ป่วนรักวิญญาณข้ามภพ
-
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 10.47 น.
14 ตอน
0 วิจารณ์
16.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559 09.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เป็นผู้หญิง แท้จริงแสนลำบาก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากเคลียร์ปัญหาเรื่องการหึงหวงกับเกาจงได้แล้ว ทรงกลดในร่างของหลิงเซียงก็ยังต้องเจอกับปัญหา อันเป็นผลกระทบข้างเคียงตามมาอีกมากมาย ในเรื่องของความสับสนทางเพศอันน่าปวดหัว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาทรงกลดตัดสินใจ หักห้ามอารมณ์ไม่เรียกหาให้สาวใช้มาปรนเปรอหาความสุขกับเขาอีก เพราะไม่อยากทำร้ายจิตใจของเพื่อนที่แสนดีที่รักเขาด้วยใจจริงอย่างเกาจง นั่นทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้ แต่จบปัญหาเก่า ทรงกลดก็ใช่ว่าจะหมดเคราะห์หมดโศกเพราะก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องการหึงหวงอีก คราวนี้เป็นเรื่องของอนุของเกาจงที่เคยเป็นคู่ขาของเกาจง ตั้งแต่ที่ทรงกลดมาอยู่ในร่างหลิงเซียงเกาจงก็ไม่ได้ไปหาอนุของตัวเองอีก นั่นทำให้อนุของเกาจงตามมาอาละวาดถึงในบ้านอย่างชนิดที่ไม่เกรงใจเมียหลวงที่เป็นฮูหยินของบ้านเลย
ในขณะนี้อนุของเกาจง นามว่าไป๋เฟิงบุกเข้ามาในบ้านด่าทอทรงกลดในร่างของหลิงเซียงอย่างไม่ไว้หน้า ต่อหน้าพ่อบ้านและบ่าวไพร่ในบ้าน "นังหน้าด้าน...กล้าแย่งเกาจงไปกกไว้คนเดียวเหรอ นี่แนะ! เพี๊ยะ! ... เสียงด่าทอต่อว่าตามด้วยเสียงตบดังสนั่น จนใบหน้าบางเป็นรอยนิ้วมือขึ้นทันที ความรู้สึกของทรงกลดนั้น ด้วยความที่ร่างนี้เป็นร่างของหลิงเซียง ที่แสนบอบบางไม่ใช่สาวสตรองแต่อย่างใด แน่นอนว่าต้องเจ็บแน่ แต่ด้วยความที่จิตใจเป็นของทรงกลดที่เป็นผู้ชาย จึงมีความอดทนต่อความเจ็บปวดได้ เขาไม่ได้โกรธอนุคนงามของเกาจง เพียงแต่นึกงงงวยกับสถานการณ์อยู่พอสมควร ก็คำต่อว่าของแม่เจ้าประคุณที่มาต่อว่าเขาซึ่งอยู่ในร่างหลิงเซียงว่า หน้าด้านแย่งสามีไปนอนกกไว้คนเดียว คำด่าว่าพวกนี้มันน่าจะออกมาจากปากของหลิงเซียงที่เป็นเมียหลวงไม่ใช่หรือ
แต่ในขณะที่ทรงกลดกำลังสับสนกับสถานการณ์อยู่นั้น คนกลางอย่างเกาจงกลับเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทรงกลด รีบปาดเข้ามาโอบประคองและถามไถ่อาการของทรงกลดด้วยความเป็นห่วง ร่างแกร่งของเกาจงประคองทรงกลดอย่างทะนุถนอม สีหน้าแววตาราวกับเจ็บปวดเสียเอง และหันขวับไปจ้องอนุของตัวเองเขม็งด้วยดวงตาวาวโรจน์ และทันใดนั้นสิ่งที่ทุกคนในบ้านไม่คาดคิด ก็คือเกาจงตรงเข้าไปเงื้อฝ่ามือตบฉาด ไปที่ใบหน้าของไป๋เฟิงอย่างแรงจนหน้าหัน มือบางของอนุคนงามเกาะกุมไปที่ใบหน้าอย่างนิ่งอึ้ง เพราะนางเชื่อมาตลอดว่าเกาจงให้ความสำคัญกับนางมากกว่าภรรยาของเขามาโดยตลอด และหลายๆครั้งก็ปล่อยให้นางกลั่นแกล้งเย้ยหยันหลิงเซียงได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ นางจึงกล้าเข้ามาหาเรื่องอีกฝ่ายในบ้าน เพราะคิดว่านางเป็นต่อ แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เกาจงกล่าววาจาด่าทออนุของตัวเอง "หน้าด้านงั้นหรือ...ใครกันแน่ เจ้าลืมสถานะของตัวเองไปแล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าเป็นแค่อนุของข้า แล้วคนที่เจ้ากำลังด่าทอทำร้ายอยู่นี้ คือภรรยาของข้า! ทรงกลดรีบเข้าไปห้ามปราม และกระซิบเกลี้ยกล่อมให้ได้ยินกันแค่สองคน "เฮ้ยเกาจงพอเหอะ ฉันไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนี้ยังไงก็เป็นเมียคนหนึ่งของนายนะโว๊ย อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลยสงสารว่ะ " เกาจงยังคงมีอาการฮึดฮัดอยู่เอ่ยกระซิบน้ำเสียงขุ่น "แต่นางด่าว่าทำร้ายเจ้านะ นางเป็นแค่คู่ขาที่ข้าพามาเป็นอนุเพื่อมาเย้ยหลิงเซียงเท่านั้น ข้าไม่ได้รักนาง แต่ตอนนี้นางกลับบุกเข้ามาทำร้ายเจ้า เห็นเจ้าถูกด่าว่าทำร้าย ข้าแทบอยากฆ่านางให้ตายด้วยซ้ำ"
"เออๆ ฉันรู้ฉันเข้าใจ แต่บอกตามตรงนะโว๊ย พอฉันได้มาอยู่ในร่างของหลิงเซียงแล้วฉันรู้ดีเลยว่า ผู้หญิงอ่อนแอบอบบางและลำบากแค่ไหน เมื่อก่อนฉันเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องปรนเปรอความใคร่ ขอเพียงฉันให้เงินให้สิ่งของที่พวกเธอต้องการ ก็ถือว่าตอบแทนให้แล้ว ไม่เคยสนใจรักใคร่ใครอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้ฉันกลับไม่อยากเห็นนายทำร้ายผู้หญิงเลยว่ะ นายเองก็เคยเสียใจและรู้สึกผิดต่อหลิงเซียงไม่ใช่หรือ ฉันในตอนนี้กำลังรับกรรมของตัวเองอยู่ถึงมานึกเสียใจตอนนี้ ฉันก็กลายเป็นวิญญาณที่สิ้นอายุขัยแล้ว ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก แต่นายยังมีชีวิตอยู่นะเกาจง อย่าได้ทำผิดซ้ำอีกเลยนะสหาย"
ทรงกลดเอ่ยพร้อมรอยยิ้มร้ายตามแบบฉบับ ตบบ่าให้กำลังใจเกาจงที่หันมามองร่างบางตรงหน้า ด้วยความรู้สึกรักและซึ้งใจในความหวังดีต่อเขาด้วยใจจริงของทรงกลด หลังจากนั้นเกาจงได้แก้ปัญหาด้วยการกล่าวบอกเลิกความสัมพันธ์กับไป๋เฟิง พร้อมกับให้ทุนรอนในจำนวนที่เพียงพอต่อการไปตั้งตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนาง โดยที่ไป๋เฟิงนั้นได้แต่ยินยอมรับสภาพไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะตลอดเวลาก็รับรู้ดีว่าตัวเองเป็นแค่อนุ แต่เพราะเกาจงไปมาหาสู่และหลงใหลนางมาโดยตลอด จึงทำให้นางได้ใจแต่เมื่อได้ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า เกาจงให้ความสำคัญกับภรรยาของตัวเองมากแค่ไหน นางจึงต้องยอมถอยออกมา เพราะขืนดื้อดึงอยู่ไปก็มีแต่จะเจ็บช้ำ ก็เป็นอันว่าเรื่องน่าปวดหัวของทรงกลดก็จบไปอีกเรื่อง มาถึงตอนนี้ทรงกลด ไม่คิดกระหยิ่มยิ้มย่องและเพิกเฉยต่อโทษทัณฑ์ของเขาอีกแล้ว เพราะเขารู้ซึ้งดีเลยว่าเป็นผู้หญิงนั้นแท้จริงแสนลำบากแค่ไหน
ในขณะนี้อนุของเกาจง นามว่าไป๋เฟิงบุกเข้ามาในบ้านด่าทอทรงกลดในร่างของหลิงเซียงอย่างไม่ไว้หน้า ต่อหน้าพ่อบ้านและบ่าวไพร่ในบ้าน "นังหน้าด้าน...กล้าแย่งเกาจงไปกกไว้คนเดียวเหรอ นี่แนะ! เพี๊ยะ! ... เสียงด่าทอต่อว่าตามด้วยเสียงตบดังสนั่น จนใบหน้าบางเป็นรอยนิ้วมือขึ้นทันที ความรู้สึกของทรงกลดนั้น ด้วยความที่ร่างนี้เป็นร่างของหลิงเซียง ที่แสนบอบบางไม่ใช่สาวสตรองแต่อย่างใด แน่นอนว่าต้องเจ็บแน่ แต่ด้วยความที่จิตใจเป็นของทรงกลดที่เป็นผู้ชาย จึงมีความอดทนต่อความเจ็บปวดได้ เขาไม่ได้โกรธอนุคนงามของเกาจง เพียงแต่นึกงงงวยกับสถานการณ์อยู่พอสมควร ก็คำต่อว่าของแม่เจ้าประคุณที่มาต่อว่าเขาซึ่งอยู่ในร่างหลิงเซียงว่า หน้าด้านแย่งสามีไปนอนกกไว้คนเดียว คำด่าว่าพวกนี้มันน่าจะออกมาจากปากของหลิงเซียงที่เป็นเมียหลวงไม่ใช่หรือ
แต่ในขณะที่ทรงกลดกำลังสับสนกับสถานการณ์อยู่นั้น คนกลางอย่างเกาจงกลับเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทรงกลด รีบปาดเข้ามาโอบประคองและถามไถ่อาการของทรงกลดด้วยความเป็นห่วง ร่างแกร่งของเกาจงประคองทรงกลดอย่างทะนุถนอม สีหน้าแววตาราวกับเจ็บปวดเสียเอง และหันขวับไปจ้องอนุของตัวเองเขม็งด้วยดวงตาวาวโรจน์ และทันใดนั้นสิ่งที่ทุกคนในบ้านไม่คาดคิด ก็คือเกาจงตรงเข้าไปเงื้อฝ่ามือตบฉาด ไปที่ใบหน้าของไป๋เฟิงอย่างแรงจนหน้าหัน มือบางของอนุคนงามเกาะกุมไปที่ใบหน้าอย่างนิ่งอึ้ง เพราะนางเชื่อมาตลอดว่าเกาจงให้ความสำคัญกับนางมากกว่าภรรยาของเขามาโดยตลอด และหลายๆครั้งก็ปล่อยให้นางกลั่นแกล้งเย้ยหยันหลิงเซียงได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ นางจึงกล้าเข้ามาหาเรื่องอีกฝ่ายในบ้าน เพราะคิดว่านางเป็นต่อ แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เกาจงกล่าววาจาด่าทออนุของตัวเอง "หน้าด้านงั้นหรือ...ใครกันแน่ เจ้าลืมสถานะของตัวเองไปแล้วใช่หรือไม่ว่าเจ้าเป็นแค่อนุของข้า แล้วคนที่เจ้ากำลังด่าทอทำร้ายอยู่นี้ คือภรรยาของข้า! ทรงกลดรีบเข้าไปห้ามปราม และกระซิบเกลี้ยกล่อมให้ได้ยินกันแค่สองคน "เฮ้ยเกาจงพอเหอะ ฉันไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนี้ยังไงก็เป็นเมียคนหนึ่งของนายนะโว๊ย อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลยสงสารว่ะ " เกาจงยังคงมีอาการฮึดฮัดอยู่เอ่ยกระซิบน้ำเสียงขุ่น "แต่นางด่าว่าทำร้ายเจ้านะ นางเป็นแค่คู่ขาที่ข้าพามาเป็นอนุเพื่อมาเย้ยหลิงเซียงเท่านั้น ข้าไม่ได้รักนาง แต่ตอนนี้นางกลับบุกเข้ามาทำร้ายเจ้า เห็นเจ้าถูกด่าว่าทำร้าย ข้าแทบอยากฆ่านางให้ตายด้วยซ้ำ"
"เออๆ ฉันรู้ฉันเข้าใจ แต่บอกตามตรงนะโว๊ย พอฉันได้มาอยู่ในร่างของหลิงเซียงแล้วฉันรู้ดีเลยว่า ผู้หญิงอ่อนแอบอบบางและลำบากแค่ไหน เมื่อก่อนฉันเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องปรนเปรอความใคร่ ขอเพียงฉันให้เงินให้สิ่งของที่พวกเธอต้องการ ก็ถือว่าตอบแทนให้แล้ว ไม่เคยสนใจรักใคร่ใครอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้ฉันกลับไม่อยากเห็นนายทำร้ายผู้หญิงเลยว่ะ นายเองก็เคยเสียใจและรู้สึกผิดต่อหลิงเซียงไม่ใช่หรือ ฉันในตอนนี้กำลังรับกรรมของตัวเองอยู่ถึงมานึกเสียใจตอนนี้ ฉันก็กลายเป็นวิญญาณที่สิ้นอายุขัยแล้ว ไม่มีโอกาสแก้ตัวอีก แต่นายยังมีชีวิตอยู่นะเกาจง อย่าได้ทำผิดซ้ำอีกเลยนะสหาย"
ทรงกลดเอ่ยพร้อมรอยยิ้มร้ายตามแบบฉบับ ตบบ่าให้กำลังใจเกาจงที่หันมามองร่างบางตรงหน้า ด้วยความรู้สึกรักและซึ้งใจในความหวังดีต่อเขาด้วยใจจริงของทรงกลด หลังจากนั้นเกาจงได้แก้ปัญหาด้วยการกล่าวบอกเลิกความสัมพันธ์กับไป๋เฟิง พร้อมกับให้ทุนรอนในจำนวนที่เพียงพอต่อการไปตั้งตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนาง โดยที่ไป๋เฟิงนั้นได้แต่ยินยอมรับสภาพไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะตลอดเวลาก็รับรู้ดีว่าตัวเองเป็นแค่อนุ แต่เพราะเกาจงไปมาหาสู่และหลงใหลนางมาโดยตลอด จึงทำให้นางได้ใจแต่เมื่อได้ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่า เกาจงให้ความสำคัญกับภรรยาของตัวเองมากแค่ไหน นางจึงต้องยอมถอยออกมา เพราะขืนดื้อดึงอยู่ไปก็มีแต่จะเจ็บช้ำ ก็เป็นอันว่าเรื่องน่าปวดหัวของทรงกลดก็จบไปอีกเรื่อง มาถึงตอนนี้ทรงกลด ไม่คิดกระหยิ่มยิ้มย่องและเพิกเฉยต่อโทษทัณฑ์ของเขาอีกแล้ว เพราะเขารู้ซึ้งดีเลยว่าเป็นผู้หญิงนั้นแท้จริงแสนลำบากแค่ไหน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ