงแล้ว นี่แหละ โรงเรียนฮิตซุย”ไคว่าจบ ไอจิก็แหงนหน้ามองภาพตรงหน้าที่เป็นอาคารสูงตระหง่านตาตรงหน้า ไอจิยืนอึ้งอยู่แปปนึงก่อนจะเห็นว่าเพื่อนของเธอ….อันที่จริงตอนนี้ควรจะเป็นรุ่นพี่ด้วยซ้ำ เพราะดูจากอายุแล้ว เขาอายุมากกว่าเธอไป 1 ปี

“ไปรายงานห้องทะเบียนก่อนไหม”ไคเอ่ยถามด้วยความหวังดี ไอจิหันหน้ามามองไค ในใจเองก็รู้สึกกลัวคนตรงหน้าอยู่นิดหน่อย แต่อย่างน้อยเธอก็อยากจะเชื่อใจเขาอีกซักครั้ง

“ไม่ล่ะค่ะ ขอดูภายในโรงเรียนก่อนดีกว่า”ไอจิว่า ไคเห็นดังนั้นก็กรอกตาไปมองที่มุมสวนหย่อมของโรงเรียนจึงเอ่ยปากชวนเธอไปที่โน่น

สวนหย่อมของโรงเรียนฮิตซุยนั้นประกอบไปด้วยต้นไม้เล็กต้นไม้น้อย มีซากุระตรงทางเข้า และทางออกของสวนหย่อม ที่ใจกลางของสวนหย่อมมีบ่อสระน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก และข้างในนั้นก็มีปลาคราฟหลากสีว่ายไปว่ายมาอยู่ในนั้น ไอจิหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นเต้น แล้วก็เดินไปใกล้ ๆ ที่บ่อปลา

“ปลาคราฟ…”ไอจิพึมพำออกมาแล้วก็นั่งคุกเข่าลงไปเพื่อจะได้เห็นเหล่าฝูงปลาว่ายกันใกล้ ๆ พลันเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ เด็กสาวหันหน้าไปมองก็พบกับไคที่มายืนอยู่ด้านหลังของเธอ

“บ่อปลานี้เพิ่งทำเสร็จเมื่อปีที่แล้ว คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะไม่เคยเห็น….”ไคว่าพลางเอามือล้วงกระเป๋า ไอจิส่งยิ้มให้ไคแล้วก็มองไปที่เหล่าปลาที่แหวกว่ายไปมา

 

 

 

หลังเลิกเรียน

ตรี๊ด ตรี๊ด

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ไค โทชิกิหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วก็มองเบอร์บนหน้าจอ เมื่อเขาเห็นชื่อที่คุ้นเคยบนนั้น เขาก็หน้าซีดลงทันที ใช้เวลานานก่อนจะกดรับสาย

“...ฮัลโหล”เขากรอกเสียงลงไป และพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

‘ช้าจังเลยนะครับ..กว่าจะรับสายเนี่ย’ ปลายสายพูดตอบกลับมา

“...มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา”เขากรอกเสียงกลับไปด้วยน้ำเสียงเดิม ก่อนจะยืนแข็งทื่อ เบิกตากว้างด้วยความตกใจแบบสุดขีด ไคได้แต่กำมือที่กำสายกระเป๋าแน่นจนสั่นไปหมด ฟันสีขาวขบกันแน่นด้วยความเจ็บใจ

“รับทราบ...แล้วครับ”เขาตอบกลับไปทั้ง ๆ ที่ยังกัดฟันอยู่ เพราะแบบนี้ไง เขาถึงได้ไม่พอใจเวลาที่ไอจิย้ายมาอยู่ที่นี่...สิ่งสุดท้ายที่ฉุดรั้งให้เขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป และในขณะเดียวกัน ไอจิก็คือสิ่งสุดท้ายที่ใช้เป็นไพ่ตายบังคับให้เขาทำอะไรก็ได้

ไคเดินอารมณ์เสียลงมาที่ชั้นล่าง พอเดินลงมาก็พบกับเด็กสาวสิ่งยึดเหนี่ยวของเขากับ เด็กหนุ่มอีกคนที่มีผมสีแดงที่สั้นระคอ ผมหน้าเสยขึ้นปละปล่อยด้านข้างเอาไว้บังขมับ ยืนคุยกันอยู่หน้าอาคารเรียน

“นาโอกิคุง ไม่ได้เจอกันตั้งนานแหนะ…”ไอจิพูดคุยอย่างสนิทสนมแล้วก็หัวเราะออกมา

“นะ..นั่นสินะ เจอกันครั้งสุดท้ายก็ตอนโน้น...ตอนที่เธอยังเด็ก ๆ ก่อนจะย้ายไป…”คนที่ชื่อนาโอกิเอามือลูบท้ายทอยแล้วก็หัวเราะแหะ ๆ ออกมาหลังจากพูดจบ

ไคยืนมองทั้งคู่อยู่ห่าง ๆ ไอจิก็คุยกับนาโอกิเหมือนปกติ แต่นาโอกิไม่ใช่...ถึงคนอื่นอาจเข้าใจว่าเขานั้นดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า แต่เซ้นต์ของผู้ชายมันบอกไคว่านาโอกินั้นไม่ได้คิดกับไอจิแค่เพื่อน…

มือของเขากำแน่นขึ้นจนห้อเลือด เล็บของเขาจิกเข้าไปกลางฝ่ามือของเขาจนเป็นรอยยุบลงไปสร้างความเจ็บปวด หากแต่นอกจากความร้อนที่สุมอยู่ในอกแล้ว ไคก็ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว…

ในใจเขาอยากจะเดินเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน แต่สองขากลับไม่ยอมขยับ เอาแต่จ้องมองอยู่อย่างนั้น ไอจิยืนหัวเราะแล้วก็เดินออกมาจากอาคารพร้อมนาโอกิ

นาโอกิเอามือข้างขวาทาบเอาไว้ที่ท้ายทอย โดยเอามือข้างซ้ายแอบเลื่อนมาตรงไหล่ของไอจิ แต่ก็ยังไม่ได้จับอะไร จนสุดท้ายก็ต้องเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพราะไม่กล้าที่จะทำอย่างที่ใจคิด

“จากนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ...สงสัยต้องรบกวนนาโอกิคุงเยอะเลยล่ะค่ะ”ไอจิพูดหยอกออกไป โดยไม่รู้เลยว่ามีคนแอบตามมา แล้วก็แอบฟังไปตลอดทาง พร้อมความหงุดหงิดที่ทวีความรุณแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับน้ำมันที่ค่อย ๆ ถูกเทลงไปในกองไฟทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด

นาโอกิพาไอจิไปนั่งเล่นที่ร้านคอฟฟี่ช็อปใกล้ ๆ กับโรงเรียนฮิตซุย ซึ่งเปิดโล่ง และกว้างขวาง มันอันตรายเกินกว่าจะเข้าไปใกล้ทั้งคู่ นั่นทำให้ไคหงุดหงิด ในใจของเขาพยายามหาทางที่จะรู้ให้ได้

“อ้าว ? ไค มาทำอะไรที่นี่ล่ะ ?”เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมา ไคหันขวับไปมองก็พบกับเด็กหนุ่มผมสีทอง ดวงตากลมสีเทาคล้ายขี้เถ้า ใบหน้าหล่อน้นประดับรอยยิ้มทะเล้นไว้บนหน้า ที่ผ่านมา ไคเคยรำคาญรอยยิ้มนี้มาก แต่เวลานี้ เขากลับรู้สึกขอบคุณหมอนี่มากที่โผล่มาได้ถูกจังหวะพอดี !

“มิวะ...ฉันมีเรื่องจะวาน”ไคเอ่ยแล้วก็จ้องหน้ามิวะ

“ฮั่นแน่..คิดจะทำอะไรน่ะ ?”มิวะทำเสียงทะเล้นใส่ไคแล้วก็เดินเข้ามาใกล้ ๆ อีกฝ่ายที่ทำหน้าซีเรียสใส่

“นายไปนั่งใกล้ ๆ ชายหญิงสองคนนั่นนะ แล้วฉันจะโทร.หานาย ให้นายพยายามทำให้เสียงของสองคนนั้นเข้ามาในสายให้ได้...”ไคสั่งทันที ถึงมิวะจะงุนงงให้คำสั่งของเขา แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามโดยที่ไม่ได้ถามอะไรมากมาย

มิวะเดินเข้าไปนั่งที่ ๆ ใกล้กับไอจิและนาโอกิมากที่สุดโดยแสร้งเอาโทรศัพท์แนบหูตลอดเวลา เพื่อรอให้ไคโทร.มา เมื่อก้นหย่อนลงใสในเก้าอี้ปุ๊บ โทรศัพท์ก็สั่นทันที มิวะกดรับสาย พอดีกับที่ไอจิเริ่มพูดขึ้นมาพอดี

“ไม่ได้เจอกับนาโอกิคุงตั้งนาน...เปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะ”ไอจิเอ่ยแล้วก็หัวเราะคิกคักออกมาเบา ๆ

“ธ...เธอเองก็เหมือนกันนะ เปลี่ยนไปเยอะเลย…”นาโอกิเอามือทาบท้ายทอยแล้วพูดเสียงอ้อมแอ้มด้วยความเขินอาย

“อย่างนั้นหรอคะ...อาจเป็นเพราะพวกเราโตขึ้นมาด้วยล่ะมั้งคะ..”ไอจิพูดตามที่คิดไป พลางจิบกาแฟนมอุ่น ๆ ที่สั่งมา

“นั่นสินะ ฮะ ๆ …”นาโอกิแก้มแดงแจ๋ แล้วก็หัวเราะแหะ ๆ ออกมาแก้เขิน แต่ไอจิก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่ได้สังเกตเห็น หากแต่คนที่อยู่ปลายสายของมิวะนั้นดูแล้วกำลังหงุดหงิดไม่ใช่เล่น เพราะได้ยินเสียงกระป๋องกระเด็นอยู่แว่ว ๆ

“ว่าแต่ไอจิเถอะ เมื่อเช้าเห็นมาโรงเรียนกับรุ่นพี่ไคนี่...เป็นอะไรกันหรอ”นาโอกิถามในสิ่งที่ตนสงสัยที่สุด ถึงจะรู้ว่าตอนเด็ก ๆ ทั้งคู่ซี้กัน แต่ว่าก็สงสัยอยู่ดีว่าทำไมถึงได้มาโรงเรียนด้วยกันได้ บ้านเก่าไอจิก็ขายไป และบ้านเก่าก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับบ้านของไคเลย

“อ๋อ...ฉันเพิ่งย้ายมาใหม่ ก็เลยไปเช่าอพาร์ทเม้นใกล้ ๆ นี่น่ะค่ะ แล้วพอดีว่าไคคุงก็เช่าด้วย แถมได้อยู่ห้องใกล้ ๆ กัน ฉันกับไคคุงก็เลยมาโรงเรียนด้วยกัน”ไอจิอธิบายออกมาได้เป็นฉาก ๆ เลยทำให้นาโอกิเห็นภาพ แล้วก็เข้าใจในทันที

“อย่างนี้นี่เอง แต่หลังจากที่เธอย้ายไป และเกิดอุบัติเหตุในวันนั้น รุ่นพี่ไคก็เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวเลยนะ”นาโอกิกระซิบกับไอจิ

“ยังไงหรอคะ”ไอจิอยากจะรู้เรื่องของไคมากกว่านี้ จึงถามออกไป

“ก็หลังจากวันนั้น จากที่รุ่นพี่ไคนั้นร่าเริง เข้ากับสังคม แล้วก็เข้าเรียนทุกครั้ง เขาก็เปลี่ยนไปในทางตรงกันข้าม เขาเย็นชา ไม่เป็นมิตร ไม่ยอมเข้าเรียนยกเว้นเวลาสอบ และเขาก็ดู…”นาโอกิกรอกตาหลบคล้ายกับว่ากำลังจะพูดในสิ่งที่ไม่อยากจะพูดออกไป

“ดู…? ดูอะไรหรอคะ ?”ไอจิยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หมายจะฟังในสิ่งที่นาโอกิอยากจะพูด

“เขา...เขาดูเหมือนหลุมดำเลยไอจิ ทั้งมืดมน มองไม่เห็นอะไรนอกจากสีดำ แววตาของเขาเองก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า”นาโอกิบรรยายแล้วชักมือกลับมาลูบต้นแขนของตนเอง

“ขนาดนั้นเลย….หรอคะ”ไอจิหลุบตาลงมองเข้าไปในแก้วกาแฟของตัวเองที่ระดับน้ำลดลงมาเหลือคึ่งแก้วแล้ว

“ใช่...พูดแล้วก็ขนลุก น่ากลัวชะมัดเลย”นาโอกิพูดออกมาตามตรง แล้วเหลือบตามองที่นาฬิกา

“อ้าว ? คุยกันจนเพลินเลย นี่ก็เย็นแล้ว กลับกันเถอะนะไอจิ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”นาโอกิลุกขึ้นแล้วก็เดินไปที่แคชเชียร์ หากแต่ไอจิกลับคว้าแขนเสื้อเธอเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวฉันออกเองก็ได้ค่ะนาโอกิ แชร์ ๆ กันนะคะ ตามมารยาท”ไอจิว่าแล้วก็ลุกตามขึ้นมา ตามด้วยหยิบใบเสร็จออกมาจากที่ใส่ใบเสร็จบนโต๊ะ เธอเดินนำลิ่ว ๆ ไปที่แคชเชียร์โดยมีนาโอกิมองตามตาไม่กระพริบ

“...ยิ่งโต ยิ่งน่ารักจริง ๆ เลยนะ...ไอจิ”นาโอกิพึมพำแล้วก็เดินตามไป แต่ถึงเขาจะพึมพำเบาขนาดไหน แต่มันก็ดังพอที่จะเข้าไปในโทรศัพท์ของมิวะ พอนาโอกิพูดจบ ตัวของมิวะก็เย็นวาบไปทั้งตัว เพราะคาดว่าไคคงจะกำลังรู้สึกเหมือนถูกไฟเผาอยู่แน่ ๆ !

 

...เอาแล้วไง นาโอกิเอ้ย ไอจิเอ้ย ขอให้โชคดีนะทั้งสองคน พวกนายดันไปทำให้ไอ้ตัวทำลายล้างโกรธเข้าให้แล้วไง…

 

มิวะคิดในใจแล้วกลืนน้ำลายลงคอ หลังจากที่ไอจิและนาโอกิเดินออกไปได้ไม่นาน คนที่โทรเข้ามาในโทรศัพท์ของมิวะก็ถูกตัดไป ถูกตัดไปได้ไม่นานนัก มิวะก็ลุกขึ้นเสียงดังจนทุกคนในร้านหันหน้ามามอง มิวะหัวเราะแห้ง ๆ วางเงินไว้บนโต๊ะ แล้วก็รีบวิ่งออกไปทั้ง ๆ ที่กาแฟที่สั่งมาบนโต๊ะนั้น เขาไม่ได้แตะมันเลยแม้แต่น้อย…



“แยกกันตรงนี้นะคะ นาโอกิคุง”

ไอจิโบกมือลาให้กับนาโอกิแล้วก็เดินมาตามทางที่เดินเมื่อเช้า เธอเดินขึ้นมาที่ชั้นสองของอพาร์ทเม้น แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ไขประตูห้อง เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าถี่ ๆ ดังขึ้นมาจากบันไดเหล็กที่มีสนิมเกาะคล้ายคนกำลังรีบวิ่งขึ้นบันไดมา

พอไอจิหันหน้าไปมองก็พบกับไคที่วิ่งขึ้นมา พอเขาเห็นเธอ ใบหน้าที่บูดบึ้งนั้นก็บูดบึ้งลงกว่าเดิมไปอีก แถมสายตาก็คมกรอบราวมีดดาบ ไคก้าวอาด ๆ มาหาไอจิพลางหายใจหอบทางปากเพราะรีบวิ่งตามมา

“ไคคุง...ไปทำอะไรมาคะเนี่ย !? ว่าทำไม…”ไม่ทันที่ไอจิจะพูดจบ ร่างสูงก็เดินเข้ามาโอบเอวเธอแล้วก็ดึงร่างเล็กให้เข้ามาในอ้อมกอดของเขา

กลิ่นเหงื่อของเขา และความชื้นตรงเสื้อเชิ๊ตคือสิ่งที่ไอจิสัมผัสได้สิ่งแรก ตามาด้วยความอบอุ่น และแผงอกที่กระเพื่อมถี่

“ไอจิ...ทำไมไม่กลับบ้านด้วยกันล่ะ ? ทำไมถึงไปกับผู้ชายคนนั้น ? ทำไมถึงกลับมากับผู้ชายคนนั้น ? ทำไมถึงไม่รอฉัน ? ทำไมถึงสนิทสนมกับมันนัก ? ทำไมถึงได้สดใสขนาดนั้น ? …”ไครัวคำถามใส่ไม่ยั้ง ไอจิเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พลันแก้มใสก็ขึ้นสีขึ้นมา

“ไคคุง...รู้ด้วยหรอคะ ?”ไอจิแหงนหน้าขึ้นมาถาม พลางเอามือดันอกไคเบา ๆ เป็นการบ่งบอกให้เขาเลิกกอดเธอแบบนี้ได้แล้ว เพราะหากใครมาเห็นเข้า คงจะไม่ดี และพวกเขาก็ยังอยู่ในชุดนักเรียนด้วย

“แน่สิ เห็นตั้งแต่เริ่มเดินออกจากโรงเรียน ไปร้านคอฟฟี่ช็อป เดินมาส่ง แล้วก็มาถึงตรงนี้แหละ”ไคยอมคลายอ้อมกอดออก แล้วก็เลื่อนมือขึ้นมาจับที่ไหล่ของไอจิแทน

“นี่ไคคุงแอบตามไปหรอคะ !?”ไอจิเริ่มโวยวาย “ไคคุงไม่มีสิทธิ์ตามไปนะคะ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉันด้วย แล้วก็อีกอย่างไคคุงก็ไม่ได้บอกฉันด้วยนี่คะ...ว่าจะกลับด้วยกัน”

“...ใช่ ไม่นึกจะโทร.บอกอะไรกันก่อนเลยรึไง !? ไม่เข้าใจรึยังไงว่าฉัน….”จู่ ๆ เขาก็หยุดพูดไป หลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคน

“อ้าว ? กลับกันมาแล้วหรอครับ”เสียงของเร็นดังขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มแสนอบอุ่นบนใบหน้า หากแต่แววตากลับทอประกายประหลาด พูดถึงเรื่องประหลาด ไคเองก็ประหลาดเหมือนกัน เพราะหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าเร็น ไคก็เงียบไป แถมยังทำท่าเหมือนกำลังตกใจกลัวอะไรซักอย่าง

“ไค...กลับมาไม่บอกไม่กล่าวกันเลยนะครับ...กะว่าจะไปรับซักหน่อยเชียว ไม่ทราบว่าสิ่งที่ตกลงกันไว้น่ะ...เรียบร้อยรึยังครับ ?”เร็นส่งยิ้มให้ ไคกรอกตามองแล้วก็กรอกตากลับ ไม่นานเขาก็ส่ายหน้าไปมาเบา ๆ เป็นการปฏิเสธ

“..อย่างนั้นหรอครับ หวังว่ารีบทำให้มัน ‘เสร็จ ๆ’ ไปนะครับ มันจำเป็นจริง ๆ หวังว่านายจะเข้าใจนะครับ”เร็นว่าแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องโดยไม่ฟังคำถามของไอจิเลยแม้แต่น้อย

“...ไคคุงคะ ทำอะไรหรอคะ ? ฉันพอจะรู้ได้รึป่าวคะ ?”ไอจิเอ่ยถามออกไป ไคเพียงกรอกตามองแล้วก็เบือนหน้าหนีเท่านั้น

“...”เขาลอบถอนหายใจออกมาแล้วก็จับต้นแขนเล็กอย่างแรงจนเจ้าของเสียงนั้นร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

“ไคคุง ! จะทำอะไรคะ !? มันเจ็บนะคะ”ไอจิร้องขึ้นมา ไคกระชากแขนเล็ก ๆ ให้เดินเข้ามาในห้องของเขา

เมื่อมาถึงที่ห้องนอนของไค โทชิกิ เด็กหนุ่มก็กดร่างของเด็กสาวลงบนเตียง แล้วก็จ้องใบหน้าของเธอด้วยแววตาที่ก้าวร้าว

“ไคคุง !?”ไอจิร้องออกมาพลางพยายามขัดขืน

“อย่าดิ้น !...”ไคตะคอกใส่ “เธอคิดว่าเธอจะสู้ฉันได้รึไง”

“ไม่ค่ะ สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้ เพราะไคคุงไม่เหมือนไคคุงคนเดิมอีกแล้ว !”ไอจิตอคอกกลับพลางพยายามขัดขืนอย่างสุดแรง แต่กลับไม่สามารถทำให้ร่างด้านบนสะท้านเลย

“อ้อหรอ...ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย”ไคแสยะยิ้มกว้าง แววตาของเขาในตอนนี้มันเหมือนเปลวเพลิงแห่งวันสิ้นโลกที่กำลังแผดเผาร่างกายของเธอให้แหลกสลายเป็นเถ้าทุลี

“...”ไอจิกัดฟันพลางจ้องอีกฝ่ายตาแข็งกร้าว

“แต่รู้อะไรไหม…”ไคก้มลงมาใกล้ ๆ ไอจิแล้วก็ส่งสายตายียวนใส่ “ไค โทชิกิคนนั้นน่ะ...ได้ตายไปแล้ว !”

“ทำไม...ทำไม”ไอจิเสียงสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว

“เพราะอะไรน่ะหรอ….เพราะเธอยังไงล่ะ !”ไคตวาดใส่จนร่างของเด็กสาวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

“ฉะ….ฉัน…?”

“ใช่แล้ว...หากว่าในวันนั้นเธอไม่ย้ายไปล่ะก็…”ไคกัดฟัน

“ถ้าวันนั้นเธอยังอยู่...พี่ชาย….พี่โทยะ และพ่อกับแม่ก็คงไม่ตาย !”ไคตวาดใส่อย่างบ้าคลั่ง เขาแสยะยิ้มออกมากว้างขึ้นกว่าเดิมอย่างบ้าคลั่ง

“บ้าไปแล้ว...โทยะคุงมาเกี่ยวอะไรด้วย..”ไอจิเอ่ยเสียงค่อย เมื่อคิดถึงเด็กหนุ่มแสนดีที่มีหน้าตาคล้ายกับไค โทชิกิคนนี้ทุกประการ หรือก็คือพี่ชายฝาแฝดของไค โทชิกิคนนี้นั่นเอง !

ในสมัยก่อนไอจิแอบชอบไค โทยะคนนี้มาก จนกระทั่งได้มาสนิทกับคนน้องที่พร้อมจะช่วยเธอทุกวิถีทางเพื่อให้โทยะ พี่ชายของเขาหันมาสนใจเด็กสาวขี้อายคนนี้ จนกระทั่ง...วันที่เธอต้องย้ายบ้าน โทยะ และครอบครัวก็นั่งรถไปหมายจะไปส่งไอจิ แบบเซอร์ไพร์ท ก่อนที่จะเจออุบัติเหตุที่ตายกันยกคันยกเว้น ไค โทชิกิที่ตะเกียดตะกายออกมาจากรถได้ก่อนที่รถคันนั้นจะระเบิด และมีไฟลุกท่วมขึ้น

“อะ..อะไรกัน…”ไอจิหน้าซีดลง ถึงจะมารู็ทีหลังหลังจากย้ายบ้านมาแล้วว่าโทยะ และครอบครัวเสียไปแล้ว โดยมีเพื่อนสนิทของเธอรอดมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น อันที่จริงไอจิอยากจะมางานศพ แต่เพราะติดเรียน ผู้ปกครองของเธอที่เป็นยายที่มีอายุมากแล้วก็ไม่อนุญาตให้ไป…

“...อยากจะขอโทษตอนนี้...ก็สายไปแล้ว”ไคพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า แล้วก็มองไอจิด้วยแววตาแสนอาฆาตแค้น

“เธอจะต้องชดใช้”

“...ฉัน…”

“เงียบไปเลย ! ยัยตัวซวย !”ไคตะคอกใส่ เขาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมาแล้วก็ใช้ฟันขาวนั้นกัดลงไปแรง ๆ ที่ลำคอของเธอจนไอจิเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ลำคอขาว ๆ ของไอจิมันช่างยั่วยวนไคเสียเหลือเกิน เขากัดไปทั่วจนลำคอของเด็กสาวแดงก่ำไปหมดเพราะรอยกันของเขา

“ไคคุง...คิดว่าโทยะคุงจะมีความสุขหรอคะ…”ไอจิถามทั้งน้ำตา

“...ไม่แน่นอน”ไคเอ่ยเสียงค่อย

“ถ้าอย่างนั้น…”

“แต่ฉันมีความสุข ! ฉันอยากเห็นเธอทรมานมากกว่านี้ ! มากกว่านี้ ! ให้คุ้มค่ากับสิ่งที่ฉันต้องเจอ”ไคว่าจะก็ก้มหน้าลงแล้วค่อย ๆ ใช้มือข้างหนึ่งของเขาปลดเน็คไทน์ออก จากนั้นก็เอามามัดที่ข้อมือทั้งสองข้างของไอจิจนข้อมือนั้นห้อเลือด จากนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มลวนลามไปเรื่อย ๆ …

“อย่า ! ไม่เอานะคะไคคุง ! ไคคุงจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องนี้..”ไอจิวิงวอน

“ไม่ ! ยิ่งเธอห้าม ฉันก็จะยิ่งทำ ! เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบใช่ไหมล่ะ !?”ไคยิ้มยียวนใส่ เขาคงจะดูดี และชวนใจสั่นมากกว่านี้หากว่าไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์นี้

“...ไคคุง !”ไอจิร้องเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงกึ่งตวาดทำเอาไคนั้นถึงกับคิ้วกระตุก

“นี่กล้าตวาดใส่ฉันหรอ ! ได้ ! แสดงว่าสิ่งที่ฉันทำไปก่อนหน้านี้คงจะน้อยไปสำหรับเธอสินะ...ได้ ! ฉันจะไม่ปรานีอีกแล้ว !”ไคว่าจบก็ปลดเสื้อเด็กสาวออก ไอจิพร่ำร้องวิงวอนและขัดขืนอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไร้ประโยชน์

“ขอร้องล่ะค่ะ ...อย่าเลยนะคะ...ให้ฉันตายไปเป็นผีเฝ้าหลุมศพโทยะคุงฉันก็ยอม แต่อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ”ไอจิเอามือทั้งสองข้างที่อยู่บนหัวของเธอนั้นลงมาเสมออกแล้วก็พนมเอาไว้เป็นการขอร้องทั้งน้ำตา

“....”ไคยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะเริ่มทำอย่างที่เด็กสาวไม่ต้องการทันที….

 

เช้าวันต่อมาได้ย่างกรายเข้ามา ไอจิค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาแล้วก็พบว่าตนนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มห่มให้อย่างเรียบร้อย และเพดานห้องที่คุ้นเคย แต่...บรรยากาศภายในห้องกลับไม่ นั่นก็เพราะห้องนี้ไม่ใช่ห้องของเธอนั่นเอง

ไอจิคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วก็ร้องไห้ออกมาเบา ๆ ทั้งอับอาย ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด และ...ทั้งแค้น

“ตื่นแล้วหรอ…”เสียงของไคดังขึ้นมาจากมุมใดซุกมุมของห้อง ไอจิจ้องหน้าไคตาขวาง ไคเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

“อะไร….เธอไม่ท้องหรอก ฉันป้องกันแล้ว ส่วนเสื้อฉันก็ใส่คืนให้แล้ว เตียงเธอก็นอนไปคนเดียวเต็ม ๆ ทั้งคืน  น่าจะขอบคุณนะ อ้อ ! ใช่”ไคมองไอจิตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะหัวเราะหึออกมา

“เล็กจังเลยนะ...เธอเนี่ย”

“ไคคุง !”เด็กสาวที่ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งอายก็ตะคอกใส่ไคโดยมีน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย เธอเดินดุ่ม ๆ ไปหาเขาแล้วก็เงื้อมือข้างขวาขึ้นมาตบไปที่ใบหน้ายียวนของไคอย่างแรงจนเสียงดังเพี๊ยะ

ใบหน้าหล่อเขาที่มีใบหน้าสีขาวซีดนั้นมีรอยประทับสีแดงที่มีรอยนิ้วห้านิ้วประดับอยู่บนใบหน้าก็หันมาจ้องไอจิด้วยแววตาไร้ความรู้สึกดังเดิม

“ถึงจะตบฉัน แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยไม่ใช่รึไง”

“ใช่ค่ะ...แต่ว่า…”ไอจิปาดน้ำตา “...แต่ว่าอย่างน้อยฉันก็ได้ระบายความเจ็บปวดครั้งนี้ ให้ไคคุงค่ะ”

เด็กสาวว่าจบก็รีบวิ่งออกไปจากห้อง แล้วก็วิ่งหายเข้าไปในห้องของเธอ ไคเอามือลูบแก้มที่รู้สึกเจ็บแสบจนทำให้แก้มทั้งแก้มของเขาชาหนึบแล้วก็เหม่อมองไปที่ประตู

“เธอมันจะไปรู้อะไร…”



ไอจิวิ่งกลับเข้ามาในห้องทั้งน้ำตา โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เธอจึงไม่ต้องไปโรงเรียนทั้งในสภาพนี้ เมื่อเข้าไปในห้องได้แล้ว เธอก็ทรุดลงไปร้องไห้กับพื้น ร้องไห้สะอื้นเสียงดัง เธอเสียใจมากที่คนที่เธอเชื่อใจ ดันทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นกับเธอ แถมยังมีหน้ามาบอกว่าทำเพื่อล้างแค้นให้พี่ชายอีก

 

...ทำไมไคคุงถึงโยงเรื่องอุบัติเหตุจากครอบครัวของเขา มาหาเธอด้วยล่ะ…

 

หัวใจของเด็กสาว เกียรติ์ของเธอ รวมถึงวความรู้สึกของเธอถูกเขาย่ำยีจนไม่มีชิ้นดีแล้วในตอนนี้ นอกจากร้องไห้แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

จนถึงเวลาที่น้ำตาไม่ไหลออกมาแล้ว เธอก็เอนตัวพิงกับประตู ดวงตาของเธอเหม่อลอยเหมือนคนไร้วิญญาณ เธอเหนื่อยเต็มทนแล้ว เธอไม่อยากจะเห็นหน้าไคอีกแล้ว

แต่ถึงจะไม่อยากเห็นหน้าแค่ไหนก็ตาม แต่พอหลับตาเธอก็มองเห็นแต่ใบหน้าของเขาในอริยบทต่าง ๆ

ใบหน้าของเขาตอนเด็กที่คอยยิ้มให้เธอเสมอไม่ว่าเมื่อไหร่ และในขณะเดียวกัน รอยยิ้มแสนสดใสในความทรงจำที่คอยเป็นกำลังใจให้เธอมาแล้วหลายปี มันกลับถูกทำลายลงไปโดยเจ้าของรอยยิ้มนั้นภายในคืนเดียว

 

‘เงียบไปเลย ! ยัยตัวซวย !’

 

เสียงตะคอกของเขายังคงดังก้องขึ้นมาในหัวของเธอ ไม่ว่าจะปิดหู ปิดประสาทสัมผัสมากเพียไร มันก็เท่านั้น หยดน้ำตาที่หายไปนานกลับมาอีกครั้ง เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

 

...ถ้าฉันไม่ดีในสายตาของเขาถึงขนาดนั้น ฉันก็คงจะต้องหายไป....

 

 

---------------------------------------------------------------------

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา